เมื่อส่งผลิตภัณฑ์ไปยัง Merchant Center คุณจะต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าจัดส่งที่เรียกเก็บและระยะเวลาที่ลูกค้าจะได้รับสินค้าที่สั่งซื้อด้วย ระบบจะใช้การตั้งค่าการจัดส่งในฟีเจอร์ต่างๆ ของ Google รวมถึงโฆษณา Shopping และข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรี
ความเร็วในการจัดส่งและค่าจัดส่งเป็น 2 สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้ลูกค้าเลิกล้มการเลือกซื้อสินค้า ดังนั้นคุณจะต้องตรวจสอบว่าการตั้งค่าการจัดส่งถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
บทความนี้อธิบายวิธีการตั้งค่าการจัดส่งต่างๆ และกรณีที่ควรใช้การตั้งค่านี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าการจัดส่ง
วิธีการทำงาน
หากต้องการแสดงผลิตภัณฑ์ในประเทศหรือภูมิภาคใดก็ตาม คุณต้องมีบริการจัดส่งรวมถึงต้องกำหนดความเร็วในการจัดส่งและค่าจัดส่งสำหรับพื้นที่ดังกล่าวให้ถูกต้อง โดยจะกำหนดค่าความเร็วในการจัดส่งและค่าจัดส่งได้ภายในบริการจัดส่งแต่ละรายการในบัญชี Merchant Center หรือผ่าน Shipping Settings API นอกจากนี้ คุณยังลบล้างการตั้งค่าการจัดส่งระดับบัญชีได้ด้วยแอตทริบิวต์การจัดส่ง [shipping] ในระดับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ
การตั้งค่าการจัดส่งยังพิจารณาข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่คุณส่งโดยใช้แอตทริบิวต์การจัดส่งต่างๆ ด้วย ดังนี้
- แอตทริบิวต์การจัดส่งที่ไม่บังคับ ได้แก่ ป้ายกำกับการจัดส่ง
[shipping_label], น้ำหนักของกล่องจัดส่ง[shipping_weight]และขนาด (ความยาวของกล่องจัดส่ง[shipping_length], ความกว้างของกล่องจัดส่ง[shipping_width], ความสูงของกล่องจัดส่ง[shipping_height]) - หากต้องการระบุเวลานำส่งสำหรับผลิตภัณฑ์บางอย่างเพิ่มเติม คุณจะใช้แอตทริบิวต์ป้ายกำกับเวลาขนส่ง
[transit_time_label]ได้ - หากต้องการเปิดใช้การนำส่งวันเดียวกัน คุณสามารถเพิ่มแอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่งในพื้นที่
[local_shipping_label]ลงในฟีดสินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์ในร้าน
กรณีที่ควรตั้งค่าการจัดส่ง
คุณต้องตั้งค่าการจัดส่งในสถานการณ์ต่อไปนี้
- ในกรณีที่ต้องการแสดงผลิตภัณฑ์ในประเทศใดประเทศหนึ่งต่อไปนี้ กรีซ เกาหลีใต้ แคนาดา เช็กเกีย ญี่ปุ่น เดนมาร์ก นอร์เวย์ นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์ บราซิล เบลเยียม โปรตุเกส โปแลนด์ ฝรั่งเศส ฟินแลนด์ เยอรมนี โรมาเนีย สเปน สโลวาเกีย สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ออสเตรีย อิตาลี อินเดีย อิสราเอล ไอร์แลนด์ และฮังการี
- หากต้องการแสดงผลิตภัณฑ์ในประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นประเทศหลักที่ขายผลิตภัณฑ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการส่งฟีดไปยังหลายประเทศ
สิ่งที่ควรรวมอยู่ในการจัดส่ง
ค่าใช้จ่าย
- โดยค่าเริ่มต้น ค่าจัดส่งมีไว้สำหรับการนำส่งไปยังที่อยู่บ้านหรือที่อยู่ธุรกิจของลูกค้า แต่คุณก็ระบุค่าจัดส่งสำหรับการนำส่งไปยังจุดรับสินค้าในบางประเทศได้ด้วย
- สำหรับแคนาดาเท่านั้นที่ส่งค่าจัดส่งโดยไม่รวมภาษี
- ประเทศที่อนุญาตให้คุณแชร์ค่าจัดส่งสำหรับที่อยู่บ้านและที่อยู่ธุรกิจหรือการนำส่งไปยังจุดรับสินค้า
- อาร์เจนตินา*
- ออสเตรีย
- เบลเยียม
- ชิลี*
- สาธารณรัฐเช็ก
- เดนมาร์ก
- เยอรมนี
- กรีซ
- ฮังการี
- ไอซ์แลนด์
