ก่อนที่สมาชิกในทีมจะลงชื่อเข้าใช้และใช้บริการของ Google ในองค์กรได้ (เช่น Google Workspace หรือ Cloud Identity) สมาชิกดังกล่าวจะต้องมีบัญชีผู้ใช้ หากมีผู้ใช้ใหม่หลายราย คุณก็สามารถเพิ่มบัญชีของผู้ใช้ทั้งหมดภายในครั้งเดียวได้โดยใช้ไฟล์ CSV
หรือคุณจะอัปเดตบัญชีหลายรายการที่มีอยู่แล้วโดยใช้ไฟล์ CSV ก็ได้
ข้อควรปฏิบัติก่อนที่จะเริ่มต้น
- หากต้องการอัปโหลดผู้ใช้จํานวนมาก ให้ใช้ไฟล์ CSV หากต้องการมอบหมายหรืออัปเดตใบอนุญาตใหม่โดยใช้คอลัมน์ใบอนุญาตใหม่ [อัปโหลดเท่านั้น] ขีดจำกัดผู้ใช้จะอยู่ที่ 200 คน แต่หากไม่ได้ใช้คอลัมน์ดังกล่าว ขีดจำกัดผู้ใช้จะอยู่ที่ 150,000 คน โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับคอลัมน์ใบอนุญาตใหม่ [อัปโหลดเท่านั้น] ที่ข้อมูลอ้างอิงคอลัมน์
- อย่างไรก็ตาม หากคุณมีเซิร์ฟเวอร์ LDAP เช่น Microsoft Active Directory หรือมีทักษะในการเขียนโปรแกรม เราขอแนะนำวิธีแบบอื่นๆ สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ โปรดดูรายละเอียดในหัวข้อวิธีเพิ่มผู้ใช้
- (ลูกค้าแพ็กเกจรายปี) ตรวจสอบว่าคุณมีใบอนุญาตเพียงพอ - คุณอาจต้องเพิ่มใบอนุญาตใหม่ลงในบัญชีก่อนที่จะเพิ่มผู้ใช้ ดูวิธีการซื้อใบอนุญาตเพิ่ม
- (ลูกค้าแพ็กเกจแบบยืดหยุ่น) ค่าสมัครใช้บริการจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้ที่คุณมี - การเพิ่มบัญชีผู้ใช้จะเพิ่มจำนวนเงินที่ต้องชำระในแต่ละเดือน
- (ลูกค้ารุ่น Google Workspace Business) คุณสามารถเพิ่มผู้ใช้ได้สูงสุด 300 คน ส่วนแพ็กเกจ Enterprise จะไม่มีจำนวนผู้ใช้ขั้นต่ำหรือสูงสุด
- การออกใบอนุญาตอัตโนมัติจะมีความสำคัญเหนือกว่า - หากเพิ่มผู้ใช้ลงในหน่วยขององค์กรที่เปิดการออกใบอนุญาตอัตโนมัติไว้ การตั้งค่าการออกใบอนุญาตอัตโนมัติจะมีความสำคัญเหนือกว่าใบอนุญาตที่คุณมอบหมายให้กับผู้ใช้ในไฟล์ CSV โดยข้อผิดพลาดจะไม่ปรากฏในไฟล์บันทึก
- บัญชีที่ไม่มีการจัดการ - ตรวจสอบว่าบุคคลที่คุณต้องการเพิ่มมีบัญชี Google อยู่แล้วหรือไม่ จากนั้นทำตามขั้นตอนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้บัญชีทับซ้อนกัน โปรดไปที่หัวข้อค้นหาและเพิ่มผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการ
- บัญชีผู้เข้าชม - หากผู้ใช้เชิญผู้อื่นจากนอกองค์กรที่ไม่มีบัญชี Google เพื่อทำงานร่วมกันในไดรฟ์ บุคคลเหล่านั้นจะได้รับบัญชีผู้เข้าชมในรูปแบบชื่อผู้ใช้ของผู้เข้าชม@your_domain.com หากเพิ่มผู้ใช้ที่มีชื่อผู้ใช้เดียวกับบัญชีผู้เข้าชม ระบบจะแปลงบัญชีนั้นเป็นบัญชี Google Workspace เต็มรูปแบบ ซึ่งจะเก็บสิทธิ์ของไฟล์ในไดรฟ์ปัจจุบันไว้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแชร์เอกสารกับผู้เข้าชม
เพิ่มผู้ใช้โดยใช้ไฟล์ CSV
หากคุณใช้ไฟล์ CSV เพื่อสร้างบัญชีใหม่ ผู้ใช้ใหม่จะไม่ได้รับข้อมูลเข้าสู่ระบบของตนเองพร้อมกับอีเมลต้อนรับ คุณต้องส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบสําหรับบัญชีให้ผู้ใช้ใหม่แยกต่างหาก
