เกี่ยวกับคอลัมน์ในตารางสถิติ

คอลัมน์ในตารางสถิติจะบอกข้อมูลบัญชีของคุณในด้านต่างๆ ตัวเลือกคอลัมน์จะแตกต่างไปตามตารางสถิติที่คุณกำลังดู คุณสามารถเลือกคอลัมน์ที่ต้องการดู แล้วจัดเรียงและบันทึกไว้ตามลำดับที่ต้องการได้ วิธีนี้จะช่วยให้นำข้อมูลทั้งหมดที่มีความสำคัญมากที่สุดมาไว้ในตารางสถิติเพื่อดูได้อย่างรวดเร็ว
บทความนี้ให้ภาพรวมของคอลัมน์ทั่วไปและคอลัมน์ที่ใช้ได้เฉพาะเมื่อดูชุดข้อมูลบางชุดเท่านั้น

เคล็ดลับ

คุณเปรียบเทียบประสิทธิภาพข้ามช่วงวันที่ได้ และดูผลลัพธ์เหล่านั้นในคอลัมน์ที่อยู่ในตารางสถิติ ดูวิธีเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างระยะเวลา 2 ช่วง

ขยายทั้งหมด

คอลัมน์ทั่วไป

คอลัมน์บางคอลัมน์จะพบได้ในแทบทุกหน้าในบัญชี Google Ads

คอลัมน์ที่แนะนำ
บางครั้ง Google Ads อาจแนะนำคอลัมน์สำหรับเพิ่มลงในตารางสถิติ โดยอิงจากการตั้งค่าแคมเปญของคุณ ระบบจะเลือกคอลัมน์เหล่านี้ตามปัจจัยต่างๆ เช่น Conversion, การตั้งค่าภาษาหรือสถานที่ตั้ง, กลยุทธ์การเสนอราคา และอื่นๆ ทั้งนี้คุณจะเพิ่มและนำคอลัมน์ที่แนะนำออกได้ตามต้องการ หรือกำหนดให้แคมเปญเลือกไม่ใช้ฟีเจอร์นี้ไปเลยก็ได้ ดูวิธีเพิ่มหรือนำคอลัมน์ที่แนะนำในตารางสถิติออก
ดูบ่อย
คอลัมน์ "ดูบ่อย" จะแสดงคอลัมน์อื่นๆ ที่คุณใช้บ่อยในช่วง 91 วันที่ผ่านมาหรือคอลัมน์ที่เพิ่งเปิดใช้ คุณสามารถใช้คอลัมน์ "ดูบ่อย" เพื่อไปยังคอลัมน์ที่คุณกำลังติดตามดูอยู่ได้อย่างรวดเร็ว
คอลัมน์สถานะ

คอลัมน์ "สถานะ" ในหน้า "แคมเปญ" และ "กลุ่มโฆษณา" จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาแต่ละรายการ รวมทั้งแสดงว่ามีการหยุดชั่วคราว ถูกนำออก งบประมาณไม่เพียงพอ หรือสถานะอื่นๆ

  • ในหน้า "ชิ้นงาน" คอลัมน์ "สถานะ" จะแสดงให้ทราบว่าโฆษณากำลังทำงานอยู่หรือไม่ หากไม่ทำงาน จะมีข้อมูลแสดงว่าโฆษณานั้นหยุดชั่วคราว ถูกนำออก หรือไม่ได้รับอนุมัติ
  • หน้า "คีย์เวิร์ด" จะแสดงให้ทราบว่าคีย์เวิร์ดแต่ละคำมีสิทธิ์เรียกให้โฆษณาแสดงหรือไม่ หรือแคมเปญหรือโฆษณาที่มีคีย์เวิร์ดดังกล่าวอยู่นั้นมีสถานะหยุดชั่วคราว ถูกนำออก ไม่ได้รับอนุมัติ หรือสถานะอื่นใดหรือไม่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะแคมเปญ กลุ่มโฆษณา โฆษณา และคีย์เวิร์ด

