Google Duo และ Google Meet ได้รวมกันเป็นแอป Meet เวอร์ชันใหม่สำหรับวิดีโอคอลและการประชุม ดูข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใน Google Duo
- คุณสามารถเข้าถึงการประชุมได้ในแอป Meet เวอร์ชันใหม่ และจะถอนการติดตั้ง Meet (เวอร์ชันเดิม) ได้หลังจากย้ายข้อมูลไปยังแอป Meet เวอร์ชันใหม่ แล้ว
- แอป Meet เดิมได้เปลี่ยนชื่อเป็น Meet (เวอร์ชันเดิม)
- ชื่อและไอคอนของ Duo เปลี่ยนเป็น Google Meet แล้ว
ตรวจสอบเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่
แอป Google Meet เวอร์ชันใหม่ : แอป Duo ที่ได้รับการอัปเดต- หากแอป Google Duo เป็นเวอร์ชันล่าสุด แอปจะมีทั้งความสามารถในการวิดีโอคอลและการประชุม รวมทั้งชื่อและไอคอนแอป Google Duo จะเป็น Meet
- หากติดตั้งทั้งแอป Duo และ Meet ไว้ในโทรศัพท์ โปรดอัปเดตแอป Meet ด้วย เนื่องจากแอป Meet เวอร์ชันเดิมของคุณเปลี่ยนเป็น Meet (เวอร์ชันเดิม) แล้ว
- วิดีโอคอลยังคงใช้งานได้ในแอป Duo ที่อัปเดตแล้วในอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ประวัติการสนทนา รายชื่อติดต่อ และข้อความจะยังคงอยู่ ดูวิธีเริ่มต้นใช้งานการโทรใน Google Meet
- ความพร้อมใช้งานของฟีเจอร์การประชุมจะขึ้นอยู่กับแพ็กเกจการสมัครใช้บริการ Google Meet ปัจจุบันของคุณ ดูข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์พรีเมียมของ Meet ที่พร้อมใช้งานในรุ่นต่างๆ ของ Google Workspace
หากประวัติการโทรหรือข้อความไม่แสดงในแอป
คุณต้องใช้แอป Meet เวอร์ชันใหม่จึงจะดูประวัติการโทรและข้อความได้
วิธีตรวจสอบเวอร์ชันของแอปที่คุณใช้อยู่
- ที่ด้านซ้ายบนของแอป ให้แตะเมนู ความช่วยเหลือ
- ที่ด้านขวาบน ให้แตะตัวเลือกเพิ่มเติม ข้อมูลเวอร์ชัน
- หากเวอร์ชันขึ้นต้นด้วย "2022" แสดงว่าคุณกำลังใช้แอป Meet (เวอร์ชันเดิม) ซึ่งไม่มีประวัติการโทรใน Duo ให้เปิดแอป Duo ที่อัปเดตแล้วเพื่อดูประวัติการโทรและข้อความ
- หากเวอร์ชันขึ้นต้นด้วย "17" แสดงว่าคุณกำลังใช้ Meet เวอร์ชันใหม่ หรือแอป Duo ที่อัปเดตแล้ว ซึ่งสามารถดูประวัติการโทรและข้อความได้
หากการประชุมไม่ปรากฏในแอป Duo ที่อัปเดตแล้ว
- หากต้องการเข้าถึงฟีเจอร์การประชุม คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ทั้งนี้บัญชีที่ตั้งค่าโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์เพียงอย่างเดียวจะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์การประชุม
- หากลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว คุณจะได้รับแจ้งให้เชื่อมต่อบัญชี Google เพื่อสร้างกำหนดเวลาหรือเข้าร่วมการประชุม
- แตะรูปโปรไฟล์ ที่มุมบนขวาของโทรศัพท์
- ใน Android: คุณจะเห็นบัญชี Google ที่ลงทะเบียนไว้ในอุปกรณ์
- ใน iOS: คุณจะเห็นบัญชี Google ที่ลงชื่อเข้าใช้แอป Google อื่นๆ ในอุปกรณ์ของคุณ
- หากไม่เห็นบัญชี Google ในรายการ ให้แตะเพิ่มบัญชีอื่น
- เลือกบัญชี Google ที่จะเชื่อมต่อ
- หลังจากเชื่อมต่อ Duo กับบัญชี Google แล้ว คุณก็สามารถใช้ Duo ในอุปกรณ์เครื่องต่างๆ ได้
- ผู้ที่มีข้อมูลบัญชี Google ของคุณ เช่น อีเมล Gmail จะโทรหาคุณได้โดยใช้แอปที่อัปเดตแล้ว
- แตะรูปโปรไฟล์ ที่มุมบนขวาของโทรศัพท์
- ตรวจสอบว่าคุณลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ที่ถูกต้อง เพราะคุณจะดูได้เฉพาะการประชุมที่เชื่อมโยงกับบัญชีที่ลงชื่อเข้าใช้เท่านั้น
- หากคุณเคยใช้ Duo กับบัญชีของธุรกิจหรือ EDU ผู้ดูแลระบบจะควบคุมฟังก์ชันการโทรโดยใช้ปุ่มสลับ "บริการเพิ่มเติมของ Google" ดูวิธีที่ผู้ดูแลระบบจัดการการเข้าถึงบริการ
เคล็ดลับ: หากต้องการใช้ฟีเจอร์และการอัปเดตในอนาคต ให้เปิดการอัปเดตอัตโนมัติ อัปเดตแอปในอุปกรณ์ Android
- หลังจากอัปเดตแอป Google Meet แล้ว แอปจะเปลี่ยนเป็น Meet (เวอร์ชันเดิม)
- หากต้องการรับการอัปเดตล่าสุด ให้ดาวน์โหลดแอป Meet เวอร์ชันใหม่ และถอนการติดตั้งแอป Meet (เวอร์ชันเดิม)
คุณจะเข้าถึงฟีเจอร์ของ Meet ได้หากได้รับการอัปเดตในเดือนกรกฎาคม 2022 ดูวิธีใช้ฟีเจอร์ของ Google Meet ในแอป Google Duo
เคล็ดลับ: อัปเดตแอป Duo เพื่อรับสิ่งต่อไปนี้
- ชื่อและไอคอนใหม่
- ฟีเจอร์การประชุมใหม่ ซึ่งรวมถึงเอฟเฟกต์พื้นหลัง การแชทในสาย และคำบรรยายวิดีโอ
ชื่อและไอคอนของ Duo เปลี่ยนเป็น Google Meet แล้ว
ผู้ใช้ Meet.google.com
คุณยังคงกำหนดเวลา เริ่มต้น และเข้าร่วมการประชุมต่อได้ตามปกติ
สำหรับผู้ใช้ที่เคยลงทะเบียนใน Duo ไว้
หากต้องการใช้การโทรใน Google Meet ให้ไปที่ meet.google.com/calling/
ผู้ใช้ใหม่ที่ต้องการใช้การโทรบนเว็บสามารถลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ได้ 2 วิธี ดังนี้
- ไปที่ meet.google.com/calling/ ในคอมพิวเตอร์
- ดาวน์โหลดแอป Meet เวอร์ชันใหม่ในอุปกรณ์เคลื่อนที่และลงทะเบียนจากในแอป