แก้ปัญหาการเรียกเก็บเงิน Google Ads ที่ไม่ทราบที่มา
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
โปรดทราบ: การเรียกเก็บเงินของ Google Ads ที่แสดงในรายการเคลื่อนไหวของบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารอาจต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับบัตรเครดิตที่คุณใช้ ปกติแล้ว หากคุณใช้วิธีการชำระเงินต่อไปนี้ ก็จะเห็นรายการที่แสดงดังต่อไปนี้
หาก Google Ads เรียกเก็บเงินคุณ และคุณใช้ Visa หรือ MasterCard เพื่อชำระเงิน คุณอาจเห็นการเรียกเก็บเงินดังต่อไปนี้ในใบแจ้งยอด
- GOOGLE ADS CC@GOOGLE.COM
- GOOGLE*GOOG[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- GOOGLE*SVCS[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- GOOGLE*ADWS[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
หากคุณเห็นรหัสลูกค้ามากกว่า 1 รายการในใบแจ้งยอด อาจหมายความว่าคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1บัญชีที่ผูกอยู่กับวิธีการชำระเงินดังกล่าว
หาก Google Ads เรียกเก็บเงินคุณ และคุณใช้ American Express เพื่อชำระเงิน คุณอาจเห็นการเรียกเก็บเงินดังต่อไปนี้ในใบแจ้งยอด
- GOOGLE LTD. CC@GOOGLE.COM GOOGLE ADS ADVERTISING
- GOOGLE INC. CC@GOOGLE.COM GOOGLE ADS ADVERTISING
- GOOGLE*SVCS[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- GOOGLE*ADWS[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
หากคุณเห็นรหัสลูกค้ามากกว่า 1 รายการในใบแจ้งยอด อาจหมายความว่าคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1บัญชีที่ผูกอยู่กับวิธีการชำระเงินดังกล่าว
หาก Google Ads เรียกเก็บเงินคุณ และคุณใช้วิธีตัดบัญชีโดยตรงเพื่อชำระเงิน คุณอาจเห็นการเรียกเก็บเงินดังต่อไปนี้ในใบแจ้งยอด
- Goog_[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- Google_[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- Google[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- GOOGLE[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- GOOOGLE_A[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- GOOGLE_[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
- GOOGLE ADS[รหัสลูกค้า Google Ads 10 หลัก]
บางครั้งธนาคารอาจดำเนินการล่าช้า ทำให้การเรียกเก็บเงินปรากฏในใบแจ้งยอดธนาคารหลังจากที่แสดงในหน้าสรุปไปแล้ว 2-3 วัน ตัวอย่างเช่น การเรียกเก็บเงินอาจแสดงในหน้าสรุปว่าเกิดขึ้นในวันที่ 7 เมษายน แต่ใบแจ้งยอดธนาคารแสดงเป็นวันที่ 10 เมษายน ความล่าช้าเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ
ตัวบ่งชี้มีรหัสบัญชี Google Ads หรือไม่
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
หากคุณใช้การตั้งค่าการชำระเงินอัตโนมัติ แล้วทำการชำระเงินด้วยตนเอง คุณอาจถูกเรียกเก็บเงินในรอบการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติของคุณ
โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
- มีการชำระเงินอัตโนมัติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะที่คุณทำรายการชำระเงิน: รอบการชำระเงินอัตโนมัติจะตรงต่อเวลา ดังนั้นหากคุณทำการชำระเงินเมื่อกระบวนการนี้กำลังดำเนินการอยู่ ระบบอาจยังเรียกเก็บเงิน เหตุการณ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูง หากคุณทํารายการชําระเงินเมื่อใกล้ถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เมื่อสิ้นเดือนตามปฏิทิน หรือเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน
- ครบรอบการเรียกเก็บเงินของคุณ: หลังจากคุณทำการชำระเงินด้วยตนเอง บัญชีของคุณจะกลับสู่รอบการเรียกเก็บเงินปกติ คุณจะได้รับการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติเมื่อค่าใช้จ่ายของบัญชีถึงเกณฑ์การชําระเงิน หรือหลังจากวันชําระเงินเดียวกันกับการชําระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุด ขึ้นอยู่กับว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เมื่อคุณหยุดแสดงโฆษณาโดยการยกเลิกบัญชีหรือการหยุดชั่วคราวหรือนำแคมเปญออก ระบบ Google Ads อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการหยุดโฆษณาของคุณโดยสิ้นเชิง ณ จุดนี้ คุณจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระบบจะเรียกเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายการโฆษณาที่ยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่โฆษณาจะหยุดทำงาน เนื่องจากระบบของเรามีรอบการเรียกเก็บเงินรายเดือน คุณจึงอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งสุดท้าย
หากต้องการดูว่าคุณค้างชําระค่าใช้จ่ายการโฆษณาหรือไม่ ให้เลือกไอคอนการเรียกเก็บเงิน แล้วเลือกสรุป คุณตรวจสอบยอดดุลปัจจุบันได้ที่ด้านบนของหน้า
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ปริมาณการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในแต่ละวันแตกต่างกัน เพื่อรองรับความผันผวนดังกล่าวและเพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของคุณจะทำงานได้เต็มศักยภาพ Google จึงอาจอนุญาตให้มีการโต้ตอบใน 1 วันสูงกว่างบประมาณรายวันเฉลี่ยที่คุณกำหนดสูงสุด 2 เท่า เราเรียกกรณีดังกล่าวว่าแสดงผลเกินงบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่เรียกเก็บเงิน ระบบของเราจะไม่เรียกเก็บเงินคุณเกินกว่าจำนวนวันในช่วงเวลานั้นคูณด้วยงบประมาณรายวันเฉลี่ย
ตัวอย่างเช่น หากคุณกำหนดงบประมาณไว้ที่ 300 บาทต่อวัน และระบบเรียกเก็บเงินจากคุณเป็นรายเดือน จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายจะเท่ากับ 9,000 บาท
หาก Google แสดงโฆษณาของคุณเกินงบ ซึ่งส่งผลให้คุณมีค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินมากกว่าที่งบประมาณของคุณกำหนดไว้ คุณจะได้รับเครดิตเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีค่าใช้จ่าย 1,050 บาทสําหรับการคลิกใน 1 เดือน แต่คุณมีงบประมาณรายวันเฉลี่ย 30 บาทต่อวัน (คือ 900 บาทต่อช่วงเวลาที่เรียกเก็บเงินรายเดือน) คุณจะได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบ 150 บาท
หมายเหตุ: แคมเปญจ่ายสำหรับ Conversion มีการเรียกเก็บเงินที่ต่างออกไป และเรียกเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของงบประมาณเฉลี่ยรายวัน
วิธีดูว่าคุณได้รับเครดิตจากการแสดงผลเกินงบหรือไม่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนการเรียกเก็บเงิน
- คลิกสรุป
- เปิดการ์ดเดือนที่เหมาะสม แล้วเลือกการปรับค่าใช้จ่าย
- เลือกกิจกรรมแคมเปญ เครดิตของกิจกรรมส่วนเกินจะมีป้ายกํากับเป็น "แสดงผลเกินงบ"
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
การเรียกเก็บเงินมักไม่ได้เกิดขึ้นแค่เดือนละ 1 ครั้งหรือแค่ตอนสิ้นเดือน ในแต่ละเดือนอาจมีการเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง โดยขึ้นอยู่กับเกณฑ์การชำระเงินเป็นหลัก ซึ่งก็คือยอดค่าใช้จ่ายที่กําหนดไว้ในบัญชีของคุณ ยอดค่าใช้จ่ายนี้ทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน ซึ่งหมายความว่าระบบอาจเรียกเก็บเงินคุณมากกว่า 1 ครั้งใน 1 เดือน
หากคุณใช้จ่ายไม่เกินเกณฑ์การชําระเงินใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงินคุณโดยอัตโนมัติในวันเดียวกันทุกเดือน (อาจมีการเปลี่ยนแปลงวันที่ชําระเงินโดยอัตโนมัติสำหรับเดือนที่มีจำนวนวันน้อยกว่านี้หรือปีอธิกสุรทิน)