เคล็ดลับ: หากลืมรหัสผ่านของผู้ใช้ใหม่ ให้รีเซ็ตรหัสผ่านแล้วส่งรหัสผ่านใหม่ให้ผู้ใช้ทางอีเมล
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดไฟล์เทมเพลต-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
- จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู ไดเรกทอรีผู้ใช้
- คลิกอัปเดตผู้ใช้หลายคนพร้อมกันที่ด้านบนของหน้าเว็บ
- คลิกดาวน์โหลดเทมเพลต CSV เปล่าเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ค่าที่คั่นด้วยคอมมา (.csv)
- เปิดไฟล์ CSV ในแอปพลิเคชันสเปรดชีต เช่น Google ชีตหรือ Microsoft Excel
ไฟล์นี้จะมีคอลัมน์สำหรับแอตทริบิวต์ต่างๆ ที่ปรากฏในโปรไฟล์ของผู้ใช้แต่ละคน ส่วนโปรไฟล์จะปรากฏในคอนโซลผู้ดูแลระบบและในโปรแกรมจัดการรายชื่อติดต่อของผู้ใช้
- สำหรับผู้ใช้แต่ละรายที่คุณต้องการเพิ่ม ให้ป้อนข้อมูลที่จำเป็นต่อไปนี้ในคอลัมน์เหล่านี้ในไฟล์ CSV
- ชื่อ
- นามสกุล
- อีเมล - ใช้รูปแบบ username@example.com
- รหัสผ่าน - ต้องมีอักขระอย่างน้อย 8 ตัว
-
เส้นทางหน่วยขององค์กร - ป้อน / (เครื่องหมายทับ) หากต้องการนำผู้ใช้ไปไว้ในหน่วยขององค์กรระดับบนสุด คุณอาจต้องทำเช่นนี้หากยังไม่ได้สร้างผังองค์กรในคอนโซลผู้ดูแลระบบ หรือป้อนเส้นทางสําหรับหน่วยขององค์กรที่ต้องการก็ได้
โปรดดูหลักเกณฑ์ด้านล่างเพื่ออ่านคำอธิบายคอลัมน์และรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดรูปแบบ
ไฟล์ CSV ควรมีลักษณะดังนี้
- (ไม่บังคับ) หากต้องการกำหนดให้ผู้ใช้รีเซ็ตรหัสผ่านเมื่อลงชื่อเข้าใช้ครั้งแรก ในคอลัมน์ Change Password at Next Sign-In ให้ป้อน TRUE แต่หากไม่ต้องการ ให้เว้นคอลัมน์ว่างไว้
- (ไม่บังคับ) หากต้องการระบุข้อมูลเพิ่มเติม เช่น อีเมลสำรอง ที่อยู่บ้าน หรือใบอนุญาต ให้ป้อนข้อมูลนั้นลงในคอลัมน์ที่เหลือ
เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว ให้บันทึกเป็นไฟล์ CSV (.csv)
หมายเหตุ
- ไฟล์ CSV จะต้องมีขนาดไม่เกิน 35 MB
- มีจำนวนระเบียนสูงสุดไม่เกิน 150,000 ระเบียนต่อไฟล์
หากไฟล์มีขนาดหรือจำนวนระเบียนเกินกว่าที่กำหนด ให้เปิดไฟล์ในโปรแกรมสเปรดชีต แล้วแยกตารางออกเป็นไฟล์ย่อย และบันทึกแต่ละไฟล์เป็นไฟล์ CSV โปรดใส่แถวส่วนหัวของคอลัมน์ไว้ในไฟล์ CSV ทั้งหมดด้วย
- หากต้องการอัปโหลดชื่อผู้ใช้ที่ไม่ใช่ ASCII หรือเป็นแบบไบต์คู่ ให้บันทึกไฟล์ CSV เป็นแบบ UTF-8 ซึ่งรวม BOM ไว้ด้วย
- คลิกอัปเดตผู้ใช้หลายคนพร้อมกันด้านบนของหน้าผู้ใช้
- คลิกแนบไฟล์ CSV
- เลือกตำแหน่งไฟล์ในคอมพิวเตอร์แล้วแนบไฟล์ CSV
- คลิกอัปโหลด หากมีข้อผิดพลาด ให้ป้อนข้อมูลที่ขาดหายไปลงในไฟล์ CSV แล้วอัปโหลดอีกครั้ง โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในการแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบบ่อยด้านล่าง
