ใช้กฎที่กำหนดเอง

กฎที่กำหนดเองจะแจ้งคุณเมื่อมีการละเมิดแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดก่อนที่จะโหลดการเปลี่ยนแแปลง โดยการแจ้งเตือนเหล่านี้จะปรากฏเป็นคำเตือนหรือข้อผิดพลาด เรามีชุดกฎที่แนะนำซึ่งมีไว้ให้อยู่แล้วโดยตั้งค่าไว้เป็นคำเตือน โดยคุณจะแก้ไขกฎเหล่านี้ให้เข้ากับความต้องการได้

หมายเหตุ
หากคุณพบว่ากฎที่มีอยู่แล้วไม่มีประโยชน์และต้องการซ่อนกฎเหล่านี้ ให้หยุดใช้กฎเหล่านี้ชั่วคราวได้พร้อมกันหลายกฎในมุมมองกฎที่กำหนดเอง

กฎที่กำหนดเองที่มีไว้ให้อยู่แล้ว

กฎเหล่านี้มีไว้ให้อยู่แล้วโดยค่าเริ่มต้น โดยคุณจะปรับแต่งหรือปิดใช้กฎข้อใดก็ได้ กฎที่กำหนดเองจะมีผลกับแคมเปญทั้งหมด ซึ่งรวมถึงแคมเปญที่เปิดใช้ หยุดชั่วคราว รอดำเนินการ หรือแคมเปญร่างทั้งหมด แต่จะไม่มีผลกับแคมเปญที่นำออกหรือจบไปแล้ว

คำอธิบาย เงื่อนไขในการแจ้งเตือน เหตุผล
โฆษณาแบบข้อความต้องมีบรรทัดรายละเอียด 2 และบรรทัดแรก 3

หากโฆษณาแบบข้อความที่ขยายออกไม่มีคำอธิบายที่ 2 และบรรทัดแรกที่ 3 ระบบจะแจ้งให้คุณใส่

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

ข้อความที่มากขึ้นหมายความว่าคุณจะมีพื้นที่มากขึ้นในการสื่อข้อความ และปรับปรุงอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
เทมเพลตการติดตามใช้ HTTP แทน HTTPS

หากเทมเพลตการติดตามใช้โปรโตคอล HTTP (แทน HTTPS) ระบบจะแจ้งให้คุณอัปเดต การใช้ HTTP ในเทมเพลตการติดตามอาจทำให้ระบบการวัดคลิกและการเปลี่ยนเส้นทางขัดข้อง

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

การใช้ HTTP ในเทมเพลตการติดตามอาจทำให้ระบบการวัดคลิกและการเปลี่ยนเส้นทางขัดข้อง ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ไซต์ลิงก์ที่ไม่มีคำอธิบาย

เตือนหากคุณพยายามเพิ่มหรือแก้ไขรายการฟีดไซต์ลิงก์ที่ไม่มีข้อความคำอธิบายเชื่อมโยงอยู่

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

ชิ้นงานไซต์ลิงก์ที่มีข้อความคำอธิบายจะช่วยปรับปรุง CTR ให้คุณได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ชิ้นงานไซต์ลิงก์น้อยกว่า 4 รายการ  

เตือนหากไม่มีไซต์ลิงก์อย่างน้อย 4 รายการที่ระดับบัญชี ระดับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหา หรือไซต์ลิงก์อย่างน้อย 1 รายการในแต่ละกลุ่มโฆษณาภายในแคมเปญ

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

ใช้ชิ้นงานไซต์ลิงก์อย่างน้อย 4 รายการเพื่อทำให้โฆษณาดูโดดเด่นขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่ม CTR ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
 
ชิ้นงานข้อความไฮไลต์น้อยกว่า 4 รายการ

เตือนหากไม่มีไฮไลต์อย่างน้อย 4 รายการที่ระดับบัญชี ระดับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหา หรือไฮไลต์อย่างน้อย 1 รายการในแต่ละกลุ่มโฆษณาภายในแคมเปญ

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

ใช้ชิ้นงานข้อความไฮไลต์อย่างน้อย 4 รายการเพื่อทำให้โฆษณาดูโดดเด่นขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่ม CTR ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
แคมเปญไม่มีกลุ่มโฆษณา

เตือนหากมีการสร้างแคมเปญขึ้นแต่ไม่มีกลุ่มโฆษณาที่ทำงานอยู่

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

แคมเปญแสดงไม่ได้เนื่องจากไม่มีกลุ่มโฆษณาที่ทำงานอยู่ สร้างกลุ่มโฆษณาใหม่หรือเปลี่ยนสถานะของกลุ่มโฆษณาที่มีอยู่เป็น "เปิดใช้" ดูข้อมูลเพิ่มเติม
กลุ่มโฆษณาไม่มีโฆษณา

เตือนหากมีการสร้างกลุ่มโฆษณาขึ้นแต่ไม่มีโฆษณาที่ทำงานอยู่

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

กลุ่มโฆษณาไม่มีโฆษณาที่ทำงานอยู่ สร้างโฆษณาใหม่หรือเปลี่ยนสถานะของโฆษณาที่มีอยู่เป็น "เปิดใช้" ดูข้อมูลเพิ่มเติม
โฆษณา Search ที่ไม่ได้แสดง 

เตือนหากโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาไม่มีข้อมูลการกำหนดเป้าหมาย

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

โฆษณาแสดงจากกลุ่มโฆษณานี้ไม่ได้เนื่องจากไม่มีการเพิ่มคีย์เวิร์ดที่ทำงานอยู่หรือเป้าหมายโฆษณาแบบไดนามิกลงในกลุ่มโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติม
โฆษณา Shopping ที่ไม่ได้แสดง

เตือนหากกลุ่มโฆษณา Shopping ไม่มีกลุ่มผลิตภัณฑ์

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

โฆษณาแสดงจากกลุ่มโฆษณานี้ไม่ได้เนื่องจากไม่มีการเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ลงในกลุ่มโฆษณา สร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

เตือนหากมีการสร้างแคมเปญ Search แต่ไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

ใช้ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมอย่างน้อย 1 รายการเพื่อทำให้โฆษณาดูโดดเด่นขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่ม CTR ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่ได้กำหนดเป้าหมายพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา

เตือนหากแคมเปญไม่ได้กำหนดเป้าหมายพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

การแสดงโฆษณาในเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและการเข้าชมของโฆษณาได้ อัตราการคลิกผ่านในพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหาจะไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนคุณภาพใน Google Search ดูข้อมูลเพิ่มเติม
การเสนอราคาด้วยตนเอง

เตือนหากแคมเปญใช้การเสนอราคาด้วยตนเอง

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

ใช้กลยุทธ์การเสนอราคา CPC ที่ปรับปรุงแล้วหรือการเสนอราคาอัตโนมัติเพื่อเสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่ใช้การหมุนเวียนโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพ

เตือนหากแคมเปญในเครือข่ายการค้นหาไม่ได้ใช้การหมุนเวียนโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพ

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

ใช้การตั้งค่า "เพิ่มประสิทธิภาพ: เลือกใช้โฆษณาที่ทำงานได้ดีที่สุด" เพื่อแสดงโฆษณาที่ดีที่สุด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
การแสดงโฆษณาแบบเร่ง

เตือนหากแคมเปญใช้การแสดงโฆษณาแบบเร่ง

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

การแสดงโฆษณาแบบเร่งมีแนวโน้มสูงที่จะใช้งบประมาณรายวันของแคมเปญจนหมดตั้งแต่ช่วงต้นวัน ใช้การแสดงโฆษณาแบบมาตรฐานเพื่อให้ระบบกระจายการแสดงโฆษณาอย่างเท่าเทียมกันตลอดทั้งวัน ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่มีกลุ่มเป้าหมายในเครือข่ายการค้นหา

