ปัญหาที่ทราบเกี่ยวกับ Google Workspace

การสื่อสาร

เปิดส่วน  |  ยุบทั้งหมดและกลับไปด้านบนสุด

 ปฏิทิน

ดูการแก้ไขปัญหาในศูนย์ช่วยเหลือของ Google ปฏิทิน

กลุ่มที่ซ้อนหลายระดับ

คำอธิบาย: Google ปฏิทินอาจใช้เวลาเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ของกิจกรรมในกลุ่มที่ซ้อนหลายระดับนานถึง 48 ชั่วโมง

เปลี่ยนเจ้าของกิจกรรมไม่ได้

คำอธิบาย: คุณจะเปลี่ยนเจ้าของกิจกรรมขนาดใหญ่ (ผู้เข้าร่วม 200 คนขึ้นไป) ไม่ได้ แม้ว่าจะมีสิทธิ์เขียนในปฏิทินก็ตาม นอกจากนี้ระบบจะนับสมาชิกแต่ละคนของกลุ่มเป็นผู้เข้าร่วม ดังนั้นหากเชิญกลุ่มที่มีสมาชิก 200 คนเข้าร่วมกิจกรรม ระบบจะถือว่าเป็นกิจกรรมขนาดใหญ่
 รายชื่อติดต่อ

โปรดดูความช่วยเหลือสำหรับไดเรกทอรี

การรองรับการมอบสิทธิ์/UI ของ Contacts แบบเดิมจะไม่ผสานรวมใน Gmail อีกต่อไป

คำอธิบาย: UI ของรายชื่อติดต่อแบบเดิมจะไม่รวมอยู่ใน Gmail อีกต่อไป แต่จะอยู่ที่ contacts.google.com แทน ด้วยเหตุนี้ Gmail จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโปรแกรมจัดการรายชื่อติดต่อที่มอบหมายอีกต่อไป หากต้องการตั้งการมอบสิทธิ์ใน Contacts โปรดดูหัวข้อมอบสิทธิ์ให้ผู้ใช้รายอื่นเข้าถึงรายชื่อติดต่อของคุณ

  • ระบบจะรองรับการมอบสิทธิ์ต่อไป
  • UI ของ Contacts รองรับการมอบสิทธิ์จัดการรายชื่อติดต่อเมื่อเข้าถึงในโหมดสแตนด์อโลน
กลุ่มรายชื่อติดต่อใช้ร่วมกับการมอบสิทธิ์ไม่ได้

คำอธิบาย: เราพบว่าในการมอบสิทธิ์ของ Gmail เวอร์ชันเก่า ผู้ใช้บางรายต้องใช้ความสามารถของผู้รับมอบสิทธิ์เพื่อที่จะจัดการกลุ่มในรายชื่อติดต่อ ฟังก์ชันการทำงานนี้มีการเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชันใหม่ โดยผู้รับมอบสิทธิ์จะยังดู สร้าง และส่งอีเมลรายชื่อติดต่อของบุคคลและกลุ่มรายชื่อติดต่อได้ใน Gmail ที่ได้รับมอบสิทธิ์ แต่จะแก้ไขหรือลบกลุ่มรายชื่อติดต่อไม่ได้

ผู้ใช้จะเข้าถึงรายชื่อติดต่อและกลุ่มรายชื่อติดต่อผ่านเครื่องมือเลือกรายชื่อติดต่อได้เหมือนเดิมโดยคลิกลิงก์ "ถึง" ในหน้าต่าง "เขียน" ของ Gmail โดยผู้ใช้ที่เคยใช้การมอบสิทธิ์ Gmail เพื่อจัดการกับรายชื่อติดต่อในด้านอื่นๆ มาก่อน ควรตั้งค่าการมอบสิทธิ์ภายในผลิตภัณฑ์รายชื่อติดต่อ

ผู้ใช้บางรายเห็นการแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาของรูปโปรไฟล์

คําอธิบาย: เราตรวจพบว่ามีผู้ใช้จํานวนหนึ่งเห็นการแจ้งเตือนที่เกี่ยวกับรูปโปรไฟล์เหล่านี้โดยไม่คาดคิด

  • ข้อความแจ้งให้ "เลือกรูปโปรไฟล์ 1 รูป" ใน https://myaccount.google.com/personal-info
  • คําเตือนใน Gmail บนเว็บว่า "ภาพอีเมลอาจไม่แสดงในทุกผลิตภัณฑ์ของ Google"

ผู้ดูแลระบบ Google Workspace จะเรียกดูรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบด้วย Google Workspace Admin SDK Directory API ไม่ได้

 Gmail

โปรดดูหัวข้อแก้ไขปัญหาในศูนย์ช่วยเหลือของ Gmail

การแสดงตัวอย่างวิดีโอใน Gmail ไม่ทำงาน

วันที่รายงาน: 22/08/2018

คำอธิบาย: การแสดงตัวอย่างวิดีโอใน Gmail ไม่ทำงาน

วิธีแก้ปัญหา: ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอที่แนบมาและเล่นไฟล์นั้น

UI ของ Gmail แบบใหม่ไม่รองรับการมอบสิทธิ์จัดการรายชื่อติดต่อโดยปริยาย

วันที่รายงาน: 09/11/2018

คำอธิบาย: ก่อนหน้านี้ เมื่อสร้างการมอบสิทธิ์ผ่าน UI ของ Gmail แบบคลาสสิก ผู้ใช้จะได้รับสิทธิ์จัดการรายชื่อติดต่อโดยปริยายในบางกรณี แต่เมื่อเปิดตัว UI ใหม่ของ Gmail ผู้ใช้จะต้องมอบสิทธิ์จัดการรายชื่อติดต่อโดยทำด้วยตัวเอง ซึ่งเราเปลี่ยนแปลงการทำงานของผลิตภัณฑ์นี้เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย

รูปภาพในบรรทัดของระบบตอบกลับอัตโนมัติอาจแสดงเป็นไฟล์ที่ไม่สมบูรณ์

วันที่รายงาน: 2019

คำอธิบาย: ในบางกรณี รูปภาพในบรรทัดจะไม่แสดงในระบบตอบกลับอัตโนมัติให้กับผู้รับอีเมล Gmail จะแสดงไอคอนไฟล์ที่หายไปแทน

วิธีแก้ปัญหา: ผู้ใช้สามารถโฮสต์รูปภาพคำตอบสำเร็จรูปในผู้ให้บริการโฮสติ้งภายนอกและใส่รูปภาพเหล่านั้นไว้ในคำตอบสำเร็จรูปจากผู้ให้บริการดังกล่าว

 Groups  Google Chat

บางครั้งระบบไม่ได้บันทึกกิจกรรมใน Google Chat บางรายการตามที่คาดไว้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ในบันทึกของ Chat
วิธีแก้ปัญหา: ไม่มี
 Google Meet
ผู้อื่นไม่ได้ยินเสียงผู้เข้าร่วมที่ใช้คอมพิวเตอร์ MacOS
การตั้งค่าบางอย่างในเครื่อง Mac ของ Apple อาจทำให้ Meet ใช้ไมโครโฟนไม่ได้

วิธีแก้ปัญหา

  1. เปิดเสียงอุปกรณ์
    1. ไปที่การตั้งค่าระบบอุปกรณ์
    2. ตรวจสอบว่าได้เปิดไมโครโฟนแล้ว
  2. เปิดเสียงตัวเองใน Meet โดยคลิกเปิดเสียง ด้านล่างของหน้าจอ
    หมายเหตุ: ผู้อื่นจะปิดเสียงคุณได้ แต่จะเปิดเสียงคุณไม่ได้
  3. สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Mojave เวอร์ชัน 10.14 หรือใหม่กว่า คุณต้องอนุญาตให้เบราว์เซอร์ Chrome และ Firefox เข้าถึงไมโครโฟนของคอมพิวเตอร์โดยใช้การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    1. ไปที่ System Preferencesจากนั้นSecurity & Privacy

    2. เลือก Privacyจากนั้นMicrophone
    3. เลือกช่องถัดจาก Google Chrome หรือ Firefox
  4. ใส่ chrome://restart ในแท็บเบราว์เซอร์ Chrome เพื่อรีสตาร์ท Chrome และรีเซ็ตแอปและส่วนขยายทั้งหมดใน Chrome
  5. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

ดูรายละเอียดตัวเลือกเพิ่มเติมเพื่อเปิดเสียงคอมพิวเตอร์

ปัญหาเกี่ยวกับการนำเสนอและการบันทึกการประชุมใน macOS Sequoia

 

ข้อความแจ้งปรากฏขึ้นเมื่อฉันนำเสนอหรือบันทึกในการประชุมบน macOS Sequoia

หากคุณเพิ่งอัปเดตเป็น macOS Sequoia คุณจะได้รับข้อความแจ้งเตือนเมื่อพยายามบันทึกการประชุมหรือแชร์หน้าจอเป็นครั้งแรก

คุณดำเนินการต่อไปนี้ได้

  • วิธีอนุญาตให้ Google Chrome เข้าถึงหน้าจอของคุณ
    • เมื่อเริ่มการนำเสนอหรือการบันทึกในการประชุม ให้คลิกอนุญาตในกล่องโต้ตอบ
  • หากดำเนินการกับกล่องโต้ตอบแรกในการอนุญาตให้สิทธิ์ไม่ทัน คุณจะต้องอัปเดตการตั้งค่าระบบ

หรือหากต้องการทดสอบประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ที่มีความราบรื่น ให้ทำดังนี้

  1. อัปเดต Chrome เป็นเวอร์ชัน 129 ขึ้นไป
  2. เปิดเทอร์มินัลใน Mac
  3. ป้อน open -b com.google.Chrome --args --enable-features=UseSCContentSharingPicker
  4. หากต้องการเรียกใช้คำสั่ง ให้กด Enter บนแป้นพิมพ์
  5. ไม่บังคับ: เปิดใช้ Flag ใน Chrome
    1. ในแถบที่อยู่ ให้ป้อน chrome://flags.
    2. ค้นหา Flag "Use ScreenCaptureKit picker for stream selection"
    3. ด้านข้าง Flag ให้คลิกลูกศรลง จากนั้น เปิดใช้
    4. รีสตาร์ท Chrome

เคล็ดลับ: หากต้องการหลีกเลี่ยงปัญหานี้ คุณสามารถเลื่อนการอัปเดตเป็น macOS Sequoia ไว้จนกว่า macOS 15.1 จะเปิดตัว

 

ไม่สามารถจองทรัพยากรในเขตเวลาต่างกันสำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวัน
เมื่อผู้ใช้เพิ่มห้องประชุมหรือทรัพยากรไว้ในกิจกรรมตลอดทั้งวัน เวลาของห้องประชุมจะกำหนดไว้ตามเวลา UTC ซึ่งเป็นเวลาสากลเชิงพิกัด เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงเที่ยงคืนของวันถัดไป โดยไม่คำนึงถึงเขตเวลาของห้องประชุม ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ต้องปฏิเสธทรัพยากรของห้องประชุม แม้จะเห็นว่าห้องประชุมพร้อมให้บริการก็ตาม

วิธีแก้ปัญหา

เมื่อเพิ่มทรัพยากรในเขตเวลาอื่น ให้กำหนดเวลาของกิจกรรมเป็นเวลา 24 ชั่วโมงแทนที่จะเลือกทั้งวัน
การบันทึกของ Meet ต้องเปิดใช้ Google ไดรฟ์
ระบบจะเก็บบันทึกวิดีโอของ Meet ไว้ใน Google ไดรฟ์ ดังนั้นผู้ใช้ในองค์กรจะบันทึกการประชุมได้ก็ต่อเมื่อเปิดใช้ไดรฟ์ไว้และมีสิทธิ์สร้างไฟล์ใหม่ในไดรฟ์เท่านั้น

