เกี่ยวกับชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

โฆษณาแบบกรอกฟอร์มช่วยสร้างผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้คุณ โดยให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลในแบบฟอร์มในโฆษณาโดยตรง บทความนี้จะอธิบายโฆษณาแบบกรอกฟอร์มและประโยชน์ของชิ้นงานดังกล่าวต่อแคมเปญ Google Ads

Hero image depicting About lead form extensions

โฆษณาแบบกรอกฟอร์มจะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าขณะที่กําลังค้นหา ค้นพบ หรือดูเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


ข้อดี

  • สร้างโอกาสในการขายเพื่อเพิ่มยอดขายของธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ
  • กระตุ้นให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเข้าสู่ Funnel ทางการตลาดเพื่อช่วยให้ได้รับ Conversion มากขึ้น
  • ค้นหาและดึงดูดผู้คนที่สนใจธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณ

วิธีการทำงาน

  1. สร้างโฆษณาแบบกรอกฟอร์มใน Google Ads แล้วเพิ่มลงในแคมเปญ คุณสามารถเพิ่มโฆษณาแบบกรอกฟอร์มลงในแคมเปญ Search, วิดีโอ, Performance Max และ Display ได้
    ปัจจุบันโฆษณาแบบกรอกฟอร์มสําหรับแคมเปญวิดีโออยู่ในเวอร์ชันเบต้า โปรดติดต่อตัวแทนของ Google เพื่อเข้าถึงชิ้นงานนี้
  2. ผู้ใช้ในกลุ่มเป้าหมายของคุณจะไปที่ผลิตภัณฑ์และบริการของ Google (เช่น YouTube) แล้วโต้ตอบกับโฆษณาที่มีโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม เมื่อผู้ใช้เปิดโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม ก็อาจเลือกส่งข้อมูลติดต่อได้ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และรายละเอียดอื่นๆ
  3. ดาวน์โหลดและจัดการผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจาก Google Ads คุณสามารถดาวน์โหลดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าออกมาเป็นไฟล์ CSV หรือสร้างการผสานรวมเว็บฮุคเพื่อรับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าโดยตรงในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ได้ ทั้งนี้คุณจะดาวน์โหลดได้แต่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่รวบรวมไว้ภายในช่วง 30 วันที่ผ่านมาเท่านั้น คุณยังส่งออกข้อมูลโฆษณาแบบกรอกฟอร์มในปริมาณเทียบเท่า 60 วันโดยอัตโนมัติไปยัง CRM ได้โดยใช้ Google Ads API

ข้อกำหนด

คุณต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้เพื่อใช้โฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

  • ปฏิบัติตามนโยบายมาโดยตลอด
  • มีบัญชี Google Ads ในธุรกิจหรือธุรกิจย่อยประเภทที่มีสิทธิ์ ประเภทธุรกิจหรือประเภทธุรกิจย่อยที่ละเอียดอ่อน (เช่น เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ) ไม่มีสิทธิ์ใช้โฆษณาแบบกรอกฟอร์ม
  • มีนโยบายความเป็นส่วนตัวสําหรับธุรกิจของคุณ เมื่อสร้างโฆษณาแบบกรอกฟอร์มใน Google Ads คุณจะต้องใส่ลิงก์ไปยังนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งจะปรากฏที่ส่วนท้ายของโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

นอกจากนี้ หากคุณกำลังเพิ่มโฆษณาแบบกรอกฟอร์มลงในแคมเปญวิดีโอหรือ Display หรือกําลังสร้างแคมเปญ Search ซึ่งบรรทัดแรกของโฆษณาเปิดขึ้นเป็นโฆษณาแบบกรอกฟอร์มโดยตรง คุณจะต้องมีคุณสมบัติต่อไปนี้

  • มียอดใช้จ่ายรวมเกิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐใน Google Ads สำหรับผู้ลงโฆษณาที่มีบัญชีซึ่งใช้สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ ระบบจะแปลงยอดการใช้จ่ายทั้งหมดเป็นดอลลาร์สหรัฐ โดยจะคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยรายเดือนของสกุลเงินนั้นๆ
  • ผู้ลงโฆษณาที่น่าเชื่อถือที่ใช้เงินเกินกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบัญชี (หรือรวมทุกบัญชีแล้วมากกว่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ) อาจได้รับสิทธิ์ใช้รูปแบบเหล่านี้โดยต้องมีการตรวจสอบสถานะบัญชีและสถานะดีเพิ่มเติม ผู้ลงโฆษณาต้องทําตามขั้นตอนในโปรแกรมการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาจนเสร็จสมบูรณ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดแบบฟอร์มสำหรับรวบรวมข้อมูลลูกค้า

หากคุณมีชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่ใช้งานอยู่ ก็ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ต่อไปนี้ด้วยเพื่อให้โฆษณาดังกล่าวมีสิทธิ์แสดงในรูปแบบโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

  • การเสนอราคา: แคมเปญควรใช้กลยุทธ์การเสนอราคาที่เน้น Conversion
  • เป้าหมาย Conversion: แคมเปญต้องเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อเป้าหมาย Conversion ของโฆษณาแบบกรอกฟอร์มของ Google แม้ว่าแคมเปญจะเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อ Conversion ประเภทอื่นๆ (ไม่ใช่โฆษณาแบบกรอกฟอร์ม) ก็ควรมี Conversion โฆษณาแบบกรอกฟอร์มของ Google ด้วย
  • ประเภทโฆษณา: ครีเอทีฟโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทจะมีสิทธิ์แสดง โฆษณาแบบข้อความที่ขยายออกจะไม่มีสิทธิ์

ดูวิธีทําให้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทเปิดโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

โฆษณาแบบกรอกฟอร์มดูที่ใดได้บ้าง

โฆษณาแบบกรอกฟอร์มจะมีสิทธิ์แสดงในบางประเทศเท่านั้น หากโฆษณาแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายในประเทศที่ไม่อนุญาตให้ใช้โฆษณาแบบกรอกฟอร์ม กลุ่มเป้าหมายก็จะไม่เห็นโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

  • อาร์เจนตินา
  • ออสเตรเลีย
  • ออสเตรีย
  • บังกลาเทศ
  • เบลีซ
  • เบลเยียม
  • บราซิล
  • แคนาดา
  • ชิลี
  • โคลอมเบีย
  • คอสตาริกา
  • สาธารณรัฐเช็ก
  • เดนมาร์ก
  • เอกวาดอร์
  • เอลซัลวาดอร์
  • ฟินแลนด์
  • ฝรั่งเศส
  • เยอรมนี
  • กรีซ
  • กัวเตมาลา
  • ฮอนดูรัส
  • ฮ่องกง
  • ฮังการี
  • อินเดีย
  • อินโดนีเซีย
  • ไอร์แลนด์
  • อิสราเอล
  • อิตาลี
  • ญี่ปุ่น
  • คาซัคสถาน
  • ลิทัวเนีย
  • มาเลเซีย
  • เม็กซิโก
  • เนเธอร์แลนด์
  • นิวซีแลนด์
  • นอร์เวย์
  • ปากีสถาน
  • ปานามา
  • เปรู
  • ฟิลิปปินส์
  • โปแลนด์
  • โปรตุเกส
  • เปอร์โตริโก
  • โรมาเนีย
  • สิงคโปร์
  • สโลวาเกีย
  • แอฟริกาใต้
  • เกาหลีใต้
  • สเปน
  • ศรีลังกา
  • สวีเดน
  • สวิตเซอร์แลนด์
  • ไต้หวัน
  • ไทย
  • ตุรกี
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  • สหราชอาณาจักร
  • สหรัฐอเมริกา
  • เวียดนาม

ใช้โฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

  • ตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติตามข้อกําหนดสําหรับโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม หากไม่มีคุณสมบัติตามข้อกําหนด คุณจะสร้างโฆษณาแบบกรอกฟอร์มไม่ได้
  • ตรวจสอบว่าโฆษณาแบบกรอกฟอร์มเป็นไปตามนโยบายการโฆษณาและหลักเกณฑ์ (เช่น กําหนดเป้าหมายเป็นประเทศที่รองรับโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม) หากไม่เป็นไปตามนโยบาย แคมเปญจะไม่แสดง
  • คุณสามารถเพิ่มโฆษณาแบบกรอกฟอร์มได้เพียง 1 รายการต่อแคมเปญ
  • แม้ว่าวิธีสร้างโฆษณาแบบกรอกฟอร์มจะเหมือนกันในแคมเปญทุกประเภท แต่แบบฟอร์มอาจทำงานแตกต่างกันไปตามประเภทแคมเปญ ขยายส่วนด้านล่างเพื่อดูความแตกต่างของแคมเปญแต่ละประเภท

ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่ระดับบัญชี

  • คุณแนบส่วนชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่ระดับบัญชีเพื่อใช้กับแคมเปญประเภท Search หรือ Performance Max ได้
  • ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่ระดับแคมเปญใน Google Ads จะมีสิทธิ์สูงกว่าชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่ระดับบัญชีเสมอ
  • หากชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่ระดับแคมเปญไม่ได้รับอนุมัติ ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่ระดับบัญชีจะแสดงแทน

การเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

นอกจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมายในแคมเปญแล้ว คุณยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาแบบกรอกฟอร์มเพื่อให้ได้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเพิ่มขึ้น ("ปริมาณมากขึ้น") หรือคุณภาพสูงขึ้น ("เข้าเกณฑ์มากขึ้น") แต่ไม่ว่าจะเลือกอะไร ระบบก็จะไม่เพิ่มหรือนำกลุ่มเป้าหมายออก และจะไม่เปลี่ยนแปลงช่องข้อมูลต่างๆ ในโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม โปรดทราบว่าการเพิ่มประสิทธิภาพอาจทำงานแตกต่างกันไปตามประเภทแคมเปญ
  • "ปริมาณมากขึ้น" เป็นประเภทโฆษณาแบบกรอกฟอร์มเริ่มต้น แต่สามารถเปลี่ยนประเภทเป็น "เข้าเกณฑ์มากขึ้น" ได้ ตัวเลือกที่คุณเลือกอาจส่งผลต่อต้นทุนต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าและจำนวนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่รวบรวมไว้ และเปลี่ยนได้ตลอดในช่วงทำแคมเปญ
  • โฆษณาแบบกรอกฟอร์มประเภท "เข้าเกณฑ์มากขึ้น" อาจใช้รูปแบบที่มีขั้นตอนในการส่งแบบฟอร์มมากกว่า จึงอาจได้โอกาสในการขายน้อยลง (แต่จะได้ผู้ส่งที่สนใจธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณมากขึ้น)
  • โฆษณาแบบกรอกฟอร์มประเภท "ปริมาณมากขึ้น" ใช้รูปแบบที่มีขั้นตอนในการส่งแบบฟอร์มน้อยกว่า จึงอาจได้โอกาสในการขายมากขึ้น แต่โอกาสในการขายเหล่านั้นอาจรวมถึงผู้ที่ไม่สนใจธุรกิจ สินค้า หรือบริการของคุณด้วย

วิธีการ

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


ขยายทั้งหมด

ขั้นตอนถัดไป

วัดผลลัพธ์

คุณดูประสิทธิภาพของโฆษณาแบบกรอกฟอร์มได้ในรายงาน Google Ads โปรดทราบว่า

  • เมื่อใดก็ตามที่โฆษณาแบบกรอกฟอร์มเปิดขึ้น ระบบจะติดตามเป็นการคลิก
  • เมื่อมีผู้ส่งข้อมูลของตนในโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม ระบบจะนับเป็น Conversion ซึ่งระบบจะสร้าง Conversion โฆษณาแบบกรอกฟอร์มโดยอัตโนมัติใน Google Ads เมื่อมีการส่งแบบฟอร์มครั้งแรก
  • แคมเปญอาจเพิ่ม Conversion ในเว็บไซต์ได้ด้วย
  • คุณดูประสิทธิภาพของการคลิกและ Conversion ได้โดยการแบ่งกลุ่มรายงานประสิทธิภาพตาม "ประเภทการคลิก" และ "ประเภท Conversion" ในบัญชี Google Ads
  • การเข้าชมและ Conversion จะไม่นับว่ามาจากโฆษณาแบบกรอกฟอร์มใน Google Analytics Analytics จะรายงานเฉพาะการมีส่วนร่วมจากการนำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ของคุณโดยตรงเท่านั้น
หมายเหตุ: หากคุณสังเกตเห็นความคลาดเคลื่อนระหว่างจํานวน Conversion ที่มาจากโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่โฮสต์โดย Google กับข้อมูลโอกาสในการขายที่ดาวน์โหลดมา ให้ลองแบ่งกลุ่มการรายงานประสิทธิภาพตาม "ประเภท Conversion" ส่วน Conversion อื่นๆ เช่น การซื้อในเว็บไซต์ อาจมาจากโฆษณาแบบกรอกฟอร์มที่โฮสต์โดย Google