คอลัมน์ประสิทธิภาพ

เมื่อคุณดูตารางสถิติ คุณอาจเห็นคอลัมน์ประสิทธิภาพต่อไปนี้โดยค่าเริ่มต้น

  • จำนวนคลิก: เมื่อมีผู้คลิกโฆษณาของคุณ เราจะนับเป็น 1 คลิก เช่น การคลิกที่บรรทัดแรกสีน้ำเงินของโฆษณาแบบข้อความ
  • การแสดงผล: ระบบจะนับการแสดงผลทุกครั้งที่โฆษณาแสดงในหน้าผลการค้นหาหรือเว็บไซต์อื่นๆ ในเครือข่ายของ Google “การแสดงผล (Impression)” ย่อว่า “Impr”
  • CTR: อัตราส่วนที่แสดงความถี่ที่ผู้ที่เห็นโฆษณาของคุณคลิกที่โฆษณา คุณใช้ CTR เพื่อวัดประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ดและโฆษณาได้
  • CPC เฉลี่ย: จำนวนค่าโฆษณาที่ลงไปหารด้วยจำนวนคลิกทั้งหมดที่ได้รับ
  • CPM เฉลี่ย: จำนวนเงินโดยเฉลี่ยที่เรียกเก็บจากคุณต่อการดูโฆษณา 1,000 ครั้ง (หากคุณกำลังใช้การเสนอราคา CPM)
  • ค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายคือการใช้จ่ายรวมสำหรับการโต้ตอบทั้งหมด เช่น คลิกในโฆษณาแบบข้อความและการดูในโฆษณาวิดีโอ
ผลลัพธ์
  • คอลัมน์ผลลัพธ์: แสดงจํานวน Conversion ซึ่งได้รับจากการกระทําที่ถือเป็น Conversion หลักของเป้าหมายมาตรฐานแต่ละรายการในบัญชี
    • แบบอักษรของคอลัมน์นี้จะแสดงเป็นสีปกติสำหรับ Conversion ในเป้าหมายที่แคมเปญเพิ่มประสิทธิภาพ ส่วนแบบอักษรที่เป็นสีเทาหมายความว่าคอลัมน์นี้แสดง Conversion ในเป้าหมายที่แคมเปญไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพแต่สร้าง Conversion ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมาย Conversion
    • คอลัมน์ผลลัพธ์จะไม่แสดง Conversion ที่จัดกลุ่มตามเป้าหมายที่กําหนดเอง แต่หาก Conversion บางรายการเหล่านี้ปรากฏเป็นการกระทำที่ถือเป็น Conversion หลักในเป้าหมายมาตรฐานในบัญชีของคุณด้วย คุณก็จะเห็น Conversion จากเป้าหมายมาตรฐานเหล่านั้นในคอลัมน์ผลลัพธ์ (โปรดทราบว่าบางกรณีอาจไม่ได้เป็นเช่นนี้สำหรับการกระทำรองซึ่งจะไม่ปรากฏในคอลัมน์ผลลัพธ์เป็นอันขาด) ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมาย Conversion
  • คอลัมน์มูลค่าผลลัพธ์: แสดงมูลค่า Conversion ที่คำนวณแล้วซึ่งได้รับจากการกระทำที่ถือเป็น Conversion หลักของเป้าหมายมาตรฐานแต่ละรายการในบัญชี
  • คอลัมน์เป้าหมาย Conversion: แสดงเป้าหมายที่ระบุไว้ในการตั้งค่าระดับแคมเปญและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ
    • คุณลบล้างเป้าหมายเริ่มต้นของบัญชี รวมถึงระบุเป้าหมายที่ต้องการติดตามในการรายงาน Conversion และใช้สําหรับการเสนอราคาในแคมเปญหนึ่งๆ ได้
    • เป้าหมายเริ่มต้นของบัญชีควรใช้ได้กับแคมเปญส่วนใหญ่ แต่อาจมีบางสถานการณ์ที่คุณต้องการควบคุมเป้าหมาย Conversion ที่จะใช้สำหรับการเสนอราคาและการรายงานในแคมเปญอย่างละเอียดมากขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมาย Conversion เฉพาะแคมเปญ

คอลัมน์การรายงานผลลัพธ์แสดงที่ระดับแคมเปญเท่านั้น

นอกจากนี้ คุณยังมีตัวเลือกในการเพิ่มคอลัมน์สำหรับเป้าหมายมาตรฐานที่ระบุไว้ในบัญชีเป็นคอลัมน์แยกกัน (เช่น การโทร ส่งแบบฟอร์มสำหรับรวบรวมข้อมูลลูกค้า) คอลัมน์เหล่านี้แสดงจำนวน Conversion ที่ได้รับจากการกระทำที่ถือเป็น Conversion หลักของเป้าหมายมาตรฐานแต่ละรายการ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรายงานผลลัพธ์

คอลัมน์การตั้งค่า
  • จำนวนโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุมัติ
    • โฆษณาเหล่านี้จะไม่แสดงเนื่องจากละเมิดนโยบายของ Google Ads คุณสามารถดูคอลัมน์ "สถานะ" เพื่อหาสาเหตุที่โฆษณาไม่ได้รับอนุมัติ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายของ Google Ads
    • หากคุณแก้ไขโฆษณา เราจะตรวจสอบอีกครั้ง และโฆษณาจะมีสิทธิ์แสดงได้หากเราเห็นว่าเป็นไปตามนโยบาย ดูวิธีแก้ไขโฆษณาที่ไม่ได้รับการอนุมัติ
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • จำนวนคีย์เวิร์ดที่ไม่ได้รับอนุมัติ
    • คีย์เวิร์ดเหล่านี้จะไม่แสดงโฆษณาของคุณเนื่องจากละเมิดนโยบายของ Google Ads ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายของ Google Ads
    • คุณสามารถดูคอลัมน์ "สถานะ" เพื่อหาสาเหตุที่โฆษณาไม่ได้รับอนุมัติ หากคุณแก้ไขโฆษณา เราจะตรวจสอบอีกครั้ง และโฆษณาจะมีสิทธิ์แสดงได้หากเราเห็นว่าเป็นไปตามนโยบาย ดูวิธีแก้ไขโฆษณาที่ไม่ได้รับการอนุมัติ
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • จำนวนโฆษณาที่มีสิทธิ์
    • โฆษณาเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบและอนุมัติให้แสดงแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นไปตามนโยบายของ Google Ads จึงแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจสอบโฆษณา
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • จำนวนคีย์เวิร์ดที่มีสิทธิ์
    • คีย์เวิร์ดเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบและอนุมัติให้แสดงโฆษณาทั้งหมดแล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจสอบโฆษณา
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • จำนวนโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทซึ่งมีสิทธิ์
    • โฆษณาเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบและอนุมัติให้แสดงแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นไปตามนโยบายของ Google Ads จึงแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจสอบโฆษณา
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • จำนวนกลุ่มโฆษณาที่มีสิทธิ์
  • รายละเอียดคุณภาพของโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
    • คอลัมน์นี้แสดงรายละเอียดการให้คะแนนคุณภาพของโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณภาพของโฆษณา
    • ระบุจำนวน RSA ที่แบ่งกลุ่มตามคุณภาพของโฆษณา
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • จํานวนชิ้นงานไซต์ลิงก์ที่มีสิทธิ์
    • คอลัมน์นี้แสดงจํานวนชิ้นงานไซต์ลิงก์
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • จํานวนชิ้นงานไซต์ลิงก์ที่มีสิทธิ์ (อัปเกรดแล้ว)
    • คอลัมน์นี้แสดงจํานวนชิ้นงานไซต์ลิงก์ที่อัปเกรดแล้ว
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
  • จํานวนชิ้นงานรูปภาพที่มีสิทธิ์
    • คอลัมน์นี้จะแสดงจํานวนชิ้นงานรูปภาพ
    • สามารถเพิ่มลงในทั้งตารางแคมเปญและกลุ่มโฆษณา

