[GA4] วัดและเพิ่มประสิทธิภาพ App Campaign โดยใช้ข้อมูล Google Analytics 4

การใช้ Google Analytics 4 (GA4) ร่วมกับ SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase (SDK ของ GA4F) จะให้ข้อมูลวิเคราะห์ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวและมีความครอบคลุม เพื่อช่วยให้คุณวัดผลและเพิ่มประสิทธิภาพของ App Campaign ได้ดีขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์และฟีเจอร์ที่คุณจะได้รับเมื่อใช้ Google Analytics 4

คู่มือนี้อธิบายกระบวนการแบบทีละขั้นตอนที่ครอบคลุมในการผสานรวม Google Analytics 4 และ SDK ของ Google Analytics สำหรับ Firebase เข้ากับการเสนอราคาของ Google Ads


ก่อนเริ่มต้น

ก่อนเริ่มต้น โปรดตรวจสอบว่าคุณมีสิ่งต่อไปนี้


เริ่มต้นใช้งาน Google Analytics 4

หากต้องการเสนอราคาสำหรับเหตุการณ์แอปด้วย Google Ads ที่ใช้ GA4 ให้สําเร็จ ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เพิ่ม SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase ในแอป
  2. ใช้การติดตามเหตุการณ์
  3. เปิดใช้ Google Analytics 4 สําหรับโปรเจ็กต์
  4. ลิงก์ Google Play หากแอปมีเหตุการณ์ in_app_purchase
  5. ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญ
  6. ลิงก์กับ Google Ads
  7. สร้าง Conversion ของ Google Ads โดยอิงตามเหตุการณ์สำคัญ
  8. เปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติ
  9. เสนอราคาเพื่อให้ได้ Conversion

ขั้นตอนที่ 1 จาก 9: เพิ่ม SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase ในแอป

SDK ของ Google Analytics สําหรับ Firebase (GA4F) เป็นโค้ดที่ต้องติดตั้งใช้งานในแอป ดูวิธีการติดตั้งใช้งานและเอกสารประกอบสำหรับนักพัฒนาแอปทั้งหมดได้จากลิงก์ต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 2 จาก 9: ใช้การติดตามเหตุการณ์

SDK ของ GA4F จะรวบรวมบางเหตุการณ์โดยอัตโนมัติ ได้แก่ first_open และ first_open ซึ่งไม่ต้องใช้โค้ดเพิ่มเติมเพื่อบันทึก

ติดตั้งใช้งานเหตุการณ์เพิ่มเติมด้วยการบันทึกเหตุการณ์โดยใช้ SDK ของ GA4F

สําหรับเหตุการณ์ที่แนะนําโดยทั่วไป โปรดอ่านเหตุการณ์ที่แนะนํา

ขั้นตอนที่ 3 จาก 9: เปิดใช้ Google Analytics 4 สําหรับโปรเจ็กต์

ขั้นตอนที่ 4 จาก 9: ลิงก์ Google Play หากแอปมีเหตุการณ์ in_app_purchase

คุณจะลิงก์ Google Play จาก Google Analytics 4 หรือคอนโซล Firebase ก็ได้

  1. เปิดคอนโซล Firebase เลือกโปรเจ็กต์ แล้วคลิก ไอคอนการตั้งค่า
  2. เลือกการตั้งค่าโปรเจ็กต์
  3. คลิกแท็บการผสานรวมในหน้าการตั้งค่าโปรเจ็กต์
  4. ในการ์ด Google Play ให้คลิกลิงก์
  5. คลิกลิงก์กับ Google Play ในกล่องป๊อปอัป "ลิงก์กับ Google Play"

ยืนยันว่าลิงก์แอปอย่างถูกต้องแล้ว สถานะควรเป็น "ลิงก์แล้ว"

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลิงก์ Google Play กับ Firebase และการลิงก์บัญชีนักพัฒนาแอปกับบริการของ Google

