เกี่ยวกับการนำเข้า Conversion ของ Google Ads สำหรับ Salesforce

หน้า "บัญชีที่ลิงก์" ในส่วนผู้ดูแลระบบ Admin Icon ได้ย้ายไปที่ "Data Manager" ในเครื่องมือ Tools Icon แล้ว Google Ads Data Manager เป็นเครื่องมือสำหรับนำเข้าและจัดการข้อมูลที่ใช้งานได้ด้วยการชี้และคลิก ซึ่งให้คุณนำข้อมูลลูกค้าจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ Google มาเปิดใช้งานใน Google Ads ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Data Manager

หากใช้ Sales Cloud ของ Salesforce เพื่อติดตามโอกาสในการขายหรือโอกาส หรือทั้ง 2 อย่าง คุณจะนำเข้า Conversion ออฟไลน์จาก Sales Cloud ของ Salesforce ไปยัง Google Ads ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณวัดผลได้ดีขึ้นว่าการลงทุนทางออนไลน์กับ Google Ads ช่วยสร้างมูลค่าออฟไลน์ได้มากน้อยเพียงใด

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงประโยชน์และขั้นตอนการทำงานเบื้องต้นของฟีเจอร์นี้ จากนั้นเมื่อคุณพร้อมแล้วก็สามารถทำตามวิธีการนำเข้า Conversion จาก Salesforce ได้เลย

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้ใช้กับการผสานรวมมาตรฐานกับ Salesforce หากคุณเห็น "Salesforce" ในรายการแหล่งที่มาของการนําเข้าเมื่อสร้างการกระทําที่ถือเป็น Conversion ใหม่จากการนําเข้า แสดงว่าคุณใช้การผสานรวมเดิมกับ Salesforce คุณจะมีตัวเลือกในการอัปเกรดการผสานรวม Salesforce ในอนาคต

ประโยชน์

  • เชื่อมต่อ Google Ads กับ Sales Cloud ของ Salesforce เพื่อดูว่าคีย์เวิร์ด โฆษณา และแคมเปญใดของ Google Ads ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการเพิ่มโอกาสในการขายที่เข้าเกณฑ์และการขายใหม่ๆ ที่ติดตามอยู่ใน Salesforce
  • การนําเข้า Conversion ของ Google Ads สําหรับ Salesforce จะนับ Conversion ของ Google Ads โดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่คุณกําลังติดตามใน Salesforce วิธีนี้จะช่วยให้ทราบว่า Google Ads ส่งผลต่อ Funnel การขายอย่างไร จึงสามารถปรับบัญชีให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
  • ในระหว่างการตั้งค่า Google จะแสดงคําแนะนําที่ช่วยแมปช่อง Google Ads กับช่อง Salesforce ที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติ
  • ใช้ฟังก์ชันการเปลี่ยนรูปแบบเพื่อแฮชข้อมูลที่ป้อนจากช่องข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ เช่น หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้ข้อมูล Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว

ตัวอย่าง

คุณได้สร้างโฆษณาเพื่อนำผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าไปที่ฟอร์มติดต่อในเว็บไซต์ เมื่อผู้ใช้กรอกฟอร์ม ระบบจะลงทะเบียนผู้ใช้ดังกล่าวเป็นโอกาสในการขายใหม่ใน Salesforce และคุณใช้ Salesforce ในการติดตามทุกขั้นตอนของกระบวนการขาย

คุณตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ไว้แล้วเพื่อดูว่าผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่คลิกโฆษณามีการส่งแบบฟอร์มติดต่อเมื่อใด คุณได้ทราบว่ามีคีย์เวิร์ด 2 รายการที่เพิ่มโอกาสในการขายเหล่านี้ได้มากเป็นพิเศษ แต่คุณรู้ว่าโอกาสในการขายต่างๆ มีความสำคัญไม่เท่ากัน คุณจึงอยากรู้ต่อไปว่าคีย์เวิร์ดเหล่านั้นส่งผลให้เกิดการขายทั้งคู่ไหม

คุณลิงก์บัญชี Salesforce กับบัญชี Google Ads และตัดสินใจว่าจะติดตาม Conversion จากเหตุการณ์ 2 รายการใน Salesforce นั่นคือเมื่อโอกาสในการขายกลายเป็นโอกาส และเมื่อโอกาสทำให้เกิดการขาย

