เกี่ยวกับชิ้นงาน

ชิ้นงานคือชิ้นส่วนเนื้อหาที่ประกอบขึ้นเป็นโฆษณาที่มีข้อมูลทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ ซึ่งดึงดูดให้ผู้ใช้เลือกธุรกิจของคุณมากขึ้น ชิ้นงานประกอบด้วยบรรทัดแรก คําอธิบาย ลิงก์ไปยังส่วนหนึ่งๆ ของเว็บไซต์ ปุ่มโทร ข้อมูลตําแหน่ง และอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกันเพื่อสร้างรูปแบบโฆษณาสุดท้ายที่แสดงต่อผู้ใช้

บทความนี้จะอธิบายหน้าที่ของชิ้นงานแต่ละประเภทและวิธีเลือกชิ้นงานที่เหมาะกับคุณ

วิธีการทำงาน

Google Ads จะเลือกชิ้นงานเพิ่มเติมที่จะแสดงในแต่ละครั้งที่มีการค้นหาใน Google เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทให้ได้สูงสุด ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรใช้ชิ้นงานทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

เมื่อเพิ่มเนื้อหาในโฆษณา ชิ้นงานอย่างไซต์ลิงก์และรูปภาพจะช่วยให้โฆษณาเป็นที่พบเห็นมากขึ้นและโดดเด่นในหน้าผลการค้นหา ซึ่งหมายความว่าคุณน่าจะได้รับความคุ้มค่ามากขึ้นจากโฆษณา ชิ้นงานมักจะเพิ่มจำนวนคลิกโดยรวม และทำให้ผู้คนเข้าถึงคุณได้ด้วยวิธีการอื่นๆ เพิ่มเติมแบบอินเทอร์แอกทีฟ เช่น ด้วยแผนที่หรือการโทร

ชิ้นงานหลายประเภทต้องมีการตั้งค่าเล็กน้อย จึงเรียกว่าชิ้นงานที่กำหนดเอง และ Google Ads จะใส่ชิ้นงานบางประเภทโดยอัตโนมัติเมื่อคาดการณ์ว่าจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้คุณได้ ชิ้นงานเหล่านี้เรียกว่าชิ้นงานอัตโนมัติซึ่งไม่จําเป็นต้องตั้งค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี

ค่าใช้จ่าย

การใส่ชิ้นงานเพิ่มเติมลงในแคมเปญนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย เราจะเรียกเก็บเงินตามปกติสําหรับการคลิกชิ้นงานบรรทัดแรก ไซต์ลิงก์ รูปภาพ และอื่นๆ ในโฆษณาสุดท้าย (ยกเว้นการคลิกคะแนนผู้ขาย ซึ่งจะไม่มีการเรียกเก็บเงิน) ดังนั้น เราจะเรียกเก็บจากคุณสำหรับการคลิกแต่ละครั้งเมื่อมีผู้โทรหาคุณจากไอคอนการโทรในโฆษณาสุดท้าย หรือเมื่อมีผู้ดาวน์โหลดแอปของคุณโดยคลิกแอปที่แสดงในโฆษณาสุดท้าย Google Ads จะเรียกเก็บเงินไม่เกิน 2 คลิกต่อการแสดงผลสำหรับโฆษณาแต่ละรายการและชิ้นงานของโฆษณาดังกล่าว

ต้นทุนต่อคลิกที่จ่ายจริง

การเพิ่มชิ้นงานลงในแคมเปญไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่เราจะเรียกเก็บเงินตามปกติจากการคลิกโฆษณา รวมถึงการโต้ตอบบางอย่างที่เกิดจากชิ้นงาน ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้คลิกปุ่มดาวน์โหลด (ชิ้นงานแอป) ปุ่มโทร (ชิ้นงานการโทร) ไอคอนเส้นทาง (ชิ้นงานสถานที่ตั้ง) เป็นต้น ทั้งนี้ เราจะไม่เรียกเก็บเงินสำหรับการคลิกรีวิวและคะแนนผู้ขาย Google Ads จะเรียกเก็บเงินไม่เกิน 2 คลิก (ต่อการแสดงผล) ในโฆษณาแต่ละรายการและชิ้นงานของโฆษณาดังกล่าว

จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะจ่ายคือจำนวนเงินขั้นต่ำที่จำเป็นในการผ่านเกณฑ์ลำดับโฆษณา และเอาชนะลำดับโฆษณาของคู่แข่งที่อยู่ต่ำกว่าคุณ 1 ตำแหน่ง (หากมี)

โฆษณาที่อยู่ในอันดับที่สูงกว่ามักจะมี CPC จริงสูงกว่า (เนื่องจากการแข่งขันและส่วนหนึ่งคือเกณฑ์ลำดับโฆษณา) ที่สูงกว่า ในทำนองเดียวกัน โฆษณาที่มีชิ้นงานมากกว่าก็มักจะมี CPC จริงสูงกว่าเนื่องจากมีความโดดเด่นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการเพิ่มชิ้นงานในโฆษณามักต่ำกว่าค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการเลื่อนอันดับในหน้าผลการค้นหา หมายความว่าการเลือกใช้ชิ้นงานโฆษณาเพิ่มเติมแทนการเลื่อนอันดับจะช่วยให้ได้รับคลิกเพิ่มขึ้นโดยที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยลง

บรรทัดแรกและคำอธิบาย

บรรทัดแรกและคําอธิบายเป็นชิ้นงานที่จําเป็นซึ่งควรมีลักษณะน่าสนใจ เน้นที่ประโยชน์ของผู้ใช้ และไม่ซ้ำกัน ยิ่งคุณป้อนบรรทัดแรกและคำอธิบายเป็นจำนวนมากเท่าไร Google Ads ก็จะยิ่งมีโอกาสแสดงโฆษณาที่ตรงกับคำค้นหาของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้

หลังจากที่ป้อนบรรทัดแรกและคำอธิบายแล้ว Google Ads จะนำข้อความทั้ง 2 อย่างมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นชุดรวมชิ้นงานโฆษณาหลายๆ แบบโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ซ้ำกัน คุณจะระบุบรรทัดแรกได้สูงสุด 15 รายการและคำอธิบาย 4 รายการต่อโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทรายการเดียว

ในโฆษณาหนึ่งๆ ระบบจะเลือกบรรทัดแรก 1 รายการและคำอธิบาย 1 รายการเป็นอย่างน้อยเพื่อแสดงในชุดรวมชิ้นงานโฆษณาและลำดับต่างๆ ข้อความโฆษณาบางส่วนอาจแสดงเป็นตัวหนาโดยอัตโนมัติเมื่อตรงหรือใกล้เคียงกับคําค้นหาของผู้ใช้ ทั้งนี้ Google Ads จะคอยทดสอบชุดรวมชิ้นงานโฆษณาที่มีแนวโน้มจะทำงานได้ดีที่สุดอยู่เรื่อยๆ และดูว่าชุดรวมใดเกี่ยวข้องกับคำค้นหาต่างๆ มากที่สุด

โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทจะแสดงบรรทัดแรก 1, 2 หรือ 3 รายการโดยพิจารณาจากรายการที่คาดว่าจะทํางานได้ดีที่สุดสําหรับคําค้นหาที่ไม่ซ้ำกันของแต่ละคน ข้อความของชิ้นงานบรรทัดแรกอาจแสดงที่ช่วงต้นของคำอธิบายเมื่อระบบคาดการณ์แล้วว่าทำงานได้ดีที่สุด หากคุณมีชิ้นงานที่ปักหมุดไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดแรก 1, ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1 ชิ้นงานเหล่านั้นจะยังคงแสดงในตำแหน่งที่กำหนดเมื่อโฆษณาแสดง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท

หมายเหตุ: บรรทัดแรกและคําอธิบายต่างจากชิ้นงานอื่นๆ ตรงที่ไม่สามารถใช้ในระดับบัญชีหรือระดับแคมเปญที่ต่างกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพบรรทัดแรกและคําอธิบาย

วิธีเลือกใช้ชิ้นงานเพิ่มเติม

โปรดคำนึงถึงแนวทางปฏิบัติแนะนำต่อไปนี้ขณะที่เลือกและตั้งค่าชิ้นงาน

  • ใช้ทุกชิ้นงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ คุณสามารถเพิ่มชิ้นงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และชิ้นงานจะแสดงขึ้นมาก็ต่อเมื่อระบบคาดว่าจะปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้เท่านั้น
  • พิจารณาเพิ่มชิ้นงานอย่างน้อย 4 ประเภท เช่น คุณอาจเพิ่มไซต์ลิงก์ ข้อความไฮไลต์ รูปภาพ และชิ้นงานที่ต้องการอีก 1 ประเภท
  • สร้างชิ้นงานในระดับบัญชีที่สูงขึ้น (เช่น ที่ระดับบัญชีหรือแคมเปญ หากมี) ในกรณีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
  • ระบบจะไม่นับและไม่แสดงประเภทชิ้นงานแบบอ่านอย่างเดียว แต่ชิ้นงานเหล่านั้นอาจยังแสดงอยู่

เลือกชิ้นงานตามเป้าหมาย

เลือกชิ้นงานเพิ่มเติมตามเป้าหมายการโฆษณาหลัก เป้าหมายที่พบได้บ่อยของผู้ลงโฆษณาและชิ้นงานที่สนับสนุนเป้าหมายเหล่านั้นมีดังนี้

เป้าหมาย: ชักชวนให้ลูกค้ามาซื้อจากที่ตั้งธุรกิจ

หากต้องการนำลูกค้ามายังสถานที่ตั้งจริงของคุณ (เช่น ร้านค้าหรือร้านอาหาร) ให้พิจารณาใช้ชิ้นงานต่อไปนี้

ชิ้นงานสถานที่ตั้ง

กระตุ้นให้ผู้คนไปเยี่ยมชมธุรกิจของคุณด้วยการแสดงสถานที่ตั้ง ปุ่มโทร และลิงก์ไปยังหน้ารายละเอียดธุรกิจ ซึ่งอาจมีข้อมูลเวลาทำการ รูปภาพธุรกิจ และเส้นทางไปยังธุรกิจ หากต้องการให้ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมที่ตั้งธุรกิจของคุณ แต่โทรหาหมายเลขส่วนกลาง (แทนการโทรไปยังหมายเลขของที่ตั้งนั้นๆ) ให้ใช้ชิ้นงานการโทรร่วมกับชิ้นงานสถานที่ตั้ง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานสถานที่ตั้ง

เป้าหมาย: ทำให้ลูกค้าติดต่อคุณ

ถ้าคุณต้องการให้ผู้คนโทรหาหรือส่งข้อความสอบถาม ให้ใช้ชิ้นงานการโทร

ชิ้นงานการโทร

กระตุ้นให้ผู้คนโทรหาธุรกิจของคุณด้วยการใส่หมายเลขโทรศัพท์หรือปุ่มโทรลงในโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานการโทร

เป้าหมาย: ทำให้ลูกค้าทำ Conversion ในเว็บไซต์

หากต้องการนำลูกค้าไปที่เว็บไซต์ ให้ใช้ชิ้นงานต่อไปนี้

ชิ้นงานไซต์ลิงก์

ลิงก์ลูกค้าไปที่หน้าเว็บเจาะจงบนเว็บไซต์ของคุณโดยตรง (เช่น "เวลาทำการ" และ "สั่งซื้อเลย") ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสร้างและแก้ไขชิ้นงานไซต์ลิงก์

ชิ้นงานข้อความไฮไลต์

ใส่ข้อความเพิ่มเติมลงในโฆษณา เช่น "จัดส่งฟรี" หรือ "บริการลูกค้า 24 ชม. ทุกวัน"

ชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

แสดงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากที่สุดด้วยการเลือกส่วนหัวที่กำหนดล่วงหน้า (เช่น หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการ) และรายการสินค้า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติม

ชิ้นงานราคา

แสดงหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการพร้อมราคาเพื่อให้ลูกค้าเรียกดูผลิตภัณฑ์ของคุณได้โดยตรงจากโฆษณา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานราคา

เป้าหมายคือทำให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป

หากต้องการให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปของคุณ ให้ใช้ชิ้นงานแอป

ชิ้นงานแอป

กระตุ้นให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปของคุณ มีให้บริการทั่วโลกสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และแท็บเล็ต Android และ iOS ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานแอป

เป้าหมายคือดึงดูดให้ผู้ใช้ส่งข้อมูล

ใช้ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม หากต้องการกระตุ้นให้ผู้ใช้ส่งข้อมูลติดต่อ (เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และรายละเอียดอื่นๆ) ที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณนําเสนอ

ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

กระตุ้นให้ผู้ใช้ลงชื่อสมัครใช้จากโฆษณา มีให้บริการทั่วโลกสําหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และแท็บเล็ต ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม

วิธีนําชิ้นงานออก

ชิ้นงานจะใส่ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณในโฆษณาและมักจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโฆษณาได้ หากต้องการนําชิ้นงานออก ให้ทําตามวิธีการต่อไปนี้

  1. คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง"
  5. เลือกช่องทางด้านซ้ายของชิ้นงาน แล้วคลิกแก้ไขในแถบสีน้ำเงิน
  6. เลือกนำออกจากเมนูแบบเลื่อนลง

การนําชิ้นงานออกจากแคมเปญหนึ่งจะไม่เป็นการนําชิ้นงานดังกล่าวออกจากแคมเปญอื่นๆ

วิธีปิดชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี

หากต้องการปิดชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง"
  5. คลิกเมนู 3 จุด ทางด้านขวา แล้วเลือกชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี
  6. คลิกเมนู 3 จุด ทางด้านขวาอีกครั้ง แล้วเลือกตัวเลือกขั้นสูง
  7. เลือกปิดชิ้นงานอัตโนมัติที่ต้องการ แล้วเลือกชิ้นงานที่จะปิด
  8. เลือกเหตุผลในการปิดชิ้นงานและใส่ความคิดเห็นเพิ่มเติม
  9. คลิกปิด

ข้อมูลเฉพาะสําหรับชิ้นงานที่ไม่ใช่บรรทัดแรกหรือคําอธิบาย

ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ได้กับชิ้นงานที่ไม่ใช่บรรทัดแรกหรือคําอธิบายเท่านั้น

วิธีตั้งเวลาชิ้นงาน

สําหรับชิ้นงานที่รองรับ คุณตั้งเวลาให้ชิ้นงานแสดงเฉพาะในช่วงเวลาที่เจาะจงของวันหรือในกรอบเวลาที่เจาะจงได้ เช่น ตั้งเวลาชิ้นงานการโทรให้แสดงเฉพาะในเวลาที่ธุรกิจของคุณสามารถรับสายได้

วิธีการ

  1. คลิกไอคอนแคมเปญ ไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
  2. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
  3. คลิกชิ้นงาน
  4. เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง" ตอนนี้คุณจะเห็นตารางที่มีชิ้นงานทั้งหมด
  5. เลือกประเภทชิ้นงานจากรายการเหนือแถบเครื่องมือตาราง
  6. คลิกไอคอนดินสอ ไอคอนดินสอ / ไอคอนแก้ไข ที่ด้านข้างของชิ้นงานที่คุณต้องการตั้งเวลา แล้วเลือกแก้ไข
  7. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงตัวเลือกขั้นสูง
  8. กำหนดวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดเพื่อแสดงชิ้นงานเฉพาะในกรอบเวลานั้น
  9. เลือกวันและเวลาที่ต้องการให้ชิ้นงานแสดงใน "การตั้งเวลาชิ้นงาน" คลิกเพิ่มการตั้งเวลาเพื่อตั้งเวลาวันและเวลาอื่นๆ
  10. คลิกบันทึก

