คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการคาดการณ์

เมื่อคุณเรียกใช้การคาดการณ์การเข้าชมหรือพื้นที่โฆษณา Ad Manager จะทำงานอยู่เบื้องหลัง โดยเรียกใช้โมเดลของเซิร์ฟเวอร์โฆษณาเพื่อระบุว่ารายการโฆษณาที่แข่งขันกันจะแสดงโฆษณาในพื้นที่โฆษณาที่คาดการณ์ไว้อย่างไร ค่าที่คาดการณ์ไว้เป็นเพียงการประมาณการและอ้างอิงจากตัวอย่างข้อมูลโดยรวม รวมถึงไม่มีการรับประกัน เนื่องด้วยข้อปลีกย่อยในวิธีที่ Ad Manager เลียนแบบเซิร์ฟเวอร์โฆษณา คุณอาจเห็นตัวเลขที่ไม่ได้คาดไว้

หากกลุ่มพื้นที่โฆษณาได้รับการเข้าชมจากเครือข่ายโดยรวมเพียงส่วนน้อย ก็อาจไม่มีข้อมูลย้อนหลังเพียงพอที่จะสร้างการคาดการณ์ที่แม่นยําเนื่องจากการสุ่มตัวอย่าง

คําอธิบายการสุ่มตัวอย่าง: การสุ่มตัวอย่างเป็นเทคนิคที่ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มประชากรข้อมูล ในบริบทของการคาดการณ์ การสุ่มตัวอย่างจะใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มพื้นที่โฆษณาจํานวนไม่มากและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสร้างการคาดการณ์สําหรับทั้งเครือข่าย อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มพื้นที่โฆษณาที่ถูกสุ่มตัวอย่างไม่เป็นตัวแทนของเครือข่ายโดยรวม การคาดการณ์อาจไม่ถูกต้อง

ต่อไปนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยที่สุดส่วนหนึ่งเกี่ยวกับการคาดการณ์

หมายเหตุ: เราทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงระบบการคาดการณ์ หากคุณมีคำถามที่ไม่ได้ตอบไว้ด้านล่าง โปรดติดต่อทีมสนับสนุนและบอกตัวเลขที่เฉพาะเจาะจง, URL ฯลฯ เราจะวิเคราะห์ปัญหาและระบุว่าระบบทำงานตามที่ควรจะเป็นหรือไม่ หรือมีวิธีใดที่เราจะอัปเดตระบบเพื่อปรับปรุงตัวเลขได้

 

โมเดลการคาดการณ์พิจารณารายการโฆษณาใดบ้าง

โมเดลการคาดการณ์ที่กล่าวถึงด้านบนจะพิจารณารายการโฆษณาแบบมาตรฐานและแบบผู้สนับสนุน (รายการโฆษณาที่รับประกันการแสดงผล) เฉพาะเมื่อจะกำหนดว่ามีการจัดสรรรายการโฆษณาใดบ้างสำหรับการแสดงผลที่คาดการณ์แต่ละรายการ นอกจากนี้ โปรดทราบว่าอาจมีการจัดสรรการแสดงผลรายการโฆษณาที่มีการรับประกันซึ่งมีสถานะ "หยุดชั่วคราว" หรือ "ฉบับร่าง" รวมถึงรายการโฆษณาที่ไม่มีครีเอทีฟโฆษณาด้วย

 

มีการคาดการณ์สำหรับโฆษณาวิดีโอไหม

มี คุณดูพื้นที่โฆษณาที่พร้อมใช้งานสำหรับหน่วยโฆษณาวิดีโอได้ โปรดทราบว่าระบบไม่รองรับการคาดการณ์ในพ็อดที่เพิ่มประสิทธิภาพ

 

เหตุใดรายการโฆษณาที่จองไว้ 2 รายการที่กำหนดเป้าหมายเหมือนกันแต่มีตัวเลขเป้าหมายการแสดงผลต่างกันถึงมีตัวเลขการคาดการณ์ต่างกัน

แม้ว่ารายการโฆษณาดังกล่าวจะมีการกำหนดเป้าหมายเหมือนกัน แต่จำนวนรายการที่ใช้ได้, ที่จองโดยรายการโฆษณาที่มีลำดับความสำคัญเท่ากันหรือต่ำกว่า และที่ใช้ไม่ได้อาจแตกต่างกัน นี่เป็นผลของจำนวนที่เกินและจำนวนที่ขาดของการแสดงผลซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกำหนดลำดับความสำคัญของรายการโฆษณาให้ต่ำลงในขั้นตอนแรกของการจำลองในการคาดการณ์ เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น รายการโฆษณาอื่นๆ สามารถอ้างสิทธิ์ในการแสดงผลที่มิเช่นนั้นแล้วจะเป็นของรายการโฆษณาที่คาดการณ์ ซึ่งทำให้ไม่มีการใช้งานการแสดงผลอื่นๆ

