หากต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับลําโพง ให้ใช้ขั้นตอนการดำเนินการด้วยตนเองดังนี้
หากโทรศัพท์มีเสียงขาดๆ หายๆ หรือเพี้ยน ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ฉันได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ไม่ชัด
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบสัญญาณการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือ
- หาไอคอนสัญญาณมือถือที่ด้านบนของหน้าจอ รูปสามเหลี่ยมทึบ หมายความว่ามีสัญญาณแรง
- หากสัญญาณไม่แรง ให้ค้นหาพื้นที่ที่มีสัญญาณแรงขึ้น ลองออกไปนอกอาคารหรือไปยังสถานที่ในอาคารอื่น
เคล็ดลับ: หากต้องการดูว่าผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือครอบคลุมพื้นที่ใดบ้าง ให้ไปที่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการและดูแผนที่ความครอบคลุม - หากอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ใจกลางเมือง การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถืออาจช้าลงเนื่องจากมีคนจำนวนมากใช้เครือข่ายเดียวกันอยู่
ขั้นตอนที่ 2: ปิดบลูทูธ ดูวิธีปิดบลูทูธ
ขั้นตอนที่ 3: เพิ่มหรือลดระดับเสียง เพลงบางเพลงอาจเสียงเพี้ยนเมื่อเปิดเสียงดัง ดูวิธีหาปุ่มปรับระดับเสียง
ขั้นตอนที่ 4: เปิดหรือปิด Wi-Fi
- หาก Wi-Fi เปิดอยู่ ให้ปิด Wi-Fi แล้วโทรออก
- หาก Wi-Fi ปิดอยู่ ให้เปิด Wi-Fi แล้วโทรออก
ขั้นตอนที่ 5: หากโทรวิดีโอคอลอยู่ ให้ปิดวิดีโอแล้วเปิดอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 6: หากคุณกำลังเดินทาง เช่น อยู่ในรถไฟหรือรถยนต์ ให้รอจนยานพาหนะหยุดแล้วจึงโทร
ขั้นตอนที่ 7: รีสตาร์ทโทรศัพท์
- กดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ แตะ "รีสตาร์ท" ในหน้าจอ
- หรือจะกดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ค้างไว้ประมาณ 30 วินาทีเพื่อรีสตาร์ทโทรศัพท์ก็ได้
ขั้นตอนที่ 8: หากใช้สายอยู่ ให้เปิดลำโพงแล้วปิด หากไม่ได้ยินเสียงเมื่อเปิดหรือปิดลำโพง โปรดดูวิธีติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Pixel
ขั้นตอนที่ 9: เปิดเพลงหรือวิดีโอ 2-3 รายการจากแอปที่ต่างกัน เช่น วิดีโอที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์และเพลงจากแอปเพลง
- หากมีเสียงเพียงบางเสียงที่เพี้ยนแสดงว่าไฟล์เสียงนั้นอาจเสียหาย
- หากเสียงทุกเสียงเพี้ยน โปรดดูวิธีติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Pixel
ฉันไม่ได้ยินเสียงเลยหรือเสียงเบา
ขั้นตอนที่ 1: เมื่อโทรออก ให้แนบลำโพงด้านบนของโทรศัพท์ไว้แนวเดียวกับหู ดูตำแหน่งของลำโพงด้านบน
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบว่าได้เพิ่มระดับเสียงแล้ว
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบสัญญาณการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือ
- หาไอคอนสัญญาณมือถือที่ด้านบนของหน้าจอ รูปสามเหลี่ยมทึบ หมายความว่ามีสัญญาณแรง
- หากสัญญาณไม่แรง ให้ค้นหาพื้นที่ที่มีสัญญาณแรงขึ้น ลองออกไปนอกอาคารหรือไปยังสถานที่ในอาคารอื่น
เคล็ดลับ: หากต้องการดูว่าผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือครอบคลุมพื้นที่ใดบ้าง ให้ไปที่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการและดูแผนที่ความครอบคลุม - หากอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ใจกลางเมือง การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถืออาจช้าลงเนื่องจากมีคนจำนวนมากใช้เครือข่ายเดียวกันอยู่
