3 เคล็ดลับยอดนิยม:
- ใช้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทอย่างน้อย 1 รายการซึ่งมีคุณภาพของโฆษณาอยู่ในระดับ "ดี" หรือ "ดีมาก" ต่อกลุ่มโฆษณา ผู้ลงโฆษณาที่ปรับปรุงคุณภาพของโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทจากระดับ "ไม่ดี" เป็น "ดีมาก" ได้รับ Conversion เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12% 1 ลองเลือกใช้ชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพของโฆษณา
- เพิ่มชิ้นงานรูปภาพที่ไม่ซ้ำกันอย่างน้อย 4 รายการ ชิ้นงานรูปภาพช่วยให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณและดําเนินการจากโฆษณา Search ได้ง่ายขึ้นด้วยการแสดงภาพผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง
- ใส่โลโก้และชื่อธุรกิจ ผู้ลงโฆษณาที่แสดงโลโก้และชื่อธุรกิจพร้อมกับโฆษณา Search ได้รับ Conversion เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% ที่ต้นทุนต่อ Conversion ใกล้เคียงกับของเดิม2
โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทใช้ความสามารถของ AI ของ Google ในการระบุการผสมผสานชิ้นงานที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้คุณแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องซึ่งปรับให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การเพิ่มความเกี่ยวข้องและประโยชน์ของโฆษณา Search ให้ได้สูงสุดจะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญและเพิ่ม Conversion ได้ ในคู่มือสำหรับ Google Ads นี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท เพื่อกระตุ้นผลลัพธ์ทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นจากแคมเปญ Search
Google Ads Tutorials: Responsive search ads best practices
1. เขียนข้อความโฆษณาที่น่าสนใจและไม่ซ้ำใคร
- สร้างสรรค์ข้อความซึ่งมุ่งเน้นที่ประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับ
เหตุผล: ผู้ใช้จะตอบสนองต่อโฆษณาที่ตอบโจทย์ความต้องการ
- สร้างความเชื่อมโยงระหว่างข้อความบรรทัดแรกและบรรทัดรายละเอียดกับคีย์เวิร์ด
เหตุผล: ผู้ใช้มักจะมีส่วนร่วมกับโฆษณาที่ดูเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตนค้นหามากที่สุด
กรณีศึกษา
สายการบิน Swoop ของแคนาดามีรายได้เพิ่มขึ้น 71% และได้ Conversion เพิ่มขึ้น 61% จากการใส่คีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดไว้ในโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
- หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาแบบกว้างๆ ในโฆษณา แต่ให้ใช้คำกระตุ้นให้ดำเนินการที่เฉพาะเจาะจง
เหตุผล: คำกระตุ้นให้ดำเนินการทั่วไปมักจะลดการมีส่วนร่วมกับโฆษณา
- ตรวจสอบคุณภาพของโฆษณาเพื่อให้ทราบข้อมูลเชิงลึกว่าผู้ใช้โต้ตอบกับโฆษณาอย่างไร
เหตุผล: คุณภาพของโฆษณาจะให้ความคิดเห็นที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าว่าชิ้นงานในโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทสะท้อนถึงคุณลักษณะที่สัมพันธ์กับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นได้มากเพียงใด
กรณีศึกษา
บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ MyFlightSearch มุ่งเน้นการสร้างโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทซึ่งมีคุณภาพ "ดี" และ "ดีมาก" ซึ่งช่วยให้แบรนด์เพิ่ม Conversion ได้ 14% และลดต้นทุนต่อการจองได้ 15%
- ตรวจสอบการรายงานชิ้นงานระดับแคมเปญ
เหตุผล: รายงานนี้จะช่วยให้คุณทราบว่าชิ้นงานใดโดนใจลูกค้ามากที่สุด
ดูหลักเกณฑ์โดยละเอียดเกี่ยวกับการเขียนข้อความโฆษณาที่น่าสนใจและไม่ซ้ำใคร
2. สร้างข้อความที่สะท้อนถึงแบรนด์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณนำเสนอ
- สร้างข้อความโฆษณาที่ดึงดูดผู้ใช้ข้ามอุปกรณ์ต่างๆ
เหตผุล: คำกระตุ้นให้ดำเนินการที่ได้ผลบนอุปกรณ์หนึ่งก็มีแนวโน้มว่าจะใช้ได้ผลบนอุปกรณ์อื่นเช่นกัน
- ลองใช้บรรทัดแรกที่มีความยาวต่างกัน
เหตุผล: บรรทัดแรกที่มีความยาวต่างกันช่วยให้โฆษณาโดนใจลูกค้ากลุ่มต่างๆ ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคุ้นเคยของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ของคุณ
เหตุผล: ชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติช่วยให้คุณแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากขึ้นด้วยการสร้างบรรทัดแรกและคําอธิบายที่ปรับแต่งให้เหมาะกับบริบทเฉพาะของโฆษณา
ดูหลักเกณฑ์โดยละเอียดเกี่ยวกับการสร้างข้อความที่สะท้อนถึงแบรนด์