เตือนหากแคมเปญไม่ได้ใช้รายการรีมาร์เก็ตติ้งสำหรับโฆษณาในเครือข่ายการค้นหา การจับคู่ข้อมูลลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

แนบรายการกลุ่มเป้าหมายเพื่อรับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม 
โฆษณาน้อยกว่า 3 รายการ
(ใช้กับกลุ่มโฆษณาแล้ว)

เตือนหากมีโฆษณาเพียง 1-2 รายการในกลุ่มโฆษณา และมีการเปิดใช้การหมุนเวียนโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญในเครือข่ายการค้นหา

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

ใช้โฆษณาอย่างน้อย 3 แบบในกลุ่มโฆษณาเพื่อให้การหมุนเวียนโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพแสดงโฆษณาที่ประสิทธิภาพดีที่สุด ซึ่งอาจช่วยปรับปรุง CTR หรือ CVR ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่ได้ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion

เตือนหากบัญชีไม่ได้เปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

เปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion เพื่อใช้งานฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ เช่น การรายงานที่ดีขึ้นและการเสนอราคาอัตโนมัติ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
มีโฆษณาแบบรูปภาพแต่ไม่มีโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์ (ใช้กับกลุ่มโฆษณา)

เตือนหากกลุ่มโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์มีโฆษณาแบบรูปภาพแต่ไม่มีโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

คุณมีโฆษณาแบบรูปภาพแต่ไม่มีโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์ในกลุ่มโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์ ใช้โฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณาเพื่อให้ได้ Conversion มากขึ้นอย่างมากโดยมี CPA ใกล้เคียงกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติม
 
ตั้งค่าการเข้าถึงแบบยืดหยุ่นของแคมเปญเป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

เตือนหากมีการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่เสนอราคาได้ลงในแคมเปญในเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping ที่ตั้งค่าเป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

คุณตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายตามความสนใจและรีมาร์เก็ตติ้งในเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping เป็น "การกำหนดเป้าหมาย" ซึ่งจำกัดการเข้าชมไว้ที่ผู้ใช้ในกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น  ใช้ "การสังเกตการณ์" เพื่อกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ทั้งหมดและปรับราคาเสนอสำหรับผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ตั้งค่าการเข้าถึงแบบยืดหยุ่นของกลุ่มโฆษณาเป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

เตือนหากมีการเพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่เสนอราคาได้ลงในกลุ่มโฆษณาในเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping ที่ตั้งค่าเป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

คุณตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายตามความสนใจและรีมาร์เก็ตติ้งในเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping เป็น "การกำหนดเป้าหมาย" ซึ่งจำกัดการเข้าชมไว้ที่ผู้ใช้ในกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น  ใช้ "การสังเกตการณ์" เพื่อกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ทั้งหมดและปรับราคาเสนอสำหรับผู้ใช้ที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการกําหนดเป้าหมาย
(ใช้กับกลุ่มโฆษณาแล้ว)
 

เตือนหากกลุ่มโฆษณาในแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์ตั้งค่าการเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดเป้าหมายเป็นปิดใช้

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

คุณปิดใช้การเพิ่มการเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดเป้าหมาย เปิดใช้การกำหนดเป้าหมายเชิงรับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการกำหนดเป้าหมายเพื่อเข้าถึงผู้ใช้ที่การกำหนดเป้าหมายไม่เคยเข้าถึงได้มาก่อนโดยอัตโนมัติ โดยใช้การเสนอราคาต่อคนเท่าๆ เดิม ดูข้อมูลเพิ่มเติม
กําหนดเป้าหมายกลุ่มเป้าหมายใน Search ที่ไม่ได้ใช้งาน
(ใช้กับกลุ่มเป้าหมายแล้ว)
 

เตือนหากกลุ่มเป้าหมายมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่น้อยกว่า 1,000 รายและได้รับการกำหนดเป้าหมายโดยแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาในเครือข่าย Search

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

กลุ่มเป้าหมายมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่น้อยกว่า 1,000 รายและได้รับการกำหนดเป้าหมายโดยแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาในเครือข่ายการค้นหา โฆษณาจะไม่แสดงในรายการกลุ่มเป้าหมายนี้จนกว่าจะมีการเพิ่มผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ลงในรายการ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
กําหนดเป้าหมายกลุ่มเป้าหมายใน Display ที่ไม่ได้ใช้งาน
(ใช้กับกลุ่มเป้าหมายแล้ว)
 

เตือนหากกลุ่มเป้าหมายมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่น้อยกว่า 100 รายและได้รับการกำหนดเป้าหมายโดยกลุ่มโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์

หมายเหตุ: ดูคำอธิบายโดยละเอียด

กลุ่มเป้าหมายมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่น้อยกว่า 100 รายและได้รับการกำหนดเป้าหมายโดยกลุ่มโฆษณาในเครือข่ายดิสเพลย์ โฆษณาจะไม่แสดงในรายการกลุ่มเป้าหมายนี้จนกว่าจะมีการเพิ่มผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ลงในรายการ ดูข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่มีโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท (ใช้กับกลุ่มโฆษณาแล้ว)

เตือนหากไม่มีโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทในกลุ่มโฆษณาภายในแคมเปญในเครือข่าย Search ที่มีโฆษณาแบบข้อความที่ขยายออกอยู่แล้วอย่างน้อย 1 รายการเปิดใช้งาน

กลุ่มโฆษณาในเครือข่าย Search มีโฆษณาแบบข้อความที่ขยายออก แต่ยังไม่มีโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท ปรับปรุงประสิทธิภาพของกลุ่มโฆษณาด้วยการเพิ่มโฆษณาดังกล่าว
ไม่ได้กำหนดเป้าหมายพาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google เตือนหากแคมเปญวิดีโอที่ไม่ใช่แคมเปญ TrueView for Action ไม่ได้กำหนดเป้าหมายพาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google แคมเปญวิดีโอปิดใช้พาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google ให้เปิดใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้านอก YouTube ได้มากขึ้นแบบคุ้มทุนยิ่งขึ้น

คีย์เวิร์ดหรือหัวข้อที่กำหนดของกลุ่มโฆษณา Video Discovery (ใช้กับกลุ่มโฆษณาแล้ว)

เตือนหากวิดีโอสำหรับกลุ่มโฆษณา Discovery กำลังกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดหรือหัวข้อ กลุ่มโฆษณา Video Discovery กำลังกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดหรือหัวข้อ ซึ่งคุณจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโฆษณา TrueView Video Discovery เพิ่มการเข้าถึงโดยนำการกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดและหัวข้อออก
แคมเปญ TrueView ต้องมีโฆษณา Discovery หรือกำหนดเป้าหมายอย่างอื่น เตือนว่าแคมเปญ TrueView กำหนดเป้าหมายเฉพาะ YouTube Search ด้วยโฆษณาวิดีโอ TrueView ในสตรีมเท่านั้น แคมเปญ TrueView กำหนดเป้าหมายเฉพาะ YouTube Search ด้วยโฆษณาวิดีโอ TrueView ในสตรีมเท่านั้น หากต้องการให้โฆษณาทำงาน ให้เพิ่มโฆษณา TrueView Video Discovery หรือกำหนดเป้าหมายพาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google หรือเครือข่ายวิดีโอของ YouTube
ประเภทงบประมาณไม่ตรงกัน เตือนหากแคมเปญวิดีโอมีวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุด แต่ใช้งบประมาณเฉลี่ยรายวันอยู่ เตือนหากแคมเปญวิดีโอมีวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุด แต่ใช้งบประมาณเฉลี่ยรายวันอยู่ กำหนดงบประมาณทั้งหมดของแคมเปญเพื่อกำหนดการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ

วิธีการ

การแก้ไขกฎที่กำหนดเอง

วิธีแก้ไขกฎที่กำหนดเองที่มีไว้ให้อยู่แล้ว

  1. คลิกกฎที่กำหนดเองในแถบด้านข้างที่อยู่ใต้รายการประเภท
  2. เลือกกฎที่ต้องการแก้ไขในมุมมองข้อมูล
  3. แก้ไขข้อมูลในแผงแก้ไข หรือคลิกความคิดเห็นเพื่อเพิ่มหมายเหตุเกี่ยวกับกฎ
  4. คลิกใช้การเปลี่ยนแปลงกฎด้านบนของมุมมองข้อมูล

วิธีนำกฎที่กำหนดเองที่มีไว้ให้อยู่แล้วออก

  1. คลิกกฎที่กำหนดเองในแถบด้านข้างที่อยู่ใต้รายการประเภท
  2. เลือกกฎที่ต้องการนำออกในมุมมองข้อมูล
  3. คลิกนำออกในมุมมองข้อมูล
  4. คลิกใช้การเปลี่ยนแปลงกฎเหนือมุมมองข้อมูล 
โปรดทราบว่าคุณนำกฎที่มีไว้ให้อยู่แล้วออกไม่ได้ โดยกฎจะหยุดชั่วคราวแทนหากพยายามนำออก
 

วิธีคืนค่าการตั้งค่าเริ่มต้นของกฎที่กำหนดเองที่มีไว้ให้อยู่แล้ว

  1. คลิกกฎที่กำหนดเองในแถบด้านข้างที่อยู่ใต้รายการประเภท
  2. คลิกคืนค่าเริ่มต้นในมุมมองข้อมูล
  3. คลิกใช้การเปลี่ยนแปลงกฎด้านบนของมุมมองข้อมูล

วิธีแสดงการละเมิดกฎที่คุณข้ามไปอีกครั้ง

  1. คลิกกฎที่กำหนดเองในแถบด้านข้างที่อยู่ใต้รายการประเภท
  2. คลิกแสดงการละเมิดที่ข้ามไปอีกครั้งในมุมมองข้อมูล
  3. คลิกใช้การเปลี่ยนแปลงกฎด้านบนของมุมมองข้อมูล

การสร้างกฎที่กำหนดเองใหม่

วิธีสร้างกฎที่คุณกำหนดเอง

  1. คลิกกฎที่กำหนดเองในแถบด้านข้างที่อยู่ใต้รายการประเภท
  2. คลิกเพิ่มกฎที่กำหนดเอง
  3. กรอกข้อมูลในช่องที่ต้องกรอกทั้งหมดในแผงแก้ไข
  4. คลิกแก้ไขด้านล่าง "ใช้กับ" ในแผงแก้ไขเพื่อเลือกว่าต้องการใช้กฎกับอะไร เช่น คีย์เวิร์ดหรือโฆษณาแบบข้อความ
  5. ภายใต้ "เกณฑ์การละเมิด" เลือกหรือป้อนเงื่อนไขที่ถือว่าจะละเมิดกฎเมื่อเกิดการละเมิดที่ตรงตามเงื่อนไขเหล่านี้ เพิ่มเกณฑ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน กล่าวคือ เกณฑ์การละเมิดต้องตรงตามเงื่อนไขทั้งหมดจึงจะถือว่าละเมิดกฎ
  6. ภายใต้ "ความรุนแรง" ให้เลือกว่าคุณต้องการให้กฎแจ้งคุณเฉพาะเมื่อเกิดการละเมิด หรือป้องกันไม่ให้เกิดการโหลดการเปลี่ยนแปลงที่จะละเมิดกฎ
  7. คลิกใช้การเปลี่ยนแปลงกฎด้านบนของมุมมองข้อมูล
     

ตัวอย่างของกฎที่คุณสร้างได้

ข้อมูลต่อไปนี้เป็นตัวอย่างเกณฑ์การละเมิดบางส่วนที่ใช้สร้างกฎที่กำหนดเองได้เพื่อแจ้งให้ทราบเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้

  • ไม่ได้ป้อนช่องที่ไม่บังคับ เช่น "label" ใช้เกณฑ์การละเมิดต่อไปนี้
    • label=""
  • URL สุดท้ายไม่มีโดเมน ใช้เกณฑ์การละเมิดต่อไปนี้
    • status = enabled finalurl -: "www.exampleURLs.com"
  • CPC สูงสุดของคีย์เวิร์ดเกินจำนวนที่กำหนด ใช้เกณฑ์การละเมิดต่อไปนี้
    • status = enabled maxcpc >= "4.00"
  • ไม่ได้เปิดใช้การรายงานจำนวนการโทรเข้าในชิ้นงานการโทร ใช้เกณฑ์การละเมิดต่อไปนี้
    • status = enabled callreporting -= enabled
  • กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ไม่มีโฆษณาแบบข้อความที่ขยายออกที่เปิดใช้อย่างน้อย 2 รายการซึ่งมีข้อความ "abc"
    • status = enabled COUNT(expandedtextads, status = enabled headline1 : "abc") < 2

คำอธิบายกฎที่กำหนดเอง

กฎ: โฆษณาแบบข้อความต้องมีบรรทัดรายละเอียด 2 และบรรทัดแรก 3

กฎนี้ใช้กับโฆษณาที่ไม่มีบรรทัดรายละเอียด 2 และบรรทัดแรก 3

เกณฑ์การละเมิด:

descriptionline2 = ""
status = enabled
adgroupstatus = enabled
headline3 = ""

ภาพรวม

เพื่อช่วยผู้ลงโฆษณาปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณา Google จะเตือนให้ทราบเมื่อมีโอกาสเพิ่มบรรทัดรายละเอียด 2 และบรรทัดแรก 3

กฎ: เทมเพลตการติดตามใช้ HTTP แทน HTTPS

กฎนี้ใช้กับเทมเพลตการติดตามที่ใช้ HTTP แทน HTTPS

เกณฑ์การละเมิด:

สตริง URL เทมเพลตการติดตามมี HTTP ไม่ใช่ HTTPS

ภาพรวม

การใช้ HTTP ในเทมเพลตการติดตามอาจทำให้ระบบการวัดคลิกหรือการเปลี่ยนเส้นทางขัดข้อง เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณใช้ HTTPS

คำอธิบายโดยละเอียด

การใช้ HTTP ในเทมเพลตการติดตามอาจทำให้ระบบการวัดคลิกหรือการเปลี่ยนเส้นทางขัดข้อง เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณใช้ HTTPS ดูข้อมูลเพิ่มเติม

กฎ: ไซต์ลิงก์ที่ไม่มีคำอธิบาย

ใช้กับไซต์ลิงก์

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
associationtype=specific
descriptionline1=""
descriptionline2=""

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 3 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา
  • ที่มีไซต์ลิงก์ แต่ไม่มีข้อความคำอธิบาย

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 3 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

ดูเฉพาะไซต์ลิงก์ที่เปิดใช้ ไม่สนใจไซต์ลิงก์ที่มีสถานะว่าจะลบ

associationtype=specific

ดูเฉพาะความเชื่อมโยงของไซต์ลิงก์ที่แชร์จริง ไม่สนใจรายการ <sitelinks disabled> พิเศษ

descriptionline1=""
descriptionline2=""

มองหาไซต์ลิงก์ที่มีบรรทัดรายละเอียด 1 และ 2 ว่างเปล่าทั้งคู่

กฎ: ชิ้นงานไซต์ลิงก์น้อยกว่า 4 รายการ

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด:

status = enabled
campaigntype = search
OR(
    AND(
        EXIST(sitelinks, associationtype = specific)
        COUNT(sitelinks, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4
    )
    AND(
        NOTEXIST(sitelinks)
        CONTAINER(
            COUNT(sitelinks, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4
        )
    )
)
EXIST(adgroups,
    status = enabled
    NOTEXIST(sitelinks, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))    
    NOTEXIST(sitelinks, associationtype -= specific))

