ประเภทของคำแนะนำ

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


ส่วนคําแนะนําของบัญชี Google Ads มีไว้เพื่อช่วยปรับปรุงแคมเปญโดยเฉพาะ คำแนะนำจะช่วยให้ทราบฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องและจะช่วยให้ใช้งบประมาณได้คุ้มค่ามากขึ้นด้วยการปรับปรุงการเสนอราคา คีย์เวิร์ด และโฆษณา คําแนะนําจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติแนะนําล่าสุดของ Google Ads การเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์โดยรวมของแคมเปญ

บทความนี้จะอธิบายภาพรวมของคำแนะนำที่คุณอาจได้รับ รวมถึงให้แนวทางในการทำความเข้าใจและนำคำแนะนำไปใช้

ก่อนเริ่มต้น

คำแนะนำที่คุณได้รับนั้นได้รับการปรับให้มีความเกี่ยวข้องและมีประโยชน์ต่อคุณ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่ได้รับคำแนะนำทุกประเภท และบางครั้งอาจไม่ได้รับคำแนะนำเลย หากคุณไม่ได้รับคำแนะนำสำหรับบัญชี โปรดกลับมาตรวจสอบอีกครั้งในไม่ช้านี้ Google Ads มักจะค้นพบคำแนะนำสำหรับคุณและเปิดตัวคำแนะนำประเภทใหม่อยู่เรื่อยๆ

คำแนะนำในบัญชีดูแลจัดการ Google Ads

ในประสบการณ์การใช้งาน Google Ads รูปแบบใหม่ คุณจะนำคำแนะนำไปใช้เพื่อช่วยปรับปรุงบัญชีที่จัดการอยู่ได้ง่ายยิ่งขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชีบุคคลธรรมดาที่คุณจัดการทีละบัญชีอีกต่อไป เพียงลงชื่อเข้าใช้บัญชีดูแลจัดการ แล้วไปที่หน้าคำแนะนำเพื่อดูคำแนะนำที่มีให้สำหรับบัญชีที่จัดการทั้งหมดได้ทันที

ประเภทของคำแนะนำ

โฆษณาและชิ้นงาน

คำแนะนำ "โฆษณาและชิ้นงาน" ช่วยคุณปรับแต่งโฆษณา สร้างโฆษณาใหม่ แสดงโฆษณาที่ดีที่สุดให้บ่อยที่สุด และจัดระเบียบโฆษณาออกเป็นกลุ่มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะคำแนะนำประเภทชิ้นงาน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาให้ได้สูงสุด และเพิ่มอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ของโฆษณาได้ คุณอาจเห็นคำแนะนำต่อไปนี้