ขั้นตอนที่ 5 จาก 9: ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญ

  1. ในส่วนผู้ดูแลระบบ ในส่วนการแสดงข้อมูล ให้คลิกเหตุการณ์
    ลิงก์ก่อนหน้าจะเปิดพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ล่าสุดที่คุณเข้าถึง คุณเปลี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ได้โดยใช้ตัวเลือกพร็อพเพอร์ตี้ คุณต้องเป็นผู้ดูหรืออยู่ในระดับสูงกว่านั้น ที่ระดับพร็อพเพอร์ตี้ถึง ทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญ
  2. เปิดสวิตช์ในคอลัมน์ "ทําเครื่องหมายเป็นเหตุการณ์สําคัญ"

อย่าลืมทําเครื่องหมายเหตุการณ์ที่ต้องใช้เป็นเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งก็คือเหตุการณ์ที่คุณวางแผนจะใช้สําหรับการเสนอราคาใน App Campaign ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทําเครื่องหมายเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์สําคัญ

ขั้นตอนที่ 6 จาก 9: ลิงก์กับ Google Ads

เปิดใช้การเสนอราคาเพื่อให้ได้ Conversion ของแอปโดยการเชื่อมต่อสตรีมข้อมูลแอปใน Google Analytics กับบัญชี Google Ads คุณสามารถลิงก์ Google Analytics 4 กับ Google Ads จาก GA4 ได้โดยทําตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ในส่วนผู้ดูแลระบบ ในส่วน "ลิงก์ผลิตภัณฑ์" ให้คลิกลิงก์ Google Ads
    ลิงก์ก่อนหน้าจะเปิดพร็อพเพอร์ตี้ Analytics ล่าสุดที่คุณเข้าถึง คุณเปลี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ได้โดยใช้ตัวเลือกพร็อพเพอร์ตี้ คุณต้องเป็นผู้แก้ไขหรืออยู่ในระดับสูงกว่านั้น ที่ระดับพร็อพเพอร์ตี้ถึง ลิงก์ Google Ads
  2. คลิกลิงก์
  3. คลิกเลือกบัญชี Google Ads จากนั้นเลือกบัญชี Google Ads ที่ต้องการลิงก์
  4. คลิกยืนยัน
  5. คลิกถัดไป
  6. ระบบจะเปิดตัวเลือกเปิดใช้โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้โดยค่าเริ่มต้น
    • หากปิดใช้โฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ คุณจะใช้รายการ Firebase/GA4 สำหรับการรีมาร์เก็ตติ้งใน App Campaign หรือแคมเปญบนเว็บไม่ได้
  7. ขยายตัวเลือก "เปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติ" เพื่อเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติ หรือปล่อยการตั้งค่าการติดแท็กอัตโนมัติไว้ตามเดิม
    • หากคุณเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติเมื่อลิงก์กับบัญชีดูแลจัดการ ระบบจะเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติในทุกบัญชี Google Ads ที่ลิงก์กับบัญชีดูแลจัดการนั้นโดยตรง
    • การติดแท็กอัตโนมัติจำเป็นสำหรับการติดตาม Conversion ของแอปในแคมเปญเพื่อการมีส่วนร่วมและแคมเปญบนเว็บ
  8. คลิกถัดไป แล้วตรวจสอบการตั้งค่า
  9. คลิกส่งเพื่อลิงก์บัญชีกับการตั้งค่าปัจจุบัน

ขั้นตอนที่ 7 จาก 9: สร้าง Conversion ของ Google Ads โดยอิงตามเหตุการณ์สำคัญ

ภาพเคลื่อนไหวที่แสดงวิธีนําเข้าแอป Firebase ใน Google Ads

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย ไอคอนเป้าหมาย
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกสรุป
  4. คลิก + การกระทําที่ถือเป็น Conversion ใหม่
  5. เลือกแอปจากรายการประเภท Conversion
  6. คลิกพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 แล้วคลิกดำเนินการต่อ
  7. เลือกช่องถัดจากเหตุการณ์สําคัญ แล้วคลิกนําเข้าและดำเนินการต่อ
  8. คลิกเสร็จสิ้น
หมายเหตุ: หากต้องการสร้าง Conversion ตามเหตุการณ์สําคัญใน iOS ของ GA4 ให้เพิ่มรหัส App Store ลงในโปรเจ็กต์ Firebase หากต้องการเข้าถึง IDFA ให้เปิดใช้เฟรมเวิร์ก AdSupport ในโปรเจ็กต์ XCode ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AdSupport จากเอกสารประกอบของ Apple

