เกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

 
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมของ Google ด้วยการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ
 

 

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ท้ายวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


 

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีแนวโน้มจะทํา Conversion ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแคมเปญ การกําหนดเป้าหมายรูปแบบนี้จะพิจารณาปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกเองในแคมเปญ เพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายที่คุณอาจยังไม่ได้เข้าถึงและปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ

ในบทความนี้ คุณจะได้ทราบประโยชน์และฟีเจอร์ของการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

กรณีที่ควรใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเหมาะสําหรับผู้ลงโฆษณาในสถานการณ์ต่อไปนี้

  • คุณต้องการให้แคมเปญแสดงต่อกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะทํา Conversion มากที่สุด
  • คุณต้องการได้ลูกค้าใหม่นอกเหนือจากกลุ่มที่มีอยู่แล้ว และยังคงบรรลุเป้าหมาย
  • คุณต้องการระบุผู้ใช้ใหม่ที่ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพแคมเปญ
  • คุณต้องการเพิ่ม Conversion โดยไม่เพิ่มราคาเสนอหรือราคาต่อลูกค้า

ดูว่าผู้ใช้รายอื่นๆ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

เข้าร่วมการสนทนาในชุมชน Google Ads

ลักษณะการทำงาน

ระบบจะเปิดใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพกับแคมเปญทั้งหมดโดยอัตโนมัติ การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะพิจารณาข้อมูล เช่น คีย์เวิร์ดในหน้า Landing Page หรือในชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณา จากนั้นจึงค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับเป้าหมายของแคมเปญ หากคุณไม่ต้องการใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ ก็ปิดใช้ได้ในการตั้งค่ากลุ่มโฆษณา

นอกจากนี้ คุณยังเพิ่มเกณฑ์อย่างเช่น กลุ่มเป้าหมายหรือคีย์เวิร์ด (หรือที่เรียกว่า "สัญญาณการกําหนดเป้าหมาย") ลงในการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพได้ด้วย การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะใช้สัญญาณการกําหนดเป้าหมายในการค้นหาเกณฑ์ที่คล้ายกันเพื่อแสดงโฆษณา หากการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพพบการเข้าชมที่มีประสิทธิภาพดีกว่า ก็อาจลดหรือหยุดการแสดงโฆษณาจากสัญญาณของคุณ

การขยายกลุ่มเป้าหมายและการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพแตกต่างกันอย่างไร

การขยายกลุ่มเป้าหมายจะค้นหากลุ่มคนที่คล้ายกับกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่ คุณจึงอาจพบว่าการแสดงผล การดู การคลิก และ Conversion เพิ่มขึ้นในแคมเปญ ส่วนการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะมองหา Conversion เพิ่มเติมโดยการกําหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะทํา Conversion มากที่สุด โดยพิจารณาจากข้อมูล Conversion ของแคมเปญแบบเรียลไทม์ เช่น สิ่งที่ผู้ทํา Conversion เพิ่งค้นหา เมื่อใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ กลุ่มเป้าหมายที่คุณเป็นผู้เลือกจะส่งผลต่อรูปแบบโดยเป็นจุดเริ่มต้นที่อิงจากข้อมูล

ตัวอย่างเช่น จิรัชญาต้องการดึงดูดให้ผู้คนสนใจการเปิดตัวรองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ในการกําหนดเป้าหมายของแคมเปญ จิรัชญาใช้กลุ่มเป้าหมาย 2 ประเภท ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองโดยอิงตามคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจากแคมเปญ Search เช่น "รองเท้าวิ่งลดราคา" และกลุ่มที่มีแผนจะซื้อ "รองเท้ากีฬา" การทำงานของการขยายกลุ่มเป้าหมายและการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญของจิรัชญาอาจมีลักษณะดังนี้

