การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติจะช่วยให้ข้อมูลถูกต้องยิ่งขึ้นและเป็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอด้วยการใช้ข้อมูลหน้า Landing Page และข้อมูลผลิตภัณฑ์โดยอัตโนมัติเพื่อตรวจหาความคลาดเคลื่อนและอัปเดตข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทั้งยังช่วยให้ Google อัปเดตผลิตภัณฑ์ในโฆษณา Shopping, ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรี และโฆษณาสินค้าคงคลังในร้านได้เมื่อใช้หน้าร้านในพื้นที่ที่ผู้ขายโฮสต์ (แบบพื้นฐาน)
เช่น หากฟีดข้อมูลล่าสุดมีผลิตภัณฑ์ที่มีราคา ฿40 THB แต่หน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ระบุราคาไว้ที่ ฿30 THB เราจะอัปเดตผลิตภัณฑ์นี้เป็น ฿30 THB โดยอัตโนมัติ
การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติใช้ได้กับทั้งแอตทริบิวต์ราคา [price]
, ความพร้อมจำหน่ายสินค้า [availability]
และสภาพสินค้า [condition]
ในโฆษณา Shopping และข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่แสดงฟรี แต่จะใช้ได้กับแอตทริบิวต์ราคา [price]
สำหรับโฆษณาสินค้าคงคลังในร้านเท่านั้นเมื่อใช้หน้าร้านในพื้นที่ที่ผู้ขายโฮสต์ (แบบพื้นฐาน)
ประโยชน์
การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น มีการเข้าชมผลิตภัณฑ์มากขึ้น และมีอัตรา Conversion สูงขึ้น เนื่องจากลูกค้าได้เห็นราคา ความพร้อมจำหน่ายสินค้า และสภาพที่ถูกต้องของผลิตภัณฑ์ในโฆษณาหรือข้อมูลที่แสดงฟรี การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติจะใช้ข้อมูลข้อเสนอที่พบในหน้า Landing Page หรือที่อื่นๆ ในข้อมูลผลิตภัณฑ์โดยตรง และจะแก้ไขข้อมูลที่พบว่าไม่ตรงกันได้ในทันที ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่บัญชีจะถูกจำกัดการใช้งานเนื่องจากข้อมูลราคา ความพร้อมจำหน่าย และสภาพสินค้าไม่ตรงกัน หากมีข้อมูลที่ไม่ตรงกันมากเกินไป การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติจะหยุดทำงานและบัญชีมีความเสี่ยงที่จะเกิดการไม่อนุมัติสินค้าชั่วคราว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการไม่อนุมัติสินค้าชั่วคราว
การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติในบัญชีของคุณจะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น หากเลือกปิดการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์ที่มีราคา ความพร้อมจำหน่าย หรือสภาพสินค้าไม่ตรงกันจะไม่ได้รับอนุมัติและจะไม่มีการอัปเดตใดๆ จัดการการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติในบัญชี
การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติไม่ได้เป็นการแทนที่ฟีดหรือการอัปเดตข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ทำเป็นประจำ แต่ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาชั่วคราวเกี่ยวกับความถูกต้องของราคา ความพร้อมจำหน่าย หรือสภาพสินค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น คุณจึงควรระบุข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องอยู่เสมอเนื่องจากเราไม่อาจอัปเดตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดโดยอัตโนมัติได้
ราคาและความพร้อมจำหน่ายสินค้า
สำหรับราคาและความพร้อมจำหน่ายสินค้า การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติจะใช้เครื่องมือแยกข้อมูลขั้นสูงเพื่อค้นหาข้อมูลราคาและความพร้อมจำหน่ายสินค้าในหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ โดยใช้แบบจำลองทางสถิติและแมชชีนเลิร์นนิงในการตรวจหาและแยกข้อมูลผลิตภัณฑ์จากเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำงานแยกต่างหากจากมาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้าง แม้ว่าเครื่องมือแยกข้อมูลเหล่านี้จะทำงานเป็นส่วนเพิ่มเติมจากมาร์กอัปข้อมูลที่มีโครงสร้างของ schema.org แต่เราขอแนะนำให้ผู้ค้าปลีกใช้มาร์กอัปของ schema.org ตามเดิม