ตัวอย่างที่ 1
หากเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณคือ 15,000 บาท ระบบจะเรียกเก็บเงินทุกครั้งที่ค่าใช้จ่ายของคุณถึง 15,000 บาทภายในเดือนเดียวกัน หากคุณมีค่าใช้จ่ายรวม 45,000 บาทใน 1 เดือน ระบบจะเรียกเก็บเงิน 15,000 บาท 3 ครั้ง (3 x 15,000 = 45,000 บาท)
ตัวอย่างที่ 2
หากการชำระเงินอัตโนมัติครั้งล่าสุดเป็นการเรียกเก็บเงินตามเกณฑ์จํานวน 15,000 บาทในวันที่ 25 สิงหาคม และคุณมีค่าใช้จ่ายไม่ถึงเกณฑ์อีกครั้งก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม การชําระเงินอัตโนมัติครั้งถัดไปจะเป็นวันที่ 1 กันยายน
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ระบบอาจเรียกเก็บเงินนอกรอบการเรียกเก็บเงินในกรณีต่อไปนี้
- คุณได้ชําระเงินด้วยตนเอง (โดยเลือกปุ่มชําระเงินในบัญชี) แม้ว่าการชำระเงินอัตโนมัติจะได้รับการประมวลผลภายในรอบการเรียกเก็บเงินที่กำหนด แต่คุณจะชำระเงินด้วยตนเองเมื่อใดก็ได้
- บัญชีของคุณอาจได้รับการอัปเกรดเป็นอินเทอร์เฟซการเรียกเก็บเงินใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ ระบบจะเรียกเก็บเงินจากยอดเงินในบัญชีของคุณในขณะที่มีการอัปเกรด แต่จะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการอัปเกรด การเรียกเก็บเงินเพียงครั้งเดียวนี้อยู่นอกเหนือรอบการเรียกเก็บเงินปกติ การเรียกเก็บเงินครั้งต่อๆ ไปทั้งหมดควรอยู่ภายในรอบการเรียกเก็บเงินปกติ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
บางครั้งยอดการเรียกเก็บเงินในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารจะแตกต่างจากยอดที่คุณเห็นในบัญชี Google Ads เล็กน้อย สาเหตุบางประการมีดังนี้
การเรียกเก็บเงินคลาดเคลื่อน 1-2 วัน
กรณีเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเรียกเก็บเงินจะโพสต์ใน Google Ads และรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารคนละวันกัน เนื่องจาก Google Ads และธนาคารดำเนินการด้วยระบบที่ต่างกัน การชำระเงินจึงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันเสมอไปยอดการเรียกเก็บเงินของธนาคารไม่ปรากฏใน Google Ads
หากเกิดกรณีเช่นนี้ คุณจะตรวจสอบทั้ง 2 บัญชีได้ดังนี้
- หากคุณมีบัญชี Google Ads มากกว่า 1 บัญชี ให้ตรวจสอบแต่ละบัญชีเพื่อดูว่ามีการเรียกเก็บเงินหรือไม่ (หลายครั้งที่รหัสลูกค้า 10 หลักของคุณจะปรากฏในรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร) ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแสดงการเรียกเก็บเงินที่ด้านล่าง หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต
- หากคุณยังคงไม่ทราบว่าการเรียกเก็บเงินนั้นมาได้อย่างไร คุณติดต่อทีมสนับสนุนของเราได้ โปรดเตรียมภาพหน้าจอหรือสำเนาเอกสารการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถามไว้ให้พร้อม วิธีนี้จะช่วยให้เราตรวจสอบการเรียกเก็บเงินดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และโปรดขีดทับยอดการเรียกเก็บเงินทั้งหมดและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินที่ต้องการสอบถาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเอง
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากคุณเห็นการเรียกเก็บเงิน 2 รายการที่เหมือนกันจาก Google Ads ในใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร อาจเกิดจาก 2 สาเหตุ ดังนี้
- การขอสิทธิ์ตัดบัญชี: นี่คือคำขอระหว่างระบบการเรียกเก็บเงินของเรากับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตของคุณ คำขอนี้จะเกิดขึ้นเกือบทุกครั้งที่มีการชำระเงิน โดยจะแสดงเป็นจำนวนเงินที่รอดำเนินการซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่มีการเรียกเก็บไปแล้ว โดยปกติคำขอเหล่านี้จะหายไปภายใน 2-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารแต่ละแห่ง
