อัปเดตล่าสุดเมื่อ 21 มีนาคม 2024 | ฉบับที่เก็บไว้
ยินดีต้อนรับสู่ Google Nest บทความในศูนย์ช่วยเหลือนี้จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราประมวลผลหรือเก็บรวบรวมข้อมูลเมื่อคุณใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อของ Google Nest
หมายเหตุ: การเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ใน Google Home เช่น การเพิ่มหรือนำผู้ใช้ออกจากบ้าน อาจใช้เวลาถึง 5 นาทีจึงจะมีผล
ข้อมูลที่ Google เก็บรวบรวม
เมื่อฉันใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อของ Google Nest ระบบจะเก็บรวบรวมข้อมูลประเภทใดบ้างนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google มีผลบังคับใช้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อ และอธิบายถึงข้อมูลและเหตุผลที่เราเก็บรวบรวม อีกทั้งวิธีที่คุณจะอัปเดต จัดการ ส่งออก และลบข้อมูลดังกล่าวได้ นอกจากนี้ โปรดอ่านความมุ่งมั่นของเราที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวภายในบ้านเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันที่ Google Nest นำมาใช้ในการจัดการข้อมูลของคุณ
หมวดหมู่ของข้อมูลที่เก็บรวบรวม
นอกเหนือจากข้อมูลที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวแล้ว เมื่อคุณใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อ เราจะบันทึกข้อมูลต่อไปนี้- ข้อมูลจากการตั้งค่า เมื่อคุณใช้แอปตั้งค่าบัญชีและอุปกรณ์ใดๆ เช่น ชื่ออุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ และข้อมูลเกี่ยวกับบ้าน เช่น ที่อยู่ รหัสไปรษณีย์ และตำแหน่งที่วางอุปกรณ์
-
ข้อมูลเซ็นเซอร์ เช่น การเคลื่อนไหวที่ตรวจจับได้ การวัดแสงแวดล้อม อุณหภูมิ ความชื้น ระดับคาร์บอนมอนอกไซด์และควัน รวมถึงรายละเอียดที่ได้จากข้อมูลนี้ เช่น ข้อมูลการนอนหลับ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลที่เซ็นเซอร์ส่งไปยัง Google รวมถึงตัวอย่างว่าข้อมูลดังกล่าวช่วยจัดหาและปรับปรุงอุปกรณ์และบริการของ Nest อย่างไรในคู่มือสำหรับเซ็นเซอร์ในอุปกรณ์ Google Nest
- ข้อมูลเสียงและวิดีโอจากอุปกรณ์ที่มีกล้องและไมโครโฟน รวมถึงรายละเอียดที่ได้จากข้อมูลนี้ เช่น ข้อมูลกิจกรรมการไอและการกรน (หากตั้งค่าฟีเจอร์นี้ไว้) ข้อมูลการจดจำใบหน้า (หากตั้งค่าฟีเจอร์นี้ไว้) และข้อมูลบุคคล วัตถุ เสียง การเคลื่อนไหว หรือการตรวจจับกิจกรรม โดยทั้งหมดขึ้นอยู่กับการให้สิทธิ์และการตั้งค่าของคุณ ตัวอย่างเช่น เราจะจัดเก็บฟุตเทจวิดีโอหากคุณเลือกที่จะรับบริการจัดเก็บวิดีโอจาก Google สำหรับอุปกรณ์ Nest Cam
- ข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์ ได้แก่
- การโต้ตอบกับอุปกรณ์ด้วยตนเอง (เช่น การปรับอุณหภูมิบนตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest ด้วยตนเอง) ข้อมูลการทำความร้อนและความเย็น (เช่น เมื่อคุณเปิดและปิดระบบทำความร้อนหรือความเย็น) สถานะของอุปกรณ์ รวมถึงการตั้งค่าและฟีเจอร์ที่ใช้
- นอกจากนี้ จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์เมื่อใช้งานกับบริการของ Google (เช่น Google Assistant, YouTube, Google Maps, Google ปฏิทิน, Google Fit หรือ Google Meet) หรือใช้งานกับบริการของบุคคลที่สาม (เช่น Spotify หรือ Pandora) ข้อมูลการใช้งานดังกล่าว ได้แก่ การโต้ตอบด้วยเสียงหรือการแตะ การกดค้างบนอุปกรณ์ การโต้ตอบหรือปรับแต่งอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงข้อมูลสถานะของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง การตั้งค่า และฟีเจอร์ที่ใช้
- ข้อมูลทางเทคนิค เช่น ยี่ห้อและรุ่นของอุปกรณ์ หมายเลขซีเรียล ที่อยู่ IP และที่อยู่ MAC การเชื่อมต่อ Wi-Fi ความแรงของสัญญาณและการตั้งค่าต่างๆ การตรวจหาอุปกรณ์อื่นๆ ในเครือข่ายและจุดเข้าใช้งานใกล้เคียง เวอร์ชันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สถานะของเซ็นเซอร์ ระดับการชาร์จแบตเตอรี่ ไฟล์บันทึกจากการเชื่อมต่อ สถานะของพลังงาน ความสามารถของระบบ HVAC และข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ เช่น ข้อขัดข้อง การวินิจฉัย ความพึ่งพาได้ รวมทั้งบันทึกและรายงานประสิทธิภาพ
- ข้อมูลเกี่ยวกับบริการ เช่น ประเภทบริการที่ใช้ (เช่น Nest Aware หรือบริการด้านพลังงาน เช่น Rush Hour Rewards และการประหยัดพลังงานตามฤดูกาล) คุณลักษณะของบริการ (เช่น ฟีเจอร์ที่ใช้หรือเปิดใช้) ข้อมูลการใช้บริการ (เช่น วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุด การปรับค่าใช้จ่ายการบริการ และการตั้งค่าฟีเจอร์) ประสิทธิภาพของบริการ และความคิดเห็นเกี่ยวกับบริการดังกล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลของอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อของ Google Nest ว่าแตกต่างกันอย่างไรตามแต่ละอุปกรณ์หรือบริการ และคุณจะกำหนดค่าอุปกรณ์หรือบริการอย่างไรดังที่อธิบายไว้ในส่วนนี้ ดูวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงบริการเพื่อทำความเข้าใจว่า Google ใช้ข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อของคุณเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เป็นประโยชน์อย่างไร
Chromecast | |
ลำโพง (Google Home, Home Mini, Nest Mini และ Home Max) | |
Wifi (Google Wifi และ Google Nest Wifi) | |
ตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest | ข้อมูลจากการตั้งค่า
