การแจ้งเตือน

ศูนย์ช่วยเหลือนี้จะแสดงบทความที่เกี่ยวข้องกับ Merchant Center Next ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเกรดและดูคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อย

ตั้งค่ากฎแอตทริบิวต์

กฎแอตทริบิวต์ช่วยให้คุณเปลี่ยนรูปแบบข้อมูลให้ตรงกับข้อกำหนดในการจัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ ใช้กฎแอตทริบิวต์เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดและช่วยเราตีความข้อมูลในแหล่งข้อมูล บทความนี้จะอธิบายวิธีตั้งค่ากฎแอตทริบิวต์สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์

ก่อนเริ่มต้น

อย่าลืมเพิ่มแหล่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ลงในบัญชี Merchant Center เพื่อให้มีข้อมูลสำหรับสร้างกฎ

จากนั้นเปิดใช้ฟีเจอร์กฎแอตทริบิวต์โดยเพิ่มส่วนเสริม "การจัดการแหล่งข้อมูลขั้นสูง" ส่วนเสริมนี้จะช่วยให้คุณใช้กฎแอตทริบิวต์ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการแหล่งข้อมูลขั้นสูง

หมายเหตุ: ใช้ส่วนกฎรหัสเพื่อตั้งค่ากฎแอตทริบิวต์สำหรับแอตทริบิวต์รหัส [id] ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่ากฎสำหรับแอตทริบิวต์รหัส

ใช้กฎแอตทริบิวต์

วิธีสร้างกฎแอตทริบิวต์ใหม่สำหรับแหล่งข้อมูล

Step 1 ในบัญชี Merchant Center ให้คลิกไอคอนการตั้งค่าและเครื่องมือ ไอคอนเมนูการตั้งค่าและเครื่องมือ [Gear]

Step 2 เลือกแหล่งข้อมูล

Step 3 ในแท็บ "แหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์" ให้เลือกแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์

Step 4 คลิกแท็บกฎแอตทริบิวต์

  • หากมีป้ายกำกับฟีดมากกว่า 1 รายการที่เชื่อมโยงกับแหล่งข้อมูลนี้ อย่าลืมเลือกป้ายกำกับฟีดที่ต้องการใช้กฎดังกล่าว
  • หมายเหตุ: คุณยังกำหนดค่าแหล่งข้อมูลได้โดยไปที่แท็บการตั้งค่าแหล่งข้อมูล

Step 5 หากยังไม่ได้สร้างกฎแอตทริบิวต์สำหรับแอตทริบิวต์ที่ต้องการแก้ไข ให้คลิกเพิ่มกฎแอตทริบิวต์ แล้วเลือกแอตทริบิวต์ที่เกี่ยวข้องจากรายการแบบเลื่อนลง

Step 5 หากต้องการแก้ไขชุดกฎแอตทริบิวต์ที่มีอยู่ โปรดค้นหาแอตทริบิวต์โดยใช้แถบค้นหา แล้วคลิกแอตทริบิวต์ที่ต้องการแก้ไข

Step 5 เพิ่มหรือแก้ไขรายละเอียดในกฎแอตทริบิวต์โดยคลิกเพิ่มวิธีอื่นๆ ในการแทนที่ข้อมูล เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มการแก้ไข

Step 5 คลิกบันทึกเป็นฉบับร่าง

Step 5 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับกฎจะอยู่ในโหมดฉบับร่าง คลิกทดสอบกฎเพื่อทดสอบกฎฉบับร่างก่อนที่จะนำไปใช้กับข้อมูลผลิตภัณฑ์

Step 10 คลิกใช้การเปลี่ยนแปลงเพื่อบันทึกและใช้กฎใหม่หรือกฎที่อัปเดต คลิกทิ้งการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำกฎฉบับร่างออก

หน้ากฎแอตทริบิวต์มีตารางแอตทริบิวต์ที่แสดงภาพรวมของแอตทริบิวต์เป้าหมายที่อยู่ภายใต้กฎ

