ทําให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่นและเพิ่มการเข้าถึงให้มากที่สุดในช่องทางต่างๆ ของ Google

คู่มืออย่างเป็นทางการในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นตลอดเส้นทางการเลือกซื้อออนไลน์และที่ร้านค้า

 
 

คู่มือนี้มีไว้สำหรับใคร

คู่มือนี้เหมาะสำหรับผู้ลงโฆษณาร้านค้าปลีกระดับต้นและระดับกลางที่ได้สร้างข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรีใน Google Merchant Center และลิงก์บัญชีกับ Google Ads แล้ว หากยังคงต้องอัปโหลดผลิตภัณฑ์ไปยัง Merchant Center ให้ดูคําแนะนําเพิ่มเติมที่นี่

 

Illustration of a woman pushing a shopping cart through a phone. On the other side of the phone are various retail items.

 

ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดและเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคส่งผลให้ผู้คนมีความต้องการและทางเลือกที่คาดเดาได้ยากขึ้นมาก ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนในการดึงดูดให้มีส่วนร่วมมากขึ้นตามไปด้วย  

ในคู่มือนี้ คุณจะได้ทราบวิธีทําให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่นและรวมความเชี่ยวชาญทางการตลาดเข้ากับโซลูชันโฆษณาที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google เพื่อกระตุ้นการเติบโตที่ให้ผลกําไรและก้าวทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความรู้เกี่ยวกับลูกค้าและธุรกิจเป็นปัจจัยสําคัญในการช่วยให้ AI ของ Google ประสบความสําเร็จและทำให้ธุรกิจมีความแตกต่างจากคู่แข่ง

 

Retail Announcement: tl;dr Ads News & How Tos series

 

Illustration: Shoes on a box

1. ปรับปรุงฟีดผลิตภัณฑ์เพื่อให้โฆษณา Shopping โดดเด่น

  • ใช้รูปภาพคุณภาพสูงที่เน้นผลิตภัณฑ์เป็นหลัก

เหตุผล: รูปภาพผลิตภัณฑ์ระยะใกล้ที่มีพื้นหลังสีขาวทำให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้เกิดการมีส่วนร่วมมากขึ้น 

หมายเหตุ

ในสหรัฐอเมริกา คุณอัปเดตชิ้นงานใน Manufacturer Center ให้รวมรูปภาพ 3 มิติได้ หากมี คุณใช้แอตทริบิวต์นี้สําหรับรองเท้า แว่นตา และของใช้ในบ้านได้ ข้อมูลภายในพบว่าผู้คนมีส่วนร่วมกับรูปภาพ 3 มิติมากกว่าภาพนิ่งเกือบ 50%1

  • ตรวจสอบว่าข้อมูลผลิตภัณฑ์ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

เหตุผล: ข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ราคาและความพร้อมจําหน่ายสินค้า คือองค์ประกอบสําคัญที่ช่วยให้โฆษณาแสดงข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ อัปโหลดคำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่ครบทุกด้าน รวมถึงอัปเดตราคาผลิตภัณฑ์และความพร้อมจําหน่ายหากมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง

เคล็ดลับ

การมีผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 10 รายการจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญ Merchant Center และ Google Ads

แสดงตัวเลือกการดําเนินการตามคําสั่งซื้อและดีล

เหตุผล: ผู้เลือกซื้อมองหาดีลที่ยอดเยี่ยม เวลานำส่งที่รวดเร็ว และการคืนสินค้าที่ง่ายกันมากขึ้น ผู้เลือกซื้อที่ตอบแบบสํารวจกล่าวว่าคุณภาพของสินค้า (46%) และดีล/โปรโมชัน (45%) คือสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดที่แบรนด์สามารถสื่อสารได้เมื่อพิจารณาสินค้าที่จะซื้อ2 ให้ใช้คําอธิบายประกอบที่สะดุดตาผู้เลือกซื้อเมื่อพวกเขามองหาวิธีที่สะดวกสบายในการซื้อสินค้า 