- อิตาลี
- ฟินแลนด์
- ฝรั่งเศส
- เนเธอร์แลนด์
- นอร์เวย์
- โปแลนด์
- โปรตุเกส
- โรมาเนีย
- สโลวะเกีย
- สเปน
- สวีเดน
- สหราชอาณาจักร
*สำหรับชิลีและอาร์เจนตินา คุณส่งค่าจัดส่งไปยังจุดรับสินค้าหรือร้านค้าเพื่อรับสินค้าได้
[shipping], ราคา [price], ภาษี [tax] หรือแอตทริบิวต์อื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการนำส่งสำหรับผู้ค้าปลีกของรัฐโคโลราโดคุณควรคิดค่าบริการข้ามพรมแดนรวมในค่าจัดหากค่าใช้จ่ายนั้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขการจัดส่งของเว็บไซต์ และค่าจัดส่งควรรวมค่าประกันที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขต่างๆ ข้างต้นด้วย
หากตั้งค่าการจัดส่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่คุณขายในแคนาดา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย คุณควรทำดังนี้
- เทียบความพร้อมจำหน่ายสินค้าบนหน้า Landing Page กับข้อมูลการจัดส่งที่ส่งไปยัง Merchant Center หากคุณไม่ได้นำส่งผลิตภัณฑ์ทั่วทั้งประเทศเป้าหมาย ให้ใช้ "ไม่มีการจัดส่ง" เพื่อยกเว้นบางพื้นที่
ความเร็ว
ความเร็วในการจัดส่งเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยผู้คนประเมินความเป็นไปได้ในการซื้อ หากต้องการแสดงข้อมูลนี้ ให้ระบุทั้งวันทำการก่อนจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อและเวลาขนส่งของผลิตภัณฑ์ในบริการจัดส่งแต่ละรายการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าความเร็วในการจัดส่ง
- วันทำการก่อนจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อคือจำนวนวันทำการที่ต้องใช้ในการดำเนินการกับคำสั่งซื้อก่อนที่จะจัดส่ง ซึ่งโดยปกติจะเริ่มต้นเมื่อลูกค้าทำการสั่งซื้อ และจะสิ้นสุดเมื่อผู้ให้บริการขนส่งได้รับพัสดุสำหรับการจัดส่ง
- เวลาขนส่งคือจำนวนวันทำการที่ผู้ให้บริการขนส่งใช้ในการนำส่งพัสดุเมื่อได้รับพัสดุจากสถานที่ให้บริการจัดส่ง
หากจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าในสหรัฐอเมริกา (ก) จากคลังสินค้าที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาและใช้บริการของผู้ให้บริการขนส่งรายใดรายหนึ่งของเราเพื่อนำส่งพัสดุ หรือ (ข) ใช้พาร์ทเนอร์รายใดรายหนึ่งของเรา คุณจะเลือกให้ Google คำนวณความเร็วในการจัดส่งที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละรายได้ โดยระบบจะอิงตามสถานที่นำส่ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ Google คำนวณความเร็วในการจัดส่ง
วิธีกำหนดค่าจัดส่ง
เนื่องจากค่าจัดส่งนั้นแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ การตั้งค่าการจัดส่งใน Merchant Center จึงอนุญาตให้คุณตั้งค่าตารางการจัดส่งได้โดยอิงตามปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนัก ราคา ปลายทาง และอื่นๆ เลือกตัวเลือกการจัดส่งที่แสดงถึงวิธีที่คุณเรียกเก็บค่าจัดส่งในเว็บไซต์ของคุณ หากเรียกเก็บเงินค่าจัดส่งจากลูกค้าเท่ากับที่ชำระให้กับผู้ให้บริการขนส่ง คุณจะเลือกใช้อัตราค่าบริการของผู้ให้บริการขนส่งในบางประเทศได้ และ Google จะคำนวณค่าจัดส่งให้โดยอัตโนมัติ
หากต้องการเริ่มต้นใช้งานการจัดส่ง ให้พิจารณารูปแบบค่าจัดส่งที่ต้องเพิ่มตามวิธีการเรียกเก็บค่าจัดส่ง และอย่าลืมตั้งค่าจัดส่งที่คุณส่งไปยัง Merchant Center ให้ตรงกับหรือสูงกว่าค่าจัดส่งที่คุณเรียกเก็บในเว็บไซต์
| วิธีคิดค่าบริการ | ตัวเลือกการจัดส่ง | ตัวอย่าง |
|---|---|---|