- การเรียกเก็บเงินซ้ำ: อาจมีการเรียกเก็บเงินซ้ำเนื่องจากข้อผิดพลาด ซึ่งหมายความว่าบัญชีของคุณจะถูกเรียกเก็บเงิน 2 ครั้งเป็นจำนวนเงินเดียวกัน โดยที่ในใบแจ้งยอดไม่มีรายการใดเลยที่ระบุว่าอยู่ระหว่างรอดำเนินการ Google ไม่สามารถคืนเงินหรือยกเลิกการชําระเงินได้ แต่เงินที่ชำระเกินจะเก็บเป็นเครดิตค่าโฆษณาในอนาคต บางครั้งอาจมีการชําระเงินอัตโนมัติทั้งๆ ที่ชําระเงินด้วยตนเองไปแล้ว เนื่องจาก Google ยังไม่ได้รับข้อมูลการชําระเงิน
อีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทําให้มีการเรียกเก็บเงินซ้ำคือบัญชีใช้จ่ายสูงเกินไป คุณจึงมีจํานวนเงินถึงเกณฑ์มากกว่า 1 ครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะทําให้มีการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ หากบัญชีใช้จ่ายสูงมาก คุณอาจมีสิทธิ์ปรับเกณฑ์การชำระเงินให้สูงขึ้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงิน
หากรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารแสดงรายการที่เรียกเก็บซ้ำหรือหากยังแสดงคำขอสิทธิ์ตัดบัญชีอยู่ ให้ติดต่อธนาคารเพื่อขอความช่วยเหลือ
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ตารางต่อไปนี้แสดงรายการผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน โปรดตรวจสอบว่าการเรียกเก็บเงินตรงกับผลิตภัณฑ์อื่นของ Google หรือไม่ โปรดทราบว่าหากการเรียกเก็บเงินไม่เกี่ยวข้องกับบัญชี Google Ads ทีมสนับสนุนจะไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ในครั้งนี้
รายการแจ้งยอดบัญชี | ผลิตภัณฑ์ของ Google | ศูนย์ช่วยเหลือ |
---|---|---|
GOOGLE *ADS ID | Google Ads Authorized Buyers ของ Google AdMob | https://support.google.com/google-ads |
GOOGLE *Company | Google Play Store for Apps | https://support.google.com/googleplay |
GOOGLE *CLOUD_BAID | Google Cloud Platform | https://support.google.com/cloud |
GOOGLE *Commerce Ltd | Google Play Music | https://support.google.com/googleplay |
GOOGLE *Developer | Google Play Store for Apps | https://support.google.com/googleplay |
GOOGLE *Devices | Google Store | https://support.google.com/store |
GOOGLE *Domains | Google Domains | https://domains.google/support |
GOOGLE *GOOGLE | YouTube Premium | https://support.google.com/youtubetv |
GOOGLE *Google LLC | Google Play Music | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Google Music | Google Play Music | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Google Play | Google Play Movies & TV | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Google Storage | Google ไดรฟ์ | https://support.google.com/drive |
GOOGLE *Google Store | Google Store | https://support.google.com/store |
GOOGLE *Google Surveys | Google Analytics | https://support.google.com/analytics |
GOOGLE *Google Express | Google Express | https://support.google.com/googleshopping |
GOOGLE *Music | Google Play Music | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Play | Google Play Store for Apps | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Play Credit | บัตรของขวัญ Google Play และการโอนรายการอื่นๆ ไปยังยอดเงินคงเหลือใน Google Play | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Play Newsstand | Google Play Newsstand | https://support.google.com/play |