ขั้นตอนที่ 5: เปิดหรือปิด Wi-Fi
-
หาก Wi-Fi เปิดอยู่ ให้ปิด Wi-Fi แล้วโทรออก
-
หาก Wi-Fi ปิดอยู่ ให้เปิด Wi-Fi แล้วโทรออก
ขั้นตอนที่ 6: หากมีแผ่นปกป้องหน้าจอหรือเคส ให้ถอดออก
ขั้นตอนที่ 7: ปิดแอปทั้งหมด ดูวิธีปิดแอป
ขั้นตอนที่ 8: รีสตาร์ทโทรศัพท์
- กดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ แตะ "รีสตาร์ท" ในหน้าจอ
- หรือจะกดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ค้างไว้ประมาณ 30 วินาทีเพื่อรีสตาร์ทโทรศัพท์ก็ได้
ขั้นตอนที่ 10: ตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของโทรศัพท์
- ตรวจสอบลำโพงและไมโครโฟน หากสกปรก ให้ใช้ผ้าเนื้อนิ่มที่ไม่มีเศษใยทำความสะอาดอย่างเบามือ ดูตำแหน่งของลำโพงและไมโครโฟน
- ตรวจสอบพอร์ต USB-C ของโทรศัพท์ หากสกปรก ให้ใช้ผ้าเนื้อนิ่มที่ไม่มีเศษใยทำความสะอาดอย่างเบามือ
- หากอยู่ในสาย ให้เปิดลำโพงแล้วปิด หากไม่ได้ยินเสียงเมื่อเปิดหรือปิดลำโพง โปรดดูวิธีติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Pixel
- หากเสียบหูฟังอยู่ ให้ถอดสายหูฟังหรือยกเลิกการเชื่อมต่อ จากนั้นเสียบกลับเข้าไปใหม่ หากยังไม่ได้ยินเสียง ให้ฟังโดยไม่ใช้หูฟังหรือลองใช้หูฟังอันอื่น
สำคัญ: หากมีข้อความ "มีของเหลวหรือฝุ่นละอองในพอร์ต USB" เปิดขึ้นมา ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้
การแก้ปัญหาขั้นสูง
พิจารณารีเซ็ตโทรศัพท์เป็นค่าเริ่มต้น ดูวิธีรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
คนที่ปลายสายไม่ได้ยินเสียงฉัน
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบว่าไม่ได้ปิดเสียงไว้
- ดูที่โทรศัพท์ขณะกำลังใช้สาย ดูว่าไอคอนไมโครโฟนมีไฮไลต์อยู่หรือไม่ หากมี ให้แตะไอคอนนี้เพื่อเปิดเสียง
ขั้นตอนที่ 2: ปิดบลูทูธ ดูวิธีปิดบลูทูธ
ขั้นตอนที่ 3 ปิดแอปทั้งหมด ดูวิธีปิดแอป
ขั้นตอนที่ 4: รีสตาร์ทโทรศัพท์
- กดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ แตะ "รีสตาร์ท" ในหน้าจอ
- หรือจะกดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ค้างไว้ประมาณ 30 วินาทีเพื่อรีสตาร์ทโทรศัพท์ก็ได้
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบอุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์
- หากมีแผ่นปกป้องหน้าจอหรือเคส ให้ถอดออก เราขอแนะนำให้ใช้เคสโทรศัพท์ที่ออกแบบมาสำหรับ Pixel เช่นที่มีจำหน่ายใน Google Store
- หากคุณใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับเสียง เช่น หูฟัง ให้ลองใช้อุปกรณ์เสริมชิ้นอื่น
ขั้นตอนที่ 6: ตรวจสอบฮาร์ดแวร์ของโทรศัพท์
- ตรวจสอบลำโพงและไมโครโฟน หากสกปรก ให้ใช้ผ้าเนื้อนิ่มที่ไม่มีเศษใยทำความสะอาดอย่างเบามือ ดูตำแหน่งของลำโพงและไมโครโฟน
- ตรวจสอบพอร์ต USB-C ของโทรศัพท์ หากสกปรก ให้ใช้ผ้าเนื้อนิ่มที่ไม่มีเศษใยทำความสะอาดอย่างเบามือ
สำคัญ: หากมีข้อความ "มีของเหลวหรือฝุ่นละอองในพอร์ต USB" เปิดขึ้นมา ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้
ขั้นตอนที่ 7: อัปเดตโทรศัพท์เป็น Android เวอร์ชันล่าสุด ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
ขั้นตอนที่ 8: ตรวจสอบไมโครโฟน
- ใช้แอปโปรแกรมอัดเสียง เพื่อบันทึกเสียง