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 4 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา
  • และที่ไม่มีไซต์ลิงก์ที่แก้ไขแล้วขั้นต่ำ 4 รายการหรือปิดใช้ไซต์ลิงก์อย่างชัดเจน
  • และที่มีกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่มซึ่งไม่มีไซต์ลิงก์และไม่ได้ปิดใช้ไซต์ลิงก์

หากเงื่อนไขทั้งหมดนี้เป็นจริง ระบบจะตั้งสถานะแคมเปญพร้อมด้วยคำเตือน ความรุนแรงเริ่มต้นสำหรับกฎที่กำหนดเองทั้งหมด

หมายเหตุ: หากคุณต้องการเปลี่ยนจำนวนไซต์ลิงก์ที่กำหนด ค่า "4" ค่า 2 ชุดที่จะเปลี่ยนแปลง ได้แก่ จำนวนไซต์ลิงก์ที่ระดับแคมเปญ และจำนวนที่ระดับบัญชี ซึ่งทั้งคู่อยู่ในฟังก์ชัน "หรือ" โดยรวม

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 4 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

campaigntype = search

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาเท่านั้น

OR(
    AND(
        EXIST(sitelinks, associationtype = specific)
        COUNT(sitelinks, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4
    )
    AND(
        NOTEXIST(sitelinks)
        CONTAINER(
            COUNT(sitelinks, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4
        )
    )
)

ฟังก์ชัน "หรือ" นั้นซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย เพราะฉะนั้นมาดูรายละเอียดกัน

EXIST(sitelinks, associationtype = specific) ตรวจสอบว่ามีไซต์ลิงก์ที่แชร์อยู่อย่างน้อย 1 รายการที่เชื่อมโยงกับแคมเปญ เงื่อนไข associationtype = specific จะทดสอบว่าไซต์ลิงก์อ้างอิงถึงไซต์ลิงก์ที่แชร์จากไลบรารีที่ใช้ร่วมกันหรือไม่ ไซต์ลิงก์อื่นๆ เช่น รายการ <sitelink disabled> จะไม่ผ่านเงื่อนไขตัวกรองนี้

ถัดไป COUNT(sitelinks, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4 ตรวจสอบว่ามีไซต์ลิงก์ที่ได้รับอนุมัติน้อยกว่า 4 รายการที่เชื่อมโยงกับแคมเปญหรือไม่ ระบบจะจัดกลุ่มทั้ง 2 เงื่อนไขเข้าด้วยกันในฟังก์ชัน "และ" ซึ่งหมายความว่าทั้งคู่ต้องตรงกัน ดังนั้นส่วนนี้จะถามว่าไซต์ลิงก์ที่แชร์เชื่อมโยงกับแคมเปญนี้หรือไม่ หากใช่ มีน้อยกว่า 4 รายการที่ได้รับอนุมัติหรือไม่

เงื่อนไข "และ" ถัดไปนั้นเหมือนกัน แต่จะใช้ "ไม่มีอยู่" เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีไซต์ลิงก์ แม้แต่รายการพิเศษ เช่น <sitelink disabled> ที่เชื่อมโยงกับแคมเปญ นอกจากนี้ยังรวมส่วน "จำนวน" ในฟังก์ชัน "คอนเทนเนอร์" เพื่อนับไซต์ลิงก์สำหรับคอนเทนเนอร์ที่เป็นเจ้าของ นั่นก็คือบัญชีอีกด้วย เมื่อนำทั้งคู่มารวมในฟังก์ชัน "และ" เงื่อนไขจะถามว่าไม่มีไซต์ลิงก์ที่เชื่อมโยงกับแคมเปญนี้ (แม้แต่ไซต์ลิงก์พิเศษ) ใช่หรือไม่ และหากไม่ใช่ มีน้อยกว่า 4 รายการที่ได้รับอนุมัติที่ระดับบัญชีหรือไม่

เนื่องจากคำถาม 2 ข้อนี้รวมอยู่ในฟังก์ชัน "หรือ" เงื่อนไขตัวกรองนี้จะถามว่าคำตอบของคำถามอย่างน้อย 1 ใน 2 ข้อเหล่านั้นเป็น "ใช่" ใช่หรือไม่ พูดอีกอย่างก็คือ จะถามว่าหากมีไซต์ลิงก์ที่แชร์ซึ่งเชื่อมโยงกับแคมเปญนี้ จะมีน้อยกว่า 4 รายการที่ได้รับอนุมัติ แต่หากไม่มีสักรายการที่ระดับแคมเปญ และแคมเปญไม่ได้ปิดใช้ไซต์ลิงก์อย่างชัดเจน จะมีน้อยกว่า 4 รายการที่ได้รับอนุมัติที่ระดับบัญชีหรือไม่ หรือเนื่องจากเมื่อแคมเปญไม่มีไซต์ลิงก์ จะ "รับ" ไซต์ลิงก์มาจากบัญชี คำถามจะง่ายขึ้น คือแคมเปญมีไซต์ลิงก์ที่แก้ไขแล้วน้อยกว่า 4 รายการ และไม่ได้ปิดใช้ใช่หรือไม่

EXIST(adgroups,
    status = enabled
    NOTEXIST(sitelinks, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))    
    NOTEXIST(sitelinks, associationtype -= specific))

ฟังก์ชัน "ที่มีอยู่" กำลังตรวจสอบว่ามีกลุ่มโฆษณาใดในแคมเปญที่ตรงกับตัวกรองที่ระบุ ซึ่งเงื่อนไขทั้งหมดจะต้องตรงกับกลุ่มโฆษณาจึงจะมีการนับ เงื่อนไขแรก status = enabled จะมองหาเฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ในแคมเปญ

จากนั้น NOTEXIST(sitelinks, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) จะมองหากลุ่มโฆษณาที่ไม่ได้แนบไซต์ลิงก์ที่ได้รับอนุมัติ

สุดท้าย NOTEXIST(sitelinks, associationtype -= specific) จะจำกัดยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อมองหากลุ่มโฆษณาที่ไม่มีไซต์ลิงก์พิเศษ เช่น รายการ <sitelink disabled>  ดังนั้นโดยรวมแล้ว เงื่อนไขตัวกรองนี้จะตรวจสอบว่าแคมเปญมีกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่มที่ไม่มีไซต์ลิงก์ และไม่ได้ปิดใช้ไซต์ลิงก์หรือไม่

กฎ: ชิ้นงานข้อความไฮไลต์น้อยกว่า 4 รายการ

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaigntype = search
OR(
    AND(
        EXIST(calloutextensions, associationtype = specific)
        COUNT(calloutextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4
    )
    AND(
        NOTEXIST(calloutextensions)
        CONTAINER(
            COUNT(calloutextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4
        )
    )
)
EXIST(adgroups,
    status = enabled
    NOTEXIST(calloutextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))    
    NOTEXIST(calloutextensions, associationtype -= specific))

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 4 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา
  • และที่ไม่มีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่แก้ไขแล้วขั้นต่ำ 4 รายการหรือปิดใช้ชิ้นงานอย่างชัดเจน
  • และที่มีกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่มซึ่งไม่มีชิ้นงานข้อความไฮไลต์และไม่ได้ปิดใช้ชิ้นงาน

หากเงื่อนไขทั้งหมดนี้เป็นจริง ระบบจะตั้งสถานะแคมเปญพร้อมด้วยคำเตือน ความรุนแรงเริ่มต้นสำหรับกฎที่กำหนดเองทั้งหมด

หมายเหตุ: หากคุณต้องการเพียงเปลี่ยนจำนวนชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่ต้องมี ค่า "4" สอง 2 ชุดที่จะเปลี่ยนแปลง ได้แก่ จำนวนชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่ระดับแคมเปญ และจำนวนที่ระดับบัญชี ซึ่งทั้งคู่อยู่ในฟังก์ชัน "หรือ" โดยรวม

