สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้มีดังนี้
วิธีติดต่อกับทีม จัดตารางเวลา และทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำเมื่อทำงานนอกสถานที่หรือติดต่อสื่อสารทางไกล |
สิ่งที่ต้องมี
10 นาที
บัญชี Google Workspace หากยังไม่มี ให้เริ่มช่วงทดลองใช้ 14 วันได้เลย
ในบทแนะนำนี้
|
1 ติดต่อกับทีม |
ขยายทั้งหมด | ยุบทั้งหมดยุบทั้งหมด |
สร้างรายชื่ออีเมล Google Groups สำหรับคุณและทีม (หากยังไม่มี) ใช้อีเมลของกลุ่มในการแจ้งสถานะการอัปเดตข้อมูลและแชร์แหล่งข้อมูลต่างๆ (เช่น ปฏิทินของทีมและเอกสารในไดรฟ์) ให้กับทุกคนพร้อมกัน
- ลงชื่อเข้าใช้ Google Groups
- คลิกสร้างกลุ่มที่ด้านบน
- กรอกข้อมูลและเลือกการตั้งค่าสำหรับกลุ่ม ข้อมูลอ้างอิงการตั้งค่า
- คลิกสร้างกลุ่ม
โปรดรอสักครู่เพื่อให้กลุ่มใหม่เริ่มทำงานก่อนที่จะส่งข้อความไปยังกลุ่ม มิฉะนั้นคุณอาจได้รับการแจ้งเตือนว่าระบบส่งข้อความของคุณไม่ได้
เมื่อใช้ Google Chat คุณจะสนทนากับเพื่อนร่วมงาน แชร์ไฟล์และแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่นๆ รวมทั้งทำงานร่วมกันในโครงการของทีมได้
ไดรฟ์ที่แชร์คือพื้นที่สำหรับการใช้งานร่วมกัน โดยสมาชิกในทีมจะเก็บ ค้นหา และเข้าถึงไฟล์ได้จากทุกที่ในทุกอุปกรณ์
- เปิด Google ไดรฟ์
- ให้คลิกไดรฟ์ที่แชร์ทางด้านซ้าย
- คลิกใหม่ ที่ด้านบน
- ป้อนชื่อแล้วคลิกสร้าง
หลังจากสร้างไดรฟ์ที่แชร์แล้ว ให้ดูวิธีการสร้างโฟลเดอร์ เพิ่มและแก้ไขไฟล์ และแชร์ไฟล์
คุณจะเริ่มหรือเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอได้โดยตรงจาก Gmail บนเว็บเบราว์เซอร์ หรือจะเริ่มการประชุมทันทีจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือบนเว็บเบราว์เซอร์ในคอมพิวเตอร์โดยใช้ Google Meet ก็ได้ หากมีผู้ส่งลิงก์การประชุมมาให้ คุณก็คลิกลิงก์ดังกล่าวเพื่อเข้าร่วมได้ทันที
หมายเหตุ: คุณเพิ่มบุคคลจากภายในหรือภายนอกองค์กรไปยังการประชุมทางวิดีโอของ Meet ได้ ผู้ที่มีรายชื่อในกิจกรรมในปฏิทินรวมถึงผู้ที่ได้รับเชิญระหว่างการประชุมทางวิดีโอ (รวมถึงผู้เข้าร่วมจากภายนอก) จะมีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมได้โดยอัตโนมัติ สำหรับผู้ที่ไม่มีรายชื่อ ผู้ใช้ในองค์กรจะต้องให้สิทธิ์เข้าถึงแก่บุคคลภายนอกที่ต้องการเข้าร่วม ดูวิธีการเพิ่มผู้เข้าร่วมประชุมทางวิดีโอ
เริ่มการประชุมทางวิดีโอจาก Gmail
- เปิด Gmail แล้วคลิก Meet ในแถบด้านข้างการประชุมใหม่
หมายเหตุ: หากไม่เห็น Meet ใน Gmail โปรดตรวจสอบการตั้งค่า Gmail - คลิกเข้าร่วมเลย ในหน้าต่างแชร์การประชุมใหม่