  • ใช้ดีลสร้างแรงดึงดูดให้โฆษณาและข้อมูลที่แสดงฟรี: เพิ่มคําอธิบายประกอบราคาลดในผลิตภัณฑ์ทุกรายการที่กำลังลดราคา หากมีโปรโมชันพิเศษ เช่น รหัสลด 15% ให้สร้างโปรโมชันใน Google Merchant Center เพื่อให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเห็นรายละเอียดข้อเสนอใน Google ในบางประเทศ คุณยังเพิ่มการกําหนดราคาและความพร้อมจําหน่ายสินค้าระดับภูมิภาค เพื่อแสดงผลิตภัณฑ์หรือราคาที่แตกต่างกันตามสถานที่ตั้งของลูกค้าได้ด้วย
  • ตอบสนองดีมานด์ด้านความสะดวกสบายของผู้บริโภค: ตั้งค่าข้อมูลการจัดส่งและติดป้ายฟรีและรวดเร็วเพื่อแสดงว่าคุณจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีการดําเนินการตามคําสั่งซื้อที่ลูกค้าเชื่อถือได้ หากผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับใบเรียกเก็บเงิน ให้ระบุการรับประกันที่ผู้เลือกซื้อต้องการโดยไฮไลต์ระยะเวลาที่รับคืนสินค้าด้วยคําอธิบายประกอบการคืนสินค้า เช่น "คืนสินค้าฟรีภายใน 90 วัน"

เคล็ดลับ

Illustration of an ad for a watch on sale ใน Merchant Center คุณวัดเมตริกประสิทธิภาพที่สําคัญ เช่น การแสดงผลและอัตราการคลิกผ่านของผลิตภัณฑ์ด้วยป้ายเกี่ยวกับดีลได้ หากต้องการเข้าถึงข้อมูลนี้ ให้คลิก "ประสิทธิภาพ" แล้วคลิก "แดชบอร์ด" ในเมนูการนําทางด้านซ้าย ข้อมูลนี้จะช่วยให้ทราบถึงโปรโมชันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและหมวดหมู่ที่ได้ผลดีที่สุดเมื่อลดราคา ดูวิธีเพิ่มประสิทธิภาพฟีดผลิตภัณฑ์ใน Merchant Center เพิ่มเติม

เปิดใช้โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านเพื่อเชื่อมต่อกับผู้เลือกซื้อที่ร้านค้า

เหตุผล: ผู้บริโภค 50% ในตลาดที่สํารวจกล่าวว่าพวกเขาตรวจสอบสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์ก่อนไปที่ร้านค้า3 โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านทําให้ผู้เลือกซื้อในพื้นที่ทราบว่าร้านค้าของคุณมีผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาต้องการในทันทีที่ค้นหาบน Google 

  • สร้างโครงสร้างแบบผสมเพื่อการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทางสูงสุด: เปิดใช้งานโครงสร้างแคมเปญโฆษณา Shopping และโฆษณาสินค้าคงคลังในร้านแบบผสมและจับคู่โฆษณาสินค้าคงคลังในร้านกับการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง (Omnichannel) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้สูงสุด
  • เพิ่มแอตทริบิวต์การมารับสินค้าที่ร้านและไฮไลต์ดีลในพื้นที่: ปรับปรุง CTR, CVR และแสดงตัวเลือกการดําเนินการตามคําสั่งซื้อให้ลูกค้าทราบโดยเพิ่มแอตทริบิวต์ เช่น รับสินค้าในวันนี้ รับสินค้าในภายหลัง ไม่ต้องลงจากรถ และสั่งซื้อได้ แสดงโปรโมชันในร้านเพื่อไฮไลต์ดีลทั้งสําหรับการแลกสิทธิ์แบบทุกช่องทางและเฉพาะในพื้นที่

หมายเหตุ: ในประเทศที่มีโปรแกรมบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า (CSS) คุณจะใช้งานโฆษณา Shopping ผ่าน CSS ที่เลือกอย่างน้อย 1 บริการ บาง CSS จะจัดการข้อมูลผลิตภัณฑ์และแคมเปญในนามของคุณ แต่บาง CSS ก็จะจัดหาเครื่องมือที่ช่วยให้คุณจัดการการตั้งค่าได้ด้วยตัวเอง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโฆษณาด้วยบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า


Illustration: 9 people. 3 have checkmarks on their shirts.

