การแจ้งเตือน

Duet AI เปลี่ยนเป็น Gemini สำหรับ Google Workspace แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติม

จัดการฮาร์ดแวร์ของ Google Meet

ใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google เพื่อดู แก้ไข และอัปเดตการตั้งค่าสำหรับฮาร์ดแวร์ของ Google Meet การตั้งค่าบางอย่างจะมีผลในระดับอุปกรณ์แต่ละเครื่อง และบางการตั้งค่าจะมีผลตามหน่วยขององค์กรที่มีอุปกรณ์อยู่ โดยจะขึ้นอยู่กับค่าที่ตั้งไว้ ทั้งนี้คุณต้องมีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบฮาร์ดแวร์ของ Google Meet จึงจะลงชื่อเข้าใช้และเข้าถึงการตั้งค่าได้

เปิดทั้งหมด | ปิดทั้งหมด

การตั้งค่า

หมายเหตุ: งานต่างๆ อาจต้องใช้สิทธิ์เดียวหรือสิทธิ์หลายรายการ คุณสามารถคลิกลิงก์ "ดูข้อมูลเพิ่มเติม" เพื่อดูสิ่งที่ต้องใช้สำหรับแต่ละงาน โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อความหมายของสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ 

เปลี่ยนการตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องสำหรับอุปกรณ์อย่างน้อย 1 เครื่อง
การตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องจะรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงรายการต่อไปนี้

การเปลี่ยนการตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องทำได้ 3 วิธีดังนี้

  1. จากหน้ารายละเอียดอุปกรณ์สำหรับอุปกรณ์ 1 เครื่อง
  2. ใช้การดำเนินการแบบกลุ่มจากหน้ารายการอุปกรณ์ (รองรับเฉพาะการตั้งค่าบางรายการเท่านั้น)
  3. อัปเดตหลายรายการพร้อมกันผ่านไฟล์การส่งออกข้อมูลกลุ่มอุปกรณ์ที่แก้ไขและได้รับการอัปโหลด

โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หัวข้ออัปเดตหลายรายการพร้อมกันในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Google Meet หลายเครื่อง

วิธีเปลี่ยนการตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องสำหรับอุปกรณ์อย่างน้อย 1 เครื่อง

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. Go to Menu จากนั้น Devicesจากนั้นGoogle Meet hardwareจากนั้นDevices.
  3. เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการจากรายการ
  4. คลิกการ์ดการตั้งค่าอุปกรณ์เพื่อขยายรายการการตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องและทำการเปลี่ยนแปลงตามต้องการ

    ฟีเจอร์บางอย่างอาจต้องใช้สิทธิ์จัดการอุปกรณ์สำหรับฮาร์ดแวร์ของ Google Meet

วิธีเปลี่ยนการตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องสำหรับอุปกรณ์สูงสุด 50 เครื่องผ่านการดำเนินการแบบกลุ่ม

สามารถใช้วิธีนี้เพื่อเปลี่ยนแปลงในอุปกรณ์ได้สูงสุด 50 เครื่องพร้อมกัน

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. Go to Menu จากนั้น Devicesจากนั้นGoogle Meet hardwareจากนั้นDevices.
  3. เลือกช่องต่างๆ เพื่อเลือกอุปกรณ์หรือกรองอุปกรณ์ตามหน่วยขององค์กรหรือเกณฑ์อื่นๆ
  4. คลิกเพิ่มเติมเพื่อดูรายการการตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องซึ่งแก้ไขได้ด้วยการดำเนินการแบบกลุ่ม

วิธีเปลี่ยนการตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องสำหรับอุปกรณ์แบบไม่จำกัดจำนวนด้วยการอัปเดตหลายรายการพร้อมกันผ่านการอัปโหลด CSV

สามารถใช้วิธีนี้เพื่ออัปเดตอุปกรณ์หลายพันเครื่องพร้อมกันได้ในครั้งเดียว  โปรดอ่านบทความในศูนย์ช่วยเหลืออย่างละเอียดเกี่ยวกับการอัปเดตหลายรายการพร้อมกันผ่านการอัปโหลด CSV เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ตั้งใจ  การยกเลิกการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นโปรดดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. Go to Menu จากนั้น Devicesจากนั้นGoogle Meet hardwareจากนั้นDevices.
  3. คลิกอัปโหลด เพื่ออัปเดตอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกัน
  4. อ่านวิธีการและคำแนะนำอย่างละเอียด แล้วคลิกต่อไป
  5. ดาวน์โหลดไฟล์การส่งออกข้อมูลกลุ่มอุปกรณ์เวอร์ชันล่าสุด
  6. ทำการเปลี่ยนแปลงตามต้องการกับฟิลด์ที่แก้ไขได้ และนำแถวของอุปกรณ์ที่ไม่ต้องการแก้ไขออก
  7. บันทึกเป็นไฟล์ CSV
  8. อัปโหลดไฟล์ CSV และตรวจสอบไฟล์บันทึกที่สร้างขึ้นเพื่อหาข้อผิดพลาดและตรวจสอบบันทึกการตรวจสอบเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลง
เปลี่ยนการตั้งค่าหน่วยขององค์กร

