ข้อมูลที่จำเป็นในการสร้างบัญชีนักพัฒนาแอป Play Console

เมื่อสร้างบัญชีนักพัฒนาแอป Play Console คุณต้องให้ข้อมูลบางอย่างซึ่งช่วยให้เรายืนยันตัวตนของคุณ บทความนี้จะกล่าวถึงภาพรวมของข้อมูลที่คุณต้องระบุ ซึ่งจะแตกต่างกันระหว่างบัญชีส่วนตัวกับบัญชีขององค์กร

การสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปสำหรับใช้ส่วนตัว

เมื่อสร้างบัญชีส่วนตัว คุณต้องให้ข้อมูลต่อไปนี้

  • ชื่อนักพัฒนาแอป ซึ่งอาจแตกต่างจากชื่อตามกฎหมายของคุณ
  • ชื่อตามกฎหมาย 
  • ที่อยู่ตามกฎหมาย 
  • อีเมลสำหรับติดต่อเพื่อให้ Google ติดต่อคุณ
  • หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อเพื่อให้ Google ติดต่อคุณ 
  • อีเมลของนักพัฒนาแอปที่แสดงเป็นส่วนหนึ่งของโปรไฟล์นักพัฒนาแอปใน Google Play

ชื่อนักพัฒนาแอปจะปรากฏใน Google Play และเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ 

ระบบจะนำชื่อและที่อยู่ตามกฎหมายของคุณมาจากโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ที่คุณลิงก์ไว้กับบัญชีนักพัฒนาแอประหว่างการสร้างบัญชี คุณจะต้องยืนยันรายละเอียดตัวตนเหล่านี้ก่อนเผยแพร่แอปใน Google Play ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยันข้อมูลตัวตนของนักพัฒนาแอป

Google จะแสดงชื่อตามกฎหมาย ประเทศ (จากที่อยู่ตามกฎหมาย) และอีเมลของนักพัฒนาแอปใน Google Play หากเลือกที่จะสร้างรายได้ใน Google Play ทาง Google จะแสดงที่อยู่แบบเต็มของคุณ

ในบางภูมิภาค นักพัฒนาแอปต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่อาจแสดงใน Google Play เช่น หมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่แบบเต็ม ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความในศูนย์ช่วยเหลือนี้

อีเมลสำหรับติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ และอีเมลของนักพัฒนาแอปต้องยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวและต้องยังคงใช้ได้อยู่ตลอดระยะเวลาที่มีการใช้งานบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนแนวทางปฏิบัติแนะนำด้านล่าง

การสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปสำหรับองค์กร

เมื่อสร้างบัญชีขององค์กร คุณต้องให้ข้อมูลต่อไปนี้

  • ชื่อนักพัฒนาแอป ซึ่งอาจแตกต่างจากชื่อตามกฎหมายของคุณ
  • ข้อมูลต่อไปนี้ตามโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ที่ลิงก์ไว้
    • หมายเลข D-U-N-S (หากบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณเป็นขององค์กรหรือหน่วยงานรัฐบาล โปรดดูส่วนด้านล่าง)
    • ชื่อองค์กร 
    • ที่อยู่ขององค์กร
  • หมายเลขโทรศัพท์ขององค์กร
  • เว็บไซต์ขององค์กร
  • ชื่อผู้ติดต่อ
  • อีเมลสำหรับติดต่อเพื่อให้ Google ติดต่อคุณ 
  • หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อเพื่อให้ Google ติดต่อคุณ 
  • อีเมลของนักพัฒนาแอปที่แสดงเป็นส่วนหนึ่งของโปรไฟล์นักพัฒนาแอปใน Google Play
  • หมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอปที่แสดงเป็นส่วนหนึ่งของโปรไฟล์นักพัฒนาแอปใน Google Play

ชื่อนักพัฒนาแอปจะปรากฏใน Google Play และเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ 

ระบบจะนำชื่อและที่อยู่ขององค์กรมาจากโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ที่คุณลิงก์ไว้กับบัญชีนักพัฒนาแอประหว่างการสร้างบัญชี คุณจะต้องยืนยันรายละเอียดตัวตนเหล่านี้ก่อนเผยแพร่แอปใน Google Play ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยันข้อมูลตัวตนของนักพัฒนาแอป