  • การขยายกลุ่มเป้าหมาย: นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายที่จิรัชญาเลือกเองแล้ว การขยายกลุ่มเป้าหมายยังรวมกลุ่มที่คล้ายกันไว้ด้วย เช่น กลุ่มที่กำหนดเอง "รองเท้ากีฬาลดราคา" และกลุ่มที่มีแผนจะซื้อ "สินค้ากีฬา"
  • การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ: การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะขยายการครอบคลุมไปถึงผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะทํา Conversion ด้วยการสร้างโปรไฟล์ลักษณะของผู้ทํา Conversion โดยอิงตามข้อมูล Conversion แบบเรียลไทม์ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลนี้อาจรวมการค้นหารองเท้าวิ่งแบรนด์หนึ่งๆ ใน Google หรือการคลิกไปยังเว็บไซต์เสื้อผ้ากีฬายอดนิยม แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่จิรัชญาเลือกเองจะเป็นจุดเริ่มต้น แต่การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะมองหา Conversion ซึ่งอยู่นอกกลุ่มที่เธอเลือก

ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย

ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายช่วยให้คุณเข้าใจได้ดียิ่งขึ้นว่าลูกค้าของคุณคือใคร เนื่องจากช่วยเผยลักษณะเฉพาะ ความสนใจ และพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้ที่เห็นโฆษณาของคุณแล้วทํา Conversion

เมื่อใช้การกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายจะไฮไลต์กลุ่มเป้าหมายยอดนิยมโดย Google ซึ่งได้กําหนดเป็นเป้าหมายไว้แล้วและมีประสิทธิภาพดี

หมายเหตุ: ในตอนนี้ ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายสามารถใช้ได้กับแคมเปญประเภทต่อไปนี้
  • ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับลักษณะตัวตน: Search, Shopping, Performance Max, วิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำ (VAC), Display (เบต้า)
  • ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับชิ้นงาน: Search, Performance Max, วิดีโอ

ตัวอย่าง

วิธีการใช้ (หรือไม่ใช้) การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่คุณพยายามบรรลุในแคมเปญ ขยายส่วนด้านล่างเพื่อดูกรณีที่ควรใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญ

คุณต้องการได้ลูกค้าใหม่ที่เกี่ยวข้องพร้อมกับบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

ใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

หากมุ่งเน้นที่การหาลูกค้าใหม่และเกี่ยวข้อง ให้ใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

คทาธรมีบริษัทขายชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เกมมิ่ง ธุรกิจของคทาธรได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่กลับมาซื้ออีกอยู่แล้ว และเขากําลังหาทางขยายบริษัทโดยเปิดจำหน่ายคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ประกอบแล้ว เนื่องจากคทาธรต้องการให้ธุรกิจดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยสั่งประกอบคอมพิวเตอร์เกมมิ่งมาก่อน จึงยังคงใช้เพียงการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพต้องอาศัยข้อมูลจากแหล่งที่มาต่างๆ เช่น URL ของหน้า Landing Page และไฟล์เนื้อหาครีเอทีฟโฆษณาที่รวมอยู่ในโฆษณา ดังนั้นโฆษณาของคทาธรจึงจะเข้าถึงผู้ที่สนใจซื้อคอมพิวเตอร์เกมมิ่ง

คุณต้องการได้ลูกค้าใหม่ที่เกี่ยวข้องและมีกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว

ใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพกับสัญญาณการกำหนดเป้าหมาย

หากต้องการให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่รูปแบบที่การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพใช้เพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เกี่ยวข้อง ให้เพิ่มสัญญาณการกําหนดเป้าหมาย

มาริษาต้องการขยายการรับรู้และเพิ่มยอดจองทริปเดินป่าตั้งแคมป์ระยะเวลา 7 วันของบริษัททัวร์ล่องแก่งของเธอ เนื่องจากใกล้จะถึงฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงที่เด็กๆ ปิดเทอม มาริษาจึงต้องการขายทริปให้กลุ่มครอบครัวเป็นหลัก เมื่อสร้างแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์ มาริษาเพิ่มคีย์เวิร์ดอย่างเช่น "กิจกรรมกลางแจ้งสำหรับครอบครัว" "ทริปล่องแก่งสำหรับครอบครัว" และ "ทริปท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว" (นอกเหนือจากการเปิดใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพไว้)