สำรวจคําแนะนําทั้งหมด

  • เพิ่มกลุ่มโฆษณา: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี CPA ใกล้เคียงกับของเดิมใน App Campaign ด้วยการสร้างกลุ่มโฆษณาอีก 1 กลุ่ม แนะนําเนื่องจาก App Campaign บางรายการมีกลุ่มโฆษณาเพียงกลุ่มเดียว
  • เพิ่มชิ้นงานให้กับโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท: ช่วยให้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบททำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการเพิ่มบรรทัดแรกและคำอธิบายจากโฆษณาแบบข้อความ แนะนำเนื่องจากโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทบางรายการไม่มีบรรทัดแรกหรือคำอธิบายที่ใช้ในโฆษณาแบบข้อความในกลุ่มโฆษณาเดียวกัน
  • เพิ่มชิ้นงานการโทรลงในโฆษณา: ทำให้โฆษณาโดดเด่นขึ้นและเพิ่ม CTR แนะนำเนื่องจากชิ้นงานการโทรจะช่วยเพิ่มจำนวนการโทรหาธุรกิจของคุณ
  • เพิ่มข้อความไฮไลต์ลงในโฆษณา: ทำให้โฆษณาโดดเด่นขึ้นและเพิ่ม CTR แนะนำเนื่องจากไฮไลต์ช่วยเพิ่ม CTR ได้
  • เพิ่มคำอธิบายลงในไซต์ลิงก์: ใช้คำอธิบายไซต์ลิงก์เพื่อช่วยให้โฆษณาโดดเด่น แนะนำเนื่องจากการใช้คำอธิบายไซต์ลิงก์จะเพิ่ม CTR ได้
  • เพิ่มชิ้นงานรูปภาพแบบไดนามิก: ทำให้โฆษณาแบบข้อความดูน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยรูปภาพจากหน้า Landing Page โดยใช้ชิ้นงานรูปภาพแบบไดนามิก ซึ่งช่วยเพิ่ม CTR ได้ แนะนำเนื่องจากชิ้นงานรูปภาพแบบไดนามิกช่วยเพิ่ม CTR ได้
  • เพิ่มชิ้นงานไซต์ลิงก์แบบไดนามิกลงในโฆษณา: ปรับปรุงโฆษณาแบบข้อความด้วยไซต์ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับหน้า Landing Page โดยใช้ชิ้นงานไซต์ลิงก์แบบไดนามิก ซึ่งช่วยเพิ่ม CTR ได้ แนะนําเนื่องจากคุณยังไม่ได้เปิดใช้ชิ้นงานไซต์ลิงก์แบบไดนามิก
  • เพิ่มชิ้นงานรูปภาพลงในโฆษณา: โฆษณาของคุณไม่โดดเด่นเท่ากับโฆษณาที่ใช้ชิ้นงานรูปภาพ ซึ่งช่วยเพิ่ม CTR ได้ แนะนำเนื่องจากชิ้นงานรูปภาพจะช่วยเพิ่ม CTR
  • เพิ่มผลิตภัณฑ์ลงในวิดีโอ: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี CPA ต่ำลงหรือใกล้เคียงกับของเดิมด้วยการเพิ่มฟีดผลิตภัณฑ์ไปยังแคมเปญวิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำ แนะนำเนื่องจากคุณยังไม่ได้เลือกใช้ฟีดผลิตภัณฑ์สำหรับแคมเปญวิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำ และคุณมีบัญชี Merchant Center ที่ลิงก์อยู่
  • ปรับปรุง Demand Gen: รับ Conversion เพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มชิ้นงานลงในโฆษณา Demand Gen แนะนําเนื่องจากโฆษณา Demand Gen บางรายการมีคุณภาพของโฆษณาต่ำกว่าระดับ "ยอดเยี่ยม"
  • เพิ่มชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มลงในโฆษณา: เพิ่มจํานวนโอกาสในการขายให้มากขึ้นด้วยการแสดงชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มไว้ในโฆษณา แนะนําเนื่องจากการใช้ชิ้นงานโฆษณาแบบกรอกฟอร์มอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับธุรกิจ
  • เพิ่มชิ้นงานราคาลงในโฆษณา: ทำให้โฆษณาโดดเด่นขึ้นและเพิ่ม CTR แนะนำเนื่องจากผู้ลงโฆษณาที่คล้ายคลึงกันใช้ชิ้นงานราคา
  • เพิ่มโฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี CPA ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยโฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา ซึ่งจะปรับให้พอดีกับพื้นที่โฆษณาที่มีอยู่โดยอัตโนมัติ สร้างโฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณาได้ง่ายๆ ด้วยชิ้นงานที่แนะนําโดยอัตโนมัติ แนะนำเนื่องจากกลุ่มโฆษณามีข้อมูล Conversion เพียงพอที่จะได้รับประโยชน์จากโฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา
  • เพิ่มโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท: แสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากขึ้นให้กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าโดยสร้างโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท แนะนำเนื่องจากคุณมีกลุ่มโฆษณาที่ใช้เพียงโฆษณาแบบข้อความที่ขยายออก ซึ่งอาจส่งผลให้ได้รับคลิกและ Conversion น้อยกว่ากลุ่มโฆษณาที่มีโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
  • เพิ่มชิ้นงานไซต์ลิงก์ลงในโฆษณา: ทำให้โฆษณาโดดเด่นขึ้นและเพิ่ม CTR แนะนำเนื่องจากไซต์ลิงก์ช่วยเพิ่ม CTR ได้
  • เพิ่มชิ้นงานข้อมูลเพิ่มเติมลงในโฆษณา: ทำให้โฆษณาโดดเด่นขึ้นและเพิ่ม CTR แนะนำเนื่องจากข้อมูลเพิ่มเติมช่วยเพิ่ม CTR ได้
  • เพิ่มโฆษณาวิดีโอ: เข้าถึงผู้ใช้แอปมากขึ้นบน YouTube, Google Play รวมถึงในแอปของพาร์ทเนอร์และเว็บไซต์ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ แนะนำเนื่องจาก App Campaign และแคมเปญ Performance Max สามารถเพิ่มการเข้าชมได้ด้วยโฆษณาวิดีโอ
  • เพิ่มวิดีโอที่มีการวางแนวแตกต่างกัน: ปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญและปลดล็อกพื้นที่โฆษณาใหม่ด้วยการเพิ่มวิดีโอซึ่งมีการวางแนวที่แตกต่างกัน แนะนําเนื่องจากแคมเปญของคุณไม่มีการผสมผสานการวางแนววิดีโอหลากหลายรูปแบบ
  • เพิ่มชิ้นงานสถานที่ตั้งลงในโฆษณา: โฆษณาอาจไม่โดดเด่นเท่าที่ควรหากใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้ง แนะนำเนื่องจากผู้ลงโฆษณาที่คล้ายคลึงกันใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้ง
  • เปิดใช้ชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ: ช่วยให้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทได้รับคลิกมากขึ้นด้วยการเปิดใช้ชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติในแคมเปญ Search แนะนำเนื่องจากคุณมีแคมเปญ Search ที่ไม่ได้เปิดใช้ชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ
  • แก้ไขชิ้นงานที่ไม่ได้รับอนุมัติในแคมเปญ Demand Gen: ชิ้นงานบางส่วนไม่แสดงเนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของโฆษณา Demand Gen แก้ไขชิ้นงานที่ไม่ได้รับอนุมัติเพื่อให้แสดงในโฆษณา แนะนําเนื่องจากชิ้นงานอย่างน้อย 1 รายการไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของโฆษณา Demand Gen
  • ปรับปรุงคุณภาพของโฆษณาแอป: รับ Conversion เพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มชิ้นงานลงในกลุ่มโฆษณาแอป แนะนำเนื่องจากกลุ่มโฆษณาแอปบางกลุ่มมีคุณภาพต่ำกว่าระดับ "ดี"
  • ปรับปรุงโฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา: รับ Conversion เพิ่มขึ้นด้วยการเพิ่มชิ้นงานลงในโฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา แนะนำเนื่องจากโฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณาบางรายการมีคุณภาพของโฆษณาต่ำกว่าระดับ "ยอดเยี่ยม"
  • ปรับปรุงโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท: ช่วยให้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทได้รับคลิกมากขึ้นด้วยการปรับปรุงบรรทัดแรกและคำอธิบาย แนะนำเนื่องจากโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทบางรายการมีคุณภาพของโฆษณาต่ำกว่าระดับ "ดี"
  • คําแนะนําให้ผสานรวมผู้ขาย: ดึงดูดให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณมียอดการเข้าชมมากขึ้นโดยการเพิ่มร้านค้าใน Merchant Center (หากเว็บไซต์ไม่ได้ขับเคลื่อนโดย Shopify หรือ Woo) หรือลิงก์ Shopify หรือ Woo กับบัญชี Google Ads
  • ใช้การหมุนเวียนโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพ: แสดงโฆษณาที่ดีที่สุดโดยอัตโนมัติในการประมูล แนะนำเนื่องจากการตั้งค่าปัจจุบันอนุญาตให้แสดงโฆษณาประสิทธิภาพต่ำบ่อยเท่ากับโฆษณาประสิทธิภาพสูง
  • คําแนะนําเกี่ยวกับช่องว่างของกลุ่มเป้าหมาย: ระบุผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่ปัจจุบันยังไม่เป็นเป้าหมายของโฆษณา และรับคําแนะนําเกี่ยวกับชิ้นงานที่ควรรวมไว้ในกลุ่มชิ้นงาน