Google จะแสดงชื่อตามกฎหมาย ที่อยู่ตามกฎหมาย อีเมลของนักพัฒนาแอป และหมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอปใน Google Play เพื่อช่วยปรับปรุงความโปร่งใสและความปลอดภัยของผู้ใช้ใน Google Play 

อีเมลสำหรับติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ อีเมลของนักพัฒนาแอป และหมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอปต้องยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวและต้องยังคงใช้ได้อยู่ตลอดระยะเวลาที่มีการใช้งานบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนแนวทางปฏิบัติแนะนำด้านล่าง

หมายเลข D-U-N-S คืออะไรและฉันจะขอรับหมายเลขนี้ได้อย่างไร

หมายเลข D-U-N-S คือตัวระบุ 9 หลักที่ไม่ซ้ำกันซึ่ง Dun & Bradstreet มอบหมายให้กับองค์กรต่างๆ โดยเป็นหมายเลขที่ใช้กันในวงกว้างเพื่อยืนยันธุรกิจ องค์กรต่างๆ สามารถใช้ Dun & Bradstreet เพื่อดูว่าตนมีหมายเลข D-U-N-S แล้วหรือยัง หรือขอรับหมายเลขนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย องค์กรจำนวนมากมีหมายเลข D-U-N-S อยู่แล้วเพื่อการดำเนินธุรกิจ คุณควรตรวจสอบว่าองค์กรของคุณมีหมายเลขนี้แล้วหรือยังก่อนที่จะขอรับหมายเลขใหม่ ซึ่งทำได้โดยค้นหาเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Dun & Bradstreet คุณสามารถขยายส่วนด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมายเลข D-U-N-S

องค์กรขนาดใหญ่อาจมีหมายเลข D-U-N-S หลายรายการสำหรับนิติบุคคลต่างๆ ที่ประกอบกันเป็นองค์กร ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบว่าหมายเลขที่คุณใช้สร้างบัญชีนักพัฒนาแอปมีรายละเอียดองค์กรที่คุณต้องการเชื่อมโยงกับบัญชีนักพัฒนาแอป

หากยังไม่มีหมายเลข D-U-N-S คุณขอรับหมายเลขนี้ได้จาก Dun & Bradstreet กระบวนการนี้อาจใช้เวลาสูงสุด 30 วัน คุณจึงควรวางแผนล่วงหน้า หากไม่มีหมายเลขนี้ คุณจะสร้างบัญชีนักพัฒนาแอปสำหรับองค์กรไม่ได้

จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันไม่สามารถขอรับหมายเลข D-U-N-S ได้

หากอยู่ในภูมิภาคที่ Dun & Bradstreet ไม่รองรับ คุณสามารถติดต่อทีมสนับสนุนของเราเพื่อขอยืนยันองค์กรด้วยวิธีอื่น

เราจะให้ตัวเลือกในการเริ่มต้นใช้งานด้วยวิธีการอื่นสำหรับองค์กรที่ไม่สามารถขอรับหมายเลข D-U-N-S เท่านั้น และคำขอที่มีคำตอบไม่ครบถ้วนจะไม่ได้รับการพิจารณา เราจะไม่ให้การยกเว้นหรือขยายเวลาสำหรับบัญชีขององค์กรที่ไม่ได้ให้หมายเลข D-U-N-S คุณควรเตรียมข้อมูลที่ต้องระบุนี้ไว้ให้พร้อมก่อนสร้างบัญชีนักพัฒนาแอป

เคล็ดลับ: หากต้องเริ่มต้นใช้งานโดยไม่มีหมายเลข D-U-N-S โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุนก่อนสร้างบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play

องค์กรและหน่วยงานรัฐบาล

หากบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณเป็นขององค์กรหรือหน่วยงานรัฐบาล คุณจะทำการยืนยันให้เสร็จสมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องระบุหมายเลข D-U-N-S อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องติดต่อทีมสนับสนุนเพื่อขอวิธีอื่นในการยืนยันบัญชีนักพัฒนาแอป ซึ่งจะรวมถึงการแชร์โดเมนอีเมลอย่างเป็นทางการของรัฐบาลหรือเว็บไซต์อย่างเป็นทางการที่เราเชื่อมโยงกับบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณได้

