Nest × Yale Lock เชื่อมต่อกับ Wi-Fi และแอป Nest ผ่าน Nest Connect ทำตามวิธีการด้านล่างเพื่อติดตั้งและตั้งค่าล็อก วิดีโอภาพรวม: ติดตั้งและตั้งค่า Nest × Yale Lock
หมายเหตุ: Google Nest × Yale Lock ติดตั้งได้กับประตูมาตรฐานส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ประตูต้องเป็นไปตามข้อกำหนดบางอย่างด้านขนาด หลังจากถอดล็อกอันที่ใช้อยู่ออกและติดตั้ง Nest × Yale Lock แล้ว คุณต้องทดสอบและปรับเทียบล็อก จากนั้นเชื่อมต่อกับแอป Nest เพื่อให้ควบคุมด้วยโทรศัพท์ได้
การติดตั้ง Nest × Yale Lock ต้องใช้การจัดวางที่แม่นยำเพื่อเชื่อมต่อชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันกับประตู ขั้นตอนต่างๆ ค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่คุณต้องใส่ใจในรายละเอียดให้มาก
สิ่งสำคัญที่ควรทราบก่อนเริ่มต้น
- ตรวจสอบว่าประตูเป็นไปตามข้อกำหนดต่อไปนี้ (ประตูมาตรฐานส่วนใหญ่จะเป็นไปตามข้อกำหนด) คุณสามารถใช้เทมเพลตที่ให้มาพร้อมคู่มือการติดตั้งหรือจะใช้ตลับเมตรก็ได้
- ประตูต้องมีความหนาขนาดใดขนาดหนึ่งต่อไปนี้
- 1 ⅜ นิ้ว
- 1 ¾ นิ้ว
- 2-2 ¼ นิ้ว
- ประตูต้องมีความหนาขนาดใดขนาดหนึ่งต่อไปนี้
- ตรงกลางของรูล็อกอยู่ในระยะ 2 ⅜ หรือ 2 ¾ นิ้วจากขอบประตู
หมายเหตุ: หากรูล็อกของประตูไม่ตรงตามข้อมูลจำเพาะเหล่านี้ คุณสามารถเจาะรูใหม่หลังจากที่ถอดล็อกเดิมออกแล้วได้ Don’t want to install it yourself? Contact our installation partner, OnTech, to help you check your system’s compatibility, install, and set up your Nest products.
- เก็บล็อกตัวเก่าไว้ใกล้มือ เผื่อว่าจะต้องใช้ Nest × Yale Lock ใช้งานได้กับประตูมาตรฐานส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหา คุณสามารถติดตั้งล็อกตัวเก่าอีกครั้งและขอความช่วยเหลือในการติดตั้ง Make an appointment with our installation partner OnTech, to have a trained pro come to your home, install and set up your Nest products.
- อย่าติดตั้งแบตเตอรี่ก่อน ให้ติดตั้งตามขั้นตอนในวิธีการติดตั้ง การติดตั้งแบตเตอรี่ก่อนอาจทำให้ล็อกปรับเทียบได้ไม่ถูกต้องและมีปัญหาในการล็อก
- ติดตั้งแผ่นรับกลอนประตู Nest × Yale ที่มาพร้อมกับล็อก มิเช่นนั้นอาจทำให้ล็อกติดขัด แม้ว่าแผ่นรับกลอนประตูปัจจุบันอาจมีหน้าตาเหมือนกัน แต่แผ่นรับกลอนประตูของ Yale ได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับล็อกตัวใหม่ได้อย่างพอดี