ดูวิธีสร้างโฆษณา Search ให้มีประสิทธิภาพ

คอลัมน์ประสิทธิภาพข้ามแคมเปญ
เมื่อคุณดูแคมเปญหลายประเภทพร้อมกัน คุณจะเห็นคอลัมน์การรายงานข้ามแคมเปญเพิ่มเติม ได้แก่ "การโต้ตอบ" "อัตราการโต้ตอบ" และ "ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย" คอลัมน์เหล่านี้รายงานเมตริกสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแคมเปญแต่ละประเภท ซึ่งจะช่วยให้คุณประเมินได้อย่างรวดเร็วว่าโฆษณาหรือผลิตภัณฑ์ของคุณบรรลุเป้าหมายการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด เช่น คอลัมน์ "การโต้ตอบ" จะแสดงจำนวนคลิกในแคมเปญ Search, จำนวนการดูวิดีโอในแคมเปญวิดีโอ เป็นต้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโต้ตอบ
คอลัมน์ Conversion
หากคุณได้ติดตั้งเครื่องมือวัด Conversion ไว้ในเว็บไซต์ คอลัมน์เหล่านี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Conversion ได้ วางเมาส์เหนือเครื่องหมายคำถาม ที่ด้านบนของแต่ละคอลัมน์เพื่อดูคำจำกัดความ
คอลัมน์การระบุแหล่งที่มา
คอลัมน์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าคีย์เวิร์ดของคุณมีบทบาทอย่างไรในการค้นหาของ Google ซึ่งนำไปสู่แต่ละ Conversion ผู้ลงโฆษณามักจะให้ความสำคัญกับ "คลิกสุดท้าย" ก่อนเกิด Conversion เพราะเป็นการคลิกที่นำไปสู่การขาย การได้ผู้ใช้ใหม่ หรือการลงชื่อสมัครใช้ที่พยายามให้ได้มาโดยตรง แต่ก็ยังมีคีย์เวิร์ดที่เป็นตัวช่วยอื่นอีกซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสริมในกระบวนการนำลูกค้าไปสู่ Conversion นั้น ข้อมูล Conversion ที่ได้รับการสนับสนุนจากรายงานการระบุแหล่งที่มาจะทำให้คุณเห็นภาพรวมที่สมบูรณ์ขึ้นของมูลค่าคีย์เวิร์ดแต่ละคำในการสร้าง Conversion เช่นเดียวกับคอลัมน์ Conversion คุณต้องติดตั้งเครื่องมือวัด Conversion ในเว็บไซต์หากต้องการดูข้อมูล Conversion ที่ได้รับการสนับสนุน
คอลัมน์แอตทริบิวต์
เมื่อคุณดูตารางสถิติ คุณอาจเห็นคอลัมน์แอตทริบิวต์ต่อไปนี้โดยค่าเริ่มต้น
  • ประเภทกลยุทธ์การเสนอราคา: ชื่อกลยุทธ์การเสนอราคาที่ใช้จัดการราคาเสนอสำหรับคีย์เวิร์ด กลุ่มโฆษณา หรือแคมเปญอยู่ในขณะนี้ เช่น หากแคมเปญของคุณใช้การเสนอราคา CPC ด้วยตนเอง คุณจะเห็น "CPC" ในคอลัมน์นี้ หรือหากแคมเปญกำลังใช้การเสนอราคาอัตโนมัติ คุณจะเห็นคำว่า "อัตโนมัติ" ในคอลัมน์นี้ และคุณยังอาจเห็นคำว่า "(ปรับปรุงแล้ว)" ซึ่งหมายถึง Google Ads กำลังปรับราคาเสนอ CPC สูงสุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่คุณต้องการ เช่น การเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
  • กลยุทธ์การเสนอราคา: กลยุทธ์การเสนอราคาแบบพอร์ตโฟลิโออัตโนมัติที่ใช้จัดการราคาเสนอสำหรับคีย์เวิร์ด กลุ่มโฆษณา หรือแคมเปญอยู่ในขณะนี้ โปรดทราบว่าคุณจะเห็นชื่อที่ตั้งไว้สำหรับกลยุทธ์การเสนอราคาแบบยืดหยุ่นในคอลัมน์นี้ หากตอนนี้คุณไม่ได้ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบยืดหยุ่น จะเห็นเครื่องหมายขีดกลาง "-"
  • ช่องว่างของการเพิ่มประสิทธิภาพบัญชี:
คอลัมน์รายละเอียดการโทร
คอลัมน์เหล่านี้จะรายงานข้อมูลการโทรจากโฆษณาและผลิตภัณฑ์ที่แสดงหมายเลขโทรศัพท์โอนสายของ Google ในเดสก์ท็อปหรือแล็ปท็อป แท็บเล็ต และมือถือระดับไฮเอนด์ คุณสามารถดูคอลัมน์เหล่านี้ได้ในหน้า "กลุ่มโฆษณา" และ "แคมเปญ" ดูว่ามีข้อมูลสถิติใดอยู่ในคอลัมน์รายละเอียดการโทรบ้าง

คอลัมน์ที่ปรากฏเฉพาะในบางหน้า

บางคอลัมน์สามารถพบได้เฉพาะในหน้าของบัญชี Google Ads บางหน้าเท่านั้น ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานที่คุณจะได้ทราบจากคอลัมน์เหล่านี้มีดังนี้

% ที่แสดงผล

คอลัมน์นี้จะแสดงเปอร์เซ็นต์ของเวลาที่มีการแสดงโฆษณาของคุณเมื่อเทียบกับโฆษณาอื่นๆ ซึ่งทำงานอยู่ภายในกลุ่มโฆษณาเดียวกัน คอลัมน์นี้อยู่ในหน้า "โฆษณาและส่วนขยาย" เท่านั้น

เคล็ดลับ

เมื่อคุณเปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์ที่แสดงผลระหว่างโฆษณา 2 โฆษณา โปรดตรวจสอบว่าได้ปรับช่วงวันที่เป็นช่วงเวลาที่โฆษณาทั้งสองกำลังทำงานเพื่อให้ได้ผลการเปรียบเทียบที่ถูกต้อง

