ชิ้นงานคือชิ้นส่วนเนื้อหาที่ประกอบขึ้นเป็นโฆษณาที่มีข้อมูลทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ ซึ่งดึงดูดให้ผู้ใช้เลือกธุรกิจของคุณมากขึ้น ชิ้นงานประกอบด้วยบรรทัดแรก คําอธิบาย ลิงก์ไปยังส่วนหนึ่งๆ ของเว็บไซต์ ปุ่มโทร ข้อมูลตําแหน่ง และอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกันเพื่อสร้างรูปแบบโฆษณาสุดท้ายที่แสดงต่อผู้ใช้
บทความนี้จะอธิบายหน้าที่ของชิ้นงานแต่ละประเภทและวิธีเลือกชิ้นงานที่เหมาะกับคุณ
วิธีการทำงาน
Google Ads จะเลือกชิ้นงานเพิ่มเติมที่จะแสดงในแต่ละครั้งที่มีการค้นหาใน Google เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทให้ได้สูงสุด ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรใช้ชิ้นงานทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ
เมื่อเพิ่มเนื้อหาในโฆษณา ชิ้นงานอย่างไซต์ลิงก์และรูปภาพจะช่วยให้โฆษณาเป็นที่พบเห็นมากขึ้นและโดดเด่นในหน้าผลการค้นหา ซึ่งหมายความว่าคุณน่าจะได้รับความคุ้มค่ามากขึ้นจากโฆษณา ชิ้นงานมักจะเพิ่มจำนวนคลิกโดยรวม และทำให้ผู้คนเข้าถึงคุณได้ด้วยวิธีการอื่นๆ เพิ่มเติมแบบอินเทอร์แอกทีฟ เช่น ด้วยแผนที่หรือการโทร
ชิ้นงานหลายประเภทต้องมีการตั้งค่าเล็กน้อย จึงเรียกว่าชิ้นงานที่กำหนดเอง และ Google Ads จะใส่ชิ้นงานบางประเภทโดยอัตโนมัติเมื่อคาดการณ์ว่าจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้คุณได้ ชิ้นงานเหล่านี้เรียกว่าชิ้นงานอัตโนมัติซึ่งไม่จําเป็นต้องตั้งค่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี
ค่าใช้จ่าย
การใส่ชิ้นงานเพิ่มเติมลงในแคมเปญนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย เราจะเรียกเก็บเงินตามปกติสําหรับการคลิกชิ้นงานบรรทัดแรก ไซต์ลิงก์ รูปภาพ และอื่นๆ ในโฆษณาสุดท้าย (ยกเว้นการคลิกคะแนนผู้ขาย ซึ่งจะไม่มีการเรียกเก็บเงิน) ดังนั้น เราจะเรียกเก็บจากคุณสำหรับการคลิกแต่ละครั้งเมื่อมีผู้โทรหาคุณจากไอคอนการโทรในโฆษณาสุดท้าย หรือเมื่อมีผู้ดาวน์โหลดแอปของคุณโดยคลิกแอปที่แสดงในโฆษณาสุดท้าย Google Ads จะเรียกเก็บเงินไม่เกิน 2 คลิกต่อการแสดงผลสำหรับโฆษณาแต่ละรายการและชิ้นงานของโฆษณาดังกล่าว
บรรทัดแรกและคำอธิบาย
บรรทัดแรกและคําอธิบายเป็นชิ้นงานที่จําเป็นซึ่งควรมีลักษณะน่าสนใจ เน้นที่ประโยชน์ของผู้ใช้ และไม่ซ้ำกัน ยิ่งคุณป้อนบรรทัดแรกและคำอธิบายเป็นจำนวนมากเท่าไร Google Ads ก็จะยิ่งมีโอกาสแสดงโฆษณาที่ตรงกับคำค้นหาของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้
หลังจากที่ป้อนบรรทัดแรกและคำอธิบายแล้ว Google Ads จะนำข้อความทั้ง 2 อย่างมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นชุดรวมชิ้นงานโฆษณาหลายๆ แบบโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้ซ้ำกัน คุณจะระบุบรรทัดแรกได้สูงสุด 15 รายการและคำอธิบาย 4 รายการต่อโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทรายการเดียว
ในโฆษณาหนึ่งๆ ระบบจะเลือกบรรทัดแรก 1 รายการและคำอธิบาย 1 รายการเป็นอย่างน้อยเพื่อแสดงในชุดรวมชิ้นงานโฆษณาและลำดับต่างๆ ข้อความโฆษณาบางส่วนอาจแสดงเป็นตัวหนาโดยอัตโนมัติเมื่อตรงหรือใกล้เคียงกับคําค้นหาของผู้ใช้ ทั้งนี้ Google Ads จะคอยทดสอบชุดรวมชิ้นงานโฆษณาที่มีแนวโน้มจะทำงานได้ดีที่สุดอยู่เรื่อยๆ และดูว่าชุดรวมใดเกี่ยวข้องกับคำค้นหาต่างๆ มากที่สุด
ยืดหยุ่นมากขึ้น
แม้ว่าโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทจะแสดงบรรทัดแรกได้สูงสุด 3 บรรทัดในตำแหน่งบรรทัดแรกแบบเดิม (เช่น ข้อความที่วางไว้ด้านบนของโฆษณาเหนือข้อความเนื้อหา) แต่โฆษณาเหล่านี้ยังแสดงในส่วนอื่นๆ ของโฆษณาได้ด้วย โดยพิจารณาจากรายการที่คาดว่าจะทํางานได้ดีที่สุดสําหรับคําค้นหาที่ไม่ซ้ำกันของแต่ละคน
- ข้อความของชิ้นงานบรรทัดแรกอาจแสดงที่ช่วงต้นของคำอธิบายเมื่อระบบคาดการณ์แล้วว่าทำงานได้ดีที่สุด
- บรรทัดแรกของโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทสามารถแสดงเป็นชิ้นงานแบบลิงก์ภายในโฆษณาได้สูงสุด 2 รายการ ในกรณีเช่นนี้ ชิ้นงานจะชี้ไปยังโดเมนเดียวกับหน้า Landing Page หลักของโฆษณา ความยืดหยุ่นนี้จะใช้ได้เฉพาะภายในกลุ่มโฆษณาเดียวกันเท่านั้นเพื่อให้มีความเกี่ยวข้องกัน
หากคุณมีชิ้นงานที่ปักหมุดไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดแรก 1, ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1 ชิ้นงานเหล่านั้นจะยังแสดงในตำแหน่งที่กำหนดเมื่อโฆษณาแสดง ดูวิธีปักหมุดบรรทัดแรกและคำอธิบายไว้ที่ตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง Google จะเพิ่มประสิทธิภาพตําแหน่งชิ้นงานอื่นๆ ทั้งหมดโดยยังคงความเกี่ยวข้องกับคําค้นหาของผู้ใช้
วิธีเลือกใช้ชิ้นงานเพิ่มเติม
โปรดคำนึงถึงแนวทางปฏิบัติแนะนำต่อไปนี้ขณะที่เลือกและตั้งค่าชิ้นงาน
- ใช้ทุกชิ้นงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ คุณสามารถเพิ่มชิ้นงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และชิ้นงานจะแสดงขึ้นมาก็ต่อเมื่อระบบคาดว่าจะปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้เท่านั้น
- พิจารณาเพิ่มชิ้นงานอย่างน้อย 4 ประเภท เช่น คุณอาจเพิ่มไซต์ลิงก์ ข้อความไฮไลต์ รูปภาพ และชิ้นงานที่ต้องการอีก 1 ประเภท
- สร้างชิ้นงานในระดับบัญชีที่สูงขึ้น (เช่น ที่ระดับบัญชีหรือแคมเปญ หากมี) ในกรณีที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
- ระบบจะไม่นับและไม่แสดงประเภทชิ้นงานแบบอ่านอย่างเดียว แต่ชิ้นงานเหล่านั้นอาจยังทำงานอยู่
เลือกชิ้นงานตามเป้าหมาย
วิธีนําชิ้นงานออก