เคล็ดลับ: หากต้องเริ่มต้นใช้งานโดยไม่มีหมายเลข D-U-N-S โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุนก่อนสร้างบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play

โปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ที่ลิงก์ไว้

บัญชีนักพัฒนาแอป Play Console จะลิงก์กับโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ขณะสร้างบัญชี ซึ่งเป็นตัวแทนตัวตนในชีวิตจริงของนักพัฒนาแอป โปรไฟล์การชำระเงินนี้ ซึ่งมีชื่อและที่อยู่ตามกฎหมายของคุณ ต้องได้รับการอัปเดตให้เป็นข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอเพื่อให้บัญชีนักพัฒนาแอปมีสถานะดี

หากเลือกที่จะสร้างรายได้ใน Google Play คุณจะต้องสร้างบัญชีผู้ขาย เพื่อให้ได้รับการชำระเงิน คุณต้องกำหนดค่าโปรไฟล์การชำระเงิน ซึ่งอาจเป็นโปรไฟล์เดียวกันกับที่ใช้สร้างบัญชีนักพัฒนาแอปหรือจะเป็นโปรไฟล์อื่นที่คุณต้องการก็ได้ 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยันนักพัฒนาแอป

เพิ่มและยืนยันวิธีการชำระเงิน

นักพัฒนาแอปที่สร้างรายได้ใน Google Play โดยใช้ระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play ต้องยืนยันวิธีการชำระเงินของตนเพื่อรับการชำระเงินและรักษาบัญชีนักพัฒนาแอปให้เป็นไปตามนโยบายของ Google Play

หมายเหตุ: นักพัฒนาแอปที่ลงทะเบียนในโปรแกรมทดลองใช้ก่อนเปิดตัวแบบหลายบุคคลจะเห็นหน้าที่มีชื่อว่า Google Play Billing (แทนโปรไฟล์การชำระเงิน) ในหน้าการตั้งค่า นักพัฒนาแอปที่กำหนดค่าบัญชีการชำระเงินหลายบัญชีโดยเป็นส่วนหนึ่งของการตั้งค่าแบบหลายบุคคลจะต้องยืนยันวิธีการชำระเงินที่ใช้งานอยู่ทั้งหมด ไม่ใช่แค่วิธีการชำระเงินเริ่มต้น

เพิ่มวิธีการชำระเงิน

ก่อนเริ่มต้น โปรดทราบว่ามีเพียงเจ้าของบัญชีเท่านั้นที่จะจัดการบัญชีการชำระเงินของผู้ขายได้

วิธีเพิ่มวิธีการชำระเงิน

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการตั้งค่า
  2. เลือกโปรไฟล์การชำระเงินในส่วน "การสร้างรายได้"
  3. ไปที่ส่วน "ช่องทางรับการชำระเงินของคุณ"
    • หมายเหตุ: นักพัฒนาแอปส่วนใหญ่มีวิธีการชำระเงินของผู้ขายวิธีเดียวสำหรับบัญชีนักพัฒนาแอปของตน นักพัฒนาแอปที่กำหนดค่าการสนับสนุนแบบหลายบุคคลต้องเลือกบัญชีการชำระเงินที่ต้องการจัดการก่อน จึงจะดูส่วน "ช่องทางรับการชำระเงินของคุณ" ได้
  4. คลิกเพิ่มวิธีการชำระเงิน
  5. กรอกข้อมูลที่จำเป็น ได้แก่ ชื่อบัญชีธนาคาร, รหัส Sort และหมายเลขบัญชี
  6. คลิกบันทึก

เมื่อเพิ่มวิธีการชำระเงินแล้ว ระบบอาจแจ้งว่าคุณต้องยืนยันวิธีการชำระเงิน คุณอาจต้องระบุยอดเงินฝากทดสอบให้เสร็จสมบูรณ์หรืออัปโหลดเอกสารทางการเพื่อยืนยันวิธีการชำระเงิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณอยู่ 

ในกรณีนี้ เจ้าของบัญชีจะได้รับอีเมลยืนยันว่าได้เพิ่มวิธีการชำระเงินใหม่แล้ว หากต้องมีการยืนยัน เจ้าของบัญชีจะได้รับอีเมลเกี่ยวกับการยืนยันรูปแบบการชำระเงินของตน