หมายเหตุ: ฟีเจอร์กฎแอตทริบิวต์ทำงานร่วมกับฟังก์ชันแบบต่อเรียงกัน ซึ่งหมายความว่าระบบจะเรียกใช้กฎแรกก่อน จากนั้นตามด้วยกฎที่ 2 และกฎต่อๆ ไปตามลำดับในกรณีที่คุณมีกฎหลายข้อ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎประเภทต่างๆ ด้านล่าง

กฎเริ่มต้นเป็นกฎที่ Google กำหนดให้กับแต่ละแอตทริบิวต์ในแหล่งข้อมูล โดยนำค่ามาจากแหล่งข้อมูลเสริมหรือแหล่งข้อมูลหลัก คุณอาจลองเปลี่ยนวิธีกำหนดแอตทริบิวต์ได้หากต้องการปรับแต่งกฎ

เพิ่มแหล่งข้อมูล

กำหนดค่าแหล่งข้อมูลเพื่อระบุว่าข้อมูลสำหรับแอตทริบิวต์ควรมาจากที่ใด โดยใช้เงื่อนไขและการดำเนินการ (ตั้งค่าเป็น แยก และใช้ค่าล่าสุด) เพื่อระบุวิธีการเรียกข้อมูล การดำเนินการเหล่านี้จะช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายโดยใช้แหล่งข้อมูลที่มีอยู่ หรือแยกข้อมูลออกจากแหล่งข้อมูลได้

ใช้การดำเนินการแหล่งข้อมูล

ใช้ "ตั้งค่าเป็น"
ตัวเลือกตั้งค่าเป็นช่วยให้คุณสามารถป้อนข้อมูลแอตทริบิวต์เป้าหมายด้วยชุดค่าผสมของคอลัมน์ขาเข้า จากแหล่งข้อมูลหลักหรือแหล่งข้อมูลเสริม และค่าคงที่ วิธีนี้จะช่วยให้คุณต่อท้ายและเพิ่มค่าอื่นๆ ให้กับข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ได้ เช่น การเพิ่มแบรนด์ลงในชื่อ คุณใช้กฎ "ตั้งค่าเป็น" ได้ตามวิธีต่อไปนี้
  • ตั้งชื่อคอลัมน์ขาเข้าให้เป็นแอตทริบิวต์ Google ที่เจาะจง
    • เช่น ตั้งค่าความพร้อมจำหน่ายสินค้า [Availability] เป็น my_first_feed.stockstatus
  • ป้อนข้อมูลแอตทริบิวต์เป้าหมายด้วยค่าสตริงแบบคงที่สตริงเดียว
    • เช่น ตั้งค่าสภาพสินค้าเป็น "new"
  • ป้อนข้อมูลแอตทริบิวต์เป้าหมายโดยผสมข้อมูลใดก็ได้ ได้แก่ คอลัมน์ขาเข้า ค่าคงที่ หรือค่าที่ประมวลผลแล้ว ใช้ฟีเจอร์การเชื่อมโยง (หรือการรวม) เพื่อสร้างสตริงจากหลายคอลัมน์หรือหลายค่า
    • เช่น ตั้งค่าชื่อเป็น my_first_feed.brand + " " +my_first_feed.title
ข้อควรจำ: กฎการเชื่อมโยงแบบตั้งค่าเป็นจะไม่สำเร็จก็ต่อเมื่อการอ้างอิงฟีดทั้งหมดไม่สำเร็จ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
  • การตั้งค่าชื่อเป็น my_first_feed.brand + " " +my_first_feed.title จะไม่สำเร็จ หากแก้ไขการอ้างอิงฟีดทั้งคู่ไม่ได้
  • การตั้งค่าชื่อเป็น my_first_feed.brand + " " +my_first_feed.title จะสำเร็จ หากแก้ไข my_first_feed.brand ไม่ได้เพียงอย่างเดียว โดยจะเปลี่ยนไปใช้การตั้งค่าชื่อเป็น my_first_feed.title แทน
ใช้ "กำหนดเป็นหลายค่า"
หมายเหตุ: การดำเนินการนี้จะใช้ได้สำหรับแอตทริบิวต์ปลายทางที่รวม [included_destination], ปลายทางที่ยกเว้น [excluded_destination] และประเทศที่ยกเว้นสำหรับโฆษณา Shopping [shopping_ads_excluded_country] เท่านั้น