เมื่อแคมเปญทำงาน การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพพบว่าแคมเปญมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเพิ่มคีย์เวิร์ด "ผจญภัยล่องแก่ง" "ล่องแก่ง" และ "ทัวร์ล่องแก่ง" ในการกำหนดเป้าหมาย นอกจากนี้ การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพยังหยุดไม่ให้แคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์แสดงในการค้นหา "ทริปท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว" เนื่องจากได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี

คุณต้องการให้ลูกค้าเก่าซื้อผลิตภัณฑ์หรือใช้บริการอีกครั้ง

ใช้การกําหนดเป้าหมายด้วยตนเองเท่านั้น

หากต้องการให้โฆษณาดึงดูดลูกค้าเก่าเท่านั้น ให้ใช้การกําหนดเป้าหมายด้วยตนเอง

เอเจนซีของธนพรกําลังจะเปิดตัวแคมเปญวิดีโอใหม่สำหรับไลน์กระเป๋าถือของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำแบรนด์หนึ่ง ก่อนหน้านี้ธนพรได้ใช้กลุ่มข้อมูลที่มีลูกค้าของแบรนด์แฟชั่นดังกล่าว เธอจึงนํากลับมาใช้อีกในแคมเปญนี้ และยังปิดการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าประจำของแบรนด์แฟชั่นนี้โดยเฉพาะ

ประเภทแคมเปญที่ใช้ร่วมกันได้

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพใช้ได้กับแคมเปญต่อไปนี้

โปรดทราบว่าสัญญาณการกําหนดเป้าหมายที่มีให้ใช้อาจแตกต่างกันไปตามประเภทแคมเปญ ขยายส่วนด้านล่างเพื่อดูสัญญาณการกำหนดเป้าหมายที่สามารถเพิ่มในการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับแคมเปญแต่ละประเภท

Display

  • คุณสามารถระบุกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มที่กําหนดเอง กลุ่มข้อมูลลูกค้า คีย์เวิร์ด และหัวข้อเป็นสัญญาณสําหรับการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ
  • โฆษณาอาจแสดงต่อผู้ใช้ที่อยู่นอกเหนือจากสัญญาณที่เลือก

วิดีโอ

  • คุณสามารถระบุกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มที่กําหนดเอง และกลุ่มข้อมูลลูกค้าเป็นสัญญาณสําหรับการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ
  • โฆษณาอาจแสดงต่อผู้ใช้ที่อยู่นอกเหนือจากสัญญาณที่เลือก
  • ไม่มีการใช้ตำแหน่งเป็นสัญญาณและโฆษณาจะปรากฏในตําแหน่งที่คุณระบุเท่านั้น
  • การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะไม่แสดงโฆษณาต่อผู้ใช้ที่คุณยกเว้นโดยใช้กลุ่มข้อมูลลูกค้า

Demand Gen

  • คุณสามารถระบุกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มที่กําหนดเอง และกลุ่มข้อมูลลูกค้าเป็นสัญญาณสําหรับการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ
  • โฆษณาอาจแสดงต่อผู้ใช้ที่อยู่นอกเหนือจากสัญญาณที่เลือก
  • การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะไม่แสดงโฆษณาต่อผู้ใช้ที่คุณยกเว้นโดยใช้กลุ่มข้อมูลลูกค้า
  • เมื่อเปิดใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ การขยายข้อมูลประชากรจะมีผลด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพอาจกําหนดเป้าหมายนอกเหนือจากสัญญาณข้อมูลประชากรที่คุณเลือก เช่น อายุ เพศ รายได้ครัวเรือน และสถานะความเป็นบิดามารดา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ
การเข้าชมจากการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการทดสอบการเข้าชมบางรายการที่ดำเนินการโดย Google จะแสดงในแถว "ทั้งหมด: การขยายและการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ" ในการรายงานประสิทธิภาพ

ความปลอดภัยของแบรนด์

การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะทำงานตามการตั้งค่าความปลอดภัยของแบรนด์ที่มีอยู่ (เช่น การยกเว้นเนื้อหา) คุณไม่จําเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความปลอดภัยของแบรนด์เพิ่มเติมเมื่อใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ


ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
17144043062783668548
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false