- ปิดประตูระหว่างการทดสอบล็อกตามที่ระบุไว้ในวิธีการ มิเช่นนั้นล็อกอาจปรับเทียบกับประตูเองและติดขัดได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะปลดล็อกประตูไม่ได้ระหว่างการทดสอบ หากปรับเทียบไม่สำเร็จ ล็อกจะปลดล็อกเองโดยอัตโนมัติ
สิ่งที่ต้องมีเพื่อเริ่มต้นใช้งาน
- Nest × Yale Lock
- สกรูสำหรับยึด
- แบตเตอรี่ AA 4 ก้อน
- กุญแจสำหรับการติดตั้ง
- คู่มือการติดตั้ง
คู่มือการติดตั้งล็อกจะมาพร้อมกับเทมเพลตสำหรับวัดประตู หรือจะใช้ตลับเมตรของคุณเองก็ได้เช่นกัน
คุณจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้ด้วย
- ไขควงปากแฉกหรือสว่านไฟฟ้าที่มีดอกสว่านปากแฉก
- โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตที่เข้ากันได้
- รหัสผ่านเครือข่าย Wi-Fi ของคุณ
- Nest Connect
1. ติดตั้ง Nest x Yale Lock
1. ถอดล็อกตัวเก่าออก
ถอดล็อกและแผ่นรับกลอนประตูตัวปัจจุบันออกหากติดตั้งไว้ที่ประตูแล้ว คุณอาจต้องใช้ไขควงหรือประแจอื่นที่พอดีกับฮาร์ดแวร์ของล็อก
เจาะรูล็อกอีกครั้งหากจำเป็น
หากตรงกลางของรูล็อกไม่ได้อยู่ในระยะ 2 ⅜ หรือ 2 ¾ นิ้วจากขอบประตู คุณจะต้องเจาะรูใหม่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
ใช้ดอกสว่านเจาะไม้ขนาด 2 ⅜ นิ้วและเทมเพลตจากคู่มือการติดตั้งเพื่อปรับตำแหน่งรูใหม่ คุณอาจต้องใช้สิ่วเพื่อปรับตำแหน่งส่วนที่ถูกตัดออกสำหรับแผ่นรับกลอนประตูด้วย
Don’t want to install it yourself? Contact our installation partner, OnTech, to help you check your system’s compatibility, install, and set up your Nest products.
เก็บล็อกตัวเก่าไว้ใกล้มือ
Nest × Yale Lock ใช้งานได้กับประตูมาตรฐานส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหา คุณก็แค่ติดตั้งล็อกตัวเก่าอีกครั้งและขอความช่วยเหลือในการติดตั้ง Make an appointment with our installation partner OnTech, to have a trained pro come to your home, install and set up your Nest products.2. ติดตั้งกลอนเดือยตาย
- ก่อนใส่กลอนเดือยตายในประตู ให้ปรับความยาวของกลอนให้พอดีกับประตูและตรวจสอบว่ากลอนเดือยตายหดกลับอยู่
- กดกลอนเดือยตายเข้าไปในประตูตามภาพที่แสดง จากนั้นใช้สกรูที่ให้มา 2 ตัวเพื่อยึดให้แน่น
สำคัญ: หากใช้สว่าน ให้ใช้การตั้งค่าแรงบิดต่ำเพื่อไม่ให้เกลียวหวาน
3. ติดตั้งแผ่นรับกลอนประตู
สำคัญ: คุณต้องติดตั้งแผ่นรับกลอนประตูใหม่ที่ให้มาพร้อมกับล็อก แม้ว่าจะมีหน้าตาเหมือนแผ่นรับกลอนประตูที่คุณใช้อยู่ในปัจจุบันก็ตาม มิเช่นนั้นอาจทำให้ล็อกติดขัด
ถอดแผ่นรับกลอนประตูอันเดิมออกและติดตั้งแผ่นรับกลอนประตูที่ให้มาเข้ากับกรอบประตู