2. เข้าถึงลูกค้าของคุณไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด

รับทราบดีมานด์ในการช็อปปิ้งบน Search ด้วยการรวมการทํางานแบบกว้างเข้ากับ Smart Bidding และโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท

เหตุผล: วิธีที่ดีที่สุดในการบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นคือการปรับแต่ง AI ของ Google ให้กับธุรกิจของคุณ การใช้ 3 อย่างนี้ร่วมกันจะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าที่ใช่ด้วยข้อความที่เหมาะสมในราคาที่เหมาะเจาะ ไม่ว่าลูกค้าจะค้นหาด้วยวิธีใดก็ตาม

  • การทํางานแบบกว้างใช้สัญญาณทั้งหมดใน Google Ads เพื่อให้ทราบทั้งความตั้งใจในการค้นหาของผู้ใช้และความตั้งใจในการใช้คีย์เวิร์ดที่คุณระบุ พร้อมให้ความยืดหยุ่นในการค้นหาการจับคู่ที่เกี่ยวข้องที่สุดซึ่งคาดว่าจะให้ผลลัพธ์แก่คุณ 
  • Smart Bidding จะปรับราคาเสนอสําหรับคําค้นหาแต่ละรายการ ไม่ใช่แค่คีย์เวิร์ดแต่ละคำ ซึ่งช่วยให้คุณได้แข่งขันในการประมูลที่เหมาะสมด้วยราคาเสนอที่ใช่สำหรับผู้ใช้ที่เหมาะเจาะเท่านั้น เมื่อพิจารณาจากการค้นหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดซึ่งคุณอาจเข้าถึงได้ด้วยการทำงานแบบกว้าง

    หมายเหตุ

    หากคุณมีหน้าร้านจริง ให้ใช้ Smart Bidding สําหรับการเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้านค้าในแคมเปญ Search และ Shopping เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายออนไลน์และในร้านค้าให้ได้สูงสุด

  • ​​​​​โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท สร้างและแสดงบรรทัดแรกและคําอธิบายที่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าของคุณค้นหาที่สุดโดยอัตโนมัติ โฆษณาเหล่านี้จะทํางานได้ดีขึ้นหากคุณภาพของโฆษณาคือ "ดี" หรือ "ดีมาก"

เคล็ดลับ

ส่งเสริมแคมเปญ Search ด้วยภาพผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจโดยใช้ชิ้นงานรูปภาพ ภาพผลิตภัณฑ์หรือบริการที่น่าสนใจซึ่งช่วยส่งเสริมข้อความของโฆษณา Search ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้

กรณีศึกษา

Tails.com logo

Tails.com เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจแบบคิดค่าสมาชิก ซึ่งขายอาหารสุนัขตามสั่ง การใช้ทั้งการทํางานแบบกว้าง, Smart Bidding และโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทร่วมกันทําให้บริษัทได้ผู้ลงชื่อสมัครสมาชิกในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 182% จากแคมเปญ Search ทั่วไป ในขณะที่เพิ่มการคลิกได้ 258%

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าถึงลูกค้าที่เหมาะสมใน Search

ใช้แคมเปญ Performance Max ร่วมกับแคมเปญ Search เพื่อกระตุ้นยอดขายออนไลน์

เหตุผล: แคมเปญ Search ที่ทำงานด้วยระบบ AI และแคมเปญ Performance Max คือการจับคู่โฆษณาที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยคุณค้นหาลูกค้าที่มีมูลค่ามากขึ้นและเพิ่มจํานวน Conversion ในช่องทางโฆษณาต่างๆ ของ Google ได้ Performance Max ช่วยให้คุณเข้าถึงพื้นที่โฆษณาทั้งหมดของ Google ไม่ว่าจะเป็น Search, YouTube, Display, Discover, Gmail และ Maps ได้ในแคมเปญเดียว การศึกษาพบว่าผู้ลงโฆษณาที่เปลี่ยนจากแคมเปญ Shopping มาตรฐานไปใช้ Performance Max ได้รับมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้น 25% โดยเฉลี่ยโดยมี ROAS ใกล้เคียงกับของเดิม4

Performance max is available across Shopping, GMail, Google Search, YouTube, Discover, and Google Maps

  • เพิ่มมูลค่า Conversion และใช้การเสนอราคาตามมูลค่า: การกําหนดมูลค่า Conversion มีความสําคัญอย่างยิ่งต่อการปรับการเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ การใช้กลยุทธ์การเสนอราคาตามมูลค่า เช่น เพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด (โดยมีตัวเลือกในการเพิ่ม ROAS เป้าหมาย) จะช่วยให้ AI ของ Google เข้าใจว่า Conversion ใดที่สําคัญที่สุดและควรให้ความสําคัญในการเสนอราคา นอกจากนี้ คุณสามารถใช้กฎมูลค่า Conversion เพื่อปรับมูลค่าของ Conversion ตามสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ อุปกรณ์ และกลุ่มเป้าหมายแบบเรียลไทม์ได้อย่างง่ายดาย