รายการของงานจะเปิดขึ้นและแสดงความคืบหน้าในการอัปโหลดให้ทราบโดยอัตโนมัติ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว คุณจะได้รับรายงานทางอีเมล
หากเกิดข้อผิดพลาดในการประมวลผล ให้ดาวน์โหลดไฟล์บันทึกจากรายการของงาน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในการแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบบ่อยด้านล่าง
ระบบอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงก่อนที่ผู้ใช้ใหม่จะปรากฏในไดเรกทอรีและมีสิทธิ์เข้าถึงบริการของ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดเรกทอรี
ทำตามหลักเกณฑ์การกำหนดรูปแบบไฟล์ CSV
หลักเกณฑ์ทั่วไปสิ่งที่ต้องการดำเนินการ | ขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ |
---|---|
กรอกหลายค่าในคอลัมน์เดียว | หากต้องการกรอกหลายค่าในคอลัมน์เดียว เช่น หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล ให้คั่นแต่ละค่าด้วยคอมมา (แต่ไม่เว้นวรรค) เช่น username1@domain.com,username2@domain.com |
ป้อนค่าที่มีคอมมา พร้อมเครื่องหมายแยกบรรทัด หรือเครื่องหมายคำพูด |
ใส่ค่าไว้ในเครื่องหมายคำพูด เช่น "123 ถนน, เมือง" |
อัปโหลดชื่อผู้ใช้ที่ไม่ใช่แบบ ASCII หรือ Double Byte | โปรดบันทึกไฟล์ CSV เป็นแบบ UTF-8 เพื่อให้อ่านชื่อผู้ใช้ได้ |
เพิ่มคอลัมน์อื่นๆ | คุณจะกรอกข้อมูลได้เฉพาะในคอลัมน์ที่มีอยู่ในไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาเท่านั้น แต่จะเพิ่มคอลัมน์ใหม่ไม่ได้ เช่น คอลัมน์แอตทริบิวต์ที่กำหนดเอง |
อัปโหลดผู้ใช้ที่มีอยู่แล้ว | หากคุณกรอกอีเมลหรืออีเมลแทนของผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วลงในคอลัมน์อีเมล ระบบจะอัปเดตข้อมูลของผู้ใช้ดังกล่าวตามการเปลี่ยนแปลงที่ได้กรอกไว้ในคอลัมน์ต่างๆ ของบัญชีนี้ |
คอลัมน์ที่จำเป็น
คอลัมน์ | คำอธิบาย/รูปแบบ |
---|---|
ชื่อ/นามสกุล | ชื่อและนามสกุลต้องยาวไม่เกิน 60 อักขระ |
อีเมล | ชื่อสำหรับลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้ กรอกอีเมลแบบเต็ม ดังนี้ username@example.com |
รหัสผ่าน | รหัสผ่านจะต้องตรงตามตัวพิมพ์เล็กและใหญ่ โดยค่าเริ่มต้น รหัสผ่านต้องยาวอย่างน้อย 8 อักขระ ทั้งนี้คุณเปลี่ยนข้อกำหนดของรหัสผ่านสำหรับองค์กรได้
หากคุณกำลังอัปเดตผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วและไม่ต้องการเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้ดังกล่าว ให้กรอก **** (เครื่องหมายดอกจัน 4 ตัว) หากระบุฟังก์ชันการแฮชรหัสผ่านด้วย คอลัมน์รหัสผ่านจะต้องมีรหัสผ่านที่แฮช ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้ SHA-1 และมีแฮชของรหัสผ่าน abc เป็น xyz ให้กรอก xyz ลงในคอลัมน์รหัสผ่าน |
เส้นทางหน่วยขององค์กร |