เมื่อติดตั้งตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest คุณจะต้องให้ข้อมูลที่จะช่วยให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ตัวควบคุมอุณหภูมิอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน และรหัสไปรษณีย์ของที่ตั้งอาคารคืออะไร ข้อมูลนี้จะช่วยเราปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานของคุณได้ เช่น ดึงข้อมูลสภาพอากาศของย่านที่คุณอยู่มาใช้ นอกจากนี้ ตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest ยังดึงข้อมูลจากระบบทำความร้อนและความเย็น (HVAC) ของคุณโดยตรงตามความเหมาะสมเพื่อเรียนรู้ความสามารถต่างๆ ของระบบ เช่น เป็นระบบทำความร้อนและความเย็นหรือทำความร้อนอย่างเดียว เป็นต้น การตอบคำถามเหล่านี้ช่วยเราในการตั้งค่าโปรแกรมเริ่มต้นที่จะทำให้คุณรู้สึกสบายอยู่เสมอ ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ Google เก็บรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์หลายตัวที่ติดตั้งในตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest เช่น อุณหภูมิปัจจุบัน ความชื้น การเคลื่อนไหว และแสงแวดล้อมในห้อง เซ็นเซอร์เหล่านี้ยังตรวจจับการปรากฏตัวของบุคคลในห้องได้ด้วย เมื่อมีข้อมูลเหล่านี้ ตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest จะปรับอุณหภูมิให้คุณรู้สึกสบายเมื่ออยู่ในบ้านและช่วยประหยัดพลังงานเมื่อคุณออกจากบ้านไป ตัวอย่างเช่น หากตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest ตรวจพบว่าคุณเข้ามาในห้องหลังจากที่เวลาผ่านไปนาน ระบบจะปรับอุณหภูมิไปยังค่าที่เลือกโดยอิงตามสมมติฐานว่าคุณเพิ่งตื่นหรือเพิ่งกลับบ้าน ในทำนองเดียวกัน หากไม่มีใครเคลื่อนไหวอยู่ในห้อง ตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest อาจลดอุณหภูมิลงเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังช่วยเปิดใช้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ตัวช่วยเปลี่ยนโหมดอยู่บ้าน/ไม่อยู่บ้านและกิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของอุปกรณ์ Nest อื่นๆ ในบ้านโดยอัตโนมัติเวลาที่คุณออกจากบ้านและกลับเข้ามา |
Nest Protect | ข้อมูลจากการตั้งค่า
เมื่อคุณติดตั้ง Nest Protect ระบบจะขอข้อมูล เช่น ที่อยู่บ้านหรือรหัสไปรษณีย์ และตำแหน่งในบ้านที่ติดตั้งอุปกรณ์ ข้อมูลนี้จะช่วยปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานของคุณโดยการทำให้ Nest Protect แจ้งให้คุณทราบถึงตำแหน่งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นหรือกำหนดเวลาการทำงานของฟีเจอร์ได้ดีขึ้น เช่น กำหนดให้ฟีเจอร์การทดสอบเสียงทำงานในช่วงเวลาหนึ่งของวัน เป็นต้น ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ เราเก็บรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์หลายตัวที่ติดตั้งใน Nest Protect เช่น ระดับควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ อุณหภูมิปัจจุบัน ความชื้น และแสงแวดล้อมในห้อง เซ็นเซอร์เหล่านั้นยังตรวจสอบได้ว่ามีสิ่งใดเคลื่อนไหวอยู่ในห้องหรือไม่ ด้วยการบันทึกข้อมูลนี้ ทำให้ Nest Protect ทำสิ่งต่างๆ ได้ เช่น ตรวจจับควันและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในบ้านและเตือนภัยอันตราย ตัวอย่างเช่น หาก Nest Protect ตรวจพบว่าระดับควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์เพิ่มขึ้น ระบบจะส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าก่อนที่อันตรายจะถึงระดับสัญญาณเตือนฉุกเฉินและบอกว่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้น Nest Protect รุ่นที่ 2 ยังมีไมโครโฟนที่จะช่วยให้ Nest Protect ใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างได้ด้วย นั่นคือ Nest Protect จะส่งตัวอย่างเสียงระหว่างการตรวจสอบความปลอดภัยหรือการทดสอบเสียงที่ไมโครโฟนจะบันทึก เพื่อตรวจสอบว่าลำโพงและอุปกรณ์ส่งเสียงเตือนทำงานอยู่ |
Nest Cam, Nest Doorbell และ Dropcam (เรียกรวมกันว่า Nest Cam) | ข้อมูลจากการตั้งค่า
เมื่อคุณติดตั้ง Nest Cam ระบบจะขอข้อมูลพื้นฐานบางอย่าง เช่น ชื่อกล้อง คำอธิบายกล้อง ที่อยู่บ้าน รหัสไปรษณีย์ และตำแหน่งในบ้านที่ติดตั้งอุปกรณ์ Nest Cam ข้อมูลนี้จะใช้เพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในแบบของคุณ เช่น เพื่อบอกให้ทราบว่าอุปกรณ์ใดที่ทำให้ส่งการแจ้งเตือน ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ เราเก็บรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์หลายตัวที่ติดตั้งใน Nest Cam เช่น อุณหภูมิของอุปกรณ์และแสงแวดล้อมในห้อง โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลนี้ Nest Cam จะรู้ได้ว่าห้องมืดหรือไม่ และควรจะเปิดใช้ฟีเจอร์ภาพกลางคืนหรือไม่ เป็นต้น สัญญาณและข้อมูลของวิดีโอและเสียง เมื่อคุณเปิดใช้ฟีเจอร์การบันทึกหรือสตรีมมิงของ Nest Cam เราจะประมวลผลสัญญาณและข้อมูลของวิดีโอและเสียงจากอุปกรณ์โดยขึ้นอยู่กับคำสั่ง การกำหนดค่า และการตั้งค่าของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงการจับภาพและส่งข้อมูลนี้บางส่วนให้คุณทางข้อความ Push หรืออีเมล หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุการเคลื่อนไหว เสียง หรือกิจกรรมอื่นๆ เมื่อ Nest Cam เปิดอยู่ เราจะประมวลผลสัญญาณและข้อมูลของวิดีโอและเสียงเพื่อระบุกิจกรรม การสมัครใช้บริการ Nest Aware จะทำให้การตรวจหากิจกรรมใน Nest Cam มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากคุณบอกไว้ในการตั้งค่ากล้องว่าเลือกรับการแจ้งเตือนในอุปกรณ์เคลื่อนที่ เราอาจประมวลผลข้อมูลจาก Nest Cam เพื่อส่งการแจ้งเตือนให้คุณเมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้น นอกจากนี้ หากคุณเปิดใช้ฟีเจอร์การบันทึก เราจะจับภาพ ประมวลผล รวมทั้งเก็บบันทึกวิดีโอและเสียงจากอุปกรณ์ของคุณไว้ตลอดระยะเวลาที่คุณสมัครใช้บริการเก็บบันทึกไว้ (เช่น 5, 10, 30 หรือ 60 วัน) และคุณจะเข้าถึงบันทึกเหล่านั้นได้ผ่านบริการของเราในช่วงเวลาดังกล่าว ในบางภูมิภาค เราประมวลผลข้อมูลการจดจำใบหน้าเพื่อเปิดใช้การแจ้งเตือนใบหน้าที่คุ้นเคยโดยขึ้นอยู่กับคำสั่ง การกำหนดค่า และการตั้งค่าของคุณ หากคุณเลือกที่จะใช้ฟีเจอร์นี้ใน Nest Cam เราจะประมวลผลรูปภาพใบหน้าและข้อมูลการจดจำใบหน้าที่อยู่เบื้องหลัง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้อุปกรณ์จดจำใบหน้าที่คุ้นเคยต่างๆ และแจ้งให้คุณทราบถึงบุคคลที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยได้ คุณใช้แอปและตั้งค่าบัญชีเพื่อควบคุมได้ว่าจะให้ประมวลผลข้อมูลไบโอเมตริกนี้หรือไม่ คุณอาจต้องขอคำยินยอมให้สแกนใบหน้าจากบุคคลที่มาหาที่บ้าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ที่ไหนและกำหนดค่าอุปกรณ์ไว้อย่างไร เนื้อหาที่บันทึกและแชร์ คุณอาจบันทึกและเลือกที่จะแชร์เนื้อหาบางอย่าง เช่น วิดีโอคลิป สตรีมวิดีโอสด รูปภาพ คำบรรยายภาพ และความคิดเห็นเพื่อให้ผู้อื่นเข้าถึงได้โดยใช้บริการของ Google กฎหมายคุ้มครองข้อมูลและกฎหมายความเป็นส่วนตัวในประเทศของคุณอาจกำหนดความรับผิดชอบบางอย่างกับคุณรวมถึงการใช้งาน Nest Cam ของคุณ คุณมีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเมื่อใช้ Nest Cam เช่น คุณอาจต้องแสดงประกาศเพื่อเตือนแขกที่มาบ้านว่าคุณกำลังใช้ Nest Cam และ/หรือขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากแขก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และวิธีการประมวลผลกิจกรรมของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โปรดทราบว่าการบันทึกและการแชร์คลิปที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นและ/หรือภาพสแกนใบหน้าของผู้อื่นอาจมีผลกระทบต่อสิทธิ์ในการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล เมื่อใช้ Nest Cam กับบัญชี Google คุณจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการให้บริการของ Nest เพิ่มเติมด้วย โปรดทราบว่าอุปกรณ์ Assistant ซึ่งทำงานเกี่ยวกับภาพที่เชื่อมต่อกับบัญชีของคุณจะเข้าถึงกล้องได้ นอกจากนี้อุปกรณ์ Smart Display ของ Google บางตัวที่มีกล้อง เช่น Nest Hub Max อาจอนุญาตให้คุณเลือกที่จะเปิดใช้กล้องให้ทำงานเป็น Nest Cam ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
|
Nest Secure (รวม Nest Guard, Nest Detect, Nest Tag และ Nest Connect) | ข้อมูลจากการตั้งค่า
เมื่อคุณติดตั้ง Nest Secure ระบบจะขอข้อมูลพื้นฐานบางอย่าง เช่น ที่อยู่บ้าน รหัสไปรษณีย์ ตำแหน่งในบ้านที่ติดตั้งอุปกรณ์ Guard และ Detect และป้ายกำกับที่กำหนดเองสำหรับอุปกรณ์เหล่านั้น ข้อมูลนี้จะใช้เพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์ในแบบของคุณ เช่น เพื่อบอกให้ทราบว่าอุปกรณ์ใดที่ทำให้ส่งการแจ้งเตือนหรือปลุก หรือการเปิดใช้ตัวช่วยเปลี่ยนโหมดอยู่บ้าน/ไม่อยู่บ้าน (หรือฟีเจอร์ที่คล้ายกัน) เพื่อเตือนคุณโดยอัตโนมัติให้เปิดระบบ Nest Secure เมื่อออกจากบ้าน ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ เราเก็บรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์หลายตัวที่ติดตั้งในอุปกรณ์ Nest Secure ตัวอย่างเช่น Nest Guard ตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ และ Nest Detect ตรวจจับได้ทั้งการเคลื่อนไหวและดูว่าหน้าต่างหรือประตูเปิดหรือปิดอยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณตั้งค่าอุปกรณ์ในบ้านไว้ อุปกรณ์เหล่านี้ตรวจจับได้ว่ามีสิ่งใดเคลื่อนไหวอยู่ในห้องหรือไม่ และจะส่งเสียงเตือนและ/หรือส่งการแจ้งเตือนให้คุณ Nest Guard มีไมโครโฟนซึ่งคุณจะเปิดเพื่อใช้ฟีเจอร์บางอย่างของผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวเลือกได้ เช่น การเปิดใช้ Google Assistant นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ยังเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น อุณหภูมิของอุปกรณ์และแสงแวดล้อมในห้องอีกด้วย |
Nest Hub (รุ่นที่ 2) Nest Hub Max |