หลังจากเริ่มนำเข้า Conversion เหล่านี้ คุณได้ทราบว่าแม้คีย์เวิร์ดทั้งสองจะทำให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าส่งฟอร์มในเว็บไซต์กันมากขึ้นได้ดีเหมือนกัน แต่มีคีย์เวิร์ดหนึ่งที่ดีกว่ามากในแง่ของการเพิ่มโอกาสในการขายที่จะกลายเป็นโอกาสและการขายในที่สุด ดังนั้นคุณจึงตัดสินใจเพิ่มราคาเสนอให้กับคีย์เวิร์ดที่ประสบความสำเร็จมากกว่า และทดสอบต่อไปด้วยการเพิ่มคีย์เวิร์ดใหม่ๆ ที่ใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดดังกล่าว

วิธีการทำงาน

หลังจากตั้งค่าการนําเข้า Conversion ของ Google Ads สําหรับ Salesforce แล้ว คุณจะนําเข้า Conversion ได้ 2 วิธี ได้แก่ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย หรืออิงตาม GCLID

วิธีนําเข้า Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย

เมื่อมีผู้คลิกโฆษณา ไปที่เว็บไซต์ แล้วส่งข้อมูลในโฆษณาแบบกรอกฟอร์มบนเว็บไซต์ เว็บไซต์จะบันทึกข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ เช่น หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล ไว้ใน CRM ของ Salesforce หากคุณเลือกใช้ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขายในส่วน "การตั้งค่า" ของบัญชี Google Ads แท็ก Google ในเว็บไซต์จะส่งข้อมูลโอกาสในการขายที่แฮชไปยัง Google Ads

Google Ads จะตรวจสอบบัญชี Salesforce ที่ลิงก์เป็นประจําเพื่อหาเหตุการณ์สําคัญที่บันทึกใหม่ซึ่งเกิดจากโฆษณา (เช่น ผู้ที่กลายมาเป็นลูกค้า) Google Ads จะนําเข้าช่องที่แมปโดยอัตโนมัติจากออบเจ็กต์ CRM ของ Salesforce ที่กําหนดไว้ และใช้ข้อมูลโอกาสในการขายที่แฮชเพื่อจับคู่เหตุการณ์กับการคลิกโฆษณาที่ทําให้เกิดโอกาสในการขายในตอนแรก

เพื่อให้ข้อมูล Conversion ของ Google Ads แสดง Conversion ออฟไลน์ที่ติดตามในบัญชี Sales Cloud ของ Salesforce อย่างถูกต้อง Google Ads จะต้องดึงและจัดเก็บข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คุณติดตามใน CRM (เช่น สถานะโอกาสในการขายและขั้นตอนโอกาส) เป็นประจํา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google Ads ติดตาม Conversion ในเว็บไซต์

นอกจากนี้ Google Ads จะดึงข้อมูลในช่องต่อไปนี้จากบัญชี Sales Cloud เพื่อระบุเหตุการณ์ที่กําหนดเองซึ่งจําเป็นต้องบันทึกเป็น Conversion ใน Google Ads ระบบจะดึงข้อมูลนี้สําหรับออบเจ็กต์ที่คุณระบุเท่านั้น

  • ช่องสถานะจากออบเจ็กต์โอกาสในการขาย
  • ช่องขั้นตอนจากออบเจ็กต์โอกาส
  • ช่องรายการตัวเลือกจากออบเจ็กต์โอกาสในการขายหรือออบเจ็กต์โอกาสที่ใช้พิจารณาว่าควรนับ Conversion เมื่อใด (เช่น โอกาสในการขาย: สถานะ, โอกาส: ขั้นตอน)

หมายเหตุ: หากคุณใช้การผสานรวมเดิมกับ Salesforce สําหรับ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย หรือการนําเข้า Conversion ออฟไลน์ Google Ads จะดึงข้อมูลนี้ต่อเมื่อโอกาสในการขายและโอกาสมีค่าในช่อง GCLID เท่านั้น

  • โอกาสในการขาย: ช่อง "GCLID" ที่กําหนดเอง
  • โอกาสในการขาย: ประวัติสถานะ
  • โอกาส: จำนวน
  • โอกาส: ช่อง "GCLID" ที่กำหนดเอง
  • โอกาส: ประวัติขั้นตอน

