สร้างโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่มีประสิทธิภาพ

ใช้ชิ้นงานประเภทต่างๆ ให้ได้มากที่สุด

ชิ้นงานคือส่วนของเนื้อหาในโฆษณาที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณแก่ผู้ใช้ และช่วยให้เชื่อมต่อกับคุณได้อย่างง่ายดาย คู่มือนี้แสดงภาพรวมของประเภทชิ้นงานที่แสดงได้นอกเหนือจากบรรทัดแรกและคําอธิบาย เช่น รูปภาพและไซต์ลิงก์

เปิดใช้ชิ้นงานทุกประเภทที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

ผู้ลงโฆษณาทุ่มเทเวลาให้กับการเพิ่มประสิทธิภาพข้อความโฆษณา (ซึ่งเป็นเรื่องดี) แต่การใช้ประเภทชิ้นงานที่สามารถแสดงได้นอกเหนือจากบรรทัดแรกและคําอธิบายมักเป็นวิธีปรับปรุงประสิทธิภาพที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ชิ้นงานจะเพิ่มมูลค่าให้กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าโดยการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและวิธีอื่นๆ ในการมีส่วนร่วมกับโฆษณา

เราพบว่าโฆษณาที่มีชิ้นงานหลายประเภทมักจะทำงานได้ดีกว่า เราจึงขอแนะนำให้ใช้ชิ้นงานมากที่สุดเท่าที่ทำได้ การผสมผสานที่ดีที่สุดของชิ้นงานเหล่านี้จะได้รับการกำหนดโดยอัตโนมัติในการประมูลแต่ละครั้ง ความโดดเด่นเป็นพิเศษที่เกิดจากการใช้ชิ้นงานหลายประเภทจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณและแบรนด์ของคุณ และชิ้นงานเหล่านั้นยังช่วยให้คุณดูโดดเด่นในหน้าผลการค้นหาอีกด้วย

ชิ้นงานและลําดับโฆษณา

ชิ้นงานที่สามารถแสดงนอกเหนือจากบรรทัดแรกและคําอธิบายคือองค์ประกอบของลําดับโฆษณารวมถึงราคาเสนอ คุณภาพของโฆษณาและหน้า Landing Page เกณฑ์ลําดับโฆษณา และบริบทการค้นหาของผู้ใช้ คุณมักจะได้รับจํานวนคลิกเท่าเดิมแต่จ่ายเงินน้อยลงเมื่อใช้ชิ้นงานประเภทเหล่านี้ เนื่องจากจุดประสงค์ของชิ้นงานคือการปรับปรุงประสิทธิภาพให้กับคุณ

ลำดับโฆษณาจะกำหนดด้วยว่าชิ้นงานใดมีสิทธิ์แสดงในโฆษณา รวมทั้งจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายต่อคลิก ในระหว่างการประมูลแต่ละครั้ง คุณจะต้องจ่ายเงินขั้นต่ำที่จำเป็นเพื่อให้ผ่านเกณฑ์ลำดับโฆษณาและเอาชนะลำดับโฆษณาของคู่แข่งที่อยู่ต่ำกว่าของคุณ (หากมี) ตัวอย่างเช่น หากลําดับโฆษณาทำให้โฆษณาได้แสดงในตำแหน่งสูงสุดพร้อมกับชิ้นงานสถานที่ตั้งและไซต์ลิงก์ คุณจะต้องจ่ายเงินขั้นต่ำเพื่อแสดงชิ้นงานเหล่านี้

ชิ้นงานประเภทเหล่านี้จะแสดงเฉพาะเมื่อลำดับโฆษณาของคุณสูงพอ บางครั้งคุณอาจต้องเพิ่มคุณภาพของโฆษณาหรือราคาเสนอเพื่อให้ชิ้นงานประเภทเหล่านี้แสดงได้

ทำให้ชิ้นงานมีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการช่วยให้ลูกค้าเห็นธุรกิจของคุณอย่างรวดเร็ว

