Google ได้ประกาศการปรับปรุงนโยบายและข้อจำกัดสำหรับ AdSense ในบันทึกการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้เผยแพร่โฆษณาจะต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสม่ำเสมอ
การปรับปรุงนโยบายสำหรับโฆษณาที่อิงตามความตั้งใจ การค้นหาที่เกี่ยวข้องของโฆษณาอัตโนมัติ และการค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหา (พฤศจิกายน 2024)
Google จะอัปเดตฟีเจอร์ต่อไปนี้ของ AdSense สําหรับ Search (AFS) ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2024
- การค้นหาที่เกี่ยวข้องของโฆษณาอัตโนมัติ ซึ่งปัจจุบันเป็นรูปแบบที่อยู่ภายใต้โฆษณาอัตโนมัติ จะเปลี่ยนเป็นฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ (PIF) ของ AFS
- การค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหา ซึ่งปัจจุบันเป็นคําค้นหาอื่นของ AFS จะเปลี่ยนเป็น PIF ของ AFS
- หลังจากการอัปเดตเหล่านี้ ประเภท PIF ของ AFS ที่จะมีให้บริการ ได้แก่ โฆษณาที่อิงตามความตั้งใจ การค้นหาที่เกี่ยวข้องของโฆษณาอัตโนมัติ การค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหา
ดังนั้น เราจะแก้ไขนโยบาย AFS ต่อไปนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการอัปเดต
- นโยบายเกี่ยวกับการค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าที่ไม่ใช่หน้าผลการค้นหาซึ่งมีเนื้อหาต้นฉบับหรือเนื้อหาที่ไม่ซ้ำใครจะถูกนำออกจากนโยบาย Custom Search Ads ของ Google: คําค้นหาอื่น
- นโยบายเกี่ยวกับการค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าผลการค้นหาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง และจะเปลี่ยนชื่อเป็น "การค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าผลการค้นหา"
- เราจะปรับปรุงนโยบาย Custom Search Ads เพื่อชี้แจงว่าสามารถใช้ CSA ได้เฉพาะในหน้าผลการค้นหาที่ได้มาจากจุดประสงค์ในการค้นหาที่ชัดเจนของผู้ใช้ซึ่งมาจากแหล่งที่มา 1 ใน 3 แหล่งต่อไปนี้
- คำค้นหาที่ผู้ใช้เป็นผู้ป้อนในช่องค้นหาและส่งโดยตรงโดยไม่มีการแก้ไข ดัดแปลง หรือกรอง ช่องค้นหาต้องไม่มีการเติมข้อความค้นหาไว้ล่วงหน้าและผู้เผยแพร่โฆษณาต้องไม่สร้างลิงก์ที่มีการเติมข้อความค้นหาไว้ล่วงหน้า
- ฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AdSense สำหรับ Search ตามที่กำหนดโดยและเป็นไปตามนโยบายฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AdSense สำหรับ Search ของ Google
- คำค้นหาอื่นตามที่กำหนดโดยและเป็นไปตามนโยบายคำค้นหาอื่นของ Google
- เราจะปรับปรุงนโยบายฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AdSense สำหรับ Search ให้รวมข้อกําหนดใหม่สําหรับโฆษณาที่อิงตามความตั้งใจ การค้นหาที่เกี่ยวข้องของโฆษณาอัตโนมัติ และการค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหา และต่อไปนี้
นโยบาย PIF ทั่วไป
การใช้ PIF ของ AFS อยู่ภายใต้ข้อกำหนดต่อไปนี้
- คุณต้องไม่วาง PIF ของ AFS ในพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งมีเนื้อหาที่ไม่เป็นไปตามนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google นอกจากนี้ Google อาจไม่แสดงโฆษณาในพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งมีเนื้อหาที่ถูกจำกัดตามข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google เพื่อมิให้เกิดข้อกังขา:
- นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google และข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google มีผลกับเนื้อหาทั้งหมดในพร็อพเพอร์ตี้ที่แสดง PIF ไม่ว่าจะมี "โฆษณาที่แสดงโดย Google" (ตามที่อ้างอิงและกำหนดไว้ในนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google และข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google) อยู่ในเนื้อหาหรือไม่ก็ตาม
- นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google มีผลกับการสร้างรายได้ทั้งหมดจากเนื้อหาที่มีโค้ดโฆษณา Google ซึ่งรวมถึง PIF
- "แหล่งที่มาของโฆษณา" ในข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google หมายรวมถึง "โฆษณา" ที่กำหนดไว้ในนโยบายเหล่านี้
- เพื่อความชัดเจน การใช้งาน PIF ของ AFS ต้องเป็นไปตามนโยบายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AFS ของคุณ เช่น นโยบายโปรแกรม Google AdSense, นโยบาย AdSense สําหรับ Search (AFS), หลักเกณฑ์โปรแกรมของ Google หรือนโยบายโปรแกรมอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
- คุณต้องไม่แก้ไข ดัดแปลง หรือกรององค์ประกอบ PIF ด้วยวิธีใดนอกจากใช้การตั้งค่าโฆษณาอัตโนมัติและการตั้งค่าการค้นหาที่เกี่ยวข้องซึ่งมีให้ในบัญชี AdSense
- คุณต้องไม่วาง PIF ของ AFS ในลักษณะที่กระตุ้นให้เกิดการคลิกโดยไม่ตั้งใจ หรือใช้วิธีการติดตั้งใช้งานที่หลอกลวงหรือดึงดูดความสนใจอย่างไม่เป็นธรรมชาติเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม (ตัวอย่างเช่น ข้อความหรือองค์ประกอบที่ทำให้เข้าใจผิดเพื่อให้โต้ตอบกับ PIF เช่น "คลิกที่นี่เพื่อรับข้อเสนอที่ดีที่สุด" หรือการออกแบบ PIF ที่เป็นจุดโฟกัสของเนื้อหา)
นอกจากนโยบายทั่วไปเหล่านี้แล้ว PIF บางประเภทมีนโยบายเพิ่มเติมเฉพาะตัวดังที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ด้วย
การค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหา
นอกจากนโยบาย PIF ทั่วไปแล้ว การใช้การค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหาต้องเป็นไปตามนโยบายต่อไปนี้ด้วย เพื่อมิให้เกิดข้อกังขา "การค้นหาที่เกี่ยวข้อง" ที่กล่าวถึงด้านล่างหมายถึงการค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหา
ทั่วไป
- หากการใช้ AFS ของคุณอยู่ในบังคับตามข้อกำหนดในการให้บริการออนไลน์ของ Google AdSense คุณสามารถวางการค้นหาที่เกี่ยวข้องได้เฉพาะในเว็บไซต์หรือแอปที่เปิดใช้โฆษณา Search
- การคลิกข้อความค้นหาที่เกี่ยวข้องแต่ละครั้งของผู้ใช้ต้องเปลี่ยนเป็นหน้าผลการค้นหาในเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งมีผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับข้อความค้นหาดังกล่าว
- ข้อความค้นหาที่เกี่ยวข้องซึ่งส่งมาในคำขอโฆษณาต้องตรงกับที่ผู้ใช้ระบุ เมื่อผู้ใช้คลิกคำที่แสดงในหน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้อง (เช่น "ช่อดอกไม้") คำขอจากการคลิกดังกล่าวที่ส่งไปยัง Google ต้องเป็นคำเดียวกับที่ผู้ใช้คลิก (จากตัวอย่างนี้คือคำว่า "ช่อดอกไม้" ไม่ใช่ "ดอกไม้" หรือ "การจัดส่งช่อดอกไม้")
คำที่พาร์ทเนอร์ระบุ
"คำที่พาร์ทเนอร์ระบุ" คือคำที่คุณแนะนำเพื่อเสริมข้อความค้นหาที่ Google สร้างให้หน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถระบุได้ผ่านพารามิเตอร์
terms