วิธีนำผู้ใช้ไปไว้ในหน่วยขององค์กร กรณีที่คุณยังไม่ได้สร้างผังองค์กร: ให้กรอก / (เครื่องหมายทับ) เท่านั้นเพื่อนำผู้ใช้ทั้งหมดไปไว้ในหน่วยขององค์กรระดับบนสุด โดยคุณจะย้ายผู้ใช้ไปยังหน่วยขององค์กรอื่นๆ ที่สร้างในภายหลังได้ กรณีที่สร้างผังองค์กรไว้แล้ว ให้ใช้รูปแบบในตัวอย่างต่อไปนี้เพื่อนำผู้ใช้แต่ละรายไปไว้ในหน่วยขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นในระดับบนสุดหรือหน่วยย่อยในระดับรองลงมา ตัวอย่าง
|
คอลัมน์ที่ไม่บังคับให้ระบุ
คอลัมน์ | รูปแบบ |
---|---|
ฟังก์ชันการแฮชรหัสผ่าน [เฉพาะการอัปโหลด] |
ระบุฟังก์ชันการแฮชที่ระบบรองรับแบบใดก็ได้ต่อไปนี้ MD5, SHA-1 หรือ crypt คอลัมน์รหัสผ่านต้องมีรหัสผ่านที่ผ่านการแฮชมาแล้ว เช่น หากคุณใช้ SHA-1 และมีแฮชของรหัสผ่าน abc เป็น xyz ให้กรอก xyz ลงในคอลัมน์รหัสผ่าน เคล็ดลับ: คุณอาจหาโปรแกรมยูทิลิตีที่มีฟังก์ชันการแฮชที่ระบบรองรับเพื่อสร้างรหัสผ่านที่ผ่านการแฮชได้จากเว็บทั่วไป |
อีเมลสำรองและหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการกู้คืน |
วิธีตอบคำถามในการเข้าสู่ระบบเมื่อต้องการกู้คืนบัญชี
|
ที่ทำงาน/ที่อยู่บ้าน | หากใส่คอมมาหรือตัวแบ่งบรรทัดในที่อยู่ ให้ใส่ที่อยู่ไว้ในเครื่องหมายคำพูด เช่น "123 ถนน, เมือง" |
อีเมลหลักตัวใหม่ [เฉพาะการอัปโหลด] | ใช้เพื่อแก้ไขบัญชีผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วเท่านั้น โปรดระบุอีเมลหลักตัวใหม่ (ชื่อผู้ใช้) |
รหัสอาคาร ชื่อชั้น และส่วนของชั้น | หากต้องการกรอกข้อมูลนี้ ให้ทำตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ |
เปลี่ยนรหัสผ่านเมื่อลงชื่อเข้าใช้ครั้งถัดไป | หากต้องการกำหนดให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านเมื่อลงชื่อเข้าใช้บัญชีครั้งถัดไป ให้กรอก TRUE แต่หากไม่ต้องการ ให้เว้นคอลัมน์ว่างไว้หรือกรอก FALSE |
สถานะใหม่ [เฉพาะการอัปโหลด] | ใช้เพื่อแก้ไขบัญชีผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วเท่านั้น หากต้องการเก็บหรือระงับผู้ใช้ ให้กรอก Archived หรือ Suspended และหากต้องการยกเลิกการเก็บหรือกู้คืนผู้ใช้ที่ถูกระงับ ให้กรอก Active |
ใบอนุญาตใหม่ [อัปโหลดเท่านั้น] |
ใช้เพื่อแก้ไขบัญชีผู้ใช้ที่มีอยู่แล้วเท่านั้น หากต้องการมอบหมายใบอนุญาตอื่นให้กับผู้ใช้ ให้กรอกรหัส SKU ของใบอนุญาต คั่นรหัสใบอนุญาตหลายรายการด้วยคอมมา เช่น 1010020020,1010330002 ไฟล์ CSV ไฟล์เดียวจะใส่ผู้ใช้ที่ต้องการมอบใบอนุญาตใหม่ให้ได้ไม่เกิน 200 ราย |
การแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
ข้อผิดพลาดในขณะที่อัปโหลดไฟล์ CSVข้อผิดพลาด | สาเหตุ/วิธีแก้ไข |
---|---|
ไฟล์ไม่มีข้อมูล | ภายในไฟล์ไม่มีข้อมูลใดอยู่ |
รูปแบบไฟล์ไม่ถูกต้องหรือมีชื่อคอลัมน์ที่ไม่รู้จัก | คอลัมน์ในไฟล์ควรมีชื่อว่า First Name [Required] (ชื่อ), Last Name [Required] (นามสกุล), Email Address [Required] (อีเมล), Password [Required] (รหัสผ่าน) และ Org Unit Path [Required] (เส้นทางหน่วยขององค์กร) |