Example business logo and business name

โลโก้และชื่อธุรกิจแสดงอย่างโดดเด่นที่ด้านบนของโฆษณาเหนือบรรทัดแรกและคำอธิบาย การใส่โลโก้และชื่อของธุรกิจในโฆษณาจะช่วยให้ลูกค้าเห็นธุรกิจของคุณอย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ เราพบว่าผู้ลงโฆษณาที่แสดงโลโก้และชื่อของธุรกิจพร้อมกับโฆษณา Search ได้รับ Conversion เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% ที่ต้นทุนต่อ Conversion ใกล้เคียงกับของเดิม1

เมื่อ Google Ads สามารถทำการ Crawl เว็บไซต์ รวมถึงพบโลโก้และชื่อธุรกิจของคุณได้ เราก็จะเพิ่มโลโก้และชื่อนั้นลงในแคมเปญโดยอัตโนมัติ หากเราหาไม่พบหรือคุณต้องการเพิ่มด้วยตนเอง คุณสามารถใช้ชื่อและโลโก้ธุรกิจที่ระดับแคมเปญหรือบัญชีก็ได้ โปรดทราบว่าชิ้นงานเหล่านี้ควรเกี่ยวข้องกับกลุ่มโฆษณาทั้งหมดในแคมเปญหรือบัญชีหนึ่งๆ เนื่องจากชิ้นงานต้องแสดงถึงรายละเอียดธุรกิจที่คุณให้ไว้ผ่านโปรแกรมการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาและกระบวนการยืนยันแบรนด์สำหรับข้อมูลทางธุรกิจ

หากต้องการใช้โลโก้ธุรกิจด้วยตนเอง ให้ครอบตัดรูปภาพขนาดใหญ่ใน Google Ads เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่จำเป็น โลโก้ธุรกิจมักแสดงผลเป็นรูปวงกลม ดังนั้นพยายามให้เนื้อหาที่สำคัญที่สุดอยู่กึ่งกลางรูปภาพ

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการแสดงภาพที่เกี่ยวข้องในโฆษณา

Example image asset

ชิ้นงานรูปภาพจะเพิ่มภาพผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องลงในโฆษณา ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนทราบถึงธุรกิจของคุณและดำเนินการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย 

เมื่อสร้างชิ้นงานรูปภาพ ให้ลองใส่รูปภาพที่ไม่ซ้ำกันอย่างน้อย 4 ภาพ แล้วตรวจสอบว่ารูปภาพเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด โฆษณา และหน้า Landing Page และโปรดใส่ทั้งรูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัสและแนวนอน โดยวางเนื้อหาที่สําคัญที่สุดไว้ตรงกลางภาพ

คุณอาจลองใช้รูปภาพในแบบต่างๆ เช่น ภาพผลิตภัณฑ์ ภาพไลฟ์สไตล์ และภาพครีเอทีฟโฆษณาที่มีแนวคิดเป็นนามธรรม เพื่อหาว่ารูปแบบใดได้ผลดีที่สุด หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพที่มีพื้นหลังสีขาว หากไม่มีรูปภาพจากหน้า Landing Page ที่ใช้ได้ คุณสามารถเลือกจากคลังภาพสต็อกแบบค้นหาได้ซึ่งใช้ใน Google Ads ได้ฟรี หรือลองใช้รูปภาพจากแคมเปญโซเชียลมีเดีย

กรณีศึกษา

HUGO BOSS logo

HUGO BOSS ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกชื่อดังระดับโลกในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายพรีเมียมมองหาวิธีเพิ่มการมีส่วนร่วมในโฆษณา Search เพื่อกระตุ้นยอดขาย บริษัทได้ใส่ชิ้นงานรูปภาพที่แสดงภาพแบรนด์ที่โดดเด่นไว้ในโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่กําลังค้นหาเครื่องแต่งกายล่าสุดของแบรนด์ ชิ้นงานรูปภาพมีกลยุทธ์ที่ใช้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายและ Smart Bidding แบบ ROAS เป้าหมาย จึงช่วยให้ HUGO BOSS ได้ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา 2.5 เท่าและอัตราการคลิกผ่านเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับการเข้าชมในอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยรวม

ลองสร้างชิ้นงานรูปภาพสําหรับแคมเปญและกลุ่มโฆษณาตามลำดับความสำคัญ จากนั้นเลือกใช้ชิ้นงานรูปภาพแบบไดนามิก ชิ้นงานรูปภาพแบบไดนามิกใช้ AI ของ Google เพื่อเลือกรูปภาพที่เกี่ยวข้องที่สุดจากหน้า Landing Page ของโฆษณาโดยอัตโนมัติ แล้วเพิ่มรูปภาพนั้นลงในโฆษณาในบัญชี เมื่อเลือกใช้แล้ว เราจะเพิ่มรูปภาพจากหน้า Landing Page ของคุณลงในกลุ่มโฆษณาที่เกี่ยวข้องในแคมเปญ กลุ่มโฆษณาที่มีทั้งชิ้นงานรูปภาพที่สร้างขึ้นด้วยตนเองและชิ้นงานรูปภาพแบบไดนามิกจะแสดงรูปภาพที่คาดการณ์แล้วว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพได้

เคล็ดลับ

อย่าลืมทําตามหลักเกณฑ์ครีเอทีฟโฆษณาเมื่อเลือกรูปภาพ

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการช่วยให้ผู้ใช้พบหน้าเว็บที่กำลังมองหาในเว็บไซต์ได้ในคลิกเดียว Sitelinks assets

เพิ่มประสิทธิภาพข้อความในพื้นที่นี้อย่างสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับที่คุณทำกับข้อความโฆษณา

ไซต์ลิงก์ทําให้โฆษณามีประโยชน์มากขึ้นโดยแสดงลิงก์เพิ่มเติมที่นําผู้ใช้ไปยังหน้าที่เฉพาะเจาะจงในเว็บไซต์โดยตรง ตรวจสอบว่ามีไซต์ลิงก์ที่ใช้งานอยู่อย่างน้อย 4 รายการ แต่อย่าลืมว่าคุณมีไซต์ลิงก์ได้ถึง 20 รายการต่อกลุ่มโฆษณาหรือแคมเปญ

โปรดทราบว่าการเพิ่มไซต์ลิงก์ที่ระดับบัญชีเป็นวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการเริ่มแสดงไซต์ลิงก์พร้อมกับโฆษณา เพียงตรวจสอบว่าไซต์ลิงก์เหล่านั้นเกี่ยวข้องกับแคมเปญและกลุ่มโฆษณาทั้งหมด หรือคุณจะพิจารณาใช้ไซต์ลิงก์แบบไดนามิกเพื่อให้เพิ่มไซต์ลิงก์ในบัญชีอย่างรวดเร็วก็ได้เช่นกัน เมื่อตั้งค่าแล้ว ก็สามารถใช้เวลาสร้างไซต์ลิงก์ที่ไม่ซ้ำกันให้กับแต่ละแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาเพื่อให้ระบบแสดงชุดค่าผสมที่ดีที่สุด

ไซต์ลิงก์มีความยาวได้ 25 อักขระสำหรับตัวลิงก์เอง และพื้นที่ว่างนั้นมีไว้สำหรับทดสอบ อย่างไรก็ตาม เราพบว่าไซต์ลิงก์สั้นๆ มักจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นให้พยายามสร้างไซต์ลิงก์ที่สั้นและกระชับ นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบว่าไซต์ลิงก์ใช้ข้อความที่แตกต่างจากบรรทัดแรกและคําอธิบาย การที่ไซต์ลิงก์บางรายการได้รับการแสดงผลน้อยแสดงว่าไม่ได้รับความสนใจจากระบบ คุณจึงควรปรับปรุงไซต์ลิงก์เหล่านั้นก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อตัดสินใจเลือกหน้า Landing Page ที่จะใช้สำหรับไซต์ลิงก์ ให้ตรวจสอบว่าหน้าเหล่านั้นแตกต่างจากหน้า Landing Page ของโฆษณา และเริ่มต้นจากหน้าที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วหน้าเหล่านี้จะมีประโยชน์มากที่สุด