ข้อมูลจากการตั้งค่า เมื่อคุณตั้งค่าจออัจฉริยะของ Google Nest ระบบจะถามข้อมูลการตั้งค่าพื้นฐานบางอย่างของอุปกรณ์ เช่น ที่อยู่บ้านและห้องในบ้านที่ติดตั้งอุปกรณ์ คุณเลือกที่จะตั้งค่า Google Assistant เพื่อรับประสบการณ์ที่ปรับเปลี่ยนในแบบของคุณได้ด้วย เช่น โดยการตั้งค่า Voice Match หรือ Face Match และยังเลือกที่จะเปิดใช้ฟีเจอร์บางอย่างได้ เช่น การใช้ Nest Hub Max เป็น Nest Cam, การตั้งค่าการตรวจจับการนอนหลับโดยใช้ Nest Hub (รุ่นที่ 2), การใช้ Google Meet และอื่นๆ ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ เราเก็บรวบรวมข้อมูลจากเซ็นเซอร์หลายตัวที่ติดตั้งใน Smart Display เช่น เซ็นเซอร์ Soli, สัญญาณการสัมผัสแบบคาปาซิทีฟ และแสงแวดล้อมในห้อง การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้ทำให้ Smart Display ของ Nest Hub รู้ได้ว่าจะปรับจอแสดงผลให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในบ้านตอนไหนและอย่างไร เป็นต้น เซ็นเซอร์ของอุปกรณ์บางเครื่องช่วยให้เราให้บริการฟีเจอร์เสริมได้ เช่น การตรวจจับการนอนหลับหรือการใช้ท่าทางควบคุม ซึ่งคุณจะเลือกเปิดหรือปิดได้ทุกเมื่อ ข้อมูลวิดีโอและเสียง เราเก็บรวบรวมข้อมูลจากไมโครโฟนที่ติดตั้งในจออัจฉริยะของ Google Nest รวมถึงข้อมูลจากกล้องที่ติดตั้งใน Nest Hub Max ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิทธิ์ การกำหนดค่า และการตั้งค่าต่างๆ จออัจฉริยะของ Nest Hub มีฟีเจอร์ที่ต้องอาศัยการส่งเสียงที่บันทึกไว้และฟุตเทจวิดีโอไปยัง Google เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงาน เช่น การโทรผ่าน Google Meet หรือการตรวจสอบบ้านด้วย Nest Cam ที่ติดตั้งในตัว รวมถึงมีฟีเจอร์เซ็นเซอร์ตรวจจับผ่านกล้องที่ช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนหรือควบคุมประสบการณ์การใช้งานในแบบของคุณได้โดยไม่ต้องส่งวิดีโอหรือรูปภาพจาก Nest Hub Max ไปยัง Google หลังจากตั้งค่าแล้ว ฟีเจอร์อื่นๆ อาจประมวลผลเสียงในอุปกรณ์เท่านั้น เช่น Nest Hub (รุ่นที่ 2) ซึ่งจะช่วยให้ใช้ไมโครโฟนเพื่อติดตามเสียงรบกวนการนอนหลับ เช่น การไอหรือการกรน ได้ ข้อมูลด้านสุขภาพและความแข็งแรงสมบูรณ์พร้อมการตรวจจับการนอนหลับ การตรวจจับการนอนหลับใน Nest Hub (รุ่นที่ 2) ช่วยให้คุณติดตามการนอนหลับ การหายใจ ช่วงเวลาของวัน แสงและอุณหภูมิในห้อง รวมถึงเสียงรบกวน เช่น การไอและการกรน ได้ เพื่อช่วยให้เข้าใจการนอนหลับ แสดงข้อมูลเชิงลึกและเนื้อหาความรู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพัฒนาและปรับปรุงบริการด้านสุขภาพและการออกกำลังกายของ Google การตรวจจับการนอนหลับมีการป้องกันหลายอย่างที่ติดตั้งอยู่ในตัวดังนี้
เนื่องจากการตรวจจับการนอนหลับจะคอยตรวจสอบจุดที่โดยปกติแล้วคุณจะใช้ในการนอน ดังนั้น การนอนหลับของบุตรหลาน สัตว์เลี้ยง และสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวที่จุดนั้นจะส่งผลต่อข้อมูลของคุณ ตำแหน่งของอุปกรณ์ การเคลื่อนไหว และเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์อื่นๆ อาจเป็นสาเหตุให้การอ่านไม่ถูกต้อง ทุกคนที่เข้าถึง Nest Hub ของคุณได้จะดูและลบเซสชันการนอนหลับล่าสุดของคุณได้ หากคนที่อยู่ใกล้เคียงไอหรือกรนขณะที่การตรวจจับการนอนหลับเปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้อาจประมวลผลและระบุว่าเสียงดังกล่าวมาจากคุณ การอัปเดตฟีเจอร์นี้อาจปรับปรุงความแม่นยำได้ เช่น โดยการใช้ Motion Sense เพื่อแยกเสียงที่อยู่ใกล้เคียงออกจากเสียงไอและเสียงกรน โปรดแจ้งให้ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่าฟีเจอร์นี้อาจประมวลผลเสียงของตน และขออนุญาตบุคคลนั้นก่อนเปิดฟีเจอร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
|
Google Pixel Tablet |
Google ใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงบริการอย่างไร
ข้อมูลที่ใช้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อช่วยสร้างประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ได้อย่างไรนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google มีผลบังคับใช้กับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อ และอธิบายถึงข้อมูลและเหตุผลที่เราเก็บรวบรวม อีกทั้งวิธีที่คุณจะอัปเดต จัดการ ส่งออก และลบข้อมูลดังกล่าวได้ นอกจากนี้ โปรดอ่านความมุ่งมั่นของเราที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวภายในบ้านเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันที่ Google Nest นำมาใช้ในการจัดการข้อมูลของคุณ
ที่ Google Nest ผลิตภัณฑ์ของเราใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อเพื่อทำให้คุณได้รับประโยชน์จากอุปกรณ์และบริการมากขึ้น ซึ่งหมายถึงการให้บริการของ Google และประสบการณ์ที่เกี่ยวกับบ้านที่เชื่อมต่อ การปรับปรุงและปรับเปลี่ยนการบริการในแบบของคุณ และการพัฒนาบริการใหม่ๆ การรักษาความปลอดภัยในบริการต่างๆ ของ Google ตลอดจนการแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ และการอัปเดตของ Google ที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างบางส่วนของวิธีที่เราใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงฟีเจอร์และบริการต่างๆ ให้เป็นประโยชน์มากขึ้นมีดังต่อไปนี้
- ให้บริการ ปรับปรุง และปรับเปลี่ยนบริการในแบบของคุณ: เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นในตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest ช่วยให้บ้านมีอุณหภูมิที่เหมาะพอดีและประหยัดพลังงาน ข้อมูลเครือข่าย Nest Wifi ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Wi-Fi และสถิติต่างๆ ในอุปกรณ์และข้อมูลการใช้งานจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้ของอุปกรณ์ Motion Sense ช่วยให้เราให้บริการตรวจจับการนอนหลับใน Nest Hub (รุ่นที่ 2) ได้
- รองรับฟีเจอร์ที่มีประโยชน์: ตัวช่วยเปลี่ยนโหมดอยู่บ้าน/ไม่อยู่บ้านและกิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวผ่านอุปกรณ์ Nest ที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ในบ้าน เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของอุปกรณ์ Nest ในบ้านโดยอัตโนมัติเวลาที่คุณออกจากบ้านและกลับเข้ามา ฟีเจอร์การตรวจจับเสียง Nest Aware ทำงานได้ในอุปกรณ์ Nest หลายเครื่องเพื่อช่วยให้คุณตรวจจับเสียงต่างๆ เช่น เสียงกระจกแตกในบ้านได้
