หากกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าการจัดส่งใน Merchant Center Next ให้คลิกที่นี่
กำหนดค่าจัดส่งตามวิธีการเรียกเก็บค่าจัดส่ง โดยค่าจัดส่งที่คุณส่งไปยัง Merchant Center จะต้องตรงกับค่าจัดส่งที่เรียกเก็บในเว็บไซต์ หากระบุค่าจัดส่งให้ตรงกันไม่ได้ ให้ประเมินตัวเลขที่ส่งไปยัง Merchant Center ให้สูงไว้ก่อน โปรดทราบว่าลูกค้าจะพิจารณาค่าใช้จ่ายเหล่านี้และความเร็วในการนำส่งเมื่อตัดสินใจว่าจะคลิกผลิตภัณฑ์หรือไม่
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของการตั้งค่าการจัดส่งและกรณีที่ควรใช้การตั้งค่านี้
สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า ท้ายวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา
ในบทความนี้
กรณีที่ควรใช้
ใช้การตั้งค่าการจัดส่งใน Merchant Center เพื่อกำหนดค่าบริการจัดส่งระดับบัญชีด้วยตนเอง หากต้องการกำหนดค่าจัดส่งและเวลาจัดส่งสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการ ให้ใช้แอตทริบิวต์การจัดส่ง [shipping]
แทน
- ราคาและเวลานำส่งที่กำหนดค่าโดยใช้แอตทริบิวต์การจัดส่ง
[shipping]
จะลบล้างการตั้งค่าระดับบัญชี (รวมถึงเวลานำส่งของบริการจัดส่งและมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ) สำหรับสถานที่ตั้งที่ตรงกันของผลิตภัณฑ์นั้น
วิธีการทำงาน
หากต้องการตั้งค่าการจัดส่งระดับบัญชี คุณจะต้องกำหนดค่าบริการจัดส่งใน Merchant Center หรือผ่าน Shipping Settings API โดยจะเลือกเชื่อมโยงบริการจัดส่งกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดหรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ก็ได้ ในกรณีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ คุณจะใช้แอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง [shipping_label]
เพื่อระบุค่าได้ นอกจากนี้ คุณยังกำหนดค่าการตั้งค่าต่างๆ เช่น ค่าจัดส่งและเวลานำส่ง สำหรับบริการจัดส่งแต่ละรายการได้ด้วย
ระบุบริการจัดส่งและอัตราค่าจัดส่งทั้งหมดที่มีสำหรับผลิตภัณฑ์แต่ละรายการใน Merchant Center แม้จะเลือกไม่แสดงผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในโฆษณาก็ตาม เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะเห็นตัวเลือกการจัดส่งที่เกี่ยวข้องที่สุดเมื่อชำระเงินและอาจช่วยเพิ่มอัตรา Conversion ได้ ข้อมูลที่ครอบคลุมนี้ช่วยให้เราสามารถนำเสนอตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้าแต่ละรายได้ ซึ่งอาจทำให้อัตรา Conversion ของคุณสูงขึ้น
หากมีบริการจัดส่งหลายแบบสำหรับผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ เราจะเลือกตัวเลือกการจัดส่งที่เกี่ยวข้องที่สุดโดยอัตโนมัติซึ่งพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น เวลานำส่ง ความชอบของลูกค้า และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระบบจะใช้และแสดงตัวเลือกที่เลือกนี้โดยอัตโนมัติตามความจำเป็น
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีบริการหนึ่งที่ระบุว่าจัดส่งฟรีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงกว่า 1,500 THB และมีอีกบริการหนึ่งซึ่งระบุอัตราที่คำนวณตามค่าบริการของผู้ให้บริการขนส่งสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ระบบจะแสดง "จัดส่งฟรี" สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มีราคาสูงกว่า 1,500 THB
วิธีการ
สร้างบริการจัดส่งใหม่
ขั้นตอนแรกในการตั้งค่าการจัดส่งคือการสร้างบริการจัดส่งใหม่ เมื่อสร้างบริการจัดส่ง คุณจะต้องอธิบายและกำหนดผลิตภัณฑ์ที่จะใช้บริการจัดส่งนั้นๆ รวมทั้งระบุความเร็วในการจัดส่งและค่าจัดส่ง
หมายเหตุ: คุณกำหนดค่าบริการจัดส่งได้สูงสุด 20 รายการต่อประเทศ หากบัญชีย่อยไม่มีการกำหนดค่าการจัดส่งของตัวเอง ระบบจะรับนโยบายการจัดส่งมาจากบัญชีหลัก