หมายเหตุ

หากธุรกิจเพิ่ม Conversion ประเภทใหม่หรือมูลค่า Conversion มีการเปลี่ยนแปลง อย่าลืมอัปเดตข้อมูลนี้เพื่อให้การเสนอราคาสำหรับหลายช่องทางยังคงค้นหา Conversion ที่จะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้จริง เมื่อคุณเปลี่ยน Conversion แล้ว การดำเนินการนี้อาจเปลี่ยนแปลงการเสนอราคาหรือตั้งค่าแคมเปญเป็นโหมดการเรียนรู้เป็นระยะเวลาหนึ่ง

  • เพิ่มเป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่: การได้ลูกค้าใหม่มีความสําคัญอย่างยิ่งต่อความสําเร็จของธุรกิจ เป้าหมายการได้ลูกค้าใหม่ใน Performance Max จะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพสําหรับลูกค้าใหม่ได้นอกเหนือจากการเพิ่มยอดขายสูงสุด เพียงเลือกรายชื่อลูกค้า ตั้งค่ามูลค่าการได้ลูกค้าใหม่ แล้วแคมเปญจะเพิ่มประสิทธิภาพให้เหมาะกับลูกค้าใหม่

เคล็ดลับ

ใช้โหมดเพิ่มมูลค่าลูกค้าใหม่เพื่อให้คุณเสนอราคาสูงขึ้นสําหรับลูกค้าใหม่โดยไม่ยกเว้นลูกค้าเดิมได้

  • เพิ่มสัญญาณของกลุ่มเป้าหมายเพื่อปลดล็อกกลุ่มเป้าหมายที่ทําให้เกิด Conversion ใหม่: การแชร์ข้อมูลเชิงลึกที่ไม่ซ้ำกันที่คุณมีเกี่ยวกับลูกค้าจะช่วยให้ AI ของ Google ค้นพบลูกค้าที่ทํา Conversion ที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้เร็วขึ้นโดยที่ยังคงความเกี่ยวข้องและ ROI ไว้ได้ ระบุข้อมูลของคุณเกี่ยวกับผู้ที่เคยซื้อ และใช้กลุ่มที่กําหนดเองเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดสำหรับโฆษณา Search, URL ของเว็บไซต์ และแอปที่ลูกค้ามักมีส่วนร่วม
  • ให้ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาคุณภาพสูงที่หลากหลาย: อัปโหลดชิ้นงานข้อความ รูปภาพ และวิดีโอคุณภาพสูงรูปแบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อเพิ่มจํานวนรูปแบบโฆษณาที่มีโอกาสจะแสดงต่อลูกค้า เมื่อพิจารณาจากข้อมูลภายใน ผู้ลงโฆษณาที่มีวิดีโออย่างน้อย 1 รายการในแคมเปญ Performance Max จะได้รับ Conversion เพิ่มเติมทั้งหมดโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 12%5 ระบบจะรวบรวมชิ้นงานที่คุณให้ไว้โดยอัตโนมัติเพื่อค้นหารูปแบบผสมที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละราย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และมีความหมายซึ่งมีแนวโน้มจะทําให้เกิด Conversion สําหรับธุรกิจ ดูแนวทางปฏิบัติแนะนําเกี่ยวกับครีเอทีฟโฆษณาเชิงลึกเพิ่มเติม

เคล็ดลับ

ประเมินคุณภาพของชิ้นงานและระบุโอกาสใหม่ๆ ในการปรับปรุงด้วยคุณภาพของโฆษณา อย่างไรก็ตาม อย่านําชิ้นงานใดๆ ออกจนกว่าจะถึงขีดจำกัดการอัปโหลดสูงสุด เนื่องจากชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพต่ำจะไม่แสดงบ่อยเท่าที่ควรอยู่แล้ว และอาจยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีในการประมูลและบริบทบางอย่าง

เคล็ดลับ

ใส่ชิ้นงานวิดีโอที่ยาวอย่างน้อย 10 วินาทีเพื่อแสดงการทํางานจริงของธุรกิจ หากไม่มีวิดีโอ Performance Max จะสร้างวิดีโอคุณภาพสูงให้โดยอัตโนมัติโดยใช้ชิ้นงานอื่นๆ ของคุณ ข้อมูลภายในเผยว่าผู้ลงโฆษณาที่มีการรวมวิดีโออย่างน้อย 1 รายการของการวางแนวแต่ละรูปแบบ (แนวนอน แนวตั้ง และสี่เหลี่ยมจัตุรัส) ให้กับแคมเปญ Performance Max ได้รับ Conversion ใน YouTube เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับวิดีโอในแนวนอนเพียงอย่างเดียว6

  • เปิดใช้ Final URL Expansion เพื่อขยายการเข้าถึง: Final URL Expansion จะใช้หน้า Landing Page ในเว็บไซต์เพื่อจับคู่คุณกับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องและเพื่อปรับแต่งบรรทัดแรกของโฆษณาในแบบไดนามิก เปิด Final URL Expansion ไว้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและ Conversion ในคําค้นหาที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด ใช้กฎการยกเว้น URL หากคุณมีหน้าในเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้มีการเข้าชม
  • ตั้งค่าการทดสอบเพื่อวัดผลกระทบของการเปลี่ยนไปใช้ Performance Max: หน้าการทดสอบช่วยให้คุณทดสอบ A/B กับฟีเจอร์ การตั้งค่า และแคมเปญต่างๆ ได้ เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ให้กับธุรกิจของคุณ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Performance Max สําหรับธุรกิจ คุณสามารถใช้การทดสอบเพื่อวัดการเพิ่มขึ้นของส่วนเพิ่มจากการเปลี่ยนจากแคมเปญ Shopping มาตรฐานเป็น Performance Max เพื่อยอดขายออนไลน์ด้วยฟีดผลิตภัณฑ์ 

กรณีศึกษา

Bombas logo

Bombas เป็นผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าออนไลน์ที่เน้นผลิตถุงเท้า ชุดชั้นใน และเสื้อยืดที่สวมใส่สบายที่สุด หลังจากที่ประสบความสําเร็จด้วยการใช้แคมเปญ Smart Shopping บริษัทตัดสินใจทดลองนำผลิตภัณฑ์หลักหลากหลายหมวดหมู่มาใช้แคมเปญ Performance Max ส่งผลให้ Bombas มีอัตรา Conversion เพิ่มขึ้น 33%, ผลตอบแทนจากค่าโฆษณาสูงขึ้น 22% และต้นทุนต่อการกระทำหนึ่งครั้งดีขึ้น 19%

หมายเหตุ: แคมเปญ Performance Max ในประเทศที่อยู่ในโปรแกรม CSS สามารถใช้กับบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า (CSS) ใดก็ได้ที่คุณใช้งานอยู่ โฆษณาจะแสดงในหน้าผลการค้นหาทั่วไปและในแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ CSS เลือกใช้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Performance Max

กระตุ้นความภักดีของลูกค้าและประสิทธิภาพทางธุรกิจผ่านแอปของคุณด้วย Web to App Connect และ App Campaign

  • สร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นจากเว็บไปยังแอปด้วย Web to App Connect

เหตุผล: Web to App Connect ช่วยคุณสร้างการทํา Deep Link, การวัด Conversion ในแอป และการเสนอราคาเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ สําหรับลูกค้าที่ติดตั้งแอปของคุณแล้ว Web to App Connect จะนําพวกเขาจากแคมเปญบนเว็บไปยังหน้าในแอปที่เกี่ยวข้องซึ่งลูกค้าจะดําเนินการตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย 

  • เข้าถึงลูกค้าที่มีมูลค่ามากที่สุดด้วย App Campaign

เหตุผล: App Campaign ใช้ประโยชน์จาก AI ของ Google อย่างเต็มศักยภาพเพื่อโปรโมตแอปในผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมที่สุดของ Google ทั้งหมดจากแคมเปญเดียว ตั้งค่าแคมเปญตามเป้าหมายธุรกิจ เช่น การเพิ่มจํานวนการติดตั้งแอปหรือการดึงดูดลูกค้าเดิมให้กลับมามีส่วนร่วมอีกครั้ง การทำเช่นนี้จะทำให้คุณเผยแพร่แอปต่อผู้ใช้ต่างประเภทกันได้ เมื่อลำดับความสำคัญทางธุรกิจของแอปเปลี่ยนแปลง

