กระตุ้น Conversion ในช่องทางโฆษณาของ Google ด้วยแคมเปญ Performance Max

2 พฤศจิกายน 2021

เส้นทางของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และลูกค้าก็มีส่วนร่วมกับธุรกิจในช่องทางต่างๆ มากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ลงโฆษณาจํานวนมากต้องปรับกลยุทธ์และขอบเขตการทำงาน ด้วยการหันมาใช้ AI ของ Google เพื่อปรับตัวให้ทันกับความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และคว้าโอกาสใหม่ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ 

แคมเปญ Performance Max เป็นวิธีใหม่สำหรับผู้ลงโฆษณาในการซื้อและเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาใน YouTube, ดิสเพลย์, Search, Discover, Gmail และ Google Maps โดยจะช่วยส่งเสริมแคมเปญ Search ที่อิงตามคีย์เวิร์ด และใช้ AI ของ Google เพื่อช่วยเพิ่ม Conversion และมูลค่าในช่องทางการโฆษณาและพื้นที่โฆษณาทั้งหมดของ Google จากแคมเปญเดียว เราพบว่าผู้ลงโฆษณาที่ใช้แคมเปญ Performance Max ในบัญชีได้รับ Conversion ทั้งหมดเพิ่มขึ้นโดยรวมเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 13% โดยใช้ต้นทุนต่อการดำเนินการที่ใกล้เคียงกับแคมเปญเดิม1

หลังจากได้เห็นผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากเวอร์ชันเบต้าแล้ว เราจะเริ่มเปิดตัว Performance Max ต่อผู้ลงโฆษณาทั้งหมดทั่วโลกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ค้าปลีกและผู้ลงโฆษณาที่มีที่ตั้งธุรกิจจริงควรใช้ Smart Shopping และแคมเปญในพื้นที่ต่อไปในช่วงเทศกาลวันหยุดที่สําคัญนี้ โดยในปีหน้า ทั้ง Smart Shopping และแคมเปญในพื้นที่จะอัปเกรดเป็น Performance Max เพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงพื้นที่โฆษณาใหม่ๆ และเพิ่มยอดขายได้ 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบล็อกโพสต์นี้ และดูว่าแบรนด์ต่างๆ อย่าง Allianz และ Joybird สร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมด้วยแคมเปญ Performance Max ได้อย่างไร 

Screenshot of the Google Ads UI that says "Select a campaign type". The options available are Search, Performance Max, Display, Shopping, Video, and Discovery. Performance Max is selected.
การสร้างแคมเปญ Performance Max ช่วยให้คุณลงโฆษณาในช่องทางโฆษณาและพื้นที่โฆษณาทั้งหมดของ Google ได้ เพื่อให้คุณค้นพบลูกค้าใหม่ๆ

เราทราบว่าการเริ่มต้นใช้งานแคมเปญประเภทใหม่อาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้น โปรดคำนึงถึงแนวทางปฏิบัติแนะนำที่สำคัญต่อไปนี้ 
 

  1. เลือกเป้าหมาย Conversion ที่สําคัญต่อธุรกิจ แล้วกําหนดมูลค่าให้กับ Conversion
    แคมเปญ Performance Max มุ่งไปที่เป้าหมายที่สําคัญต่อคุณ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงต้องระบุเป้าหมายที่ต้องการให้แคมเปญ Performance Max เพิ่มประสิทธิภาพและรายงาน Conversion ที่สําคัญต่อธุรกิจของคุณอย่างแท้จริง วิธีนี้ช่วยให้แคมเปญกระตุ้น Conversion ที่คุณต้องการทุกประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขายออนไลน์ สร้างโอกาสในการขาย หรือเพิ่มยอดขายออฟไลน์ 

    นอกจากนี้ คุณควรมุ่งไปที่การกำหนดมูลค่า Conversion เพื่อให้แสดงการเปรียบเทียบความสำคัญของเป้าหมายด้วย ซึ่งจะช่วยให้ Performance Max จัดลําดับความสําคัญของประเภท Conversion ที่มีคุณค่าต่อธุรกิจของคุณมากที่สุดได้ หากคุณมียอดขายจำนวนมากแบบออฟไลน์ เช่น ในร้านค้าหรือทางโทรศัพท์ ให้ใช้การนําเข้า Conversion ออฟไลน์ เพื่อแชร์ข้อมูลนี้กับ Google Ads และเพิ่มประสิทธิภาพยอดขายขั้นสุดท้ายเหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาที่มีเป้าหมายในการสร้างความสนใจในตัวสินค้า การระบุว่าโอกาสในการขายใดทำให้เกิดยอดขายจริงจะช่วยให้ Performance Max เพิ่มคุณภาพของโอกาสในการขายให้สูงขึ้นในช่องทางต่างๆ ได้
     