ยืนยันวิธีการชำระเงิน

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าการตั้งค่า
  2. เลือกโปรไฟล์การชำระเงินในส่วน "การสร้างรายได้"
  3. ไปที่ส่วน "ช่องทางรับการชำระเงินของคุณ" หากคุณจำเป็นต้องยืนยันสถานที่ให้เสร็จสมบูรณ์ ส่วนนี้จะมีข้อความระบุว่า "รอการยืนยัน"
    • หมายเหตุ: นักพัฒนาแอปส่วนใหญ่มีวิธีการชำระเงินของผู้ขายวิธีเดียวสำหรับบัญชีนักพัฒนาแอปของตน นักพัฒนาแอปที่กำหนดค่าการสนับสนุนแบบหลายบุคคลต้องเลือกบัญชีการชำระเงินที่ต้องการจัดการก่อน จึงจะดูส่วน "ช่องทางรับการชำระเงินของคุณ" ได้
  4. คลิกยืนยันเพื่อเริ่มกระบวนการยืนยันตัวตน คุณจะต้องระบุยอดเงินฝากทดสอบให้เสร็จสมบูรณ์หรืออัปโหลดเอกสารทางการของธนาคารเพื่อยืนยันวิธีการชำระเงิน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณอยู่ 
    • เงินฝากทดสอบ: เราจะส่งเงินฝากจำนวนเล็กน้อยไปยังบัญชีธนาคารของคุณ ซึ่งหลังจากนั้นคุณต้องยืนยันจำนวนเงินให้ถูกต้องทุกประการโดยการยืนยันเงินฝากใน Play Console
    • อัปโหลดเอกสารทางการของธนาคาร: หากเราไม่สามารถส่งเงินฝากทดสอบ คุณจะต้องอัปโหลดเอกสารทางการของธนาคารเพื่อยืนยันบัญชีธนาคาร

การยืนยันอาจใช้เวลาถึง 5 วัน เราจึงขอแนะนำให้เริ่มกระบวนการตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้า

เคล็ดลับ: คุณดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยันข้อมูลการชำระเงินได้ที่ความช่วยเหลือเกี่ยวกับศูนย์การชำระเงินของ Google

อัปเดตโปรไฟล์การชำระเงินเพื่อใช้ชื่อและที่อยู่ในโปรไฟล์ Dun & Bradstreet

หากบัญชีนักพัฒนาแอปของคุณเป็นบัญชีขององค์กร คุณต้องตรวจสอบว่าชื่อและที่อยู่ตามกฎหมายในโปรไฟล์การชำระเงินด้วยบริการของ Google ตรงกับในโปรไฟล์ Dun & Bradstreet ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการรักษาสถานะและความพร้อมให้บริการของบัญชีนักพัฒนาแอปและแอปใน Google Play

คุณดูข้อมูลโปรไฟล์การชำระเงินของข้อมูลประจำตัวนักพัฒนาแอป Google Play ได้ใน Play Console โดยทำดังนี้

  1. ไปที่หน้าบัญชีนักพัฒนาแอป
  2. คลิกรายละเอียดบัญชี
  3. เลื่อนไปที่ส่วน "รายละเอียดองค์กร" ในแท็บเกี่ยวกับคุณ

คุณจัดการโปรไฟล์การชำระเงินได้อย่างเต็มรูปแบบในศูนย์การชำระเงินของ Google โดยคลิกดูโปรไฟล์การชำระเงินข้างข้อมูลนี้ใน Play Console

สำคัญ: นักพัฒนาแอปที่สร้างรายได้ใน Google Play อาจมีโปรไฟล์การชำระเงินหลายรายการ โปรไฟล์การชำระเงินที่เจาะจงซึ่งเกี่ยวข้องกับการยืนยันเหล่านี้ (ตลอดจนชื่อและที่อยู่ที่ต้องตรงกับโปรไฟล์ Dun & Bradstreet) ควรได้รับการยืนยันใน Play Console โดยใช้ขั้นตอนข้างต้น

หาก Google ตรวจพบข้อมูลไม่ตรงกัน คุณจะได้รับอีเมลและเห็นแบนเนอร์ใน Play Console ที่ระบุว่า "ชื่อหรือที่อยู่องค์กรของคุณไม่ได้รับการยืนยันแล้ว" คุณต้องแก้ไขปัญหานี้ภายในกำหนดเวลาที่ระบุไว้เพื่อไม่ให้บัญชีนักพัฒนาแอปถูกจำกัด ซึ่งจะส่งผลให้แอปทั้งหมดถูกนำออกจาก Google Play