| จัดส่งฟรีตามช่วงราคาที่กำหนด | จัดส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อมากกว่าจำนวนเงินที่กำหนด (การตั้งค่าต้นทุนพื้นฐาน) | จัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่ามากกว่า $20 USD |
| จัดส่งฟรี | จัดส่งฟรี (การตั้งค่าต้นทุนพื้นฐาน) | |
| อัตราคงที่สำหรับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าระหว่างช่วงราคาที่กำหนด | อิงตามช่วง (การตั้งค่าต้นทุนพื้นฐาน) | $5 USD สำหรับคำสั่งซื้อที่มูลค่าต่ำกว่า $20 USD |
| อัตราการจัดส่งแบบคงที่สำหรับคำสั่งซื้อทุกรายการ | อัตราคงที่ (การตั้งค่าต้นทุนพื้นฐาน) | $5 USD สำหรับคำสั่งซื้อทุกรายการ |
| การจัดส่งขึ้นอยู่กับอัตราค่าขนส่งของผู้ให้บริการขนส่งที่รองรับ | อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง โดยคำนวณร่วมกับแอตทริบิวต์น้ำหนักของกล่องจัดส่งและขนาด (มีให้บริการในประเทศเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย) |
FedEX Ground, UPS Ground, USPS Media Mail ระบบจะคำนวณอัตราค่าจัดส่งให้แก่ลูกค้าทุกคนโดยอัตโนมัติตามอัตราของผู้ให้บริการขนส่งทั่วไป และจะอัปเดตอัตราดังกล่าว หากอัตราของผู้ให้บริการขนส่งมีการเปลี่ยนแปลง |
| ตามมิติข้อมูลต่อไปนี้อย่างน้อย 1 รายการ (ราคาคำสั่งซื้อ น้ำหนัก จำนวนสินค้า หรือปลายทาง) | ตารางอัตราค่าจัดส่ง (การตั้งค่าขั้นสูง) | $5 USD สำหรับคำสั่งซื้อที่มีน้ำหนักไม่เกิน 5 กก. |
| ตามเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้า | เปอร์เซ็นต์ยอดรวมคำสั่งซื้อ (ตารางอัตราค่าจัดส่งในการตั้งค่าขั้นสูง) | 5% ของยอดรวมคำสั่งซื้อ |
| ตามมิติข้อมูลมากกว่า 2 รายการขึ้นไป | ตารางย่อย (ตารางอัตราค่าจัดส่งในการตั้งค่าขั้นสูง) | ตามราคาคำสั่งซื้อ น้ำหนัก และปลายทาง |
| ยกเว้นกลุ่มคำสั่งซื้อจากการนำส่งในบริการจัดส่ง |
มูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ (การตั้งค่าขั้นสูง) ในกรณีที่กำหนดคำสั่งซื้อที่ต้องการยกเว้นโดยใช้ราคาคำสั่งซื้อเพียงอย่างเดียว ตารางอัตราค่าจัดส่ง (การตั้งค่าขั้นสูง) ในกรณีที่กำหนดโดยใช้มิติข้อมูลต่อไปนี้อย่างน้อย 1 รายการ ราคาคำสั่งซื้อ น้ำหนัก จำนวนสินค้า หรือปลายทาง |
ไม่มีการจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อที่มูลค่าไม่ถึง $5 USD ไม่มีการจัดส่งไปยังฮาวาย |
| ค่าจัดส่งที่ไม่ซ้ำกันสำหรับผลิตภัณฑ์รายการเดียว | แอตทริบิวต์การจัดส่ง [shipping] |
ลบล้างการตั้งค่าบัญชีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราค่าจัดส่งที่ไม่ซ้ำกันด้วยตนเองได้ |
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่ง
ค่าจัดส่งมักขึ้นอยู่กับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ เช่น ราคา น้ำหนัก หรือขนาด หากเรียกเก็บค่าจัดส่งตามแอตทริบิวต์เหล่านี้หรือต้องการใช้อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง (ซึ่งคำนวณจากน้ำหนักและขนาด) คุณควรเพิ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องลงในข้อมูลผลิตภัณฑ์
| รายละเอียดผลิตภัณฑ์ | แอตทริบิวต์ | สิ่งที่ต้องเพิ่ม |
| น้ำหนักของผลิตภัณฑ์ | น้ำหนักของกล่องจัดส่ง [shipping_weight] |
รวมน้ำหนักของกล่องจัดส่งสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ เพื่อให้กำหนดค่าจัดส่งที่แตกต่างกันได้ตามน้ำหนัก |
| ขนาดของผลิตภัณฑ์ | ความยาวของกล่องจัดส่ง [shipping_length], ความกว้างของกล่องจัดส่ง [shipping_width] และความสูงของกล่องจัดส่ง [shipping_height] |