- หากต้องการเข้าร่วมโดยใช้วิดีโอจากกล้องของคอมพิวเตอร์และใช้เสียงจากไมโครโฟน ให้คลิกเข้าร่วมเลย
- หากต้องการโทรเข้าจากโทรศัพท์ ให้คลิกเข้าร่วมและใช้เสียงจากโทรศัพท์ แล้วทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
คุณจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้ก็ต่อเมื่อองค์กรของคุณรองรับฟีเจอร์นี้เท่านั้น โปรดติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบ
หากคุณเข้าร่วมทางโทรศัพท์ คุณจะยังใช้วิดีโอจากคอมพิวเตอร์ได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อใช้เสียงจากโทรศัพท์ในการประชุมทางวิดีโอ
เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอจาก Gmail
- เปิด Gmail แล้วคลิก Meet ในแถบด้านข้าง
- เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
- คลิกการประชุมใหม่เพื่อเริ่มการประชุมใหม่เข้าร่วมเลย
- คลิกเข้าร่วมการประชุม แล้วป้อนชื่อเล่นหรือรหัสการประชุมเข้าร่วม
- หากต้องการเข้าร่วมการประชุมที่กําหนดเวลาไว้ ให้ชี้ไปที่การประชุมในส่วนการประชุมของฉันเข้าร่วมเลย
ใช้ Meet ในเว็บ
- ป้อน https://meet.google.com ในเว็บเบราว์เซอร์
- คลิกการประชุมใหม่เริ่มการประชุมแบบจัดทันที
- หากต้องการเพิ่มบุคคลไปยังการประชุม ให้เลือกตัวเลือกจากหน้าต่างป๊อปอัปที่ปรากฏขึ้น
- คลิกเพิ่มคนอื่นๆ แล้วเลือกตัวเลือกต่อไปนี้
- เลือกชื่อหรือป้อนอีเมลที่ต้องการในส่วนเชิญ แล้วคลิกส่งอีเมล
- ที่ด้านล่างของส่วนโทร ให้ป้อนหมายเลขโทรศัพท์แล้วกดโทร
- คลิกคัดลอก และวางรายละเอียดการประชุมในอีเมลหรือแอปอื่น
- คลิกเพิ่มคนอื่นๆ แล้วเลือกตัวเลือกต่อไปนี้
หมายเหตุ: คุณสามารถส่งลิงก์การประชุมให้กับบุคคลภายนอกองค์กรได้ แต่บุคคลในองค์กรอาจต้องให้สิทธิ์เข้าถึงการประชุมทางวิดีโอกับบุคคลภายนอกเหล่านั้น
ใช้ Meet ในอุปกรณ์เคลื่อนที่
ดาวน์โหลดแอป Google Meet
- ไปที่ Play Store
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป Google Meet
- หากต้องการเปิดแอปในอุปกรณ์ ให้แตะแอป Google Meet
หากมีอุปกรณ์หลายเครื่อง คุณจะเริ่มการประชุมทางวิดีโอบนอุปกรณ์หนึ่งและพูดคุยต่อในอุปกรณ์อีกเครื่องก็ได้ โดยระบบจะซิงค์ข้อมูลการประชุมกับอุปกรณ์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
เริ่มการประชุมโดยใช้แอป Google Meet
- เปิดแอป Meet
- เลือกตัวเลือกต่อไปนี้เพื่อเริ่มต้นการประชุม
- แตะการประชุมใหม่เริ่มการประชุมทันที
- แตะเข้าร่วมด้วยรหัสป้อนรหัสการประชุมแล้วแตะเข้าร่วม
ผู้จัดการประชุมที่มี Google Workspace for Education สามารถป้องกันไม่ให้ผู้เข้าร่วมแชร์หน้าจอของตนเองได้