Examples of app campaigns across Google Search, Google Play, YouTube, Google Chrome

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีกระตุ้นความภักดีของลูกค้าด้วยแอป

จับดีมานด์ทางออฟไลน์โดยใช้แคมเปญ Performance Max ที่มีเป้าหมายการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง (Omnichannel) และแคมเปญ Performance Max ที่มีเป้าหมายของร้านค้า

เหตุผล: เมื่อเพิ่มเป้าหมายของร้านค้าและ/หรือการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง แคมเปญ Performance Max จะช่วยคุณโปรโมตสถานที่ตั้งจริงใน Google และเพิ่มมูลค่าที่ร้านค้าให้สูงสุด (โดยใช้การเข้าชมร้านค้าหรือยอดขาย และ/หรือการกระทําเกี่ยวกับสถานที่)

  • เพิ่มเป้าหมายการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง: ใช้เป้าหมายการเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้านค้าเพิ่มเติมจากเป้าหมายออนไลน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อผู้เลือกซื้อจากทุกช่องทางและเพิ่มยอดขายทั้งทางออนไลน์และที่หน้าร้านจริง 
  • เพิ่มเป้าหมายของร้านค้า: ใช้การกระทําเกี่ยวกับสถานที่ การเข้าชมร้านค้า หรือเป้าหมายยอดขายในร้านค้าเพื่อเน้นการโปรโมตและการเพิ่มจํานวนเฉพาะการเข้าชมหน้าร้านจริงและยอดขายในร้านค้าโดยการโฆษณาตําแหน่งที่ตั้งต่อผู้บริโภคใน Google ที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเยี่ยมชมร้านค้าของคุณ
    • กําหนดเป้าหมายที่ตั้งธุรกิจ: ใช้ที่ตั้งธุรกิจอย่างน้อย 10 แห่งและการกระจายร้านค้าแบบกว้างในแคมเปญ เสนอราคาตามสถานที่ตั้งซึ่งจะกําหนดเป้าหมายโดยอัตโนมัติไปยังผู้เลือกซื้อที่อยู่ใกล้ร้านค้าและมีแนวโน้มที่จะเข้าชมธุรกิจ โดยการลิงก์ Business Profile หรือเชื่อมโยงกลุ่มสถานที่ตั้งซึ่งมาจากชิ้นงานสถานที่ตั้งหรือชิ้นงานสถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต
    • ตั้งค่าฟีดในพื้นที่: ใส่ข้อมูลสินค้าคงคลังในร้าน คําอธิบายผลิตภัณฑ์ รูปภาพ และราคาไว้ในฟีดในพื้นที่ และเชื่อมต่อกับแคมเปญ Performance Max สําหรับเป้าหมายของร้านค้า เมื่อตั้งค่าแล้ว คุณจะสามารถโปรโมตผลิตภัณฑ์ในร้านและแสดงข้อเสนอเฉพาะผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย

หมายเหตุ: แคมเปญ Performance Max ในประเทศที่อยู่ในโปรแกรม CSS สามารถใช้กับบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า (CSS) ใดก็ได้ที่คุณใช้งานอยู่ โฆษณาจะแสดงในหน้าผลการค้นหาทั่วไปและในแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ CSS เลือกใช้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับลูกค้าในท้องถิ่นและลูกค้าจากทุกช่องทาง


Illustrations of an upward arrow, bar graph, pi chart, and cash

3. ปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

  • เพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณด้วยเครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพ

เหตุผล: เครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพช่วยให้คุณสร้างแผนในการใช้ค่าโฆษณา และประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงในแคมเปญอาจส่งผลต่อเมตริกหลักและประสิทธิภาพโดยรวมอย่างไรบ้าง 

  • ทําความเข้าใจประสิทธิภาพและลูกค้าด้วยหน้าข้อมูลเชิงลึก

เหตุผล: หน้าข้อมูลเชิงลึกใน Google Ads มีเทรนด์ที่ทันสมัยและข้อมูลเชิงลึกที่มองถึงอนาคต ซึ่งช่วยให้คุณเห็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็แสดงเทรนด์ที่เกี่ยวข้องในตลาดด้วย เมื่อดูหน้าข้อมูลเชิงลึกเป็นประจำ คุณจะเข้าใจได้ดีขึ้นว่าความสนใจและความชอบของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง 