คุณยังใช้การตั้งค่าต่อไปนี้กับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Google Meet หลายเครื่องตามหน่วยขององค์กรที่มีอุปกรณ์ดังกล่าวอยู่ได้

หมายเหตุ: โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละรายการที่มีผลกับอุปกรณ์แต่ละรุ่นที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. Go to Menu จากนั้น Devicesจากนั้นGoogle Meet hardwareจากนั้นSettings.
  3. ในแผงอุปกรณ์ ให้คลิกการตั้งค่า
  4. เลือกแผงที่มีการตั้งค่าที่ต้องการเปลี่ยน โปรดดูรายการการตั้งค่าทั้งหมดได้ในตารางด้านล่าง
  5. หากต้องการใช้การตั้งค่ากับทุกคน ให้เลือกหน่วยขององค์กรระดับบนสุด หรือเลือกหน่วยขององค์กรระดับล่าง
  6. ในหน้าการตั้งค่าระบบ ให้เปลี่ยนการตั้งค่าอย่างน้อย 1 รายการสำหรับอุปกรณ์ของคุณ 
  7. คลิกบันทึก หากกำหนดค่าหน่วยขององค์กรย่อยแล้ว คุณอาจรับค่าหรือลบล้างการตั้งค่าหน่วยขององค์กรระดับบนสุดได้

การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

การตั้งค่า ระบุ
เวอร์ชันการเผยแพร่

เปลี่ยนให้อุปกรณ์ใช้เวอร์ชันซอฟต์แวร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ของ Google Meet เวอร์ชันเสถียร เสถียรแบบล่าช้า เบต้า และทดสอบ

หมายเหตุ: คุณไม่สามารถอัปเดต Chrome เป็นเวอร์ชันเก่ากว่านี้ได้ การย้ายอุปกรณ์ไปยังเวอร์ชันการเผยแพร่ที่ช้าลงจะไม่ดาวน์เกรดระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์นั้นๆ 
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อเปลี่ยนการอัปเดตอัตโนมัติสําหรับอุปกรณ์ของคุณ

เสถียร - เวอร์ชันที่เชื่อถือได้มากที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้เวอร์ชันการเผยแพร่แบบเสถียรสำหรับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ 

เสถียรแบบล่าช้า: เวอร์ชันการเผยแพร่ซึ่งจะหน่วงเวลาเวอร์ชันเสถียรเป็นเวลา 30 วัน เราขอแนะนำให้ใช้เวอร์ชันการเผยแพร่นี้สำหรับอุปกรณ์ไม่เกิน 1%

เบต้า - เวอร์ชันเสถียรที่กำลังจะเปิดตัว โปรดดูตัวอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าฮาร์ดแวร์ของคุณจะทำงานได้ตามที่คาดหวัง เราขอแนะนำให้ใช้เวอร์ชันการเผยแพร่นี้สำหรับอุปกรณ์ 2-5%

ทดสอบ - ปัญหาข้อบกพร่องและซอฟต์แวร์อาจเกิดขึ้นในเวอร์ชันนี้ โปรดดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงล่าสุดก่อนที่จะไปถึงเวอร์ชันเบต้าเพื่อตรวจหาปัญหาโดยเร็วที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้เวอร์ชันทดสอบสำหรับอุปกรณ์เพียงไม่กี่เครื่องเท่านั้น

คุณจะเปลี่ยนเวอร์ชันการเผยแพร่ในหน่วยขององค์กรระดับบนสุดไม่ได้ หากต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์เป็นเวอร์ชันเบต้าหรือเวอร์ชันสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้ทำดังนี้

  1. เพิ่มหน่วยขององค์กร ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มหน่วยขององค์กร
  2. ย้ายอุปกรณ์ไปยังหน่วยขององค์กรใหม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการย้ายอุปกรณ์ Chrome ไปยังหน่วยขององค์กร
  3. ในหน้าการตั้งค่าและหน้านโยบายสำหรับหน่วยขององค์กรใหม่ ให้เลือกว่าจะอนุญาตให้อุปกรณ์อัปเดตอัตโนมัติหรือไม่