คุณสามารถนำเสนอทั้งหน้าจอหรือเฉพาะหน้าต่างที่ต้องการในที่ประชุมเพื่อแชร์เอกสาร งานนำเสนอ สเปรดชีต และอื่นๆ ได้ อีกทั้งยังแนบงานนำเสนอหรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ ในกิจกรรมในปฏิทินเพื่อให้ผู้เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอของ Meet เปิดดูได้
- เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอของ Meet
- คลิกนำเสนอทันที ที่ด้านล่าง
- เลือกแท็บ หน้าต่าง หรือทั้งหน้าจอ
- หากคุณนำเสนอแท็บ Chrome ระบบจะแชร์เสียงของแท็บนั้นตามค่าเริ่มต้น
- วิธีนำเสนอจากแท็บอื่น
- เลือกแท็บที่ต้องการนำเสนอ
- คลิกแชร์แท็บนี้แทนในแบนเนอร์
- หากคุณนำเสนอจากสไลด์ผ่านแท็บ คุณจะควบคุมการนำเสนอใน Meet ได้
- คลิกแชร์
- ไม่บังคับ: หากต้องการเลิกปักหมุดงานนำเสนอและแสดงเป็นการ์ด ให้คลิกเลิกปักหมุด ตอนนี้คุณจะเห็นผู้เข้าร่วมมากขึ้นในขณะที่นำเสนอ
เคล็ดลับ
- หากกล้องเปิดอยู่ วิดีโอจะทำงานในขณะที่คุณนำเสนอ
- แชร์หน้าต่างใหม่หรือแท็บใดแท็บหนึ่งแทนหน้าต่างการประชุมเพื่อการนำเสนอที่ดีขึ้นและป้องกันการมิเรอร์
- หากต้องการแชร์เสียง คุณต้องเลือกแชร์แท็บ Chrome หรือแชร์แท็บนี้
หากกล้องเปิดอยู่ ผู้เข้าร่วมจะยังคงเห็นวิดีโอในขณะที่คุณกำลังนำเสนอ
ในระหว่างการประชุม คุณยังใช้ฟีเจอร์แชทในโปรแกรมเพื่อแชร์โน้ตและลิงก์ข้อมูลอ้างอิงได้อีกด้วย โปรดดูที่หัวข้อส่งข้อความแชทถึงผู้เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอ
2 จัดตารางเวลาสําหรับการทํางานและเรื่องส่วนตัว |
เมื่อติดต่อสื่อสารทางไกล คุณจะต้องแบ่งเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวให้เหมาะสม จัดระเบียบปฏิทินของคุณเพื่อให้ผู้อื่นทราบเวลาที่คุณพร้อมประชุม คุณปรับการตั้งค่า Google ปฏิทินเพื่อให้ผู้จัดปรับเวลานัดหมายกิจกรรมให้เหมาะสมขึ้นได้
หมายเหตุ: Google Chat จะแสดงสถานะลางานที่ผู้ใช้กำหนดไว้ในปฏิทิน หากมีคนลางาน Chat จะแสดงสถานะลางานเมื่อคุณแชทกับบุคคลนั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะลางาน
- เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
- คลิกการตั้งค่า ที่ด้านขวาบน การตั้งค่า
- คลิกเวลาทำงานในส่วน "ทั่วไป" ทางด้านซ้าย
- เคล็ดลับ: หากผู้ดูแลระบบเปิดใช้สถานที่ทํางานไว้ ให้คลิกเวลาทำงานและสถานที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ดูแลระบบ
- คลิกเปิดใช้เวลาทำงานในส่วน "เวลาทำงาน"
- เลือกวันที่ทํางาน เวลาที่ทํางาน
- คุณสามารถแบ่งช่วงเวลาทํางานตามเวลาที่คุณว่างได้
