เกี่ยวกับการนําเข้า Conversion ออฟไลน์

หน้า "บัญชีที่ลิงก์" ในส่วนผู้ดูแลระบบ Admin Icon ได้ย้ายไปที่ "Data Manager" ในเครื่องมือ Tools Icon แล้ว Google Ads Data Manager เป็นเครื่องมือสำหรับนำเข้าและจัดการข้อมูลที่ใช้งานได้ด้วยการชี้และคลิก ซึ่งให้คุณนำข้อมูลลูกค้าจากผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ Google มาเปิดใช้งานใน Google Ads ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Data Manager

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ท้ายวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


บางครั้งโฆษณาอาจไม่ได้กระตุ้นยอดขายออนไลน์โดยตรง แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่นำลูกค้าไปสู่การซื้อทางออฟไลน์ได้ในท้ายที่สุด เช่น ที่หน้าร้านของคุณหรือผ่านโทรศัพท์ การนำเข้า Conversion ออฟไลน์ช่วยให้คุณวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในโลกออฟไลน์หลังจากที่โฆษณาทำให้เกิดการคลิกหรือการโทรหาธุรกิจ

ข้อดี

การนำเข้าเหตุการณ์ Conversion ออฟไลน์ช่วยให้เห็นภาพรวมที่ครอบคลุมมากขึ้นว่าคีย์เวิร์ดและเกณฑ์การกำหนดเป้าหมายใด (เช่น พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ช่วงเวลาของวัน) ที่ให้ Conversion ที่คุ้มค่ามากที่สุด ข้อมูลนี้ช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญเพื่อให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นได้

หากคุณดึงดูดความสนใจผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าหรือผู้ซื้อทางออนไลน์ หรือทั้ง 2 กลุ่ม คุณอาจต้องการบันทึก Conversion ในกรณีต่อไปนี้

  • เมื่อคุณปิดการขายออฟไลน์ (เช่น การสั่งซื้อทางโทรศัพท์ หรือซื้อที่หน้าร้าน) และติดตามการขายนี้ในระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์
  • 30 วันหลังจากการขายออนไลน์ เพื่อให้คุณสามารถยกเว้นธุรกรรมที่มีการส่งคืนสินค้า
  • เฉพาะเมื่อมีการขายให้กับลูกค้ารายใหม่เท่านั้น
  • เฉพาะเมื่อเป็นการซื้อครั้งที่ 2 ของลูกค้าเท่านั้น
  • เมื่อคุณปิดการขายออนไลน์ แต่ไม่สามารถใช้โซลูชันเครื่องมือวัด Conversion แบบ JavaScript มาตรฐานของเรา

ประเภทการนําเข้า Conversion ออฟไลน์

Google Ads มี 4 ตัวเลือกในการดูว่าแคมเปญ Google Ads กระตุ้นการนำเข้า Conversion ออฟไลน์ได้อย่างไร

  1. ผ่านการนำเข้า Conversion ของ Google Ads โดยตรง ช่วยให้นำเข้า Conversion ที่คุณติดตามในระบบอื่นๆ ไปยัง Google Ads ได้ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่กว้างที่สุดและใช้ได้กับการติดตาม Conversion ออฟไลน์หลากหลายวิธี และยังช่วยให้นำเข้า Conversion ที่เริ่มต้นจากการคลิกโฆษณาหรือการโทรจากโฆษณาของคุณได้ด้วย
  2. การนําเข้า Conversion ของ Google Ads สําหรับ Salesforce® จะบอกให้คุณทราบโดยอัตโนมัติเมื่อเหตุการณ์การขายที่คุณติดตามอยู่ใน Salesforce เริ่มต้นด้วยการคลิกโฆษณา ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณใช้ Sales Cloud® ของ Salesforce เพื่อติดตามข้อมูลการขาย คุณดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลเฉพาะสำหรับโซลูชันนี้ได้ในหัวข้อเกี่ยวกับการนำเข้า Conversion ของ Google Ads สำหรับ Salesforce®
  3. เครื่องมือวัด Conversion ออฟไลน์ของ Zapier ช่วยให้คุณนำเข้าข้อมูลเครื่องมือวัด Conversion ออฟไลน์จากระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) หลายๆ ระบบที่ต่างกันไปยัง Google Ads แบบอัตโนมัติได้ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการนำเข้าแบบออฟไลน์ของ Zapier สำหรับ Google Ads
  4. เครื่องมือเหตุการณ์การเพิ่มประสิทธิภาพ Google Ads ของ HubSpot ช่วยให้คุณซิงค์ข้อมูลการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) กับ Google Ads ได้ ทําให้ติดตามยอดขายออฟไลน์ เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ และปรับปรุงคุณภาพโอกาสในการขายได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือเหตุการณ์การเพิ่มประสิทธิภาพ Google Ads ของ HubSpot