วิธีสร้างบริการจัดส่งใหม่มีดังนี้
- ในบัญชี Merchant Center ให้คลิกไอคอนเครื่องมือและการตั้งค่า
- เลือกการจัดส่งและการคืนสินค้าในส่วน "เครื่องมือ" แล้วระบบจะนำคุณไปยังแท็บ "บริการจัดส่ง"
- คลิกปุ่มบวก เพื่อสร้างบริการจัดส่ง
ขั้นตอนที่ 1: การตั้งค่าบริการ
- ตั้งชื่อบริการ ใช้ชื่อที่สื่อความหมายเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างบริการจัดส่งใหม่ของคุณกับบริการอื่นๆ โดยชื่อบริการแต่ละชื่อต้องไม่ซ้ำกันภายในพื้นที่ให้บริการและจะไม่มีการแชร์กับลูกค้า
- เลือกพื้นที่ให้บริการหรือโซนที่นำส่งผลิตภัณฑ์ได้ คุณจะเพิ่มข้อมูลต่างๆ เช่น ความเร็วในการนำส่งและค่าจัดส่ง ได้ในขั้นตอนถัดไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศต้นทางที่จัดส่งสินค้าหรือประเทศที่ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ พื้นที่ให้บริการควรมีอย่างน้อย 1 ประเทศ แต่จะระบุหลายประเทศสำหรับพื้นที่ให้บริการก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดส่งหลายประเทศ
- เลือกสกุลเงินที่ใช้ในพื้นที่ให้บริการและตรวจสอบว่าตรงกับสกุลเงินที่แสดงในฟีด หากสกุลเงินต่างกัน สินค้าอาจไม่ได้รับอนุมัติ
- ใน "สถานที่นำส่ง" ให้ระบุสถานที่ที่ลูกค้าสามารถรับสินค้าที่สั่งซื้อ ซึ่งได้แก่ ที่อยู่ของลูกค้าหรือนำส่งไปยังจุดรับสินค้า โปรดทราบว่าจุดรับสินค้ามีให้บริการในบางประเทศเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศที่มีสิทธิ์เป็นจุดรับสินค้า
ขั้นตอนที่ 2: เวลานำส่ง
- ตัดสินใจว่าคุณต้องการ (ก) แสดงเวลานำส่งที่กำหนดเองตามผู้ให้บริการขนส่งที่มีอยู่หรือพาร์ทเนอร์ที่คุณร่วมงานด้วย หรือ (ข) กำหนดช่วงเวลานำส่ง หากคุณเลือกที่จะแสดงเวลานำส่งที่กำหนดเอง Google จะประเมินเวลานำส่งในนามของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ Google คำนวณความเร็วในการจัดส่ง
- สำหรับ "เวลาปิดรับคำสั่งซื้อ" ให้เลือกเวลาของวันที่ตัดรอบคำสั่งซื้อเพื่อประมวลผลคำสั่งซื้อในวันเดียวกัน รวมถึงเลือกเขตเวลาที่ใช้คำนวณ เช่น เวลาปิดรับคำสั่งซื้อที่ 15:00 น. (EST) หมายความว่าคำสั่งซื้อหลังจากเวลาดังกล่าวจะไม่ประมวลผลจนกว่าจะถึงวันทำการถัดไป
- สำหรับ "วันทำการก่อนจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อ" ให้ป้อนจำนวนวันขั้นต่ำที่ต้องใช้ในการประมวลผลคำสั่งซื้อตามด้วยจำนวนวันสูงสุดที่ต้องใช้ในการประมวลผล
- หมายเหตุ: หากประมวลผลสินค้าในวันเดียวกันกับวันที่สั่งซื้อ วันทำการขั้นต่ำก่อนจัดส่งสำหรับคำสั่งซื้อจะเท่ากับ "0" หากต้องการเลือกว่าจะประมวลผลคำสั่งซื้อในวันใด ให้ใช้เมนูแบบเลื่อนลงและเลือกช่วงวัน (เช่น จันทร์ - ศุกร์, จันทร์ - เสาร์) เลือกวันที่กำหนดเองเพื่อสร้างช่วงวันที่กำหนดเองสำหรับการประมวลผล
- สำหรับ "เวลาขนส่ง" ให้เพิ่มช่วงวันทำการที่คาดว่าบริการนี้จะใช้ในการขนส่ง (เช่น 1-5 วันทำการ) แม้ว่าช่วงเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไปตามผลิตภัณฑ์หรือสถานที่ตั้งของลูกค้า แต่ข้อมูลนี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้ระยะเวลาขนส่งคร่าวๆ หากต้องการเลือกว่าบริการจัดส่งนี้จะพร้อมให้บริการในวันใด ให้ใช้เมนูแบบเลื่อนลงเพื่อเลือกช่วงวัน (เช่น จันทร์ - ศุกร์, จันทร์ - เสาร์) เลือกวันที่กำหนดเองเพื่อเลือกจำนวนวันที่ใช้ขนส่งสำหรับบริการจัดส่งนี้ด้วยตนเอง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้ Google คำนวณความเร็วในการจัดส่ง (ไม่บังคับ) ในแคนาดา นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย คุณจะกำหนดเวลาขนส่งตามปลายทางการนำส่ง (ภูมิภาค) ได้ คลิกเวลาขนส่งเพิ่มเติม เลือกหรือสร้างปลายทาง จากนั้นป้อนความเร็วในการขนส่งให้แก่ปลายทางนั้น ดูวิธีตั้งค่าภูมิภาค