- หากต้องการเพิ่มระยะเวลามากกว่า 1 วันลงในวันทํางาน ให้คลิกเพิ่ม ถัดจากวันของสัปดาห์
- หากต้องการนําระยะเวลาออก ให้คลิกนําออก
เคล็ดลับ: เมื่อเพิ่มเวลาทำงาน เวลาเริ่มต้นจะต้องมาก่อนเวลาสิ้นสุด
ปฏิทินอาจแนะนําเวลาทํางานให้โดยพิจารณาจากเขตเวลา รูปแบบการทํางานในประเทศ และกําหนดการของคุณ คุณเลือกที่จะยอมรับ ปฏิเสธ หรือแก้ไขคำแนะนำดังกล่าวได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปฏิทินในเขตเวลาที่ต่างกัน
หากมีบุคคลใดเชิญให้คุณเข้าร่วมกิจกรรมนอกเวลาดังกล่าว บุคคลนั้นจะเห็นการแจ้งเตือนว่ากิจกรรมนั้นอยู่นอกเวลาทำงานของคุณ
แจ้งให้ทีมทราบเมื่อคุณต้องการพัก โดยส่งข้อความไปยังพื้นที่ใน Chat ที่ใช้สำหรับแจ้งสถานะของทีม หรือส่งอีเมลสั้นๆ ไปหาทีมก็ได้ หากคุณจะหยุดพัก 2-3 ชั่วโมงหรือต้องการลาหยุดหลายวัน ให้ตั้งระบบตอบกลับอัตโนมัติสำหรับการ "ลางาน" ใน Gmail นอกจากนี้ คุณยังตั้งค่าปฏิทินที่แชร์ให้แสดงเวลาที่ทุกคนในทีมลางานได้อีกด้วย
สร้างปฏิทินที่แชร์
คุณสร้างปฏิทินใหม่ได้จากเบราว์เซอร์เท่านั้น แต่สร้างจากแอป Google ปฏิทินไม่ได้ เมื่อสร้างปฏิทินแล้ว คุณจะใช้ปฏิทินได้ทั้งในเบราว์เซอร์และแอป
- เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
- คลิก "เพิ่มปฏิทินอื่น" ถัดจาก "ปฏิทินอื่นๆ" ทางด้านซ้าย สร้างปฏิทินใหม่
- เพิ่มชื่อและคำอธิบายสำหรับปฏิทิน
- คลิกสร้างปฏิทิน
- หากต้องการแชร์ปฏิทิน ให้คลิกที่แถบด้านซ้ายแล้วเลือกแชร์กับบุคคลที่ระบุ
แชร์ปฏิทิน
- เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์ คุณจะแชร์ปฏิทินจากแอป Google ปฏิทินไม่ได้
- มองหาส่วน "ปฏิทินของฉัน" ที่ด้านซ้าย หากต้องการขยาย ให้คลิกลูกศรลง
- วางเมาส์เหนือปฏิทินที่ต้องการแชร์ แล้วคลิกเพิ่มเติม การตั้งค่าและการแชร์
- ในส่วน "แชร์กับบุคคลหรือกลุ่มที่ระบุ" ให้คลิกเพิ่มบุคคลและกลุ่ม
- เพิ่มอีเมลของบุคคลหรือของกลุ่ม Google ใช้เมนูแบบเลื่อนลงเพื่อปรับการตั้งค่าสิทธิ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิ์การเข้าถึง
- คลิกส่ง
- ผู้รับจะต้องคลิกลิงก์ในอีเมลเพื่อเพิ่มปฏิทินลงในรายการ ดูวิธีเพิ่มปฏิทินของผู้อื่น
เคล็ดลับ: หากต้องการแชร์ปฏิทินที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของ คุณต้องขอให้เจ้าของมอบสิทธิ์ "เปลี่ยนแปลงและจัดการการแชร์" ให้กับคุณ
ตั้งปลุก
อย่าลืมลงชื่อออกจากระบบก่อนเลิกงานและปิดอุปกรณ์ให้เรียบร้อย คุณจะใช้แอปนาฬิกาในอุปกรณ์ Android ใดก็ได้
- เปิดแอปนาฬิกา ในโทรศัพท์
- แตะนาฬิกาปลุก
- เลือกการปลุก ดังนี้
- หากต้องการเพิ่มการปลุก ให้แตะ "เพิ่ม"