เป็นเรื่องปกติที่เปอร์เซ็นต์การแสดงโฆษณาหรือจำนวนการแสดงผลที่เกิดขึ้นสำหรับแต่ละโฆษณาในกลุ่มโฆษณาของคุณจะแตกต่างกัน ปัจจัยต่อไปนี้มีผลต่อความถี่ในการแสดงโฆษณาที่กำหนด

  • การหมุนเวียนโฆษณา

    โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะตั้งค่าแคมเปญทั้งหมดไว้ที่การแสดงโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งหมายความว่า หากโฆษณาหนึ่งมีอัตราการคลิกผ่าน (CTR) สูงกว่าโฆษณาอื่นๆ โฆษณานั้นจะปรากฏขึ้นบ่อยกว่าโฆษณาอื่นๆ ในกลุ่มโฆษณาของคุณ ระบบนี้จะสนับสนุนโฆษณาที่มีประสิทธิภาพดีกว่าซึ่งจะช่วยให้มีการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นโดยอัตโนมัติ

    คุณเลือกที่จะไม่ใช้การแสดงโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพได้ถ้าคุณต้องการให้ระบบ Google Ads หมุนเวียนใช้โฆษณาของคุณโดยเท่าเทียมกันอย่างคร่าวๆ หากเลือกไม่ใช้ โปรดทราบว่าโฆษณาอาจยังมีเปอร์เซ็นต์การแสดงโฆษณาหรือจำนวนการแสดงผลที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากระบบ Google Ads จะพิจารณาคะแนนคุณภาพของโฆษณาขณะจัดอันดับโฆษณาในหน้าผลการค้นหา โฆษณาที่มีคะแนนคุณภาพสูงอาจปรากฏอยู่ในหน้าแรกของผลการค้นหาซึ่งทำให้เกิดการแสดงผลทุกครั้งที่มีการส่งโฆษณา ในทางกลับกัน โฆษณาที่มีคะแนนคุณภาพต่ำอาจปรากฏอยู่ในหน้าที่สองของผลการค้นหา ซึ่งโฆษณาดังกล่าวจะมีการแสดงผลเฉพาะต่อเมื่อผู้ใช้คลิกผ่านหน้านั้น

  • เวลา

    หากมีการสร้างโฆษณาในช่วงสายของวัน โฆษณานั้นจะมีเปอร์เซ็นต์การแสดงโฆษณาเมื่อสิ้นวันนั้นต่ำกว่าโฆษณาที่มีอยู่เดิม ทั้งนี้ ความแตกต่างจะลดลงตามเวลา

  • สถานะการอนุมัติ

    หากโฆษณายังไม่ได้รับการตรวจทานและอนุมัติ โฆษณานั้นจะปรากฏใน Google เท่านั้น หากโฆษณายังไม่ได้รับการแสดงผลบนเครือข่ายของ Google ก็จะมีเปอร์เซ็นต์การแสดงโฆษณาที่ต่ำกว่า

การปรับราคาเสนอที่ใช้งานอยู่

การปรับราคาเสนอที่ใช้งานอยู่คือประเภทการปรับราคาเสนอที่คุณตั้งค่าไว้ เช่น หากคุณตั้งค่าการปรับราคาเสนอสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ คุณจะเห็นคำว่า "อุปกรณ์" คุณสามารถปรับราคาเสนอให้มากขึ้นหรือน้อยลงเพื่อเพิ่มหรือลดความสามารถในการแข่งขันของการเสนอราคาในอุปกรณ์ สถานที่ ช่วงเวลาของวัน และอื่นๆ ได้ การปรับราคาเสนอช่วยให้คุณควบคุมได้มากขึ้นว่าโฆษณาของคุณจะแสดงที่ไหนและเมื่อใด

รหัสโฆษณา

นี่คือหมายเลขประจำตัวสำหรับโฆษณาของคุณ

ประเภทโฆษณา

คอลัมน์นี้จะระบุประเภทของโฆษณาที่คุณกำลังใช้งานอยู่ว่าเป็นแบบข้อความ รูปภาพ บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือวิดีโอ

เครื่องจำลองการเสนอราคา

คอลัมน์เหล่านี้ประมาณค่าว่าการเปลี่ยนแปลงราคาเสนอให้มีค่าต่างๆ กันอาจส่งผลต่อการเข้าชมรายสัปดาห์ของคุณบนเครือข่าย Search อย่างไร โดยปกติค่าประมาณจะรีเฟรชวันละครั้งและแสดงถึงกิจกรรมในช่วง 7 วันล่าสุดในบัญชีของคุณนับตั้งแต่วันที่มีการคำนวณ (ย้อนหลังไปไม่เกิน 7 วันก่อนหน้านี้) คอลัมน์เครื่องจำลองการเสนอราคาสามารถใช้ได้ที่ระดับคำหลัก และที่ระดับแคมเปญในการปรับราคาเสนอสำหรับอุปกรณ์ ดูข้อมูลของแต่ละรายการในส่วนด้านล่าง

"--" ในคอลัมน์หมายความว่ามีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสร้างค่าประมาณในช่วง 7 วันล่าสุด

โปรดทราบว่าคอลัมน์เครื่องจำลองการเสนอราคาแสดงค่าประมาณว่า หากคุณใช้ราคาเสนออื่นในอดีตที่ผ่านมาจะมีผลต่อประสิทธิภาพโฆษณาอย่างไร ค่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นการคาดคะเนหรือการรับประกันประสิทธิภาพโฆษณาในอนาคต คอลัมน์เหล่านี้ไม่ได้สร้างค่าประมาณของแคมเปญที่ใช้การเสนอราคา CPC อัตโนมัติหรือ CPA เป้าหมาย หรือของแคมเปญที่ใช้งบประมาณรายวันจนหมดอยู่เป็นประจำ