- (ไม่บังคับ) คุณจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เวลาขนส่งเท่ากันได้โดยใช้แอตทริบิวต์ป้ายกำกับเวลาขนส่ง
[transit_time_label]
กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ วิธีนี้ช่วยให้ระบุเวลานำส่งที่แม่นยำมากขึ้นให้แก่ลูกค้าได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าป้ายกำกับเวลาขนส่ง
ขั้นตอนที่ 3: วันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุด (มีให้บริการในสหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส และเฉพาะวันหยุดของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น)
ตั้งค่าวันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุด หากต้องการให้มีการสั่งซื้อภายในวันที่ที่กำหนดเพื่อให้คำสั่งซื้อดังกล่าวได้รับการนำส่งภายในวันหยุดที่กำหนด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุด
ขั้นตอนที่ 4: ค่าจัดส่ง
กำหนดค่าจัดส่งโดยเลือกจากตัวเลือกต่างๆ ได้ เช่น จัดส่งฟรี อัตราคงที่ หรือจัดส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อมากกว่าจำนวนเงินที่กำหนด นอกจากนี้ คุณยังเปลี่ยนไปใช้การตั้งค่าขั้นสูงเพื่อดูตัวเลือกเพิ่มเติมได้อีกด้วย
การตั้งค่าต้นทุนพื้นฐาน
จัดส่งฟรีเมื่อสั่งซื้อมากกว่าจำนวนเงินที่กำหนดใช้ตัวเลือกนี้เพื่อมอบสิทธิ์จัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่ามากกว่าจำนวนเงินที่กำหนด หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้
- ป้อนมูลค่าการสั่งซื้อในส่วน "สำหรับคำสั่งซื้อที่ราคาต่ำกว่า"
- ป้อนค่าจัดส่งสำหรับมูลค่าการสั่งซื้อนี้ในส่วน "เราจะเรียกเก็บเงินเป็นจำนวน"
เลือกตัวเลือกนี้เพื่อมอบสิทธิ์จัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อทุกรายการ
ใช้การตั้งค่านี้เพื่อระบุค่าจัดส่งสำหรับช่วงมูลค่าการสั่งซื้อที่ระบุ เช่น กำหนดค่าจัดส่ง $5 USD ให้กับคำสั่งซื้อทุกรายการที่ราคาต่ำกว่า $60 USD และกำหนดค่าจัดส่ง $10 USD ให้กับคำสั่งซื้อที่ราคาเกิน $60 USD
- ป้อนจำนวนเงินในส่วน "สำหรับคำสั่งซื้อที่ราคาต่ำกว่า"
- ป้อนค่าจัดส่งในส่วน "เราจะเรียกเก็บเงินเป็นจำนวน"
- ป้อนค่าจัดส่งในส่วน "สำหรับคำสั่งซื้อที่ราคาเกิน - เราจะเรียกเก็บเงินเป็นจำนวน"
- คลิกปุ่มบวก เพิ่มช่วงอื่นเพื่อระบุค่าจัดส่งสำหรับช่วงราคาอื่น
ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งในอัตราคงที่สำหรับคำสั่งซื้อทุกรายการ หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ป้อนจำนวนเงินใน "คำสั่งซื้อทั้งหมดจัดส่งในราคา"
ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งตามอัตราที่คำนวณตามค่าบริการของผู้ให้บริการขนส่ง ลูกค้าจะได้รับอัตราค่าจัดส่งตามขนาด น้ำหนักของกล่องจัดส่ง สถานที่ตั้งของลูกค้า และรหัสไปรษณีย์ต้นทาง เพราะฉะนั้นจึงควรตรวจสอบว่าได้ส่งน้ำหนักของกล่องจัดส่ง [shipping_weight]
และขนาด (ความยาวของกล่องจัดส่ง [shipping_length]
, ความกว้างของกล่องจัดส่ง [shipping_width]
, ความสูงของกล่องจัดส่ง [shipping_height]
) ในข้อมูลผลิตภัณฑ์แล้ว
โปรดทราบว่าอัตราของผู้ให้บริการขนส่งจะอิงตามอัตรามาตรฐานเชิงพาณิชย์ ดังนั้นหากคุณคิดค่าบริการต่ำกว่านั้น (เช่น เนื่องจากคุณทำสัญญาไว้กับผู้ให้บริการขนส่งรายนั้น) ให้เพิ่มจำนวนหรือเปอร์เซ็นต์ที่เป็นค่าลบ (เช่น -10%) ในกรณีที่ใช้อัตราที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ (มักเรียกว่า "ธุรกิจค้าปลีก") คุณอาจต้องปรับราคาขึ้น 50-60%
เมื่อเลือกคิดค่าบริการตามอัตราของผู้ให้บริการขนส่ง โปรดตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จัดส่งโดยผู้ให้บริการขนส่งและใช้บริการจัดส่งนั้นได้จริง (เช่น ผลิตภัณฑ์ไม่มีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด) มิฉะนั้นอัตราที่ลูกค้าเห็นจะไม่ถูกต้องและผลิตภัณฑ์อาจไม่ได้รับอนุมัติ โปรดตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักกับผู้ให้บริการขนส่ง
หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้
- สำหรับ "บริการของผู้ให้บริการขนส่ง" ให้เลือกผู้ให้บริการขนส่งรายใดรายหนึ่งที่รองรับพร้อมกับบริการ (เช่น UPS Ground) ผู้ให้บริการขนส่งจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ให้บริการ
- ป้อน "รหัสไปรษณีย์ต้นทาง" ที่จะจัดส่งสินค้า (เช่น "94043")
- ในกรณีที่จำเป็น โปรดปรับคำสั่งซื้อเป็นเปอร์เซ็นต์หรือค่าคงที่ในรูปแบบดังนี้ (เช่น "$10" หรือ "-5%")
การตั้งค่าขั้นสูง
เปลี่ยนไปใช้การตั้งค่าขั้นสูงหากต้องการตัวเลือกเพิ่มเติม
มูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำหากต้องการระบุมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำสำหรับบริการจัดส่งหนึ่งๆ (เช่น หากกำหนดให้ลูกค้าต้องสั่งซื้อครบ 300 THB จึงจะใช้บริการจัดส่งนั้นได้) ให้ป้อนจำนวนเงินนั้น ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำจะยังแสดงอยู่พร้อมมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ หากไม่มีมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ ให้เว้นช่องนี้ว่างไว้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ
สร้างตารางอัตราค่าจัดส่งเพื่อกำหนดให้คำสั่งซื้อทั้งหมดมีอัตราค่าจัดส่งเพียงอัตราเดียวหรือสร้างกฎตามมิติข้อมูล 1-2 รายการ นอกจากนี้ คุณยังกำหนดแอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง [shipping_label]
ให้แก่อัตราค่าจัดส่งตามประเภทของผลิตภัณฑ์ที่จัดส่ง (เกินขนาด เน่าเสียง่าย หรือแตกง่าย) ได้ด้วย จากนั้นกำหนดค่าจัดส่งที่แตกต่างกันสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
- ในหน้า "ค่าจัดส่ง" ให้คลิกเปลี่ยนเป็นการตั้งค่าขั้นสูง
- คลิกปุ่มบวก เพื่อเพิ่มตารางอัตราค่าจัดส่งใหม่
- ในส่วน "ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ" ให้เลือกว่าต้องการใช้อัตราค่าจัดส่งนี้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดหรือเฉพาะผลิตภัณฑ์บางรายการเท่านั้น
- เลือกผลิตภัณฑ์ทั้งหมด หากต้องการใช้อัตราค่าจัดส่งกับผลิตภัณฑ์ทุกรายการ หมายเหตุ: หากสร้างตารางอัตราค่าจัดส่งที่ใช้ป้ายกำกับการจัดส่งแล้ว คุณอาจเห็นตัวเลือก "ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมด" แทน "ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด" เนื่องจากมีการกรองผลิตภัณฑ์บางรายการแล้ว
- หรือหากต้องการใช้อัตราค่าจัดส่งกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงเท่านั้น ให้ทำดังนี้
- เลือกกรองผลิตภัณฑ์ตามป้ายกำกับการจัดส่ง
- ในช่องป้อนข้อมูล ให้พิมพ์ค่าที่คุณส่งสำหรับแอตทริบิวต์ป้ายกำกับการจัดส่ง
[shipping_label]
แล้วคลิก Enter นอกจากนี้คุณอาจเพิ่มป้ายกำกับที่ยังไม่มีในฟีดได้ด้วย
- ในส่วน "ชื่ออัตราค่าจัดส่ง" ให้ตั้งชื่อที่ไม่ซ้ำให้ตาราง
- สร้างตาราง ใช้ตารางเพื่อกำหนดให้คำสั่งซื้อทั้งหมดมีอัตราค่าจัดส่งเพียงอัตราเดียวหรือสร้างกฎตามมิติข้อมูล 1-2 รายการ ได้แก่ ราคา ปลายทาง (แคนาคา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย) น้ำหนัก หรือจำนวนสินค้า เช่น หากจะส่งผลิตภัณฑ์ไปยังออสเตรเลีย คุณอาจกำหนดค่าจัดส่งตามรัฐและตามน้ำหนัก ซึ่งหมายความว่าคุณจะคิดอัตราค่าจัดส่งผลิตภัณฑ์น้ำหนัก 10 กก. ไปยังรัฐแทสเมเนียคนละอัตรากับการจัดส่งผลิตภัณฑ์เดียวกันนี้ไปยังรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม หากส่วนใหญ่จัดส่งไปยังประเทศอื่นๆ คุณจะระบุอัตราค่าจัดส่งตามสถานที่ตั้งไม่ได้
- ขั้นแรกให้คลิกมิติข้อมูล เช่น น้ำหนักของคำสั่งซื้อ > น้ำหนักในหน่วยกิโลกรัม คุณจะเห็นแถวที่ป้อนค่าแบบเป็นช่วงได้
- ป้อนค่าแบบช่วง เช่น 0.0001 กก. ถึง 2 กก.
