Starting early March 2024, Customer Match lists activated on Google Partner Inventory or third-party exchange websites in the European Economic Area (EEA) will no longer be available for web and app. Google Ads and Display & Video 360 will continue to enable advertisers to use their own first-party data (as well as custom and expanded audiences) across Google’s owned & operated (O&O) properties.
การจับคู่ข้อมูลลูกค้าช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้โดยใช้ข้อมูลที่ลูกค้าเหล่านั้นแชร์กับคุณ หากต้องการรวมข้อมูลจากบุคคลที่หนึ่งนี้เข้ากับแคมเปญ คุณจะต้องอัปโหลดข้อมูลของคุณไปยัง Google Ads ก่อน
บทความนี้จะอธิบายวิธีการอัปโหลดไฟล์ข้อมูล ก่อนเริ่มต้น คุณต้องสร้างรายชื่อลูกค้า
ก่อนเริ่มต้น
หากต้องการทราบภาพรวมวิธีการทำงานของการจับคู่ข้อมูลลูกค้า โปรดอ่านเกี่ยวกับการจับคู่ข้อมูลลูกค้า
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้ไฟล์ข้อมูลที่คุณอัปโหลด และวิธีการทำงานของกระบวนการจับคู่ โปรดอ่านวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลการจับคู่ข้อมูลลูกค้า
ข้อมูลที่คุณอัปโหลดจะต้องจัดรูปแบบอย่างถูกต้องจึงจะใช้การจับคู่ข้อมูลลูกค้าได้
วิธีอัปโหลดข้อมูลการจับคู่ข้อมูลลูกค้า
การอัปโหลดข้อมูลการจับคู่ข้อมูลลูกค้าทำได้ 5 วิธี
สร้างและอัปโหลดรายชื่อลูกค้า
- คลิกไอคอนเครื่องมือ ในบัญชี Google Ads
- คลิกคลังที่ใช้ร่วมกันจากเมนูแบบเลื่อนลงในหมวดหมู่เมนู
- คลิกตัวจัดการกลุ่มเป้าหมาย
- คลิกรายการกลุ่มเป้าหมายจากเมนูหน้าเว็บทางด้านซ้าย
- คลิกปุ่มบวก เพื่อสร้างรายการกลุ่มเป้าหมายใหม่
- เลือก "รายชื่อลูกค้า"
- เลือกว่าจะอัปโหลดไฟล์ข้อมูลแบบข้อความธรรมดาหรือไฟล์ข้อมูลที่แฮช
- หากคุณเลือกอัปโหลดข้อมูลลูกค้าแบบข้อความธรรมดา ระบบจะแฮชข้อมูลส่วนตัวลูกค้าในไฟล์ (อีเมล โทรศัพท์ ชื่อ และนามสกุล) ไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้อัลกอริทึม SHA256 ก่อนที่จะส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Google อย่างปลอดภัย แต่จะไม่แฮชข้อมูลประเทศและรหัสไปรษณีย์
- หากคุณเลือกแฮชข้อมูล ให้ตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดที่อธิบายไว้ในส่วนจัดรูปแบบไฟล์ข้อมูลลูกค้า
- เลือกไฟล์ใหม่
- หากคุณยอมรับ ให้ทำเครื่องหมายที่ช่อง "ข้อมูลนี้ได้รับการรวบรวมและแชร์กับ Google ตามนโยบายการจับคู่ข้อมูลลูกค้าของ Google”
- ตั้งระยะเวลาการเป็นสมาชิก โดยค่าเริ่มต้น ระบบจะไม่จำกัดระยะเวลาการเป็นสมาชิก แต่คุณกำหนดขีดจำกัดเวลาเองได้
- คลิกอัปโหลดและสร้างรายการ
- ดูความคืบหน้าของการอัปโหลดไฟล์ข้อมูลได้ใน "รายการกลุ่มเป้าหมาย" ซึ่งกระบวนการนี้อาจใช้เวลาดำเนินการสูงสุด 48 ชั่วโมง
- หลังจากที่อัปโหลดข้อมูลแล้ว คุณจะเห็นหน้าที่แสดงการอัปโหลดไฟล์สำเร็จ คุณยังจะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับจํานวนแถวที่อัปโหลดสําเร็จ และเปอร์เซ็นต์อัตราการจับคู่
- นอกจากนี้ คุณจะเห็นการทํางานของ 5 ไฟล์สุดท้าย และทําความเข้าใจสถิติการอัปโหลดสําหรับการดําเนินการเหล่านั้น
หากต้องการใช้ไฟล์ข้อมูลลูกค้าให้ได้ผลดี ควรตรวจสอบว่าได้จัดรูปแบบไฟล์ข้อมูลลูกค้าอย่างถูกต้องแล้ว
- หมายเหตุ: หากทำเครื่องหมายในช่อง "รายชื่อลูกค้าที่อิงตาม Conversion" ในการตั้งค่าบัญชี คุณจะสามารถใช้รายชื่อลูกค้าที่สร้างขึ้นให้คุณได้ในส่วนตัวจัดการกลุ่มเป้าหมาย > กลุ่มเป้าหมาย
การอัปโหลด API
พาร์ทเนอร์การอัปโหลดการจับคู่ข้อมูลลูกค้า (CMU)
พาร์ทเนอร์การอัปโหลดการจับคู่ข้อมูลลูกค้า (CMU) จะอัปโหลดคีย์ในการจับคู่ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่จัดส่งได้โดยไม่ต้องมีข้อมูลเข้าสู่ระบบไปยังบัญชี Google Ads ของคุณ คุณจะต้องทํางานร่วมกับพาร์ทเนอร์ CMU เพื่อกําหนดความถี่ในการรีเฟรช
ประโยชน์ที่สําคัญบางประการของการใช้ CMU ในการอัปโหลดข้อมูลการจับคู่ข้อมูลลูกค้ามีดังนี้
- คุณไม่ได้ส่งอีเมลไปยัง Google โดยตรง
- CMU ให้การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุตัวบุคคลนั้นได้ (PII) และไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว
- CMU ส่งรายการที่แบ่งกลุ่มไปยัง Google Ads และรีเฟรชรายการโดยอัตโนมัติ
- คุณไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลเข้าสู่ระบบ Google Ads
- CMA ขยายขนาดรายการและอัตราการจับคู่ได้
โซลูชันการทํางานอัตโนมัติของบุคคลที่สาม
เชื่อมต่อแหล่งข้อมูลใหม่
ดูกระบวนการเชื่อมต่อแหล่งข้อมูลเพื่อสร้างรายชื่อลูกค้าใหม่สําหรับแหล่งข้อมูลที่รองรับ