ในคําขอการค้นหาที่เกี่ยวข้อง Google อาจใช้หรือไม่ใช้คำเหล่านี้ตามการพิจารณาตามที่เห็นสมควรแต่เพียงผู้เดียวของ Google คำที่พาร์ทเนอร์ระบุต้องเป็นไปตามนโยบายต่อไปนี้- คำที่แนะนำต้องไม่มีเนื้อหาที่ไม่อนุญาตภายใต้นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google นอกจากนี้ Google อาจไม่แสดงโฆษณาคำที่แนะนำมีเนื้อหาที่ถูกจำกัดตามข้อจํากัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google
- คำที่แนะนำต้องออกแบบมาเพื่อแนะนําคําค้นหาที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ไม่ใช่เพื่อสร้างโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง (เช่น โฆษณาที่มีต้นทุนต่อคลิกสูง) หรือเพิ่มการแสดงผล การคลิก และ/หรือ Conversion จนสูงเกินความเป็นจริง
- คุณต้องตรวจสอบว่าคําที่แนะนําไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกําหนดเป้าหมายไปยังผู้ใช้เฉพาะหรือกลุ่มผู้ใช้ตามผู้สนใจหรือคุณลักษณะอื่นๆ ที่มีร่วมกัน (เช่น ข้อมูลประชากร) เพื่อมิให้เกิดข้อกังขา คำที่แนะนำสามารถมีลักษณะต่อไปนี้
- รวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้สนใจหรือคุณลักษณะอื่นๆ ที่มาจากเนื้อหาของหน้าเพียงอย่างเดียวและอย่างชัดเจน หรือ
- มีคำเป็นภาษาเดียวกับคำค้นหาเดิมของผู้ใช้
นอกจากนี้ Google จะไม่พิจารณาคำที่พาร์ทเนอร์ระบุหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้
- หน้าเว็บไม่มีสัญญาณเนื้อหาที่แคช (เช่น หน้าเว็บที่ระบบของ Google ไม่ได้ทำการ Crawl และบันทึก) ยกเว้นในกรณีที่ส่งหน้าเว็บผ่าน
ignoredPageParams
- ในกรณีที่หน้าเว็บซึ่งแสดงหน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้องมีการเข้าชม และคุณไม่ได้ส่ง "ข้อความครีเอทีฟโฆษณา" ที่เหมือนกับพารามิเตอร์
referrerAdCreative
ในคำขอการค้นหาที่เกี่ยวข้อง
การได้การเข้าชม
ในกรณีที่หน้าเว็บซึ่งแสดงหน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้องมีการเข้าชม (หมายความว่าผู้ใช้มาที่หน้าปลายทางซึ่งแสดงหน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้องโดยคลิกโฆษณาหรือลิงก์ในเว็บไซต์อื่น (แต่ละอย่างเรียกว่า "แหล่งที่มาของการเข้าชม")) คุณต้องปฏิบัติตามนโยบายต่อไปนี้
- แหล่งที่มาของการเข้าชมต้องเกี่ยวข้องกับและอธิบายสิ่งที่ผู้ใช้จะเห็นในหน้าปลายทางอย่างถูกต้อง
- แหล่งที่มาของการเข้าชมต้องไม่รับประกันผลิตภัณฑ์ บริการ หรือข้อเสนอโปรโมชันที่ไม่สามารถใช้ได้หรือพบได้ยากในหน้าปลายทาง (เช่น ต้องไปยังหลายส่วนมากเกินไปเพื่อดูข้อเสนอ) และต้องไม่แสดงข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดหรือการกล่าวอ้างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือข้อเสนอโปรโมชัน
- คุณต้องตรวจสอบว่าหน้าปลายทางแต่ละหน้าเหมือนกันทุกประการกับหน้าที่จะแสดงต่อผู้ใช้ที่มาถึงผ่านวิธีการทั่วไป (นั่นคือเมื่อผู้ใช้ไม่ได้มาที่หน้าเว็บผ่านแหล่งที่มาของการเข้าชม)
คุณมีหน้าที่รับผิดชอบต่อแหล่งที่มาของการเข้าชมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงเครือข่ายโฆษณาหรือแอฟฟิลิเอตที่คุณทำงานด้วย
- คุณต้องไม่วาง PIF ของ AFS ในพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งมีเนื้อหาที่ไม่เป็นไปตามนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google นอกจากนี้ Google อาจไม่แสดงโฆษณาในพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งมีเนื้อหาที่ถูกจำกัดตามข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google เพื่อมิให้เกิดข้อกังขา:
นอกจากนี้ เราจะอัปเดตชื่อ "Custom Search Ads" เป็น "โฆษณา Search" ในนโยบายต่อไปนี้
- นโยบาย AdSense สำหรับ Search (AFS)
- นโยบาย Custom Search Ads
- นโยบาย Custom Search Ads ของ Google: คำค้นหาอื่น
(ประกาศเดือนตุลาคม 2024)
การย้ายนโยบายสําหรับพื้นที่โฆษณาวิดีโอไปไว้ในข้อจํากัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google (กันยายน 2024)
ในวันที่ 23 กันยายน 2024 Google จะย้ายนโยบายสําหรับพื้นที่โฆษณาวิดีโอที่มีอยู่จากนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ไปไว้ในข้อจํากัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google ในส่วนข้อจํากัดของพื้นที่โฆษณาวิดีโอ พื้นที่โฆษณาวิดีโอที่มีเนื้อหาที่ถูกจำกัดตามข้อจำกัดของพื้นที่โฆษณาวิดีโออาจได้แสดงโฆษณาน้อยกว่าเนื้อหาอื่นๆ ที่ไม่ถูกจำกัด
โปรดทราบว่า Google Ads และธุรกรรม Ad Manager ที่ไม่ใช่แบบโดยตรง (เช่น การประมูลส่วนตัวและการประมูลแบบเปิด) จะไม่แสดงในพื้นที่โฆษณาวิดีโอที่มีเนื้อหาที่ถูกจำกัดตามข้อจำกัดของพื้นที่โฆษณาวิดีโอ แต่พื้นที่โฆษณาดังกล่าวอาจได้แสดงโฆษณาจากผลิตภัณฑ์โฆษณาอื่นๆ หรือผ่านการใช้ดีลโดยตรงของ Ad Manager ระหว่างผู้เผยแพร่โฆษณากับผู้ลงโฆษณา (การจองแบบดั้งเดิม ดีลที่ต้องการ และการรับประกันแบบเป็นโปรแกรม)
นอกจากนี้ เราจะปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านบรรณาธิการในส่วนต่อไปนี้ของข้อจำกัดของพื้นที่โฆษณาวิดีโอเพื่อให้อ่านง่ายและมีความกระจ่างมากขึ้นด้วย การปรับปรุงเนื้อหาหลักเกณฑ์ด้านบรรณาธิการเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนแปลงขอบเขตของข้อกำหนด
- การควบคุมพื้นที่โฆษณาวิดีโอ (เช่น เล่น หยุดชั่วคราว ปิดเสียง ข้าม หรือปิด) รวมถึงเนื้อหาโฆษณาหรือการควบคุม (หากมี) ต้องไม่ถูกบดบัง ซ่อน หรือไม่ทำงาน
- เพื่อความชัดเจน การควบคุมพื้นที่โฆษณาวิดีโอหรือการควบคุมโฆษณาที่เปิดใช้งานหรือแสดงขึ้นจากการกระทำของผู้ใช้เพียงครั้งเดียว (เช่น การเลื่อน การวางเมาส์เหนือ การแตะ หรือการปัดหน้าจอ) จะไม่ถือว่าเป็นการบดบัง ซ่อน หรือไม่ทำงาน
- สำหรับตำแหน่งโฆษณา "ในสตรีม" หรือ "เนื้อหาประกอบ" ที่เปลี่ยนเป็นตำแหน่งโฆษณาแบบติดหนึบ วิดีโอเพลเยอร์ต้องเริ่มแสดงในเนื้อหาหลักและเปลี่ยนไปเมื่อผู้ใช้เลื่อนวิดีโอเพลเยอร์ออกจากหน้าเท่านั้น
(ประกาศเดือนสิงหาคม 2024)
ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการสร้างรายได้ในรัสเซีย (สิงหาคม 2024)
สืบเนื่องจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในรัสเซีย เราจึงหยุดไม่ให้ผู้เผยแพร่โฆษณาในรัสเซียสร้างรายได้ด้วย AdSense, AdMob และ Ad Manager ชั่วคราว
(ประกาศเดือนสิงหาคม 2024)
การปรับปรุงนโยบายโปรแกรม AdSense (สิงหาคม 2024)
ในเดือนสิงหาคม 2024 นั้น Google จะแทนที่นโยบายเกี่ยวกับโฆษณาในเนื้อหาแบบไดนามิกด้วยนโยบาย "โฆษณาในการสื่อสารแบบส่วนตัว" ใหม่ การเปลี่ยนแปลงนี้จะให้ความชัดเจนแก่ผู้เผยแพร่โฆษณา โดยการอธิบายว่าห้ามแสดงโฆษณาบนหน้าจอซึ่งเน้นที่การสื่อสารส่วนตัวเป็นหลัก เช่น ข้อความส่วนตัว แชทสด วิดีโอแชท และห้องแชทส่วนตัว การอัปเดตเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะชี้แจงนโยบายให้เข้าใจง่ายและแสดงถึงความโปร่งใส
(ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024)
การปรับปรุงนโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU (กรกฎาคม 2024)
ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2024 Google จะขยายขอบเขตนโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU ให้มีผลกับผู้ใช้ในสวิตเซอร์แลนด์ ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์โฆษณาของ Google จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ในสวิตเซอร์แลนด์ในการใช้คุกกี้หรือพื้นที่เก็บข้อมูลอื่นๆ ในเครื่องตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการเก็บรวบรวม การแชร์ และการใช้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ โดยจะเพิ่มเติมจากข้อกําหนดที่มีอยู่สําหรับผู้ใช้ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) และสหราชอาณาจักร
(ประกาศเมื่อเดือนเมษายน 2024)
การปรับปรุงนโยบาย AdSense สำหรับ Search (มีนาคม 2024)
ในวันที่ 27 มีนาคม 2024 Google จะปรับปรุงนโยบาย AdSense สำหรับ Search (AFS) ดังต่อไปนี้
- อธิบายว่าคำค้นสามารถมาจากจุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้ที่ชัดเจนซึ่งมาจากแหล่งที่มา 1 ใน 3 ประเภทต่อไปนี้
- คำค้นหาที่ผู้ใช้เป็นผู้ป้อนในช่องค้นหาและส่งโดยตรงโดยไม่มีการแก้ไข ดัดแปลง หรือกรอง ช่องค้นหาต้องไม่มีการเติมข้อความค้นหาไว้ล่วงหน้าและผู้เผยแพร่โฆษณาต้องไม่สร้างลิงก์ที่มีการเติมข้อความค้นหาไว้ล่วงหน้า
- ฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AdSense สำหรับ Search ตามที่กำหนดโดยและเป็นไปตามนโยบายฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AdSense สำหรับ Search ของ Google
- คำค้นหาสำรองในเว็บไซต์หรือแอปที่เปิดใช้ Custom Search Ads ตามที่กำหนดโดยและเป็นไปตามนโยบายคำค้นหาอื่นของ Google
- มีการปรับปรุงด้านบรรณาธิการเพื่อให้ชัดเจนและเข้าใจง่ายมากขึ้น การปรับปรุงด้านบรรณาธิการเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนแปลงขอบเขตของนโยบาย
นอกจากนี้ เรายังจะเปิดตัวนโยบายใหม่สำหรับฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AdSense สำหรับ Search ของ Google อีกด้วยเพื่อชี้แจงว่า
- ฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AFS อย่างโฆษณาที่อิงตามความตั้งใจพร้อมให้บริการแล้ว
- การใช้ฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AFS ต้องเป็นไปตามนโยบาย AdSense สำหรับ Search (AFS)
- คุณต้องไม่วางฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AFS ในเนื้อหาที่ไม่เป็นไปตามนโยบายโปรแกรม Google AdSense ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google
(ประกาศเมื่อเดือนมีนาคม 2024)
การปรับปรุงนโยบายโปรแกรม AdSense (กุมภาพันธ์ 2024)
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2024 Google จะเปิดตัวนโยบายใหม่ด้านเหตุการณ์ที่มีความละเอียดอ่อนในนโยบายโปรแกรม AdSense
"เหตุการณ์ที่มีความละเอียดอ่อน" เป็นเหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อความสามารถของ Google ในการจัดหาข้อมูลคุณภาพสูงที่เกี่ยวข้องและสิ่งที่สังเกตเห็นจริง รวมถึงความสามารถในการลดเนื้อหาที่ไม่คำนึงถึงความรู้สึกผู้อื่นหรือเอารัดเอาเปรียบในฟีเจอร์ที่โดดเด่นและฟีเจอร์การสร้างรายได้ ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ที่มีความละเอียดอ่อน เราอาจดำเนินการหลายอย่างเพื่อจัดการกับความเสี่ยงเหล่านี้
(ประกาศเดือนมกราคม 2024)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาวิดีโอให้เป็นนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google (เมษายน 2024)
ในวันที่ 1 เมษายน 2024 Google จะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาวิดีโอ ซึ่งปัจจุบันมีผลบังคับใช้กับ AdSense และ Ad Manager ให้มีผลกับพื้นที่โฆษณาวิดีโอทั้งหมดรวมถึง AdMob ในส่วนนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google การขยายความครอบคลุมนี้มีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงนโยบายในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเพื่อให้ก้าวทันมาตรฐานอุตสาหกรรมปัจจุบัน (เช่น IAB OpenRTB)
นโยบายฉบับปรับปรุงจะมีผลบังคับใช้กับพื้นที่โฆษณาวิดีโอ AdSense, Ad Manager และ AdMob ที่สร้างรายได้ด้วยโค้ดโฆษณา Google ("พื้นที่โฆษณาวิดีโอ") ดังนี้
อธิบายพื้นที่โฆษณาได้อย่างถูกต้อง
- พื้นที่โฆษณาวิดีโอต้องมีการประกาศที่มีสัญญาณที่ถูกต้อง (สําหรับ Ad Manager โปรดดูพารามิเตอร์ของ URL แท็กโฆษณา VAST) ซึ่งรวมถึง
- ความสามารถในการแสดงเสียงของตำแหน่งโฆษณา: ได้ยินโดยค่าเริ่มต้นหรือปิดเสียง (สําหรับ Ad Manager โปรดดูพารามิเตอร์ vpmute)
- ประเภทของตำแหน่งโฆษณา: โฆษณาวิดีโอที่แสดงในโปรแกรมเล่นวิดีโอที่มีเนื้อหาวิดีโอต้องได้รับการประกาศอย่างถูกต้องว่าเป็นตำแหน่งโฆษณา "ในสตรีม" หรือ "เนื้อหาประกอบ" (สำหรับ Ad Manager โปรดดูพารามิเตอร์ plcmt) โฆษณาวิดีโอที่แสดงในตำแหน่งที่ไม่ใช่วิดีโอเพลเยอร์ไม่จำเป็นต้องมีการประกาศ และ Google จะกำหนดอัตโนมัติโดยอิงตามรูปแบบพื้นที่โฆษณาเป็นตำแหน่งโฆษณา "โฆษณาคั่นระหว่างหน้า" หรือ "สแตนด์อโลน"
- "ในสตรีม" หมายถึงโฆษณาวิดีโอหรือเสียงที่เล่นภายในสตรีมของเนื้อหาวิดีโอหรือเสียง โดยมีวิดีโอหรือเสียงเป็นจุดสนใจที่ผู้ใช้เข้าชมหรือขออย่างชัดเจน
ตัวอย่าง: โฆษณาวิดีโอที่เล่นก่อน ระหว่าง หรือหลังสตรีมเนื้อหาวิดีโอที่ผู้ใช้ขอ
- "เนื้อหาประกอบ" หมายถึงโฆษณาวิดีโอที่เล่นในสตรีมของเนื้อหาวิดีโอ ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาหลักที่ผู้ใช้เข้าชม โดยที่เนื้อหาวิดีโอไม่ใช่จุดสนใจของการเข้าชมของผู้ใช้และผู้ใช้ไม่ได้ขออย่างชัดเจน ตำแหน่งเนื้อหาประกอบจะต้องโหลดภายในเนื้อหาของหน้าและปิดเสียงไว้โดยค่าเริ่มต้น
ตัวอย่าง: โฆษณาวิดีโอที่เล่นก่อน ระหว่าง หรือหลังสตรีมเนื้อหาวิดีโอแบบปิดเสียงที่ใช้พื้นที่เล็กน้อยของหน้าบทบรรณาธิการหลัก
- "โฆษณาคั่นระหว่างหน้า" หมายถึงโฆษณาวิดีโอที่เล่นโดยไม่มีเนื้อหาวิดีโอสตรีมอื่นอยู่ในการเปลี่ยนระหว่างเนื้อหา ซึ่งโฆษณาวิดีโอเป็นเนื้อหาหลักของหน้าเว็บและกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของวิวพอร์ต
เช่น โฆษณาวิดีโอที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับเนื้อหาอื่นๆ ในวิดีโอสตรีมมิงและแสดงในมุมมองแบบเต็มในจุดพักตามปกติหรือช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างเนื้อหา
- "สแตนด์อโลน" หมายถึงโฆษณาวิดีโอที่เล่นโดยไม่มีเนื้อหาวิดีโอสตรีมมิงอื่นๆ โดยที่โฆษณาวิดีโอไม่ได้เป็นจุดสนใจของหน้าเว็บ
เช่น โฆษณาวิดีโอที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับเนื้อหาอื่นๆ ในวิดีโอสตรีมมิงและแสดงในแบนเนอร์ที่แถบข้างขวาของหน้าบทความ