- พัฒนาฟีเจอร์ใหม่: เรารวบรวมข้อมูลเพื่อพัฒนาอัลกอริทึมหรือใช้ข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาและปรับปรุงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย รวมถึงความเชื่อถือได้ของอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อทั้งหมด ตัวอย่างเช่น การใช้ข้อมูลอุณหภูมิและความชื้นที่ได้จากอุปกรณ์เพื่อวัดผลกระทบที่สภาพแวดล้อมมีต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ นอกจากนี้ ข้อมูลเซ็นเซอร์แสงแวดล้อมและเซ็นเซอร์อุณหภูมิที่รวบรวมมาจากตัวควบคุมอุณหภูมิของลูกค้าจำนวนมากยังทำให้เราทราบว่า ตัวควบคุมอุณหภูมิจะคิดว่าอากาศอุ่นกว่าอุณหภูมิจริงเมื่อตัวเครื่องโดนแสงอาทิตย์โดยตรง เราจึงคิดค้นฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Sunblock เพื่อช่วยให้ตัวควบคุมอุณหภูมิปรับเปลี่ยนการทำงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้และเพื่อให้กำหนดอุณหภูมิได้อย่างถูกต้อง
- ทำงานร่วมกับอุปกรณ์และบริการของบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม: อุปกรณ์ที่มีอยู่หลายเครื่องในบ้านทำงานร่วมกัน แชร์ข้อมูล และตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น Nest Hub และ Nest Doorbell จะทำงานร่วมกันเพื่อบอกคุณเมื่อมีคนอยู่ที่ประตู และอุปกรณ์ Google Home ก็ยังใช้ควบคุมอุณหภูมิของตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest ได้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้ทุกคนในบ้านควบคุมอุปกรณ์เหล่านี้ได้โดยง่าย นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังทำงานร่วมกับบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อของ Nest อีกด้วยหากคุณสมัครใช้บริการไว้ เช่น หากเป็นผู้สมัครใช้บริการ Nest Aware คุณจะเลือกรับการแจ้งเตือนที่เกี่ยวข้องจาก Nest Cam ได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์ของบุคคลที่สาม (เช่น หลอดไฟหรือล็อก) และบริการของบุคคลที่สาม (เช่น Spotify หรือ Pandora) ได้อีกด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของคุณ
- ทำงานร่วมกับบริการต่างๆ ของ Google เช่น Google Assistant: อุปกรณ์ Nest หลายอย่าง เช่น Nest Cam IQ Indoor, Nest Hub Max และ Nest Secure ช่วยให้คุณเปิดใช้ Google Assistant หรือบริการอื่นๆ ของ Google ในอุปกรณ์ได้ ระบบอาจนำข้อมูลการโต้ตอบกับอุปกรณ์ผ่าน Google Assistant หรือบริการอื่นๆ ของ Google (เช่น YouTube) ไปใช้เพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งาน Google ในแบบของคุณ ซึ่งรวมถึงการแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น ข้อความจากการพูดโต้ตอบระหว่างคุณกับ Google Assistant จะบอกได้ถึงสิ่งที่คุณสนใจและนำมาใช้เพื่อปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ คุณลบการโต้ตอบด้วยเสียงที่เกิดขึ้นกับ Assistant ได้ทุกเมื่อ และยังปิดการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ในการใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ Google ได้อีกด้วย ไปที่บัญชี Google เพื่อตรวจสอบและจัดการการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
- แจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ และการอัปเดตของ Google: เราอาจแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อ เช่น โปรแกรมด้านความปลอดภัยสำหรับบ้านและพลังงาน และบางโปรโมชันของ Google จะมีการปรับเปลี่ยนในแบบของคุณโดยพิจารณาจากการใช้อุปกรณ์และบริการของ Google ตัวอย่างเช่น เราอาจโปรโมตโปรแกรมประหยัดพลังงานแก่คุณโดยขึ้นอยู่กับการใช้ตัวควบคุมอุณหภูมิหรือค่าที่อ่านได้จากเซ็นเซอร์อุณหภูมิ หรือเราอาจโปรโมตอุปกรณ์ Google Nest ที่ใกล้จะวางจำหน่ายหากคุณใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อของ Google อยู่หลายเครื่อง แต่เราจะเคารพการตัดสินใจของคุณว่าต้องการรับอีเมลโปรโมชันจาก Google หรือไม่ ไปที่บัญชี Google เพื่อตรวจสอบและจัดการการตั้งค่าบัญชี และไปที่แอป Home เพื่อจัดการการตั้งค่าบ้าน
เราพยายามหาวิธีใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้บริการของ Google อยู่เสมอ และจะอัปเดตให้คุณทราบเกี่ยวกับประสบการณ์ใหม่ๆ และการผสานรวมผลิตภัณฑ์ที่ Google เสนอ หากมีการเปลี่ยนวิธีการใช้ข้อมูล เราจะแจ้งให้คุณทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวและเสนอวิธีการที่เหมาะสมในการจัดการข้อมูลสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อให้กับคุณ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และการควบคุมโฆษณาที่คุณได้รับ ปิดการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ในการตั้งค่าโฆษณา
อ่านความมุ่งมั่นของเราที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวภายในบ้านของคุณ ซึ่งได้อธิบายว่าสำหรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อทั้งหมด เราจะเก็บวิดีโอไฟล์ดิบ เสียงที่บันทึกไว้ และค่าที่อ่านได้จากเซ็นเซอร์สภาพแวดล้อมในบ้านแยกจากการโฆษณา และเราจะไม่ใช้ข้อมูลนี้สำหรับการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณโต้ตอบกับ Assistant ข้อความจากการพูดโต้ตอบดังกล่าวจะบอกได้ถึงสิ่งที่คุณสนใจและนำมาใช้เพื่อปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ดังที่อธิบายไว้โดยละเอียดยิ่งขึ้นด้านล่างนี้ คุณมีสิทธิ์ควบคุมโฆษณาที่คุณได้รับ รวมถึงเลือกไม่รับการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ทั้งหมดโดยเข้าไปที่การตั้งค่า Google ได้ทุกเมื่อ