หากได้ยินเสียงที่บันทึกแสดงว่าไมโครโฟนด้านล่างใช้งานได้ - ใช้กล้อง เพื่อบันทึกวิดีโอพร้อมเสียง
หากได้ยินเสียงในวิดีโอแสดงว่าไมโครโฟนด้านบนใช้งานได้ - หากไมโครโฟนตัวใดตัวหนึ่งใช้งานไม่ได้ โปรดดูวิธีติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Pixel
การแก้ปัญหาขั้นสูง
พิจารณารีเซ็ตโทรศัพท์เป็นค่าเริ่มต้น ดูวิธีรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
คนที่ปลายสายไม่ได้ยินเสียงฉันเมื่อโทรด้วยแอปอย่างเช่น Meet หรือ Skype
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบว่าไม่ได้ปิดเสียงไว้
- ดูที่โทรศัพท์ขณะกำลังใช้สาย ดูว่าไอคอนไมโครโฟนมีไฮไลต์อยู่หรือไม่ หากมี ให้แตะไอคอนนี้เพื่อเปิดเสียง
ขั้นตอนที่ 2: ปิดบลูทูธ ดูวิธีปิดบลูทูธ
ขั้นตอนที่ 3 ปิดแอปทั้งหมด ดูวิธีปิดแอป
ขั้นตอนที่ 4: รีสตาร์ทโทรศัพท์
- กดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ แตะ "รีสตาร์ท" ในหน้าจอ
- หรือจะกดปุ่มเปิด/ปิดของโทรศัพท์ค้างไว้ประมาณ 30 วินาทีเพื่อรีสตาร์ทโทรศัพท์ก็ได้
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบว่าแอปต่างๆ เป็นเวอร์ชันล่าสุด ดูวิธีอัปเดตแอป
ขั้นตอนที่ 6: อัปเดตโทรศัพท์เป็น Android เวอร์ชันล่าสุด ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
ขั้นตอนที่ 7: หากคุณใช้แอปที่เจาะจง เช่น แอปรับส่งข้อความวิดีโอ ให้ตรวจสอบว่าแอปนั้นมีสิทธิ์ใช้ไมโครโฟน ดูวิธีเปลี่ยนสิทธิ์ของแอป
ขั้นตอนที่ 8: นำแอปออกแล้วติดตั้งอีกครั้ง ดูวิธีนำแอปออกหรือติดตั้งแอปในโทรศัพท์อีกครั้ง
การแก้ปัญหาขั้นสูง
พิจารณารีเซ็ตโทรศัพท์เป็นค่าเริ่มต้น ดูวิธีรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
คุณสามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างในการโทรได้ด้วยฟีเจอร์การโทรเสียงคมชัด
ฟีเจอร์นี้ใช้ได้ใน Pixel 7 ขึ้นไปและ Fold
สำคัญ: ฟีเจอร์นี้ขึ้นอยู่กับแบนด์วิดท์การโทรและอาจใช้ไม่ได้กับการโทรทั้งหมด
- เปิดแอปการตั้งค่าในโทรศัพท์
- แตะเสียงและการสั่น การโทรเสียงคมชัด
- เปิดหรือปิดใช้การโทรเสียงคมชัด
ดูวิธีการทำงานของลำโพงและไมโครโฟนของ Pixel
โทรศัพท์ Pixel มีลำโพง 2 ตัวและไมโครโฟน 3 ตัว ดูตำแหน่งของลำโพงและไมโครโฟน
โทรศัพท์ใช้ลำโพงและไมโครโฟนแต่ละตัวสำหรับงานที่แตกต่างกัน ลำโพงทั้ง 2 ตัวเล่นเพลงได้ แต่ลำโพงด้านล่างจะดังกว่า
วิธีที่โทรศัพท์ใช้ลำโพงด้านบน
ลำโพงด้านบนคือลำโพงตัวรับ ซึ่งทำงานระหว่างการโทรเป็นหลัก
เมื่อคุณถือโทรศัพท์แนบหู ลำโพงด้านบนจะเปิด ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณได้ยินเสียงของผู้โทรในขณะที่ลำโพงด้านล่างปิดอยู่ เนื่องจากลำโพงด้านบนมีขนาดเล็กกว่าลำโพงด้านล่าง จึงให้เสียงที่ค่อยกว่ามากเมื่อทำงานแยกจากลำโพงด้านล่าง
วิธีที่โทรศัพท์ใช้ลำโพงด้านล่าง
ลำโพงด้านล่างมีขนาดใหญ่กว่าและมักจะเสียงดังกว่า เมื่อคุณใช้สายอยู่ เสียงจะเล่นผ่านลำโพงนี้เมื่อคุณเปิดปุ่มลำโพงเท่านั้น
วิธีที่โทรศัพท์ใช้ไมโครโฟน
โทรศัพท์มีไมโครโฟนที่เหมือนกัน 3 ตัว แต่อาจไม่ได้ใช้งานทุกตัวพร้อมกัน คุณภาพของเสียงที่บันทึกขึ้นอยู่กับแอปที่ใช้
หากยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับเสียงในโทรศัพท์ Pixel
คุณติดต่อตัวแทนฝ่ายสนับสนุนเกี่ยวกับปัญหานี้ได้ด้วย ดูวิธีรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับโทรศัพท์ Pixel