ขั้นตอนที่ 8 จาก 9: เปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติ

การติดแท็กอัตโนมัติจำเป็นสำหรับการติดตาม Conversion ของแคมเปญเพื่อการมีส่วนร่วมในแอปและแคมเปญบนเว็บที่มีเป้าหมายของแอป

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนผู้ดูแลระบบ ไอคอนการตั้งค่า
  2. คลิกการตั้งค่าบัญชี
  3. คลิกส่วนการติดแท็กอัตโนมัติ
  4. คุณสามารถตรวจสอบสถานะปัจจุบันของการติดแท็กอัตโนมัติในบัญชีได้ หากต้องการเปิดหรือปิดการติดแท็กอัตโนมัติ ให้คลิกเพื่อเลือกหรือยกเลิกการเลือกช่องถัดจาก "ติดแท็ก URL ที่ผู้ใช้คลิกผ่านจากโฆษณาของฉัน"
  5. คลิกบันทึก

ภาพแสดงวิธีเปิดใช้การติดแท็กอัตโนมัติใน Google Ads

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดแท็กอัตโนมัติ

ขั้นตอนที่ 9 จาก 9: เสนอราคาเพื่อให้ได้ Conversion

หลังจากที่สร้าง Conversion โดยอิงตามเหตุการณ์สำคัญแล้ว คุณจะเริ่มการเสนอราคาเพื่อให้ได้ Conversion ได้โดยเริ่มต้นด้วย App Campaign หรือเลือกแคมเปญที่เหมาะสมซึ่งใช้ Conversion ของแอปได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมาย Conversion และการใช้เป้าหมาย Conversion เป็นแนวทางสําหรับแคมเปญใหม่

หากคุณเสนอราคาสำหรับ Conversion ที่นําเข้าจาก SDK ของแอปอื่นอยู่แล้ว และต้องการเริ่มใช้ GA4 สําหรับการเสนอราคา ให้ทําตามวิธีการย้ายข้อมูล App Campaign เพื่อใช้ Google Analytics 4


Web to App Connect

หากลงแคมเปญ Search, Performance Max และ/หรือ Shopping นอกเหนือจาก App Campaign คุณสามารถใช้ Web to App Connect เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นผ่านการผสานรวมแบบเว็บไซต์ไปยังแอปที่ราบรื่น สําหรับผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ติดตั้งแอปของคุณ คุณสามารถใช้ Web to App Connect เพื่อนําลูกค้าไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่าน Deep Link ในโฆษณาของแคมเปญ Search, Performance Max และ Shopping

เมื่อทำ Deep Link ไปยังหน้าหนึ่งๆ ในแอปแล้ว ลูกค้าจะดำเนินการตามที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ ลงชื่อสมัครใช้ หรือเพิ่มสินค้าลงในรถเข็น การใช้อินเทอร์เฟซ Web to App Connect ยังช่วยให้คุณติดตามการกระทำที่ถือเป็น Conversion ในแอปเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นและรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีปรับปรุงแคมเปญได้อีกด้วย โดยเฉลี่ยแล้ว การสร้างประสบการณ์จากเว็บไซต์สู่แอปที่ราบรื่นสำหรับลูกค้าจะทำให้ได้อัตรา Conversion สูงขึ้น 2 เท่าจากการคลิกโฆษณาที่นำไปยังแอปเมื่อเทียบกับเว็บไซต์เวอร์ชันอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำให้เกิด Conversion ได้ดียิ่งขึ้นด้วยอินเทอร์เฟซ Web to App Connect

หากต้องการเริ่มต้นใช้งาน Web to App Connect ให้ทำตาม 3 ขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเครื่องมือ ไอคอนเครื่องมือ
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงการวางแผนในเมนู "ส่วน"
  3. คลิกฮับการโฆษณาแอป ซึ่งจะนำไปยังอินเทอร์เฟซ Web to App Connect

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำให้เกิด Conversion ได้ดียิ่งขึ้นด้วยอินเทอร์เฟซ Web to App Connect


ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
3859675597267007720
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
false
false
false
false