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 4 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

campaigntype = search

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาเท่านั้น

OR(
    AND(
        EXIST(calloutextensions, associationtype = specific)
        COUNT(calloutextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4
    )
    AND(
        NOTEXIST(calloutextensions)
        CONTAINER(
            COUNT(calloutextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4
        )
    )
)

ฟังก์ชัน "หรือ" นั้นซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย เพราะฉะนั้นมาดูรายละเอียดกัน

EXIST(calloutextensions, associationtype = specific) ตรวจสอบว่ามีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่แชร์อยู่อย่างน้อย 1 รายการที่เชื่อมโยงกับแคมเปญ เงื่อนไข associationtype = specific จะทดสอบว่าชิ้นงานข้อความไฮไลต์อ้างอิงถึงชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่แชร์จากไลบรารีที่ใช้ร่วมกันหรือไม่ ชิ้นงานข้อความไฮไลต์อื่นๆ เช่น รายการ <callout extensions disabled> จะไม่ผ่านเงื่อนไขตัวกรองนี้

ถัดไป COUNT(calloutextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 4 ตรวจสอบว่ามีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่ได้รับอนุมัติน้อยกว่า 4 รายการที่เชื่อมโยงกับแคมเปญหรือไม่

ระบบจะจัดกลุ่มทั้ง 2 เงื่อนไขเข้าด้วยกันในฟังก์ชัน "และ" ซึ่งหมายความว่าทั้งคู่ต้องตรงกัน ดังนั้นส่วนนี้จะถามว่าชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่แชร์เชื่อมโยงกับแคมเปญนี้หรือไม่ หากใช่ มีน้อยกว่า 4 รายการที่ได้รับอนุมัติหรือไม่

เงื่อนไข "และ" ถัดไปนั้นเหมือนกัน แต่จะใช้ "ไม่มีอยู่" เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ แม้แต่รายการพิเศษ เช่น <callout extensions disabled> ที่เชื่อมโยงกับแคมเปญ นอกจากนี้ยังรวมส่วน "นับ" ในฟังก์ชัน "คอนเทนเนอร์" เพื่อนับชิ้นงานข้อความไฮไลต์สำหรับคอนเทนเนอร์ที่เป็นเจ้าของ นั่นก็คือบัญชีอีกด้วย เมื่อนำทั้งคู่มารวมในฟังก์ชัน "และ" เงื่อนไขจะถามว่าไม่มีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่เชื่อมโยงกับแคมเปญนี้ (แม้แต่ชิ้นงานข้อความไฮไลต์พิเศษ) ใช่หรือไม่ และหากไม่ใช่ มีน้อยกว่า 4 รายการที่ได้รับอนุมัติที่ระดับบัญชีหรือไม่

เนื่องจากคำถาม 2 ข้อนี้รวมอยู่ในฟังก์ชัน "หรือ" เงื่อนไขตัวกรองนี้จะถามว่าคำตอบของคำถามอย่างน้อย 1 ใน 2 ข้อเหล่านั้นเป็น "ใช่" ใช่หรือไม่ พูดอีกอย่างก็คือ จะถามว่าหากมีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่แชร์ซึ่งเชื่อมโยงกับแคมเปญนี้ จะมีน้อยกว่า 4 รายการที่ได้รับอนุมัติ แต่หากไม่มีสักรายการที่ระดับแคมเปญ และแคมเปญไม่ได้ปิดใช้ชิ้นงานข้อความไฮไลต์อย่างชัดเจน จะมีน้อยกว่า 4 รายการที่ได้รับอนุมัติที่ระดับบัญชีหรือไม่ หรือเนื่องจากเมื่อแคมเปญไม่มีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ จะ "รับ" ชิ้นงานข้อความไฮไลต์มาจากบัญชี คำถามจะง่ายขึ้น คือแคมเปญมีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่แก้ไขแล้วน้อยกว่า 4 รายการ และไม่ได้ปิดใช้ใช่หรือไม่

EXIST(adgroups,
    status = enabled
    NOTEXIST(calloutextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))    
    NOTEXIST(calloutextensions, associationtype -= specific))

ฟังก์ชัน "ที่มีอยู่" กำลังตรวจสอบว่ามีกลุ่มโฆษณาใดในแคมเปญที่ตรงกับตัวกรองที่ระบุ ซึ่งเงื่อนไขทั้งหมดจะต้องตรงกับกลุ่มโฆษณาจึงจะมีการนับ เงื่อนไขแรก status = enabled จะมองหาเฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ในแคมเปญ

จากนั้น NOTEXIST(calloutextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) จะมองหากลุ่มโฆษณาที่ไม่ได้แนบชิ้นงานข้อความไฮไลต์ที่ได้รับอนุมัติ

สุดท้าย NOTEXIST(calloutextensions, associationtype -= specific) จะจำกัดยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อมองหากลุ่มโฆษณาที่ไม่มีชิ้นงานข้อความไฮไลต์พิเศษ เช่น รายการ <callout extensions disabled> ดังนั้นโดยรวมแล้ว เงื่อนไขตัวกรองนี้จะตรวจสอบว่าแคมเปญมีกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่มที่ไม่มีชิ้นงานข้อความไฮไลต์ และไม่ได้ปิดใช้ชิ้นงานข้อความไฮไลต์

กฎ: แคมเปญไม่มีกลุ่มโฆษณา

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaigntype -= universalapp
NOTEXIST(adgroups, status = enabled)

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 3 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่ไม่มีประเภทเป็น Universal App (App Campaign)
  • และที่ไม่มีกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 3 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น 

campaigntype -= universalapp

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งไม่มีประเภทเป็น Universal App (App Campaign)

NOTEXIST(adgroups, status = enabled)

ฟังก์ชันนี้จะตรวจสอบว่าไม่มีกลุ่มโฆษณาอยู่ในแคมเปญ แต่พิจารณาเฉพาะกลุ่มโฆษณาที่ผ่านการตรวจสอบ status = enabled ดังนั้นหากแคมเปญมีกลุ่มโฆษณาที่หยุดชั่วคราวหรือนำออก แต่ไม่มีกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ เงื่อนไขนี้จะยังคงผ่านและแคมเปญจะได้รับแจ้งโดยมีสถานะเป็นคำเตือน

กฎ: กลุ่มโฆษณาไม่มีโฆษณา

ใช้กับ: กลุ่มโฆษณา

เกณฑ์การละเมิด

campaignstatus = enabled
status = enabled
NOTEXIST(ads, status = enabled)

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 3 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มโฆษณาภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่เปิดใช้ด้วยตัวเองด้วย
  • และที่ไม่มีโฆษณาที่เปิดใช้

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 3 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

campaignstatus = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาซึ่งแคมเปญที่เป็นเจ้าของเปิดใช้

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

NOTEXIST(ads, status = enabled)

ฟังก์ชันนี้จะตรวจสอบว่าไม่มีโฆษณาประเภทใดๆ อยู่ในกลุ่มโฆษณา แต่จะพิจารณาเฉพาะโฆษณาที่ผ่านการตรวจสอบ status = enabled ดังนั้นหากกลุ่มโฆษณามีโฆษณาที่หยุดชั่วคราวหรือนำออก แต่ไม่มีโฆษณาที่เปิดใช้ เงื่อนไขนี้จะยังคงผ่านและกลุ่มโฆษณาจะได้รับแจ้งโดยมีสถานะเป็นคำเตือน

กฎ: โฆษณาในเครือข่ายการค้นหาที่ไม่ได้แสดง

ใช้กับ: กลุ่มโฆษณา

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = search
NOTEXIST(dynamicadtargets; keywords, status = enabled)

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 4 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • และอยู่ภายในแคมเปญประเภทเครือข่ายการค้นหา
  • และที่ไม่มีเกณฑ์ที่เปิดใช้