3. ตั้งค่าโฆษณาเพื่อความสำเร็จ
- เพิ่มบรรทัดแรกและคำอธิบายที่ไม่ซ้ำกันให้มากที่สุด
เหตุผล: การใส่บรรทัดแรกและคําอธิบายที่ไม่ซ้ำกันจะช่วยให้ระบบสร้างชุดค่าผสมของโฆษณาได้มากขึ้น
- ใช้การแทรกคีย์เวิร์ดและเครื่องมือปรับแต่งโฆษณาหากคุณมีโฆษณาที่ต้องจัดการจำนวนมาก
เหตุผล: คุณจะปรับแต่งข้อความครีเอทีฟโฆษณาให้สอดคล้องกับการค้นหาของผู้ใช้ พร้อมกับลดต้นทุนในการจัดการโฆษณาทีละรายการได้
- จับคู่โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทกับ Smart Bidding และคีย์เวิร์ดที่ทํางานแบบกว้าง
เหตุผล: แสดงข้อความที่ใช่แก่ผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะที่ตั้งราคาเสนอที่เหมาะสมกับการค้นหาแต่ละรายการโดยอัตโนมัติ
กรณีศึกษา
การใช้ทั้งการทํางานแบบกว้าง, Smart Bidding และโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทร่วมกันทําให้ tails.com ซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักรได้ผู้ลงชื่อสมัครใช้ในเยอรมนีเพิ่มขึ้นจากแคมเปญ Search ทั่วไป 182% ในขณะที่เพิ่มการคลิกได้ 258%
ดูเรื่องราวของ tails.com
ดูหลักเกณฑ์โดยละเอียดเกี่ยวกับการสร้างโฆษณาเพื่อความสำเร็จ
4. ใช้ชิ้นงานประเภทต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
- เปิดใช้ชิ้นงานทุกประเภทที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
เหตุผล: มีชิ้นงานหลากหลายประเภทที่ทําให้โฆษณามีประโยชน์และดึงดูดผู้ใช้มากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยให้คุณบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดด้วย
กรณีศึกษา
HUGO BOSS เพิ่มชิ้นงานรูปภาพลงในโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท รวมถึงใช้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายและ Smart Bidding แบบ ROAS เป้าหมายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ จึงได้ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา 2.5 เท่าและมีอัตราการคลิกผ่านเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับการเข้าชมในอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยรวม
- ทำให้ชิ้นงานมีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เหตุผล: ระบบจะเลือกชิ้นงานโดยอัตโนมัติโดยพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัย ซึ่งรวมถึงประสิทธิภาพก่อนหน้า บริบทของผู้ใช้ และพื้นที่ที่ใช้ได้
ดูหลักเกณฑ์โดยละเอียดเกี่ยวกับการใช้ชิ้นงานประเภทต่างๆ ให้ได้มากที่สุด
5. ทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพข้อความครีเอทีฟโฆษณา
- ใช้โฆษณารูปแบบต่างๆ เพื่อทดสอบและเกลาข้อความครีเอทีฟโฆษณา
เหตุผล: คุณจะเรียนรู้เกี่ยวกับความชื่นชอบของผู้ใช้และปรับปรุงประสิทธิภาพโดยการขัดเกลาข้อความโฆษณา โดยเฉพาะบรรทัดแรกได้
- ประเมินความสําเร็จของโฆษณาโดยพิจารณาจากจํานวนการแสดงผล จํานวนคลิก และ Conversion ที่กลุ่มโฆษณาและแคมเปญได้รับเพิ่มขึ้น
เหตุผล: โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทช่วยให้คุณมีสิทธิ์เข้าร่วมการประมูลมากขึ้น ดังนั้นประสิทธิภาพระดับโฆษณาและเมตริก เช่น อัตราการคลิกผ่านและอัตรา Conversion อาจไม่แสดงถึงภาพรวมประสิทธิภาพทั้งหมด
ดูหลักเกณฑ์โดยละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพครีเอทีฟโฆษณา
เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญระหว่างที่สร้าง
ขณะสร้างแคมเปญ คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนตามการตั้งค่าที่เลือก ซึ่งแจ้งให้คุณทราบถึงปัญหาที่อาจทําให้ประสิทธิภาพลดลงหรืออาจมีความร้ายแรงมากพอที่จะทําให้ไม่สามารถเผยแพร่แคมเปญได้
เมนูการนําทางสำหรับสร้างแคมเปญซึ่งปรากฏขึ้นขณะที่คุณสร้างแคมเปญแสดงภาพรวมของความคืบหน้าในการสร้าง และแสดงการแจ้งเตือนที่คุณอาจต้องจัดการ เลื่อนไปมาระหว่างขั้นตอนต่างๆ ในเมนูการนําทางเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับการกําหนดเป้าหมาย การเสนอราคา งบประมาณ หรือการตั้งค่าแคมเปญอื่นๆ อย่างง่ายดาย ดูวิธีสร้างแคมเปญให้ประสบความสําเร็จ
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
- โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท: คู่มือการเขียนโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ
- เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Display
- AI ของ Google สําหรับการโฆษณาวิดีโอ
1. ข้อมูลภายในของ Google
2. ข้อมูลภายในของ Google, ทั่วโลก, 9/3/2023 - 22/3/2023