กฎมูลค่า Conversion ช่วยให้คุณปรับมูลค่า Conversion เพื่อบันทึกมูลค่าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณโดยอิงตามเงื่อนไข เช่น สถานที่ตั้ง อุปกรณ์ และแอตทริบิวต์ของลูกค้าได้
กฎมูลค่า Conversion มีผลเฉพาะกับแคมเปญ Search, Shopping, Display และแคมเปญ Performance Max เท่านั้น
เมื่อตั้งกฎแล้ว คุณจะดูผลลัพธ์ของกฎมูลค่า Conversion ได้จากคอลัมน์มูลค่า Conversion ในตารางการกระทําที่ถือเป็น Conversion โปรดอ่านดูการรายงานกฎมูลค่า Conversion กฎเหล่านี้ยังใช้กับการเพิ่มประสิทธิภาพการเสนอราคาตามมูลค่าในแคมเปญที่ใช้การเสนอราคา ROAS เป้าหมาย การเสนอราคาแบบเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุดและแคมเปญ Performance Max
วิธีการ
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู
- คลิกกฎมูลค่า
- คลิกสร้างกฎมูลค่า Conversion
- หากใช้เครื่องมือวัด Conversion ข้ามบัญชี คุณต้องตั้งกฎมูลค่า Conversion จากบัญชีระดับผู้จัดการ
- หากรายงานการเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้าน คุณจะมีตัวเลือกในการเลือกเป้าหมาย Conversion ซึ่งได้แก่ เป้าหมาย Conversion ทั้งหมด การเข้าชมร้านค้า หรือยอดขายในร้านค้า
- เลือกกฎมูลค่า Conversion สําหรับ "เงื่อนไขหลัก" แล้วเลือกกลุ่มเป้าหมาย อุปกรณ์ สถานที่ตั้ง หรือไม่มีเงื่อนไข และหมวดหมู่ย่อยที่เกี่ยวข้อง
- หมายเหตุ: "ไม่มีเงื่อนไข" จะปรากฏต่อเมื่อคุณมีตัวเลือกในการเลือก "การเข้าชมร้านค้า" หรือ "ยอดขายในร้านค้า" เป็นเป้าหมาย Conversion เท่านั้น "ไม่มีเงื่อนไข" หมายความว่าคุณกําลังตั้งกฎที่มีผลกับการกระทําที่ถือเป็น Conversion ร้านค้าเพียงฝ่ายเดียว ไม่ใช่ชุดย่อยของการกระทํา เช่น กลุ่มเป้าหมาย ภูมิศาสตร์ หรืออุปกรณ์
- คุณสามารถเลือก "เงื่อนไขรอง" (ไม่บังคับ) ได้จากเงื่อนไขหลักที่เหลืออยู่ หากเลือกเงื่อนไขรอง ลูกค้าต้องมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขหลักและเงื่อนไขรอง จึงจะมีการนำกฎมูลค่าไปใช้
- หมายเหตุ: กฎมูลค่าทั้งหมดในบัญชีต้องใช้เงื่อนไขหลักและเงื่อนไขรอง (ไม่บังคับ) ประเภทเดียวกัน เช่น หากกฎมูลค่าข้อที่ 1 มีเงื่อนไขหลักเป็น "สถานที่ตั้ง" และเงื่อนไขรองเป็น "อุปกรณ์" กฎมูลค่าอื่นๆ ทั้งหมดจะต้องมีเงื่อนไขหลักเป็น "สถานที่ตั้ง" หากกฎมูลค่าอื่นมีเงื่อนไขรองด้วย เงื่อนไขนั้นก็ต้องเป็น "อุปกรณ์" หากจําเป็นต้องเปลี่ยนประเภทเงื่อนไขที่ใช้ในกฎมูลค่า คุณจะต้องลบกฎมูลค่าทั้งหมด แล้วสร้างกฎใหม่ที่ใช้เงื่อนไขสอดคล้องกัน
- ส่วนตัวอย่างของ "กฎมูลค่า Conversion" จะแสดงคำสั่ง "หาก/และ/ให้" ตามกฎที่คุณระบุไว้ คำสั่งเหล่านี้จะมีผลกับทั้งกฎที่รวมไว้และกฎที่ยกเว้น
- หมายเหตุ: ไม่มีตัวเลือก "หรือ" แต่เมื่อคุณเลือกตัวเลือกหลายรายการในเงื่อนไขหลักหรือเงื่อนไขรอง เราจะใช้คำสั่ง "หรือ" กับตัวเลือกแต่ละรายการโดยอัตโนมัติ เช่น หากคุณเลือกเมือง 2 เมือง กฎจะมีผลกับเมืองใดเมืองหนึ่ง
