เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญและโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์

โฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์แสดงได้ในเว็บไซต์นับล้านๆ แห่งทั่วอินเทอร์เน็ต คุณจึงควรคิดถึงเป้าหมายการโฆษณาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากโอกาสแต่ละครั้งในการปรับปรุงประสิทธิภาพ วิธีการบางส่วนที่คุณใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญบนเครือข่ายดิสเพลย์ได้มีดังนี้

จัดระเบียบแคมเปญตามธีม

แคมเปญควรประกอบด้วยกลุ่มโฆษณาหลายกลุ่ม กลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มควรมีโฆษณาหลายรายการที่ตรงกับวิธีการกำหนดเป้าหมายที่คุณเลือก เช่น คำหลักและโฆษณาของกลุ่มโฆษณามีความเกี่ยวข้องกับธีมเดียวกัน หรือโฆษณาและตำแหน่งของกลุ่มโฆษณาเกี่ยวข้องกับหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง นอกจากนี้ การจัดโครงสร้างแคมเปญด้วยวิธีนี้ยังทำให้คุณจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้ง่ายขึ้นด้วย


จัดกลุ่มรายการคีย์เวิร์ด

เพื่อที่จะจับคู่โฆษณากับคำหลักให้ดีขึ้น คุณควรจัดกลุ่มโฆษณาและคำหลักเข้าเป็นกลุ่มโฆษณาตามผลิตภัณฑ์ บริการ หรือหมวดหมู่อื่นๆ ของคุณ วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถโฟกัสโฆษณาให้เข้าถึงผู้ที่สนใจธุรกิจของคุณมากที่สุด

เมื่อคุณรวมคีย์เวิร์ดในแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายไปยังเครือข่ายดิสเพลย์ ระบบจะใช้คีย์เวิร์ดแต่ละคำในการกำหนดเป้าหมาย และจะถือว่าคีย์เวิร์ดทั้งหมดทำงานแบบกว้าง โฆษณาทั้งหมดในกลุ่มโฆษณาจะใช้รายการคำหลักร่วมกัน ซึ่งรายการดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าที่ต้องการได้ดีที่สุดในกรณีที่มีการกำหนดให้กับโฆษณาในกลุ่มโฆษณาอย่างเฉพาะเจาะจง

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

เขียนโฆษณาที่ดี

เพื่อให้เชื่อมต่อกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น คุณควรสร้างโฆษณาที่ดีงดูดความสนใจได้มากที่สุด ไม่ว่าโฆษณาของคุณจะเป็นโฆษณาแบบข้อความพื้นฐานทั่วไปหรือเป็นโฆษณาแบบรูปภาพ การบอกเล่าเรื่องราวจะช่วยดึงดูดลูกค้ามาที่ธุรกิจของคุณ

เครือข่ายดิสเพลย์รองรับโฆษณาที่สะดุดตาหลากหลายประเภทและรูปแบบ 

โปรดทราบ: บางเว็บไซต์อาจไม่แสดงโฆษณาบางประเภท ดังนั้นคุณควรสร้างโฆษณาในทุกรูปแบบและขนาดเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ได้สูงสุด

คำถามบางข้อที่ควรพิจารณาเมื่อเริ่มสร้างโฆษณามีดังนี้

  • คนประเภทใดที่เรียกดูตำแหน่งบนเว็บไซต์ที่คุณกำหนดเป้าหมาย
  • คุณต้องการให้บุคคลนั้นดำเนินการสิ่งใด
  • คุณมีข้อเสนอพิเศษหรือสิ่งนำเสนอที่น่าสนใจบนเว็บไซต์สำหรับบุคคลนี้หรือไม่
  • คุณแสดงหน้าเว็บที่ไม่ซ้ำใครต่อคนผู้นี้ได้ ซึ่งจะทำให้เขามีแนวโน้มมากขึ้นที่จะดำเนินการตามที่คุณต้องการหรือไม่
  • คุณได้ทดสอบโฆษณาในหลายๆ เวอร์ชันเพื่อหาเวอร์ชันที่ทำงานได้ดีที่สุดหรือยัง

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง


ใช้การแทรกคีย์เวิร์ด

การแทรกคำหลักจะอัปเดตข้อความโฆษณาของคุณโดยอัตโนมัติให้รวมหนึ่งในคำหลักที่เรียกให้โฆษณาแสดง การแทรกคีย์เวิร์ดทำให้โฆษณามีความเกี่ยวข้องกับลูกค้ามากขึ้น และช่วยเพิ่มอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ได้

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง การใช้การแทรกคีย์เวิร์ด

กำหนดเป้าหมายโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่คุณกำหนดค่าแคมเปญ คุณจะต้องเลือกวิธีการเข้าถึงผู้ใช้บนเว็บ วิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็คือ การปรับแต่งคำหลักของคุณ ใช้ตำแหน่งและหัวข้อ ยกเว้นเว็บไซต์ และรีมาร์เก็ตไปยังผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณแล้ว


เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม

คำหลักแต่ละคำของกลุ่มโฆษณาของคุณจะช่วยตัดสินว่า โฆษณาของคุณจะปรากฏที่ใดบนเครือข่ายดิสเพลย์ ผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่พบว่าการมีคำหลัก 5 ถึง 20 คำต่อกลุ่มโฆษณานั้นกำลังดี คำหลักควรมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับโฆษณาในกลุ่มโฆษณานั้น ยิ่งคีย์เวิร์ดมีความเกี่ยวข้องกับโฆษณาและหน้า Landing Page อย่างใกล้ชิดมากเท่าใด ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่โฆษณาจะได้รับการกำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง เลือกคีย์เวิร์ดสำหรับแคมเปญบนเครือข่ายดิสเพลย์


ยกเว้นคีย์เวิร์ดที่ไม่เกี่ยวข้อง

การยกเว้นคำหลักสามารถช่วยคุณป้องกันไม่ให้โฆษณาแสดงบนหน้าเว็บที่มีหัวข้อที่ไม่เกี่ยวข้อง ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องจ่ายให้กับคลิกที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน

ตัวอย่าง

มีผู้ลงโฆษณารายหนึ่งชื่อสิริน เธอขาย "ประตูสำหรับสุนัข" แต่ไม่ขาย "ประตูกระจกเลื่อน" เธอเลือกคำหลักอย่างคำว่า "สุนัข" และ "ประตูสำหรับสุนัข" แต่ยกเว้นคำว่า "กระจก" และ "เลื่อน" การยกเว้นคีย์เวิร์ดกเหล่านี้ป้องกันไม่ให้โฆษณาของเธอแสดงบนหน้าเว็บในเครือข่ายดิสเพลย์ที่เน้นไปที่ประตูกระจกเลื่อน และลดการเข้าชมโฆษณาที่เธอไม่ต้องการ

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง เพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบในแคมเปญ


เลือกตำแหน่งและหัวข้อ

กำหนดเป้าหมายหลายตำแหน่งในเรื่องเดียวกันเพื่อรวมเว็บไซต์ยอดนิยมและเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เฉพาะเจาะจงเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะแสดงโฆษณาของคุณ การกำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังตำแหน่งเดียวหรือ 2-3 ตำแหน่ง จะเป็นการจำกัดโอกาสในการแสดงโฆษณา

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง กำหนดเป้าหมายเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับหัวข้อแบบเจาะจง


ยกเว้นเว็บไซต์และหัวข้อที่ไม่เกี่ยวข้อง

จำกัดไม่ให้โฆษณาแสดงบนเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณด้วยการยกเว้นเว็บไซต์เหล่านั้น คุณสามารถป้อน URL ของตำแหน่งเฉพาะเจาะจงที่ต้องการยกเว้น หรือจะยกเว้นหมวดหมู่เนื้อหาเฉพาะเจาะจงก็ได้ นอกจากนี้ คุณยังมีตัวเลือกในการยกเว้นหน้าเว็บหลายหน้าที่เกี่ยวกับหัวข้อหนึ่งๆ ในคราวเดียวได้อีกด้วย

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง


เข้าถึงผู้คนที่แสดงความสนใจ

คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่สนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการประเภทเดียวกับที่คุณมี และคุณยังสามารถแสดงโฆษณาต่อผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือใช้แอปของคุณด้วยการสร้างแคมเปญรีมาร์เก็ตติ้งได้อีกด้วย

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ปรับราคาเสนอ

เมื่อสร้างแคมเปญใหม่ คุณจะมีตัวเลือกให้กำหนดเป้าหมายไปที่เครือข่ายการค้นหา เครือข่ายดิสเพลย์ หรือทั้ง 2 เครือข่าย ขึ้นอยู่กับเครือข่ายที่คุณกำหนดเป้าหมาย คุณจะต้องติดตามและจัดการราคาเสนอเพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้งบประมาณโฆษณารายวันได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด

หากคุณกำหนดเป้าหมายบนเครือข่ายดิสเพลย์เท่านั้น คุณจะใช้ราคาเสนอเริ่มต้นของกลุ่มโฆษณา ตั้งค่าการเสนอราคาแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับวิธีการกำหนดเป้าหมาย (เช่น การเสนอราคาระดับคีย์เวิร์ดหรือระดับตำแหน่ง) หรือตั้งค่าการปรับราคาเสนอสำหรับวิธีการกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ หากคุณพบว่าโฆษณามีประสิทธิภาพดีมากเมื่อใช้การกำหนดเป้าหมายวิธีใดวิธีหนึ่ง คุณจะช่วยให้โฆษณาแสดงบ่อยขึ้นและได้รับการคลิกมากขึ้นได้โดยการตั้งค่าราคาเสนอที่แตกต่างกัน หรือการปรับราคาเสนออัตโนมัติในการเสนอราคาระดับกลุ่มโฆษณา