คอลัมน์เครื่องจำลองการเสนอราคาระดับคีย์เวิร์ด

คอลัมน์สำหรับเครื่องจำลองการเสนอราคาพร้อมด้วยแคมเปญในเครือข่าย Search และเครือข่าย Display จะอยู่ในหน้า "คีย์เวิร์ด"

คอลัมน์ "ฐาน CPC สูงสุด” จะแสดงราคาเสนอที่ Google Ads ใช้เพื่อสร้างค่าประมาณคลิกและค่าใช้จ่ายสำหรับคอลัมน์เครื่องจำลองการเสนอราคาอื่นๆ โปรดดูคอลัมน์นี้แทนคอลัมน์ "ราคาเสนอ CPC สูงสุด" เมื่อประเมินผลลัพธ์เครื่องจำลองการเสนอราคา ราคาเสนอ CPC สูงสุดปัจจุบันอาจเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ที่ Google Ads สร้างค่าประมาณ

คอลัมน์การปรับราคาเสนอสำหรับอุปกรณ์ระดับแคมเปญ

คุณยังสามารถดูคอลัมน์เครื่องจำลองการเสนอราคาของการปรับราคาเสนอสำหรับอุปกรณ์ได้ที่ระดับแคมเปญ โดยอยู่ในแท็บอุปกรณ์ในแท็บการตั้งค่า

คอลัมน์ "การปรับฐานราคาเสนอ" จะแสดงการปรับราคาเสนอที่ Google Ads ใช้ในการหาค่าประมาณในคอลัมน์เครื่องจำลองการเสนอราคาอื่นๆ โปรดดูคอลัมน์นี้เมื่อประเมินผลลัพธ์เครื่องจำลองการเสนอราคา การปรับราคาเสนอปัจจุบันอาจเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ที่ Google Ads สร้างค่าประมาณ

ค่าประมาณในคอลัมน์เครื่องจำลองการเสนอราคาเหล่านี้จะถือว่าการปรับราคาเสนอระดับกลุ่มโฆษณาทั้งหมดถูกนำออกไปแล้ว

ดูวิธีประมาณผลลัพธ์ที่จะได้ด้วยเครื่องจำลองการเสนอราคา งบประมาณ และเป้าหมาย

ส่วนแบ่งการคลิก

ส่วนแบ่งการคลิกคือจำนวนคลิกที่คุณได้รับบนเครือข่าย Search หารด้วยจำนวนคลิกสูงสุดโดยประมาณที่คุณน่าจะได้รับ

จำนวนคลิกสูงสุดที่คุณน่าจะได้รับขึ้นอยู่กับความโดดเด่นของโฆษณาและจำนวนโฆษณาที่คุณแสดงสำหรับข้อความค้นหาหนึ่ง ปัจจัยทั้งสองนี้ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่นๆ หลายประการ ได้แก่ ราคาเสนอและคุณภาพโดยรวม รวมถึงความเกี่ยวข้องของโฆษณา

คอลัมน์นี้อยู่ในหน้า "กลุ่มผลิตภัณฑ์" ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนแบ่งการคลิก

ค่าใช้จ่าย

คอลัมน์นี้แสดงค่าใช้จ่ายทั้งหมดของแคมเปญที่เกิดขึ้นภายในกรอบเวลาที่คุณเลือก

คอลัมน์นี้อยู่ในหน้า "แคมเปญ" เท่านั้น

CPC สูงสุดเริ่มต้น

ราคาต่อหนึ่งคลิกสูงสุด (CPC สูงสุด) เริ่มต้น คือจำนวนเงินสูงสุดที่คุณยินดีจ่ายสำหรับการคลิกหนึ่งครั้ง ราคาเสนอ CPC สูงสุดเริ่มต้นจะตั้งไว้ที่ระดับกลุ่มโฆษณา แต่คุณสามารถแทนที่ค่านี้ได้โดยการตั้ง CPC สูงสุดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละคำหลัก โปรดทราบว่าคุณจะจ่ายไม่เกิน CPC สูงสุดที่ตั้งไว้ และมักจะจ่ายไม่ถึงจำนวนดังกล่าว คุณสามารถดูจำนวนเงินเฉลี่ยที่คุณจ่ายสำหรับคลิกได้ในคอลัมน์ "CPC เฉลี่ย"

คุณอาจเห็นคำว่า "อัตโนมัติ" หรือ "(ปรับปรุงแล้ว)" อยู่ข้างๆ ราคาเสนอของคุณ โดยมีความหมายดังนี้

  • อัตโนมัติ: หมายถึง Google Ads กำลังตั้งค่าราคาเสนอที่คุณเห็นในคอลัมน์นี้โดยอัตโนมัติ เช่น คุณอาจเห็นคำว่า "อัตโนมัติ" หากแคมเปญกำลังใช้การเสนอราคาอัตโนมัติหรือกลยุทธ์การเสนอราคาแบบพอร์ตโฟลิโอเพื่อให้ได้ ROAS เป้าหมาย โปรดทราบว่าราคาเสนอนี้จะแก้ไขไม่ได้
  • ปรับปรุงแล้ว: หมายถึงระบบ Google Ads กำลังปรับราคาเสนอที่แสดงให้สอดคล้องตามการประมูลแต่ละครั้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของกลยุทธ์การเสนอราคาที่คุณใช้อยู่ เช่น การเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดเมื่อใช้ CPC ที่ปรับปรุงแล้ว หรือการเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดเพื่อให้ได้ ROAS เป้าหมาย โปรดทราบว่าสำหรับคีย์เวิร์ดแต่ละคำในกลุ่มโฆษณาที่ใช้ราคาเสนอเริ่มต้นอยู่ Google Ads จะพยายามตั้งราคาเสนอให้เท่ากับค่าเฉลี่ยคร่าวๆ ของราคาเสนอที่แสดง