- หากต้องการรีเซ็ตการปลุก ให้แตะเวลาปัจจุบันของการปลุก
- ตั้งเวลาปลุก
- แตะเสร็จสิ้นบันทึก
เมื่อคุณต่างทำงานจากระยะไกล การสื่อสารก็ยิ่งสำคัญมากขึ้น คุณจึงควรแชร์อัปเดตเกี่ยวกับสถานะประจำวันและกำหนดเป้าหมายประจำสัปดาห์ไว้ในแผนโครงการที่แชร์กับทีม
จัดการประชุมออนไลน์สั้นๆ ประจำวันเพื่อแจ้งอัปเดตกับเพื่อนร่วมงานโดยใช้ Meet, อีเมล หรือ Chat
กำหนดเป้าหมายประจำสัปดาห์โดยใช้แผนโครงการของทีมเพื่อกำหนดเป้าหมายและจัดลำดับความสำคัญของงาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแผนโครงการแบบไดนามิกใน Google ชีต
3 ทําตามแนวทางปฏิบัติแนะนำเพื่อการสื่อสารที่ไม่ขาดตอน |
ตั้งค่าและทดสอบอินเทอร์เน็ตที่บ้าน
- เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยใช้สายอีเทอร์เน็ต (หากมี) หากไม่มี ให้ใช้ Wi-Fi ในคลื่นความถี่ 5 GHz (ส่วนความถี่ย่าน 2.4 GHz มักมีการใช้งานเป็นจำนวนมากและอาจทำให้การเชื่อมต่อวิดีโอไม่เสถียร)
- หากใช้ Wi-Fi ให้สร้างการประชุมทดสอบเพื่อตรวจสอบว่าได้รับสัญญาณที่แรงเพียงพอในตำแหน่งที่จะใช้งาน หากคุณมองเห็นเราเตอร์ได้โดยตรง แปลว่าคุณได้รับสัญญาณแรงที่สุดแล้ว
- หากการเชื่อมต่อช้า ให้ใช้การทดสอบความเร็วเพื่อตรวจสอบว่าคุณมีความเร็วในการอัปโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 3.2 Mbps
- ขณะที่กำลังประชุมทางวิดีโอ ให้ลดกิจกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตภายในบ้านให้น้อยที่สุดเพื่อให้มีแบนด์วิดท์เพียงพอ
หูฟัง ไมโครโฟน และกล้อง
- ลองใส่หูฟังหรือหูฟังเอียร์บัดเพื่อให้ได้ยินเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและยังช่วยลดเสียงสะท้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการประชุมได้
- หากคุณต้องการพิมพ์ไปด้วยในขณะที่กำลังสนทนาอยู่ ให้ใช้ไมโครโฟนภายนอก เช่น ไมโครโฟนของชุดหูฟังหรือไมโครโฟน USB สำหรับพอดแคสต์
- ชุดหูฟังและไมโครโฟนแบบมีสายมักให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบไร้สาย
- อัปเกรดชุดหูฟัง ไมโครโฟน และกล้องให้เป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุดจากผู้ผลิต
- ตรวจสอบว่า Meet ใช้กล้อง ไมโครโฟน และลำโพงที่ถูกต้อง เช่น แม้คุณจะสวมชุดหูฟัง แต่ Meet อาจกำลังใช้ไมโครโฟนของเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่
เลือกสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
- นั่งในบริเวณที่มีแสงเพียงพอโดยให้แสงกระทบใบหน้าและไม่ย้อนแสง เพื่อไม่ให้หน้ามีความมืดเกินไป ทำการทดสอบโดยลองเข้าร่วมประชุมกับเพื่อนร่วมงานเพื่อจัดตำแหน่งกล้องและแสงให้เหมาะสม