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

การรีบูตแบบกำหนดเวลา

เวลาท้องถิ่นที่อุปกรณ์จะรีบูต ตัวเลือกเริ่มต้นจะเลือกเวลาที่มีการรบกวนน้อยที่สุดเพื่อรีบูตอุปกรณ์

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

เขตเวลา

กำหนดกว่าอุปกรณ์จะใช้เขตเวลาปัจจุบันหรือตั้งค่าเป็นเวลาท้องถิ่น

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

โทรเข้าโทรศัพท์

กำหนดว่าผู้เข้าร่วมจะเข้าร่วมการประชุมทางโทรศัพท์ได้ไหม

ฟีเจอร์นี้จะใช้ได้กับการโทรไปยังสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้นในขณะนี้

อุปกรณ์จะใช้ฟีเจอร์โทรเข้าโทรศัพท์ใน Meet ได้ แต่จะเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ในฮาร์ดแวร์ของ Google Meet ได้ในบางประเทศเท่านั้น

การใช้คำสั่งควบคุมด้วยเสียงผ่าน Ok Google

กำหนดว่าจะเปิดใช้การใช้คำสั่งควบคุมด้วยเสียงผ่าน Ok Google ในอุปกรณ์หรือไม่

โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อใช้การควบคุมด้วยเสียงผ่าน Ok Google ในการประชุมทางวิดีโอ

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

หน้าจอหลัก เปลี่ยนวอลเปเปอร์และธีมหน้าจอหลักที่ปรากฏในอุปกรณ์
การประหยัดพลังงานจอแสดงผล

กำหนดว่าจะให้จอแสดงผลปิดโดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งานหรือไม่ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อจัดการการตั้งค่าการประหยัดพลังงาน

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

ภาพพักหน้าจอ

กำหนดว่าอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Meet ขององค์กรจะแสดงรูปภาพที่กำหนดเองเมื่อไม่มีการใช้งานหรือไม่ และจะแสดงรูปภาพเมื่อใด

โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อแสดงภาพพักหน้าจอที่กำหนดเอง

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

ผู้รับการแจ้งเตือน อีเมลและหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการแจ้งเตือนแบบออฟไลน์หรือในอุปกรณ์ต่อพ่วง

การแจ้งเตือนเมื่อออฟไลน์

วิธีส่งการแจ้งเตือน (อีเมลหรือข้อความ)

ระบบจะส่งการแจ้งเตือนเมื่อฮาร์ดแวร์ของ Google Meet ตรวจพบปัญหาที่แก้ไขโดยอัตโนมัติไม่ได้ เช่น เมื่ออุปกรณ์ขาดการเชื่อมต่อเครือข่าย

ระบบจะส่งข้อความอีกฉบับเมื่อแก้ไขปัญหาแล้ว โปรดดูรายละเอียดในหัวข้อการแจ้งเตือนเรื่องปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อและอุปกรณ์ต่อพ่วง

การแจ้งเตือนเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วง

วิธีส่งการแจ้งเตือน (อีเมลหรือข้อความ)

ระบบจะส่งการแจ้งเตือนเมื่อฮาร์ดแวร์ของ Google Meet ตรวจพบปัญหาที่แก้ไขโดยอัตโนมัติไม่ได้ เช่น เมื่ออุปกรณ์ต่อพ่วงหายไปหรือไม่ทำงาน

ระบบจะส่งข้อความอีกฉบับเมื่อแก้ไขปัญหาแล้ว โปรดดูรายละเอียดในหัวข้อการแจ้งเตือนเรื่องปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อและอุปกรณ์ต่อพ่วง

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

รายงานการวินิจฉัย

กำหนดว่าอุปกรณ์จะส่งข้อมูลการใช้งาน การวินิจฉัยโดยละเอียด รวมถึงความคิดเห็นของผู้ใช้ให้ Google เพื่อช่วยปรับปรุงฮาร์ดแวร์ของ Meet หรือไม่