การเริ่มต้นใช้งานการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติสำหรับราคาและความพร้อมจำหน่ายสินค้า
1. ใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างที่ถูกต้องบนหน้า Landing Page
ขั้นตอนแรกในการเริ่มต้นใช้งานการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติคือตรวจสอบว่าคุณมี Structured Data ที่ถูกต้องในหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์แล้ว หากหน้า Landing Page ไม่มี Structured Data หรือมาร์กอัป Structured Data ไม่สมบูรณ์หรือใช้งานไม่ได้ เราจะใช้เครื่องมือแยกข้อมูลขั้นสูงในการอัปเดตผลิตภัณฑ์โดยอัตโนมัติ หากปิดการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ หรือเครื่องมือแยกข้อมูลระบุข้อมูลราคาหรือความพร้อมจำหน่ายสินค้าไม่ได้ ผลิตภัณฑ์จะไม่ได้รับอนุมัติในระดับสินค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้งานข้อมูลที่มีโครงสร้าง
2. ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอัปเดตแล้ว
หากเปิดใช้การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ คุณจะดูสถานะปัจจุบันของการอัปเดตเหล่านี้ได้ในส่วน "การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ" ของบัญชี ซึ่งอยู่ในเมนูเครื่องมือและการตั้งค่า นอกจากนี้ คุณยังตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งได้รับการอัปเดตอัตโนมัติได้ในรายงานที่ดาวน์โหลดได้ซึ่งอยู่ในหน้าการวินิจฉัย
สภาพสินค้า
การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติจะตรวจสอบค่าที่คุณระบุสำหรับแอตทริบิวต์สภาพสินค้าเทียบกับข้อมูลในแอตทริบิวต์อื่นๆ ของผลิตภัณฑ์นั้น และอัปเดตแอตทริบิวต์สภาพสินค้า [condition]
หากมีความคลาดเคลื่อน ตรวจสอบว่าข้อมูลในฟีดผลิตภัณฑ์ของคุณสอดคล้องกับสภาพจริงของผลิตภัณฑ์
การเริ่มต้นใช้งานการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติสำหรับสภาพสินค้า
1. ระบุข้อมูลเกี่ยวกับสภาพของผลิตภัณฑ์ในข้อมูลผลิตภัณฑ์
การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติสำหรับสภาพสินค้าจะตรวจสอบค่าที่คุณระบุสำหรับแอตทริบิวต์สภาพสินค้า [condition]
เทียบกับค่าอื่นๆ ในข้อมูลผลิตภัณฑ์ของคุณ การใช้คำต่างๆ เช่น "ใหม่" "มือสอง" หรือ "ซ่อมแซมใหม่" ในชื่อหรือรายละเอียดผลิตภัณฑ์จะช่วยให้เราตรวจสอบความสอดคล้องกันได้ หากปิดการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์จะไม่ได้รับอนุมัติในระดับสินค้า
2. ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอัปเดตแล้ว
หากเปิดใช้การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ คุณจะดูสถานะปัจจุบันของการอัปเดตเหล่านี้ได้ในส่วน "การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ" ของบัญชี ซึ่งอยู่ในเมนูเครื่องมือและการตั้งค่า นอกจากนี้ คุณยังตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งได้รับการอัปเดตอัตโนมัติได้ในรายงานที่ดาวน์โหลดได้ซึ่งอยู่ในหน้าการวินิจฉัย
ข้อจำกัดของการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ
การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติออกแบบมาเพื่อลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเวลาในการตอบสนองหรือความแตกต่างเล็กน้อยในข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ Merchant Center หรือระหว่างข้อมูลผลิตภัณฑ์กับหน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติไม่ใช่โซลูชันการแก้ปัญหาบัญชีแบบเป็นระบบที่รองรับการปรับขนาดเนื่องจากออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาของสินค้าคงคลังจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น การใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อพยายามแก้ปัญหาในวงกว้างอาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้รับอนุมัติหรือมีการบังคับใช้นโยบายในระดับบัญชี
เราอัปเดตผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้ทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับความถี่ของการอัปเดตราคาและความพร้อมจำหน่ายสินค้าในเว็บไซต์ของคุณ โดยทั่วไปแล้ว การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติจะไม่มีประสิทธิภาพมากนัก หากราคาหรือความพร้อมจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในเว็บไซต์มีการอัปเดตหลายครั้งต่อวัน ซึ่งรวมถึงการอัปเดตราคาเป็นประจำตามอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ในกรณีเหล่านี้ เราขอแนะนำให้ใช้ Content API เพื่ออัปเดตข้อมูลผลิตภัณฑ์
การจัดการการตั้งค่าการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ
การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติจะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น โดยคุณจะจัดการการตั้งค่าการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติในระดับบัญชีได้ทุกเมื่อ
หากต้องการจัดการการตั้งค่าสำหรับการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิกไอคอนเครื่องมือ ในบัญชี Merchant Center
- เลือกการปรับปรุงอัตโนมัติในส่วน "การตั้งค่า"
- ในหน้าถัดไป คุณจะเปิดใช้การอัปเดตสินค้าอัตโนมัติสำหรับราคา ความพร้อมจำหน่าย สภาพสินค้า หรือทั้ง 3 อย่างได้ นอกจากนี้ คุณยังปิดการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติได้ในหน้านี้อีกด้วย
แนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการอัปเดตสินค้าอัตโนมัติ
หากต้องการปรับปรุงคุณภาพของข้อมูลและมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้แก่ผู้ใช้ โปรดลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ตั้งเวลาอัปโหลดหรืออัปเดตฟีดผ่าน Content API ทันทีหลังจากที่มีการอัปเดตผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ของคุณแล้ว ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดจากความแตกต่างของเวลาระหว่างการอัปเดตบนเว็บไซต์กับการอัปเดตข้อมูล Shopping
- หากคุณใช้แอตทริบิวต์ราคาลด
[sale_price]
โปรดตรวจสอบว่าระยะเวลาที่ลดราคามีการระบุด้วยแอตทริบิวต์วันที่ลดราคา[sale_price_effective_date]
อย่างถูกต้อง และเขตเวลาถูกต้อง เมื่อมีการลดราคา ระบบจะแสดงราคาลดเป็นราคาปัจจุบันในผลการค้นหาของ Shopping - สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในปริมาณมาก คุณควรส่งราคารวมสำหรับจำนวนผลิตภัณฑ์ขั้นต่ำที่ขาย หน้า Landing Page ต้องระบุราคาในสกุลเงินที่เหมาะสมสำหรับประเทศเป้าหมาย และในสกุลเงินเดียวกันกับที่ส่งในข้อมูลผลิตภัณฑ์
- Google จะทำการ Crawl หน้า Landing Page ที่แสดงอยู่ในฟีดข้อมูลหรือระบุไว้ใน Content API เพื่อตรวจหาและอัปเดตข้อมูลที่ไม่ตรงกันของราคาและความพร้อมจำหน่ายสินค้า โดยคุณสามารถเพิ่มอัตราการ Crawl ของ Google เพื่อให้เราตรวจสอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในเว็บไซต์ได้มากขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนอัตราการรวบรวมข้อมูลของ Googlebot
- ใช้คำอธิบายที่ใช้กันโดยทั่วไปเมื่ออธิบายถึงสภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น "มือสอง" หรือ "ผ่านการใช้งานแล้ว" แม้ภาษาพูดอย่าง "เคยมีเจ้าของแล้ว" อาจจะฟังดูน่ารักแต่มีความหมายไม่ชัดเจน เราขอแนะนำให้ใช้คำอย่าง "ใช้แล้ว" แทน