ใช้กำหนดเป็นหลายค่าเพื่อกำหนดแอตทริบิวต์นี้ด้วยรายการค่าจากแหล่งข้อมูล แอตทริบิวต์ประมวลผล หรือค่าที่คุณสร้าง

การดำเนินการนี้จะสร้างเขตข้อมูลที่ซ้ำได้เพื่อให้คุณสามารถเพิ่มรายการค่าให้กับแอตทริบิวต์ และช่วยให้คุณกำหนดปลายทางหลายแห่งให้กับแอตทริบิวต์ปลายทางที่รวม [included_destination] หรือปลายทางที่ยกเว้น [excluded_destination] หรือกำหนดหลายประเทศให้กับแอตทริบิวต์ประเทศที่ยกเว้นสำหรับโฆษณา Shopping [shopping_ads_excluded_country] ได้ ในกรณีของปลายทางที่รวม [included_destination] และปลายทางที่ยกเว้น [excluded_destination] คุณจะกำหนด Shopping_ads, Display_ads ได้

ใช้ "แยก"
หากต้องการใช้ตัวเลือกขั้นสูง ให้คลิกลูกศร
  • คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่: จับคู่คำและวลีให้ตรงกับแบบที่ป้อนที่นี่ทั้งหมด
  • เก็บเฉพาะค่าแรกที่ตรงกัน: หากแอตทริบิวต์ที่คุณต้องการแยกแสดงค่าที่ตรงกันที่เป็นไปได้ 2 รายการขึ้นไป ระบบจะแยกเฉพาะค่าแรกที่คุณระบุไว้ เช่น หากคุณต้องการแยก "สีเหลือง" "สีแดง" และ "สีน้ำเงิน" จากชื่อ โดยชื่อคือ "เสื้อลายน้ำเงินสีเหลือง" ระบบจะแยกเฉพาะ "สีเหลือง" เท่านั้น
  • ค้นหาในรูปแบบนิพจน์ทั่วไป: จับคู่ค่าทั้งหมดที่เป็นไปตามรูปแบบการค้นหา (หรือ "นิพจน์ทั่วไป") โดยคุณจะต้องป้อนนิพจน์ทั่วไปลงในช่องข้อความ เช่น หากต้องการนำทุกอย่างนอกเหนือจากตัวเลข 6 หลักแรกในแอตทริบิวต์ออก ให้ใช้ find: '^(.{6}).*$' replace: '\1'.
  • ทั้งคำเท่านั้น: จับคู่เฉพาะคำที่ป้อนทั้งคำ เช่น ป้องกันการตรวจจับคำว่า "สีขาว" ภายในคำว่า "สีขาวดำ"
ใช้ "ใช้ค่าล่าสุด"
ใช้ใช้ค่าล่าสุดสำหรับแอตทริบิวต์ที่เกี่ยวข้องกับราคาและความพร้อมจำหน่ายสินค้าเท่านั้น เพื่อหาค่าที่อัปเดตล่าสุดจาก 2 แหล่งข้อมูลขึ้นไป และใช้ตัวเลือกดังกล่าวเพื่อป้อนข้อมูลแอตทริบิวต์
ตัวอย่าง
  • ใช้ค่าล่าสุดของ my_first_feed.availability และ my_supplemental_feed.availability
  • ใช้ค่าล่าสุดของ my_first_feed.price และ my_supplemental_feed.price
  • ใช้ค่าล่าสุดของ my_first_feed.sale_price และ my_supplemental_feed.sale_price
  • ใช้ค่าล่าสุดของ my_first_feed.sale_price_effective_date และ my_supplemental_feed.sale_price_effective_date