- "ในสตรีม" หมายถึงโฆษณาวิดีโอหรือเสียงที่เล่นภายในสตรีมของเนื้อหาวิดีโอหรือเสียง โดยมีวิดีโอหรือเสียงเป็นจุดสนใจที่ผู้ใช้เข้าชมหรือขออย่างชัดเจน
ติดตั้งใช้งานวิดีโอตามรูปแบบที่รองรับ
- ตำแหน่งเนื้อหาในสตรีมหรือเนื้อหาประกอบต้องใช้ SDK โฆษณาสื่ออินเทอร์แอกทีฟของ Google หรือไลบรารีการเข้าถึงแบบเป็นโปรแกรมของ Google ในแพลตฟอร์มที่รองรับ ยกเว้นกรณีผ่านโปรแกรม Google Beta ที่เป็นทางการ
- พาร์ทเนอร์และผู้เผยแพร่โฆษณาไม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์โฆษณาสื่ออินเทอร์แอกทีฟเพื่อสร้างรายได้จากเนื้อหาบน YouTube สำหรับเนื้อหาบน YouTube พาร์ทเนอร์และผู้เผยแพร่โฆษณาต้องสร้างรายได้ผ่านโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube
- ตำแหน่งโฆษณาคั่นระหว่างหน้าหรือแบบสแตนด์อโลนต้องใช้โซลูชันที่ Google จัดหาให้ ได้แก่ แท็กผู้เผยแพร่โฆษณาผ่าน Google บนเว็บ หรือ Google Mobile Ads SDK (สำหรับ Ad Manager, สำหรับ AdMob) ในแอป
- ไม่อนุญาตให้ใช้ SDK โฆษณาสื่ออินเทอร์แอกทีฟของ Google สำหรับตำแหน่งโฆษณาคั่นระหว่างหน้าหรือแบบสแตนด์อโลน ยกเว้นตำแหน่งโฆษณาในเกม
ปกป้องคุณค่าของผู้ลงโฆษณา
- เนื้อหาหรือการควบคุมพื้นที่โฆษณาวิดีโอ (เช่น เล่น หยุดชั่วคราว ปิดเสียง ข้าม หรือปิด) รวมถึงเนื้อหาโฆษณาหรือการควบคุม (หากมี) ต้องไม่ถูกบดบัง ซ่อน หรือไม่ทำงาน
- สำหรับตำแหน่งโฆษณาในสตรีม ต้องไม่มีการขอโฆษณาเสียงหรือไม่แสดงโฆษณาเสียงในตำแหน่งที่ปิดเสียง
เคารพผู้ใช้
- พื้นที่โฆษณาวิดีโออาจเล่นอัตโนมัติ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- พื้นที่โฆษณาวิดีโอเพียง 1 รายการในตำแหน่งโฆษณาทุกประเภทสามารถเล่นอัตโนมัติพร้อมเสียงได้ทุกเมื่อ
- นอกจากนี้ ตำแหน่งโฆษณาในสตรีมหรือเนื้อหาประกอบจะมีโปรแกรมเล่นวิดีโอเพียงรายการเดียวที่เล่นอัตโนมัติในการแสดงผลได้ตลอดเวลา
- โฆษณาต้องไม่เล่นอัตโนมัติจนกว่าหน่วยโฆษณาจะปรากฏขึ้นอย่างน้อย 50%
- พื้นที่โฆษณาวิดีโอเพียง 1 รายการในตำแหน่งโฆษณาทุกประเภทสามารถเล่นอัตโนมัติพร้อมเสียงได้ทุกเมื่อ
- พื้นที่โฆษณาวิดีโอสามารถเป็นแบบติดหนึบได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- ตัวเลือกการปิดจะปรากฏตลอดระยะเวลาของเนื้อหาวิดีโอหรือโฆษณา ตัวเลือกนี้ต้องมองเห็นได้ชัด ใช้งานได้จริง หรือไม่มีสิ่งบดบัง
- สำหรับตำแหน่งโฆษณา "ในสตรีม" หรือ "เนื้อหาประกอบ" วิดีโอเพลเยอร์ต้องเริ่มแสดงเนื้อหาหลักและเปลี่ยนเป็นตำแหน่งโฆษณาแบบติดหนึบเมื่อผู้ใช้เลื่อนวิดีโอเพลเยอร์ออกจากหน้าเท่านั้น
นอกจากนี้ สำหรับ Ad Manager คำว่า "ในสตรีม" ในหน้าศูนย์ช่วยเหลือและการควบคุมในผลิตภัณฑ์จะหมายถึงทั้ง "ในสตรีม" และ "เนื้อหาประกอบ" ตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับปรับปรุง พื้นที่โฆษณาวิดีโอของ Ad Manager ที่เป็น "ในสตรีม" หรือ "เนื้อหาประกอบ" ตามนโยบายฉบับปรับปรุงแล้วต้องเป็นไปตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องในนโยบายดังกล่าว
นโยบายฉบับปรับปรุงนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2024 โปรดอ่านนโยบายฉบับปรับปรุงเพื่อพิจารณาว่าจะส่งผลต่อพื้นที่โฆษณาวิดีโอของคุณหรือไม่ หากพื้นที่โฆษณาวิดีโอไม่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้ แต่คุณเชื่อว่าควรจะได้รับอนุมัติหลังจากการปรับปรุงนี้ สามารถขอรับการตรวจสอบหรือขออุทธรณ์ในหรือหลังจากวันที่ 1 เมษายน 2024
ดูข้อมูลการส่งคำขอตรวจสอบหรืออุทธรณ์ได้เพิ่มเติมด้านล่าง
- สําหรับ AdSense: ขอให้ตรวจสอบ
- สําหรับ AdMob: การละเมิดนโยบาย AdMob: แอปหรือบัญชีถูกปิดใช้
- สําหรับ Ad Manager: ขอให้ตรวจสอบ
(ประกาศเดือนพฤศจิกายน 2023)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาวิดีโอ (พฤศจิกายน 2023)
ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2023 Google จะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาวิดีโอเพื่ออนุญาตให้วางโฆษณานอกสตรีมในการติดตั้งใช้งานแบบติดหนึบ (โฆษณานอกสตรีมที่ยึดอยู่ในตำแหน่งหนึ่งบนหน้าจอ)
[ประกาศเมื่อเดือนตุลาคม 2023]
การปรับปรุงนโยบายพื้นที่โฆษณาที่มีการให้รางวัล (ตุลาคม 2023)
ในวันที่ 31 ตุลาคม 2023 Google จะปรับปรุงนโยบายพื้นที่โฆษณาที่มีการให้รางวัลให้เป็นนโยบายสําหรับหน่วยโฆษณาที่เสนอรางวัล ในนโยบายที่ปรับปรุง เราอนุญาตให้ใช้การเสนอรางวัลโดยอ้อมหรือที่ไม่ใช่เงินโดยมีเงื่อนไขดังนี้
- รางวัลสามารถแลกและใช้ได้กับสินค้าหรือบริการภายในแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ หรือแอปของผู้เผยแพร่โฆษณาเท่านั้น
- รางวัลไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้ และ
- รางวัลที่เป็นส่วนลดหรือบัตรกํานัลแลกของรางวัลต้องมีมูลค่าไม่เกิน 25% ของมูลค่ารวมของสิ่งนั้น
เรายังไม่อนุญาตให้เสนอรางวัลเป็นตัวเงินโดยตรงทุกกรณี
ตามวัตถุประสงค์ของนโยบายฉบับปรับปรุงนี้
- "รางวัลที่เป็นตัวเงินโดยตรง" หมายถึงตั๋วเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายทุกรูปแบบ หรือวิธีการชำระเงินอื่นๆ ที่ใช้ซื้อสินค้าหรือบริการในชีวิตจริงได้โดยตรง
ตัวอย่างเช่น เงินสด คริปโตเคอเรนซี บัตรของขวัญ
- "รางวัลทางอ้อมหรือที่ไม่ใช่ตัวเงิน" หมายถึงสิ่งที่มีมูลค่าทางการเงิน แต่ไม่ใช่รูปแบบการชําระเงินโดยตรงในโลกจริง หรือสิ่งใดก็ตามที่ไม่มีมูลค่าทางการเงินในโลกจริง
ตัวอย่างเช่น ส่วนลด รางวัลสำหรับสมาชิกหรือคะแนนสะสม บริการจัดส่งสินค้าฟรี การทดลองใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการฟรี การให้ชีวิตเพิ่มสำหรับตัวละครในเกม สกินของตัวละครในเกม
- "ไม่สามารถโอนได้" หมายถึงรางวัลนี้จะแลกและใช้ได้โดยผู้ใช้รายเดียวกันที่ได้รับรางวัลนี้เท่านั้น และไม่สามารถแปลงเป็นรางวัลที่เป็นตัวเงินโดยตรงหรือของที่สามารถโอนให้บุคคลที่สามได้
ตัวอย่างเช่น รหัสส่วนลด คะแนนสะสม หรือไอเทมในเกมที่แลกและใช้ได้โดยผู้ใช้ที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้นผ่านบัญชีที่ผู้ใช้รายนั้นลงชื่อเข้าใช้ และไม่สามารถแปลงเป็นเงินสดโดยตรงหรือใช้ซื้อสิ่งของใดๆ ที่สามารถโอนให้กับบุคคลอื่นได้
นอกจากรายละเอียดข้างต้นแล้ว เราจะทำการปรับปรุงด้านบรรณาธิการในนโยบายเพื่อให้อ่านง่ายและมีความกระจ่างมากขึ้นด้วย ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลงขอบเขตของนโยบาย
โปรดอ่านนโยบายฉบับปรับปรุงนี้เพื่อดูว่าส่งผลต่อหน่วยโฆษณาที่คุณเสนอรางวัลหรือไม่ หากหน่วยโฆษณาที่เสนอรางวัลไม่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้ แต่คุณเชื่อว่าควรได้รับอนุมัติหลังจากการปรับปรุงนี้ คุณสามารถส่งคำขอรับการตรวจสอบหรืออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอรับการตรวจสอบหรือการขออุทธรณ์
(ประกาศเมื่อเดือนตุลาคม 2023)
การปรับปรุงแนวทางการโอนข้อมูลของ Google (กันยายน 2023)