ระบบจะลบข้อมูลที่ดาวน์โหลดเป็นประจำนี้ออกภายในไม่กี่วัน ยกเว้นบันทึกประวัติการอัปโหลด บันทึกประวัติจะอยู่ในระบบเป็นเวลา 90 วัน คุณจึงเข้าไปดูได้ว่ามีการอัปโหลด Conversion และมูลค่า Conversion รายการใดบ้างสำหรับ GCLID ในวันที่คุณต้องการตรวจสอบ บันทึกจะถูกลบหลังจาก 90 วัน

ซึ่งหมายความว่าเราไม่สามารถดูหรือดึงข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคลหรือธุรกิจที่คุณทำอยู่ได้ (เช่น ชื่อโอกาสในการขายหรือโอกาส)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลลูกค้าและวิธีที่ Google ใช้ข้อมูล Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว

วิธีการทํางานของการนําเข้า Conversion ออฟไลน์ที่อิงตาม GCLID

เมื่อมีคนคลิกโฆษณาและไปที่เว็บไซต์ของคุณ เว็บไซต์จะบันทึกรหัสเฉพาะที่เรียกว่า "Google Click ID" หรือ "GCLID" และจัดเก็บไว้ในคุกกี้ Google Ads จะใช้รหัสนี้ในการระบุว่าการคลิกครั้งใดที่โฆษณาไหนสมควรได้รับการระบุเป็นแหล่งที่มาสำหรับ Conversion ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อลูกค้าส่งฟอร์มโอกาสในการขายในเว็บไซต์ของคุณ เว็บไซต์จะส่งต่อ GCLID ไปยัง Salesforce และจัดเก็บลงในโอกาสในการขายที่เกี่ยวข้องและโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งเป็นผลจากโอกาสในการขายนี้

Google Ads จะตรวจสอบบัญชี Salesforce เป็นประจำเพื่อดูว่าคุณได้บันทึกไมล์สโตนสำคัญใหม่ๆ ที่เกิดจากการโฆษณาไหม (ในกระบวนการตั้งค่า คุณจะเลือกได้ว่าต้องการติดตามสถานะโอกาสในการขายและโอกาสการขายในขั้นตอนใดเป็น Conversion) Google Ads จะทราบว่าไมล์สโตนนี้เกิดจากโอกาสในการขายที่มาจากโฆษณาหรือไม่ เพราะหากใช่ ไมล์สโตนจะมีรหัสที่ไม่ซ้ำกันซึ่งเว็บไซต์จัดเก็บไว้และส่งไปยัง Salesforce หากพบรหัสดังกล่าว Google Ads จะนับไมล์สโตนนั้นเป็น Conversion ของ Google Ads

สิ่งที่ต้องทำ

เพื่อให้กระบวนการทำงานได้อย่างที่อธิบายไว้ข้างต้น คุณจะต้องอัปเดตเว็บไซต์ บัญชี Salesforce และบัญชี Google Ads ของคุณ หากให้คนอื่นจัดการบัญชี Salesforce ของธุรกิจ คุณจะต้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลดังกล่าวในขั้นตอนนี้ นอกจากนี้ หากให้นักพัฒนาเว็บคอยดูแลเว็บไซต์ คุณก็ต้องขอความช่วยเหลือจากนักพัฒนาเว็บด้วยเช่นกัน

ข้อมูลด้านล่างนี้จะอธิบายภาพรวมคร่าวๆ ในกระบวนการตั้งค่า หากต้องการดูวิธีการทั้งหมด ให้อ่านนําเข้า Conversion จาก Salesforce หรือคลิกลิงก์ของแต่ละขั้นตอนด้านล่างเพื่อตรงไปยังการตั้งค่าในส่วนที่ต้องการ และโปรดอ่านข้อกำหนดต่างๆ เพื่อให้ลิงก์บัญชีได้อย่างไม่มีปัญหา

วิธีตั้งค่า Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขายเพื่อใช้กับ Salesforce

1. ยอมรับข้อกําหนดสำหรับข้อมูลลูกค้า

  1. ข้าง "ข้อกําหนดสำหรับข้อมูลลูกค้า" ให้เลือก "ดูข้อกําหนด" และอ่าน "นโยบายและข้อกําหนดเพิ่มเติมสำหรับข้อมูลลูกค้า"
  2. คลิกช่องทําเครื่องหมาย "ฉันได้อ่านและยอมรับข้อกำหนดในนามของบริษัท"
  3. คลิกยอมรับ คุณจะเห็นสถานะอัปเดตเป็น "ยอมรับแล้ว"