- เลือกตัวเลือกการจัดส่งในแต่ละแถว เช่น "อัตราคงที่" ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกการจัดส่ง
- ป้อนราคา เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ ตามตัวเลือกการจัดส่ง
- หากต้องการเพิ่มช่วง ให้คลิก + แถว
- หากต้องการเพิ่มมิติข้อมูลที่ 2 ให้คลิกเพิ่มมิติข้อมูล แล้วเลือกตัวเลือก เช่น "ราคาของคำสั่งซื้อ"
- จากนั้นกำหนดค่าสำหรับคอลัมน์ใหม่แต่ละคอลัมน์ โดยเลือกตัวเลือกการจัดส่ง เช่นเดียวกับขั้นตอนที่ทำก่อนหน้านี้
- หากต้องการเพิ่มช่วง ให้คลิก + คอลัมน์
- คลิกต่อไปเพื่อกลับไปยังระดับบริการ จากนั้นเพิ่มอัตราค่าจัดส่งใหม่หรือบันทึกบริการจัดส่ง
ตัวเลือกการจัดส่งสำหรับตารางอัตราค่าจัดส่ง
คุณตั้งค่าตารางอัตราค่าจัดส่งโดยเลือกจากตัวเลือกหลายรายการได้
อัตราคงที่
ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งในอัตราคงที่ รวมถึงการจัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อทั้งหมดที่อยู่ในช่วงที่กำหนด ลูกค้าจะเห็นราคาเดียวกันสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่อยู่ในช่วงนี้
หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้
- เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือกอัตราคงที่
- จากนั้นป้อนจำนวนเงิน หากจัดส่งฟรี ให้ป้อน "0"
เปอร์เซ็นต์ยอดรวมคำสั่งซื้อ
ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งตามเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้า ลูกค้าจะเห็นค่าจัดส่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการสั่งซื้อทั้งหมด สำหรับโฆษณา Shopping และข้อมูลที่แสดงฟรี เราจะใช้ราคาผลิตภัณฑ์เป็นมูลค่าการสั่งซื้อ
หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้
- เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือกเปอร์เซ็นต์ยอดรวมคำสั่งซื้อ
- ป้อนเปอร์เซ็นต์
อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง (เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียเท่านั้น)
ใช้ตัวเลือกนี้หากเรียกเก็บค่าจัดส่งตามอัตราที่คำนวณตามค่าบริการของผู้ให้บริการขนส่ง ลูกค้าจะได้รับอัตราค่าจัดส่งตามขนาด น้ำหนักของกล่องจัดส่ง สถานที่ตั้งของลูกค้า และรหัสไปรษณีย์ต้นทาง เพราะฉะนั้นจึงควรตรวจสอบว่าได้ส่งน้ำหนักของกล่องจัดส่ง [shipping_weight]
และขนาด (ความยาวของกล่องจัดส่ง [shipping_length]
, ความกว้างของกล่องจัดส่ง [shipping_width]
, ความสูงของกล่องจัดส่ง [shipping_height]
) ในข้อมูลผลิตภัณฑ์แล้ว
โปรดทราบว่าอัตราค่าจัดส่งของผู้ให้บริการขนส่งจะอิงตามอัตรามาตรฐานเชิงพาณิชย์ ดังนั้นหากคุณคิดค่าบริการต่ำกว่านั้น (เช่น เนื่องจากทำสัญญาไว้กับผู้ให้บริการขนส่งรายนั้น) ให้เพิ่มจำนวนหรือเปอร์เซ็นต์ที่เป็นค่าลบ (เช่น -10) ในกรณีที่ใช้อัตราที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ (มักเรียกว่า "ธุรกิจค้าปลีก") คุณอาจต้องปรับราคาขึ้น 50–60%
เมื่อเลือกคิดค่าบริการตามอัตราของผู้ให้บริการขนส่ง โปรดตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จัดส่งโดยผู้ให้บริการขนส่งและใช้บริการจัดส่งนั้นได้จริง (เช่น ผลิตภัณฑ์ไม่มีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด) มิฉะนั้นอัตราที่ลูกค้าเห็นจะไม่ถูกต้องและผลิตภัณฑ์อาจไม่ได้รับอนุมัติ โปรดตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักกับผู้ให้บริการขนส่ง
หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้
- เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือกอัตราของผู้ให้บริการขนส่ง
- จากนั้นเลือกตารางอัตราของผู้ให้บริการขนส่งที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้หรือเลือกอัตราของผู้ให้บริการขนส่งใหม่ หากสร้างตารางอัตราใหม่ คุณจะเห็นกล่องโต้ตอบการสร้าง
- สำหรับ "บริการของผู้ให้บริการขนส่ง" ให้เลือกผู้ให้บริการขนส่งรายใดรายหนึ่งที่รองรับพร้อมกับบริการ (เช่น UPS Ground) ผู้ให้บริการขนส่งจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ให้บริการ
- ป้อน "รหัสไปรษณีย์ต้นทาง" ที่จะจัดส่งสินค้า (เช่น "94043")
- ในกรณีที่จำเป็น โปรดปรับคำสั่งซื้อเป็นเปอร์เซ็นต์หรือค่าคงที่ในรูปแบบดังนี้ ได้แก่ ปรับขึ้น (โดยใช้จำนวนที่เป็นบวก เช่น "10") หรือปรับลง (โดยใช้จำนวนที่เป็นลบ เช่น "-10")
- ชื่ออัตราของผู้ให้บริการขนส่งจะอิงตามบริการของผู้ให้บริการขนส่ง แต่หากจำเป็น คุณจะระบุชื่อที่กำหนดเองได้ (เช่น "UPS แบบธรรมดา - Mountain View")
- อัตราของผู้ให้บริการขนส่งใหม่จะพร้อมให้เลือกและแสดงอยู่ในตาราง "อัตราของผู้ให้บริการขนส่ง" ที่ด้านล่างของหน้า
หากคิดค่าบริการตามมิติข้อมูลตั้งแต่ 3 รายการขึ้นไป คุณจะเพิ่มตารางย่อยสำหรับแต่ละเซลล์ได้ โดยต้องเลือกจากตัวเลือกที่แตกต่างกันตามบริการ
เช่น ในกรณีที่จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปออสเตรเลียและคิดค่าจัดส่งแตกต่างกันไปตามราคาของผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนัก 1-5 กก. ซึ่งจัดส่งไปยังรัฐควีนส์แลนด์ ให้เพิ่มอัตราเหล่านั้นพร้อมตารางย่อย
หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ ให้ทำดังนี้
- เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือก "ตารางย่อย"
- เลือกตารางที่คุณสร้างไว้หรือเลือกตารางย่อยใหม่ เมื่อสร้างตารางใหม่ คุณจะเห็นตารางนั้นแสดงที่ด้านล่างใน "ตารางย่อยที่ลิงก์"
- ตั้ง "ชื่อตาราง" ใหม่ที่ไม่ซ้ำกันเพื่อให้คุณแยกตารางแต่ละรายการได้
- คลิกมิติข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่งที่พร้อมใช้งาน จากนั้นเพิ่มตัวเลือกการจัดส่งและช่วงต่างๆ แบบเดียวกับที่ทำเมื่อกำหนดค่าจัดส่ง
- คลิกต่อไปเพื่อกลับไปยังระดับบริการ จากนั้นเพิ่มอัตราค่าจัดส่งใหม่หรือบันทึกบริการจัดส่ง
แม้ว่าตัวกรอง "ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ" จะทำให้คุณยกเว้นการกำหนดค่าการจัดส่งสำหรับผลิตภัณฑ์บางรายการได้อย่างสมบูรณ์ แต่คุณอาจต้องการระบุให้เจาะจงมากขึ้น ตัวเลือก "ไม่มีการจัดส่ง" จะช่วยให้ผู้ซื้อทราบว่าผลิตภัณฑ์บางรายการจัดส่งไม่ได้ในสถานการณ์บางอย่างหรือจัดส่งไปสถานที่บางแห่งไม่ได้
หากต้องการใช้ตัวเลือกดังกล่าว โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เมื่อเลือกตัวเลือกการจัดส่ง ให้เลือกไม่มีการจัดส่ง
ยกเว้นผลิตภัณฑ์ตามน้ำหนักหรือมูลค่าการสั่งซื้อ