บันทึกและความคิดเห็น

กำหนดว่าฮาร์ดแวร์ของ Google Meet จะอัปโหลดบันทึกของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ไม่ได้ระบุให้ Google วันละ 2 ครั้งหรือไม่ ทีมสนับสนุนของ Google Workspace จะเข้าถึงบันทึกเหล่านี้เพื่อการแก้ปัญหาที่ผู้ดูแลระบบของโดเมนนี้รายงาน การเปิดใช้การตั้งค่านี้จะรวมบันทึกของอุปกรณ์ในรายงานความคิดเห็นของผู้ใช้ที่ส่งให้ Google ด้วย บันทึกของอุปกรณ์ประกอบด้วยบันทึกของระบบปฏิบัติการ, บันทึกของ Chrome, การวินิจฉัยอุปกรณ์ต่อพ่วง และเมตริกจากการประชุม

เลือกช่องแจ้งเตือนบุคคลในรายชื่อติดต่อของผู้ดูแลระบบเมื่อมีผู้ใช้ส่งความคิดเห็นเพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้ส่งรายงานความคิดเห็นไปยัง Google ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังอีเมลที่คุณระบุในส่วนรายละเอียดการติดต่อของผู้ดูแลระบบโดเมน ซึ่งจะมีข้อมูล เช่น หมายเลขซีเรียลของอุปกรณ์และหมวดหมู่ของความคิดเห็น

การรายงานสถานะอุปกรณ์ กำหนดว่าอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนในองค์กรของคุณจะรายงานสถานะของอุปกรณ์ให้ Google และผู้ดูแลระบบทราบหรือไม่ รายงานนี้จะประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้
  • ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเวอร์ชันระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์
  • ระบุว่าอุปกรณ์ออนไลน์หรือไม่
  • ระบุว่าอุปกรณ์ได้รับการอัปเดตและเป็นไปตามนโยบายโดเมนหรือไม่

โดยข้อมูลบางส่วนนี้จะปรากฏในคอนโซลผู้ดูแลระบบ 

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

การรายงานข้อผิดพลาด

กำหนดว่าอุปกรณ์ Chrome จะส่งสถิติการใช้งานของ Google และรายงานข้อขัดข้องเมื่อระบบหรือเบราว์เซอร์ดำเนินการไม่สำเร็จหรือไม่

สถิติการใช้งานประกอบด้วยข้อมูลแบบรวม เช่น ค่ากำหนด ปุ่ม การคลิก และการใช้หน่วยความจำ แต่ไม่รวมถึง URL ของหน้าเว็บหรือข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนรายงานข้อขัดข้องนั้นจะประกอบด้วยข้อมูลระบบในเวลาที่มีข้อขัดข้อง และอาจประกอบด้วย URL ของหน้าเว็บหรือข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่มีข้อขัดข้อง

หมายเหตุ: อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับการตั้งค่านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้อการตั้งค่าของผู้ดูแลระบบที่ไม่รองรับสำหรับรุ่นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ ChromeOS

การโทรทั่วโลก ผู้เข้าร่วมจะโทรเข้าหรือเพิ่มผู้อื่นด้วยโทรศัพท์ได้โดยใช้ชุดหมายเลขที่ขยายออก ดูรายละเอียดที่หัวข้อตั้งค่าการโทรทั่วโลกด้วย Google Meet

อุปกรณ์และอุปกรณ์ต่อพ่วง

ตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อ
คุณตรวจสอบสถานะการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Meet ได้ รวมถึงลำดับเวลาที่อุปกรณ์และอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เกี่ยวข้องประสบปัญหา
  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. Go to Menu จากนั้น Devicesจากนั้นGoogle Meet hardwareจากนั้นDevices.
  3. คอลัมน์สถานะการเชื่อมต่อจะแสดงสถานะสำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Google Meet
  4. ในข้อมูลสรุปด้านบน ให้คลิกจำนวนออฟไลน์เพื่อกรองผลลัพธ์เป็นอุปกรณ์ที่ออฟไลน์อยู่เท่านั้น
  5. คอลัมน์ปัญหาในการเชื่อมต่อในช่วง 28 วันที่ผ่านมาจะแสดงจำนวนครั้งที่ฮาร์ดแวร์ของ Meet ออฟไลน์เมื่อเร็วๆ นี้
    เคล็ดลับ: คลิกจัดการคอลัมน์ เพื่อเพิ่มหรือนำคอลัมน์ออก
  6. คลิกออฟไลน์ในคอลัมน์สถานะการเชื่อมต่อเพื่อดูข้อมูลปัญหาโดยละเอียด ได้แก่
    • เมื่อระบบตรวจพบปัญหา
    • เวลาที่ส่งต่อปัญหา
      ระบบจะส่งต่อปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่ายหลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที หากต้องการให้มีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โปรดดูหัวข้อรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเชื่อมต่อและอุปกรณ์ต่อพ่วง 
    • รายละเอียดของปัญหาและการดำเนินการที่แนะนำ
  7. คลิกประวัติปัญหาเพื่อดูลำดับเวลาที่ผ่านมาของความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงปัญหาการเชื่อมต่อและปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วง
    • คลิกตัวกรองวันที่หรือปัญหาเพื่อปรับแต่งผลลัพธ์
    • วางเมาส์เหนือปัญหาในลำดับเวลาเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่ปัญหาเพื่อดูข้อมูลและคำแนะนำโดยละเอียด
  Monitor status of peripherals.
ตรวจสอบสถานะของอุปกรณ์ต่อพ่วง

สถานะของอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมด

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. Go to Menu จากนั้น Devicesจากนั้นGoogle Meet hardwareจากนั้นDevices.
  3. คอลัมน์สถานะของอุปกรณ์ต่อพ่วงจะแสดงสถานะสำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Google Meet
  4. ในข้อมูลสรุปด้านบน ให้คลิกจำนวนมีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อกรองผลลัพธ์
  5. มีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วงใน 28 วันที่ผ่านมาจะแสดงจำนวนของปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
    เคล็ดลับ: คลิกจัดการคอลัมน์ เพื่อเพิ่มหรือนำคอลัมน์ออก
  6. คลิกปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น ไม่มีไมโครโฟน เพื่อดูข้อมูลโดยละเอียด ได้แก่
    • เมื่อระบบตรวจพบปัญหา
    • เวลาที่ส่งต่อปัญหา
      ระบบจะส่งต่อปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่ายหลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที หากต้องการให้มีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โปรดดูหัวข้อรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเชื่อมต่อและอุปกรณ์ต่อพ่วง 
    • รายละเอียดของปัญหาและการดำเนินการที่แนะนำ
  7. คลิกประวัติปัญหาเพื่อดูลำดับเวลาที่ผ่านมาของความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงปัญหาการเชื่อมต่อและปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วง
    • คลิกตัวกรองวันที่หรือปัญหาเพื่อปรับแต่งผลลัพธ์ 
    • วางเมาส์เหนือปัญหาในลำดับเวลาเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม  คลิกที่ปัญหาเพื่อดูข้อมูลและคำแนะนำโดยละเอียด
  1. สถานะของอุปกรณ์ต่อพ่วง
  2. มีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วง
  3. ตัวอย่างปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วง
  4. ประวัติปัญหา

ดูสถานะของอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการ

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. Go to Menu จากนั้น Devicesจากนั้นGoogle Meet hardwareจากนั้นDevices.
  3. คลิกอุปกรณ์ที่ต้องการดู
    ไอคอนต่อไปนี้จะระบุว่ามีการเชื่อมต่อ ยกเลิกการเชื่อมต่อ หรือมีอุปกรณ์ต่อพ่วงซึ่งอุปกรณ์ห้องประชุมไม่รองรับหรือไม่
    • ใช้ได้ หมายความว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเชื่อมต่ออยู่และทำงานได้อย่างถูกต้อง
    • ไม่รองรับ หมายความว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเชื่อมต่ออยู่ (ออนไลน์) แต่ระบบไม่รองรับ 
    • ไม่ทำงาน แสดงว่าเกิดปัญหากับอุปกรณ์ต่อพ่วง 
    • ไอคอนสีจางหมายความว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงออฟไลน์อยู่
  4. ดูส่วนอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เชื่อมต่อเพื่อดูภาพรวมปัจจุบันของอุปกรณ์
  5. คลิกปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น ไม่มีไมโครโฟน เพื่อดูข้อมูลโดยละเอียด ได้แก่
    • เมื่อระบบตรวจพบปัญหา
    • เวลาที่ส่งต่อปัญหา
      ระบบจะส่งต่อปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่ายหลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที หากต้องการให้มีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โปรดดูหัวข้อรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเชื่อมต่อและอุปกรณ์ต่อพ่วง 
    • รายละเอียดของปัญหาและการดำเนินการที่แนะนำ
  6. คลิกประวัติปัญหาเพื่อดูลำดับเวลาที่ผ่านมาของความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงปัญหาการเชื่อมต่อและปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วง
    • คลิกตัวกรองวันที่หรือปัญหาเพื่อปรับแต่งผลลัพธ์ 
    • วางเมาส์เหนือปัญหาในลำดับเวลาเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม  คลิกที่ปัญหาเพื่อดูข้อมูลและคำแนะนำโดยละเอียด
บางครั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ไม่รองรับอาจปรากฏเป็น "สงสัยว่าอุปกรณ์ขาดหายไป" โปรดตรวจสอบว่าคุณตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ไม่รองรับเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับอุปกรณ์นั้น โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้นด้านล่าง
ตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้น