Google ได้รับการรับรองภายใต้เฟรมเวิร์กด้านความเป็นส่วนตัวของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ("EU-US DPF") และได้ใช้ EU-U.S. DPF เป็นโซลูชันทางเลือกในการโอนข้อมูลส่วนตัวใน EEA ไปยังสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2023
(ประกาศในเดือนกันยายน 2023)
การปรับปรุงข้อจํากัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google สําหรับเนื้อหาที่สร้างความตกใจ (สิงหาคม 2023)
ในวันที่ 30 สิงหาคม 2023 Google จะปรับปรุงส่วนเนื้อหาที่สร้างความตกใจในข้อจํากัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google ให้ยกเว้นรูปภาพเกมเพลย์ ในบริบทของภาพเกมเพลย์ เราจะถือว่าเนื้อหามี "บัญชีหรือภาพที่สยดสยอง น่ารังเกียจ หรือน่าขยะแขยง" หรือ "แสดงภาพการกระทําที่รุนแรง" หากแสดงภาพการทรมาน ความรุนแรงทางเพศ ความรุนแรงต่อผู้เยาว์ ความรุนแรงต่อบุคคลที่มีชื่อเสียงในชีวิตจริง หรือความรุนแรงต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเนื่องจากมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการเลือกปฏิบัติหรือดูแคลนอย่างเป็นระบบ
โปรดตรวจสอบข้อจำกัดฉบับปรับปรุงนี้เพื่อดูว่ามีผลต่อเว็บไซต์หรือแอปของคุณหรือไม่ หากเว็บไซต์หรือแอปของคุณถูกจํากัดการแสดงโฆษณาเนื่องจากมีเนื้อหาที่สร้างความตกใจ แต่เชื่อว่าเราไม่ควรจํากัดการแสดงโฆษณาอีกต่อไปหลังจากการปรับปรุงนี้ คุณอาจส่งคําขอให้ตรวจสอบหรืออุทธรณ์เว็บไซต์หรือแอปของคุณได้ในวันที่ 30 สิงหาคม 2023 เป็นต้นไป
ดูข้อมูลการส่งคำขอตรวจสอบหรืออุทธรณ์ได้เพิ่มเติมด้านล่าง
- สําหรับ AdSense: ขอให้ตรวจสอบ
- สําหรับ AdMob: การละเมิดนโยบาย AdMob: แอปหรือบัญชีถูกปิดใช้
- สําหรับ Ad Manager: ขอให้ตรวจสอบ
(ประกาศเดือนกรกฎาคม 2023)
การปรับปรุงนโยบาย AdSense สำหรับ Search และ Custom Search Ads (มีนาคม 2023)
Google จะปรับปรุงนโยบายต่อไปนี้ในเดือนมีนาคม 2023 เพื่อชี้แจง (ก) การใช้นโยบายสําหรับบริการที่จัดหาโดย Google กับบริการที่ไม่ได้จัดหาโดย Google และ (ข) การดําเนินการแก้ไขบริการที่จัดหาโดย Google ในกรณีที่ไม่เป็นไปตามนโยบาย
- นโยบาย AdSense สำหรับ Search (AFS)
- นโยบาย Custom Search Ads
- นโยบาย Custom Search Ads ของ Google: คำค้นหาอื่น
การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะชี้แจงนโยบายให้เข้าใจง่ายและแสดงถึงความโปร่งใส ขอบเขตของนโยบายหรือวิธีบังคับใช้นโยบายไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้เผยแพร่โฆษณาไม่จําเป็นต้องดําเนินการใดๆ เนื่องจากการอัปเดตนี้
(ประกาศเดือนมีนาคม 2023)
นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google (มกราคม 2023)
ในเดือนมกราคม 2023 Google จะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google โดยการนํานโยบายมัลแวร์และซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ที่มีอยู่ไปไว้ภายใต้นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google: ข้อกําหนดและมาตรฐานอื่นๆ อันเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างต่อเนื่องของเราที่จะปรับนโยบายให้เข้าใจง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Google ยังได้ปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google 2 ประการดังต่อไปนี้
- ปรับปรุงนโยบายโปรแกรม AdSense และนโยบายโปรแกรม AdMob ให้รวมข้อมูลเกี่ยวกับ WebView API ใหม่สําหรับโฆษณาที่จะช่วยรองรับโฆษณา Display ของเว็บในแอปได้อย่างเหมาะสม
- ใช้นโยบายสแปมสําหรับ Google Web Searchแทนหลักเกณฑ์สำหรับผู้ดูแลเว็บ ด้วยเหตุนี้ จึงมีการปรับปรุงข้อมูลการอ้างอิงไปยังหลักเกณฑ์สําหรับผู้ดูแลเว็บ ผู้เผยแพร่โฆษณาควรอ่านนโยบายสแปมสําหรับ Google Web Search
(ประกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2022)
การปรับปรุงข้อกําหนดทางเทคนิคสําหรับเฟรมการดูเนื้อหาเว็บสําหรับแอป (พฤษภาคม 2022)
ในเดือนพฤษภาคม 2022 เราได้ปรับปรุงข้อกําหนดทางเทคนิคสําหรับเฟรมการดูเนื้อหาเว็บสําหรับแอป (นโยบาย AdSense นโยบาย Ad Manager) นักพัฒนาแอปที่ต้องการสร้างรายได้โดยการเผยแพร่โฆษณา Display ใน AdSense และ Ad Manager จะใช้ตัวเลือกใดก็ได้ที่มีอยู่หรือใช้ตัวเลือก WebView API สําหรับโฆษณาใหม่ก็ได้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในเอกสารประกอบสำหรับนักพัฒนาแอป Android และ iOS
(ประกาศในเดือนพฤษภาคม 2022)
ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับยูเครน (มีนาคม 2022)
สืบเนื่องจากสงครามในยูเครน เราจะหยุดการสร้างรายได้จากเนื้อหาที่แสวงหาประโยชน์ เพิกเฉย หรือให้การยอมรับสงครามนี้ไว้ชั่วคราว
(ประกาศเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2022)
ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการสร้างรายได้ของสื่อที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสหพันธรัฐรัสเซีย (กุมภาพันธ์ 2022)
เนื่องด้วยสถานการณ์สงครามในยูเครน เราจึงหยุดให้บริการการสร้างรายได้จาก Google แก่สื่อที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสหพันธรัฐรัสเซียไว้ชั่วคราว
เราจะติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
มีผลบังคับใช้ทันที
(ประกาศเดือนกุมภาพันธ์ 2022)
การปรับปรุงรายชื่อประเทศที่ถูกคว่ำบาตรของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (กุมภาพันธ์ 2022)
เราได้อัปเดตรายชื่อประเทศในการปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรในนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ให้รวมการเพิ่มสถานที่ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อสาธารณรัฐประชาชนดอแนตสก์ (DNR) และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ (LNR) เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศ (OFAC) แห่งกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา การเพิ่มนี้มีผลทันที
หน้าข้อจำกัดในแต่ละประเทศของ AdMob, AdSense และ Ad Manager ได้รับการอัปเดตให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย
(ประกาศเดือนกุมภาพันธ์ 2022)
การปรับปรุงนโยบายเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิดโดยใช้คำกล่าวอ้างที่ไม่น่าเชื่อถือและเป็นอันตราย (ตุลาคม 2021)
ในเดือนพฤศจิกายน 2021 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google สำหรับเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิด เพื่ออัปเดตคำกล่าวอ้างที่ไม่น่าเชื่อถือและเป็นอันตรายให้มีนโยบายใหม่ที่ห้ามใช้เนื้อหาโปรโมตคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศซึ่งขัดแย้งกับความคิดเห็นเชิงวิทยาศาสตร์ที่คนส่วนใหญ่เชื่อถือ เราจะเริ่มบังคับใช้นโยบายฉบับปรับปรุงนี้หลังจากวันที่ 8 พฤศจิกายน 2021