ชิ้นงานจะใส่ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของคุณในโฆษณาและมักจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโฆษณาได้ หากต้องการนําชิ้นงานออก ให้ทําตามวิธีการต่อไปนี้
- คลิกไอคอนแคมเปญ
ในบัญชี Google Ads
- ในหมวดหมู่เมนู คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงาน
- คลิกชิ้นงาน
- เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง"
- เลือกช่องทางด้านซ้ายของชิ้นงาน แล้วคลิกแก้ไขในแถบสีน้ำเงิน
- เลือกนำออกจากเมนูแบบเลื่อนลง
การนําชิ้นงานออกจากแคมเปญหนึ่งจะไม่เป็นการนําชิ้นงานดังกล่าวออกจากแคมเปญอื่นๆ
วิธีปิดชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี
หากต้องการปิดชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี ให้ทําตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิกไอคอนแคมเปญ
ในบัญชี Google Ads
- ในหมวดหมู่เมนู คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงาน
- คลิกชิ้นงาน
- เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง"
- คลิกเมนู 3 จุด
ทางด้านขวา แล้วเลือกชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี
- คลิกเมนู 3 จุด
ทางด้านขวาอีกครั้ง แล้วเลือกตัวเลือกขั้นสูง
- เลือกปิดชิ้นงานอัตโนมัติที่ต้องการ แล้วเลือกชิ้นงานที่จะปิด
- เลือกเหตุผลในการปิดชิ้นงานและใส่ความคิดเห็นเพิ่มเติม
- คลิกปิด
ข้อมูลเฉพาะสําหรับชิ้นงานที่ไม่ใช่บรรทัดแรกหรือคําอธิบาย
ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ได้กับชิ้นงานที่ไม่ใช่บรรทัดแรกหรือคําอธิบายเท่านั้น
วิธีตั้งเวลาชิ้นงาน
สําหรับชิ้นงานที่รองรับ คุณตั้งเวลาให้ชิ้นงานแสดงเฉพาะในช่วงเวลาที่เจาะจงของวันหรือในกรอบเวลาที่เจาะจงได้ เช่น ตั้งเวลาชิ้นงานการโทรให้แสดงเฉพาะในเวลาที่ธุรกิจของคุณสามารถรับสายได้
วิธีการ
ปัจจัยที่กําหนดว่าชิ้นงานจะแสดงเมื่อใด
วิธีทําให้ชิ้นงานมีโอกาสแสดงมากขึ้น
บางครั้งชิ้นงานที่คุณต้องการใช้อาจไม่แสดงพร้อมกับโฆษณา ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีอะไรผิดปกติ (เช่น หากคุณเพิ่มไซต์ลิงก์และรูปภาพลงในโฆษณา มีสาเหตุหลายประการที่ทําให้หนึ่งในชิ้นงานเหล่านั้นปรากฏในการค้นหาบางรายการแต่ไม่ปรากฏในรายการอื่นๆ)
เช่นเดียวกับโฆษณาและคีย์เวิร์ด ชิ้นงานมีสิทธิ์ได้รับอนุมัติหรือไม่อนุมัติก็ได้ ชิ้นงานที่ไม่ได้รับอนุมัติจะไม่แสดงและต้องได้รับการแก้ไข และส่งเข้ารับการตรวจสอบอีกครั้ง
แต่แม้ว่าจะได้รับอนุมัติ การเพิ่มชิ้นงานก็ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าชิ้นงานจะแสดงพร้อมกับโฆษณาทุกครั้ง ชิ้นงานจะแสดงพร้อมกับโฆษณาในกรณีต่อไปนี้
- ระบบคาดการณ์ว่าชิ้นงาน (หรือชุดรวมชิ้นงาน) จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณาได้
- โฆษณาของคุณมีอันดับและลำดับโฆษณาสูงพอที่จะแสดงชิ้นงาน