วิธีแก้ปัญหา

หากต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้บันทึกการประชุม ผู้ดูแลระบบจะต้องเปิดบริการและฟีเจอร์ต่อไปนี้

Meet ไม่ตอบสนองเมื่อใช้ VDI ของ Citrix

เซสชัน Meet ของผู้ใช้อาจไม่ตอบสนองเมื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานของเดสก์ท็อปเสมือน (VDI) ของ Citrix

วิธีแก้ปัญหา

รีเซ็ตเซสชัน VDI ของ Citrix ของผู้ใช้ แล้วให้ผู้ใช้ลงชื่อกลับเข้าสู่ระบบ

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ควบคุม

เปิดส่วน  |  ยุบทั้งหมดและกลับไปด้านบนสุด

 การดูแลระบบ

สำหรับภาพรวมของงานในคอนโซลผู้ดูแลระบบ โปรดดูหัวข้อใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบ

เครื่องมือส่งออกข้อมูลอาจไม่รองรับข้อมูลบางประเภท

เครื่องมือส่งออกข้อมูลทำหน้าที่ส่งออกข้อมูลสำหรับบริการหลักของ Google Workspace อย่างไรก็ตาม เครื่องมืออาจส่งออกข้อมูลได้ไม่ครบทั้งหมดตามที่คุณต้องการ ในกรณีนี้ จะต้องส่งออกข้อมูลบางรายการด้วยวิธีอื่นที่สามารถทำได้

ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวที่ทราบในปัจจุบันได้แก่

โปรดติดต่อทีมสนับสนุนของ Google Cloud เพื่อขอคำชี้แจงหรือความช่วยเหลือเพิ่มเติม

อีเมลคำเชิญผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังหน้า Google Workspace Essentials

INTERNAL ONLY: The bug number for this issue is b/258839366. Check out the Metabug info here!

External info

คำอธิบาย: เมื่อคุณเชิญผู้ใช้ที่ไม่มีการจัดการให้เข้าร่วมองค์กร Google Workspace ระบบจะส่งอีเมลคำขอโอนบัญชี Google เมื่อผู้ใช้คลิกโอนบัญชีในอีเมลนั้น ระบบจะเปลี่ยนเส้นทางให้ผู้ใช้ไปยังหน้าที่พูดถึง Google Workspace Essentials ไม่ว่าผู้ใช้จะสมัครใช้บริการใดในบัญชี Google Workspace ก็ตาม และผู้ใช้ยังคงทำตามขั้นตอนในหน้าเว็บเพื่อแปลงบัญชีส่วนบุคคลเป็นบัญชี Google Workspace ให้สำเร็จได้

การแจ้งเตือนฟิชชิงที่ผู้ใช้รายงานอาจไม่ทริกเกอร์หากมีการเลือกเขตข้อมูลไว้

คำอธิบาย: หากเลือกเขตข้อมูลไว้ (ตั้งค่าเป็นตัวเลือกอื่นที่ไม่ใช่ "ไม่มีค่ากำหนด") การแจ้งเตือน "ฟิชชิงที่ผู้ใช้รายงาน" อาจไม่ทริกเกอร์ในศูนย์แจ้งเตือน

วิธีแก้ปัญหา: ใช้วิธีการสำรองเหล่านี้เพื่อบันทึกเหตุการณ์ฟิชชิงที่ผู้ใช้รายงาน

บางครั้งกฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านเนื้อหาที่ใช้นิพจน์ทั่วไปอาจจะไม่จับคู่กับเนื้อหาในไฟล์แนบประเภท .xls

คำอธิบาย: ในการค้นหาเนื้อหาขั้นสูง บางครั้งกฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านเนื้อหาที่ใช้นิพจน์ทั่วไปอาจจะไม่จับคู่กับเนื้อหาในไฟล์ประเภท .xls ปัญหานี้อาจเกิดกับไฟล์ประเภทอื่นๆ เช่น .csv ได้เช่นกัน

ลบบัญชี Google Workspace ไม่ได้เนื่องจากทรัพยากร Google Cloud ที่ใช้งานอยู่

วันที่รายงาน:31/07/2020

คำอธิบาย: คอนโซลผู้ดูแลระบบจะป้องกันการลบบัญชี Google Workspace เมื่อยังมีการใช้งานทรัพยากรใน Cloud (โปรเจ็กต์ โฟลเดอร์ ฯลฯ) ที่เชื่อมโยงกับบัญชีนั้นอยู่

หมายเหตุ: ก่อนลบโปรเจ็กต์ โปรดติดต่อเจ้าของโปรเจ็กต์ เพราะอาจยังมีการใช้งานแอปพลิเคชันของผู้ใช้หรือไคลเอ็นต์ภายนอกอยู่ การลบโปรเจ็กต์อาจทำให้การสร้างแอปไคลเอ็นต์ในโปรเจ็กต์ Google Cloud ที่แอปทำงานอยู่ไม่สำเร็จ

วิธีแก้ปัญหา: ก่อนลบบัญชี Google Workspace ผู้ดูแลระบบขั้นสูงต้องลบโปรเจ็กต์และโฟลเดอร์ Google Cloud ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากต้องการค้นหาทรัพยากรที่เชื่อมโยงกับองค์กรในระบบคลาวด์ของคุณ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ Google Cloud ผู้ดูแลระบบขั้นสูงจะต้องใช้บทบาทผู้ดูแลระบบองค์กร ผู้ดูแลระบบโฟลเดอร์ และผู้ลบโปรเจ็กต์ในการแก้ไขทรัพยากรของโปรเจ็กต์และโฟลเดอร์

หากองค์กรในระบบคลาวด์มีโปรเจ็กต์ Apps Script คุณต้องลบโปรเจ็กต์เหล่านั้นและโปรเจ็กต์ระบบคลาวด์อื่นๆ ออกก่อนที่จะลบบัญชี Google Workspace โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเรียกดูรายการโปรเจ็กต์ Google Cloud ของ Apps Script