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 4 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

campaignstatus = enabled
campaigntype = search

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ซึ่งแคมเปญที่เป็นเจ้าของเปิดใช้อยู่และมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา

NOTEXIST(dynamicadtargets; keywords, status = enabled)

ฟังก์ชันนี้จะตรวจสอบว่าไม่มีเกณฑ์ที่ใช้กับแคมเปญในเครือข่ายการค้นหาที่อยู่ในกลุ่มโฆษณา แต่จะพิจารณาเฉพาะเกณฑ์ที่ผ่านการตรวจสอบ status = enabled ดังนั้นหากกลุ่มโฆษณามีเกณฑ์ที่หยุดชั่วคราวหรือนำออก แต่ไม่มีเกณฑ์ที่เปิดใช้ เงื่อนไขนี้จะยังคงผ่านและกลุ่มโฆษณาจะได้รับแจ้งโดยมีสถานะเป็นคำเตือน

กฎ: โฆษณา Shopping ที่ไม่ได้แสดง

ใช้กับ: กลุ่มโฆษณา

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = shopping
NOTEXIST(productgroups)

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 4 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • และอยู่ภายในแคมเปญ Shopping
  • และที่ไม่มีกลุ่มผลิตภัณฑ์

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 4 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

campaignstatus = enabled
campaigntype = shopping

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ซึ่งแคมเปญที่เป็นเจ้าของเปิดใช้อยู่และมีประเภทเป็น Shopping

NOTEXIST(productgroups)

ฟังก์ชันนี้จะตรวจสอบว่าไม่มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโฆษณาใช่หรือไม่ หากไม่มี ระบบจะแจ้งสถานะกลุ่มโฆษณาดังกล่าว

กฎ: ไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaigntype = search
OR(
    AND(
        EXIST(structuredsnippetextension, associationtype = specific)
        COUNT(structuredsnippetextension, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 1
    )
    AND(
        NOTEXIST(structuredsnippetextension)
        CONTAINER(
            COUNT(structuredsnippetextension, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 1
        )
    )
)
EXIST(adgroups,
    status = enabled
    NOTEXIST(structuredsnippetextension, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))    
    NOTEXIST(structuredsnippetextension, associationtype -= specific))

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 4 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา
  • และที่ไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่แก้ไขแล้วหรือปิดใช้ชิ้นงานอย่างชัดเจน
  • และที่มีกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่มซึ่งไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมและไม่ได้ปิดใช้ชิ้นงาน

หากเงื่อนไขทั้งหมดนี้เป็นจริง ระบบจะตั้งสถานะแคมเปญพร้อมด้วยคำเตือน ความรุนแรงเริ่มต้นสำหรับกฎที่กำหนดเองทั้งหมด

หมายเหตุ: หากคุณต้องการเพียงเปลี่ยนจำนวนชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่กำหนด มีค่า "1" แยกกันสองรายการที่จะเปลี่ยนแปลง ได้แก่ จำนวนชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่ระดับแคมเปญ และจำนวนที่ระดับบัญชี ซึ่งทั้งคู่อยู่ในฟังก์ชัน "หรือ" โดยรวม

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 4 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

campaigntype = search

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาเท่านั้น

OR(
    AND(
        EXIST(structuredsnippetextensions, associationtype = specific)
        COUNT(structuredsnippetextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 1
    )
    AND(
        NOTEXIST(structuredsnippetextensions)
        CONTAINER(
            COUNT(structuredsnippetextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 1
        )
    )
)

ฟังก์ชัน "หรือ" นั้นซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย เพราะฉะนั้นมาดูรายละเอียดกัน

EXIST(structuredsnippetextensions, associationtype = specific) ตรวจสอบว่ามีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่แชร์อยู่อย่างน้อย 1 รายการที่เชื่อมโยงกับแคมเปญ เงื่อนไข associationtype = specific จะทดสอบว่าชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมอ้างอิงถึงชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่แชร์จากไลบรารีที่ใช้ร่วมกันหรือไม่ ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น รายการ <structured snippet extensions disabled> จะไม่ผ่านเงื่อนไขตัวกรองนี้

ถัดไป COUNT(structuredsnippetextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 1 ตรวจสอบว่าไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้รับอนุมัติที่เชื่อมโยงกับแคมเปญหรือไม่ ระบบจะจัดกลุ่มทั้ง 2 เงื่อนไขเข้าด้วยกันในฟังก์ชัน "และ" ซึ่งหมายความว่าทั้งคู่ต้องตรงกัน ดังนั้นส่วนนี้จะถามว่าชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่แชร์เชื่อมโยงกับแคมเปญนี้หรือไม่ หากใช่ มีน้อยกว่า 1 รายการที่ได้รับอนุมัติหรือไม่

เงื่อนไข "หรือ" ถัดไปนั้นเหมือนกัน แต่จะใช้ "ไม่มีอยู่" เพื่อตรวจสอบว่าไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม แม้แต่รายการพิเศษ เช่น <structured snippet extensions disabled> ที่เชื่อมโยงกับแคมเปญ นอกจากนี้ยังรวมส่วน "นับ" ในฟังก์ชัน "คอนเทนเนอร์" เพื่อนับชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับคอนเทนเนอร์ที่เป็นเจ้าของ นั่นก็คือบัญชีอีกด้วย เมื่อนำทั้งคู่มารวมในฟังก์ชัน "และ" เงื่อนไขจะถามว่าไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่เชื่อมโยงกับแคมเปญนี้ (แม้แต่ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมพิเศษ) ใช่หรือไม่ และหากไม่ใช่ มีน้อยกว่า 1 รายการที่ได้รับอนุมัติที่ระดับบัญชีหรือไม่

เนื่องจากคำถาม 2 ข้อนี้รวมอยู่ในฟังก์ชัน "หรือ" เงื่อนไขตัวกรองนี้จะถามว่าคำตอบของคำถามอย่างน้อย 1 ใน 2 ข้อเหล่านั้นเป็น "ใช่" ใช่หรือไม่ พูดอีกอย่างก็คือ จะถามว่าหากมีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่แชร์ซึ่งเชื่อมโยงกับแคมเปญนี้ จะมีน้อยกว่า 1 รายการที่ได้รับอนุมัติ แต่หากไม่มีสักรายการที่ระดับแคมเปญ และแคมเปญไม่ได้ปิดใช้ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมอย่างชัดเจน จะมีน้อยกว่า 1 รายการที่ได้รับอนุมัติที่ระดับบัญชีหรือไม่ หรือเนื่องจากเมื่อแคมเปญไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม จะ "รับ" ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมมาจากบัญชี คำถามจะง่ายขึ้น คือแคมเปญไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่แก้ไขแล้ว และไม่ได้ปิดใช้ใช่หรือไม่

EXIST(adgroups,
    status = enabled
    NOTEXIST(structuredsnippetextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))    
    NOTEXIST(structuredsnippetextensions, associationtype -= specific))

ฟังก์ชัน "ที่มีอยู่" กำลังตรวจสอบว่ามีกลุ่มโฆษณาใดในแคมเปญที่ตรงกับตัวกรองที่ระบุ ซึ่งเงื่อนไขทั้งหมดจะต้องตรงกับกลุ่มโฆษณาจึงจะมีการนับ เงื่อนไขแรก status = enabled จะมองหาเฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ในแคมเปญ

จากนั้น NOTEXIST(structuredsnippetextensions, approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) จะมองหากลุ่มโฆษณาที่ไม่ได้แนบชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้รับอนุมัติ

สุดท้าย NOTEXIST(structuredsnippetextensions, associationtype -= specific) จะจำกัดยิ่งขึ้นไปอีกเพื่อมองหากลุ่มโฆษณาที่ไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมพิเศษ เช่น รายการ <structured snippet extensions disabled> ดังนั้นโดยรวมแล้ว เงื่อนไขตัวกรองนี้จะตรวจสอบว่าแคมเปญมีกลุ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 กลุ่มที่ไม่มีชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม และไม่ได้ปิดใช้ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