ตรวจสอบว่ารูในแผ่นรับกลอนประตูตรงกับกลอนเดือยตายของล็อกก่อนติดตั้ง หากไม่ตรง ให้ใช้สิ่วปรับส่วนที่ถูกตัดออกสำหรับแผ่นรับกลอนประตู
หมายเหตุ: คุณจะใช้สกรูสั้นกับไขควงเพื่อให้ติดตั้งได้ง่ายขึ้นหรือใช้สกรูยาวเพื่อเพิ่มความแน่นหนาก็ได้
4. ติดตั้งปุ่มกดที่ด้านนอกประตู
สำคัญ: ตรวจสอบอีกครั้งว่ากลอนเดือยตายหดกลับจนสุดและรูยึดเป็นแนวนอนก่อนที่จะดำเนินการต่อ
- เดินสายผ่านรูล็อก
- กดปุ่มกดเข้าไปในรูให้พอดี ปุ่มกดจะยึดอยู่กับที่
5. ติดตั้งเพลตยึด
-
ดึงเพลตยึดออกจากด้านหลังของล็อก
-
เสียบกุญแจที่ให้มาด้วยในรูที่ด้านบนของล็อกแล้วกดลง ดึงฝาแบตเตอรี่ออก
เคล็ดลับ: คุณใช้หมุดเป๊กแทนกุญแจได้
-
เดินสายของล็อกผ่านรูในเพลตยึดและกดหมุดของเพลตยึดผ่านรูในกลอนเดือยตาย
- ใช้กลอนประตูที่มีความยาวเหมาะกับประตูเพื่อยึดเพลตยึด
-
ก่อนจะติดตั้งให้แน่นจนสุด ให้ตรวจสอบว่าปุ่มกดและเพลตตรงกับประตู คุณอาจใช้เครื่องวัดระดับหากจำเป็น
6. ติดตั้งล็อก
-
เสียบสายเข้ากับตัวเชื่อมต่อบนล็อก โดยจะเสียบได้ทางเดียวเท่านั้น มองหาแท็บเล็กๆ เพื่อจัดวางให้ถูกต้อง จากนั้น เดินสายผ่านตะขอเกี่ยวสายเพื่อยึดให้อยู่กับที่
สำคัญ: ตรวจสอบว่าตัวล็อกแบบใช้นิ้วบิดของล็อกอยู่ในตำแหน่งแนวตั้งและกลอนเดือยตายหดกลับไปจนสุดก่อนยึดล็อกเข้ากับเพลต
-
สอดแกนหมุนผ่านรูและเกี่ยวล็อกเข้ากับด้านล่างของเพลตยึด กดล็อกเข้ากับเพลตให้แน่น ล็อกจะยึดเข้าที่
-
ใช้กลอนประตูสีดำ 2 อันเพื่อขันล็อกเข้ากับเพลตยึด คุณจะเห็นรูสำหรับกลอนประตูในกล่องใส่แบตเตอรี่ของล็อก
2. ทดสอบและตั้งค่าล็อก
1. ทดสอบล็อก
ทดสอบว่าล็อกใช้งานได้กับประตูทั้งที่เปิดและปิดอยู่
-
เมื่อประตูเปิดอยู่
- หมุนตัวล็อกแบบใช้นิ้วบิดเพื่อตรวจสอบว่ากลอนเดือยตายยืดออกจนสุด
- หมุนตัวล็อกแบบใช้นิ้วบิดเพื่อให้กลอนเดือยตายหดกลับจนสุด
-
เมื่อประตูปิดอยู่
-
หมุนตัวล็อกแบบใช้นิ้วบิดเพื่อล็อกประตู
หากรู้สึกถึงแรงต้าน หรือกลอนเดือยตายยืดออกไม่สุด ให้ถอดล็อกออกแล้วตรวจสอบการติดตั้งกลอนเดือยตายและล็อกอีกครั้ง
2. ติดตั้งแบตเตอรี่
- ปิดประตูก่อนติดตั้งแบตเตอรี่
- สำคัญ: ปลดล็อกประตูไว้ขณะที่คุณติดตั้งแบตเตอรี่ หากล็อกประตูไว้ ล็อกอาจไม่สามารถทดสอบและปรับเทียบกับประตูเองได้อย่างถูกต้อง
- ใส่แบตเตอรี่ AA ที่ให้มาด้วยลงในกล่องแบตเตอรี่ ล็อกควรเปิดและส่งเสียงข้อความทักทายของ Nest
- อย่าเพิ่งใส่ฝาแบตเตอรี่ แอป Nest จะให้คุณสแกนโค้ดในกล่องแบตเตอรี่เมื่อคุณเชื่อมต่อ
3. ตั้งรหัสผ่านหลัก
- หากต้องการปลุกระบบล็อก ให้แตะฝ่ามือที่ปุ่มกดหรือกดโลโก้ Yale
