การแจ้งเตือน

Duet AI เปลี่ยนเป็น Gemini สำหรับ Google Workspace แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ปรับแต่งการตั้งค่าบริการด้วยกลุ่มการกำหนดค่า

กลุ่มการกําหนดค่าอาจใช้ไม่ได้ในบริการบางประเภทหรือการตั้งค่าบางอย่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของ Google Workspace

คุณสามารถใช้การตั้งค่าบริการกับกลุ่มของผู้ใช้แทนที่จะใช้กับทั้งหน่วยขององค์กรได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณปรับแต่งการตั้งค่าให้กับผู้ใช้เป็นบางรายได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร ใช้กลุ่มเพื่อกำหนดการตั้งค่าสำหรับบริการต่อไปนี้

บริการ ฟีเจอร์ของผู้ดูแลระบบ

หมายเหตุ: บางบริการจะมีตัวเลือกให้เปิดหรือปิด Google Takeout สําหรับกลุ่ม ดูข้อมูลเพิ่มเติม

 * ใช้ได้กับ Google Workspace บางรุ่นเท่านั้น

การใช้กลุ่มการกำหนดค่ากับการตั้งค่าบริการ

คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าบริการสำหรับกลุ่มผู้ใช้ได้ด้วยกลุ่มการกำหนดค่า ตัวอย่างเช่น คุณสามารถอนุญาตให้กลุ่มอนุมัติวิดีโอ YouTube หรือให้ทีมแชร์ไฟล์ใน Google ไดรฟ์กับบุคคลภายนอกองค์กรของคุณได้

คุณสามารถนำผู้ใช้จากหน่วยขององค์กรอื่นในบัญชีมาใส่ไว้ในกลุ่มการกำหนดค่า และจะสร้างกลุ่มหรือใช้กลุ่มที่มีอยู่ในบัญชีก็ได้ เช่น staff@example.com

โดยปกติแล้วคุณสามารถใช้การตั้งค่าบริการกับหน่วยขององค์กรและตั้งข้อยกเว้นสำหรับผู้ใช้บางรายได้ ตัวอย่างเช่น จำกัดเนื้อหา YouTube สำหรับทุกคนในบัญชี แต่อนุญาตให้บางกลุ่มดูวิดีโอทั้งหมดหรืออนุมัติวิดีโอได้

ตัวอย่างการตั้งค่ากำหนดสำหรับ YouTube

หลักการทำงานของกลุ่มการกำหนดค่า

  • กลุ่มการกำหนดค่าอาจรวมถึงผู้ใช้หรือกลุ่มใดก็ตามในองค์กร (กลุ่มที่ซ้อนกัน)
  • การตั้งค่ากลุ่มของผู้ใช้จะลบล้างการตั้งค่าหน่วยขององค์กรของผู้ใช้เสมอ
  • ผู้ใช้รายเดียวกันอาจอยู่ในกลุ่มการกำหนดค่าได้หลายกลุ่ม ซึ่งแตกต่างจากหน่วยขององค์กร โดยผู้ใช้จะได้รับการตั้งค่าตามกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดตามที่คุณกำหนดไว้

ข้อกำหนด

  • สร้างกลุ่มการกำหนดค่าในคอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google, Google Cloud Directory Sync หรือ Directory API ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • กลุ่มแบบไดนามิกต้องมีป้ายกํากับความปลอดภัย จึงจะใช้เป็นกลุ่มการกําหนดค่าได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • กลุ่มที่สร้างใน Google Groups จะใช้เป็นกลุ่มการกำหนดค่าไม่ได้
  • คุณสามารถตั้งและใช้กลุ่มการกําหนดค่าได้เฉพาะในคอนโซลผู้ดูแลระบบเท่านั้น และจะดำเนินการด้วย API ไม่ได้

หมายเหตุ: กลุ่มการกําหนดค่าอาจใช้ไม่ได้ในบริการบางประเภท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของ Google Workspace

หากต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้ข้ามไปที่หัวข้อสร้างกลุ่มการกำหนดค่าด้านล่าง

การจัดการผู้ใช้หรือนโยบายที่มีจำนวนมาก

ข้อมูลสําหรับผู้ดูแลระบบที่จัดการองค์กรขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ หรือผู้ที่สนใจใช้งานกลุ่มการกำหนดค่า

เปิดทั้งหมด | ปิดทั้งหมด

วิธีตั้งกลุ่มการกำหนดค่า

ก่อนที่จะสร้างหรือใช้กลุ่มการกำหนดค่า คุณควรเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้กับการตั้งค่าให้เรียบร้อย ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้แต่ละกลุ่มจะมีสิทธิ์การแชร์ไฟล์ในไดรฟ์แตกต่างกัน

  สิทธิ์การแชร์ไดรฟ์
กลุ่มผู้ใช้ แชร์กับ
โดเมนใดก็ได้
แชร์กับ
โดเมนที่เชื่อถือได้
แชร์
ภายในเท่านั้น
ผู้จัดการฝ่ายขาย    
ทีมฝ่ายขาย    
ฝ่ายปฏิบัติการด้านการขาย    

 

ขั้นตอนต่อไป ให้คุณใช้กลุ่มการกำหนดค่าตามกลุ่มผู้ใช้ ตามการตั้งค่าผู้ใช้ หรือใช้ร่วมกันตามที่เหมาะสมกับองค์กร

วิธีที่ 1: สร้างกลุ่มการกำหนดค่าตามกลุ่มผู้ใช้

ใช้กลุ่มผู้ใช้เป็นกลุ่มการกำหนดค่า จากนั้นจึงปรับแต่งการตั้งค่าสำหรับกลุ่มการกำหนดค่าแต่ละกลุ่ม หากผู้ใช้อยู่ในหลายกลุ่ม คุณสามารถตั้งได้ว่าจะให้กลุ่มการกำหนดค่าใดมีผลกับการตั้งค่าของผู้ใช้ (โดยจะอธิบายไว้ในส่วนการตั้งค่าลำดับความสำคัญลำดับความสำคัญด้านล่าง)

ตัวอย่างเช่น เมื่อตั้งค่าไดรฟ์ คุณจะอนุญาตให้กลุ่มผู้ใช้บางกลุ่มแชร์ไฟล์กับภายนอกได้

รูปภาพการใช้การตั้งค่ากับกลุ่ม

การใช้การตั้งค่ากับกลุ่มผู้ใช้โดยตรงเหมาะกับกรณีต่อไปนี้

  • องค์กรมีผู้ใช้น้อยกว่า 50 คน หรือมีการตั้งค่าน้อย
    (ไม่จำเป็นต้องสร้างกลุ่มเพิ่ม และคุณยังสามารถปรับแต่งการตั้งค่าให้กลุ่มผู้ใช้แต่ละกลุ่มได้)
  • ทดสอบการตั้งค่าบริการ
  • แอปที่ผู้ใช้บางกลุ่มใช้งาน
  • กลุ่มแบบไดนามิก ซึ่งจัดการการเป็นสมาชิกกลุ่มด้วยแอตทริบิวต์ผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เช่น สถานที่หรือบทบาท

วิธีที่ 2: สร้างกลุ่มการกำหนดค่าตามการตั้งค่าผู้ใช้

หากมีการตั้งค่าหรือผู้ใช้จำนวนมาก คุณควรสร้างกลุ่มสำหรับการตั้งค่าในระดับต่างๆ

ตัวอย่างเช่น สร้างกลุ่มการกำหนดค่าสำหรับสิทธิ์การแชร์ไดรฟ์แต่ละระดับ จากนั้นจึงเพิ่มกลุ่มผู้ใช้ให้เป็นสมาชิกในกลุ่มการกำหนดค่านั้นๆ

การตั้งค่าไดรฟ์ตามกลุ่มการกำหนดค่า

กลุ่มการกําหนดค่าจะทําหน้าที่เป็นคอนเทนเนอร์สําหรับการตั้งค่า โดยทั่วไปคุณจะมีกลุ่มการกำหนดค่าเพื่อใช้จัดการและกำหนดลำดับความสำคัญเพียงไม่กี่กลุ่ม (ตามที่อธิบายด้านล่าง) นอกจากนี้คุณยังจะใช้ Groups API หรือ Directory Sync เพื่อจัดการการเป็นสมาชิกของผู้ใช้และสมาชิกกลุ่มได้อีกด้วย

การตั้งค่าลำดับความสำคัญให้กับกลุ่มการกำหนดค่า

กรณีที่ผู้ใช้เป็นสมาชิกในกลุ่มการกำหนดค่าหลายกลุ่ม คุณกำหนดได้ว่าจะให้กลุ่มใดมีลำดับความสำคัญสูงสุดที่จะนำไปใช้ตั้งค่าให้กับผู้ใช้

ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ กลุ่มจะแสดงเรียงตามลำดับความสำคัญสูงสุดไปหาต่ำสุด โดยผู้ใช้จะได้รับการตั้งค่าจากกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดที่ตนเป็นสมาชิกอยู่

คุณสามารถเปลี่ยนลำดับความสำคัญของกลุ่มการกำหนดค่าได้โดยย้ายกลุ่มในรายการขึ้นหรือลง การตั้งค่าลำดับความสำคัญจะทำได้เฉพาะในคอนโซลผู้ดูแลระบบเท่านั้น และจะทำด้วย API ไม่ได้


แผง Groups

 

หลักการทำงานของลำดับความสำคัญ

หากผู้ใช้เป็นสมาชิกกลุ่มหลายกลุ่ม ผู้ใช้จะได้รับการตั้งค่าจากกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด ในตัวอย่างนี้ ผู้จัดการฝ่ายขายเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ใช้ 3 กลุ่ม และแต่ละกลุ่มมีการตั้งค่าสำหรับการแก้ไขโปรไฟล์ไดเรกทอรีที่แตกต่างกัน

หากมีการจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มการกำหนดค่าตามตัวอย่างในภาพ ผู้จัดการฝ่ายขายจะแก้ไขชื่อและสถานที่ในโปรไฟล์ไดเรกทอรีของตนเองได้

การแมปกลุ่มการกําหนดค่ากับสมาชิก

หากกลุ่มแก้ไขสถานที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด ผู้จัดการฝ่ายขายจะแก้ไขได้เฉพาะสถานที่ของตนเอง ส่วนฝ่ายขายประจำภูมิภาคจะแก้ไขได้ทั้งชื่อและสถานที่ของตน

การเปลี่ยนลำดับความสำคัญของกลุ่ม

การตั้งค่าผู้ใช้และกลุ่มหลายกลุ่ม

ระบบจะไม่เพิ่มการตั้งค่าให้กับกลุ่มของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ในตัวอย่างนี้ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเป็นสมาชิกในกลุ่ม 3 กลุ่ม แต่จะได้รับการตั้งค่าเฉพาะของกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดเท่านั้น โดยสามารถแก้ไขชื่อและสถานที่ของตนเอง แต่จะแก้ไขรูปภาพไม่ได้

ผู้ใช้ที่อยู่ในหลายกลุ่ม

การจัดลำดับกลุ่ม

สำหรับการตั้งค่าไดรฟ์ การเปลี่ยนลำดับความสำคัญของกลุ่มหรือการเป็นสมาชิกจะส่งผลกับการแชร์และเข้าถึงไฟล์

ตัวอย่างเช่น หากคุณโอนการเป็นเจ้าของไฟล์ให้กับผู้ใช้ในกลุ่มการกำหนดค่าอื่น สิทธิ์การแชร์ไฟล์จะเปลี่ยนเป็นสิทธิ์ของกลุ่มใหม่

วิธีติดตามลําดับความสําคัญและการตั้งค่า

  • โปรดคำนึงถึงลำดับความสำคัญในโครงสร้างกลุ่ม และคอยระวังกลุ่มที่ซ้อนกันหลายระดับ ซึ่งอาจติดตามการตั้งค่าได้ยาก
  • ควรจัดลำดับกลุ่มการกำหนดค่าที่จะใช้กับสมาชิกจำนวนน้อยที่สุดให้เป็นกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูงที่สุด


การวางแผนและการออกแบบกลุ่มการกำหนดค่า

การวางแผนโครงสร้างกลุ่มการกำหนดค่ามักจะเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาในการทำและตรวจสอบมากที่สุด

การเชื่อมโยงการตั้งค่าบริการ

คุณควรตรวจสอบการตั้งค่าในหน่วยขององค์กรที่ต้องการจัดการด้วยกลุ่ม หากใช้การตั้งค่าตามบทบาทหรือทีมอยู่แล้ว คุณสามารถใช้กลุ่มในลักษณะเดียวกันได้

นโยบายที่มีบทบาทและทีม

หากบัญชีของคุณมี Google Workspace หลายรุ่น โปรดพิจารณาดังนี้

  • การตั้งค่ากลุ่มการกำหนดค่ามีผลกับผู้ใช้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์หรือบริการเท่านั้น
  • การตั้งค่าไดรฟ์บางรายการจะมีผลกับทั้งองค์กรโดยขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้งานอยู่ คุณสามารถใช้กลุ่มการกำหนดค่าเพื่อปรับแต่งการตั้งค่าไดรฟ์ให้แก่ผู้ใช้รายอื่นได้

กำหนดมาตรฐานในการตั้งชื่อ

กำหนดมาตรฐานในการตั้งชื่อกลุ่มเพื่อให้จัดการและตรวจสอบได้ง่าย ตัวอย่างเช่น ใช้มาตรฐานการตั้งชื่อที่ประกอบด้วยชื่อการตั้งค่าและตัวเลขลำดับความสำคัญ โดยรายการกลุ่มจะแสดงชื่อกลุ่มได้สูงสุด 37 อักขระ ซึ่งระบบจะแสดงชื่อเต็มเมื่อวางเคอร์เซอร์ไว้ที่กลุ่ม

YouTube_1_approvers
YouTube_2_access_unrestricted
YouTube_3_access_moderate
YouTube_4_access_strict

หากต้องจัดการกับกลุ่มหลายประเภท คุณอาจเพิ่มคำนำหน้าอย่างเช่น "cf" เพื่อระบุว่าเป็นกลุ่มการกำหนดค่า และอาจใช้ทศนิยมร่วมด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงการแก้ไขชื่อกลุ่มที่มีอยู่แล้วในขณะที่เพิ่มกลุ่มการกำหนดค่า

cf_Drive_p1.0_SHARE_any
cf_Drive_p2.0_SHARE_trusted
cf_Drive_p2.1_SHARE_trusted_access_external
cf_Drive_p3.0_SHARE_internal

การสร้างกลุ่ม

ให้ใช้กลุ่มที่สร้างในคอนโซลผู้ดูแลระบบ, Directory API หรือ Google Cloud Directory Sync กลุ่มที่สร้างใน Google Groups ไม่สามารถใช้เป็นกลุ่มการกำหนดค่าได้ (คอนโซลผู้ดูแลระบบจะไม่แสดงว่ากลุ่มใดสร้างใน Google Groups)

คุณจะจัดการกลุ่มการกำหนดค่าโดยใช้เครื่องมือใดก็ได้ โดยอาจกำหนดสิทธิ์แบบเข้มงวดในการเพิ่มหรือลบผู้ใช้ การโพสต์ไปยังกลุ่ม หรือการป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ออกจากกลุ่ม (ทำได้เฉพาะใน Groups API เท่านั้น)

สร้างกลุ่มการกำหนดค่า

เปิดทั้งหมด | ปิดทั้งหมด

ขั้นตอนที่ 1 ใช้กลุ่มการกำหนดค่า

ในขั้นตอนนี้ คุณต้องมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบสำหรับกลุ่ม หน่วยขององค์กร (ระดับบนสุด) และการตั้งค่าบริการ

ก่อนเริ่มต้น ให้เลือกกลุ่มของคุณ โดยคุณจะใช้กลุ่มที่มีอยู่หรือสร้างกลุ่มใหม่ก็ได้

กลุ่มที่จะใช้เป็นกลุ่มการกำหนดค่าได้คือกลุ่มที่สร้างขึ้นในคอนโซลผู้ดูแลระบบ, Google Groups for Business, Directory API หรือ Google Cloud Directory Sync เท่านั้น และไม่สามารถใช้กลุ่มที่สร้างใน Google Groups ได้

  1. ไปที่หน้าการตั้งค่าสำหรับแอปในคอนโซลผู้ดูแลระบบ
  2. คลิกการตั้งค่าที่ต้องการแก้ไข
    โปรดดูตัวอย่างการตั้งค่าของ YouTube สำหรับองค์กรระดับบนสุดดังต่อไปนี้

    การตั้งค่า YouTube สำหรับองค์กร
  3. คลิกกลุ่มทางด้านซ้าย
    กลุ่มการกำหนดค่าที่มีอยู่จะแสดงตามลำดับความสำคัญ
  4. คลิกค้นหากลุ่ม ป้อนอีเมลของกลุ่ม (ไม่ใช่ชื่อกลุ่ม) จากนั้นจึงเลือกกลุ่ม
    • ให้เริ่มต้นด้วยการเพิ่มกลุ่มการกำหนดค่าจากลำดับความสำคัญสูงสุดไปหาต่ำสุด เมื่อเพิ่มกลุ่มใหม่ ให้วางกลุ่มดังกล่าวไว้ในลําดับความสําคัญต่ำสุด
    • หากไม่พบกลุ่มที่ต้องการ อาจเป็นไปได้ว่ากลุ่มดังกล่าวสร้างขึ้นใน Google Groups หรือเป็นกลุ่มแบบไดนามิกที่ไม่มีป้ายกํากับความปลอดภัย
  5. เลือกการตั้งค่าสำหรับกลุ่มการกำหนดค่าของคุณ
    โดยค่าเริ่มต้น กลุ่มใหม่จะมีการตั้งค่าตามหน่วยขององค์กรระดับบนสุด

    การตั้งค่า YouTube สำหรับกลุ่ม
     

    สำหรับองค์กรที่มีใบอนุญาตหลายประเภท หากคุณมีใบอนุญาตสำหรับรุ่นที่ไม่มีการตั้งค่าบางอย่าง ธง Flag image for multiple licenses จะปรากฏถัดจากการตั้งค่าสำหรับกลุ่ม ซึ่งธงนี้จะปรากฏขึ้นไม่ว่ากลุ่มนั้นจะมีผู้ใช้ที่ขาดใบอนุญาตที่จำเป็นหรือไม่ก็ตาม

  6. เปิดหรือปิดกลุ่มการกำหนดค่า
    • เปิด - คลิกบันทึก
      ระบบจะนำการตั้งค่าไปใช้กับสมาชิกในกลุ่มการกำหนดค่า หากต้องการปิดแผงควบคุม ให้คลิกยกเลิก
    • ปิด - ในแผงควบคุมกลุ่ม ให้คลิกยกเลิกการตั้งค่า หรือนําออก  (การคลิกยกเลิกจะไม่นํากลุ่มออก)
  7. จัดลำดับความสำคัญของกลุ่มโดยลากกลุ่มขึ้นหรือลง 
    • หากต้องการกำหนดลำดับความสำคัญของกลุ่มให้เป็นอันดับ 1 ให้ลากกลุ่มที่ต้องการไปไว้ในลำดับที่ 2 แล้วลากรายการที่อยู่ในลำดับ 1 ลงมาด้านล่าง หรืออาจพิมพ์หมายเลขลงในช่องลำดับความสำคัญหรือคลิกลูกศรที่อยู่ถัดจากช่องลำดับความสำคัญก็ได้
    • หากมีกลุ่มน้อยกว่า 4 กลุ่ม เมื่อเรียงลำดับกลุ่มที่มีผู้ใช้เดียวกันใหม่ ผู้ใช้ดังกล่าวจะได้รับการตั้งค่าจากกลุ่มที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนนี้

      “อาจมีการใช้นโยบายมากกว่าหนึ่งรายการกับผู้ใช้รายเดียวกัน..."

      การแจ้งเตือนเช่นนี้จะปรากฏขึ้นได้เป็นปกติเมื่อเพิ่ม ยกเลิกการตั้งค่า หรือเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญของกลุ่มการกำหนดค่า แม้ว่ากลุ่มดังกล่าวจะไม่มีผู้ใช้รายเดียวกันอยู่

การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบการตั้งค่าสำหรับผู้ใช้

ก่อนเริ่มต้น คุณต้องมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบสําหรับกลุ่ม หน่วยขององค์กร (ระดับบนสุด) และการตั้งค่าบริการ

  1. ไปที่หน้าการตั้งค่าสำหรับแอปในคอนโซลผู้ดูแลระบบ 
  2. คลิกผู้ใช้ที่ด้านซ้ายบน
  3. คลิกเลือกผู้ใช้และค้นหาอีเมลของผู้ใช้ (ไม่ใช่ชื่อ)
  4. เลือกผู้ใช้ที่ต้องการดูการตั้งค่า คลิกกลุ่มการกำหนดค่าหรือหน่วยขององค์กรที่กำหนดการตั้งค่าของผู้ใช้ด้านล่างชื่อการตั้งค่า


ข้อมูลโปรไฟล์

หมายเหตุ: หากคุณเลือกหน่วยขององค์กรของผู้ใช้ การตั้งค่าบริการจะไม่แสดงเป็นลบล้าง การตั้งค่าลบล้างและรับค่าจะอิงจากการตั้งค่าของหน่วยขององค์กรเท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มการกำหนดค่า

การแก้ปัญหา

ฉันหารายการกลุ่มไม่เจอ

  • ฟีเจอร์กลุ่มการกำหนดค่าอาจใช้งานกับบริการบางอย่างไม่ได้ โปรดตรวจสอบรายชื่อบริการจากตารางด้านบน
  • สําหรับการตั้งค่าไดรฟ์และเขตข้อมูล รุ่นของ Google Workspace ที่ใช้งานอยู่อาจไม่รองรับกลุ่มการกําหนดค่า 

ฉันไม่เห็นกลุ่มการกำหนดค่าในรายการกลุ่ม

  • กลุ่มนี้อาจสร้างขึ้นใน Google Groups โปรดลองสร้างกลุ่มในคอนโซลผู้ดูแลระบบแทน
  • กลุ่มอาจเป็นกลุ่มแบบไดนามิกที่จำเป็นต้องมีป้ายกำกับความปลอดภัย ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
  • ตรวจสอบว่าคุณมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบสำหรับกลุ่ม
  • คุณอาจกำลังใช้ชื่อแทนกลุ่ม ไม่ใช่ชื่อกลุ่ม 
  • ลองรีเฟรชหน้าการตั้งค่าใหม่อีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • ให้ค้นหาด้วยอีเมลของกลุ่มแทนชื่อกลุ่ม

ผู้ใช้ไม่มีการตั้งค่าบริการที่ถูกต้อง

  • ตรวจสอบการเป็นสมาชิกกลุ่มของผู้ใช้ การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
  • ค้นหากลุ่มการกำหนดค่าที่กำหนดการตั้งค่าของผู้ใช้ หากผู้ใช้อยู่ในกลุ่มการกำหนดค่าหลายกลุ่ม คุณอาจต้องเปลี่ยนลำดับความสำคัญของกลุ่มหรือการเป็นสมาชิกกลุ่มของผู้ใช้
  • ผู้ใช้อาจไม่มีใบอนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์นั้นในผลิตภัณฑ์ โดยฟีเจอร์บางอย่างจะใช้ได้เฉพาะในบางรุ่นเท่านั้น
ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในบันทึกการตรวจสอบ

เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญของกลุ่มการตั้งค่าแอปพลิเคชันจะบันทึกข้อมูลเมื่อมีการเริ่มใช้กลุ่มการกำหนดค่าหรือเปลี่ยนลำดับความสำคัญ บันทึกเหตุการณ์นี้จะใช้ชื่อกลุ่มแทนอีเมลของกลุ่ม คุณอาจต้องใช้มาตรฐานที่คล้ายคลึงกันในการตั้งชื่อและอีเมลของกลุ่ม

ตัวอย่างเช่น ใช้กลุ่มลิงก์กับใครก็ได้กับการตั้งค่าการแชร์ลิงก์ในไดรฟ์ 

การเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญของกลุ่มสำหรับการตั้งค่าแอปพลิเคชัน
สำหรับไดรฟ์และเอกสาร กลุ่มจะลบล้างลำดับความสำคัญของการแชร์ลิงก์
และเปลี่ยนไปเป็นลิงก์กับใครก็ได้

เมื่อคุณเปลี่ยนลำดับความสำคัญของกลุ่ม บันทึกเหตุการณ์นี้จะแสดงรายการกลุ่มโดยเรียงตามลำดับที่เปลี่ยนแปลง จากความสำคัญต่ำสุดไปหาสูงสุด

การเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญของกลุ่มสำหรับการตั้งค่าแอปพลิเคชัน
สำหรับไดรฟ์และเอกสาร กลุ่มจะลบล้างลำดับความสำคัญของการแชร์ลิงก์
เปลี่ยนไปเป็นไม่มีลิงก์ < ลิงก์กับผู้ใช้ < ลิงก์กับใครก็ได้

เหตุการณ์อื่นๆ ส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบที่คล้ายกันสำหรับทั้งหน่วยขององค์กรและกลุ่มการกำหนดค่า คำนำหน้า group_email จะระบุกลุ่มการกำหนดค่า

ตัวอย่างการลบล้างการตั้งค่าด้วยหน่วยขององค์กร

การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าไดรฟ์
PUBLISHING_TO_WEB สำหรับไดรฟ์มีการเปลี่ยนแปลงจาก INHERIT_FROM_PARENT ไปเป็น PUBLIC 
(org_unit_name: {Marketing}

การใช้การตั้งค่ากับกลุ่มการกำหนดค่า

การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าไดรฟ์
PUBLISHING_TO_WEB สำหรับไดรฟ์มีการเปลี่ยนแปลงจาก INHERIT_FROM_PARENT ไปเป็น PUBLIC 
(org_unit_name: {example.com}, group_email: {Drive_p02_share_external@example.com})

สำหรับเหตุการณ์ที่มีกลุ่มการกำหนดค่า หน่วยขององค์กรระดับบนสุดจะแสดงเป็น org_unit_name

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
13195089374533155969
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73010
false
false