หมายเหตุ:: ข้อกําหนดเหล่านี้มีผลกับทั้งบัญชีหรือกับบัญชีดูแลจัดการ หากคุณดูข้อกําหนดไม่ได้ แสดงว่าบัญชีดูแลจัดการเป็นผู้ติดตาม Conversion ของบัญชี การยอมรับข้อกําหนดสำหรับข้อมูลลูกค้าต้องทำจากบัญชีของผู้จัดการและบัญชีดูแลจัดการ Google Ads ที่อัปโหลดในนามของบัญชีดูแลจัดการซึ่งใช้การติดตามข้ามบัญชี

2. เปิด Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย

ในส่วน "Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย" ให้เลือกช่อง "เปิด Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย" โปรดทราบว่าหากไม่เลือกช่องในส่วนนี้ คุณจะมีโอกาสเลือกอีกครั้งเมื่อสร้างการกระทําที่ถือเป็น Conversion

3. ตั้งค่าและกําหนดค่าเว็บไซต์

Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขายต่างจากเครื่องมือวัด Conversion ออฟไลน์ตรงที่คุณไม่ต้องแก้ไขโฆษณาแบบกรอกฟอร์มหรือระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เพื่อจัดเก็บ Google Click ID (GCLID) แต่จะใช้ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลที่ผู้ใช้ให้ไว้จากโอกาสในการขายเพื่อวัด Conversion

ตรวจสอบว่ามีการติดตั้งใช้งานแท็ก Google หรือ Google Tag Manager ทั่วทั้งเว็บไซต์ ทําตามวิธีการเพื่อตั้งค่าและกําหนดค่าเว็บไซต์ด้วย Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขายโดยใช้แท็ก Google หรือ Google Tag Manager คุณควรใช้แท็ก Google หรือ Google Tag Manager เพื่อให้ระบบบันทึกการส่งโฆษณาแบบกรอกฟอร์มออนไลน์และข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้อย่างถูกต้อง

4. ตั้งค่าการนําเข้าเหตุการณ์ Salesforce เป็น Conversion โดยอัตโนมัติ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีนําเข้าเหตุการณ์ Salesforce เป็น Conversion

วิธีตั้งค่าการนําเข้า Conversion ออฟไลน์สําหรับ Salesforce

  1. กำหนดค่าบัญชี Salesforce สร้างช่อง GCLID ที่กำหนดเองในออบเจ็กต์โอกาสในการขายและโอกาส หากไม่มีรหัสนี้ Google Ads จะไม่ทราบว่าคลิกไหนเป็นแหล่งที่มาของ Conversion หากให้คนอื่นจัดการบัญชี Salesforce ของบริษัท คุณจะต้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลดังกล่าวในขั้นตอนนี้
  2. ปรับเปลี่ยนฟอร์ม Web-to-Lead สำหรับ Salesforce ปรับแต่งแบบฟอร์ม Web-to-Lead บนเว็บไซต์ของคุณให้อัปโหลดรหัสคลิก (พร้อมทั้งข้อมูลส่วนที่เหลือในแบบฟอร์ม) ไปยัง Salesforce ผู้ดูแลบัญชี Salesforce ให้ความช่วยเหลือคุณได้ในขั้นตอนนี้
  3. แก้ไขเว็บไซต์ให้บันทึกรหัสคลิกในคุกกี้ Google Ads จะสร้างโค้ดสำหรับนำไปเพิ่มลงในเว็บไซต์เพื่อให้คุณรวบรวมและจัดเก็บรหัสคลิกได้ นักพัฒนาเว็บจะให้ความช่วยเหลือคุณในเรื่องนี้ได้หากทำงานร่วมกันอยู่แล้ว
  4. ทดสอบว่าระบบของคุณทำงานตามปกติ เพิ่มพารามิเตอร์รหัสใน URL ของเว็บไซต์ ส่งโอกาสในการขายเวอร์ชันทดสอบ แล้วดูว่าระบบส่งรหัสดังกล่าวให้กับ Salesforce ไหม
  5. ลิงก์บัญชี Google Ads กับ Salesforce คุณต้องป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับบัญชี Salesforce หากคุณให้ผู้อื่นดูแลบัญชี โปรดสอบถามชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจากผู้ดูแล หรือขอให้ผู้ดูแลช่วยในขั้นตอนนี้
  6. ตัดสินใจว่าเหตุการณ์ใดของ Salesforce ที่ต้องการติดตามเป็น Conversion และต้องการให้ Google Ads ตรวจสอบบ่อยเพียงใด
  7. นำเข้า Conversion ตอนนี้คุณก็ตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว จากนี้บัญชี Google Ads ของคุณจะนำเข้า Conversion จาก Salesforce เป็นประจำ