โดยปกติแล้ว เจ้าของบัญชี Play Console จะเข้าถึงศูนย์การชำระเงินของ Google ได้จากการแจ้งเตือนของ Play Console โดยตรงและอนุมัติการอัปเดตที่จำเป็นได้ ดังนี้

  1. คลิก "ดูรายละเอียด" ในแบนเนอร์ใน Play Console
  2. ในส่วน "วิธีแก้ไข" ให้คลิกตรวจสอบรายละเอียด ซึ่งจะนำคุณไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องในศูนย์การชำระเงินของ Google
  3. การดำเนินการนี้จะนำคุณไปยังหน้าที่เกี่ยวข้องในศูนย์การชำระเงินของ Google เลื่อนไปที่ช่องที่มีข้อความ "ขอให้ดำเนินการ" สีแดง
  4. คลิกตรวจสอบการอัปเดต แล้วยืนยันข้อมูล หากถูกต้อง ให้คลิกยืนยันเพื่ออัปเดตโปรไฟล์การชำระเงิน
  5. คลิกรับทราบเพื่อกลับไปที่ศูนย์การชำระเงินของ Google ซึ่งช่องดังกล่าวควรมีสถานะ "ยืนยันแล้ว"

หลังจากนั้นไม่นาน ให้รีเฟรช Play Console แล้วแบนเนอร์การยืนยันไม่ควรแสดงให้เห็นอีกต่อไป ซึ่งเป็นการยืนยันว่าชื่อและที่อยู่ตามกฎหมายได้รับการยืนยันเรียบร้อยแล้ว

ปัญหาที่เกี่ยวข้องซึ่งต้องใช้วิธีแก้ปัญหาอื่น

ปัญหาอื่นๆ ที่คุณอาจพบเกี่ยวกับโปรไฟล์ Dun & Bradstreet หรือหมายเลข D-U-N-S มีดังนี้

  • Dun & Bradstreet ทำเครื่องหมายว่าองค์กรของฉันเลิกกิจการแล้ว: หากโปรไฟล์ Dun & Bradstreet ของคุณถูกแจ้งว่าเลิกกิจการแล้ว โปรดติดต่อ Dun & Bradstreet โดยตรง คุณควรคืนสิทธิให้บัญชีได้โดยเข้าสู่ระบบบัญชี
  • หมายเลข D-U-N-S ขององค์กรมีการเปลี่ยนแปลง: บางครั้ง Dun & Bradstreet จะกำหนดหมายเลข D-U-N-S ใหม่ให้กับโปรไฟล์ D-U-N-S ในกรณีนี้ คุณจะต้องติดต่อทีมสนับสนุนของ Play เพื่อรับความช่วยเหลือ

ข้อกําหนดด้านข้อมูลติดต่อของบัญชีนักพัฒนาแอป

บัญชีนักพัฒนาแอป Play Console ใหม่ทั้งหมดต้องมีข้อมูลติดต่อที่ได้รับการยืนยัน Google Play จะเก็บรวบรวมและยืนยันข้อมูล 2 ชุดจากนักพัฒนาแอปใหม่ ดังนี้

  • หมายเลขโทรศัพท์และอีเมลสำหรับติดต่อที่ Google ใช้เพื่อติดต่อคุณเกี่ยวกับบัญชีนักพัฒนาแอป ซึ่งจะไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็นใน Google Play
  • ข้อมูลนักพัฒนาแอปที่ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี ซึ่ง Google จะแสดงใน Google Play เป็นส่วนหนึ่งของโปรไฟล์นักพัฒนาแอป คุณระบุหมายเลขโทรศัพท์และอีเมลที่แตกต่างกันสำหรับคำถามเรื่องการสนับสนุนแอปของแต่ละแอปได้ในหน้าการตั้งค่า Store ใน Play Console

ข้อมูลนักพัฒนาแอปที่เราเก็บรวบรวมและแสดงใน Google Play จะขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีนักพัฒนาแอปที่สร้างไว้ บัญชีนักพัฒนาแอปส่วนบุคคลจะต้องระบุและยืนยันอีเมลของนักพัฒนาแอป ส่วนองค์กรจะต้องระบุและยืนยันอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอป รายละเอียดทั้งหมดจะยืนยันโดยใช้รหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวระหว่างขั้นตอนการลงทะเบียนบัญชีนักพัฒนาแอป ขั้นตอนการยืนยันเหล่านี้มีไว้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่เรามีอยู่นั้นถูกต้องและเป็นข้อมูลล่าสุด 