หากองค์กรในระบบคลาวด์มีการกำหนดนโยบายเครื่องมือจัดการสิทธิ์เข้าถึงตามบริบทไว้ คุณยังต้องลบนโยบายเหล่านั้นออกก่อนจึงจะลบบัญชี Google Workspace ได้

หากต้องการใช้วิธีแบบเป็นโปรแกรมในการโต้ตอบกับทรัพยากรขององค์กร โปรดดูสคริปต์นี้ซึ่งอยู่ในที่เก็บ GitHub แบบโอเพนซอร์สของเรา

คุณอาจเห็นหน้าต่างที่ว่างเมื่อพยายามจัดการไดรฟ์ที่แชร์

วันที่รายงาน: 09/03/2018

คำอธิบาย: คุณอาจเห็นหน้าต่างที่ว่างเมื่อพยายามจัดการไดรฟ์ที่แชร์

จัดการผู้ไดรฟ์ที่แชร์ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ > แอป > G Suite > ไดรฟ์และเอกสาร > จัดการไดรฟ์ที่แชร์ (มีให้บริการในบางรุ่น)

วิธีหลีกเลี่ยงปัญหา: ตรวจสอบว่าผู้ดูแลระบบมีใบอนุญาต G Suite ที่มีไดรฟ์ที่แชร์อยู่ ตรวจสอบว่ามีการเปิดใช้บริการไดรฟ์และเอกสารอยู่

ไอคอนห้องนิรภัยอาจปรากฏใน Workspace รุ่นที่ไม่มีห้องนิรภัย

คำอธิบาย: ผู้ใช้อาจเห็นไอคอน Google ห้องนิรภัยในตัวเปิดแอป แม้จะไม่มีห้องนิรภัยอยู่ใน Google Workspace รุ่นของคุณ ในกรณีเหล่านี้ ระบบจะไม่เรียกเก็บเงินจากบัญชีสำหรับห้องนิรภัย และผู้ใช้ที่คลิกไอคอนจะเห็นหน้าที่อธิบายว่าผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงบริการ

การดำเนินการพร้อมกันในคอนโซลผู้ดูแลระบบอาจทำให้มีการเขียนทับการตั้งค่า

คำอธิบาย: เมื่อผู้ดูแลระบบหลายคนทำงานพร้อมกันในหน้าการตั้งค่าเดียวกัน หรือเมื่อผู้ดูแลระบบคนเดียวกันอัปเดตการตั้งค่าในหลายแท็บ การอัปเดตการตั้งค่าอาจเขียนทับกันเองโดยไม่มีการแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบ

สำหรับการตั้งค่ารายการ (เช่น แอปจากนั้นGoogle Workspaceจากนั้นการตั้งค่าสำหรับ Gmailจากนั้นการกำหนดเส้นทางจากนั้นการส่งต่ออีเมลโดยใช้การแมปอีเมลผู้รับ) ข้อมูลที่ป้อนในแท็บหนึ่งอาจสูญหายได้หากรายการได้รับการอัปเดตพร้อมกันในอีกแท็บหนึ่ง

วิธีแก้ปัญหา: ตรวจสอบว่าคุณได้รีเฟรชหน้าการตั้งค่าทันทีก่อนที่จะเปลี่ยนการตั้งค่า เพื่อให้แน่ใจว่าหน้าการตั้งค่าไม่ได้อยู่ในสถานะการเปลี่ยนแปลง จากนั้นรีเฟรชหน้าการตั้งค่าอีกครั้งหลังจากทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อยืนยันว่าการตั้งค่าใหม่ไม่ได้ถูกเขียนทับโดยผู้ดูแลระบบคนอื่น
 การเรียกเก็บเงิน  การย้ายและการซิงค์ข้อมูล
GCDS ลบกลุ่มและสร้างกลุ่มใหม่

ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นกับ Google Cloud Directory Sync (GCDS) ได้ใน 2 สถานการณ์

สถานการณ์ที่ 1

คุณเปลี่ยนชื่ออีเมลกลุ่มใน Microsoft Active Directory (AD) หลังจากที่กลุ่มซิงค์กับ Google Workspace แล้ว ซึ่งหลังจากการซิงค์ GCDS จะลบกลุ่มปัจจุบันและสร้างกลุ่มใหม่ด้วยอีเมลใหม่

วิธีแก้ปัญหาที่ 1: อย่าเปลี่ยนอีเมลกลุ่มใน AD

วิธีแก้ปัญหาที่ 2: เปลี่ยนอีเมลกลุ่มด้วยตนเองทั้งใน AD และ Google Workspace เพื่อให้อีเมลตรงกัน

สถานการณ์ที่ 2

ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อ

  1. อีเมลของกลุ่มมีสัญลักษณ์พิเศษ (เช่น !#$%&'*+/=?^_`)
  2. กลุ่มซิงค์กับ Google Workspace โดยใช้ GCDS เวอร์ชันเก่ากว่า 5.0.20
  3. คุณอัปเกรด GCDS เป็นเวอร์ชัน 5.0.20 ขึ้นไป
  4. หลังจากซิงค์แล้ว GCDS จะพยายามลบกลุ่มดังกล่าวแล้วสร้างกลุ่มอีกครั้งโดยใช้สัญลักษณ์พิเศษ

วิธีแก้ปัญหาที่ 1: นำสัญลักษณ์พิเศษออกจากอีเมลของกลุ่ม AD

วิธีแก้ปัญหาที่ 2: เพิ่มสัญลักษณ์พิเศษไปยังอีเมลใน Google Groups

GCDS ไม่อัปเดตไฟล์การกำหนดค่าเมื่อคุณลบคำค้นหาของผู้ใช้

คำอธิบาย: ปัญหานี้เกิดขึ้นกับ Google Cloud Directory Sync (GCDS) เวอร์ชัน 5.0.22 เมื่อคุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. คลิกการกำหนดค่าโดเมน Googleจากนั้นกฎการยกเว้นในเครื่องมือจัดการการกำหนดค่า
  2. ป้อนคำค้นหาในส่วนคำค้นหาของผู้ใช้ และบันทึกไฟล์การกำหนดค่า
  3. ลบคำค้นหาเดียวกันนี้และบันทึกไฟล์การกำหนดค่า
  4. เปรียบเทียบไฟล์การกำหนดค่าในขั้นตอนที่ 2 กับไฟล์ในขั้นตอนที่ 3