ปัจจัยที่กําหนดว่าชิ้นงานจะแสดงเมื่อใด

Google Ads จะแสดงชิ้นงานโดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น
  • ลำดับโฆษณาเป็นการรวมกันของราคาเสนอ, คุณภาพของโฆษณาและหน้า Landing Page, เกณฑ์ลำดับโฆษณา, บริบทการค้นหาของผู้ใช้ และผลที่คาดว่าจะได้รับจากชิ้นงานและรูปแบบโฆษณาอื่นๆ Google Ads จะกำหนดลำดับโฆษณาขั้นต่ำ (โดยนำชิ้นงานมาประกอบการพิจารณาด้วย) ก่อนที่จะแสดงชิ้นงานเพิ่มเติมพร้อมกับโฆษณา คุณจึงอาจต้องเพิ่มราคาเสนอหรือคุณภาพโฆษณา (หรือทั้ง 2 อย่าง) ชิ้นงานเพิ่มเติมจึงจะแสดง
  • อันดับของโฆษณาในหน้าผลการค้นหาของ Google พื้นที่สำหรับชิ้นงานโฆษณาเหนือผลการค้นหาของ Google มีจำกัด และโฆษณาที่มีอันดับสูงกว่ามีโอกาสที่จะแสดงชิ้นงานเพิ่มเติมก่อน โดยปกติแล้วโฆษณาในอันดับต่ำจะมีชิ้นงานที่เพิ่มน้อยกว่าโฆษณาในอันดับที่สูงกว่า นอกจากนี้ ระบบ Google Ads มักจะไม่อนุญาตให้โฆษณาในอันดับต่ำได้รับคลิกที่เพิ่มขึ้นจากชิ้นงานเป็นจำนวนมากกว่าคลิกที่เพิ่มขึ้นที่ได้รับจากการเลื่อนขึ้นไปอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น หากต้องการแสดงโฆษณาในอันดับสูงขึ้น โดยทั่วไปคุณจะต้องเพิ่มคุณภาพโฆษณา ราคาเสนอ หรือทั้ง 2 อย่าง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลำดับโฆษณา
  • ชิ้นงานอื่นๆ ที่คุณเปิดใช้ โดยทั่วไป ในการประมูลแต่ละครั้ง เราจะแสดงชุดรวมที่ทำงานได้ดีที่สุดและมีประโยชน์มากที่สุดของชิ้นงานและรูปแบบที่มีสิทธิ์ คุณไม่สามารถรับชุดรวมชิ้นงานที่ให้อัตราการคลิกผ่านที่คาดว่าจะได้รับ (CTR) มากกว่า CTR ที่คาดว่าจะได้รับของอันดับโฆษณาที่สูงกว่าได้

วิธีทําให้ชิ้นงานมีโอกาสแสดงมากขึ้น

บางครั้งชิ้นงานที่คุณต้องการใช้อาจไม่แสดงพร้อมกับโฆษณา ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีอะไรผิดปกติ (เช่น หากคุณเพิ่มไซต์ลิงก์และรูปภาพลงในโฆษณา มีสาเหตุหลายประการที่ทําให้หนึ่งในชิ้นงานเหล่านั้นปรากฏในการค้นหาบางรายการแต่ไม่ปรากฏในรายการอื่นๆ)

ตรวจสอบว่าชิ้นงานเชื่อมโยงอยู่กับกลุ่มโฆษณา แคมเปญ หรือบัญชีที่ใช้งานอยู่

เช่นเดียวกับโฆษณาและคีย์เวิร์ด ชิ้นงานมีสิทธิ์ได้รับอนุมัติหรือไม่อนุมัติก็ได้ ชิ้นงานที่ไม่ได้รับอนุมัติจะไม่แสดงและต้องได้รับการแก้ไข และส่งเข้ารับการตรวจสอบอีกครั้ง

แต่แม้ว่าจะได้รับอนุมัติ การเพิ่มชิ้นงานก็ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าชิ้นงานจะแสดงพร้อมกับโฆษณาทุกครั้ง ชิ้นงานจะแสดงพร้อมกับโฆษณาในกรณีต่อไปนี้

  • ระบบคาดการณ์ว่าชิ้นงาน (หรือชุดรวมชิ้นงาน) จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณาได้
  • โฆษณาของคุณมีอันดับและลำดับโฆษณาสูงพอที่จะแสดงชิ้นงาน

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
7675873775994263636
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false