เพิ่มการแก้ไข

การแก้ไขช่วยให้คุณเพิ่มขั้นตอนในการเปลี่ยนข้อมูลของแอตทริบิวต์ที่ระบุได้ โดยใช้เงื่อนไขและการดำเนินการแก้ไขเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับข้อมูล เช่น เปลี่ยนคำบางคำในชื่อผลิตภัณฑ์หรืออัปเดตข้อมูลให้เป็นไปตามข้อกำหนดในการจัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์

ใช้การดำเนินการแก้ไข

ใช้ "แทรกข้างหน้า"
ใช้แทรกข้างหน้าเพื่อเพิ่มคำ วลี หรือแอตทริบิวต์แหล่งข้อมูลอื่นๆ ด้านหน้าค่าแอตทริบิวต์ เลือกการดำเนินการนี้เพื่อปรับปรุงข้อความค้นหาหรือข้อมูลผลิตภัณฑ์
ตัวอย่าง
  • คุณอาจลองเพิ่มค่ายี่ห้อลงในชื่อที่ไม่มีค่าดังกล่าว

ข้อควรจำ: การแก้ไข "แทรกไว้ข้างหน้า" จะไม่สำเร็จก็ต่อเมื่อการอ้างอิงแหล่งข้อมูลทั้งหมดไม่สำเร็จ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

  • การแทรกข้างหน้า "color: " + f1.color จะไม่สำเร็จ หากแก้ไข f1.color ไม่ได้
  • การแทรกข้างหน้า "color: " + f1.color + " " +"material: " + f1.material จะสำเร็จ หากแก้ไข f1.color ไม่ได้เพียงอย่างเดียว แต่จะไม่สำเร็จก็ต่อเมื่อแก้ไขทั้ง f1.color และ f1.material ไม่ได้
ใช้ "ต่อท้าย"
ใช้ต่อท้ายเพื่อเพิ่มคำ วลี หรือแอตทริบิวต์แหล่งข้อมูลอื่นๆ ด้านหลังค่าแอตทริบิวต์ เลือกการดำเนินการนี้เพื่อปรับปรุงข้อความค้นหาหรือข้อมูลผลิตภัณฑ์
ตัวอย่าง
  • เพิ่มค่าสีลงในชื่อที่ยังไม่มีค่าดังกล่าว

ข้อควรจำ: การแก้ไข "ต่อท้าย" จะไม่สำเร็จก็ต่อเมื่อการอ้างอิงแหล่งข้อมูลทั้งหมดไม่สำเร็จ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

  • การต่อท้าย "color: " + f1.color จะไม่สำเร็จ หากแก้ไข f1.color ไม่ได้
  • การต่อท้าย "color: " + f1.color + " " +"material: " + f1.material จะสำเร็จ หากแก้ไข f1.color ไม่ได้เพียงอย่างเดียว แต่จะไม่สำเร็จก็ต่อเมื่อแก้ไขทั้ง f1.color และ f1.material ไม่ได้
ใช้ "กำหนดมาตรฐาน"
ใช้ "Standardize" หรือ "กำหนดมาตรฐาน" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแอตทริบิวต์ที่ยอมรับค่าที่จำกัดโดยค้นหาค่าที่ไม่รองรับและแทนที่ด้วยค่าที่รองรับ
ตัวอย่าง
  • ในกรณีของแอตทริบิวต์สภาพสินค้า [condition] ระบบยอมรับค่า "used", "refurbished" และ "new" เท่านั้น ดังนั้นให้เปลี่ยนค่า "vintage" ทั้งหมดเป็น "used"
หากต้องการใช้ตัวเลือกขั้นสูง ให้คลิกลูกศร
  • พิจารณาตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่: จับคู่คำและวลีให้ตรงกับแบบที่ป้อนที่นี่ทั้งหมด
ใช้ "เพิ่มเขตข้อมูลที่ซ้ำได้"