นอกจากนี้ Google ได้กำหนดขีดจำกัดการใช้ข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์ Nest บางอย่าง (เช่น การปรับการใช้งานอุปกรณ์ด้วยตัวคุณเอง) รวมถึงข้อมูลตำแหน่งที่เก็บรวบรวมผ่านแอป Nest และ Home รายละเอียดเพิ่มเติมมีดังนี้
โต้ตอบกับอุปกรณ์ Nest โดยตรงโดยไม่ใช้บริการของ Google
หากคุณโต้ตอบกับอุปกรณ์ Nest โดยตรง (เช่น ปรับตัวควบคุมอุณหภูมิด้วยตัวเอง) โดยไม่ได้ใช้บริการของ Google อย่างเช่น Google Assistant ระบบจะไม่นำข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์นี้มาปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของโฆษณา Google และวิธีควบคุมโฆษณาที่คุณได้รับ ขีดจำกัดข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์จะใช้กับอุปกรณ์ Nest เฉพาะที่เคยใช้กับบัญชี Nest ได้แก่ ตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest, Nest Cam, กริ่งประตูแบบบันทึกวิดีโอได้ Nest, ระบบสัญญาณกันขโมย Nest, ล็อกประตู Nest และสัญญาณเตือนควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ Nest
ข้อมูลที่ประมวลผลขณะที่คุณโต้ตอบกับอุปกรณ์ Nest โดยตรง (กล่าวคือ ไม่ได้ใช้บริการของ Google อย่างเช่น Assistant) จะเข้าถึงไม่ได้ในกิจกรรมของฉัน และการปิดส่วนควบคุมกิจกรรมของ Google จะไม่มีผลต่อการเก็บรวบรวมหรือเก็บรักษาข้อมูลนี้ นั่นเป็นเพราะเราใช้ข้อมูลนี้เพื่อวัตถุประสงค์ที่จำกัดมากขึ้นในการให้บริการของ Google และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านที่เชื่อมต่อ การปรับปรุงและปรับเปลี่ยนการบริการในแบบของคุณ และการพัฒนาบริการใหม่ๆ การรักษาความปลอดภัยในบริการต่างๆ ของ Google ตลอดจนการแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ และอัปเดตของ Google ที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งรวมถึงการโปรโมตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อที่เรามีให้คุณตามที่อธิบายไว้ข้างต้น) และข้อมูลดังกล่าวมีความจำเป็นต่อการทำงานของอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อ ข้อมูลนี้จะถูกลบออกเมื่อคุณลบบัญชีและขึ้นอยู่กับแนวทางปฏิบัติในการลบบัญชีของ Google
โต้ตอบกับอุปกรณ์ Nest ผ่านบริการของ Google
หากคุณใช้อุปกรณ์ Nest กับบริการของ Google เช่น Google Assistant เราอาจใช้ข้อมูลกิจกรรมของคุณเพื่อให้มีผลกับโฆษณาที่คุณได้รับ (เช่น เมื่อคุณพูดกับตัวควบคุมอุณหภูมิว่า "Ok Google ตั้งอุณหภูมิเป็น 20 องศา" หรือเล่นวิดีโอ YouTube ใน Nest Hub) บริการต่างๆ ของ Google อาจรวมถึง Google Assistant (หรือโปรแกรม Works with the Google Assistant), YouTube, Google Maps, Google ปฏิทิน, Google Meet, แอป Google Home และอื่นๆ คุณจัดการการตั้งค่าโฆษณา รวมถึงปิดการปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้โดยสิ้นเชิงได้ที่การตั้งค่าโฆษณา คุณจัดการการตั้งค่ากิจกรรม รวมถึงปิดกิจกรรมบนเว็บและแอปโดยสิ้นเชิงได้ในกิจกรรมของฉัน
ข้อมูลตำแหน่ง
ตำแหน่งอุปกรณ์ของคุณที่สร้างจากการตั้งค่าประวัติตำแหน่งในบัญชี Google จะแยกออกจากฟีเจอร์ตัวช่วยเปลี่ยนโหมดอยู่บ้าน/ไม่อยู่บ้านและกิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" ของ Nest ประวัติตำแหน่งจะไม่ส่งผลต่อฟีเจอร์ Nest เหล่านี้ (และระบบจะไม่ใช้ข้อมูลตำแหน่งโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณที่ฟีเจอร์เหล่านี้เก็บรวบรวมไว้เพื่อสร้างประวัติตำแหน่งในบัญชี Google ของคุณ)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากคำถามที่พบบ่อยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับ Google Nest หากคุณย้ายข้อมูลไปยัง Google ข้อมูล Nest จะเชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ Google จะจัดการข้อมูลนี้ตามที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google และหน้าคำถามที่พบบ่อยของศูนย์ช่วยเหลือ นอกจากนี้ คุณยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการให้บริการของ Google เสริมจากข้อกำหนดในการให้บริการของ Nest หากคุณอยู่ในเขตเศรษฐกิจยุโรปหรือสวิตเซอร์แลนด์ ผู้ให้บริการของ Google (รวมถึงบริการของ Nest หากคุณย้ายข้อมูล) คือ Google Ireland Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งและดำเนินงานภายใต้กฎหมายของไอร์แลนด์ (หมายเลขจดทะเบียน: 368047) และมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ Gordon House, Barrow Street, Dublin 4, Ireland เว้นแต่จะมีการระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อกำหนดเพิ่มเติม คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบัญชี Nest ยังตอบคำถามเกี่ยวกับบัญชีสำหรับแอป Nest และอธิบายขั้นตอนในการย้ายข้อมูลบัญชี Nest ไปยังบัญชี Google
หากไม่ย้ายข้อมูลบัญชี Nest ไปยังบัญชี Google คุณจะยังคงอยู่ภายใต้ข้อกำหนดและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่มีอยู่เดิมของ Nest Labs, Inc.
การแชร์ข้อมูลของคุณ
เมื่อคุณใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อของ Google ระบบอาจแชร์ข้อมูลของคุณกับบุคคลที่สามตามที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google (และตามรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง) นอกจากนี้ เรายังอธิบายไว้ในส่วนนี้ว่ามีการแชร์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อของ Google Nest และสมาชิกในบ้าน Google Nest ของคุณอย่างไร
ฉันจะจัดการหรือเพิกถอนสิทธิ์ของผู้ที่เข้าถึงอุปกรณ์ในบ้านฉันได้อย่างไรคุณเพิ่มคนในบ้าน Google Nest ได้ เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมห้อง เชิญเฉพาะคนที่คุณไว้วางใจเพราะสมาชิกของบ้านจะได้รับสิทธิ์หลายอย่างตามที่อธิบายไว้ในหัวข้อแชร์บ้านและอุปกรณ์ในแอป Google Home
โปรดทราบว่าผู้มาเยือนที่เดินเข้าบ้านของคุณได้ก็อาจเข้าถึงและโต้ตอบกับอุปกรณ์ของคุณได้เช่นกัน เช่น ผู้มาเยือนเหล่านั้นอาจปรับตัวควบคุมอุณหภูมิ ดูวิดีโอที่แสดงบนจออัจฉริยะ หรือแม้กระทั่งโต้ตอบกับปุ่มไมโครโฟนและกล้องบนอุปกรณ์ได้ หากไม่อยากให้ผู้มาเยือนใช้อุปกรณ์ คุณอาจต้องนำอุปกรณ์ไปเก็บไว้เมื่อมีผู้มาเยือนที่บ้าน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแชร์อุปกรณ์
ได้ คุณใช้ได้ทั้งแอป Google Home (แอป Home) และแอป Nest กับบัญชี Google เพื่อจัดการอุปกรณ์ในบ้าน แต่อุปกรณ์บางอย่างอาจกำหนดให้คุณใช้แอป Nest ในขณะที่อุปกรณ์อื่นกำหนดให้ใช้แอป Home ตัวอย่างเช่น หากต้องการใช้ Google Nest Mini คุณจะต้องใช้แอป Home
หากใช้แอป Nest และแอป Google Home ด้วยบัญชี Google เดียวกัน เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเห็นว่าบ้านในแอป Google Home และสมาชิกของบ้านนั้นๆ ในทั้ง 2 แอปมีความสอดคล้องกัน เราจะจัดการข้อมูลของคุณตามที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google โดยคุณจะควบคุมและตั้งค่าบางอย่างในแอป Google Home ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่การแชร์อุปกรณ์ในบ้านกับบุคคลอื่น
เนื่องจากทั้ง 2 แอปจะแสดงบ้านเดียวกัน ดังนั้นการทำงานในแอปหนึ่งจึงส่งผลต่อบ้านที่แสดงในอีกแอปหนึ่งด้วย ตัวอย่างเช่น
- หากคุณเป็นผู้ใช้ใหม่ของแอป Nest และลงชื่อเข้าใช้แอป Nest ด้วยบัญชี Google ที่คุณใช้กับแอป Home บ้านที่มีอยู่ในแอป Google Home จะปรากฏในแอป Nest โดยอัตโนมัติ และบ้านในแอป Nest และ Home จะลิงก์กัน
- คุณจะต้องใช้แอป Google Home (ไม่ใช่แอป Nest) ในการจัดการสมาชิกในครอบครัวของบ้าน หรือเปลี่ยนชื่อหรือลบบ้านออก
- หากคุณเป็นเจ้าของบ้าน Nest และสมาชิกคนอื่นของบ้านนำคุณออกผ่านทางแอป Home ระบบจะยกเลิกการลิงก์อุปกรณ์ Nest ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับบ้าน Nest ของคุณในแอป Nest และคุณจะเสียสิทธิ์การเข้าถึงบ้าน Nest ด้วย
- อุปกรณ์ที่รองรับที่เพิ่มลงในบ้าน Nest
- จะมองเห็นได้ในแอป Google Home ภายใต้บ้านที่ลิงก์หลังเดียวกัน
- จะแชร์กับสมาชิกของบ้านคนอื่นๆ ทุกคนในบ้านที่กำหนดไว้
- จะเข้าถึงได้ผ่าน Google Assistant
หากคุณมีอุปกรณ์หลายเครื่องในบ้านที่ใช้บริการของ Google อุปกรณ์ดังกล่าวจะแชร์ข้อมูลบางอย่างได้ ดังนี้
- แชร์ภายในระบบระหว่างอุปกรณ์ Nest กับอุปกรณ์ของบุคคลที่สาม: อุปกรณ์ Nest และอุปกรณ์ของบุคคลที่สามจะแชร์ข้อมูลให้กันและกันโดยตรงเพื่อให้ประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์มากขึ้น เช่น มีสิ่งใดเคลื่อนไหวอยู่ในห้องหรือไม่ อุปกรณ์ใดในบ้านที่กำลังเล่นเนื้อหาผ่านแคสต์ ข้อมูลอุณหภูมิ และเมื่อสัญญาณเตือนควันหรือคาร์บอนมอนอกไซด์ดังขึ้น
- แชร์ภายในระบบระหว่างอุปกรณ์ Nest กับแอปบนโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต: เพื่อเปิดใช้การแคสต์เนื้อหา รวมถึงฟังก์ชันการทำงานและฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตัวช่วยเปลี่ยนโหมดอยู่บ้าน/ไม่อยู่บ้านและกิจวัตร "อยู่บ้าน" และ "ไม่อยู่บ้าน" และบางกรณีที่อุปกรณ์อาจทำงานเป็น Border Router สำหรับอุปกรณ์ Nest อื่นๆ
- แชร์ในหลายเซิร์ฟเวอร์ของ Google ในระบบคลาวด์: Google ใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่แตกต่างกันสำหรับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม
ดูว่าผลิตภัณฑ์ Nest ทำงานร่วมกันอย่างไร และดูว่าผลิตภัณฑ์ Nest เชื่อมต่อกันและกัน และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอย่างไร
หากคุณลงชื่อสมัครใช้บริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อและโปรแกรมที่พาร์ทเนอร์ของเรานำเสนอ เช่น บริษัทประกันภัยหรือบริษัทพลังงาน Google จะแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คุณอนุญาต เมื่อคุณใช้บริการของบุคคลที่สามร่วมกับบริการของ Google ข้อกำหนดและนโยบายความเป็นส่วนตัวจากบริการของบุคคลที่สามดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับการใช้บริการของคุณด้วยเช่นกัน
บ้านที่เชื่อมต่อและ Google Assistant
ฉันจะใช้ Google Assistant กับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อได้อย่างไรดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ Google Assistant เพื่อควบคุมบ้าน อุปกรณ์ และบริการต่างๆ
- ดูสิ่งที่คุณทำได้ด้วยอุปกรณ์ Google Nest
- สิ่งที่ถาม Google Assistant ได้
- สนทนากับอุปกรณ์ Google Nest หรือ Google Home
- ใช้ Google Assistant ในทีวีที่มี Chromecast
- ใช้ Google Assistant ในโหมดฮับบน Pixel Tablet