    พบว่าไฟล์การกำหนดค่ามีสถานะเหมือนกัน โดยไม่มีการบันทึกคำค้นหาที่ลบไปแล้วในไฟล์

วิธีแก้ปัญหา: เปิดไฟล์การกำหนดค่าและลบการตั้งค่า <usersSearchQuery> ด้วยตนเอง 

GCDS ไม่ได้ซิงค์ใบอนุญาตอย่างถูกต้องหลังจากเปลี่ยนอีเมลหลักของผู้ใช้

คำอธิบาย: ปัญหานี้เกิดขึ้นกับ Google Cloud Directory Sync (GCDS) หากคุณเปลี่ยนอีเมลหลักของผู้ใช้ในเซิร์ฟเวอร์ LDAP ระบบจะไม่พิจารณาการเปลี่ยนอีเมลเมื่อ GCDS ซิงค์ใบอนุญาตของผู้ใช้ GCDS จะพยายามเพิ่มใบอนุญาตให้กับผู้ใช้ที่มีการเปลี่ยนอีเมล และจะแสดงข้อผิดพลาด 412

บริการย้ายข้อมูล: การย้ายข้อมูลผู้ใช้ล้มเหลวโดยมีข้อผิดพลาด 18017

คําอธิบาย: หากการย้ายข้อมูลผู้ใช้ล้มเหลวเมื่อใช้บริการย้ายข้อมูลแบบคลาสสิกและคุณได้รับข้อผิดพลาด 18017 สาเหตุเกิดจากการใช้ Google Workspace เป็นต้นทางการย้ายข้อมูล

วิธีหลีกเลี่ยงปัญหา:

หากใช้บริการย้ายข้อมูลแบบคลาสสิก คุณแก้ปัญหาได้ 2 วิธีดังนี้

นอกจากนี้ คุณยังหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดนี้ได้ด้วยการใช้การย้ายข้อมูล (ใหม่)

บริการย้ายข้อมูล: การย้ายข้อมูลผู้ใช้ล้มเหลวโดยมีข้อผิดพลาด 25002

คําอธิบาย:  หากการย้ายข้อมูลผู้ใช้ล้มเหลวเมื่อใช้บริการย้ายข้อมูลและคุณได้รับข้อผิดพลาด 25002 สาเหตุเกิดจากรุ่น Google Workspace for Education Fundamentals

วิธีแก้ปัญหา: ในบัญชีปลายทาง ให้ย้ายผู้ใช้ไปไว้ในหน่วยขององค์กรและกําหนดป้ายกํากับอายุหน่วยขององค์กรเป็นผู้ใช้ทุกคนมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จากนั้นให้ลองย้ายข้อมูลอีกครั้ง โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อควบคุมสิทธิ์เข้าถึงบริการของ Google ตามอายุ 

 การจัดการอุปกรณ์

 การซิงค์อุปกรณ์

โปรดดูหัวข้อใช้ Google Workspace ในอุปกรณ์เคลื่อนที่

 การรายงาน
การรายงานคีย์ความปลอดภัยไม่สอดคล้องกัน

สำหรับภายในเท่านั้น: หมายเลขข้อบกพร่องสำหรับปัญหานี้คือ b/296987099

ข้อมูลภายนอก

คำอธิบาย: จำนวนคีย์ความปลอดภัยที่ผู้ใช้ลงทะเบียนจะปรากฏใน 2 ส่วนที่แตกต่างกันของคอนโซลผู้ดูแลระบบ แต่จำนวนทั้งคู่จะไม่สอดคล้องกัน

จำนวนคีย์ความปลอดภัยที่ผู้ใช้ลงทะเบียนไว้อย่างถูกต้องจะแสดงในส่วนความปลอดภัยในหน้าความปลอดภัยของผู้ใช้ ซึ่งก็คือจำนวนคีย์ความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์ที่ลงทะเบียนไว้สำหรับผู้ใช้

หากผู้ใช้ใช้คีย์ความปลอดภัยในตัวของโทรศัพท์ จะเป็นการเพิ่มค่า 1 ในจำนวนคีย์ความปลอดภัยที่ลงทะเบียนไว้สำหรับผู้ใช้ในคอลัมน์ลงทะเบียนคีย์ความปลอดภัยแล้วในส่วนการรายงานจากนั้นรายงานของผู้ใช้จากนั้นความปลอดภัยโดยไม่ตั้งใจ โดยคุณจะมีคีย์ความปลอดภัยในตัวได้เพียงรายการเดียวในบัญชี

ผู้ใช้จะเพิ่มโทรศัพท์เป็นคีย์ความปลอดภัยในบัญชี Google ไม่ได้อีกต่อไป แต่อุปกรณ์ที่ตั้งค่าไว้ในปัจจุบันจะยังคงใช้งานได้

ทำซ้ำเหตุการณ์การดูสำหรับเซสชัน iOS

คำอธิบาย: เหตุการณ์การดูที่เชื่อมโยงกับเซสชัน iOS อาจถูกนับ 2 ครั้งในสถานการณ์นี้ คือ หากผู้ใช้ Gmail ใน iOS เปิดข้อความและปัดไปทางซ้ายในข้อความเพื่อกลับไปยังรายการการสนทนาทางอีเมล การค้นหาบันทึกอีเมลจะจัดเก็บเหตุการณ์การดู 2 รายการสำหรับข้อความดังนี้