ใช้เพิ่มฟิลด์ที่ซ้ำได้เพื่อเพิ่มข้อมูลอื่นให้กับแอตทริบิวต์ที่ยอมรับหลายค่า (เช่น ลิงก์รูปภาพเพิ่มเติม [additional_image_link], ปลายทางที่รวม [included_destination], ปลายทางที่ยกเว้น [excluded_destination] และอื่นๆ) กล่าวคือ เพิ่มค่าที่ 2 ลงในเขตข้อมูลที่ซ้ำได้ซึ่งมีการป้อนข้อมูลค่าแรกไว้แล้ว นอกจากนี้ เขตข้อมูลดังกล่าวอาจใช้สำหรับแอตทริบิวต์ที่กำหนดเองด้วย (ใช้กำหนดเป็นหลายค่าเพื่อป้อนข้อมูลแอตทริบิวต์โดยไม่ใช้ค่าที่มีอยู่)

ตัวอย่าง

เพิ่มปลายทาง Display_ads ไปยังแหล่งข้อมูลที่มี Shopping_ads เป็นปลายทางอยู่แล้ว

ใช้ "เพิ่มประสิทธิภาพ URL"

ใช้ "เพิ่มประสิทธิภาพ URL" เพื่อแก้ไขหรือนำคอมโพเนนต์ URL ออก การดำเนินการนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ไข URL โดยเฉพาะและมีการป้องกันสำหรับการจัดการพารามิเตอร์ดังนี้

  • หากเพิ่มพารามิเตอร์ใหม่ที่มีอยู่แล้ว ระบบจะแทนที่พารามิเตอร์ดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
  • หากเพิ่มพารามิเตอร์ที่ 2 ระบบจะเพิ่ม & แทน ? โดยอัตโนมัติ

ตัวอย่าง

เพิ่มพารามิเตอร์การติดตามใหม่ที่กำหนดเองสำหรับads_redirect

ค่าเปลี่ยนเส้นทางโฆษณา [ads_redirect] เริ่มต้น: https://www.myonlinestore.com/products/item1.html

  1. ตั้งค่าพารามิเตอร์ "utm_source" ด้วยค่า "google-products"

  2. ตั้งค่าพารามิเตอร์ "utm_medium" ด้วยค่า "shopping"

ค่าเปลี่ยนเส้นทางโฆษณา [ads_redirect] สุดท้าย: https://www.myonlinestore.com/products/item1.html?utm_source=google-products&utm_medium=shopping

ใช้ "ค้นหาและแทนที่"
ใช้ค้นหาและแทนที่เพื่อค้นหาคำหรือวลีในแหล่งข้อมูลแล้วแทนที่ด้วยค่าใหม่ เลือกการดำเนินการนี้เพื่อปรับปรุงข้อความค้นหาหรือข้อมูลผลิตภัณฑ์ เช่น คุณอาจต้องการเปลี่ยน “รองเท้าพัมพ์” เป็น “รองเท้าส้นสูง” การดำเนินการค้นหาและแทนที่จะดำเนินการตามลำดับ ไม่ใช่พร้อมกัน
หากต้องการใช้ตัวเลือกขั้นสูง ให้คลิกลูกศร
  • คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กหรือใหญ่: จับคู่คำและประโยคให้ตรงกับแบบที่ป้อนที่นี่ทั้งหมด
  • แทนที่คำแรกที่ตรงกันเท่านั้น: จับคู่เฉพาะส่วนแรกของคำในแอตทริบิวต์ที่ระบุ เช่น หากรายละเอียดเป็น "ต่างหูเงินที่มีขนนกสีเงิน" ระบบจะแทนที่เฉพาะคำว่า "เงิน" ที่ปรากฏเป็นครั้งแรกเท่านั้น
  • ค้นหาในรูปแบบนิพจน์ทั่วไป: จับคู่ค่าทั้งหมดที่เป็นไปตามรูปแบบการค้นหา (หรือ "นิพจน์ทั่วไป") โดยคุณจะต้องป้อนนิพจน์ทั่วไปลงในช่องข้อความ เช่น หากต้องการนำทุกอย่างนอกเหนือจากตัวเลข 6 หลักแรกในแอตทริบิวต์ออก ให้ใช้ find: '^(.{6}).*$' replace: '\1'
  • ทั้งคำเท่านั้น: จับคู่เฉพาะคำที่ป้อนทั้งคำ เช่น ป้องกันการตรวจจับคำว่า “สีขาว” ภายในคำว่า “สีขาวดำ”
ใช้ "คำนวณ"
ใช้ "Calculate" หรือ "คำนวณ" เพื่อบวก ลบ คูณ หรือหารค่าที่เป็นตัวเลข
ตัวอย่าง
ใช้ "แบ่งและเลือก"

ตัวเลือกแบ่งและเลือกจะช่วยให้คุณเลือกองค์ประกอบอย่างน้อย 1 รายการในรายการที่คั่นด้วยคอมมา คั่นด้วยลูกศร หรือรายการอื่นๆ และใช้ข้อความนั้นเพื่อป้อนข้อมูลค่าแอตทริบิวต์ได้ เช่น หากมีการจัดหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์โดยใช้ค่า product_type เป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับ > เสื้อผ้า > เครื่องแบบ > โค้ทสีขาว คุณจะกำหนดประเภทผลิตภัณฑ์ [product_type] ให้กับแอตทริบิวต์ที่กำหนดเองได้ แล้วใช้แบ่งและเลือกเพื่อเก็บไว้เฉพาะ "โค้ทสีขาว" จากนั้น คุณจะใช้ค่าดังกล่าวเพื่อต่อท้ายหรือแทรกไว้ข้างหน้าแอตทริบิวต์อื่นๆ ในแหล่งข้อมูลได้ เช่น แอตทริบิวต์ชื่อ [title]

แบ่ง: ระบุประเภทของโหนดหรือสัญลักษณ์ที่ต้องการแยกรายการ เช่น ">" "," หรือ ";"

เลือก: เลือกองค์ประกอบหรือโหนดที่ต้องการใช้ โดยเลือกค่าอย่าง "ค่าแรก" หรือ "ค่าสุดท้าย" หรือเลือกช่วงของค่า เช่น "1-ค่ารองสุดท้าย" หรือ "2-5" ได้

รวม: หากเลือกหลายโหนด ให้ใช้ "รวม" เพื่อรวมโหนดเหล่านั้นเป็นค่าเดียวโดยใช้ตัวแยกที่เลือก

หมายเหตุ: คุณอาจใช้แบ่งร่วมกับเลือกและ/หรือรวม หากไม่ได้รวมค่าที่แบ่งไว้ คุณจะสร้างแอตทริบิวต์ที่ซ้ำกันได้ เช่น a > b > c มีการแบ่งด้วย ">" จากนั้นจึงเลือก 2-3 หากรวมด้วย "+" คุณจะมีค่าเดียวคือ "b + c" แต่หากไม่ได้รวมค่าไว้ คุณจะมีแอตทริบิวต์ที่ซ้ำกัน โดยมี 2 ค่าคือ "b" และ "c"

ตัวอย่าง

สร้างแอตทริบิวต์ที่กำหนดเองโดยการแบ่งและเลือกโหนดสุดท้ายของสตริงประเภทผลิตภัณฑ์ [product_type] ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าและเครื่องประดับ > เสื้อผ้า > เครื่องแบบ > โค้ทสีขาว เพื่อนำโหนดดังกล่าวมาต่อท้ายแอตทริบิวต์ชื่อ [title]

Step 1 สร้างแอตทริบิวต์ที่กำหนดเองโดยใช้ชื่อ "ประเภทผลิตภัณฑ์โหนดสุดท้าย"

Step 2 ตั้งค่าแอตทริบิวต์ที่กำหนดเองเป็น "my_first_feed.product_type"

Step 3 แบ่ง: แบ่งด้วย ">" ซึ่งจะแบ่งสตริงเป็น 4 โหนด ได้แก่ Apparel & Accessories, Clothing, Uniforms, White Coats

Step 4 เลือก: เลือก "ค่าสุดท้าย" ซึ่งจะเลือกโหนดสุดท้ายในสตริง "White coats"