- ในส่วน "มูลค่า" ให้กำหนดการปรับมูลค่าเมื่อเงื่อนไขมีผล ดังนี้
- เพิ่ม: เพิ่มค่าบวก (มากกว่า 0) เข้าไปในมูลค่า Conversion ที่กําลังส่ง
- คูณ: คูณค่าที่กำลังส่งด้วยมูลค่าที่ป้อนในช่อง โปรดทราบว่าค่านี้อยู่ในช่วง 0.5 ถึง 10
- ตั้งค่า: ตั้งค่าที่เจาะจง (ในรุ่นเบต้า โปรดติดต่อตัวแทนของ Google หากไม่พบตัวเลือกนี้และต้องการทดสอบ)
- คลิกบันทึก กฎจะปรากฏในตาราง "กฎมูลค่า"
ข้อควรทราบ
- คุณกําหนดเงื่อนไขได้สูงสุด 2 ข้อต่อกฎ และจะระบุเงื่อนไขรองหรือไม่ก็ได้
- ขณะตั้งกฎ เมื่อเลือกประเภทเงื่อนไขหลักแล้ว เงื่อนไขรองต้องเป็นประเภทอื่น เช่น หากประเภทเงื่อนไขหลักคือสถานที่ตั้ง (เช่น "เชียงใหม่") เงื่อนไขรองจะเป็นสถานที่ตั้งด้วยไม่ได้
- เมื่อสร้างกฎมูลค่าแล้ว กฎมูลค่าข้อต่อๆ ไปทั้งหมดต้องมีเงื่อนไขเดียวกัน
- คุณเลือกตัวเลือกได้มากกว่า 1 รายการเมื่อตั้งกฎ แต่กฎจะใช้คำสั่ง "หรือ" กับตัวเลือกแต่ละรายการในส่วนตัวอย่าง เช่น หากคุณเลือก "กรุงเทพ" และ "เชียงใหม่" กฎจะมีผลกับลูกค้าในกรุงเทพหรือเชียงใหม่
- คุณสามารถปรับมูลค่าโดยใช้จํานวนเต็มและเปอร์เซ็นต์
- หากใช้มูลค่า Conversion กับ Smart Bidding โดยเฉพาะการเสนอราคา ROAS เป้าหมายหรือการเสนอราคาแบบเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด คุณสามารถใช้กฎมูลค่า Conversion เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้ผู้ใช้ที่มีคุณค่ากับธุรกิจมากกว่าเดิมได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของกฎมูลค่า Conversion ที่มีต่อ Smart Bidding
จะเกิดอะไรขึ้นหากลูกค้ามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของกฎหลายข้อ
ไม่ว่าจะตั้งกฎไว้กี่ข้อก็ตาม กฎ 1 ข้อจะมีผลกับ Conversion 1 รายการเท่านั้น ในกรณีที่ลูกค้ามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของกฎหลายข้อ ระบบจะจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าวโดยใช้หลักเกณฑ์ต่อไปนี้
กฎสถานที่ตั้ง
กฎใดมีผล
กฎสถานที่ตั้งที่เฉพาะเจาะจงที่สุดจะมีผล ในตัวอย่างนี้ กฎสำหรับลูกค้าในเชียงใหม่จะมีผลเนื่องจากเฉพาะเจาะจงมากกว่ากฎสำหรับลูกค้าในไทย
กฎกลุ่มเป้าหมาย
กฎใดมีผล
ระบบจะใช้ลำดับชั้นในการระบุแหล่งที่มาของกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่ ดังนี้
- การจับคู่ข้อมูลลูกค้า
- กลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณและกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน (รวมถึง Google Ads และ YouTube)
- ผู้สนใจและกลุ่มที่มีแผนจะซื้อ
- กลุ่มข้อมูลประชากรโดยละเอียด
หากกฎ 2 ข้อเสมอกัน ระบบจะพิจารณาจากกฎ "คูณ" ไม่ใช่กฎ "เพิ่ม" หากยังเสมอกันอยู่ (มีกฎ "คูณ" มากกว่า 1 ข้อ) ระบบจะเลือกกฎที่มีการปรับตัวคูณสูงสุด
กฎอุปกรณ์
กฎการเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้าน
กฎใดมีผล
กฎการเข้าชมร้านค้ามีผล กฎหมวดหมู่ Conversion (การเข้าชมร้านค้าหรือยอดขายในร้าน) ถือว่าเฉพาะเจาะจงกว่ากฎที่ใช้กับ Conversion ทั้งหมด