  • 1 เหตุการณ์สําหรับข้อความที่เปิด
  • 1 เหตุการณ์สําหรับข้อความถัดไปในมุมมองรายการของข้อความทั้งหมด

ซึ่งจะเกิดขึ้นจากกล่องจดหมายหรือโฟลเดอร์ใดก็ตามที่ผู้ใช้เรียกดูและเปิดข้อความ

ความปลอดภัย
สถานะการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนที่ลงทะเบียนครึ่งหนึ่ง

สำหรับภายในเท่านั้น: หมายเลขข้อบกพร่องสำหรับปัญหานี้คือ b/284288391 

ข้อมูลภายนอก

รายละเอียด: เมื่อบังคับใช้การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน (2SV) แล้ว ผู้ใช้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนให้เสร็จสิ้น แต่ได้เพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ปัจจัย (2FA) ลงในบัญชี เช่น คีย์ความปลอดภัยหรือหมายเลขโทรศัพท์ จะลงชื่อเข้าใช้ด้วยข้อมูลนี้ได้

สถานะของผู้ใช้ที่ลงทะเบียนครึ่งหนึ่งจะแสดงในคอนโซลผู้ดูแลระบบเป็นไม่ได้ลงทะเบียน แม้ว่าผู้ใช้จะต้องผ่านคำถาม 2FA ทุกครั้งที่ลงชื่อเข้าใช้ก็ตาม หากต้องการดูข้อมูลนี้ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ให้ไปที่การรายงานจากนั้นรายงานของผู้ใช้จากนั้นความปลอดภัย และตรวจสอบสถานะในคอลัมน์การลงทะเบียนการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน

ขั้นตอนของผู้ใช้ในการแสดงให้เห็นถึงปัญหา

สำหรับผู้ใช้ที่ใช้บัญชีในโทรศัพท์อยู่แล้ว ให้ทำดังนี้

  1. ผู้ใช้จะลงทะเบียนการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน 

  2. ในส่วน Google Prompt ให้ผู้ใช้คลิกเลือกตัวเลือกอื่น แล้วเลือกข้อความหรือการโทรด้วยเสียง 
  3. ป้อนหมายเลขโทรศัพท์เพื่อรับรหัสยืนยัน
  4. เมื่อผู้ใช้ป้อนรหัสแล้ว หน้าจอยืนยันจะถามว่าต้องการเปิดใช้การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนหรือไม่ 
  5. หากไม่คลิกเปิด ผู้ใช้จะยังคงอยู่ในสถานะลงทะเบียนครึ่งหนึ่ง

การตั้งค่าการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนสำหรับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนครึ่งหนึ่ง

หากผู้ใช้ที่ลงทะเบียนครึ่งหนึ่งซึ่งอยู่ในหน่วยขององค์กรที่มีการบังคับใช้การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนเข้าชมหน้าการตั้งค่าการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน ระบบจะแสดงหมายเลขโทรศัพท์ที่ยืนยันแล้ว แต่การยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนจะแสดงเป็นปิด

ข้อความแจ้งหลังจากเข้าสู่ระบบ

ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผู้ใช้รายนี้จากนี้ไป

  • ผู้ใช้จะยังคงได้รับข้อความแจ้งให้ลงทะเบียนการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนจนกว่าระยะเวลาการบังคับใช้จะสิ้นสุดลง (ดูภาพหน้าจอต่อไปด้านล่าง)

  • หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาการบังคับใช้แล้ว ระบบจะให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนด้วยการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนด้วยหมายเลขที่ยืนยันแล้ว แต่หลังจากเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้จะยังได้รับแจ้งให้ลงทะเบียนอยู่ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจทำให้เกิดความสับสน แต่ก็ช่วยทำให้ผู้ใช้บางรายดำเนินการลงทะเบียนได้เสร็จเรียบร้อย

  • หากผู้ใช้เลือกจำคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ในระหว่างการลงทะเบียน คำขอให้ลงทะเบียนจะไม่ปรากฏจนกว่าระยะเวลาการบังคับใช้จะสิ้นสุดลง

ทำซ้ำเหตุการณ์การดูสำหรับเซสชัน iOS

คำอธิบาย: เหตุการณ์การดูที่เชื่อมโยงกับเซสชัน iOS อาจถูกนับ 2 ครั้งในสถานการณ์นี้ คือ หากผู้ใช้ Gmail ใน iOS เปิดข้อความและปัดไปทางซ้ายในข้อความเพื่อกลับไปยังรายการการสนทนาทางอีเมล เครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัยจะจัดเก็บเหตุการณ์การดู 2 รายการสำหรับข้อความดังนี้

  • 1 เหตุการณ์สําหรับข้อความที่เปิด
  • 1 เหตุการณ์สําหรับข้อความถัดไปในมุมมองรายการของข้อความทั้งหมด

ซึ่งจะเกิดขึ้นจากกล่องจดหมายหรือโฟลเดอร์ใดก็ตามที่ผู้ใช้เรียกดูและเปิดข้อความ

 ห้องนิรภัย

การทำงานร่วมกัน

เปิดส่วน  |  ยุบทั้งหมดและกลับไปด้านบนสุด

 ไดรฟ์

โปรดดูที่ศูนย์ช่วยเหลือของ Google ไดรฟ์

ปัญหาที่ทราบของไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป (ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Drive File Stream)

สำหรับปัญหาที่ทราบในไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป โปรดไปที่หน้าปัญหาที่ทราบที่สร้างไว้โดยเฉพาะ

ไฟล์ Keynote, Pages และ Omnigraffle ที่เป็นแพ็กเกจแสดงเป็นโฟลเดอร์ในไดรฟ์

รายละเอียด: ระบบปฏิบัติการ OS X ระบุกลุ่มไฟล์ในไดเรกทอรีเป็น "แพ็กเกจ" ถึงแม้ว่าแพ็กเกจนั้นจะปรากฏเป็นไฟล์เดียวเมื่อดูใน Finder หรือเครื่องมืออื่นของ OSX ส่วนระบบปฏิบัติการอื่น เช่น Windows และ Linux ไม่รองรับไดเรกทอรีแพ็กเกจประเภทนี้ และปัจจุบันไดรฟ์ก็ไม่รองรับเช่นเดียวกัน