(ประกาศเดือนตุลาคม 2021)
การปรับนโยบายให้ชัดเจนและเป็นไปตามมาตรฐาน (กันยายน 2021)
เราได้มุ่งมั่นมาโดยตลอดที่จะปรับนโยบายสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาให้เข้าใจง่ายมากขึ้น และประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านพฤติกรรมในเดือนกันยายน 2021 เราจึงได้เปิดตัวศูนย์ช่วยเหลือแห่งใหม่เกี่ยวกับนโยบายของผู้เผยแพร่โฆษณา ซึ่งจะช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณาเข้าถึงข้อมูลนโยบายของผู้เผยแพร่โฆษณาได้ง่ายขึ้น และเข้าใจดีขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่จะส่งผลต่อตัวคุณตามผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้
คุณจะยังสามารถดูนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google และข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google ได้ในศูนย์ช่วยเหลือของ AdMob, AdSense และ Ad Manager และในอนาคต เราจะย้ายและรวบรวมนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google และข้อจำกัดต่างๆ ไปที่ศูนย์ช่วยเหลือแห่งใหม่เกี่ยวกับนโยบายของผู้เผยแพร่โฆษณา
นอกจากจะมีนโยบายและข้อจำกัดต่างๆ แล้ว ศูนย์ช่วยเหลือเกี่ยวกับนโยบายของผู้เผยแพร่โฆษณายังมีอภิธานศัพท์เพื่อให้นิยามของคำที่พบมากซึ่งใช้ในข้อความของนโยบาย และหน้าพิเศษสำหรับแต่ละนโยบายและข้อจำกัด ซึ่งมีเอกสารอธิบายเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ข้อความของนโยบายนั้นกระจ่างชัดมากขึ้น
(ประกาศในเดือนกันยายน 2021)
การปรับปรุงข้อสัญญามาตรฐาน (SCC) (เดือนตุลาคม 2021)
ในเดือนตุลาคม 2021 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อสัญญามาตรฐาน (SCC) ตามที่ Google ได้นำ SCC ที่ปรับปรุงแล้วของคณะกรรมาธิการยุโรปมาใช้
(ประกาศในเดือนกันยายน 2021)
การปรับปรุงนโยบายด้านพฤติกรรมให้ชัดเจนและเป็นไปตามมาตรฐาน (สิงหาคม 2021)
ในเดือนกันยายน 2021 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google และข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณาให้รวมนโยบายด้านพฤติกรรมฉบับปัจจุบันที่สอดคล้องกัน (หมายถึงนโยบาย/ข้อจำกัดที่กำหนดวิธีการใช้งานโฆษณา) โดยเป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงนโยบายสำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาให้มีประสิทธิภาพและชัดเจน นโยบายฉบับที่สอดคล้องกันเหล่านี้รวมนโยบายฉบับที่เราบังคับใช้กับ AdSense, AdMob และ Ad Manager ไว้ด้วยกัน ซึ่งรวมถึงการรบกวนโฆษณา มูลค่าของพื้นที่โฆษณา และมาตรฐานอุตสาหกรรม (ชุดมาตรฐานปัจจุบันที่เรากำหนดให้ผู้เผยแพร่โฆษณาต้องปฏิบัติตาม)
ในเดือนกันยายนปี 2019 เราได้เปิดตัวการเปลี่ยนแปลงนโยบายเนื้อหาของผลิตภัณฑ์สําหรับผู้เผยแพร่โฆษณาที่มีนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google และข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google ซึ่งการปรับปรุงนโยบายนี้ถือเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของเรา
ในการปรับปรุงครั้งนี้เราจะเปิดตัวนโยบายใหม่เพิ่มเติม 2 ข้อ ซึ่งประกอบด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานโฆษณาที่ดีกว่าของกลุ่มความร่วมมือเพื่อโฆษณาที่ดีกว่า และนโยบายเกี่ยวกับประกาศที่คลุมเครือ
นอกจากนี้เราจะเปิดตัวศูนย์ช่วยเหลือด้านนโยบายในเวอร์ชันปรับปรุงใหม่ด้วย เนื่องจากเราต้องการช่วยให้ผู้เผยแพร่โฆษณาเข้าถึงนโยบายและทำความเข้าใจผลกระทบที่นโยบายมีต่อตนเองได้ง่ายไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม
โปรดทราบว่านโยบายและข้อจำกัดเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้เพิ่มเติมจากนโยบายอื่นๆ ที่ควบคุมการใช้งานผลิตภัณฑ์สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา Google
(ประกาศเดือนสิงหาคม 2021)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เกี่ยวกับการทารุณสัตว์ (สิงหาคม 2021)
ในเดือนสิงหาคม 2021 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เกี่ยวกับสัตว์หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ เพื่อชี้แจงว่าเราไม่อนุญาตเนื้อหาที่ส่งเสริมการทารุณหรือความรุนแรงที่ไร้เหตุผลต่อสัตว์ การปรับปรุงนี้จะรวมนโยบายเกี่ยวกับการทารุณสัตว์และสัตว์หายากหรือใกล้สูญพันธุ์เข้าไว้ด้วยกันภายใต้หัวข้อใหม่ของการทารุณสัตว์
(ประกาศเดือนกรกฎาคม 2021)
การปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิด (พฤษภาคม 2021)
ในเดือนพฤษภาคม 2021 นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ว่าด้วยเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิดจะได้รับการปรับปรุงเพื่อจัดระเบียบหัวข้อที่อยู่ภายในนโยบายให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ นโยบาย 2 ข้อที่แสดงไว้ก่อนหน้านี้ภายใต้เนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือมีการวิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสียจะย้ายไปอยู่ในส่วนเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิด นโยบาย 2 ข้อนี้ซึ่งห้าม (1) เนื้อหาที่ส่งเสริมการกล่าวอ้างด้านสุขภาพที่เป็นอันตราย และ (2) เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์ด้านสุขภาพที่สําคัญในปัจจุบัน และเนื้อหาที่ค้านกับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่เป็นวิทยาศาสตร์และเชื่อถือได้ จะย้ายจากส่วนเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือมีการวิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสียไปอยู่ในส่วนการกล่าวอ้างที่ไม่น่าเชื่อถือของเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิด (ใหม่)
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อปรับปรุงให้อ่านและเข้าใจได้ง่ายขึ้น และไม่ส่งผลต่อข้อจำกัดหรือข้อห้ามที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันตามนโยบายของเรา
(ประกาศในเดือนเมษายน 2021)
การปรับปรุงรายชื่อประเทศที่ถูกแซงก์ชันของสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา (กุมภาพันธ์ 2021)
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เราจะปรับปรุงหน้าเว็บการทําความเข้าใจข้อจํากัดของ AdSense ในแต่ละประเทศให้สอดคล้องตามที่สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาได้นำซูดานออกจากรายชื่อประเทศที่ถูกแซงก์ชัน การปรับปรุงนี้จะมีผลในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2021
ซึ่งจะทําให้ผู้เผยแพร่โฆษณาในซูดานสามารถใช้ Google AdSense ได้
(ประกาศเดือนกุมภาพันธ์ 2021)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เกี่ยวกับเนื้อหาเรื่องเพศอย่างโจ่งแจ้ง (กุมภาพันธ์ 2021)