- ดูข้อมูลเกี่ยวกับการใช้มุมมองสมาร์ทโฮมของ Google เพื่อควบคุมผลิตภัณฑ์ Nest
- วิธีพูดคุยกับ Google Assistant ผ่านผลิตภัณฑ์ Nest
- Assistant และความเป็นส่วนตัวของคุณ
เมื่อคุณใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมและบริการสำหรับบ้านที่เชื่อมต่อ เราจะเก็บเสียงที่บันทึกไว้ของคุณแยกออกจากการโฆษณาและจะไม่นำไปใช้เพื่อปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ แต่ในกรณีที่คุณโต้ตอบกับ Assistant ด้วยเสียง เราอาจใช้ข้อมูลที่เป็นข้อความตัวอักษรที่ได้จากการโต้ตอบนั้นเพื่อบอกได้ถึงสิ่งที่คุณสนใจและนำมาใช้เพื่อปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลของคุณใน Assistant เพื่อตรวจสอบกิจกรรมของ Assistant และปิดโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ได้ทั้งหมด
ไปที่หัวข้อเลือกสิ่งที่จะแชร์กับ Google Assistant เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่ากิจกรรมที่มีผลต่อข้อมูลที่ Assistant เก็บรวบรวม และวิธีการดูและลบข้อมูลดังกล่าว
การส่งออก การลบ และการปกป้องข้อมูลของคุณ
ฉันจะเข้าถึงและดาวน์โหลดข้อมูลของฉันได้อย่างไรหากคุณใช้บริการ Nest ด้วยบัญชี Google ให้ดูวิธีดาวน์โหลดข้อมูลของคุณเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่เก็บถาวรของข้อมูล Nest
- ประวัติการค้นหา Google Home และไฟล์บันทึกเสียงพูด: ดูส่วน "การลบข้อมูล" ของความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัวในอุปกรณ์ที่ทำงานกับ Assistant
- กิจกรรมของ Google Assistant: ลบกิจกรรมของ Google Assistant
- Nest Cam: วิธีลบประวัติวิดีโอและสแนปชอตของกล้อง
- การตรวจจับเสียง Nest Aware: ดูข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจจับเสียงในลำโพงและจอแสดงผลเพื่อลบคลิปการตรวจจับเสียงใน Nest Aware
คุณอ่านเกี่ยวกับนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลของ Google ได้ ซึ่งจะระบุระยะเวลาที่เราจะลบข้อมูลของคุณรวมถึงข้อมูลใน Nest นอกจากนี้ คุณยังลบโครงสร้าง (บ้าน) และนำสมาชิกในบ้านหรืออุปกรณ์ออกได้ทุกเมื่อโดยจัดการการตั้งค่าในแอป Home
โปรดทราบว่าผลิตภัณฑ์ Nest บางอย่างจะยังทำงานต่อไปแม้จะไม่มีบัญชี หากคุณใช้อุปกรณ์และบริการเหล่านั้นโดยไม่มีบัญชี รวมถึงหลังจากลบบัญชีที่มีอยู่แล้ว คุณจะยังคงต้องปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวและข้อกำหนดในการให้บริการของ Google ตลอดจนข้อกำหนดในการให้บริการของ Nest เพิ่มเติมด้วย
ตัวอย่างเช่น หลังจากที่คุณลบบัญชี ตัวควบคุมอุณหภูมิ Nest จะยังคงควบคุมระบบทำความร้อนและระบบปรับอากาศ ตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อพิจารณาว่าจะเปลี่ยนไปใช้อุณหภูมิในโหมดอีโคหรือไม่ ให้คุณเลือกกำหนดเวลาแบบอัตโนมัติหรือกำหนดด้วยตนเอง และใช้ฟังก์ชันพื้นฐานอื่นๆ ได้เป็นต้น อุปกรณ์จะยังจำข้อมูล Wi-Fi ของคุณ ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาและสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ของเราต่อไป นอกจากนี้ อุปกรณ์ยังอาจได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์อีกด้วย ตัวควบคุมอุณหภูมิจะส่งข้อมูลและที่อยู่ IP ต้นทางของเครื่องไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเราตราบเท่าที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หากคุณไม่ต้องการให้มีการบันทึกข้อมูลและการอัปเดตซอฟต์แวร์อีก ก็ควรยกเลิกการเชื่อมต่อตัวควบคุมอุณหภูมิกับเครือข่าย Wi-Fi ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบัญชีในแอป Nest
เมื่อคุณเปิดการตั้งค่า "ช่วยปรับปรุงอุปกรณ์ของคุณ" ไว้ (สำหรับอุปกรณ์ Nest ที่มีการตั้งค่านี้) ระบบจะส่งรายงานข้อมูลการใช้งานและข้อขัดข้องให้ Google ในเบื้องหลังเพื่อช่วยเราแก้ปัญหาและปรับปรุงบริการ ไปที่ Chromecast/Google Nest และความเป็นส่วนตัวของคุณ
หากต้องการปิดการส่งรายงานไปยัง Google สำหรับอุปกรณ์และบริการต่อไปนี้
- Chromecast: การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Chromecast
- Home: Chromecast/Google Nest และความเป็นส่วนตัวของคุณ
- Google Wifi: Google Nest Wifi และความเป็นส่วนตัวของคุณ
- Google Pixel Tablet: วิธีเก็บรวบรวมข้อมูลจาก Pixel Tablet
เปิดอีเมลการตลาดที่คุณไม่ต้องการรับอีกต่อไปแล้วคลิกลิงก์ยกเลิกการสมัคร
ดูวิธีลบบัญชี Google
- Chromecast: การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของ Chromecast
- ลำโพง Google Home และ Nest: รีเซ็ตลำโพงและจอแสดงผลของ Google Nest และ Home เป็นค่าเริ่มต้น
- Google Nest Wifi และ Google Wifi: รีเซ็ตอุปกรณ์ Google Nest Wifi และ Google Wifi เป็นค่าเริ่มต้น
- Google Pixel Tablet: รีเซ็ต Pixel Tablet หรือแท่นชาร์จที่มีลำโพงเป็นค่าเริ่มต้น
- Nest Thermostat: วิธีรีสตาร์ทหรือรีเซ็ต Nest Thermostat
- Nest Guard (Nest Secure): วิธีรีสตาร์ท Nest Guard หรือรีเซ็ตเป็นการตั้งค่าเริ่มต้น
- Nest Detect (Nest Secure): วิธีรีสตาร์ท Nest Detect หรือรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
- Nest × Yale Lock: วิธีรีเซ็ต Nest × Yale Lock เป็นค่าเริ่มต้น
- Nest Protect: วิธีรีเซ็ต Nest Protect และลบการตั้งค่าส่วนบุคคลทั้งหมด
- กล้องหรือกริ่งประตู Nest: รีสตาร์ทหรือรีเซ็ตกล้องหรือกริ่งประตู Nest เป็นค่าเริ่มต้น
- Nest Hub, Nest Hub (รุ่นที่ 2) และ Nest Hub Max: รีเซ็ตลำโพงและจอแสดงผล Google Nest และ Home เป็นค่าเริ่มต้น