- การใช้ฉากหลังเรียบๆ และห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อยจะเหมาะสมกับการประชุมทางธุรกิจแบบมืออาชีพมากที่สุด
- ควรใช้สถานที่ที่ไม่ค่อยมีเสียงรบกวน แต่ถ้าอยู่ในบริเวณที่มีเสียงรอบข้างดัง ให้ปิดเสียงไมโครโฟนในขณะที่ไม่ได้พูด นอกจากนี้คุณยังใช้ฟีเจอร์คำบรรยายสดของ Meet เพื่อแสดงคำบรรยายแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
จัดการกับอุปกรณ์ที่ทำงานช้าหรือประสิทธิภาพการทำงานที่ไม่ดี
- อัปเดตคอมพิวเตอร์ให้เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด
- ลองนำเสนอจากแล็ปท็อปเครื่องอื่น (หากมี) หรือใช้สมาร์ทโฟน (ที่มีแอป Meet สำหรับ iOS หรือ Android ) เพื่อลดการใช้งาน CPU
- ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงการรับส่งข้อมูลของ Meet (เช่น ไฟร์วอลล์ในเครื่องและซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส) อาจลดคุณภาพของวิดีโอ โปรดระมัดระวังไม่ให้เครื่องมือเหล่านี้รบกวนการประชุมทางวิดีโอ
- ใช้จอภาพเดียว การใช้จอภาพ 2 จอขึ้นไปอาจทำให้ CPU และ GPU ทำงานหนักเกินไป
หากยังคงพบปัญหาคุณภาพของการประชุมทางวิดีโอของ Meet โปรดดูหัวข้อแก้ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของวิดีโอและเสียงในการประชุม หรือรายงานปัญหา
หากต้องทำงานร่วมกับทีมจากระยะไกล คุณจะเห็นเวลาของประเทศอื่นๆ ได้โดยการเพิ่มนาฬิกาเทียบเวลาโลกในปฏิทิน เพิ่มเขตเวลาในปฏิทินเพื่อให้ทราบเวลาที่เหมาะสมในการจัดกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในทีมที่อยู่คนละประเทศ
หมายเหตุ: หากสมาชิกในทีมเข้าร่วมประชุมไม่ได้เนื่องจากเขตเวลาต่างกัน คุณก็บันทึกการประชุมแล้วแชร์ให้ในภายหลังได้ ดูวิธีการบันทึกการประชุม
เพิ่มนาฬิกาเทียบเวลาโลกในปฏิทิน
- เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
- คลิกการตั้งค่า การตั้งค่าที่ด้านขวาบน
- ในส่วน "นาฬิกาบอกเวลาโลก" ให้คลิกแสดงนาฬิกาบอกเวลาโลก
- คลิกเพิ่มเขตเวลา เลือกเขตเวลาที่ต้องการดู
เพิ่มเขตเวลาในปฏิทิน
- เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
- คลิกการตั้งค่า การตั้งค่าที่ด้านขวาบน
- ในส่วน "เขตเวลา" ให้คลิกแสดงเขตเวลารอง
- คลิกเขตเวลารอง เลือกเขตเวลา
เปลี่ยนเขตเวลาของคุณ
- เปิด Google ปฏิทินในคอมพิวเตอร์
- คลิกการตั้งค่า การตั้งค่าที่ด้านขวาบน
- ในส่วน "เขตเวลา" ให้คลิกเขตเวลาหลัก เลือกเขตเวลา
หมายเหตุ: หากคุณจะจัดประชุมและต้องการหาเวลาที่เหมาะกับทุกคน ให้ใช้เวลาประชุมที่แนะนำ