เมื่อสิ้นสุดการประชุมแต่ละครั้ง ระบบจะรีเซ็ตการตั้งค่าเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ Google รองรับโดยอัตโนมัติ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่หัวข้ออุปกรณ์ต่อพ่วงที่ฮาร์ดแวร์ของ Google Meet รองรับ คุณจะใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google เพื่อตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้นได้

วิธีตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้น

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. ไปที่เมนู จากนั้น อุปกรณ์จากนั้นฮาร์ดแวร์ของ Google Meetจากนั้นอุปกรณ์
  3. คลิกอุปกรณ์ที่ต้องการตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้น
  4. ในส่วนอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เชื่อมต่อ ให้เลื่อนเมาส์ไปยังอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ต้องการตั้งเป็นค่าเริ่มต้น แล้วคลิกตั้งเป็นค่าเริ่มต้น

การเปลี่ยนแปลงค่าเริ่มต้นของคุณจะมีผลเมื่อสิ้นสุดการประชุมครั้งถัดไป

หมายเหตุ: หากตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้นแล้ว ระบบจะแจ้งเตือนปัญหาเมื่อค่าเริ่มต้นดังกล่าวหายไป  และหากกำหนดค่าการแจ้งเตือนเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วงไว้ ผู้ดูแลระบบจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลและ/หรือทาง SMS ด้วย  ทั้งนี้ คุณจะแก้ไขปัญหานี้ได้โดยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้นอีกครั้ง แล้วตั้งค่าเริ่มต้นใหม่ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ หรือล้างข้อมูลจากค่าเริ่มต้นดังกล่าว

ล้างข้อมูลอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้น

วิธีล้างข้อมูลอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้น

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. ไปที่เมนู จากนั้น อุปกรณ์จากนั้นฮาร์ดแวร์ของ Google Meetจากนั้นอุปกรณ์
  3. คลิกอุปกรณ์ที่ต้องการตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้น
  4. ในส่วนอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เชื่อมต่อ ให้คลิกล้างจากค่าเริ่มต้นถัดจากอุปกรณ์ต่อพ่วง

การเปลี่ยนแปลงค่าเริ่มต้นของคุณจะมีผลเมื่อสิ้นสุดการประชุมครั้งถัดไป

หมายเหตุ: หากตั้งค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้นแล้ว ระบบจะแจ้งเตือนปัญหาเมื่อค่าเริ่มต้นดังกล่าวหายไป  และหากกำหนดค่าการแจ้งเตือนเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อพ่วงไว้ ผู้ดูแลระบบจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลและ/หรือทาง SMS ด้วย  ทั้งนี้ คุณจะแก้ไขปัญหานี้ได้โดยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงเริ่มต้นอีกครั้ง แล้วตั้งค่าเริ่มต้นใหม่ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ หรือล้างข้อมูลจากค่าเริ่มต้นดังกล่าว

อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติสำหรับชุดฮาร์ดแวร์ของ Google Meet

ใช้โปรแกรมตรวจสอบคุณสมบัติอุปกรณ์ต่อพ่วงของ Google Meet เพื่อดูว่าอุปกรณ์ต่อพ่วงของบริษัทอื่นที่คุณเลือกจะใช้งานร่วมกับฮาร์ดแวร์ของ Google Meet ได้หรือไม่ โดยโปรแกรมนี้กำหนดให้มีการทดสอบคุณภาพ ความเสถียร และความสามารถในการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ต่อพ่วงจากห้องแล็บของพาร์ทเนอร์ของ Google อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจะได้รับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านอากาศ (OTA) โดยอัตโนมัติ

หากคุณเป็นผู้ให้บริการหรือผู้ผลิต โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดและกระบวนการในส่วนโปรแกรมตรวจสอบคุณสมบัติอุปกรณ์ต่อพ่วงของฮาร์ดแวร์ Google Meet

อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ผ่านการอนุมัติ

อุปกรณ์ต่อไปนี้ได้รับการอนุมัติให้ใช้ร่วมกับฮาร์ดแวร์ Google Meet ได้ แผนภาพนี้แสดงการกำหนดค่าอุปกรณ์ต่อพ่วงและสายเคเบิลที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ

หมายเหตุ: อุปกรณ์ต่อพ่วงจะใช้ได้เฉพาะในฮาร์ดแวร์ของ Meet ที่ใช้ ChromeOS เท่านั้น อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ของ Meet ที่ใช้ Android จะไม่รองรับอุปกรณ์ต่อพ่วง 

Configuration diagram of Chromebox with USB hub.

ตัวควบคุมหน้าจอสัมผัส

ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
Mimo Vue HDMI
Mimo Myst Capture
Logitech     Tap

กล้อง

ประเภทอุปกรณ์ ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
กล้องที่หมุนบิดซูมได้ (PTZ) แบบดิจิทัล Huddly เว็บแคม Huddly IQ 4K
กล้องสปีดโดม (PTZ) แบบดิจิทัล AVer AVer CAM340+
กล้องสปีดโดม (PTZ) แบบดิจิทัล Huddly เว็บแคม Huddly GO 4K
กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบกลไก Logitech Logitech PTZ Pro 2
กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบกลไก Logitech Logitech Rally Camera
กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบกลไก AVer AVer CAM520
กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบกลไก AVer AVer CAM540 

กล้องไวท์บอร์ด

ประเภทอุปกรณ์ ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
กล้องไวท์บอร์ด Logitech Scribe

เสียง 

ประเภทอุปกรณ์ ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
เสียงเข้าและออก AVer AVer Fone540
เสียงเข้าและออก Google ไมค์ลำโพงสำหรับฮาร์ดแวร์ของ Google Meet
เสียงเข้าและออก Logitech ระบบ Logitech Rally
เสียงเข้าและออก Shure ระบบเสียง MXA910, P300 และ MXN5W-C
เสียงเข้าและออก Shure MXA902 และ ANIUSB-MATRIX
เสียงเข้าและออก Shure MXA920, MXN5W-C และ ANIUSB-MATRIX

ครบวงจร

ประเภทอุปกรณ์ ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
เสียงเข้าและออก + กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบกลไก Logitech Logitech Rally Bar
เสียงเข้าและออก + กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบกลไก Logitech Logitech Rally Bar Mini 
เสียงเข้าและออก + กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบดิจิทัล Logitech Logitech Rally Bar Huddle
เสียงเข้าและออก + กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบกลไก Logitech Logitech Meetup
เสียงเข้าและออก + กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบดิจิทัล Poly Poly Studio USB
เสียงเข้าและออก + กล้อง PTZ ที่ใช้ระบบดิจิทัล Poly Poly Studio R30

ตัวประมวลผลเสียงสำหรับการผสานรวม

ตัวประมวลผลเสียงระดับมืออาชีพสำหรับโครงการการผสานรวมที่กำหนดเอง โปรดติดต่อผู้ผลิตเพื่อรับรายละเอียดการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง

ประเภทอุปกรณ์ ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
Audio DSP QSC แพลตฟอร์ม Q-SYS
Audio DSP Biamp ซีรีส์ TesiraFORTE

ฮับและสายเคเบิล USB

ประเภทอุปกรณ์ ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
ฮับของสายเคเบิล (A[M]/B[M]) Lindy สายเคเบิลต่อเสริมยาว 5 ม. สำหรับ USB 3.0
ฮับของสายเคเบิล (A[M]/B[M]) Newnex สายเคเบิลต่อเสริมยาว 5 ม. สำหรับ USB 3.0
ฮับของสายเคเบิล (A[M]/B[M]) Newnex สายเคเบิลต่อเสริมยาว 10 ม. สำหรับ USB 3.0
ฮับของสายเคเบิล (A[M]/B[M]) Newnex สายเคเบิลต่อเสริมยาว 20 ม. สำหรับ USB 3.0
ฮับของสายเคเบิล (A[M]/B[M]) Startech สายเคเบิลต่อเสริมยาว 10 ม. สำหรับ USB 3.0
สายเคเบิลสำหรับกล้อง (C[M]/A[M]) Elka สายเคเบิลแบบทำมุมฉากยาว 2 ม. สำหรับ USB 3.1 Gen 1 Type C to A
สายเคเบิลสำหรับกล้อง (A[M]/A[F]) Lindy สายเคเบิลต่อเสริมยาว 5 ม. สำหรับ USB 3.0
สายเคเบิลสำหรับกล้อง (A[M]/A[F]) Newnex สายเคเบิลต่อเสริมยาว 5 ม. สำหรับ USB 3.0
สายเคเบิลสำหรับกล้อง (A[M]/A[F]) Newnex สายเคเบิลต่อเสริมยาว 10 ม. สำหรับ USB 3.0
สายเคเบิลสำหรับกล้อง (A[M]/A[F]) Newnex สายเคเบิลต่อเสริมยาว 16 ม. สำหรับ USB 3.0
สายเคเบิลสำหรับกล้อง (A[M]/A[F]) Telycam สายเคเบิลต่อเสริมยาว 30 ม. สำหรับ USB 3.0
ฮับ Icron ฮับของพอร์ต USB 3.0 แบบ 4 ช่องสำหรับอุตสาหกรรม
(ขยาย USB ได้สูงสุดถึง 100 เมตร โดยใช้สาย CAT 6a)
ฮับ Lindy ฮับของพอร์ต USB 3.0 แบบ 7 ช่องสำหรับอุตสาหกรรม
ฮับ Newnex ฮับของพอร์ต USB 3.0 แบบ 2 ช่องสำหรับอุตสาหกรรม
ฮับ Newnex ฮับของพอร์ต USB 3.0 แบบ 4 ช่องสำหรับอุตสาหกรรม
ฮับ Startech ฮับของพอร์ต USB 3.0 แบบ 4 ช่องสำหรับอุตสาหกรรม
ฮับ j5create ฮับของพอร์ต USB 3.0 แบบ 7 ช่องสำหรับอุตสาหกรรม

อะแดปเตอร์ USB-C to HDMI - เอาต์พุต

แนะนำให้ใช้สำหรับการตั้งค่า Google Meet แบบจอแสดงผลคู่ซึ่งใช้ CN65 Chromebox

ประเภทอุปกรณ์ ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
อะแดปเตอร์ USB-C to HDMI 2.0     Accell อะแดปเตอร์ USB-C to HDMI 2.0 - รองรับ CEC

อะแดปเตอร์ USB-C to HDMI - อินพุต

ใช้เพื่อเชื่อมต่อ USB-C ของแล็ปท็อปเข้ากับอินพุต HDMI ของตัวควบคุมหน้าจอสัมผัสจาก MIMO หรือ Tap

ประเภทอุปกรณ์ ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
อะแดปเตอร์ USB-C to HDMI     Moshi     อะแดปเตอร์ USB-C to HDMI
อะแดปเตอร์ USB-C to HDMI 2.0 Google อะแดปเตอร์ USB-C to HDMI 2.0

อุปกรณ์ที่ไม่รองรับ

คุณจะใช้อุปกรณ์และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ของบริษัทอื่นกับฮาร์ดแวร์ของ Google Meet ได้ แต่ระบบจะไม่รองรับ และไม่มีการอัปเดต

โปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของตัวสลับ HDMI เมื่อนำเสนอในห้องประชุมที่หัวข้อปัญหาที่ทราบ

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับการรองรับสำหรับห้องแชทที่เปิดใช้ Logitech Swytch

ผู้ใช้จะเชื่อมต่อห้องฮาร์ดแวร์ของ Meet กับอุปกรณ์ส่วนตัวได้ชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์ Swytch แต่อุปกรณ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ผ่านการรับรอง Google จึงไม่มีบริการสนับสนุนคอมโพเนนต์นี้ในห้องแชทที่เปิดใช้ Swytch

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับการให้บริการสนับสนุนห้องแชทที่เปิดใช้ Swytch ที่หัวข้อติดต่อทีมสนับสนุนของ Google

อุปกรณ์ต่อพ่วงที่รองรับระบบเดิมสำหรับฮาร์ดแวร์ของ Google Meet

อุปกรณ์ต่อพ่วงเหล่านี้รองรับการติดตั้งแบบเดิม

เสียง

ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
Jabra SPEAK 410
Jabra SPEAK 510
Jabra SPEAK 810
RevoLabs FLX UC 500
ClearOne Chat 150

กล้อง

ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
Logitech HD Pro Webcam C920
Logitech Webcam C920
Logitech Webcam C930e
Logitech ConferenceCam
Logitech กล้อง PTZ Pro
Vaddio RoboSHOT 12 USB

ฮับและสายเคเบิล USB

ผู้ผลิต ชื่ออุปกรณ์
Lindy ฮับของพอร์ต USB 3.0 แบบ 4 ช่อง ยาว 10 ม. สำหรับการใช้งานระยะไกล


Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง

 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เริ่มต้นการทดลองใช้งานฟรี 14 วันได้เลย

อีเมลระดับมืออาชีพ พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ การแชร์ปฏิทิน การประชุมวิดีโอ และอื่นๆ เริ่มต้นการทดลองใช้งาน G Suite ฟรีวันนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
2541403883470329267
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73010
false
false