  2. เลือกงบประมาณและกลยุทธ์การเสนอราคาที่เหมาะสม
    Performance Max ใช้ Smart Bidding เพื่อตั้งราคาเสนอที่เหมาะสมแบบเรียลไทม์สําหรับการประมูลแต่ละครั้งโดยอิงตามเป้าหมาย และช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นจากงบประมาณด้านการตลาดของคุณ หากคุณกําลังวัดมูลค่าที่ต่างกันด้วย Conversion ให้ใช้เพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุดเป็นกลยุทธ์การเสนอราคาเพื่อเพิ่มมูลค่า Conversion ให้ได้มากที่สุดภายในงบประมาณที่กำหนด หากมีเป้าหมาย ROI ที่เจาะจง ก็เพิ่มเป้าหมาย ROAS ได้ด้วย ในทางกลับกัน ถ้าคุณไม่ได้วัดมูลค่าและไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Conversion ทุกรายการอย่างเท่าเทียมกัน ให้ใช้เพิ่มจํานวน Conversion สูงสุดเพื่อเพิ่มจํานวน Conversion ให้ได้มากที่สุด พร้อมตัวเลือกในการเพิ่มเป้าหมาย CPA ที่เฉพาะเจาะจง
     
  3. เปิดการขยาย URL สุดท้ายไว้เพื่อเพิ่ม Conversion ในคําค้นหาที่เกี่ยวข้อง
    ฟีเจอร์การขยาย URL สุดท้ายใหม่นี้จะช่วยให้คุณพบคําค้นหาใหม่ๆ ที่ทําให้เกิด Conversion ซึ่งแคมเปญ Search ที่ใช้คีย์เวิร์ดยังครอบคลุมไม่ถึง โดยการขยาย URL สุดท้ายจะใช้หน้า Landing Page ที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์เพื่อจับคู่โฆษณาของคุณกับข้อความค้นหาที่เกี่ยวข้อง และเพื่อปรับแต่งบรรทัดแรกแบบไดนามิกให้กับโฆษณา แคมเปญ Performance Max จะไม่จับคู่กับคําค้นหาที่ตรงกันทุกประการกับคีย์เวิร์ดที่อยู่ในแคมเปญ Search อยู่แล้ว แต่จะแสดงในการประมูลอื่นๆ ที่มีลําดับโฆษณาที่สูงกว่าเพื่อช่วยสร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 
     
  4. อัปโหลดชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาที่หลากหลายลงในกลุ่มชิ้นงาน
    การเสริมแคมเปญ Search ด้วย Performance Max จะช่วยคุณดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีประสบการณ์การใช้งานโฆษณาที่เกี่ยวข้องในช่องทางต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น คุณอาจจัดกลุ่มชิ้นงานตามธีมทั่วไปหรือธีมเดียวในกลุ่มชิ้นงาน เช่นเดียวกับที่ดำเนินการกับกลุ่มโฆษณาในแคมเปญประเภทอื่นๆ จัดชิ้นงานที่เป็นเนื้อหาข้อความ ชิ้นงานรูปภาพและวิดีโอให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยในการแสดงบนพื้นที่โฆษณาให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ AI ของ Google จะทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อมีชิ้นงานหลากหลายแบบให้ค้นหาการผสมผสานที่เหมาะสม หากไม่มีวิดีโอ Performance Max จะสร้างวิดีโอคุณภาพสูงให้โดยอัตโนมัติโดยใช้ชิ้นงานของคุณที่มีอยู่ ดูวิธีใช้ประโยชน์สูงสุดจากครีเอทีฟโฆษณาด้านการตลาดที่มีการวัดประสิทธิภาพได้ในแนวทางปฏิบัติแนะนําสําหรับครีเอทีฟโฆษณา 
     
  5. เพิ่มสัญญาณของกลุ่มเป้าหมายเพื่อระบุว่ากลุ่มใดมีแนวโน้มที่จะทํา Conversion สูง
    สัญญาณของกลุ่มเป้าหมายจะให้ข้อมูลสําคัญแก่ AI ของ Google เพื่อช่วยยกระดับแคมเปญและเพิ่มประสิทธิภาพได้เร็วขึ้น ในขณะเดียวกันยังช่วยให้คุณพบลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ทำ Conversion ซึ่งคุณอาจจะยังไม่เคยพบมาก่อน สัญญาณจากกลุ่มเป้าหมายที่มีประโยชน์มากที่สุดต่อการระบุคือข้อมูลของคุณ ซึ่งประกอบด้วยการจับคู่ข้อมูลลูกค้า รายชื่อผู้เข้าชมเว็บไซต์ และกลุ่มที่กําหนดเอง


ดูเคล็ดลับการตั้งค่าและการใช้ประโยชน์สูงสุดจากแคมเปญ Performance Max ได้เพิ่มเติมในศูนย์ช่วยเหลือ Google Ads และดูคู่มือแนวทางปฏิบัติแนะนำและวิดีโอของเรา 

โพสต์โดย Tal Akabas ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส ฝ่ายแคมเปญ Performance Max

 

 

1.  ข้อมูล Google, ทั่วโลก, Ads, กรกฎาคม - กันยายน 2021

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
5015382267229051756
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false