รายการที่นับเป็น Conversion

ระบบจะบันทึก Conversion ทุกครั้งที่ค่าของช่องรายการตัวเลือกในออบเจ็กต์โอกาสในการขายหรือออบเจ็กต์โอกาสเปลี่ยนแปลงและเป็นไปตามเงื่อนไขเหตุการณ์ ซึ่งหมายความว่าอาจมีการนําเข้าโอกาสในการขายหรือโอกาสมากกว่า 1 ครั้งหากเป็นไปตามเงื่อนไขเหตุการณ์หลายครั้ง

หากใช้การผสานรวมเดิมกับ Salesforce คุณสามารถกําหนดค่าบัญชี Google Ads ให้บันทึก Conversion สำหรับสถานะโอกาสในการขายและขั้นตอนโอกาสทั้งหมดที่ติดตามในบัญชี Salesforce ได้ Google Ads จะบันทึก Conversion ทุกครั้งที่โอกาสในการขายหรือโอกาสอยู่ในสถานะหรือขั้นตอนดังกล่าว หมายเหตุ: หากผู้ใช้ Salesforce ข้ามสถานะหรือขั้นตอนไปยังรายการถัดไปหรือรายการสุดท้าย Google Ads จะไม่บันทึก Conversion ของรายการที่มีการข้ามไป

ตัวอย่าง

บัญชี Salesforce มีขั้นตอนโอกาสซึ่งได้แก่ 1. "เข้าเกณฑ์" 2. "ต้องมีการวิเคราะห์" 3. "ยื่นข้อเสนอ" 4. "เจรจา" 5. "ปิดการขายสำเร็จ" และ 6. "ปิดการขายไม่สำเร็จ"

ใน Google Ads คุณเลือกที่จะบันทึก Conversion ทุกครั้งที่ถึงขั้นตอนต่อไปนี้ 3. “ยื่นข้อเสนอ" 4. “เจรจา" และ 5. “ปิดการขายสำเร็จ"

ใน Salesforce ผู้ใช้ย้ายโอกาสจาก 1. "เข้าเกณฑ์" ไปยัง 3. "ยื่นข้อเสนอ" จากนั้นจึงทำเครื่องหมายเป็น 5. “ปิดการขายสำเร็จ"

ใน Google Ads คุณจะเห็น Conversion สำหรับขั้นตอน "ยื่นข้อเสนอ" และ "ปิดการขายสำเร็จ" แต่จะไม่เห็นในขั้นตอน "เจรจา" (เนื่องจากผู้ใช้ไม่ได้ตั้งค่าโอกาสเป็น "เจรจา")

เกี่ยวกับข้อมูล Salesforce ใน Google Ads

Google Ads จะนําเข้า Google Click ID (หากคุณใช้การนําเข้า Conversion ออฟไลน์) หรือข้อมูลอีเมล/หมายเลขโทรศัพท์ที่ได้จากผู้ใช้ (หากคุณใช้ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย) และข้อมูลเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องจากการผสานรวม Salesforce ไปยัง Google Ads เป็นประจํา Salesforce จะไม่รับผิดชอบผลกระทบต่อข้อมูลที่เกิดจากการนำเข้าดังกล่าว

หากต้องการทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูล Salesforce ใน Google Ads โปรดคลิกที่ลิงก์ด้านล่าง

ข้อมูลที่ Google Ads ดึงและจัดเก็บจากบัญชี Salesforce

เพื่อให้ข้อมูล Conversion ของ Google Ads แสดง Conversion ออฟไลน์ที่ติดตามในบัญชี Sales Cloud ของ Salesforce อย่างถูกต้อง Google Ads จะต้องดึงและจัดเก็บข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับสถานะโอกาสในการขายและขั้นตอนโอกาสเป็นประจำ

หลังจากที่คุณเริ่มใช้โซลูชันนี้ Google Ads ต้องจัดเก็บข้อมูลบางส่วนจากบัญชี Salesforce เพื่อให้ยังคงเข้าใจตรงกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะถือเป็น Conversion ข้อมูลที่เราจัดเก็บ ได้แก่ ชื่อหน่วยงานและรหัสหน่วยงานของบัญชี และสำเนาของค่าสถานะโอกาสในการขายและขั้นตอนโอกาสของบัญชี (เช่น "เข้าเกณฑ์" และ "ปิดการขายสำเร็จ" ตามลำดับ)