กฎ: ไม่ได้กำหนดเป้าหมายพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaigntype = (search, shopping)
includesearchpartners = disabled

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 3 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping
  • และที่ปิดใช้ "รวมพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา"

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 3 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

campaigntype = (search, shopping)

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping เท่านั้น

includesearchpartners = disabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทที่ระบุ ซึ่งปิดใช้ "รวมพาร์ทเนอร์ในเครือข่ายการค้นหา"

กฎ: การเสนอราคาด้วยตนเอง

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaigntype = (search, shopping, display)
accountsupportsconversions = enabled
bidstrategytype = manualcpc
enhancedcpc = disabled

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 5 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา, Shopping หรือเครือข่ายดิสเพลย์
  • ที่อยู่ภายในบัญชีซึ่งรองรับเครื่องมือวัด Conversion
  • ที่มีกลยุทธ์การเสนอราคาเป็น CPC ที่กำหนดเอง
  • และที่ปิดใช้ CPC ที่ปรับปรุงแล้ว

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 5 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

campaigntype = (search, shopping, display)

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา, Shopping, เครือข่ายดิสเพลย์

accountsupportsconversions = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทที่ระบุ ซึ่งอยู่ในบัญชีที่เปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion

bidstrategytype = manualcpc
enhancedcpc = disabled

และสุดท้าย แคมเปญเหล่านั้นต้องมีกลยุทธ์การเสนอราคาประเภท CPC ที่กำหนดเอง และปิดใช้ CPC ที่ปรับปรุงแล้วจึงจะแจ้งได้

กฎ: ไม่ใช้การหมุนเวียนโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพ

ใช้กับ: กลุ่มโฆษณา

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = search
adrotation = rotateindefinitely
COUNT(ads, status = enabled) > 1

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 5 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา
  • และที่กลุ่มโฆษณามีการหมุนเวียนโฆษณาแบบ "หมุนเวียนโฆษณาไปเรื่อยๆ"
  • และโฆษณาที่เปิดใช้ประเภใดก็ได้อย่างน้อย 2 รายการ

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 5 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

campaignstatus = enabled
campaigntype = search

กลุ่มโฆษณาต้องมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา

adrotation = rotateindefinitely

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ซึ่งตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณาเป็น "ไม่เพิ่มประสิทธิภาพ: หมุนเวียนโฆษณาไปเรื่อยๆ"

COUNT(ads, status = enabled) > 1

แต่เฉพาะเมื่อมีโฆษณาประเภทใดก็ได้อย่างน้อย 1 รายการซึ่งผ่านตัวกรอง status = enabled ตัวอย่างเช่น จะไม่แจ้งหากกลุ่มโฆษณามีโฆษณาที่เปิดใช้ 1 รายการและโฆษณาที่หยุดชั่วคราวอีก 1 รายการ

กฎ: การแสดงโฆษณาแบบเร่ง

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaigntype = (search, shopping, display)
deliverymethod -= standard

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 3 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา, Shopping หรือเครือข่ายดิสเพลย์
  • และที่ไม่ได้ใช้วิธีการแสดงโฆษณาแบบมาตรฐาน

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 3 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

campaigntype = (search, shopping, display)

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา, Shopping, หรือเครือข่ายดิสเพลย์เท่านั้น

deliverymethod -= standard

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทที่ระบุ ซึ่งไม่ได้ใช้วิธีการแสดงโฆษณาแบบมาตรฐาน

กฎ: ไม่มีกลุ่มเป้าหมายในเครือข่ายการค้นหา

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaigntype = (search, shopping)
NOTEXIST(audiences, status = enabled)
EXIST(adgroups, status = enabled NOTEXIST(audiences, status = enabled))

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 4 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping
  • ที่ไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้
  • และมีกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้อย่างน้อย 1 รายการที่ไม่มีกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 4 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

campaigntype = (search, shopping)

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping เท่านั้น

NOTEXIST(audiences, status = enabled)

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทที่ระบุ ซึ่งไม่มีกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้

EXIST(adgroups, status = enabled NOTEXIST(audiences, status = enabled))

ฟังก์ชันนี้จะตรวจสอบการมีอยู่ของกลุ่มโฆษณาซึ่งตรงกับเงื่อนไขย่อยทั้งหมด ได้แก่ status = enabled, ซึ่งหมายความว่าต้องเปิดใช้กลุ่มโฆษณา และ NOTEXIST(audiences, status = enabled) ซึ่งหมายความว่ากลุ่มโฆษณาต้องไม่มีกลุ่มเป้าหมายที่ตรงตามเงื่อนไขตัวกรอง status = enabled พูดอีกอย่างก็คือ จะแจ้งแคมเปญได้เฉพาะเมื่อมีกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้อย่างน้อย 1 รายการซึ่งไม่มีกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้

กฎ: มีโฆษณาน้อยกว่า 3 รายการ

ใช้กับ: กลุ่มโฆษณา

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = search
adrotation = optimize
COUNT(ads, status = enabled approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 3

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 5 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา
  • และที่กลุ่มโฆษณามีการหมุนเวียนโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพ
  • และโฆษณาประเภทใดก็ได้ที่เปิดใช้และได้รับอนุมัติน้อยกว่า 3 รายการ

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 5 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

campaignstatus = enabled
campaigntype = search

กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ต้องมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทแคมเปญเป็นเครือข่ายการค้นหา

adrotation = optimize

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ซึ่งตั้งค่าการหมุนเวียนโฆษณาเป็น "เพิ่มประสิทธิภาพ: เลือกใช้โฆษณาที่ทำงานได้ดีที่สุด"

COUNT(ads, status = enabled approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended)) < 3

แจ้งกลุ่มโฆษณาได้ก็ต่อเมื่อมีโฆษณาประเภทใดก็ได้น้อยกว่า 3 รายการซึ่งผ่านเงื่อนไขย่อยที่นี่ ได้แก่ status = enabled ซึ่งหมายความว่าต้องเปิดใช้โฆษณา และ approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended) ซึ่งหมายความว่าโฆษณาต้องได้รับอนุมัติ (หรือเพียงไม่ได้ถูกไม่อนุมัติ)

กฎ: ไม่ได้ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
accountsupportsconversions = disabled

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 2 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในบัญชีซึ่งไม่ได้เปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 2 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

accountsupportsconversions = disabled

จะแจ้งเฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ภายในบัญชีซึ่งไม่รองรับเครื่องมือวัด Conversion

กฎ: มีโฆษณาแบบรูปภาพแต่ไม่มีโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์

ใช้กับ: กลุ่มโฆษณา

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = display
CONTAINER(accountsupportsconversions = enabled)
EXIST(imageads, status = enabled approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))
NOTEXIST(responsiveads, status = enabled approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 6 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายดิสเพลย์
  • ที่อยู่ภายในบัญชีซึ่งเปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion
  • และที่กลุ่มโฆษณามีโฆษณาแบบรูปภาพที่เปิดใช้และได้รับอนุมัติ
  • แต่ไม่มีโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์ที่เปิดใช้และได้รับอนุมัติ

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 6 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

campaignstatus = enabled
campaigntype = display
CONTAINER(accountsupportsconversions = enabled)

กลุ่มโฆษณาต้องมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทแคมเปญเป็นเครือข่ายดิสเพลย์ และซึ่งบัญชีที่เป็นเจ้าของเปิดใช้เครื่องมือวัด Conversion

EXIST(imageads, status = enabled approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))
NOTEXIST(responsiveads, status = enabled approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended))