เคล็ดลับ

หากต้องการทดสอบข้อความที่ใช้สำหรับไซต์ลิงก์ ให้ลองใช้รูปแบบที่ต่างกันไปในการทดสอบแคมเปญ

ใช้หลักในการเขียนข้อความโฆษณาเมื่อสร้างไซต์ลิงก์ นึกถึงคำกระตุ้นให้ดำเนินการที่ชัดเจนและประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาของผู้ใช้และหน้าเว็บที่คุณจะนำพวกเขาไป นอกจากนี้คุณจะศึกษาบทเรียนจากการทดสอบโฆษณาก่อนหน้าแล้วนำมาปรับใช้ได้ด้วย ตัวอย่างเช่น คุณจะใช้ข้อความโฆษณาที่ให้ผลไม่ดี (แต่ยังคงมีประสิทธิภาพ) เป็นไซต์ลิงก์หรือคำอธิบายได้

  • ไซต์ลิงก์ที่มีคำอธิบาย
Sitelinks with additional detail

ช่วยให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ อย่าลืมใส่รายละเอียดเพิ่มเติมลงในไซต์ลิงก์โดยระบุคําอธิบายมาด้วย คําอธิบายจะช่วยให้ไซต์ลิงก์โดดเด่นและเป็นโอกาสดีในการพิสูจน์คุณค่าต่อลูกค้าก่อนคลิก ผู้ลงโฆษณาหลายรายเห็นรูปแบบนี้บ่อยที่สุดในคำที่เป็นแบรนด์ ซึ่งเป็นโฆษณาที่อยู่เหนือผลการค้นหาเท่านั้น

เคล็ดลับ

เพิ่มไซต์ลิงก์แบบมีคำอธิบายอย่างน้อย 4 รายการให้กับกลุ่มโฆษณาและแคมเปญทั้งหมดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุด

กรณีการใช้งาน: หากต้องการไฮไลต์ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการของคุณแบบเจาะจง นอกเหนือไปจากสิ่งที่กล่าวไปแล้วในโฆษณาและไซต์ลิงก์

Callout assets

ชิ้นงานข้อความไฮไลต์ช่วยให้คุณมีบรรทัดเพิ่มเติมสำหรับข้อความโฆษณาซึ่งแบ่งออกเป็นข้อความสั้นๆ กระชับ (ไม่เกิน 25 อักขระ) ชิ้นงานนี้คลิกไม่ได้ จุดโฟกัสของโฆษณาจึงยังคงอยู่ที่บรรทัดแรกของคุณ

ด้วยการใช้ไฮไลต์ คุณจะเน้นย้ำจุดเด่นของธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของคุณได้ ระบุว่าตัวอย่างข้อมูลสั้นๆ ใดที่จะปรับปรุงข้อความโฆษณาที่มีอยู่ของคุณและทำให้มีความน่าเชื่อถือขึ้นได้ ด้วยการมุ่งเน้นที่จุดเด่นมาตรฐานที่คุณนำเสนอ เช่น การไม่มีสัญญาผูกมัดหรือจัดส่งฟรี คุณจะสร้างโอกาสจากพื้นที่ว่างดังกล่าวในข้อความโฆษณาของคุณได้ หลีกเลี่ยงการนำสิ่งใดก็ตามที่คุณใช้ในข้อความไฮไลต์มาใช้ซ้ำในข้อความโฆษณาหรือไซต์ลิงก์ของคุณ ตรวจสอบว่าคุณให้ข้อมูลที่ผู้ใช้ไม่มีอยู่ หากข้อมูลนั้นมีอยู่ในโฆษณา ข้อความไฮไลต์ของคุณจะไม่แสดง

สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อใช้ชิ้นงานข้อความไฮไลต์

  • ใช้คำสั้นกระชับ (เน้นหัวข้อ ไม่ใช่ประโยค)
  • เฉพาะเจาะจง (เพิ่มข้อมูลที่เป็นรูปธรรม เช่น ขนาดหรืออัตราเฉพาะ)
  • ข้อความไฮไลต์ขั้นต่ำอยู่ที่ 2 รายการ และแสดงได้สูงสุด 4 รายการต่อครั้ง (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่าง)

สำหรับวิธีที่รวดเร็วในการเพิ่มข้อความไฮไลต์ลงในบัญชี ให้พิจารณาใช้ข้อความไฮไลต์แบบไดนามิก

ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการให้บริบทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการก่อนที่ผู้เข้าชมจะคลิกผ่านไปยังเว็บไซต์ structured snippets

ข้อมูลเพิ่มเติมมุ่งเน้นที่การดึงดูดคลิกจากผู้เข้าชมที่มีแนวโน้มจะสนใจสิ่งที่คุณนำเสนอมากกว่า คุณจะเปิดใช้งานได้ที่ระดับกลุ่มโฆษณา แคมเปญ หรือบัญชี 

เขียนค่าตัวอย่างข้อมูลสำหรับแคมเปญที่แสดงบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ให้สั้นลง (ไม่เกิน 12 ตัวอักษร) เพิ่มส่วนหัวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณให้ได้มากที่สุด และพยายามรวมตัวอย่างข้อมูลไว้อย่างน้อย 4 รายการสำหรับแต่ละส่วนหัว และควรทำให้ตัวอย่างเป็นการให้ข้อมูลแทนการโปรโมต

หรือคุณจะพิจารณาใช้ข้อมูลเพิ่มเติมแบบไดนามิกเพื่อให้ระบบใส่ข้อมูลเพิ่มเติมลงในบัญชีอย่างรวดเร็วก็ได้เช่นกัน

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการให้ผู้ใช้กรอกโฆษณาแบบกรอกฟอร์มและแชร์ข้อมูลกับคุณ

Example lead form asset

ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มช่วยให้คุณแสดงโฆษณาแบบกรอกฟอร์มในโฆษณาได้โดยตรง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูลกับคุณได้ง่ายในขณะทําการค้นหา หากต้องการปรับปรุงคุณภาพโอกาสในการขายที่เข้ามาใหม่ ให้ลองใส่คําถามเพิ่มเติมในโฆษณาแบบกรอกฟอร์มเพื่อเพิ่มจำนวนบุคคลที่เข้าเกณฑ์ให้มากขึ้น 

หากต้องการเพิ่มจํานวนโอกาสในการขายให้สูงขึ้น คุณสามารถเลือกแสดงโฆษณาแบบกรอกฟอร์มทุกครั้งที่มีผู้แตะบรรทัดแรกในโฆษณา Search คุณควรทําให้โฆษณามีข้อมูลมากที่สุด เนื่องจากคุณขอให้ผู้ใช้ส่งโฆษณาแบบกรอกฟอร์มก่อนเข้าชมเว็บไซต์

กรณีการใช้งาน: การโทรเป็นวิธีการสำคัญที่ลูกค้าใช้ในการติดต่อคุณ Call asset

เริ่มต้นด้วยการตัดสินใจว่าการได้รับสายจะมีค่าต่อคุณมากกว่าการคลิกไปยังเว็บไซต์ปกติหรือไม่ ซึ่งมักเป็นจริงอย่างยิ่งบนโทรศัพท์มือถือ ตรวจสอบจำนวน Conversion ที่เกิดขึ้นจากการโทร (ผ่านการคลิกที่ปุ่มโทร) เทียบกับการคลิกไปยังเว็บไซต์ (ผ่านการคลิกบรรทัดแรกของโฆษณา) หากการโทรทำให้เกิดอัตรา Conversion สูงกว่า ให้ใช้ชิ้นงานการโทรและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเสนอราคาเพื่อเพิ่มจำนวน Conversion ทั้งหมดให้ได้สูงสุดแทนที่จะเพิ่มเฉพาะ Conversion ออนไลน์

