เกี่ยวกับรายการโฆษณาข้อเสนอ

รายการโฆษณาข้อเสนอนั้นคล้ายกับรายการโฆษณาที่แสดง และมีรายละเอียดสําหรับธุรกรรมแบบเป็นโปรแกรม #proprosallineitems #proposals

รายการโฆษณาข้อเสนอจะเพิ่มลงในข้อเสนอแบบเป็นโปรแกรมและคล้ายกับรายการโฆษณาสำหรับแสดงโฆษณาใน Ad Manager โดยจะมีรายละเอียดการแสดงโฆษณา รวมถึงข้อมูล เช่น เป้าหมายหรือจำนวนการแสดงผล เวลาเริ่มต้นและสิ้นสุด และการกำหนดเป้าหมาย

หากคุณคุ้นเคยกับรายการโฆษณาดีอยู่แล้ว ก็จะทราบเกี่ยวกับฟีเจอร์หลายอย่างในรายการโฆษณาข้อเสนอ รายการโฆษณาข้อเสนอมีฟีเจอร์เพิ่มเติมเพื่อช่วยในธุรกรรมแบบเป็นโปรแกรม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนในการเพิ่มรายการโฆษณาข้อเสนอ

บทความนี้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการตั้งค่าบางอย่างของรายการโฆษณาข้อเสนอ

ข้อกำหนดสำหรับครีเอทีฟโฆษณา

โดยปกติผู้ซื้อจะโฮสต์ครีเอทีฟโฆษณาไว้ในแพลตฟอร์มฝั่งดีมานด์ (DSP) แม้ว่าจะเลือกมีครีเอทีฟโฆษณาที่ผู้เผยแพร่โฆษณาจัดการไว้ใช้กับการรับประกันแบบเป็นโปรแกรมได้ก็ตาม

ระบุว่าข้อกำหนดสำหรับครีเอทีฟโฆษณาของผู้ซื้อเป็นอย่างไรก่อนที่จะเพิ่มรายการโฆษณาข้อเสนอ ครีเอทีฟโฆษณาเป็นทั้งส่วนหลักและส่วนที่สำคัญที่สุดของแคมเปญจากผู้ลงโฆษณาหรือผู้ซื้อทุกราย และควรกำหนดค่ารายการโฆษณาข้อเสนอให้สอดคล้องกับข้อกำหนดสำหรับครีเอทีฟโฆษณาดังกล่าว 

ในขั้นตอนแรกของการเพิ่มรายการโฆษณาข้อเสนอ คุณต้องเลือกประเภทโฆษณาเป็นแบบดิสเพลย์หรือวิดีโอหรือเสียง สำหรับครีเอทีฟโฆษณาที่ผู้ลงโฆษณาจัดหาให้ ประเภทโฆษณาจะบ่งบอกว่าผู้ซื้อควรอัปโหลดครีเอทีฟโฆษณารายการใดไปยัง Display & Video 360 หรือ DSP อื่นในภายหลัง 

ประเภทโฆษณา

ระบุประเภทของครีเอทีฟโฆษณาที่ควรแสดง รายการโฆษณาข้อเสนอทั้งหมดต้องระบุประเภทโฆษณา ประเภทโฆษณามีดังนี้

อัตรา

ค่าใช้จ่ายที่เจรจาต่อรองกับผู้ซื้อ ซึ่งอาจเป็น CPM หรือ CPD ขึ้นอยู่กับประเภทรายการโฆษณา ผู้ซื้อจะดูและเจรจาต่อรองได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจํานวนที่ป้อนสําหรับอัตราแต่ละประเภท

  • CPD แบบผู้สนับสนุน
  • CPM แบบผู้สนับสนุน
    ค่าใช้จ่ายกับจำนวนการแสดงผลจะสัมพันธ์กันโดยตรง ระบบจะเรียกเก็บเงินผู้ซื้อตามการแสดงผลโฆษณาจริงในช่วงวันที่ที่กำหนด โดยจะไม่เกินขีดจำกัดตามที่ตกลงกันไว้
  • CPM มาตรฐาน

    อัตรา CPM เมื่อคำนวณตามจำนวนจะสะท้อนให้เห็นรายได้ที่เป็นไปได้สำหรับรายการโฆษณาก่อนคำนวณรายได้รวมและออกยอดชำระเงินสุทธิ