ทั้งนี้ กลยุทธ์การเสนอราคาบางอย่าง เช่น ROAS เป้าหมาย จะกำหนดราคาเสนอได้ทั้งแบบอัตโนมัติและแบบปรับปรุงแล้ว หากตอนนี้คุณใช้ ROAS เป้าหมายอยู่ ระบบจะไม่ใช้ราคาเสนอที่แสดงสำหรับการประมูลในเครือข่าย Display

คอลัมน์ "CPC สูงสุดเริ่มต้น" อยู่ในหน้า "กลุ่มโฆษณา" เท่านั้น

CPC สูงสุดที่มีประสิทธิภาพ (Shopping เท่านั้น)

ในแคมเปญ Shopping คุณจะใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ในการตั้งราคาเสนอให้กับผลิตภัณฑ์ได้ คุณตรวจสอบราคาเสนอสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการได้โดยใช้คอลัมน์ "CPC สูงสุดที่มีประสิทธิภาพ" ในหน้า "ผลิตภัณฑ์" CPC สูงสุดที่มีประสิทธิภาพคือราคาเสนอที่ใช้ในการประมูลเพื่อแสดงโฆษณาในการจัดอันดับผลิตภัณฑ์ของคุณ ราคาเสนอนี้มีมูลค่าสูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่คุณเลือก แม้กระทั่งเมื่อพิจารณาถึงลำดับความสำคัญของแคมเปญ

ความหมาย

ราคาต่อหนึ่งคลิกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของคุณคือ ราคาสูงสุดที่คุณยินดีเสนอราคาให้กับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการในกลุ่มโฆษณา หากมีการยกเว้นผลิตภัณฑ์หรือไม่ได้เปิดใช้แคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา คุณจะเห็น "--" แทนที่จะเป็นจำนวนราคาเสนอ CPC สูงสุด

มูลค่าที่คุณเห็นจะไม่รวมการตั้งค่าแคมเปญต่อไปนี้

  • การปรับราคาเสนอ ซึ่งหมายความว่า คุณอาจเสนอราคาสูงขึ้นโดยขึ้นอยู่กับการปรับราคาเสนอที่คุณตั้งไว้ เช่น หากคุณตั้งการปรับราคาเสนอสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ไว้เป็น 300% CPC สูงสุดที่มีประสิทธิภาพมูลค่า 30 บาทอาจเพิ่มขึ้นเป็น 90 บาทเมื่อเสนอราคาสำหรับโฆษณาในอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับราคาเสนอ

ตัวอย่าง

คุณมีแคมเปญ "รองเท้า" ที่มีผลิตภัณฑ์ "รองเท้าวิ่ง" ในกลุ่มโฆษณา 2 กลุ่ม กลุ่มโฆษณากลุ่มหนึ่งใช้การเสนอราคา CPC สูงสุดที่ 36 บาทสำหรับ "รองเท้าวิ่ง" ในขณะที่กลุ่มโฆษณาอีกกลุ่มใช้ราคาเสนอ 90 บาท เมื่อคุณดู "รองเท้าวิ่ง" ในหน้า "ผลิตภัณฑ์" ของแคมเปญ คุณจะเห็น CPC สูงสุดที่มีประสิทธิภาพเท่ากับ 90 บาท เนื่องจากเป็นราคาเสนอสูงสุดที่คุณยินดีจะเสนอให้กลุ่มโฆษณาทั้งหมดที่มี "รองเท้าวิ่ง"

ราคาเสนอสำหรับหน้าแรกโดยประมาณ / ราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้าโดยประมาณ / ราคาเสนอสำหรับอันดับแรกโดยประมาณ

เมตริก "ราคาเสนอสำหรับหน้าแรกโดยประมาณ" "ราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้าโดยประมาณ" และ "ราคาเสนอสำหรับอันดับแรกโดยประมาณ" จะประมาณราคาเสนอแบบราคาต่อหนึ่งคลิก (CPC) ที่จำเป็นเพื่อให้โฆษณาของคุณได้แสดงในหน้าแรก ด้านบนของหน้า หรืออันดับโฆษณาอันดับแรกในผลการค้นหาของ Google ตามลำดับ เมื่อข้อความค้นหาตรงกับคีย์เวิร์ดของคุณทุกประการ ค่าประมาณจะขึ้นอยู่กับคะแนนคุณภาพและการแข่งขันของผู้ลงโฆษณาในปัจจุบันสำหรับคีย์เวิร์ดนั้นๆ

ในกรณีที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก "ราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้าโดยประมาณ" และ "ราคาเสนอสำหรับอันดับแรกโดยประมาณ" อาจเกิน 3,000 บาท และจะแสดงเป็น >=3,000 บาท เมื่อดู "ราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้าโดยประมาณ" และ "ราคาเสนอสำหรับอันดับแรกโดยประมาณ" ในสกุลเงินอื่นๆ คุณอาจเห็นหมายเหตุที่คล้ายคลึงกันสำหรับจำนวนเงินที่เทียบเท่ากับ 3,000 บาทในสกุลเงินที่คุณต้องการ

โปรดทราบว่าค่าประมาณเหล่านี้ไม่ใช่การรับประกันตำแหน่ง อันดับเฉลี่ยจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงกิจกรรมของผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ กิจกรรมของผู้ใช้ในการค้นหา การตั้งค่าบัญชี และกิจกรรมของบัญชี เช่น การเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จากเหตุผลข้างต้นทั้งหมด โฆษณาของคุณอาจไม่แสดงอยู่ในหน้าแรกหรือส่วนบนสุดของหน้าเว็บ แม้ว่าคุณจะให้ราคาเสนอเท่ากับค่าประมาณแล้วก็ตาม

คอลัมน์เหล่านี้อยู่ในหน้า "คีย์เวิร์ด" เท่านั้น

URL สุดท้าย

คอลัมน์นี้จะอยู่ในหน้า "คีย์เวิร์ด" ร่วมกับคอลัมน์อื่นๆ หากคุณตั้งค่า URL สุดท้ายระดับคีย์เวิร์ดไว้ URL นั้นจะมีลำดับความสำคัญสูงกว่า URL สุดท้ายที่คุณตั้งไว้ให้กับโฆษณาแต่ละรายการ สมมติว่าคุณเลือกค่าต่อไปนี้