รวมข้อมูลขนาดของผลิตภัณฑ์ที่จะใช้สำหรับอัตราของผู้ให้บริการขนส่ง |
| ค่าจัดส่งที่แตกต่างกันตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ | ป้ายกำกับการจัดส่ง [shipping_label] |
กำหนดกลุ่มผลิตภัณฑ์ (เช่น เน่าเสียง่ายหรือเกินขนาด) แล้วใช้อัตราค่าจัดส่งพิเศษสำหรับกลุ่มเหล่านั้น |
| เวลาขนส่งที่แตกต่างกันตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ | ป้ายกำกับเวลาขนส่ง [transit_time_label] |
ระบุเวลาขนส่งสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อให้วันที่นำส่งโดยประมาณมีความแม่นยำมากขึ้น |
การตั้งค่าการจัดส่งขั้นสูงขึ้นทำงานอย่างไร
คุณอาจต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าขั้นสูงขึ้นบางส่วนที่อธิบายไว้ที่นี่ โดยขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดส่งของคุณ
มูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ
หากกำหนดให้ลูกค้าต้องสั่งซื้อครบตามจำนวนเงินขั้นต่ำก่อนคุณจึงจะให้บริการจัดส่ง โปรดป้อนข้อมูลดังกล่าวเมื่อตั้งค่าการจัดส่ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ
อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง (เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียเท่านั้น)
ใช้การตั้งค่านี้หากคุณเรียกเก็บค่าจัดส่งตามอัตราที่คำนวณโดยผู้ให้บริการขนส่ง แล้วเลือกผู้ให้บริการขนส่งที่รองรับ (เช่น UPS, TNT, Hermes) และบริการต่างๆ (เช่น Ground, Next Day Air, 3 Day Select) ที่มี
| ภูมิภาค | ผู้ให้บริการขนส่งที่รองรับ |
|---|---|
| ออสเตรเลีย | AusPost, TNT, TOLL |
| ฝรั่งเศส | Geodis |
| เยอรมนี | DHL, DPD, Hermes, UPS |
| สหราชอาณาจักร | DHL, DPD, Royal Mail, TNT, UPS, Yodel |
| สหรัฐอเมริกา | FedEx, UPS, USPS |
หากเลือกใช้อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง คุณจะต้องส่งแอตทริบิวต์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งด้วย (ดูตารางด้านบน)
- น้ำหนักของกล่องจัดส่ง
[shipping_weight] - ความยาวของกล่องจัดส่ง
[shipping_length] - ความกว้างของกล่องจัดส่ง
[shipping_width] - ความสูงของกล่องจัดส่ง
[shipping_height]
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าอัตราของผู้ให้บริการขนส่ง
การปรับอัตรา
อัตราของผู้ให้บริการขนส่งเป็นอัตรามาตรฐานเชิงพาณิชย์ของผู้ให้บริการแต่ละราย แต่คุณปรับอัตรา (เพิ่มหรือลด) เป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนคงที่ได้
ผู้ให้บริการขนส่งบางรายมีค่าขนส่งหลายอัตราแบ่งตามวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์และส่วนบุคคล โดย Google จะใช้อัตราเชิงพาณิชย์ (เช่น "Standard" สำหรับ FedEx และ "Daily" สำหรับ UPS) ในกรณีที่คุณใช้อัตราค่าจัดส่งที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ (มักเรียกว่าการค้าปลีก) อาจจำเป็นต้องปรับอัตราขึ้น 50-60%
หากมีสัญญากับผู้ให้บริการขนส่ง คุณอาจจำเป็นต้องปรับอัตราเพิ่มขึ้นหรือลดลง (โดยใช้จำนวนที่เป็นลบ เช่น -10) เป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนคงที่
ตารางย่อยและรูปแบบการจัดส่งที่ซับซ้อน
ใช้ตารางย่อย หากการจัดส่งของคุณใช้มิติข้อมูลมากกว่า 3 แบบ เช่น ใช้ตารางย่อยในกรณีที่คิดค่าจัดส่งสินค้าตามราคา น้ำหนัก และปลายทาง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าตารางย่อย