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เนื้อหาที่อาจตีความได้ว่าเป็นการโปรโมตกิจกรรมทางเพศเพื่อแลกกับสิ่งตอบแทน นอกจากนั้น เราจะปรับปรุงตัวอย่างที่แสดงอยู่ (บริการเกี่ยวกับการค้าประเวณี บริการเพื่อนเที่ยว อาบอบนวด เว็บไซต์การกอด) ให้มีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการห้ามโปรโมตการนัดพบแบบมีค่าตอบแทน หรือการจัดหาบริการทางเพศที่กำหนดให้ฝ่ายหนึ่งมอบเงิน ของขวัญ การสนับสนุนทางการเงิน การเลี้ยงดู หรือผลประโยชน์ทางการเงินอื่นๆ แก่อีกฝ่ายหนึ่ง เช่น การเดต "ข้ามวัย"
(ประกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2020)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google (กันยายน 2020)
ในเดือนกันยายน 2020 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เพื่อห้ามสร้างรายได้จากหน้าเว็บ เว็บไซต์ หรือแอปที่ไม่ได้มีภาษาหลักเป็นหนึ่งในภาษาที่เรารองรับ หรือไม่มีเนื้อหาอยู่ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2020 เราจะไม่อนุญาตให้เว็บไซต์ใหม่ๆ สร้างรายได้โดยใช้ AdSense, Ad Manager หรือ AdMob ในภาษาที่ไม่รองรับ หรือไม่มีเนื้อหา
(ประกาศเดือนสิงหาคม 2020)
การปรับปรุงข้อสัญญามาตรฐาน (SCC) (สิงหาคม 2020)
ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2020 Google จะโอนข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับการโฆษณาออนไลน์และการวัดออกจากเขตเศรษฐกิจยุโรป สหราชอาณาจักร หรือสวิตเซอร์แลนด์โดยอิงตามข้อสัญญามาตรฐาน (SCC) ของคณะกรรมาธิการยุโรป สําหรับบริการของผู้ประมวลผลข้อมูล Google จะปรับปรุงข้อกำหนดการประมวลผลข้อมูลของ Google Ads ให้รวม SCC สําหรับการโอนข้อมูลส่วนตัวไปยังผู้ประมวลผลข้อมูลที่ก่อตั้งในประเทศที่สาม สำหรับบริการของผู้ควบคุมข้อมูล Google จะปรับปรุงข้อกำหนดของ Google Ads ด้านการคุ้มครองข้อมูลระหว่างผู้ควบคุมข้อมูลให้รวม SCC สําหรับการโอนข้อมูลส่วนตัวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลที่ก่อตั้งในประเทศที่สาม ในกรณีที่มีการโอนข้อมูลส่วนตัวที่มีความเกี่ยวข้องกัน SCC ที่ระบุไว้ในสัญญาของพาร์ทเนอร์กับ Google จะมีผลบังคับใช้(ประกาศเดือนสิงหาคม 2020)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ด้านเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิด (กันยายน 2020)
ในเดือนกันยายน 2020 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ด้านเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิดเพื่อห้ามไม่ให้มีการประสานงานกับเว็บไซต์หรือบัญชีอื่นเพื่อปกปิดหรือสื่อให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวตนของคุณหรือรายละเอียดข้อเท็จจริงอื่นๆ เกี่ยวกับตัวคุณในเนื้อหาเกี่ยวกับการเมือง ประเด็นทางสังคม หรือเรื่องที่สาธารณชนให้ความสนใจ เราจะเริ่มบังคับใช้นโยบายนี้ในวันที่ 1 กันยายน 2020 ในสหรัฐอเมริกา และในวันที่ 1 ตุลาคม 2020 สําหรับประเทศอื่นๆ ทั้งหมด
เราถือปฏิบัติตามนโยบายนี้อย่างเคร่งครัดและถือว่าการละเมิดนโยบายนี้เป็นเรื่องร้ายแรง หากพบการละเมิดนโยบายนี้ เราจะระงับบัญชีทันทีที่ตรวจพบและไม่แจ้งเตือนล่วงหน้า
(ประกาศเดือนกรกฎาคม 2020)
การปรับปรุงนโยบายเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือมีการวิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย (เดือนสิงหาคม 2019)
ในเดือนสิงหาคม 2020 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google สำหรับเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือมีการวิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย เพื่อห้ามใช้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ด้านสุขภาพในปัจจุบัน และเนื้อหาที่ค้านกับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ที่เป็นวิทยาศาตร์และเชื่อถือได้
(ประกาศเดือนกรกฎาคม 2020)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้กระทำการฉ้อฉลหลอกลวง (สิงหาคม 2020)
ในเดือนสิงหาคม 2020 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เกี่ยวกับการเปิดโอกาสให้กระทำการฉ้อฉลหลอกลวงเพื่อชี้แจงข้อจำกัดในการโฆษณาหรือสร้างรายได้จากเนื้อหาที่โปรโมตสปายแวร์และเทคโนโลยีการเฝ้าระวัง นโยบายฉบับปรับปรุงจะไม่อนุญาตให้โปรโมตหรือสร้างรายได้จากเนื้อหา รวมถึงโปรโมตผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้ติดตามหรือเฝ้าสังเกตบุคคลอื่นหรือกิจกรรมของบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต นโยบายนี้จะบังคับใช้ทั่วโลก
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์และบริการที่จะไม่ได้รับอนุญาต (โดยสังเขป)
สปายแวร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการเฝ้าติดตามบุคคลใกล้ชิด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสปายแวร์/มัลแวร์ที่ใช้ในการดักจับข้อความ การโทร หรือประวัติการท่องเว็บ รวมถึงเครื่องติดตาม GPS ที่ทำมาเพื่อการสอดแนมหรือติดตามบุคคลโดยไม่ได้รับคำยินยอม และการโปรโมตอุปกรณ์เฝ้าระวัง (กล้อง เครื่องบันทึกเสียง กล้องติดรถยนต์ กล้องวงจรปิด) ซึ่งทำมาเพื่อการสอดแนมโดยเฉพาะ
แต่ไม่รวมถึง (ก) บริการนักสืบเอกชน หรือ (ข) ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ปกครองติดตามหรือเฝ้าสังเกตบุตรหลานที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
(ประกาศเดือนกรกฎาคม 2020)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google (สิงหาคม 2020)
เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ในเดือนสิงหาคม 2020 เพื่อให้นโยบายว่าด้วยการล่วงละเมิดทางเพศเด็กและการหาประโยชน์จากเด็กซึ่งมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของผู้เผยแพร่โฆษณามีมาตรฐานเดียวกัน
นอกจากนี้ เราจะทำการเปลี่ยนแปลงด้านบรรณาธิการกับถ้อยคำที่ใช้ในนโยบายด้วย โดยใช้คำว่า "โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้" แทนการกล่าวถึง "การโฆษณาตามความสนใจ" ทั้งหมด และจะมีการปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทางอินเทอร์เน็ตของเด็ก (Children’s Online Privacy Protection Act)
(ประกาศเดือนกรกฎาคม 2020)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เรื่องเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิด (เดือนมีนาคม 2020)
เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google เรื่องเนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิดในเดือนมีนาคม 2020 การปรับปรุงดังกล่าวเป็นการชี้แจงว่าเราไม่อนุญาตให้เผยแพร่เนื้อหาที่เป็นเท็จอย่างชัดเจน และอาจส่งผลกระทบต่อการเข้าร่วมหรือความน่าเชื่อถือในกระบวนการเลือกตั้งหรือประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก
การปรับปรุงนี้ยังจะอธิบายด้วยว่าเราไม่อนุญาตให้เผยแพร่เนื้อหาที่หลอกลวงผู้ใช้ผ่านสื่อที่บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับการเมือง ปัญหาทางสังคม หรือประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอยู่
(ประกาศเดือนกุมภาพันธ์ 2020)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google (เดือนเมษายน 2020)
เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ในเดือนเมษายน 2020 เพื่อให้นโยบายว่าด้วยเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้ การรวบรวมข้อมูล การเปิดเผย และการยินยอมของผู้ใช้ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของผู้เผยแพร่โฆษณามีมาตรฐานเดียวกัน โดยเราจะปรับปรุงนโยบายเพื่อกำหนดให้ต้องแสดงข้อความแจ้งเตือนอย่างชัดเจนก่อนที่ผู้ใช้จะอนุญาตให้แชร์ตำแหน่งอุปกรณ์เพื่อจุดประสงค์ในการโฆษณา
(ประกาศเดือนกุมภาพันธ์ 2020)
การปรับปรุงข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google: การพนันออนไลน์ (เดือนมกราคม 2020)
ในเดือนมกราคม 2020 เราจะปรับปรุงข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google สำหรับการพนันเพื่อระบุว่ากิจกรรมใดบ้างที่ถือเป็น "การพนันออนไลน์"
(ประกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2019)
การปรับปรุงนโยบายตำแหน่งโฆษณา: โฆษณาในหน้าเว็บที่อยู่หลังการเข้าสู่ระบบ (พฤศจิกายน 2019)
ในเดือนธันวาคม 2019 เราจะปรับปรุงนโยบายโปรแกรม AdSense ของ Google เกี่ยวกับโฆษณาในหน้าเว็บที่อยู่หลังการเข้าสู่ระบบเพื่ออธิบายวิธีจัดการกับคำขอเพื่อสร้างรายได้จากเนื้อหาที่เราประเมินผลไม่ได้
(ประกาศเดือนพฤศจิกายน 2019)
การปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google: เนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือมีการวิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย (เดือนพฤศจิกายน 2019)
ในเดือนธันวาคม 2019 เราจะปรับปรุงนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google สำหรับเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือมีการวิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย
ซึ่งรวมถึงเนื้อหาที่จัดทำขึ้นโดยหรือสนับสนุนองค์กรลักลอบค้ายาเสพติดข้ามชาติด้วย
(ประกาศเดือนพฤศจิกายน 2019)
การปรับนโยบายเนื้อหาให้ชัดเจนและเป็นไปตามมาตรฐาน (เดือนกันยายน 2019)
ในเดือนกันยายน 2019 เราจะเปิดตัวการเปลี่ยนแปลงนโยบายเนื้อหาบางส่วนในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา (AdSense, AdMob และ Ad Manager)
โปรดทราบว่านับจากนี้ Google จะแจ้งการปรับปรุงเกี่ยวกับนโยบายและข้อจำกัดสำหรับ AdSense ในบันทึกการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้เผยแพร่โฆษณาจะต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสม่ำเสมอสาเหตุที่เราเปลี่ยนแปลง
คำขอหนึ่งที่เราได้รับมากที่สุดจากผู้เผยแพร่โฆษณาก็คือคำขอให้ปรับปรุงนโยบายให้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราทราบว่าหลายท่านใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาหลายรายการ เราจึงต้องการให้คุณมีวิธีที่ง่ายและชัดเจนในการทำความเข้าใจวิธีโต้ตอบกับนโยบายและสิ่งที่นโยบายส่งผลต่อคุณไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ใด
สิ่งที่คุณจะได้พบมีดังนี้
- นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google ซึ่งระบุประเภทของเนื้อหาที่เราจะไม่สร้างรายได้ผ่านผลิตภัณฑ์ใดๆ สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา ได้แก่ เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย วัสดุที่มีเนื้อหาเป็นการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศอย่างโจ่งแจ้ง ชุดเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ในเนื้อหาสำหรับครอบครัว การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เนื้อหาเกี่ยวกับสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือที่มีการวิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย การเปิดโอกาสให้แสดงพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ เนื้อหาที่สื่อให้เข้าใจผิด ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายหรือไม่พึงประสงค์ และการจัดหาเจ้าสาวตามสั่ง
- ข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google ซึ่งระบุประเภทของเนื้อหาที่จะได้รับแหล่งที่มาของการโฆษณาที่จำกัด ได้แก่ เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ เนื้อหาที่สร้างความตกใจ วัตถุระเบิด ปืน อะไหล่ปืน และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง อาวุธอื่นๆ ยาสูบ ยาปลุกประสาท การขายเครื่องดื่มมึนเมาและการใช้ในทางที่ผิด การพนันออนไลน์ ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ และเภสัชภัณฑ์และอาหารเสริมที่ไม่ได้รับอนุญาต Google Ads (เดิมคือ AdWords) จะยังคงไม่แสดงเนื้อหาต้องห้ามใดๆ เหล่านี้ และจะรับโฆษณาจากผลิตภัณฑ์การโฆษณาอื่นๆ หรือผ่านการใช้ข้อเสนอโดยตรงระหว่างผู้เผยแพร่โฆษณากับผู้ลงโฆษณาเท่านั้น
- การปรับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณาช่วยลดความซับซ้อนของการใช้งาน เกิดความสม่ำเสมอ และเข้าใจง่ายไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคุณในฐานะผู้เผยแพร่โฆษณา AdSense
การสร้างรายได้จากเนื้อหาที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google จะไม่ถือเป็นการละเมิดนโยบายอีกต่อไป แต่เราจะจำกัดการโฆษณาในเนื้อหานั้นให้เหมาะสมตามค่ากำหนดของแต่ละผลิตภัณฑ์โฆษณาและ/หรือค่ากำหนดของผู้ลงโฆษณาแต่ละรายแทน ในบางกรณี การจำกัดการโฆษณาหมายความว่าไม่มีแหล่งที่มาของโฆษณาที่เสนอราคาในพื้นที่โฆษณาของคุณและจะไม่มีโฆษณาปรากฏในเนื้อหาต้องห้ามนี้ ดังนั้นการเลือกสร้างรายได้จากเนื้อหาตามข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google จะช่วยให้มีแนวโน้มได้รับการโฆษณาในเนื้อหาต้องห้ามน้อยกว่าที่จะได้รับจากเนื้อหาอื่นๆ ที่ไม่เป็นเนื้อหาต้องห้าม
เราไม่อนุญาตให้ใช้เนื้อหาที่อยู่ภายใต้นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณา Google เพื่อสร้างรายได้ และคุณไม่ควรวางโฆษณาร่วมกับเนื้อหาดังกล่าว การพยายามสร้างรายได้จากเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายอาจส่งผลให้บัญชีถูกระงับหรือยุติการใช้งาน
โปรดทราบว่านโยบายและข้อจำกัดเหล่านี้จะมีผลเพิ่มเติมจากนโยบายอื่นๆ ที่ควบคุมการใช้งานผลิตภัณฑ์สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา Google
สิ่งที่ต้องทำ
คุณยังไม่ต้องทำอะไรในขณะนี้ ศูนย์ช่วยเหลือและศูนย์นโยบายจะได้รับการอัปเดตในเดือนกันยายน 2019 ซึ่งจะมีผลพร้อมกับการชี้แจงนโยบายและข้อจำกัดทั้งหมด เมื่อถึงเวลานั้น โปรดอ่านนโยบายและข้อจำกัดที่อัปเดตแล้ว และตรวจสอบว่าเนื้อหาของคุณสอดคล้องกับนโยบาย
(ประกาศเดือนสิงหาคม 2019)