ไฟล์จะต้องมีคอลัมน์ "column name" (ชื่อคอลัมน์) | ไม่พบคอลัมน์ที่จำเป็นต้องใช้ |
ไม่มี "column name" (ชื่อคอลัมน์) ในแถวที่ nn | ไม่พบข้อมูลในคอลัมน์ที่จำเป็นต้องใช้ในแถวที่ระบุ
เช่น ระบบจะแสดงข้อผิดพลาดว่าไม่พบ "Org Unit Path [Required]" ในแถวที่ 2 หากคุณไม่ได้กรอกหน่วยขององค์กรที่ต้องการนำบัญชีของผู้ใช้ไปใส่ โปรดดูที่หัวข้อเส้นทางหน่วยขององค์กรด้านบน |
ไฟล์ที่จะอัปโหลดมีขนาดใหญ่เกินไป | ไฟล์ CSV มีขนาดเกิน 35 MB หรือมีระเบียนในไฟล์มากกว่า 150,000 รายการ เปิดไฟล์และแบ่งข้อมูลในตารางออกเป็นไฟล์ย่อยๆ บันทึกแต่ละไฟล์เป็นไฟล์ CSV โปรดใส่แถวส่วนหัวของคอลัมน์ไว้ในไฟล์ CSV ทั้งหมดด้วย |
จำนวนคอลัมน์ไม่ถูกต้องในแถว nn | ไม่มีคอลัมน์ในแถวที่ระบุ |
"Email Address [Required]" มีชื่อผู้ใช้ที่ระบบสงวนไว้ในแถว nn | ระบบจะสงวนชื่อบัญชีบางรายการไว้และคุณจะสร้างซ้ำชื่อนั้นไม่ได้ เช่น abuse และ postmaster |
Action_Failed: User_LIMIT_EXCEEDED | คุณเพิ่มใบอนุญาตสำหรับรุ่น Google Workspace ของคุณครบจำนวนสูงสุดแล้ว ดังนั้นผู้ใช้บางรายในไฟล์ CSV จะไม่ได้รับใบอนุญาต หมายเหตุ: ระบบจะเพิ่มบัญชี Google โดยเริ่มจากแถวบนสุดของไฟล์ CSV ลงไปเรื่อยๆ จนกว่าใบอนุญาตจะหมด |
ข้อผิดพลาด | สาเหตุ/วิธีแก้ไข |
---|---|
ดำเนินการไม่สำเร็จ: การตรวจสอบ | ข้อมูลที่กรอกมีอักขระที่ไม่รองรับ โปรดดูข้อมูลความช่วยเหลือในหัวข้อหลักเกณฑ์เกี่ยวกับชื่อผู้ใช้และชื่อกลุ่ม |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: ข้อผิดพลาดที่ไม่ทราบสาเหตุ | ข้อผิดพลาดประเภทนี้มักจะเกิดขึ้นชั่วคราว ลองอัปโหลดไฟล์ CSV อีกครั้งหรืออัปโหลดไฟล์ที่มีจำนวนระเบียนน้อยลง ข้อผิดพลาดนี้อาจเกิดได้จากการกรอกชื่อโดเมนในอีเมลของผู้ใช้ (หลังเครื่องหมาย @) ในคอลัมน์อีเมลไม่ถูกต้อง |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: ใบอนุญาตไม่เพียงพอ | บัญชี Google ขององค์กรมีใบอนุญาตไม่เพียงพอสำหรับผู้ใช้ใหม่ทุกคนในไฟล์ CSV โดยระบบจะเพิ่มบัญชีเรียงจากแถวบนสุดลงไปเรื่อยๆ จนกว่าใบอนุญาตจะหมด โปรดซื้อใบอนุญาตเพิ่มเติมแล้วจึงอัปโหลดผู้ใช้ที่เหลือในไฟล์ CSV |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: OU ไม่ถูกต้อง |
ข้อผิดพลาดนี้มักเกิดจากข้อผิดพลาดในการจัดรูปแบบอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
|
ดำเนินการไม่สำเร็จ: ชื่อผู้ใช้ไม่ถูกต้อง | อีเมล (ชื่อผู้ใช้) ในคอลัมน์ Email Address มีรูปแบบไม่ถูกต้อง ให้ตรวจสอบว่าคุณกรอกอีเมลแบบเต็มของผู้ใช้ และตรวจสอบการเว้นวรรคในอีเมลด้วย |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: ปฏิเสธสิทธิ์ | อีเมลของผู้ใช้ในคอลัมน์ Email Address จะมีชื่อโดเมน (หลังเครื่องหมาย @) ที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับบัญชี Google ขององค์กร ตรวจสอบว่ากรอกชื่อโดเมนในอีเมลถูกต้องแล้ว |