Step 5 บันทึกเป็นฉบับร่าง

Step 5 สร้างกฎใหม่สำหรับแอตทริบิวต์ชื่อเพื่อนำแอตทริบิวต์ใหม่มาต่อท้ายชื่อ เช่น "my_first_feed.title" + " " + "last node product type"

หมายเหตุ: ในกรณีนี้ คุณจะใช้รวมไม่ได้เนื่องจากคุณเลือกเพียงโหนดเดียวจากสตริง หากต้องการใช้ 2 โหนด คุณควรใช้รวมด้วย "," (เช่น เครื่องแบบ, โค้ทสีขาว)

ใช้ "ล้าง"

ตัวเลือกล้างจะช่วยให้คุณนำค่าของแอตทริบิวต์ใดก็ได้ออก เช่น กรณีที่ต้องการนำข้อความอย่าง "n/a" ออกจากไฟล์แหล่งข้อมูล

ตัวอย่าง

  • หากค่าปัจจุบันสำหรับแอตทริบิวต์แบรนด์ [brand] เป็น "n/a" ให้เลือกล้าง

    หมายเหตุ: เมื่อดำเนินการล้างกับผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงแล้ว คุณจะใช้กฎอื่นๆ กับผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้ หากต้องระบุแอตทริบิวต์ตามข้อกำหนดในการจัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์ การเว้นว่างค่าดังกล่าวไว้อาจนำไปสู่การไม่อนุมัติผลิตภัณฑ์

ดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงกฎ

เมื่อปรับเปลี่ยนกฎโดยใช้การดำเนินการแหล่งข้อมูลและการแก้ไข คุณจะดูตัวอย่างค่าฉบับร่างได้ที่มุมขวาบนของหน้าจอ

หากต้องการดูว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อสินค้าบางรายการอย่างไร ให้คลิกแว่นขยายเพื่อค้นหารหัสสินค้าในแคตตาล็อก หรือคลิกลูกศรเพื่อสุ่มวนดูผลิตภัณฑ์

หมายเหตุ: หากคลิกที่ปุ่มแว่นขยายหรือปุ่มลูกศรไม่ได้ ลองยุบกฎแหล่งข้อมูลหรือกฎการแก้ไข

หากสร้างหลายกฎสำหรับแอตทริบิวต์เดียวกัน คุณดูได้ว่าแต่ละกฎจะมีผลต่อค่าสุดท้ายอย่างไร เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ค่ากลางจะปรากฏข้างกฎที่คุณได้แก้ไข

ข้อควรจำ
  • หากทำการเปลี่ยนแปลงหลายรายการโดยใช้กฎเดียว ค่ากลางจะมีผลกับการเปลี่ยนแปลงที่รวม
  • หากไม่ได้ใช้กฎกับสินค้าที่กำลังดูอยู่ ค่ากลางจะไม่ปรากฏ

หากต้องการดูค่าที่ใช้งานอยู่และค่าฉบับร่างตามที่จะปรากฏหากมีการใช้กฎ ให้วางเมาส์เหนือช่องแสดงตัวอย่าง

ใช้เงื่อนไข

คุณเพิ่มเงื่อนไขไว้หน้าการดำเนินการเพื่อกรองสินค้าในแหล่งข้อมูลซึ่งตรงตามเกณฑ์ที่เลือกได้ เช่น หากต้องการใช้ชื่อใดชื่อหนึ่งกับสินค้าทั้งหมดของบางแบรนด์ ให้ตั้งเงื่อนไขเป็น "แบรนด์" "เท่ากับ" "Google" หากเลือกแอตทริบิวต์จากแหล่งข้อมูล เงื่อนไขจะกรองค่าที่มีอยู่ในค่าที่คุณเลือกไว้ออก เช่น ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้หากเลือกที่จะต่อท้าย

Step 1 เลือกแอตทริบิวต์แหล่งข้อมูลหรือแอตทริบิวต์ที่ประมวลผลในเมนูแบบเลื่อนลงเมนูแรกเพื่อเปรียบเทียบ แอตทริบิวต์แหล่งข้อมูลผลิตภัณฑ์เป็นแอตทริบิวต์เฉพาะจากแหล่งข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง หากเลือกแหล่งข้อมูล คุณจะสามารถระบุชื่อแอตทริบิวต์แล้วเลือกค่าแหล่งข้อมูลที่ยังไม่ได้ประมวลผล แอตทริบิวต์ที่ประมวลผลคือค่าแอตทริบิวต์สุดท้ายที่รวมการเปลี่ยนแปลงจากกฎแอตทริบิวต์ที่ใช้

Step 2 เลือกโอเปอเรเตอร์สำหรับเงื่อนไขในเมนูแบบเลื่อนลงอันที่ 2 เช่น "ประกอบด้วย" หรือ "ไม่เท่ากับ"

Step 3 จากนั้นป้อนค่าที่ต้องการให้เงื่อนไขเปรียบเทียบ ซึ่งอาจเป็นค่าคงที่หรือค่าแอตทริบิวต์ที่ประมวลผลจากแหล่งข้อมูล

หากต้องการป้อนเงื่อนไขที่ 2 เพื่อใช้ร่วมกับเงื่อนไขแรก ให้เลือกและ (AND) เงื่อนไขที่ 2 นี้จะเป็นค่าใดก็ได้ที่ไม่ขัดแย้งกับเงื่อนไขแรก หากทั้ง 2 เงื่อนไขถูกต้อง ระบบจะนำการดำเนินการไปใช้ เช่น คุณอาจใช้กฎกับเสื้อที่มีสีแดงและมีขนาดเล็ก

นอกจากนี้ คุณยังกำหนดให้กฎดำเนินการกับเงื่อนไขแยกต่างหากได้ด้วย เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้เลือกหรือ (OR) แล้วป้อนเงื่อนไขที่ 2 เพื่อให้กฎดำเนินการกับเงื่อนไขแรกหรือเงื่อนไขที่ 2 หากเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งที่ป้อนถูกต้อง ระบบจะนำการดำเนินการไปใช้ เช่น คุณอาจใช้กฎกับเสื้อสีแดงหรือเสื้อสีน้ำเงิน

ข้อควรจำ

  • เมื่อป้อนราคา ให้ใช้เฉพาะตัวเลขโดยไม่ต้องระบุสกุลเงิน
  • เมื่อใช้ "เท่ากับ" ให้ตรวจสอบว่าค่าที่ป้อนตรงกับค่าในแหล่งข้อมูลทุกประการ เช่น 13.00 จะใช้เป็น 13, $13.00 และอื่นๆ ไม่ได้
  • การป้อนค่านั้นไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่

ระบบจะนำการดำเนินการต่างๆ เช่น "ตั้งค่าเป็น" และ "ใช้ค่าล่าสุด" ไปใช้เมื่อค่าตรงกับเงื่อนไขเท่านั้น

บันทึกกฎแอตทริบิวต์

หากต้องการบันทึกกฎและนำไปใช้กับแหล่งข้อมูล ให้คลิกปุ่มใช้การเปลี่ยนแปลง หลังจากระบบนำการเปลี่ยนแปลงไปใช้แล้ว คุณจะต้องประมวลผลแหล่งข้อมูลอีกครั้ง กฎใหม่จะปรากฏในการอัปโหลดล่าสุดในข้อมูลผลิตภัณฑ์ และจะใช้กับการอัปโหลดทั้งหมดจนกว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงกฎอีกครั้ง

หากต้องการแก้ไขกฎที่มีอยู่ ให้คลิกช่องสีเทาที่มีกฎนั้นในคอลัมน์ "กฎ" แล้วใช้การเปลี่ยนแปลงกับกฎ จากนั้นคลิกใช้การเปลี่ยนแปลงเพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง อัปโหลดข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่อใช้การแก้ไขนั้น

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
3818370261382296523
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
71525
false
false