วิธีแก้ปัญหา: ถึงแม้ว่าไฟล์จะปรากฏเป็นโฟลเดอร์ในไดรฟ์ แต่เมื่อเปิดขึ้นจะปรากฏเป็นปกติ

ไฟล์วิดีโอที่มีชื่อไฟล์เหมือนกันจะทำให้ไฟล์หนึ่งไม่เปิด
คำอธิบาย: หากคุณอัปโหลดวิดีโอลงใน Google ไดรฟ์โดยที่ไฟล์นั้นมีชื่อเหมือนกับไฟล์วิดีโอที่อยู่ในโฟลเดอร์ปลายทาง ไฟล์ต้นฉบับจะไม่เปิด
วิธีแก้ปัญหา: ผู้ใช้ควรดาวน์โหลดวิดีโอต้นฉบับสำหรับเปิดดู หรืออัปโหลดวิดีโอต้นฉบับอีกครั้งโดยตั้งชื่อไฟล์เป็นชื่ออื่น 
 เอกสาร  ฟอร์ม  Keep  ชีต

โปรดดูศูนย์ช่วยเหลือของชีตเพิ่มเติม

สเปรดชีตใน Google ชีตมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะแก้ไขได้

คำอธิบาย: ในบางครั้ง สเปรดชีตใน Google ชีตอาจมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะแก้ไขได้และจำเป็นต้องอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก

วิธีแก้ปัญหา: แม้ว่าเอกสารจะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียวแบบถาวร แต่คุณยังสามารถคัดลอกแท็บแต่ละแท็บได้ หากต้องการทำเช่นนี้ ให้คลิกขวาที่แท็บ แล้วไปที่คัดลอกไปยังจากนั้นสเปรดชีตใหม่เพื่อสร้างชีตใหม่ อีกวิธีการหนึ่งที่ทำได้ก็คือ ให้ดาวน์โหลดสเปรดชีตหรือคัดลอกและวางข้อมูลจากสเปรดชีตลงในเอกสารใหม่

ใน Google ชีต อาจมีผู้ใช้คำสั่ง IMPORTRANGE เพื่อเลี่ยงตัวเลือกความเป็นส่วนตัว

คำอธิบาย: ใน Google ชีต อาจมีผู้ใช้คำสั่ง IMPORTRANGE เพื่อหลีกเลี่ยงตัวเลือก "ปิดใช้ตัวเลือกดาวน์โหลด พิมพ์ และคัดลอกสำหรับผู้แสดงความคิดเห็นและผู้ดู"

วิธีแก้ปัญหา: ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาในขณะนี้

คำสั่ง IMPORTRANGE ใน Google ชีตนับจำนวนชีตรวมในขีดจำกัดการแชร์รายการ

คำอธิบาย: คำสั่ง IMPORTRANGE ใน Google ชีตนับชีตที่แชร์ให้รวมอยู่ในขีดจำกัดการแชร์สูงสุดที่อนุญาตสำหรับเอกสาร แม้ว่าจะเป็นเพียงการแชร์ข้อมูลกับเอกสารอื่น

วิธีแก้ปัญหา: ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาในขณะนี้

ข้อมูลเซลล์ใน Google ชีตอาจหายไป

คำอธิบาย: ข้อมูลของเซลล์อาจหายไปจากชีตเวอร์ชันปัจจุบัน ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก

วิธีแก้ปัญหา: คุณกู้คืนข้อมูลที่หายไปได้โดยดูที่ประวัติการแก้ไขของเซลล์

 Sites  Sites แบบคลาสสิก
กลุ่มที่ซ้อนหลายระดับ

คำอธิบาย: Google Sites อาจใช้เวลาเปลี่ยนแปลงสิทธิ์เข้าถึงในกลุ่มที่ซ้อนหลายระดับนานถึง 48 ชั่วโมง

 สไลด์​
ข้อผิดพลาด 150 หรือ 151 และวิดีโอ YouTube ที่ฝังไว้ไม่เล่น

คำอธิบาย: ผู้ใช้ Google Workspace for Education จะได้รับข้อความไม่สามารถเล่นวิดีโอได้และข้อผิดพลาด 150 หรือ 151 แทนที่จะเป็นวิดีโอ YouTube ที่ฝังไว้

วิดีโอ YouTube บางรายการไม่สามารถเล่นในโปรแกรมเล่นที่ฝังใน Google สไลด์ได้ เรากำลังดำเนินการเพื่ออธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้

ข้อผิดพลาด 150: ข้อผิดพลาดนี้เกิดจากปัญหาด้านลิขสิทธิ์ ข้อจำกัดที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ระบุไว้ในวิดีโอ หรือเนื่อง YouTube Player for Education ไม่อนุญาตการใช้งานมิวสิกวิดีโอ 

วิธีแก้ปัญหา: เปิดวิดีโอใน YouTube.com โดยตรง

ข้อผิดพลาด 151: ข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก YouTube Player for Education บังคับใช้ข้อจำกัดการกรองเนื้อหาที่ตั้งค่าไว้ในบัญชีของผู้ใช้ ผู้ใช้อาจถูกห้ามไม่ให้ดูวิดีโอบางรายการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดต่างๆ 

วิธีแก้ปัญหา: คุณต้องเปลี่ยนข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้หรือหน่วยขององค์กร โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อให้สิทธิ์เข้าถึง YouTube แบบไม่จำกัดแก่ผู้ใช้บางราย