  • URL สุดท้ายของโฆษณา: www.example.com
  • URL สุดท้ายของคีย์เวิร์ด: www.example.com/fruits

หากโฆษณาของคุณใช้คีย์เวิร์ด "apple" ในการเรียก โฆษณาจะใช้ "www.example.com/fruits" เป็น URL สุดท้ายแทน "www.example.com"

URL ของรูปภาพ

หากคุณเลือกแสดงโฆษณาแบบรูปภาพในเครือข่าย Display ระบบจะจัดเก็บรูปภาพไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของ Google และจะดึงภาพจาก URL นี้มาแสดง

ส่วนแบ่งการแสดงผล / ส่วนแบ่งการแสดงผลที่เสียไป (อันดับ) / ส่วนแบ่งการแสดงผลที่เสียไป (งบประมาณ) / ส่วนแบ่งการแสดงผลของการทำงานแบบตรงทั้งหมด

ส่วนแบ่งการแสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์ของการแสดงผลที่คุณได้รับ หารด้วยจำนวนการแสดงผลโดยประมาณที่คุณมีสิทธิ์ได้รับ สิทธิ์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับการตั้งค่าการกำหนดเป้าหมาย สถานะการอนุมัติ ราคาเสนอ และคะแนนคุณภาพของโฆษณาในปัจจุบัน ดูวิธีรับข้อมูลส่วนแบ่งการแสดงผล

คอลัมน์นี้อยู่ในหน้า "แคมเปญ" และ "กลุ่มโฆษณา"

คลิกที่ไม่ถูกต้อง / อัตราการคลิกที่ไม่ถูกต้อง

คอลัมน์เหล่านี้จะแสดงจำนวนและเปอร์เซ็นต์ของคลิก ซึ่งจัดว่าเป็นคลิกที่ไม่ถูกต้องและได้ถูกกรองออกจากบัญชีแล้วโดยอัตโนมัติ เราจะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการคลิกเหล่านี้จากคุณและการคลิกเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถิติบัญชีของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าชมที่ไม่ถูกต้อง

คอลัมน์นี้อยู่ในหน้า "แคมเปญ" เท่านั้น

ประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ด

สำหรับแคมเปญที่โฟกัสเครือข่าย Search ของ Google ประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดที่คุณใช้ได้จะประกอบไปด้วย การทำงานแบบกว้าง การทำงานแบบวลี หรือการทำงานแบบตรงทั้งหมด รูปแบบการทำงานของคีย์เวิร์ดเหล่านี้ช่วยให้คุณควบคุมผู้ที่จะได้เห็นโฆษณาของคุณได้ คุณอาจได้เห็นการแสดงโฆษณา การคลิก และ Conversion ที่มากขึ้นหากใช้ประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดบางประเภท ในขณะที่บางประเภทจะทำให้คุณได้เห็นการแสดงผลที่น้อยลงและมีการเลือกกำหนดเป้าหมายที่แคบลง คอลัมน์ "ประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ด" จะระบุการตั้งค่าที่คุณเลือกไว้ให้กับคีย์เวิร์ดแต่ละคำ และช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าได้ คอลัมน์นี้อยู่ในหน้า "คีย์เวิร์ด" ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานของคีย์เวิร์ด

ใน Google Ads ยังมีเมตริกประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดอื่นๆ ดังนี้

กลุ่มประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดของข้อความค้นหา: ดูข้อมูลคีย์เวิร์ดที่แบ่งกลุ่มตาม "ประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดของข้อความค้นหา" ซึ่งได้แก่ ข้อความค้นหาที่เรียกใช้โฆษณาซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มการทำงานแบบกว้าง การทำงานแบบวลี และการทำงานแบบตรงทั้งหมด ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบสถิติต่างๆ ของข้อความค้นหาที่เรียกใช้โฆษณาของคุณได้ เช่น จำนวนคลิก การแสดงผล อัตราการคลิกผ่าน (CTR) หรืออัตรา Conversion ใช้ตัวเลือกการแบ่งกลุ่มนี้เพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดใดมีประสิทธิภาพดีที่สุดสำหรับประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดหนึ่งๆ

คอลัมน์ "ประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ด" ในรายงานข้อความค้นหา: คอลัมน์นี้ในรายงานข้อความค้นหาจะบอกให้คุณทราบว่าประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดใดจะทำให้ผู้ใช้เห็นโฆษณาของคุณเมื่อค้นหาด้วยข้อความค้นหาหนึ่งๆ ใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับปรุงรายการคีย์เวิร์ดของคุณ

CPC สูงสุด

ราคาต่อหนึ่งคลิกสูงสุด (CPC สูงสุด) คือจำนวนเงินสูงสุดที่คุณยินดีจ่ายสำหรับหนึ่งคลิก คุณตั้ง CPC สูงสุดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคีย์เวิร์ดแต่ละคำได้ หากคุณต้องการตั้งราคาเสนอให้สูงขึ้นหรือต่ำลงสำหรับคีย์เวิร์ดนั้นโดยพิจารณาตามประสิทธิภาพ โปรดทราบว่าคุณจะจ่ายไม่เกิน CPC สูงสุดที่ตั้งไว้ และมักจะจ่ายไม่ถึงจำนวนดังกล่าว คุณสามารถดูจำนวนเงินเฉลี่ยที่คุณจ่ายสำหรับคลิกได้ในคอลัมน์ "CPC เฉลี่ย"

คุณอาจเห็นคำว่า "อัตโนมัติ" หรือ "(ปรับปรุงแล้ว)" อยู่ข้างๆ ราคาเสนอของคุณ โดยมีความหมายดังนี้