  • CPM ของดีลที่ต้องการ
  • หากทำการเปลี่ยนแปลงอัตรา CPD ของรายการโฆษณาแบบเป็นโปรแกรมที่แสดงอยู่ อัตราใหม่จะมีผลในวันที่ผู้ซื้อยอมรับการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น หากทำการเปลี่ยนแปลงวันนี้ แต่ผู้ซื้อยอมรับในวันพรุ่งนี้ อัตราดังกล่าวก็จะมีผลในวันพรุ่งนี้  
  • สำหรับดีลแบบผู้สนับสนุนที่มีการรับประกันแบบเป็นโปรแกรม (CPM หรือ CPD) ให้ดูที่ส่วน "รายละเอียดตามการกําหนดเป้าหมาย" ในการคาดการณ์เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ซื้อได้อัปโหลดครีเอทีฟโฆษณาที่ใช้ได้กับการแสดงผลทั้งหมด หากคุณเห็นการแสดงผลของ NPA (Non-Personalized Ad หรือโฆษณาที่ไม่ได้ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้) ในส่วน "ข้อจำกัดของครีเอทีฟโฆษณา" มีจำนวนมาก โปรดแนะนำผู้ซื้อให้อัปโหลดครีเอทีฟโฆษณาที่ไม่ใช่ของบุคคลที่สาม เพื่อให้ดีลมีสิทธิ์แสดงในการแสดงผลที่เป็นไปได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากดีลนั้นมีส่วนแบ่งของเสียงในตลาดเป็น 100%

เกณฑ์การเรียกเก็บเงินต่อวัน (สำหรับแคมเปญ CPD แบบผู้สนับสนุน)

เกณฑ์การเรียกเก็บเงินคือจำนวนการแสดงผลขั้นต่ำที่ต้องแสดงให้เกินในแต่ละวันที่ปฏิทินเพื่อให้คุณได้รับรายได้ในวันใดก็ตามที่มีการแสดงโฆษณา วันที่ปฏิทินคือช่วงเวลา 24 ชั่วโมงที่ประกอบขึ้นเป็นวันที่แสดงโฆษณา โดยเริ่มตั้งแต่ 0.01 น. ถึง 24.00 น. ของวันที่แสดงโฆษณา 

แคมเปญต้องแสดงผลมากกว่าจำนวนการแสดงผลขั้นต่ำอย่างน้อย 1 ครั้งแม้ว่าจะแสดงเพียงบางช่วงเวลาของวันที่ปฏิทิน หากแคมเปญแสดงโฆษณาตามจำนวนขั้นต่ำนี้ไม่ได้ จะไม่มีการเรียกเก็บเงินผู้ลงโฆษณา และคุณจะไม่ได้รับค่าตอบแทนสำหรับการแสดงโฆษณาในวันนั้น

เกณฑ์การเรียกเก็บเงินช่วยให้ผู้ลงโฆษณาไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมคงที่ CPD สำหรับรายการโฆษณาที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่ตกลงกันไว้

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ CPD แบบผู้สนับสนุน

  • CPD แบบผู้สนับสนุนไม่รับประกันเต็ม 100% ว่าโฆษณาของผู้ซื้อจะเป็นโฆษณาเดียวที่ปรากฏในช่วงเวลานั้นๆ
  • ในบางกรณีซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อย Ad Manager อาจแสดงครีเอทีฟโฆษณาของผู้ซื้อไม่ได้ ซึ่งเป็นเพราะเบราว์เซอร์ของผู้ใช้ไม่รองรับครีเอทีฟโฆษณา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม Ad Manager ช่วยให้มั่นใจว่าการแสดงผลของคุณจะสร้างรายได้ให้อย่างเต็มที่ด้วยการแสดงโฆษณาที่แข่งขันกันแทน และเนื่องจากสถานการณ์นี้ถือเป็นข้อยกเว้น จึงไม่ควรขาย CPD แบบผู้สนับสนุนเป็นแบบรับประกันส่วนแบ่งของเสียงในตลาดเต็ม 100%
  • CPD แบบผู้สนับสนุนต้องเท่ากับหรือสูงกว่าเกณฑ์การเรียกเก็บเงินในวันที่แสดงโฆษณา เพื่อให้เรียกเก็บเงินจากผู้ลงโฆษณาและให้คุณได้รับค่าตอบแทนจากการแสดงโฆษณา ณ วันนั้นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม การเรียกเก็บเงินและเงินค่าตอบแทนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแสดงผลที่แสดง แต่ขึ้นอยู่กับอัตรา CPD ที่ตกลงกันไว้