ดําเนินการไม่สําเร็จ: รหัสผ่านไม่ถูกต้อง | รหัสผ่านของผู้ใช้ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากคุณพยายามอัปเดตบัญชีที่ลบไปแล้ว โปรดตรวจสอบว่าคุณใช้รหัสผ่านที่ถูกต้องสำหรับผู้ใช้แต่ละราย |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: ฟังก์ชันการแฮชรหัสผ่านไม่ถูกต้อง | คอลัมน์ Password Hash Function มีชื่อฟังก์ชันการแฮชที่ไม่ถูกต้อง |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: อัปเดตใบอนุญาตของผู้ใช้ไม่สำเร็จ | ระบบอัปเดตรหัส SKU อย่างน้อย 1 รายการในคอลัมน์ New License ให้กับผู้ใช้ไม่ได้ ตรวจสอบว่ารหัส SKU ถูกต้องและจัดรูปแบบคอลัมน์ให้ถูกต้องสำหรับรหัส SKU หลายรายการแล้ว |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: อนุญาตเฉพาะ VFE | ขณะนี้ผู้ใช้มีใบอนุญาต Vault Former Employee (VFE) แต่คอลัมน์ New License มีรหัส SKU ของใบอนุญาตอื่นที่ไม่ใช่ VFE คุณจะเพิ่มใบอนุญาตประเภทอื่นให้กับผู้ใช้ที่มีใบอนุญาต VFE ไม่ได้ |
ดำเนินการล้มเหลว: ใบอนุญาตที่มอบหมายไม่ได้ | คอลัมน์ New License มีรหัส SKU สำหรับผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่ได้สมัครใช้บริการ |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: มีใบอนุญาตหลายรายการในผลิตภัณฑ์เดียวกัน |
การอัปโหลดไม่สำเร็จเนื่องจากสาเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
|
ดำเนินการไม่สำเร็จ: มีการมอบหมาย SKU ซ้ำให้ผู้ใช้ | คอลัมน์ New License มีรหัส SKU เดียวกันมากกว่า 2 รายการ |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: จำกัดการเปลี่ยน SKU | คอลัมน์ New License มีรหัส SKU ของผลิตภัณฑ์ที่การสมัครใช้บริการปัจจุบันของคุณไม่อนุญาตให้อัปเกรดหรือดาวน์เกรด |
ดำเนินการไม่สำเร็จ: การอัปเดตผู้ใช้ที่ถูกลบ | คอลัมน์ New License มีรหัส SKU แต่บัญชีผู้ใช้ถูกลบ |
หากเพิ่มผู้ใช้ลงในหน่วยขององค์กรที่เปิดการออกใบอนุญาตอัตโนมัติไว้ การตั้งค่าการออกใบอนุญาตอัตโนมัติจะมีความสำคัญเหนือกว่าใบอนุญาตที่คุณมอบหมายให้กับผู้ใช้ในไฟล์ CSV โดยข้อผิดพลาดจะไม่ปรากฏในไฟล์บันทึก
อัปเดตบัญชีผู้ใช้ที่มีอยู่
แก้ไขบัญชีด้วยไฟล์ CSVหากต้องการประหยัดเวลาในการแก้ไขบัญชีหลายบัญชี ให้ดาวน์โหลดรายการบัญชีจากคอนโซลผู้ดูแลระบบ
ข้อควรปฏิบัติก่อนที่จะเริ่มต้น
- เมื่อคุณอัปโหลดไฟล์ ข้อมูลใดที่อยู่ในคอลัมน์ที่มีการแก้ไขจะไปแทนที่ข้อมูลเดิมในคอนโซลผู้ดูแลระบบ
- สำหรับคอลัมน์ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง คุณอาจเลือกที่จะลบ (หากไม่จำเป็นต้องใช้คอลัมน์นั้น) ปล่อยข้อมูลนั้นไว้ในไฟล์ หรือลบข้อมูลก็ได้