นอกจากข้อมูลเหล่านี้ Google Ads จะดึงข้อมูลในช่องต่อไปนี้จากบัญชี Sales Cloud เพื่อระบุ Conversion ที่ต้องบันทึกใน Google Ads คุณสามารถนําเข้าช่องแหล่งที่มาที่กําหนดค่าไว้ในการแมป เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หรือช่องอื่นๆ ที่แมปกับ "conversion_value" หรือ "conversion_currency" เราไม่มีข้อมูลดิบของการอัปโหลดให้ดาวน์โหลด แต่คุณดูบันทึกข้อผิดพลาดได้เป็นเวลา 30 วัน

หมายเหตุ: หากคุณใช้การผสานรวมเดิมกับ Salesforce สําหรับ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย หรือการนําเข้า Conversion ออฟไลน์ Google Ads จะดึงข้อมูลนี้ต่อเมื่อโอกาสในการขายและโอกาสมีค่าในช่อง GCLID เท่านั้น

  • โอกาสในการขาย: ช่อง "GCLID" ที่กําหนดเอง
  • โอกาสในการขาย: ประวัติสถานะ
  • โอกาส: จำนวน
  • โอกาส: ช่อง "GCLID" ที่กำหนดเอง
  • โอกาส: ประวัติขั้นตอน

ระบบจะลบข้อมูลที่ดาวน์โหลดเป็นประจำนี้ออกภายในไม่กี่วัน ยกเว้นบันทึกประวัติการอัปโหลด บันทึกประวัติจะอยู่ในระบบเป็นเวลา 90 วัน คุณจึงเข้าไปดูได้ว่ามีการอัปโหลด Conversion และมูลค่า Conversion รายการใดบ้างสำหรับ GCLID ในวันที่คุณต้องการตรวจสอบ บันทึกจะถูกลบหลังจาก 90 วัน

ซึ่งหมายความว่าเราไม่สามารถดูหรือดึงข้อมูลที่ใช้ระบุตัวบุคคลหรือธุรกิจที่คุณทำอยู่ได้ (เช่น ชื่อโอกาสในการขายหรือโอกาส)

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลลูกค้าและวิธีที่ Google ใช้ข้อมูล Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว

วิธีที่ Google Ads ใช้จัดการกับข้อมูลของคุณ

เราเข้าใจถึงความสำคัญและความละเอียดอ่อนของข้อมูลของลูกค้า และมุ่งมั่นที่จะปกป้องความลับและความปลอดภัยของข้อมูลที่คุณแชร์กับเรา

กล่าวอย่างเจาะจงก็คือ เรามีวิธีจัดการกับข้อมูล Salesforce ของคุณดังนี้

  • จำกัดการใช้ข้อมูล เราจะไม่ใช้ไฟล์ข้อมูลของคุณเพื่อจุดประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากการอัปเดตเมตริก Conversion ของคุณ
  • จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล เราจะไม่แชร์ไฟล์ข้อมูลของคุณกับทีม Google อื่นๆ นอกเหนือจากเพื่ออัปเดตเมตริก Conversion ของคุณ เราใช้การควบคุมสิทธิ์เข้าถึงของพนักงานเพื่อปกป้องไฟล์ข้อมูลของคุณจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • จำกัดการแชร์ข้อมูล เราจะไม่แชร์ไฟล์ข้อมูลของคุณกับบุคคลที่สาม รวมถึงผู้ลงโฆษณารายอื่น ยกเว้นว่าเราอาจแชร์ข้อมูลนี้ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย เช่น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ ระเบียบข้อบังคับ กระบวนการทางกฎหมาย หรือการร้องขอข้อมูลจากทางราชการ

นอกจากนี้เรายังมุ่งหวังที่จะรับประกันว่าระบบที่เราใช้เพื่อจัดเก็บไฟล์ข้อมูลของคุณจะปลอดภัยและเชื่อถือได้อยู่เสมอ เรามีทีมวิศวกรรมความปลอดภัยเฉพาะทางเพื่อป้องกันการคุกคามระบบของเราจากภายนอก และเรายังจัดเก็บไฟล์ข้อมูลทั้งหมดของคุณในรูปแบบเข้ารหัสเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Google ใช้ข้อมูลเหตุการณ์ Conversion

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
16892923334399348004
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false