จำนวนตามสัญญา (สำหรับแคมเปญ CPM มาตรฐาน)

จำนวนการแสดงผลที่ตั้งเวลาและจองไว้สำหรับผู้ซื้อรายนั้นๆ ภายใต้วันที่และข้อกำหนดของแคมเปญหนึ่งๆ โดยเฉพาะ

ดีลจะหยุดแสดงทันทีหลังจากที่ถึงจำนวนตามสัญญาหรือวันที่สิ้นสุด แล้วแต่ว่าอย่างใดจะถึงก่อน ยอดรวมของการแสดงผลที่ได้แสดงของรายการโฆษณาอาจเกินจำนวนตามสัญญาเล็กน้อยเนื่องจากการนับการแสดงผลแบบล่าช้าหรือคำขอที่มาพร้อมกันซึ่งเกิดขึ้นเมื่อถึงขีดจำกัด ในกรณีเช่นนี้ให้ทำดังนี้

  • ผู้ซื้อจะได้รับการแสดงผลเพิ่มเติมจากสัญญาเล็กน้อยและชำระเงินสำหรับรายการที่เกินมา
  • ผู้เผยแพร่โฆษณาจะเลือกคืนเงินให้ผู้ซื้อได้โดยตรง
  • หรือจะเลือกไม่ดำเนินการใดๆ ก็ได้ เนื่องจากผู้ซื้อได้รับผลประโยชน์จากการแสดงผลที่เกินมา

หลีกเลี่ยงปัญหาอัตราการแสดงโฆษณา

ใช้เวลาหน่วงอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงเพื่อให้ Ad Manager และ Display & Video 360 ซิงค์ข้อมูลการแสดงโฆษณา ดังนั้นเราขอแนะนํากรอบเวลาอย่างน้อย 1 วันในการจัดการดูแลการแสดงโฆษณาและหลีกเลี่ยงปัญหาอัตราการแสดงโฆษณา

ขีดจำกัดการแสดงผล (สำหรับแคมเปญ CPM แบบผู้สนับสนุน)

ขีดจำกัดนี้จะแสดงเป็นช่องการเจรจาต่อรองในดีลและระบุจำนวนการแสดงผลสูงสุดตลอดอายุในรายการผู้สนับสนุนที่ผู้ซื้อใน Display & Video 360 ยินดีที่จะจ่าย

ดีลจะหยุดแสดงเมื่อถึงขีดจำกัดหรือถึงวันที่สิ้นสุด แล้วแต่ว่าอย่างใดจะถึงก่อน ยอดรวมของการแสดงผลที่ได้แสดงของรายการโฆษณาอาจเกินกว่าขีดจำกัดตลอดอายุเล็กน้อยเนื่องจากการนับการแสดงผลแบบล่าช้าหรือคำขอที่มาพร้อมกันซึ่งเกิดขึ้นเมื่อถึงขีดจำกัด ในกรณีเช่นนี้ให้ทำดังนี้

  • ผู้ซื้อจะได้รับการแสดงผลเพิ่มเติมจากสัญญาเล็กน้อยและชำระเงินสำหรับรายการที่เกินมา
  • ผู้เผยแพร่โฆษณาจะเลือกคืนเงินให้ผู้ซื้อได้โดยตรง
  • หรือจะเลือกไม่ดำเนินการใดๆ ก็ได้ เนื่องจากผู้ซื้อได้รับผลประโยชน์จากการแสดงผลที่เกินมา

รายการโฆษณาผู้สนับสนุนที่รับประกัน CPM แบบเป็นโปรแกรมมีให้บริการสำหรับ Display & Video 360 และแพลตฟอร์มฝั่งดีมานด์อื่นๆ ที่ผสานรวมไว้

เคล็ดลับในการกำหนดขีดจำกัดการแสดงผล

กำหนดขีดจำกัดที่พิจารณาทั้งงบประมาณทั้งหมดของผู้ซื้อและการคาดการณ์พื้นที่โฆษณาของผู้เผยแพร่โฆษณา ดังนี้