การศึกษา

 Classroom

ดูศูนย์ช่วยเหลือของ Google Classroom

ไม่สามารถลิงก์บัญชีครูหลายบัญชีใน SIS ของคุณเข้ากับอีเมลใดอีเมลหนึ่ง
คำอธิบาย: หากคุณสร้างบัญชีครูที่ลบไปก่อนหน้านี้ขึ้นมาใหม่โดยใช้อีเมลเก่าของครูคนนั้น อีเมลจะยังคงผูกกับบัญชีระบบข้อมูลของนักเรียน (SIS) อันเก่า
วิธีแก้ปัญหา: ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจะต้องมีอีเมลใหม่เพื่อใช้ใน Classroom และใน SIS 
เกรดเกิดการซ้ำใน SIS เมื่อส่งออกมาจากชั้นเรียนที่ลิงก์ใหม่
คำอธิบาย: เมื่อคุณยกเลิกการลิงก์ Classroom จาก SIS ของคุณแล้วทำการเชื่อมโยงใหม่ เกรดจะซ้ำกันใน SIS เมื่อคุณส่งออกเกรดมาจากชั้นเรียน
หมายเหตุ: ส่วนนี้ไม่มีผลกับ Skyward SMS 2.0
วิธีแก้ปัญหา: เพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำกันของเกรด ครูไม่ควรส่งออกงานก่อนหน้านี้หลังจากการเชื่อมโยงชั้นเรียนใหม่ 
ชั้นเรียนที่เก็บถาวรไว้อยู่ยังคงลิงก์เข้ากับ SIS
คำอธิบาย: ชั้นเรียนที่เก็บถาวรไว้อยู่ไม่ยอมยกเลิกการลิงก์จาก SIS
วิธีแก้ปัญหา: กู้คืนชั้นเรียนที่เก็บถาวรไว้ใน Classroom และให้ยกเลิกการลิงก์ชั้นเรียนเหล่านั้นจาก SIS จากนั้นคุณจะสามารถเก็บชั้นเรียนของ Classroom ถาวรอีกครั้งได้
ไม่สามารถทำการส่งออกงานที่ส่งออกไปก่อนหน้านี้ใหม่อีกครั้งได้เมื่อลบไปแล้ว
คำอธิบาย: ไม่สามารถทำการส่งออกงานใน Classroom ที่เคยส่งออกไปยัง SIS อีกครั้งได้หากถูกลบออกจาก SIS ไปแล้ว
วิธีแก้ปัญหา: ครูควรสร้างงานใหม่อีกครั้งแล้วป้อนข้อมูลเกรดใน Classroom อีกครั้ง

ครูได้รับข้อผิดพลาด 502 เมื่อดาวน์โหลดเกรดของชั้นเรียนขนาดใหญ่

คำอธิบาย: ครูได้รับข้อผิดพลาด 502 เมื่อดาวน์โหลดเกรดทั้งหมดเป็นไฟล์ CSV สําหรับชั้นเรียน
ที่มีรายการในสตรีมมากกว่า 100 รายการและนักเรียนมากกว่า 100 คน
วิธีแก้ปัญหา: ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาในขณะนี้

นักเรียนจะดูตัวอย่างไฟล์ในไดรฟ์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ไม่ได้หากมีการปิดใช้การตั้งค่าการดาวน์โหลด พิมพ์ และคัดลอก

INTERNAL ONLY: The bug number for this issue is b/169106196.
คําอธิบาย: ในแอป Classroom บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ นักเรียนจะดูตัวอย่างไฟล์ในไดรฟ์ไม่ได้หากมีการปิดใช้การตั้งค่าการดาวน์โหลด พิมพ์ และคัดลอก
วิธีแก้ปัญหา: ครูสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าการดาวน์โหลด พิมพ์ และคัดลอกในไฟล์เพื่ออนุญาตนักเรียนดูตัวอย่างไฟล์บนอุปกรณ์เคลื่อนที่

Orphaned classes occur when a primary teacher account is deleted

Description: After a primary teacher's account is deleted, classes can't be transferred to a co-teacher.

Workaround: No workaround at this time.

เราใช้เกณฑ์อะไรในการกำหนดปัญหาที่ทราบ

เราพยายามคัดแยกและแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่เราทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งบางปัญหาอาจไม่ปรากฏที่นี่ ทั้งนี้เรากำหนดลักษณะของปัญหาที่ทราบดังต่อไปนี้

  • เราจำลองปัญหาให้เกิดซ้ำได้เสมอ
  • วิศวกรกำลังพยายามหาวิธีแก้ไขการทำงานให้ถูกต้อง
  • มีผู้ประสบปัญหานั้นในวงกว้าง และทำให้เกิดเคสขอรับความช่วยเหลือจำนวนมาก

อะไรบ้างที่ไม่ถือเป็นปัญหาที่ทราบ

  • ผลิตภัณฑ์หยุดทํางาน: ข้อมูลการหยุดทํางานล่าสุดจะโพสต์อยู่ในแดชบอร์ดสถานะของ Google Workspace
  • แนวคิดเกี่ยวกับฟีเจอร์: เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ ส่งแนวคิดเกี่ยวกับฟีเจอร์ได้เลย
  • ปัญหาที่มีผลกระทบน้อย: เรากำลังแก้ปัญหาต่างๆ ที่มีผลกระทบน้อย แต่อาจไม่ได้แจ้งไว้ที่นี่ หากคิดว่าตนเองอาจพบปัญหาที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่ โปรดติดต่อเรา

สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับปัญหาที่ทราบ

เราตั้งใจจะแก้ปัญหาทั้งหมดที่ระบุไว้ในปัญหาที่ทราบ แต่เรากำหนดเวลาที่แน่นอนไม่ได้ ในระหว่างนี้เราจะแจ้งวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่เราทราบ โปรดติดต่อเราหากมีคำถามหรือความคิดเห็น


Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
เริ่มต้นการทดลองใช้งานฟรี 14 วันได้เลย

อีเมลระดับมืออาชีพ พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ การแชร์ปฏิทิน การประชุมวิดีโอ และอื่นๆ เริ่มต้นการทดลองใช้งาน G Suite ฟรีวันนี้

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
404631394508393444
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73010
false
false