เมื่อคุณกระตุ้นการโทรแล้ว อย่าลืมติดตาม Conversion จากการโทร เมื่อใช้ชิ้นงานการโทร ให้วางแผนใช้หมายเลขโอนสายของ Google ตัวเลือกนี้จะให้รายละเอียดการโทรที่คุณได้รับ และช่วยให้ติดตามการโทรเป็น Conversion ได้

ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือการโทรทำงานร่วมกับรูปแบบการเสนอราคา ECPC และ CPA เป้าหมายได้ด้วย รูปแบบเหล่านี้จะเสนอราคาโดยอัตโนมัติโดยรวมปัจจัยต่างๆ เช่น อุปกรณ์ เบราว์เซอร์ สถานที่ตั้ง และช่วงเวลาของวัน เพื่อให้ได้รับ Conversion มากที่สุดจากงบประมาณที่คุณตั้งไว้

เคล็ดลับ

หากการโทรสำคัญต่อธุรกิจ โปรดดูคู่มือเพิ่มจำนวนการโทรใน Google Ads

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการบอกราคาก่อนที่ผู้ใช้จะเข้าชมเว็บไซต์

Price asset example visual

ชิ้นงานราคาช่วยให้คุณแสดงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการหลายอย่างพร้อมกับราคาเฉลี่ยในโฆษณาได้ การช่วยให้ผู้คนทราบราคาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยเพิ่มคุณภาพการคลิกที่โฆษณาได้รับ

เมื่อตั้งค่าชิ้นงานราคา อย่าลืมลิงก์ไปยังหน้า Landing Page ที่แสดงถึงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการแต่ละอย่าง วิธีนี้จะลดจํานวนหน้าที่ผู้เข้าชมต้องคลิกและช่วยให้ลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ซื้อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการไฮไลต์ส่วนลดและข้อเสนอพิเศษอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอัปเดตโฆษณาทุกรายการ

Promotion asset Example Visual

ชิ้นงานโปรโมชันเป็นวิธียอดเยี่ยมในการไฮไลต์ส่วนลดและข้อเสนอพิเศษ โดยไม่จํากัดจํานวนอักขระสูงสุดในบรรทัดแรกและคําอธิบายของโฆษณา

ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ "โอกาส" (ไม่บังคับ) เพื่อเพิ่มป้ายกํากับตัวหนาข้างๆ ข้อความโปรโมตและทําให้ข้อความโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น โดยเลือกโอกาสต่างๆ ได้ เช่น "คริสต์มาส" หรือ "วันแม่" โปรดทราบว่าโอกาสที่เลือกบางโอกาสจะทําให้ชิ้นงานโปรโมชันแสดงเฉพาะในบางวันเท่านั้น

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการโปรโมตที่ตั้งธุรกิจจริงต่อผู้ใช้ที่อยู่ใกล้

เมื่อคุณตั้งค่าชิ้นงานสถานที่ตั้งที่จะแสดงพร้อมกับโฆษณา ลูกค้าจะโทรหา เยี่ยมชม หรือระบุตำแหน่งที่ตั้งของธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น

คุณสามารถเปิดใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งในบัญชีได้ 2 วิธี

  1. หากคุณขายผลิตภัณฑ์หรือเสนอบริการที่ร้านค้าปลีกรายใหญ่ วิธีเปิดใช้ที่ง่ายที่สุดคือเพิ่มสถานที่ตั้งของร้านแบบเครือข่ายไปยังบัญชีโดยตรงใน Google Ads (แนะนำ)
  2. หากไม่เห็นร้านค้าปลีกของคุณในรายการนี้หรือต้องการใช้วิธีอื่น คุณก็สามารถลิงก์กับ Business Profile ได้

แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีใด สถานที่ตั้งที่เพิ่มก็จะมีสิทธิ์แสดงใน Search, Display หรือโฆษณาวิดีโอในบัญชี 

หากต้องการกําหนดสถานที่ตั้งให้กับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง ให้ตั้งค่ากลุ่มสถานที่ตั้งเมื่อคุณสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง

โปรดทราบว่าสถานที่ตั้งของร้านแบบเครือข่ายจะอัปเดตอัตโนมัติเมื่อเปิด ย้าย หรือปิดร้านค้า ในขณะที่การอัปเดตสถานที่ตั้งใน Business Profile อาจใช้เวลาถึง 1 วันจึงจะแสดงผลในบัญชี Google Ads

กรณีการใช้งาน: คุณต้องการกระตุ้นให้ผู้ใช้ไปที่เว็บไซต์ แต่ก็ต้องการเสนอทางเลือกในการดาวน์โหลดแอปด้วย App asset


ชิ้นงานแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยให้คุณขยายโฆษณาแบบข้อความด้วยลิงก์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปจาก Google Play หรือ App Store ชิ้นงานนี้ใช้ได้กับทั้งคีย์เวิร์ดที่เป็นแบรนด์และคีย์เวิร์ดทั่วไป และแสดงพร้อมกับชิ้นงานอื่นๆ ของคุณได้ เพียงตัดสินว่าแรงจูงใจหลักของคุณคืออะไร หากแรงจูงใจหลักคือการเข้าชมเว็บไซต์ ให้ใช้ชิ้นงานแอป หากเป็นการดาวน์โหลดแอป ให้ใช้โฆษณาเพื่อการติดตั้งแอป เนื่องจากระบบจะตรวจสอบระบบปฏิบัติการของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาความเข้ากันได้ กำหนดเป้าหมายระบบปฏิบัติการทั้งหมดที่ใช้ได้สำหรับคุณและแอป และระบบจะจัดการส่วนที่เหลือให้

ชิ้นงานบางรายการจะแสดงโดยอัตโนมัติ

เคล็ดลับ

หากมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ชิ้นงานบางรายการจะแสดงในโฆษณาโดยอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องดําเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึง

กรณีการใช้งาน: บริษัทของคุณ (ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง) ได้รับรีวิวดีๆ เป็นจำนวนมากจากผู้ใช้ออนไลน์ Seller ratings asset

การให้คะแนนเหล่านี้จะแสดงขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อคุณมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่แสดงที่นี่

ดูรีวิวที่แสดงอยู่ในปัจจุบันได้โดยไปที่ https://www.google.com/shopping/ratings/account/lookup?q={xxxxxxx.com} (ใส่โดเมนของคุณแทน xxxxxxx.com) หากคุณได้รับคะแนนรวมต่ำกว่า 3.5 ดาว คะแนนก็จะไม่แสดงในโฆษณา Search

เราต้องการให้โฆษณาเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับผู้ลงโฆษณาและผู้ใช้ ดังนั้นคุณมั่นใจได้ว่าชิ้นงานเหล่านี้จะแสดงก็ต่อเมื่อระบบคาดการณ์แล้วว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้

หากต้องการเลือกไม่ใช้ชิ้นงานที่แสดงโดยอัตโนมัติ ตัวเลือกนี้ก็มีให้คุณเช่นกัน

ถัดไป: ทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพข้อความครีเอทีฟโฆษณา

 

 

1. ข้อมูลภายในของ Google, ทั่วโลก 9/3/2023 - 22/3/2023

 

Mail iconหากต้องการรับเคล็ดลับขั้นสูงและข้อมูลอัปเดตจาก Google Ads ส่งตรงถึงกล่องจดหมายของคุณ สมัครรับจดหมายข่าวแนวทางปฏิบัติแนะนำ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
8403380345371411828
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false