เงื่อนไขนี้จะทำการตรวจสอบที่คล้ายกันมากสำหรับโฆษณาที่ต่างกัน 2 ประเภท สำหรับการตรวจสอบแต่ละรายการ จะพิจารณาเฉพาะโฆษณาที่ผ่านเงื่อนไขตัวกรองย่อย 2 รายการ ได้แก่ status = enabled ซึ่งหมายความว่าต้องเปิดใช้โฆษณา และ approvalstatus -= (disapproved, sitesuspended) ซึ่งหมายความว่าโฆษณาต้องได้รับอนุมัติ (หรือไม่ได้ถูกไม่อนุมัติ) จะแจ้งกลุ่มโฆษณาได้ก็ต่อเมื่อมีโฆษณาแบบรูปภาพซึ่งตรงตามเงื่อนไขเหล่านั้น แต่ไม่มีโฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์ซึ่งตรงตามเงื่อนไขเหล่านั้น

กฎ: ตั้งค่าการเข้าถึงแบบยืดหยุ่นของแคมเปญเป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

ใช้กับแคมเปญ

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaigntype = (search, shopping)
interestsandremarketing = targeting
EXIST(audiences, status = enabled)

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 4 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • แคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping
  • ที่ตั้งค่าการเข้าถึงตามความสนใจและรีมาร์เก็ตติ้งเป็น "การกำหนดเป้าหมาย"
  • และที่มีกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 4 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้เท่านั้น

campaigntype = (search, shopping)

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping เท่านั้น

interestsandremarketing = targeting

แจ้งได้เฉพาะแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทที่ระบุ ซึ่งตั้งค่าการเข้าถึงแบบยืดหยุ่นตาม "ความสนใจและรีมาร์เก็ตติ้ง" เป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

EXIST(audiences, status = enabled)

และสุดท้าย แคมเปญต้องมีกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้อย่างน้อย 1 กลุ่มจึงจะแจ้งได้

กฎ: ตั้งค่าการเข้าถึงแบบยืดหยุ่นของกลุ่มโฆษณาเป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

ใช้กับ: กลุ่มโฆษณา

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = (search, shopping)
interestsandremarketing = targeting
EXIST(audiences, status = enabled)

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 5 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping
  • และที่กลุ่มโฆษณาตั้งค่าการเข้าถึงตามความสนใจและรีมาร์เก็ตติ้งเป็น "การกำหนดเป้าหมาย"
  • และมีกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 5 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

campaignstatus = enabled
campaigntype = (search, shopping)

กลุ่มโฆษณาต้องมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทแคมเปญเป็นเครือข่ายการค้นหาหรือ Shopping

interestsandremarketing = targeting

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ซึ่งตั้งค่าการเข้าถึงแบบยืดหยุ่นตาม "ความสนใจและรีมาร์เก็ตติ้ง" เป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

EXIST(audiences, status = enabled)

และสุดท้าย กลุ่มโฆษณาต้องมีกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้อย่างน้อย 1 กลุ่มจึงจะแจ้งได้

กฎ: ปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดเป้าหมาย

ใช้กับ: กลุ่มโฆษณา

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = display
targetingoptimization = disabled

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 4 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายดิสเพลย์
  • และที่กลุ่มโฆษณาปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดเป้าหมาย

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 4 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้

campaignstatus = enabled
campaigntype = display

กลุ่มโฆษณาต้องมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทแคมเปญเป็นเครือข่ายดิสเพลย์

interestsandremarketing = targeting

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มโฆษณาที่เปิดใช้ซึ่งตั้งค่าการเข้าถึงแบบยืดหยุ่นตาม "ความสนใจและรีมาร์เก็ตติ้ง" เป็น "การกำหนดเป้าหมาย"

targetingoptimization = disabled

และสุดท้าย กลุ่มโฆษณาต้องปิดใช้การเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดเป้าหมายจึงจะแจ้งได้

กฎ: กำหนดเป้าหมายกลุ่มเป้าหมายในเครือข่ายการค้นหาที่ไม่ได้ใช้งาน

ใช้กับ: กลุ่มเป้าหมาย

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = search
noofsearchusers < 1,000
CONTAINER(status = enabled)

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 5 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายการค้นหา
  • และที่กลุ่มเป้าหมายมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่น้อยกว่า 1,000 ราย
  • และมีอยู่ในคอนเทนเนอร์ (กลุ่มโฆษณาหรือแคมเปญ) ที่ทำงานอยู่

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 5 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้เท่านั้น

campaignstatus = enabled
campaigntype = search

กลุ่มเป้าหมายต้องมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทแคมเปญเป็นเครือข่าย Search

noofsearchusers < 1,000

แจ้งได้ในกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้อยู่ซึ่งมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่น้อยกว่า 1,000 รายเท่านั้น

CONTAINER(status = enabled)

และสุดท้าย ต้องเปิดใช้กลุ่มโฆษณาหรือแคมเปญที่มีอยู่ ระบบจึงจะแจ้งได้ สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับแคมเปญ คอนเทนเนอร์ที่เงื่อนไขนี้จะตรวจสอบก็คือแคมเปญ ซึ่งทำให้การตรวจสอบนี้ซ้ำซ้อนกับเงื่อนไข campaignstatus = enabled ด้านบน แต่สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลุ่มโฆษณา จะเพิ่มการตรวจสอบพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มโฆษณาที่เป็นเจ้าของเปิดใช้อยู่ นอกเหนือไปจากแคมเปญ

กฎ: กำหนดเป้าหมายกลุ่มเป้าหมายในเครือข่ายดิสเพลย์ที่ไม่ได้ใช้งาน

ใช้กับ: กลุ่มเป้าหมาย

เกณฑ์การละเมิด

status = enabled
campaignstatus = enabled
campaigntype = display
noofusers < 100
CONTAINER(status = enabled)

ภาพรวม

ตัวกรองด้านบนมีเงื่อนไขระดับราก 5 เงื่อนไข ตามรายการต่อไปนี้จากบนลงล่าง

  • กลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้
  • ที่อยู่ภายในแคมเปญที่เปิดใช้
  • ที่มีประเภทเป็นเครือข่ายดิสเพลย์
  • และที่กลุ่มเป้าหมายมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่น้อยกว่า 100 ราย
  • และมีอยู่ในคอนเทนเนอร์ (กลุ่มโฆษณาหรือแคมเปญ) ที่ทำงานอยู่

คำอธิบายโดยละเอียด

หากไม่ได้รวมไว้ในฟังก์ชัน "หรือ" ตัวกรองหลายรายการที่แสดงอยู่ร่วมกันจะต้องตรงกันทุกประการกับรายการที่ทดสอบอยู่ กฎที่กำหนดเองจึงจะแจ้งให้ทราบ (มีสถานะเป็นข้อผิดพลาดหรือคำเตือน) มีเงื่อนไขระดับบนสุด 5 เงื่อนไขที่นี่ และต้องตรงกันทั้งหมด

status = enabled

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้เท่านั้น

campaignstatus = enabled
campaigntype = display

กลุ่มเป้าหมายต้องมีอยู่ในแคมเปญที่เปิดใช้ซึ่งมีประเภทแคมเปญเป็นเครือข่ายดิสเพลย์

noofusers < 100

แจ้งได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เปิดใช้ซึ่งมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่น้อยกว่า 100 ราย

CONTAINER(status = enabled)

และสุดท้าย ต้องเปิดใช้กลุ่มโฆษณาหรือแคมเปญที่มีอยู่ ระบบจึงจะแจ้งได้ สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับแคมเปญ คอนเทนเนอร์ที่เงื่อนไขนี้จะตรวจสอบก็คือแคมเปญ ซึ่งทำให้การตรวจสอบนี้ซ้ำซ้อนกับเงื่อนไข campaignstatus = enabled ด้านบน แต่สำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลุ่มโฆษณา จะเพิ่มการตรวจสอบพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่ากลุ่มโฆษณาที่เป็นเจ้าของเปิดใช้อยู่ นอกเหนือไปจากแคมเปญ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
15637268977412973617
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false