คุณอาจเพิ่มตัวเลือก "ไม่มีการจัดส่ง" เพื่อยกเว้นการจัดส่งตามน้ำหนักหรือมูลค่าการสั่งซื้อได้ เช่น หากมีการจำกัดน้ำหนักของผลิตภัณฑ์สำหรับบริการจัดส่งด่วน คุณอาจใช้มิติข้อมูลด้านน้ำหนักในการตั้งค่าคำสั่งซื้อทั้งหมดที่มีน้ำหนักเกินกำหนดให้เป็น "ไม่มีการจัดส่ง" หากคุณกำหนดมูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำสำหรับบริการจัดส่ง โปรดเพิ่มลงในรายละเอียดของบริการ
หากมีการยกเว้นผลิตภัณฑ์จากบริการจัดส่งนี้เนื่องจากน้ำหนักหรือมูลค่าการสั่งซื้อ สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังนี้
- หากผลิตภัณฑ์ไม่ได้เชื่อมโยงกับบริการจัดส่งอื่นๆ ผลิตภัณฑ์จะไม่ได้รับอนุมัติ เช่น หากผลิตภัณฑ์หนัก 100 ปอนด์ และคุณได้กำหนดไว้ว่า "ไม่มีการจัดส่ง" สำหรับคำสั่งซื้อที่หนักเกิน 70 ปอนด์
- หากผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงกับบริการจัดส่งอื่นที่คุณสร้างไว้ ลูกค้าจะเห็นค่าจัดส่งที่ถูกที่สุดที่มีให้บริการ เช่น ในกรณีที่ยกเว้นผลิตภัณฑ์จากบริการขนส่งด่วนแล้ว แต่บริการขนส่งทางบกยังครอบคลุมผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่
วิธียกเว้นผลิตภัณฑ์ตามน้ำหนักของคำสั่งซื้อมีดังนี้
- เมื่อกำหนดค่าจัดส่ง ให้คลิกมิติข้อมูลด้านน้ำหนัก เช่น น้ำหนักของคำสั่งซื้อ > น้ำหนักในหน่วยกิโลกรัม
- ป้อนค่าแบบเป็นช่วง เช่น 0.0001-10 กก.
- จากนั้นเลือกไม่มีการจัดส่งเป็นตัวเลือกการจัดส่ง
- หากต้องการเพิ่มน้ำหนัก ให้คลิก + แถว
ยกเว้นผลิตภัณฑ์ตามปลายทาง (แคนาคา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย)
หากต้องการยกเว้นภูมิภาค โปรดตั้งค่าตารางการจัดส่งโดยใช้ "ปลายทาง" เป็นมิติข้อมูลที่ต้องการ
คุณยังเลือกตัวเลือก "ไม่มีการจัดส่ง" เพื่อระบุว่าไม่มีบริการจัดส่งไปยังทั้งภูมิภาคที่เฉพาะเจาะจงและมิติข้อมูลอื่น เช่น ในกรณีที่คุณไม่มีบริการจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักมากไปยังฮาวาย
หากบริการจัดส่งเป็นแหล่งที่มาเพียงอย่างเดียวของความเร็วในการจัดส่งรวมถึงค่าจัดส่ง และคุณยกเว้นผลิตภัณฑ์ในบางพื้นที่ ลูกค้าในภูมิภาคนั้นจะไม่เห็นความเร็วในการจัดส่งและค่าจัดส่ง
วิธียกเว้นผลิตภัณฑ์ตามปลายทางมีดังนี้
- เมื่อตั้งค่าตารางอัตราค่าจัดส่ง ให้คลิกปลายทาง
- เลือกภูมิภาคที่คุณจัดส่งหรือสร้างภูมิภาคใหม่
- หากต้องการเพิ่มภูมิภาค ให้คลิก + แถว
วิธียกเว้นผลิตภัณฑ์ตามปลายทางและมิติข้อมูลมีดังนี้
- เมื่อตั้งค่าตารางอัตราค่าจัดส่ง ให้คลิกปลายทาง
- คลิกเพิ่มมิติข้อมูลเพื่อเพิ่มราคาคำสั่งซื้อ น้ำหนัก หรือจำนวนสินค้าลงในตาราง
- เลือกไม่มีการจัดส่งเป็นตัวเลือกการจัดส่งตามต้องการ
ตัวเลือกอื่นๆ สำหรับการจัดส่ง
ภูมิภาค
กำหนดอัตราค่าจัดส่งและความเร็วในการจัดส่งที่แตกต่างกันสำหรับพื้นที่หนึ่งๆ ภายในประเทศตามรหัสไปรษณีย์หรือภูมิภาคบริหาร ดังนี้
ประเทศ | เวลานำส่ง | ค่าจัดส่ง |
---|---|---|
ออสเตรเลีย | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์และรัฐ |
บราซิล | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์และรัฐ |
แคนาดา | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์ |
ฝรั่งเศส | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์และภูมิภาค |