ดาวน์โหลดโอกาสในการขาย

สร้างการผสานรวมเว็บฮุคสําหรับโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

การผสานรวมเว็บฮุคช่วยให้คุณส่งข้อมูลจากแอปหนึ่งไปยังอีกแอปหนึ่งโดยอัตโนมัติได้โดยใช้ URL ที่ไม่ซ้ำกัน คุณสร้างการผสานรวมเว็บฮุคเพื่อลิงก์โฆษณาแบบกรอกฟอร์มกับระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ได้ หลังจากที่เพิ่มการผสานรวมเว็บฮุคลงในโฆษณาแบบกรอกฟอร์มแล้ว คุณจะได้รับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าโดยตรงใน CRM

คุณจะต้องสร้าง URL และคีย์ของเว็บฮุคเพื่อเพิ่มการผสานรวมเว็บฮุคลงในโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

  • URL ของเว็บฮุคคือเส้นทางการแสดงโฆษณา หลังจากที่มีผู้ส่งข้อมูลของตนเองในโฆษณาแบบกรอกฟอร์มแล้ว ระบบจะส่งคำขอ "HTTP POST" ไปยัง URL ที่กำหนดค่าไว้ ซึ่งจะช่วยนำผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเข้าไปยังระบบ CRM โดยตรง
  • และจะใช้คีย์ของเว็บฮุคในการตรวจสอบความถูกต้องของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ส่งเข้ามา

หากคุณสามารถทําเองได้ ให้สร้างการผสานรวมเว็บฮุคก่อน แล้วจึงสร้างคีย์และ URL ของเว็บฮุค ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างคีย์และ URL ของเว็บฮุค

หมายเหตุ: คุณสามารถใช้ผู้ให้บริการการผสานรวมกับบุคคลที่สามเพื่อส่งข้อมูลโฆษณาแบบกรอกฟอร์มไปยัง CRM โดยอัตโนมัติผ่านเว็บฮุค บุคคลที่สามจะสร้างเว็บฮุคโดยอัตโนมัติและนําไปใช้กับชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มใน Google Ads ทั้งนี้ อาจต้องมีบัญชีแบบชําระเงินจึงจะใช้การผสานรวมกับบุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อส่งออกข้อมูลโฆษณาแบบกรอกฟอร์มได้

เรายังมีการผสานรวมกับ Zapier สำหรับส่งออกข้อมูลโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม ซึ่งใช้ Google Ads API แทนเว็บฮุคอีกด้วย หรือหากต้องการส่งออกข้อมูลโฆษณาแบบกรอกฟอร์มด้วยตนเอง ก็สามารถดาวน์โหลดไฟล์ CSV หรือใช้ Google Ads API

สถานะข้อผิดพลาด

คุณอาจเห็นสถานะข้อผิดพลาดแบบใดแบบหนึ่งต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณได้ดำเนินการเริ่มต้นอย่างไรหลังจากที่เพิ่มเว็บฮุคเรียบร้อยแล้ว

  • สถานะข้อผิดพลาด A: จะแสดงเมื่อมีผู้บันทึกแบบฟอร์มแต่ไม่ส่งข้อมูลทดสอบ (โดยเสร็จสมบูรณ์)
  • สถานะข้อผิดพลาด B: จะแสดงข้อมูลที่ไม่ได้ส่ง
  • สถานะข้อผิดพลาด C: จะแสดงเมื่อส่งข้อมูลแล้วแต่ Google ไม่ได้รับการตอบสนอง
  • สถานะข้อผิดพลาด D: จะแสดงเมื่อส่งข้อมูลแล้วแต่ Google ได้รับการตอบสนองที่ไม่ถูกต้อง (การตอบสนองอื่นที่ไม่ใช่ "HTTP 200")
  • สถานะสำเร็จ: จะแสดงเมื่อส่งข้อมูลแล้วและ Google ได้รับการตอบสนองที่ถูกต้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
8181935070237678145
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
false
false
false
false