GOOGLE *PROJECT FI | Google Fi | https://support.google.com/fi |
GOOGLE *SERVICES | Google Fiber | https://support.google.com/fiber |
GOOGLE *Workspace_Domain_name | Google Workspace (เดิมเรียกว่า G Suite) Cloud Identity Drive Enterprise | https://support.google.com/a |
GOOGLE *Voice | Google Voice | https://support.google.com/voice |
GOOGLE *WALLET | Google Pay | https://support.google.com/googlepay |
GOOGLE *YouTube Videos | YouTube Movies | https://support.google.com/youtube |
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม
ตารางต่อไปนี้แสดงรายการผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดการเรียกเก็บเงิน โปรดตรวจสอบว่าการเรียกเก็บเงินตรงกับผลิตภัณฑ์อื่นของ Google หรือไม่ หากผลิตภัณฑ์ตรงกับการเรียกเก็บเงิน เราขอแนะนําให้ไปที่ศูนย์ช่วยเหลือซึ่งแสดงอยู่ในคอลัมน์ทางด้านขวา
รายการแจ้งยอดบัญชี | ผลิตภัณฑ์ของ Google | ศูนย์ช่วยเหลือ |
---|---|---|
GOOGLE *ADS ID | Google Ads Authorized Buyers ของ Google AdMob | https://support.google.com/google-ads |
GOOGLE *Company | Google Play Store for Apps | https://support.google.com/googleplay |
GOOGLE *CLOUD_BAID | Google Cloud Platform | https://support.google.com/cloud |
GOOGLE *Commerce Ltd | Google Play Music | https://support.google.com/googleplay |
GOOGLE *Developer | Google Play Store for Apps | https://support.google.com/googleplay |
GOOGLE *Devices | Google Store | https://support.google.com/store |
GOOGLE *Domains | Google Domains | https://domains.google/support |
GOOGLE *GOOGLE | YouTube Premium | https://support.google.com/youtubetv |
GOOGLE *Google LLC | Google Play Music | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Google Music | Google Play Music | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Google Play | Google Play Movies & TV | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Google Storage | Google ไดรฟ์ | https://support.google.com/drive |
GOOGLE *Google Store | Google Store | https://support.google.com/store |
GOOGLE *Google Surveys | Google Analytics | https://support.google.com/analytics |
GOOGLE *Google Express | Google Express | https://support.google.com/googleshopping |
GOOGLE *Music | Google Play Music | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Play | Google Play Store for Apps | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Play Credit | บัตรของขวัญ Google Play และการโอนรายการอื่นๆ ไปยังยอดเงินคงเหลือใน Google Play | https://support.google.com/play |
GOOGLE *Play Newsstand | Google Play Newsstand | https://support.google.com/play |
GOOGLE *PROJECT FI | Google Fi | https://support.google.com/fi |
GOOGLE *SERVICES | Google Fiber | https://support.google.com/fiber |
GOOGLE *Workspace_Domain_name | Google Workspace (เดิมเรียกว่า G Suite) Cloud Identity Drive Enterprise | https://support.google.com/a |
GOOGLE *Voice | Google Voice | https://support.google.com/voice |
GOOGLE *WALLET | Google Pay | https://support.google.com/googlepay |
GOOGLE *YouTube Videos | YouTube Movies | https://support.google.com/youtube |
คำตอบนี้เป็นประโยชน์ไหม