- ล็อกจะบอกวิธีตั้งรหัสผ่านชั่วคราวของล็อกก่อนที่คุณจะเชื่อมต่อกับแอป Nest
4. ปรับเทียบกลอนเดือยตาย/ล็อก
3. เชื่อมต่อล็อกกับแอป Nest
1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี
หากเพิ่งเคยใช้ Nest ให้ไปที่ Apple App Store หรือ Google Play เพื่อดาวน์โหลดแอป Nest และสร้างบัญชี
หากมีผลิตภัณฑ์ Nest อยู่แล้ว ให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีในแอป หากยังไม่ได้ทำ
หมายเหตุ: หากในบัญชีมีบ้านมากกว่า 1 หลัง ให้ตรวจสอบก่อนว่าคุณได้เลือกบ้าน Nest ที่ต้องการติดตั้งกล้องไว้ แตะเมนู ที่ด้านซ้ายบนของหน้าจอหลักเพื่อเปลี่ยนบ้าน2. ตั้งค่า Nest Connect
Nest × Yale Lock ไม่เชื่อมต่อ Wi-Fi โดยตรง หากต้องการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและเพิ่มอุปกรณ์ลงในแอป Nest ให้ตั้งค่า Nest Connectก่อน จากนั้นให้ตั้งค่าล็อกต่อ
3. สแกนคิวอาร์โค้ด
ก่อนอื่น ให้เปิดแอป Nest แตะการตั้งค่า เลือกเพิ่มผลิตภัณฑ์
-
แอปจะขอให้คุณสแกนคิวอาร์โค้ดบนผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทราบว่าคุณกำลังจะติดตั้งอุปกรณ์รุ่นใด คิวอาร์โค้ดของ Nest × Yale Lock จะอยู่ในกล่องแบตเตอรี่
-
เริ่มจากถือโทรศัพท์ไว้ห่างประมาณ 1 ฟุตแล้วค่อยๆ เลื่อนเข้าไปใกล้คิวอาร์โค้ด ไม่จำเป็นต้องเห็นโค้ดเต็มช่องในแอปก็สแกนได้
เคล็ดลับ: ขณะสแกนโค้ด ให้ตรวจสอบว่ามีแสงสว่างเพียงพอและไม่มีเงาบดบังโค้ด
-
หากยังสแกนโค้ดไม่ได้ ให้แตะดำเนินการต่อโดยไม่ต้องสแกน แล้วพิมพ์หมายเลขที่ด้านบนของคิวอาร์โค้ดลงไป
-
เมื่อทราบแล้วว่าคุณกำลังจะติดตั้งอุปกรณ์รุ่นใด แอปจะแนะนำคุณในขั้นตอนทั้งหมด
4. เชื่อมต่อล็อกกับแอป
-
บอกแอปว่าคุณติดตั้งล็อกไว้ตรงไหน แอปจะใช้ตำแหน่งนี้เมื่อส่งการแจ้งเตือนให้คุณ ดังนั้นโปรดเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม
-
แอปจะเริ่มมองหาอุปกรณ์ Nest Connect
-
เมื่อพบแล้ว ให้กดปุ่มสีขาวเหนือตัวล็อกแบบใช้นิ้วบิดของล็อกค้างไว้เพื่อเชื่อมต่อล็อกและ Nest Connect
5. ตั้งรหัสผ่าน Nest
ตั้งรหัสผ่าน Nest ด้วยแอป รหัสผ่านนี้จะแทนที่รหัสผ่านหลักที่คุณตั้งไว้ในล็อก
แอปจะถามว่าคุณต้องการตั้งรหัสผ่านสำหรับผู้อื่นที่แชร์การเข้าถึงบ้าน Nest ของคุณด้วยหรือไม่ คุณยังเชิญบุคคลอื่นๆ เพื่อแชร์การเข้าถึงได้ด้วย และสามารถกำหนดเวลาที่จำกัดว่าบุคคลหนึ่งสามารถเข้าบ้านของคุณได้เมื่อใด
เมื่อติดตั้งและตั้งค่าล็อกเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถเริ่มต้นใช้งาน Nest × Yale Lock