- หากคุณลบข้อมูลทั้งหมดจากคอลัมน์ที่ไม่จำเป็นแล้ว แต่ปล่อยให้มีคอลัมน์ดังกล่าวในไฟล์ CSV ระบบจะไม่นำข้อมูลที่มีอยู่ออกจากบัญชีผู้ใช้เมื่อคุณอัปโหลดไฟล์
- หากไม่ต้องการเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้ คอลัมน์รหัสผ่านจะต้องประกอบด้วยสัญลักษณ์ **** (เครื่องหมายดอกจัน 4 ตัว)
- หากไม่ต้องการแก้ไขข้อมูลใดๆ ของผู้ใช้ คุณจะปล่อยแถวนั้นไว้ในไฟล์ CSV หรือนำออกก็ได้ หากนำข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้ในไฟล์ออก บัญชีของผู้ใช้จะไม่ถูกลบ
- หากต้องการเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ของผู้ใช้ ให้ป้อนอีเมลใหม่ในคอลัมน์อีเมลหลักใหม่
- หากคุณเปลี่ยนโดเมนหลักของบัญชี Google Workspace โปรดดูวิธีการเฉพาะที่หัวข้อเปลี่ยนชื่ออีเมลของผู้ใช้พร้อมกันหลายรายการหลังจากเปลี่ยนโดเมนหลัก
วิธีแก้ไขบัญชีผู้ใช้หลายรายการ
-
ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google
ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)
- จากคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่เมนู ไดเรกทอรีผู้ใช้
- คลิกอัปเดตผู้ใช้หลายคนพร้อมกันด้านบนของหน้าเว็บ
- คลิกดาวน์โหลดข้อมูลผู้ใช้เป็นไฟล์ CSV เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ค่าที่คั่นด้วยคอมมา (.csv) ที่มีบัญชีผู้ใช้ทั้งหมด
รายการของงานจะเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติและแสดงความคืบหน้าในการดาวน์โหลด
- ในส่วนงานของคุณ ให้คลิกดาวน์โหลด CSV
- เปิดไฟล์ CSV ในแอปพลิเคชันสเปรดชีต เช่น Google ชีตหรือ Microsoft Excel
ไฟล์นี้จะมีคอลัมน์สำหรับแอตทริบิวต์ในโปรไฟล์ของผู้ใช้แต่ละราย
- แก้ไขข้อมูลในไฟล์
- หลังจากที่กรอกข้อมูลในสเปรดชีตแล้ว ให้บันทึกเป็นไฟล์ CSV
- คลิกอัปเดตผู้ใช้หลายคนพร้อมกันด้านบนของหน้าผู้ใช้
- คลิกแนบไฟล์ CSV
- เลือกตำแหน่งไฟล์ในคอมพิวเตอร์แล้วแนบไฟล์ CSV
- คลิกอัปโหลด
- หากมีข้อผิดพลาด ให้ป้อนข้อมูลที่ขาดหายไปลงในไฟล์ CSV แล้วอัปโหลดอีกครั้ง โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
รายการของงานจะเปิดขึ้นและแสดงความคืบหน้าในการอัปโหลดให้ทราบโดยอัตโนมัติ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว คุณจะได้รับรายงานทางอีเมล
-
หากเกิดข้อผิดพลาดในการประมวลผล ให้ดาวน์โหลดไฟล์บันทึกจากรายการของงาน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการแก้ไขข้อผิดพลาดที่พบบ่อย
หากมีเซิร์ฟเวอร์ LDAP เช่น Microsoft Active Directory คุณก็ใช้ Google Cloud Directory Sync เพื่อซิงค์ข้อมูลผู้ใช้ กลุ่ม และรายชื่อติดต่อที่แชร์ของ Google ให้ตรงกับข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ LDAP ได้
หากไม่ต้องการดำเนินการนี้ด้วยตัวเอง โปรดขอรับความช่วยเหลือในการตั้งค่าจากมืออาชีพ
บทความที่เกี่ยวข้อง
Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง