ปัญหาการจับคู่ที่พักจะเกิดขึ้นเมื่อที่พัก "ไม่ตรงกัน" เนื่องจาก Google ไม่พบสถานที่สำหรับข้อมูลของที่พักใน Google Maps หากคุณมีที่พักไม่ตรงกัน ให้ทำตามวิธีการด้านล่างนี้เพื่อแก้ปัญหาการจับคู่ที่พักโดยใช้เครื่องมือการจับคู่ด้วยตนเอง
แก้ไขโรงแรมที่ไม่มีรายการจับคู่ตรงกัน
- เข้าสู่ระบบบัญชี Hotel Center
- เลือกที่พักจากเมนูการนำทาง
- เข้าไปที่แท็บปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลเพื่อดูโรงแรมที่มีปัญหาสำคัญ ซึ่งอาจทำให้จับคู่ที่พักไม่ได้หรือส่งผลให้เกิดการจับคู่ที่ไม่ถูกต้อง
- ค้นหาโรงแรมที่ต้องการจัดการแล้วคลิกจับคู่ใต้คอลัมน์ "สถานะการจับคู่" เพื่อเปิดเครื่องมือการจับคู่ด้วยตนเอง
- จากหน้าต่าง "จับคู่โรงแรม" ให้วาง URL ของ Google Maps ของโรงแรม
- หมายเหตุ: URL ควรลิงก์ไปยังที่พักแห่งเดียวใน Google Maps (ไม่ใช่ที่พักหลายแห่ง)
- ตรวจสอบว่าชื่อและที่อยู่ของโรงแรมถูกต้อง แล้วคลิกส่ง
แก้ไขโรงแรมที่มีแผนที่ทับซ้อนกัน
การจับคู่ที่พักจะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโรงแรมที่ทับซ้อนกันบนแผนที่
วิธีแก้ไขปัญหาแผนที่ทับซ้อนกัน
- เข้าสู่ระบบบัญชี Hotel Center
- เลือกที่พักจากเมนูการนำทาง
- คลิกปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลหรือกรองสถานะการจับคู่เป็น "ไม่ตรงกัน" และ "แผนที่ทับซ้อนกัน" เพื่อดูโรงแรมที่มีปัญหาสำคัญซึ่งอาจทำให้จับคู่ที่พักไม่ได้
- ค้นหาโรงแรมที่ต้องการจัดการแล้วคลิกแก้ไขใต้คอลัมน์ "แก้ไขปัญหาการจับคู่"
- เลือกโรงแรมที่ถูกต้องในหน้าต่าง "จับคู่ที่พัก"
- หากไม่มีตัวเลือกที่ถูกต้อง คุณอาจเลือกที่จะนำการจับคู่ปัจจุบันออกแล้วป้อน URL ของ Google Maps ที่ถูกต้องแยกกันเมื่อส่งคำขอให้จับคู่ที่พักอีกครั้ง โดยคุณจะดูตัวอย่างชื่อและที่อยู่โรงแรมก่อนส่งได้
- คลิกส่ง
แก้ไขโรงแรมที่ไม่ยอมรับคำขอจับคู่ด้วยตัวเอง
- เข้าสู่ระบบบัญชี Hotel Center
- เลือกที่พักจากเมนูการนำทาง
- คลิกปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลแล้วกรอง "สถานะการแก้ไขด้วยตนเอง" เป็น "ไม่ยอมรับ" เพื่อดูโรงแรมที่ไม่ยอมรับคำขอจับคู่และเหตุผลที่ไม่ยอมรับ
- ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดวิธีแก้ไขปัญหาการจับคู่ซึ่งขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เฉพาะเจาะจง
สาเหตุที่การจับคู่ที่พักล้มเหลว
- คำอธิบาย
- ชื่อในข้อมูลที่พักของ Google แตกต่างจากชื่อที่คุณส่งคำขอจับคู่
- วิธีแก้ไขปัญหา
- เปรียบเทียบชื่อที่คุณส่งคำขอจับคู่กับชื่อของที่พักบน Google Maps หากชื่อแตกต่างกัน ให้อัปเดตชื่อของที่พักในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- หากระบบยังคงไม่จับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติ เจ้าของสามารถเปลี่ยนชื่อที่พักโดยใช้ Business Profile ได้
- ระบบควรจับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการ หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- คำอธิบาย
- ที่อยู่ในข้อมูลที่พักของ Google แตกต่างจากที่อยู่ที่คุณส่งคำขอจับคู่
- วิธีแก้ไขปัญหา
- เปรียบเทียบที่อยู่ที่คุณส่งคำขอจับคู่กับที่อยู่ของที่พักบน Google Maps หากดูเหมือนว่าสาเหตุที่ทำให้ข้อมูลไม่ตรงกันเกิดจากข้อมูลไม่สมบูรณ์หรือขาดหายไป ให้อัปเดตที่อยู่ในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- หมายเหตุ: ที่พักแต่ละรายการต้องมีที่อยู่ธุรกิจที่ถูกต้องซึ่งตรงกันกับสถานที่ตั้งของที่พัก
- หากที่อยู่ในข้อมูลที่พักถูกต้องและที่อยู่ใน Google Maps ไม่ถูกต้อง เจ้าของสามารถเปลี่ยนที่อยู่ของที่พักโดยใช้ Business Profile ได้
- ระบบควรจับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการ หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- เปรียบเทียบที่อยู่ที่คุณส่งคำขอจับคู่กับที่อยู่ของที่พักบน Google Maps หากดูเหมือนว่าสาเหตุที่ทำให้ข้อมูลไม่ตรงกันเกิดจากข้อมูลไม่สมบูรณ์หรือขาดหายไป ให้อัปเดตที่อยู่ในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- คำอธิบาย
- หมายเลขโทรศัพท์ในข้อมูลที่พักของ Google แตกต่างจากหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณส่งคำขอจับคู่
- วิธีแก้ไขปัญหา
- เปรียบเทียบหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณส่งคำขอจับคู่กับหมายเลขโทรศัพท์ที่แสดงบน Google Maps หากหมายเลขโทรศัพท์แตกต่างกัน ให้อัปเดตหมายเลขในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- ระบุหมายเลขโทรศัพท์ได้เพียง 1 หมายเลขต่อรายการ ระบบไม่รองรับการใช้หมายเลขโทรศัพท์หลายหมายเลข (เช่น 650-924-3333/44)
- คุณเพิ่มเครื่องหมายขีดกลาง ช่องว่าง หรือใส่ตัวเลขในวงเล็บเพื่อความชัดเจนได้
- หากคุณใส่รหัสประเทศ ให้เริ่มต้นด้วย "+" ตัวอย่างเช่น +65 6733-3232 เป็นวิธีที่ถูกต้องในการแสดงหมายเลขโทรศัพท์ในสิงคโปร์ ซึ่งรหัสประเทศคือ 65
- หากระบบยังคงไม่จับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติ เจ้าของสามารถเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์โดยใช้ Business Profile เพื่อแสดงหมายเลขติดต่อของที่พักได้
- ระบบควรจับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการ หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- เปรียบเทียบหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณส่งคำขอจับคู่กับหมายเลขโทรศัพท์ที่แสดงบน Google Maps หากหมายเลขโทรศัพท์แตกต่างกัน ให้อัปเดตหมายเลขในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- คำอธิบาย
- พิกัดในข้อมูลที่พักของ Google ไม่ตรงกันกับพิกัดที่คุณส่งคำขอจับคู่
- วิธีแก้ไขปัญหา
- เปรียบเทียบละติจูดและลองจิจูดที่คุณส่งคำขอจับคู่กับละติจูดและลองจิจูดที่แสดงบน Google Maps หากพิกัดแตกต่างกัน ให้อัปเดตพิกัดในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลที่พักใหม่กับ Google
- หากระบบยังคงไม่จับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติ เจ้าของสามารถเปลี่ยนตำแหน่งหมุดโดยใช้ Business Profile ได้
- ระบบควรจับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการ หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- คำอธิบาย
- รูปภาพในข้อมูลที่พักของ Google แตกต่างจากรูปภาพในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
- วิธีแก้ไขปัญหา
- ตรวจสอบว่ารูปภาพที่เชื่อมโยงกับที่พักของคุณแสดงถึงสถานที่เดียวกันกับรูปภาพบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือรูปภาพที่อัปโหลดโดยผู้เข้าชม หากรูปภาพไม่ตรงกัน ให้อัปเดตรูปภาพในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- หมายเหตุ: โปรแกรมรวบรวมรูปภาพ Googlebot ต้องมีสิทธิ์เข้าถึง URL ของรูปภาพ
- ระบบควรจับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติได้ภายใน 2 วันทำการ หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- ตรวจสอบว่ารูปภาพที่เชื่อมโยงกับที่พักของคุณแสดงถึงสถานที่เดียวกันกับรูปภาพบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือรูปภาพที่อัปโหลดโดยผู้เข้าชม หากรูปภาพไม่ตรงกัน ให้อัปเดตรูปภาพในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- คำอธิบาย
- ไม่ใช่โรงแรมและไม่มีบริการที่พัก
- วิธีแก้ไขปัญหา
- ตรวจสอบข้อมูลที่คุณส่งคำขอจับคู่บน Google Maps กับข้อมูลที่คุณระบุไว้ และยืนยันว่าที่พักเป็นไปตามคำจำกัดความของโรงแรมโดย Google
- หากที่พักของคุณไม่ใช่โรงแรม ให้นำที่พักดังกล่าวออกจากข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- คำอธิบาย
- ที่พักในข้อมูลที่พักของคุณเป็นที่พักให้เช่า ไม่ใช่โรงแรม
- วิธีแก้ไขปัญหา
- ตรวจสอบข้อมูลที่คุณส่งคำขอจับคู่บน Google Maps กับข้อมูลที่คุณระบุไว้ และยืนยันว่าที่พักเป็นไปตามคำจำกัดความของโรงแรมโดย Google
- หากที่พักนี้ไม่ใช่โรงแรม ให้นำที่พักดังกล่าวออกจากข้อมูลโรงแรม พาร์ทเนอร์ที่พักให้เช่าปัจจุบันจะแชร์ข้อมูลที่พักตากอากาศแยกต่างหากได้ โปรดดูรายละเอียดในคู่มือการผสานรวมที่พักให้เช่า
- คำอธิบาย
- Google Maps แสดงว่าที่พักนี้ปิดถาวร
- วิธีแก้ไขปัญหา
- ตรวจสอบที่พักที่คุณส่งคำขอจับคู่บน Google Maps เพื่อดูว่าเปิดอยู่หรือไม่ หากที่พักปิดไปแล้วแต่ระบบเพิ่มลงในข้อมูลที่พักจากความผิดพลาด ให้นำที่พักดังกล่าวออกแล้วแชร์ข้อมูลที่พักใหม่กับ Google
- หากคิดว่ามีการทำเครื่องหมายที่พักว่าปิดแล้วโดยไม่ได้ตั้งใจ เจ้าของสามารถเปิดที่พักดังกล่าวอีกครั้งโดยใช้ Business Profile ได้
- ระบบควรจับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการ หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- คำอธิบาย
- Google จับคู่ที่พักที่คุณขอไม่ได้เนื่องจากข้อมูลขาดหายไปหรือไม่ครบถ้วน
- วิธีแก้ไขปัญหา
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่คุณส่งคำขอจับคู่บน Google Maps กับข้อมูลที่พักที่คุณระบุไว้ หากข้อมูลขาดหายไปหรือไม่ครบถ้วน เจ้าของสามารถอัปเดตข้อมูลที่ขาดหายไปหรือสร้างและอ้างสิทธิ์ที่พักใน Google Maps โดยใช้ Business Profile ได้
- ระบบควรจับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการ หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- คำอธิบาย
- ที่พักนี้ไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นห้องพักภายในที่พัก
- วิธีแก้ไขปัญหา
- ตรวจสอบข้อมูลที่คุณส่งคำขอจับคู่บน Google Maps กับข้อมูลที่พักที่คุณระบุไว้เพื่อดูว่าที่พักเป็นไปตามคำจำกัดความของโรงแรมโดย Google หรือไม่ ระบบจะไม่อนุญาตให้ใส่ห้องพักส่วนบุคคลและที่พักให้เช่าไว้ในข้อมูลที่พัก
- หากที่พักนี้เป็นที่พักให้เช่า ให้นำที่พักดังกล่าวออกจากข้อมูลที่พัก พาร์ทเนอร์ที่พักให้เช่าปัจจุบันจะแชร์ข้อมูลที่พักตากอากาศแยกต่างหากได้ โปรดดูรายละเอียดในคู่มือการผสานรวมที่พักให้เช่า
- คำอธิบาย
- แบรนด์ในข้อมูลที่พักของ Google ไม่ตรงกับแบรนด์บน Google Maps
- วิธีแก้ไขปัญหา
- ตรวจสอบแบรนด์ที่คุณส่งคำขอจับคู่บน Google Maps กับแบรนด์ที่คุณระบุไว้สำหรับที่พักของคุณ หากแบรนด์แตกต่างกัน ให้อัปเดตแบรนด์ในข้อมูลที่พักแล้วแชร์ข้อมูลใหม่กับ Google
- หากระบบยังคงไม่จับคู่ข้อมูลโดยอัตโนมัติ เจ้าของสามารถรีแบรนด์โรงแรมโดยใช้ Business Profile ได้
- ระบบควรจับคู่ที่พักโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการ หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- คำอธิบาย
- ที่พักในข้อมูลที่พักของ Google ไม่ปรากฏบน Google Maps
- วิธีแก้ไขปัญหา
- ตรวจสอบข้อมูลที่คุณส่งคำขอจับคู่บน Google Maps และยืนยันว่าข้อมูลที่พักที่คุณระบุไว้นั้นถูกต้อง หากที่พักไม่แสดงบน Google Maps เจ้าของสามารถเพิ่มที่พักที่ขาดหายไปผ่าน Business Profile ได้
- หมายเหตุ: ขั้นตอนการเพิ่มที่พักอาจใช้เวลาสูงสุด 3 สัปดาห์
- ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าคุณจะมอบสิทธิ์แบบถาวรและเพิกถอนไม่ได้แก่ Google สำหรับข้อมูลใดๆ ที่ส่งมาเพื่อรวมไว้ใน Google Maps อ่านข้อตกลงอนุญาตให้ใช้เนื้อหา
- คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลเมื่อคำขอให้แสดงบน Google Maps ได้รับการอนุมัติแล้ว ระบบจะเพิ่มที่พักลงใน Google Maps โดยอัตโนมัติเมื่อได้รับการอนุมัติ และควรจับคู่ได้ภายใน 2 วันทำการ หากข้อมูลโรงแรมที่คุณให้ไว้ตรงกับข้อมูลในฟีดข้อมูลโรงแรม หากยังคงจับคู่ไม่ได้ ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองใหม่
- ตรวจสอบข้อมูลที่คุณส่งคำขอจับคู่บน Google Maps และยืนยันว่าข้อมูลที่พักที่คุณระบุไว้นั้นถูกต้อง หากที่พักไม่แสดงบน Google Maps เจ้าของสามารถเพิ่มที่พักที่ขาดหายไปผ่าน Business Profile ได้
อัตราการจับคู่ในบัญชีต่ำ
- คุณมีอัตราการจับคู่ในบัญชีต่ำ Google จึงจับคู่ที่พักนี้ไม่ได้
- นำที่พักที่ไม่ตรงกันทั้งหมดซึ่งเป็นที่พักให้เช่าหรือไม่ใช่โรงแรมในข้อมูลที่พักของคุณออก แล้ว Google จะประเมินที่พักนี้อีกครั้งโดยอัตโนมัติ
ที่พักนี้ไม่ใช่หมวดหมู่โรงแรมที่ถูกต้อง
- สถานที่บน Google Maps ที่ตรงกับที่พักนี้ที่สุดไม่ใช่โรงแรมที่ถูกต้อง
- หาก Google Maps แสดงตำแหน่งของที่พักนี้ไม่ถูกต้อง ให้ส่งคำขอจับคู่ด้วยตัวเองเพื่อจับคู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง
การยืนยันการเปลี่ยนแปลง
หลังจากที่คุณยืนยันการเปลี่ยนแปลงแล้ว Google อาจใช้เวลาสูงสุด 2 สัปดาห์จึงจะแสดงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คุณตรวจสอบสถานะการเปลี่ยนแปลงได้โดยไปที่แท็บ "การเปลี่ยนแปลงล่าสุด" ในหน้า "ที่พัก"
นำการจับคู่ที่พักออก
คุณนำการจับคู่ที่พักที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้แต่มีปัญหาด้านข้อมูลออกได้ หลังจากนำการจับคู่ที่พักออกแล้ว คุณจะเห็นสถานะการจับคู่ที่รอดำเนินการในข้อมูลโรงแรม หากนำการจับคู่ที่พักออกโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณจะต้องจับคู่ที่พักดังกล่าวด้วยตัวเองอีกครั้ง ซึ่งอาจใช้เวลาสูงสุด 14 วัน
วิธีนำการจับคู่ที่พักออก
- เข้าสู่ระบบบัญชี Hotel Center
- เลือกที่พักจากเมนูการนำทาง
- คลิกปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลเพื่อดูโรงแรมที่มีปัญหาสำคัญซึ่งอาจทำให้จับคู่ที่พักไม่ได้
- ค้นหาโรงแรมที่ต้องการจัดการแล้วคลิกยกเลิกการจับคู่ใต้คอลัมน์ "สถานะการจับคู่"
- ในหน้าต่าง "นำการจับคู่ออก" ให้ยืนยันโรงแรมที่ต้องการยกเลิกการจับคู่
- คลิกส่ง