  • ใช้คําแนะนําเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ 

เหตุผล: คําแนะนําช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยการเสนอโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพที่ได้ผลมากที่สุดโดยพิจารณาจากประวัติประสิทธิภาพของบัญชี การตั้งค่าแคมเปญ เทรนด์ใน Google และอื่นๆ ดูคําแนะนําเป็นประจําเพื่อระบุโอกาสใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และใช้คําแนะนําที่สนับสนุนเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ

  • ตรวจสอบคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อประเมินคำแนะนำ

เหตุผล: คําแนะนําแต่ละรายการแสดงให้เห็นว่าคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพซึ่งเป็นค่าประมาณเกี่ยวกับความพร้อมในการทำงานที่ดีของบัญชี Google Ads จะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดเมื่อคุณนำเอาคำแนะนำไปใช้ ใช้คะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อจัดลําดับความสําคัญของคําแนะนําที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพมากที่สุด คะแนนและคําแนะนําจะเปลี่ยนแปลงไปตามธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ ดังนั้นคะแนนดังกล่าวจะสะท้อนคําแนะนําใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นโดยอิงตามดีมานด์ที่เปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงของตลาด 

  • ปรับปรุงประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ด้วยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

เหตุผล: คอลัมน์ปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในแท็บผลิตภัณฑ์ใน Google Ads ช่วยให้คุณเข้าใจประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แต่ละรายการในแคมเปญ และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึง จากนั้นคุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเพื่อมองหาข้อเสนอประสิทธิภาพต่ำ ระบุผลิตภัณฑ์ที่แอตทริบิวต์ฟีดขาดหายไป และดูความสามารถในการแข่งขันของราคาเสนอของผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย

  • ประเมินกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ด้วยการรายงานของ Merchant Center

เหตุผล: ตัดสินใจเกี่ยวกับสินค้าคงคลังและจัดลําดับความสําคัญของผลิตภัณฑ์ที่จะแสดงในแคมเปญการโฆษณาด้วยรายงานสินค้าขายดี ข้อมูลนี้ช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์การตั้งราคาและการเสนอราคาสำหรับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกจากรายงานความสามารถในการแข่งขันด้านราคา ใช้ Reporting API เพื่อนําเข้าและวิเคราะห์ข้อมูลจากรายงานเหล่านี้และรายงาน Merchant Center อื่นๆ ในวงกว้าง

หมายเหตุ

โปรดดูคู่มือสำหรับธุรกิจค้าปลีกของ Google ทั่วโลกปี 2023 (2023 Global Google Retail Guide) เพื่อดูเครื่องมือที่มีประโยชน์ คําแนะนําเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคที่จะช่วยให้คุณบรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและการตลาดได้

โปรดเข้ามาที่ Google Ads Academy: Grow Profitable Online Sales เพื่อรับฟังข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นให้มียอดขายออนไลน์ที่สม่ำเสมอแม้พฤติกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงไป 

 

 

1. ข้อมูลภายในของ Google
2. การศึกษาผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องของ Ipsos ที่ว่าจ้างโดย Google, AU, BR, CA, CN, FR, DE, IN, IT, JP, KR, MX, ES, ZA, UK, U.S., ผู้บริโภคออนไลน์อายุ 18 ปีขึ้นไปจํานวนประมาณ 500–1,000 คนต่อตลาด, วันที่ 7 - 10 กรกฎาคม 2022
3. การศึกษาผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องของ Ipsos ที่ว่าจ้างโดย Google, AU, BR, CA, CN, FR, DE, IN, IT, JP, KR, MX, ZA, ES, UK, U.S., ผู้บริโภคออนไลน์อายุ 18 ปีขึ้นไปจํานวนประมาณ 500–1,000 คนต่อตลาด, วันที่ 10 - 13 พ.ย. 2022
4. ข้อมูลใน Google, ทั่วโลก, Ads, ตุลาคม 2022 - มีนาคม 2023
5. ข้อมูลใน Google, ทั่วโลก, พฤศจิกายน 2022
6. ข้อมูลใน Google, ทั่วโลก, พฤศจิกายน 2022

Mail iconหากต้องการรับเคล็ดลับขั้นสูงและข้อมูลอัปเดตจาก Google Ads ส่งตรงถึงกล่องจดหมายของคุณ สมัครรับจดหมายข่าวแนวทางปฏิบัติแนะนำ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
15022428680871909982
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false