ตัวอย่าง

โฆษณาขายประตูสำหรับสุนัขของสิรินทำงานได้ดีในบางเว็บไซต์ที่เธอกำหนดเป้าหมายบนเครือข่ายดิสเพลย์ เธอจึงตัดสินใจที่จะเพิ่มราคาเสนอสำหรับตำแหน่งเฉพาะเจาะจงเพื่อพยายามแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์เหล่านั้นบ่อยขึ้น

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง


มุ่งเน้นที่ต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA)

เราแนะนำให้คุณใช้ข้อมูลของเครื่องมือวัด Conversion และ CPA ไม่ใช่อัตราการคลิกผ่าน (CTR) เพื่อวัดประสิทธิภาพโดยรวมของตำแหน่งโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์

โดยทั่วไป CTR บนเครือข่ายดิสเพลย์จะต่ำกว่าบนเครือข่ายการค้นหา เนื่องจากผู้ใช้มีเป้าหมายที่แตกต่างกันในการเข้าชมหน้าเว็บในเครือข่ายดิสเพลย์ ผู้ใช้ในหน้าเว็บในเครือข่ายดิสเพลย์จะดูข้อมูล ไม่ได้ค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด ให้ตระหนักถึงข้อมูลนี้เสมอเมื่อคุณโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์

  • หากคุณมี CTR ต่ำในเว็บไซต์บนเครือข่ายดิสเพลย์ ไม่ได้หมายความว่าโฆษณาของคุณด้อยประสิทธิภาพ
  • คุณสามารถใช้ CTR สัมพัทธ์ในการวัดว่าโฆษณาของคุณทำงานเป็นอย่างไรในเครือข่ายดิสเพลย์เมื่อเทียบกับโฆษณาของผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ ที่แสดงในเว็บไซต์เดียวกัน นี่เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากกว่า CTR เพียงตัวเดียว
  • ประสิทธิภาพโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์จะไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ คะแนนคุณภาพ ราคาต่อหนึ่งคลิก (CPC) หรือตำแหน่งในหน้าการค้นหาของ Google หรือในหน้าเว็บอื่นๆ ในเครือข่าย Search

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการเสนอราคา CPA เป้าหมาย

หมั่นตรวจสอบประสิทธิภาพโฆษณา

ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ใดที่แสดงโฆษณาของคุณ

การตรวจสอบว่าเว็บไซต์ วิดีโอ และแอปใดที่แสดงโฆษณาของคุณจะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงการแสดงผลบนตำแหน่งที่โฆษณาจะไม่ได้รับคลิก ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าตำแหน่งใดไม่เคยนำไปสู่การคลิกโฆษณาเลย คุณอาจพิจารณายกเว้นตำแหน่งนั้น หรือถ้าตำแหน่งใดนำไปสู่การคลิกเป็นจำนวนมาก คุณอาจต้องการกำหนดเป้าหมายไปยังตำแหน่งนั้นโดยเฉพาะ รวมทั้งกำหนดราคาเสนอที่สูงขึ้น


ใช้เครื่องมือวัด Conversion ของ Google

ติดตามการกระทำเฉพาะเจาะจง (หรือ "Conversion") ที่คุณสร้างจากโฆษณา การตรวจสอบจำนวน Conversion ทั้งหมดและมูลค่าของ Conversion เหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าคุณควรเพิ่มงบประมาณ เปลี่ยนแปลงราคาเสนอ หรือทำการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ กับกลุ่มโฆษณาเพื่อให้ได้รับผู้เข้าชมที่ตรงเป้าหมายยิ่งขึ้น


รักษาแคมเปญโฆษณาให้มีคุณภาพสูงเพื่อการแสดงผลสูงสุด

เว็บไซต์ส่วนใหญ่ในเครือข่ายดิสเพลย์จะแสดงโฆษณาเพียงไม่กี่รายการต่อหน้าเท่านั้น ตำแหน่งโฆษณาของคุณบนหน้าเว็บได้รับผลเป็นอย่างมากจากคะแนนคุณภาพและราคาเสนอของโฆษณาของคุณ หากคุณพบว่าโฆษณาไม่ค่อยแสดงบนเครือข่ายดิสเพลย์ ให้ลองปรับปรุงคะแนนคุณภาพโดยใช้โฆษณาที่เกี่ยวข้องมากขึ้นและการกำหนดเป้าหมายที่มีการปรับแต่ง

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ทราบหรือไม่ว่า...

หากแคมเปญของคุณมี Conversion อย่างน้อย 15 รายการต่อเดือน คุณสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณโดยอัตโนมัติ ในขณะที่คุณยังสามารถควบคุมการกำหนดเป้าหมายได้

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
11567434478106948036
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false