วิธีการทำงาน

การนำเข้า Conversion ออฟไลน์จะทำงานแตกต่างกันเล็กน้อย โดยขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังติดตาม Conversion ที่เริ่มต้นด้วยการคลิกโฆษณาหรือการโทรจากโฆษณา

Conversion จากการคลิกโดยใช้ GCLID

Google Ads จะกําหนดรหัสที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งเรียกว่า Google Click ID (GCLID) ให้กับแต่ละคลิกที่มายังเว็บไซต์ของคุณโดยการคลิกโฆษณา การติดตาม Conversion ออฟไลน์จากการคลิกทำได้โดยการบันทึกรหัสนั้นพร้อมด้วยข้อมูลโอกาสในการขายที่เก็บรวบรวมจากผู้ที่คลิกโฆษณา

ต่อมาเมื่อลูกค้าคนนั้น "ทำ Conversion" ทางออฟไลน์ เช่น ลงนามในสัญญา คุณจะใส่ GCLID นั้นกลับสู่ Google Ads พร้อมด้วยรายละเอียดประเภทของ Conversion และเวลาที่เกิดขึ้น จากนั้น Google Ads จะบันทึก Conversion นี้พร้อมด้วยข้อมูลเครื่องมือวัด Conversion อื่นๆ

ตัวอย่าง

คุณรับออกแบบ ผลิต และขายโต๊ะประชุมแบบสั่งทำ คุณใช้ Google Ads เพื่อดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามาที่เว็บไซต์ซึ่งจะส่งข้อมูลติดต่อและขอให้พนักงานขายโทรกลับได้ หากการคลิกที่โฆษณาทำให้เกิดโอกาสในการขาย ข้อมูลติดต่อของโอกาสในการขายนั้นจะมี GCLID ด้วย

พนักงานขายของคุณจะตรวจสอบยอดขายเป็นรายสัปดาห์ และส่งผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า (และ GCLID ที่เกี่ยวข้อง) ที่กลายเป็นลูกค้า พร้อมวันที่และเวลาของการขายแต่ละรายการมาให้คุณ จากนั้นคุณก็รวบรวมข้อมูลและใส่ลงในสเปรดชีต 5 คอลัมน์ แล้วอัปโหลดเข้าสู่บัญชี Google Ads ภายในไม่กี่ชั่วโมงคุณก็จะดูได้ว่าคีย์เวิร์ดและคำค้นหาใดทำให้เกิดผลดีต่อธุรกิจ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การส่งโอกาสในการขายใหม่เท่านั้น แต่ที่สำคัญคือทำให้เกิดยอดขายจริง

ข้อมูลใหม่นี้ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและลงทุนใน Google Ads อย่างคุ้มค่าได้ง่ายขึ้น

Conversion จากการคลิกโดยใช้ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย

Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับโอกาสในการขายช่วยให้คุณอัปโหลดข้อมูล Conversion ออฟไลน์ได้โดยใช้ข้อมูลลูกค้าบุคคลที่หนึ่ง วิธีนี้ง่ายกว่าการใช้ Conversion จากการคลิกโดยใช้ Google Click ID เนื่องจากคุณไม่จําเป็นต้องแก้ไขโฆษณาแบบกรอกฟอร์มหรือระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เพื่อให้รับ Google Click ID (GCLID) แต่จะใช้ข้อมูลที่บันทึกไว้แล้วในโฆษณาแบบกรอกฟอร์มเพื่อวัด Conversion แทน

เมื่อพร้อมแล้ว คุณสามารถตั้งค่า Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับโอกาสในการขาย

Conversion จากการโทร

การนำเข้าข้อมูล Conversion การโทรไปยัง Google Ads จะทำให้คุณติดตามได้ว่าโฆษณาและคีย์เวิร์ดใดทำให้เกิดการโทรที่เป็นยอดขายมากที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

ตัวเลือกนี้จะติดตามข้อมูลการโทรที่ส่งผลให้เกิดการขายหรือการกระทำอื่นๆ ของลูกค้าที่มีคุณค่าต่อธุรกิจของคุณ แทนที่จะใช้รหัสคลิกเหมือน Conversion จากการคลิก เมื่อนำเข้าข้อมูลนี้ไปยัง Google Ads ระบบจะจับคู่ Conversion เหล่านี้กับการโทรที่ได้รับจากโฆษณา

หากต้องการทราบการทำงานของตัวเลือกนี้เพิ่มเติม โปรดอ่านเกี่ยวกับการนำเข้า Conversion การโทร

ใช้การเสนอราคาอัตโนมัติกับการนําเข้า Conversion ออฟไลน์

คุณสามารถใช้กลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติของ Google Ads เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Conversion ออฟไลน์ได้ และเราขอแนะนำให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

  • นำเข้าข้อมูล Conversion ออฟไลน์เป็นประจำ (ทุกวันจะดีที่สุด)
  • เริ่มอัปโหลด Conversion แล้วรอจนครบกรอบเวลา Conversion ของคุณก่อนที่จะเปิดใช้การเสนอราคาอัตโนมัติ
  • หากคุณติดตาม Conversion ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ให้ลองใช้กลยุทธ์การเสนอราคา ROAS เป้าหมาย คุณสามารถใช้ ROAS เป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Conversion ออนไลน์และออฟไลน์ให้ดีขึ้นได้ โดยกำหนดมูลค่าที่แตกต่างกันให้กับการกระทำที่เป็น Conversion ต่างๆ เช่น โอกาสในการขายและยอดขายออฟไลน์ ก่อนใช้ ROAS เป้าหมาย เราขอแนะนําให้รวมมูลค่าใหม่ไว้ในคอลัมน์ "Conversion" และรอ 6 สัปดาห์เพื่อให้แคมเปญได้รับมูลค่า Conversion ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ เราขอแนะนําให้ตรวจสอบการตั้งงบประมาณเพื่อให้แน่ใจว่ามีงบประมาณเพียงพอในการใช้จ่ายมากกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ย 2 เท่า โดยไม่เกินจำนวนเงินสูงสุดที่เรียกเก็บต่อเดือน

ตัวอย่าง

สมมติว่าคุณกำลังติดตามโอกาสในการขายผ่านการกระทำที่ถือเป็น Conversion ออนไลน์ และติดตามการขายขั้นสุดท้ายผ่านการกระทำที่ถือเป็น Conversion ออฟไลน์ คุณจะกำหนดมูลค่าที่แตกต่างกันให้กับแต่ละการกระทำที่ถือเป็น Conversion ให้สอดคล้องกับคุณค่าที่มีต่อธุรกิจได้ เช่น มูลค่าโอกาสในการขายเท่ากับ 300 บาท และมูลค่าการขายเท่ากับ 15,000 บาท ซึ่งจะทำให้ Google Ads มีข้อมูลและเข้าใจกระบวนการขายของคุณมากยิ่งขึ้น ซึ่งยิ่งมีมากเท่าใด Google Ads ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอให้คุณได้มากขึ้นเท่านั้น

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสำหรับเครื่องมือวัด Conversion

Google มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด ดังนั้น Google Ads จะเก็บรวบรวมข้อมูลเฉพาะในเว็บไซต์และแอปที่คุณได้กำหนดค่าการติดตามไว้เท่านั้น

โปรดตรวจสอบให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและครอบคลุมเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณเก็บรวบรวมในเว็บไซต์ แอป และพร็อพเพอร์ตี้อื่นๆ นอกจากนั้น อย่าลืมตรวจสอบด้วยว่าคุณได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวมนั้นตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือนโยบายของ Google ที่เกี่ยวข้องในด้านความยินยอมของผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงนโยบายความยินยอมของผู้ใช้ EU ของ Google ด้วย

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
747240611439718802
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false