ผู้จัดการประชุมที่มี Google Workspace for Education สามารถป้องกันไม่ให้ผู้เข้าร่วมแชร์หน้าจอของตนเองได้
หากคุณกำลังนำเสนออยู่ในการประชุมทางวิดีโอของ Meet คุณจะตั้งค่าการถามและตอบแบบอินเทอร์แอกทีฟได้โดยใช้สไลด์ ระบบจะมีหน้าต่างแยกต่างหากไว้สำหรับให้ผู้เข้าร่วมพิมพ์คำถาม ดังนั้นจึงไม่มีการขัดจังหวะหรือพูดแทรกกันเกิดขึ้น
- เปิดงานนําเสนอใน Google สไลด์
- ที่ด้านบน ถัดจากภาพสไลด์ คลิกลูกศรลง
- คลิกมุมมองผู้นำเสนอ
- คลิกเครื่องมือผู้ชมในหน้าต่างใหม่
- คลิกเริ่มใหม่เพื่อเริ่มเซสชันใหม่
- คลิกเริ่มเซสชันล่าสุดต่อเพื่อเริ่มเซสชันล่าสุดจากที่ค้างไว้
- หากต้องการสิ้นสุดการถามและตอบ ให้คลิกสวิตช์เปิด/ปิดในหน้าต่างถามและตอบ
- เคล็ดลับ: แม้ว่าคุณจะไม่ได้ปิดฟีเจอร์ถามและตอบ แต่มุมมองถามและตอบจะปิดลงในไม่ช้าหลังจากจบการนําเสนอใน Google สไลด์
จัดทำเอกสารและแชร์ใน Google เอกสาร, ชีต และสไลด์ได้มากกว่าเดิม เช่น ใช้ฟีเจอร์แสดงความคิดเห็นเพื่อแจ้งให้สมาชิกในทีมทราบว่าคุณมีความเห็นอย่างไร วิธีนี้จะทำให้สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อคุณทำงานร่วมกับทีมที่มีเขตเวลาต่างกันไม่มากนัก
แสดงความคิดเห็นในไฟล์และมอบหมายงาน
- เลือกข้อความที่ต้องการแสดงความคิดเห็นในเอกสาร ชีต หรือสไลด์
- คลิกเพิ่มความคิดเห็น
- ป้อนความคิดเห็นในช่อง
- (ไม่บังคับ) หากต้องการส่งงานหรือความคิดเห็นไปยังบุคคลที่ต้องการโดยตรง ให้ป้อนเครื่องหมายบวก (+) ตามด้วยอีเมลของบุคคลดังกล่าว โดยคุณจะเพิ่มผู้คนกี่คนก็ได้ตามต้องการ ซึ่งแต่ละคนจะได้รับอีเมลที่มีความคิดเห็นของคุณและลิงก์ไปยังไฟล์ดังกล่าว
- (ไม่บังคับ) หากต้องการให้สิทธิ์แสดงความคิดเห็นกับบุคคลที่ต้องการ ให้เลือกช่องให้สิทธิ์กับ
- คลิกแสดงความคิดเห็นหรือให้สิทธิ์
หมายเหตุ: หากไฟล์มีความคิดเห็นถึงจํานวนสูงสุดแล้ว คุณจะทําสําเนาไฟล์ได้โดยไม่ต้องคัดลอกความคิดเห็นใดๆ
รวบรวมแหล่งข้อมูลในเว็บไซต์ภายใน
เมื่อใช้ Google Sites คุณจะตั้งค่าเว็บไซต์ภายในเพื่อรวบรวมแหล่งข้อมูลสำหรับคุณและทีมไว้รวมกันที่ส่วนกลาง หรือจะแชร์ข้อมูลล่าสุดกับเพื่อนร่วมงานก็ได้
สร้างเว็บไซต์
เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
- จากหน้าแรกของ Sites ให้คลิกว่างที่ด้านบน หรือเลือกเทมเพลตโดยคลิกแกลเลอรีเทมเพลต แล้วเลือกเทมเพลตที่ต้องการ
- จาก Google ไดรฟ์ ให้คลิกใหม่ เพิ่มเติมGoogle Sites
หมายเหตุ: ระบบจะเก็บ Sites ทั้งหมดไว้ในไดรฟ์ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ไดรฟ์เพื่อจัดระเบียบไฟล์ที่หัวข้อเริ่มต้นใช้งานไดรฟ์
Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง