เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Display

 

คู่มือนี้จะอธิบายแนวทางปฏิบัติแนะนําในการใช้แคมเปญ Display เพื่อเข้าถึงลูกค้าด้วยโฆษณาที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์และแอป คุณจะได้ทราบเคล็ดลับในการสร้างแคมเปญให้มีโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม และการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ

ในหน้านี้ 

• 1: สร้างแคมเปญ Display ให้ประสบความสำเร็จ
• 2: เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกกลุ่มถูกเวลา
• 3: สร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูง
• 4: วัดคุณค่าทั้งหมดของโฆษณา Display

	สร้างแคมเปญ Display ให้ประสบความสำเร็จ ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion เพื่อให้มั่นใจว่าคุณติดตาม Conversion ในเว็บไซต์และแอปอย่างถูกต้อง  เราขอแนะนําให้ตรวจสอบเครื่องมือวัด Conversion เป็นประจํา คุณยังทดสอบเครื่องมือวัด Conversion ได้โดยการสร้าง Conversion เพื่อดูว่ามีการบันทึกไว้ใน Google Ads, Google Analytics หรือแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามหรือไม่ เลือกเป้าหมายแคมเปญ ตามวัตถุประสงค์ของคุณ ใช้ Smart Bidding เพื่อเสนอราคาโดยอัตโนมัติและปรับราคาเสนอให้เหมาะสม เพราะราคาเสนอที่ปรับให้เหมาะกับการประมูลแต่ละครั้งจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เคล็ดลับ ผู้ลงโฆษณา Display ที่ใช้ฟีเจอร์ที่ทำงานด้วยระบบ AI อยู่แล้วตอนนี้สามารถเพิ่มผลลัพธ์ในช่องทางต่างๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย Performance Max ผู้ลงโฆษณาที่อัปเกรดแคมเปญ Display ของ Google เป็น Performance Max ได้รับ Conversion เพิ่มขึ้นกว่า 20% โดยเฉลี่ย โดยมี CPA ใกล้เคียงกับของเดิมหรือต่ำกว่า1 แม้ว่าผู้ลงโฆษณาจะมีแคมเปญ Performance Max อยู่แล้ว ก็ยังจะได้ผลลัพธ์เช่นนี้ Performance Max จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในช่องทางต่างๆ รวมถึง Display และอื่นๆ
	เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกกลุ่มถูกเวลา ใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อดูว่าลูกค้ารายใดมีแนวโน้มสูงที่จะทํา Conversion ตามเป้าหมายแคมเปญ  การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเครื่องมือที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว ซึ่งช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงสุดได้ การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะพิจารณาปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกด้วยตนเอง เพื่อค้นหาผู้ใช้ใหม่ที่เกี่ยวข้องที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายแคมเปญ เพิ่มสัญญาณเสริม เช่น กลุ่มเป้าหมายหรือคีย์เวิร์ด เมื่อใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ เคล็ดลับ หากต้องการดึงดูดลูกค้าเดิมให้กลับมามีส่วนร่วมอีกครั้งด้วยการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ ให้รวมกลุ่มเป้าหมายที่สร้างขึ้นจากข้อมูล เช่น ผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือผู้ซื้อซ้ำ ไปด้วย
	สร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูง อัปโหลดและเพิ่มชิ้นงาน (รูปภาพ โลโก้ วิดีโอ ฯลฯ) ลงใน โฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา เพื่อสร้างชุดรวมชิ้นงานโฆษณาโดยอัตโนมัติ เคล็ดลับ โดยเฉลี่ยแล้วผู้ลงโฆษณาจะได้รับ Conversion เป็น 2 เท่าเมื่อเพิ่มโฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณาลงในกลุ่มโฆษณาที่มีโฆษณา Display แบบคงที่2 กรณีศึกษา เมื่อใช้โฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา Bloomberg Media ลดต้นทุนต่อหนึ่งการกระทำได้ 8% และลดต้นทุนต่อการเข้าชมเว็บไซต์ได้ 81% ใช้ตัวเลือกรูปแบบขั้นสูง เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพชิ้นงาน วิดีโอที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ และรูปแบบเนทีฟ ใส่แคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มีรูปภาพ ชื่อ และราคาที่เกี่ยวข้อง ทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Display เป็นประจำโดยใช้ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาและรูปภาพใหม่ๆ
	วัดคุณค่าทั้งหมดของโฆษณา Display พิจารณา Conversion ทั้งหมดขณะเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโดยการใช้ Conversion การดูอย่างมีส่วนร่วม (EVC) และ Conversion การดูผ่าน (VTC) ร่วมด้วยเมื่อประเมินประสิทธิภาพ ประเภท Conversion เหล่านี้จะนับเมื่อผู้ใช้เห็นแต่ไม่ได้โต้ตอบกับโฆษณา แล้วค่อยทำ Conversion ในเว็บไซต์ภายหลัง ซึ่งเหมาะแก่การวัดผลแคมเปญ Display และมีให้ดูในคอลัมน์ "Conversion"  ตรวจสอบกรอบเวลามองย้อนกลับของ Conversion, VTC หรือ EVC ที่คุณกำลังติดตาม คุณอาจต้องปรับการตั้งค่าเหล่านี้จากค่าเริ่มต้นโดยขึ้นอยู่กับธุรกิจหรือรอบการซื้อผลิตภัณฑ์ เปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติของ GA4 เพื่อให้ได้รับข้อมูล Google Ads โดยละเอียดที่สุด

ดูแคมเปญเพื่อเริ่มต้นวันนี้เลย

 

1.  ข้อมูลใน Google, ทั่วโลก, Ads, กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2023 
2. ข้อมูลของ Google, ทั่วโลก, ผู้ลงโฆษณาทั้งหมด, ก.พ. - มี.ค. 2022

 

หากต้องการรับเคล็ดลับขั้นสูงและข้อมูลอัปเดตจาก Google Ads ส่งตรงถึงกล่องจดหมายของคุณ สมัครรับจดหมายข่าวแนวทางปฏิบัติแนะนำ