เยอรมนี | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์และรัฐ |
อินเดีย | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์ รัฐ และเขตแดน |
ญี่ปุ่น | จังหวัด | |
นิวซีแลนด์ | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์และภูมิภาค |
สหราชอาณาจักร | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์ |
สหรัฐอเมริกา | รหัสไปรษณีย์ | รหัสไปรษณีย์และรัฐ |
ภูมิภาคที่กำหนดเอง
คุณสร้างภูมิภาคที่กำหนดเองได้ แล้วใช้ภูมิภาคเหล่านี้สำหรับตั้งค่าการจัดส่ง ขณะนี้ตัวเลือกการจัดส่งนี้พร้อมให้ใช้งานในแคนาดา นิวซีแลนด์ บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และอินเดีย ดูวิธีตั้งค่าภูมิภาค
กำหนดเวลาขนส่งสำหรับภูมิภาคต่างๆ
- ใต้ตาราง "เวลานำส่ง" ของบริการจัดส่ง ให้คลิกเวลาขนส่งเพิ่มเติม
- คลิกเพิ่มปลายทาง
- เลือกภูมิภาคและกำหนดเวลาขนส่งขั้นต่ำและสูงสุด
- หากยังไม่ได้สร้างภูมิภาค คุณสร้างได้จากตารางอัตราค่าจัดส่ง
กำหนดค่าจัดส่งสำหรับภูมิภาคต่างๆ
- ใต้ตาราง "อัตราค่าจัดส่ง" ให้คลิกเพิ่มมิติข้อมูล
- เลือกปลายทางตามรหัสไปรษณีย์
- เลือกภูมิภาคและกำหนดค่าจัดส่งสำหรับพื้นที่นั้น
- หากยังไม่ได้สร้างภูมิภาค คุณก็สร้างได้จากตาราง "อัตราค่าจัดส่ง"
บริการจัดส่งอาจครอบคลุมได้หลายประเทศ สำหรับการจัดส่งหลายประเทศ ค่าจัดส่งจะเป็นสกุลเงินเดียวกันสำหรับทุกประเทศที่เพิ่มลงในบริการ หากคุณเลือกปลายทางที่มีสกุลเงินต่างจากสกุลเงินที่ระบุในบริการจัดส่ง ระบบจะแปลงสกุลเงินของค่าจัดส่งเป็นสกุลเงินปลายทางโดยอัตโนมัติ
การจัดส่งหลายประเทศไม่รองรับฟีเจอร์ต่อไปนี้
- เวลาขนส่งขั้นสูง
- อัตราค่าจัดส่งตามปลายทาง
- วันปิดรับคำสั่งซื้อเพื่อจัดส่งให้ทันวันหยุด
- การนำส่งไปยังจุดรับสินค้า
หากคุณแปลงบริการจัดส่งที่มีฟีเจอร์เหล่านี้ไปเป็นการตั้งค่าหลายประเทศ ระบบจะนำฟีเจอร์เหล่านี้ออก ดูวิธีแสดงผลิตภัณฑ์ในประเทศเป้าหมายหลายประเทศ
ตรวจสอบค่าจัดส่ง
เมื่อป้อนข้อมูลการจัดส่งแล้ว คุณจะตรวจสอบค่าจัดส่ง (และอัตราภาษี) ที่จะแสดงในโฆษณาและข้อมูลที่แสดงฟรีได้ โดยคุณจะเห็นค่าจัดส่งพร้อมแหล่งที่มาของข้อมูลค่าจัดส่งนั้น (เช่น การตั้งค่าใน Merchant Center หรือแอตทริบิวต์การจัดส่ง [shipping]
ในข้อมูลผลิตภัณฑ์)
คุณดูข้อมูลนี้ได้โดยทำดังนี้
- คลิกผลิตภัณฑ์ในเมนูการนำทาง จากนั้นคลิกผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
- คลิกที่ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อดูรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้น
- เลื่อนลงเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับการจัดส่ง (และภาษี)
คุณต้องป้อนปลายทางการจัดส่งเพื่อคำนวณค่าบริการสำหรับประเทศที่ระบุอัตราค่าจัดส่งตามปลายทางการจัดส่งได้ (เช่น แคนาดา ญี่ปุ่นสหรัฐอเมริกา หรือออสเตรเลีย) สำหรับประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ คุณจะเห็นอัตราที่ใช้กับทั้งประเทศ
หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
โปรดดูบทความช่วยเหลือที่มีขั้นตอนที่แนะนำนี้: ฉันต้องการความช่วยเหลือในการแก้ไขข้อมูลการจัดส่งใน Merchant Center