จัดส่งจากนอกประเทศเป้าหมาย
- ในกรณีที่จัดส่งสินค้าข้ามพรมแดน โดยปกติแล้วจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ภาษีศุลกากร ภาษีอากร หรือภาษีนำเข้า อย่ารวมค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้ในแอตทริบิวต์การจัดส่ง ยกเว้นในกรณีที่ผู้ให้บริการจัดส่งเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการสินค้าผ่านศุลกากรทั้งหมด และค่าใช้จ่ายนั้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขการจัดส่งสินค้าของเว็บไซต์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดการส่งออก
ไม่มีการจัดส่ง
ใช้ตัวเลือก "ไม่มีการจัดส่ง" เพื่อระบุว่าคุณไม่มีบริการจัดส่งผลิตภัณฑ์บางอย่าง เช่น หากคุณไม่มีบริการขนส่งด่วนสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเกินกว่า 50 ปอนด์ ให้ระบุว่า "ไม่มีการจัดส่ง"
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่กำหนดเป้าหมายไปยังแคนาดา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย คุณใช้ "ไม่มีการจัดส่ง" เพื่อยกเว้นการจัดส่งไปยังบางพื้นที่ได้ เช่น ระบุได้ว่าคุณไม่มีบริการจัดส่งนอกเขตจังหวัดโตเกียวหรือรหัสไปรษณีย์บางเขตที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าการจัดส่ง
พื้นที่นำส่ง
ระบบจะใช้พื้นที่นำส่งในการสร้างภูมิภาคที่กำหนดเองเพื่อให้กำหนดค่าจัดส่งและเวลาขนส่งสำหรับการจัดส่งไปยังลูกค้าในแคนาดา นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอินเดียได้อย่างถูกต้อง
เช่น หากคุณอาศัยอยู่ที่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ค่าจัดส่งอาจสูงขึ้นและเวลาขนส่งอาจยาวนานขึ้นหากจัดส่งคำสั่งซื้อไปยังชายฝั่งตะวันตก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าพื้นที่นำส่ง
ป้ายกำกับเวลาขนส่ง
หากจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่มีการจัดกลุ่มแตกต่างกัน คุณจะสร้างป้ายกำกับเวลาขนส่งสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละกลุ่มได้ และนำแอตทริบิวต์ป้ายกำกับเวลาขนส่ง [transit_time_label] ไปใช้กับผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทที่ตรงกันได้ในฟีด ป้ายกำกับเวลาขนส่งจะช่วยให้ลูกค้าทราบวันที่นำส่งโดยประมาณได้แม่นยำขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เช่น คุณอาจเพิ่มป้ายกำกับเวลาขนส่งว่า "หนัก" ให้กับสินค้าที่มีค่าจัดส่งสูงกว่าเนื่องจากมีน้ำหนักมากได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับป้ายกำกับเวลาขนส่ง
การขนส่งสินค้าเกินขนาดและคิดค่าระวาง (LTL)
ผู้ให้บริการขนส่งมีข้อจำกัดเกี่ยวกับขนาดหรือน้ำหนักของพัสดุที่สามารถส่งได้ ผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่มักจัดส่งโดยใช้การจัดส่งแบบคิดค่าระวาง ฟีเจอร์อัตราของผู้ให้บริการขนส่งใช้กับผู้ให้บริการขนส่งแบบคิดค่าระวางไม่ได้ ดังนั้นหากผลิตภัณฑ์ของคุณใหญ่เกินกว่าที่จะจัดส่งผ่านผู้ให้บริการขนส่งทั่วไป คุณจะต้องตั้งค่าตารางอัตราค่าบริการจัดส่งด้วยตนเอง
เคล็ดลับบางส่วนสำหรับการตั้งค่าการจัดส่งแบบคิดค่าระวางมีดังต่อไปนี้
- ติดแท็กผลิตภัณฑ์ที่ใหญ่เกินขนาดหรือหนักด้วยแอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง คุณติดป้ายกำกับ (เช่น เกินขนาด) ให้กับผลิตภัณฑ์ที่ใหญ่เกินขนาด และระบุการจัดส่งพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ด้วยแอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง
[shipping_label]เช่น คุณอาจจะเพิ่มป้ายกำกับการจัดส่งสำหรับประเภทสินค้าตามค่าระวางทั่วไปได้ - เพิ่มอัตราตามน้ำหนักและปลายทางโดยใช้ตารางและกลุ่มการจัดส่ง การใช้ตารางย่อยหรือกลุ่มการจัดส่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแยกการตั้งค่าการจัดส่งที่ซับซ้อน
- อัตราฐานอิงตามป้ายกำกับการจัดส่ง คุณสามารถสร้างกลุ่มการจัดส่งโดยใช้ป้ายกำกับการจัดส่งเพื่อสร้างตารางอัตราค่าจัดส่งสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น คุณใช้แอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง
[shipping_label]เพื่อระบุประเภทสินค้าตามค่าระวางสำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ จากนั้นสร้างกลุ่มสำหรับแต่ละป้ายกำกับ เช่น กลุ่มหนึ่งสำหรับคลาส 70 และอีกกลุ่มหนึ่งสำหรับคลาส 100 - อัตราฐานอิงตามน้ำหนักและสถานที่ หากไม่ต้องการใช้ป้ายกำกับการจัดส่ง คุณเชื่อมโยงตารางย่อยของระดับน้ำหนักสินค้ากับอัตราค่าจัดส่งต่างๆ ในแต่ละรัฐหรือเขตรหัสไปรษณีย์ได้
- อัตราฐานอิงตามป้ายกำกับการจัดส่ง คุณสามารถสร้างกลุ่มการจัดส่งโดยใช้ป้ายกำกับการจัดส่งเพื่อสร้างตารางอัตราค่าจัดส่งสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น คุณใช้แอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง
- ตีราคาค่าจัดส่งให้สูงไว้ก่อน หากไม่สามารถแสดงค่าจัดส่งที่แน่ชัดได้ โปรดประเมินราคาให้สูงไว้ก่อน การแสดงค่าจัดส่งที่สูงกว่าที่ระบุไว้ในเว็บไซต์จะไม่มีผลต่อการอนุมัติผลิตภัณฑ์ แต่หากค่าจัดส่งต่ำกว่าที่แสดงในเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์จะไม่ได้รับการอนุมัติ
การกำหนดวันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุดช่วยให้คุณระบุวันปิดรับการสั่งซื้อสินค้าแบบชั่วคราวได้ในกรณีที่มีการนำส่งแบบพิเศษสำหรับวันหยุดเฉพาะ เช่น วันคริสต์มาสหรือวันแม่ โดยสินค้าของคุณจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าที่สั่งภายในวันหยุดไหม โดยอิงข้อมูลจากวันที่และเวลาที่ป้อนลงในช่อง "เริ่มแสดงตั้งแต่"
วันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุดจะลบล้างการคำนวณวันที่นำส่งโดยประมาณอื่นๆ ทั้งหมด ดังนั้นจึงควรเลือกกำหนดเวลาที่คุณจะมีเวลามากพอในการนำส่งสินค้าทั้งหมดที่มีการสั่งซื้อก่อนวันดังกล่าว เช่น หากกำหนดเวลาของคำสั่งซื้อสำหรับวันคริสต์มาสเป็นวันที่ 24 ธันวาคม หมายความว่าคุณรับประกันว่าสินค้าที่สั่งซื้อก่อนวันดังกล่าวจะถึงมือผู้รับภายในวันคริสต์มาส ซึ่งอาจทำให้คุณต้องจัดส่งสินค้าในช่วงสุดสัปดาห์หรือเร่งความเร็วในการจัดส่งเพื่อให้เป็นไปตามที่สัญญาไว้
ระบบตั้งค่าให้ Merchant Center เสนอวันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุดสำหรับวันหยุดต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาดังนี้
- วันวาเลนไทน์
- วันอีสเตอร์
- วันแม่
- วันพ่อ
- วันประกาศอิสรภาพ
- วันฮาโลวีน
- วันขอบคุณพระเจ้า
- วันคริสต์มาส
การนำส่งวันเดียวกัน
ตัวเลือกการนำส่งวันเดียวกันช่วยให้ผู้ค้าปลีกระบุได้ว่าผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่มีสิทธิ์ใช้การนำส่งวันเดียวกัน ระบบจะแสดงผลิตภัณฑ์ที่มีสิทธิ์ต่อลูกค้าทั่วทั้ง Google โดยระบุข้อมูลว่าผลิตภัณฑ์นั้นสามารถใช้การนำส่งวันเดียวกันได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำส่งวันเดียวกัน