นอกเหนือจากรายละเอียดและข้อมูลนักพัฒนาแอปที่ Google Play เก็บรวบรวมแล้ว เราจะขอหมายเลขโทรศัพท์ขององค์กรด้วย หมายเลขโทรศัพท์นี้ควรเป็นหมายเลขที่ผู้ใช้คาดว่าจะพบเมื่อค้นหาองค์กรของคุณบนเว็บหรือสำนักทะเบียนสาธารณะ เช่น Dun & Bradstreet ซึ่งอาจแตกต่างจากข้อมูลที่คุณระบุไว้ในโปรไฟล์นักพัฒนาแอปสาธารณะ ระบบอาจใช้หมายเลขโทรศัพท์ขององค์กรเพื่อยืนยันองค์กรของคุณ และหมายเลขดังกล่าวจะไม่แสดงใน Google Play คุณระบุหมายเลขโทรศัพท์และอีเมลที่แตกต่างกันสำหรับคำถามเรื่องการสนับสนุนแอปของแต่ละแอปได้ในหน้าการตั้งค่า Store ใน Play Console

แนวทางปฏิบัติแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลติดต่อ

ขยายส่วนต่างๆ ด้านล่างเพื่อดูแนวทางปฏิบัติแนะนำในการจัดการข้อมูลติดต่อ (ซึ่งจะไม่แสดงต่อผู้ใช้ใน Google Play) และข้อมูลนักพัฒนาแอป (ซึ่งแสดงต่อผู้ใช้ใน Google Play)

แนวทางปฏิบัติแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลติดต่อ (ไม่ได้แสดงใน Google Play)
  • คุณต้องอัปเดตข้อมูลติดต่ออยู่เสมอเนื่องจากเป็นช่องทางที่ Google จะแจ้งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบัญชีนักพัฒนาแอป ในทำนองเดียวกัน โปรดตรวจสอบว่าข้อมูลติดต่อของนักพัฒนาแอปถูกต้องเพื่อให้ผู้ใช้ติดต่อคุณได้ 
  • เราอาจตรวจสอบเป็นครั้งคราวว่าบัญชีมีการใช้งานหรือไม่ด้วยการส่งอีเมลหรือโทรหาเจ้าของบัญชีโดยใช้รายละเอียดที่คุณให้ไว้ รายละเอียดเหล่านี้จึงจำเป็นต้องมีความถูกต้อง
  • พิจารณาใช้อีเมลสำหรับติดต่อคนละอีเมลกับที่ใช้สร้างบัญชีนักพัฒนาแอป โดยเฉพาะในกรณีที่บัญชีนักพัฒนาแอปจะมีผู้ใช้หลายคน หรือสร้างไว้สำหรับองค์กรหรือธุรกิจ คุณอาจต้องพิจารณาสร้างกล่องจดหมายที่ใช้ร่วมกันสำหรับวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องภายในทีมหรือองค์กรเข้าถึงข้อความสำคัญเหล่านี้ได้
  • อีเมลติดต่อสำหรับบัญชีขององค์กรหรือธุรกิจไม่ควรเป็นอีเมลทั่วไปหรืออีเมลส่วนตัว ใช้อีเมลที่เชื่อมโยงกับองค์กร
แนวทางปฏิบัติแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลนักพัฒนาแอป (แสดงใน Google Play)
  • หากมีบัญชีขององค์กร คุณต้องระบุอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอปที่จะแสดงเป็นส่วนหนึ่งของโปรไฟล์นักพัฒนาแอปใน Google Play ใช้อีเมลอย่างเป็นทางการที่เชื่อมโยงกับองค์กร Google อาจนำแอปของคุณออกจาก Google Play หากเข้าถึงอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ของนักพัฒนาแอปไม่ได้
  • อีเมลของนักพัฒนาแอปสำหรับองค์กรไม่ควรเป็นอีเมลทั่วไปหรืออีเมลส่วนตัว

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
1266897849112483835
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false