 

เหตุใดการจองใหม่ๆ ถึงมีผลต่อการจองที่มีอยู่

ตัวอย่างเช่น ฉันจองในเดือนมีนาคม และมีการจองเต็มจำนวน ต่อมา ฉันได้จองในเดือนพฤษภาคม และ Ad Manager แจ้งว่าฉันต้องจองมากกว่าจำนวนที่มี เหตุใดการจองในเดือนพฤษภาคมถึงส่งผลต่อการจองของฉันในเดือนมีนาคม

เป้าหมายของระบบของเราคือการเพิ่มประสิทธิภาพให้การดำเนินการสำหรับการจองที่มีอยู่ทั้งหมด ดังนั้น การจองมากกว่าจำนวนที่มี 1 รายการจึงส่งผลต่อการจองที่มีอยู่ทั้งหมดที่มีลำดับความสำคัญเท่ากันหรือต่ำกว่า

 

การคาดการณ์คำนึงถึงแนวโน้มตามเทศกาลไหม

ใช่ เราพิจารณาวันหยุดพักผ่อนและรูปแบบอื่นที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดิมซ้ำๆ ทุกปีในการคำนวณ

  • ฤดูกาลแบบวันหยุด: ระบบจะคาดคะเนการเพิ่มขึ้นหรือการลดลงของการเข้าชมในช่วงวันหยุดยาวต่างๆ
  • ฤดูกาลแบบอยู่ในช่วงเดียวกันทุกปี: ระบบจะตรวจหารูปแบบที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันซ้ำๆ ทุกปี โปรดทราบว่าเราจะใช้ฟีเจอร์นี้เฉพาะเมื่อมีสัญญาณที่ชี้ให้เห็นรูปแบบนี้อย่างชัดเจนเท่านั้น
 

การคาดการณ์คำนึงถึงการกำหนดความถี่สูงสุดไหม

ใช่ จะมีการพิจารณาการกำหนดความถี่สูงสุดด้วย

 

การคาดการณ์คำนึงถึงการกำหนดเป้าหมายโดเมนผู้ใช้ไหม

ใช่ แต่คุณต้องส่งรายการโฆษณาที่บันทึกไว้อย่างน้อย 1 รายการไปยังเป้าหมายโดเมนผู้ใช้เสียก่อน หลังจากที่รายการโฆษณาแรกมีเวลารับการเข้าชมเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ตัวเลขการคาดการณ์จะอัปเดตและจะรวมการกำหนดเป้าหมายโดเมนผู้ใช้ไว้อย่างสมบูรณ์

 

จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเลขการคาดการณ์เมื่อคุณเพิ่มคีย์-ค่าใหม่หรือหน่วยโฆษณาใหม่

ตัวเลขการคาดการณ์จะน้อยกว่าที่คาดไว้จนกว่าจะผ่านระยะเวลาหนึ่งไปแล้วนับจากการเพิ่มหน่วยโฆษณาใหม่ หรือนับจากการเพิ่มคีย์-ค่าไปยังแท็กโฆษณาในเว็บไซต์ ในระหว่างนี้ คุณจะปรับการคาดการณ์ด้วยตัวเองได้ เพื่อพยายามให้ได้ตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นหน่วยโฆษณาใหม่ได้ใกล้เคียงยิ่งขึ้น

 

เหตุใดถึงไม่มีการคาดการณ์การแสดงผลสำหรับหน่วยโฆษณาพิเศษทั้งหมด

หากหน่วยโฆษณาได้รับการกำหนดให้เป็นแบบพิเศษ จะไม่มีรายการโฆษณาใดที่แสดงโฆษณาในหน่วยโฆษณานั้น เว้นแต่จะมีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดแจ้ง ดังนั้น เมื่อคุณตรวจสอบพื้นที่โฆษณาที่ใช้ได้สำหรับรายการโฆษณาหนึ่งๆ ตัวเลขการคาดการณ์จะรวมเฉพาะหน่วยโฆษณาพิเศษที่กำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดแจ้งเท่านั้น

 

เหตุใดตัวเลขการคาดการณ์ถึงไม่ตรงกับรายงานการขายผ่านในอนาคต

จํานวนที่ "ไม่ได้กำหนด" ในรายงานการขายผ่านในอนาคตมักจะมากกว่าตัวเลข "พร้อมใช้งาน" ในการคาดการณ์ หากช่องโฆษณา 2 ช่องอยู่ในหน้าเดียวกัน ช่อง "ไม่ได้กําหนด" จะนับรวมช่องโฆษณาทั้ง 2 ช่อง จำนวนของ "พร้อมใช้งาน" จะพิจารณาในกรณีที่โฆษณาปรากฏในช่องโฆษณา 2 ช่องพร้อมกันไม่ได้ ระบบจึงจะนับรวมเพียง 1 ช่อง

 

การที่การแสดงผลจะจับคู่กับรายการโฆษณาหนึ่งๆ หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการกำหนดเป้าหมายของรายการโฆษณา ไม่ใช่ประเภทของรายการโฆษณา (แบบผู้สนับสนุนกับแบบมาตรฐาน) หรือลำดับความสำคัญ ฯลฯ

 

ระบบจะอัปเดตการคาดการณ์เมื่อใด

การคาดการณ์จะอัปเดตในกรณีต่อไปนี้

  • หลังจากสร้างรายการโฆษณาใหม่: ประมาณ 60 นาที

  • หลังจากเปลี่ยนแปลงรายการโฆษณา: ระหว่าง 1 นาทีถึงประมาณ 60 นาทีขึ้นอยู่กับการแก้ไข

  • หลังจากเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าเครือข่าย (เช่น ตำแหน่งโฆษณา การป้องกัน คีย์-ค่า ฯลฯ): ไม่เกิน 1 วัน
     

ตัวเลขในการคาดการณ์พื้นที่โฆษณาส่งผลต่ออัตราที่แสดงรายการโฆษณาไหม

ไม่ เซิร์ฟเวอร์โฆษณาใช้ขั้นตอนต่างๆ ที่อธิบายไว้ที่นี่เพื่อสร้างแผนในการกำหนดอัตราการแสดงโฆษณาของรายการโฆษณา เมื่อกำหนดอัตราการแสดงโฆษณา เซิร์ฟเวอร์โฆษณาไม่คำนึงถึงการคาดการณ์จากระบบเดียวกันที่ใช้ตรวจสอบพื้นที่โฆษณาที่ใช้ได้

หากเครือข่ายของคุณเปิดให้ใช้การกำหนดรูปแบบการเข้าชมที่คาดไว้เพื่อช่วยกำหนดอัตราการแสดงโฆษณา เซิร์ฟเวอร์โฆษณาจะวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจว่าการเข้าชมพื้นที่โฆษณาเป้าหมายจะเป็นอย่างไรตลอดอายุของรายการโฆษณา อย่างไรก็ตาม การดำเนินการนี้ไม่ขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ที่ใช้ตรวจสอบพื้นที่โฆษณาที่ใช้ได้ ความแตกต่างที่สำคัญก็คือ เมื่อใช้รูปแบบการเข้าชมที่คาดไว้ จะไม่มีการพิจารณารายการโฆษณาในอนาคต

 

เหตุใดรายการโฆษณาที่แข่งขันกันถึงไม่ปรากฏในชุดรายการโฆษณาที่แข่งขันกัน

รายการโฆษณาใดๆ ที่มีการแสดงผลที่แข่งขันกันน้อยกว่า 100 รายการจะไม่แสดงในชุดรายการโฆษณาที่แข่งขันกัน นอกจากนี้ รายการโฆษณาที่แข่งขันกันจะแสดงในหน้าเว็บได้สูงสุด 3,000 รายการ

 

เหตุใดตัวเลขที่ "คาดว่าจะแสดงโฆษณา" ถึงต่างกับ "มีแนวโน้มว่าจะแสดงโฆษณา" หรือ "พร้อมใช้งาน"

“คาดว่าจะมีการแสดงผล” จะมีวิธีคำนวณต่างจาก “มีแนวโน้มว่าจะแสดงผล” และ “ใช้ได้” ดังนี้

  • “มีแนวโน้มว่าจะแสดงผล” และ “ใช้ได้” เป็นตัวเลขที่จะแสดงเมื่อตรวจสอบพื้นที่โฆษณาที่พร้อมใช้งานผ่านปุ่มการคาดการณ์หรือแท็บคาดการณ์ ตัวเลขเหล่านี้จะแสดงจำนวนของการแสดงผลที่คาดว่ารายการโฆษณาของคุณจะชนะโดยไม่รวมการแสดงผลที่จะนำออกจากรายการโฆษณาที่แข่งขันกัน ดังนั้น ตัวเลขเหล่านี้จึงมักจะเป็นจำนวนที่ใกล้ความเป็นจริง เนื่องจากไม่รวมการแสดงผลที่รายการโฆษณาอาจชนะเมื่อแข่งขันกับรายการโฆษณาที่แข่งขันกัน
  • คอลัมน์ “คาดว่าจะมีการแสดงผล” จะปรากฏในหน้าที่แสดงรายการโฆษณาและเป็นส่วนหนึ่งของการคาดการณ์การแสดงผลน้อยไป คอลัมน์นี้แสดงจำนวนการแสดงผลจริงที่คาดว่ารายการโฆษณานี้จะชนะ รวมถึงการแสดงผลที่จะนำออกจากรายการโฆษณาที่แข่งขันกัน ตัวเลขนี้เป็นจำนวนที่มักจะมากกว่าความเป็นจริง เนื่องจากรวมการแสดงผลที่รายการโฆษณาอาจชนะเมื่อแข่งขันกับรายการโฆษณาที่แข่งขันกัน

เราเชื่อว่าตัวเลขทั้ง 2 อย่างนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เผยแพร่โฆษณา หากต้องการทราบจำนวนการแสดงผลที่จองได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อรายการโฆษณาอื่นๆ ผู้เผยแพร่โฆษณาอาจใช้จำนวน “ใช้ได้” หรือ “มีแนวโน้มว่าจะแสดงผล” หากต้องการทราบจำนวนการแสดงผลที่รายการโฆษณาจะชนะจริงๆ แม้ว่าจะต้องนำการแสดงผลออกจากรายการโฆษณาอื่นๆ ให้ผู้เผยแพร่โฆษณาดูที่ “คาดว่าจะมีการแสดงผล”

เราประเมินจำนวนที่คาดการณ์ของเราและความหมายที่จำนวนดังกล่าวมีต่อคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้ให้ตัวเลขที่เป็นประโยชน์กับคุณมากที่สุด เราจะปรับปรุงจำนวนที่คาดการณ์ของเราให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อๆ ไป

 

ใช้การคาดการณ์ในเครือข่ายการซื้อต่อเนื่องได้ไหม

การคาดการณ์สําหรับเครือข่ายการซื้อต่อเนื่องนั้นมีการรองรับและอิงตามการแสดงผลที่ได้รับโฆษณา (โปรแกรมโฆษณาที่ Google และพาร์ทเนอร์เป็นผู้ขาย) และการแสดงผลที่ไม่ได้รับโฆษณา ไม่ใช่ตามยอดการดูหรือคําขอโฆษณา

  • การดูอาจไม่ส่งผลให้เกิดคําขอโฆษณาไปยัง Ad Manager ทุกครั้ง
  • คําขอโฆษณาบางรายการอาจไม่ได้นับรวมในจำนวนการเข้าชมที่ผ่านมาซึ่งใช้ในการคาดการณ์ คําขอที่ยกเว้นได้แก่

    • ไม่มีในการแสดงโฆษณาและมีข้อผิดพลาด VAST (ระบบส่งรายการโฆษณากลับแต่เกิดข้อผิดพลาด)
    • ไม่มีการแสดงโฆษณาและไม่มีข้อผิดพลาด VAST (ผู้ใช้โหลดหน้าเว็บแต่ออกจากหน้าเว็บก่อนที่เฟรมแรกจะโหลด)

เมื่อแก้ปัญหาการคาดการณ์สําหรับการซื้อต่อเนื่อง ให้เปรียบเทียบผลลัพธ์กับข้อมูลการแสดงผลที่ได้รับและที่ไม่ได้รับโฆษณา (รายงานกฎการกำหนดราคาแบบรวมหรือรายงานการขายผ่าน) เพื่อดูว่าสอดคล้องกันหรือไม่

คุณไม่ควรเปรียบเทียบกับยอดดูวิดีโอจาก YouTube Analytics เมื่อทำการคาดการณ์ ไม่มีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างเมตริกทั้งสองนี้ (การคาดการณ์ไม่ได้อิงตามยอดดู) อัตราส่วนระหว่างยอดดูวิดีโอและการแสดงผลที่คาดการณ์อาจได้รับผลกระทบจากหลายสาเหตุอย่างเช่นประเภทวิดีโอ (เช่น วิดีโอสั้น) การตั้งค่าการสร้างรายได้ ความยาวของเนื้อหา จำนวนการเล่นที่ไม่มีการดู (นับเป็นการแสดงโฆษณาแต่ไม่นับเป็นยอดดูเนื่องจากการที่ผู้ใช้ออกจากหน้าไป) หรือตัวบล็อกโฆษณา

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
109781999700485054
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
148
false
false