  • แจ้งให้ผู้ซื้อทราบว่านี่เป็นเป้าหมายรอง ผู้ซื้อกำลังซื้อรายการผู้สนับสนุนเป็นเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งของเสียงในตลาดที่ระบุไว้ในส่วน "เป้าหมาย" และควรเตรียมพร้อมที่จะซื้อการแสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวตามอัตราที่ตกลงกันไว้ ขีดจำกัดการแสดงผลมีไว้เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดและควบคุมไม่ได้
  • เราขอแนะนำให้กำหนดขีดจำกัดไว้สูงกว่าการคาดการณ์ เพื่อให้ดีลมีโอกาสที่จะได้แสดงโฆษณามากขึ้น แต่ถ้าดำเนินการเช่นนี้ โปรดแจ้งให้ผู้ซื้อทราบและดูแลให้ค่าใช้จ่ายยังคงอยู่ภายในงบประมาณของผู้ซื้อ
  • ระหว่างการเจรจาต่อรอง ให้เสนอขีดจำกัดและแจ้งให้ผู้ซื้อทราบว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างเมื่อวันที่ในช่วงเวลาแสดงโฆษณาใกล้เข้ามา และแม้กระทั่งระหว่างที่แคมเปญกำลังแสดงโฆษณา
  • เมื่อดีลได้รับอนุมัติแล้วและแม้แต่ตอนที่ดีลเริ่มแสดงโฆษณาแล้ว ให้ตรวจสอบการคาดการณ์ต่อไปเป็นประจำและปรับเปลี่ยนขีดจำกัดตามต้องการ โดยแจ้งให้ผู้ซื้อทราบค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทุกครั้ง
  • พิจารณาใช้รายการ CPD แบบผู้สนับสนุนในกรณีต่อไปนี้
    • ผู้ซื้อต้องการให้แน่ใจว่าจะได้รับการแสดงผลทุกครั้งในระยะเวลาที่กำหนด
    • ผู้ซื้อมีงบประมาณรายวันสูงสุดที่แน่นอน

บันทึกภายใน

เฉพาะผู้ที่อยู่ในเครือข่าย Ad Manager ของคุณเท่านั้นที่จะมองเห็นได้ ผู้ซื้อจะไม่เห็น บันทึกตรงนี้จะปรากฏในคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องของข้อเสนอนี้และเป็นข้อมูลแบบอ่านอย่างเดียว

ข้อกำหนดเพิ่มเติม

ระบุเงื่อนไขเพิ่มเติมที่คุณและผู้ซื้อต้องปฏิบัติตาม

การกำหนดเป้าหมายที่ผู้ซื้อตั้งค่า 

ผู้ซื้อจะกำหนดเป้าหมาย/ยกเว้นได้ตามรายการกลุ่มเป้าหมาย รายการผู้สนใจ โปรไฟล์ผู้ที่มีแผนจะซื้อ และข้อมูลประชากร (การกำหนดเป้าหมายเท่านั้น) ในรายการโฆษณาข้อเสนอ เมื่อผู้ซื้อยอมรับข้อเสนอแล้ว จะเปลี่ยนการกำหนดเป้าหมายที่เชื่อมโยงกับรายการโฆษณาข้อเสนอนี้ไม่ได้ เว้นแต่คุณจะเปิดข้อเสนออีกครั้ง

การบล็อกข้อมูลตามผู้ใช้มีผลกับรายการผู้สนใจ โปรไฟล์ผู้ที่มีแผนจะซื้อ และการกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากรที่ผู้ซื้อกำหนด

ส่วน "การกําหนดเป้าหมายที่กําหนดโดยผู้ซื้อ" จะระบุว่าผู้ซื้อมีการเพิ่มการกําหนดเป้าหมายใดๆ เหล่านี้หรือไม่

  • Ad Manager จะไม่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการกําหนดเป้าหมายที่กําหนดโดยผู้ซื้อ และคุณจะเปลี่ยนแปลงหรือนำออกไม่ได้ หากคุณต้องการอัปเดตการกําหนดเป้าหมายใดๆ โปรดคุยกับผู้ซื้อโดยตรง
  • ตรวจสอบการคาดการณ์เพื่อให้แน่ใจว่ามีพื้นที่โฆษณาเพียงพอที่จะตอบสนองต่อเป้าหมายของผู้ซื้อ

นอกจากนี้ผู้ซื้อยังเพิ่มการกำหนดเป้าหมายนี้ลงใน RFP (คำขอข้อเสนอ) ได้ด้วย หากผู้ซื้อทำเช่นนั้น รายการโฆษณาข้อเสนอทุกรายการที่เพิ่มในข้อเสนอจะรวมการกำหนดเป้าหมายไว้ด้วยโดยอัตโนมัติ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
16060833503254354999
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
148
false
false