  • อัตโนมัติ: หมายถึง Google Ads กำลังตั้งค่าราคาเสนอที่คุณเห็นในคอลัมน์นี้โดยอัตโนมัติ เช่น คุณอาจเห็นคำว่า "อัตโนมัติ" หากแคมเปญกำลังใช้การเสนอราคาอัตโนมัติหรือกลยุทธ์การเสนอราคาแบบยืดหยุ่นเพื่อให้ได้ ROAS เป้าหมาย โปรดทราบว่าราคาเสนอนี้จะแก้ไขไม่ได้
  • ปรับปรุงแล้ว: หมายถึงระบบ Google Ads กำลังปรับราคาเสนอที่แสดงให้สอดคล้องตามการประมูลแต่ละครั้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของกลยุทธ์การเสนอราคาที่คุณใช้อยู่ เช่น การเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดเมื่อใช้ CPC ที่ปรับปรุงแล้ว หรือการเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดเพื่อให้ได้ ROAS เป้าหมาย โปรดทราบว่าสำหรับคีย์เวิร์ดแต่ละคำในกลุ่มโฆษณาที่ใช้ราคาเสนอเริ่มต้นอยู่ Google Ads จะพยายามตั้งราคาเสนอให้เท่ากับค่าเฉลี่ยคร่าวๆ ของราคาเสนอที่แสดง

ทั้งนี้ กลยุทธ์การเสนอราคาบางอย่าง เช่น ROAS เป้าหมาย จะกำหนดราคาเสนอได้ทั้งแบบอัตโนมัติและแบบปรับปรุงแล้ว หากตอนนี้คุณใช้ ROAS เป้าหมายอยู่ ระบบจะไม่ใช้ราคาเสนอที่แสดงสำหรับการประมูลในเครือข่าย Display

คอลัมน์ "CPC สูงสุด" จะอยู่ในหน้า "กลุ่มผลิตภัณฑ์" "คีย์เวิร์ด" และ "เป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิก" เท่านั้น

อัตราการคลิกไปยังหน้าเว็บที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่

"อัตราการคลิกไปยังหน้าเว็บที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่" คือเปอร์เซ็นต์การคลิกจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ไปยังหน้าที่การทดสอบความเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Google แสดงว่าเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยคอลัมน์นี้อยู่ในแท็บหน้า Landing Page

หากหน้า Landing Page ยังไม่ได้รับการวิเคราะห์หรือหากเราไม่มีข้อมูลมากเพียงพอ คอลัมน์นี้จะแสดง “--”

ข้อมูลจากหน้าเว็บที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่อาจมีอายุสูงสุดถึง 14 วัน หากคุณอัปเดตหน้าเว็บหน้าใดหน้าหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ อาจต้องรอถึง 14 วันกว่าที่การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะแสดงในอัตราการคลิกไปยังหน้าเว็บที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่

รายการคีย์เวิร์ดเชิงลบ

คอลัมน์นี้ช่วยให้คุณเพิ่มหรือนํารายการคีย์เวิร์ดเชิงลบออกจากแคมเปญได้อย่างรวดเร็ว

การวางเมาส์เหนือรายการคีย์เวิร์ดเชิงลบจะแสดงคีย์เวิร์ดในรายการนั้นๆ การคลิกรายการจะนําคุณไปยังหน้ารายละเอียดของรายการนั้น ซึ่งคุณสามารถอัปเดตได้

สถานะผลิตภัณฑ์ (Shopping เท่านั้น)

คอลัมน์ "สถานะผลิตภัณฑ์" จะแสดงให้คุณเห็นสถานะปัจจุบันของผลิตภัณฑ์แต่ละรายการในแคมเปญ คอลัมน์นี้ช่วยให้คุณทราบได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณพร้อมแสดงผลหรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวินิจฉัยผลิตภัณฑ์และความหมายของสถานะผลิตภัณฑ์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาของผลิตภัณฑ์

คะแนนคุณภาพ

คอลัมน์นี้จะแสดงคะแนนคุณภาพของคีย์เวิร์ดซึ่งเป็นการวัดความเกี่ยวข้องและประโยชน์ที่โฆษณาและหน้า Landing Page มีต่อผู้ที่กำลังดูโฆษณาของคุณ

คอลัมน์นี้อยู่ในหน้า "คีย์เวิร์ด"

CTR สัมพัทธ์

CTR สัมพัทธ์คือค่าที่บ่งบอกว่าประสิทธิภาพของโฆษณาในเครือข่าย Display ของคุณดีเพียงใด เมื่อเปรียบเทียบกับโฆษณาของผู้ลงโฆษณารายอื่นที่แสดงในเว็บไซต์เดียวกัน

เราคำนวณค่า CTR สัมพัทธ์จากการหารอัตราการคลิกผ่านของคุณด้วยอัตราการคลิกผ่านเฉลี่ยของผู้ลงโฆษณาทั้งหมดในตำแหน่งที่โฆษณาของคุณแสดง เนื่องจากนี่เป็นเมตริกแบบเปรียบเทียบ ค่านี้จึงไม่คงที่ โดยเปลี่ยนแปลงได้ตามเว็บไซต์ที่โฆษณาของคุณปรากฏและการกระทำของผู้ลงโฆษณารายอื่น

ตัวอย่าง

สมมติว่าผู้ลงโฆษณาที่ขายกล้องดิจิทัลรายหนึ่งได้รับ CTR บนเครือข่าย Display 0.05% ผู้ลงโฆษณารายนี้กำลังแสดงโฆษณาอยู่บนหน้าเว็บเดียวบนเครือข่าย Display ที่เกี่ยวกับภาพถ่าย พร้อมกับผู้ลงโฆษณารายอื่นอีก 3 ราย ผู้ลงโฆษณารายอื่นได้รับ CTR 0.005%

ผู้ลงโฆษณารายแรกได้รับ CTR มากกว่าคู่แข่ง 10x (0.05%/0.005% = 10) เนื่องจากผู้คนสนใจผลิตภัณฑ์ของผู้ลงโฆษณารายนี้มากกว่า ผู้ลงโฆษณารายนี้จึงมี CTR สัมพัทธ์สูงมาก (10)

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
14496453326145690287
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false