แคมเปญอัตโนมัติ

คำแนะนำ "แคมเปญอัตโนมัติ" ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการแคมเปญ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผ่านการเสนอราคาอัตโนมัติ การกำหนดเป้าหมาย และการสร้างโฆษณา คุณอาจเห็นคำแนะนำต่อไปนี้

สำรวจคําแนะนําทั้งหมด

  • สร้างแคมเปญ Performance Max: เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในทุกช่องทางของ Google ด้วยแคมเปญเดียว แนะนำเนื่องจากประเภทแคมเปญนี้ช่วยเพิ่มผลลัพธ์สูงสุดสำหรับเป้าหมายของคุณ พร้อมทั้งค้นหาลูกค้าใหม่ๆ ที่จะทำ Conversion ในพื้นที่โฆษณาที่มีอยู่ของ Google
  • สร้างแคมเปญ Performance Max ที่มีเป้าหมายของร้านค้า: กระตุ้นการเข้าชมและยอดขายให้กับที่ตั้งธุรกิจด้วยแคมเปญ Performance Max ที่มีเป้าหมายของร้านค้า แนะนําเนื่องจากคุณเข้าเกณฑ์ในการเสนอราคาเพื่อการเข้าชมร้านค้าหรือการกระทำเกี่ยวกับสถานที่
  • ปรับปรุงกลุ่มชิ้นงาน Performance Max: ได้รับ Conversion มากขึ้นด้วยการเพิ่มหรือปรับปรุงชิ้นงานในแคมเปญ Performance Max คุณสามารถตรวจสอบชิ้นงานที่แนะนํา แล้วเพิ่มลงในแคมเปญได้ทันที แนะนำเนื่องจากกลุ่มชิ้นงาน Performance Max บางกลุ่มมีคุณภาพของโฆษณาต่ำกว่าระดับ "ยอดเยี่ยม"
  • กําหนดเป้าหมายผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมโดยใช้แคมเปญ Performance Max: เพิ่มมูลค่า Conversion โดยมี ROAS ที่ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยการกําหนดเป้าหมายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดโดยใช้แคมเปญ Performance Max แนะนําเนื่องจากคุณมีแคมเปญ Shopping มาตรฐานสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานอยู่ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดเป้าหมายโดยแคมเปญ Performance Max
  • อัปเกรดแคมเปญที่มีกลุ่มโฆษณา Search แบบไดนามิกเป็น Performance Max: รับ Conversion เพิ่มขึ้นด้วยการอัปเกรดแคมเปญ Search ที่มีกลุ่มโฆษณา Search แบบไดนามิกเป็น Performance Max แนะนําเนื่องจากแคมเปญ Search ที่ใช้โฆษณา Search แบบไดนามิกมีสิทธิ์อัปเกรดเป็น Performance Max

การเสนอราคาและงบประมาณ

คำแนะนำ "การเสนอราคาและงบประมาณ" จะช่วยคุณหากลยุทธ์การเสนอราคาที่เหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และทำให้มั่นใจได้ว่าแคมเปญจะมีงบประมาณเพียงพอ

คําแนะนําในการเสนอราคาและงบประมาณจะรวมค่าประมาณผลกระทบไว้ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่าการปรับการเสนอราคาและงบประมาณจะช่วยเพิ่ม Conversion และมูลค่า Conversion ได้อย่างไร ค่าประมาณผลกระทบเหล่านี้แสดงค่าประมาณระยะเวลาก่อนที่จะเกิด Conversion สําหรับแคมเปญ Search และแคมเปญ Performance Max

คุณอาจเห็นคำแนะนำต่อไปนี้

สำรวจคําแนะนําทั้งหมด

  • เพิ่มการเข้าชมร้านค้าใน Conversion: เข้าถึงลูกค้าในจังหวะที่เหมาะสมโดยเพิ่มประสิทธิภาพให้การเข้าชมร้านค้าด้วย Smart Bidding แนะนำเนื่องจากแคมเปญของคุณช่วยกระตุ้นการเข้าชมหน้าร้านจริง
  • ปรับงบประมาณ: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยการปรับงบประมาณในแคมเปญ "เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด" แนะนำเนื่องจากการจำลองแสดงให้เห็นว่าแคมเปญอาจได้รับ Conversion เพิ่มขึ้นเมื่อปรับต้นทุนต่อการกระทำหนึ่งครั้ง (CPA) โดยรวมที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
  • ปรับเป้าหมาย CPA: รับ Conversion เพิ่มขึ้นด้วยการปรับเป้าหมาย CPA แนะนำเนื่องจากการจำลองแสดงให้เห็นว่าแคมเปญอาจได้รับ Conversion เพิ่มขึ้นเมื่อมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
  • ปรับเป้าหมาย ROAS: รับมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้นด้วยการปรับเป้าหมาย ROAS แนะนําเนื่องจากการจําลองแสดงให้เห็นว่าแคมเปญอาจได้รับมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้นเมื่อมีการกําหนดกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องลดลงเล็กน้อย
  • เสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยกลยุทธ์เพิ่มจำนวนคลิกสูงสุด: รับจำนวนคลิกเพิ่มขึ้นโดยใช้ต้นทุนที่ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แนะนำเนื่องจากการจำลองแสดงให้เห็นว่าแคมเปญอาจได้รับประโยชน์จากการเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวนคลิกสูงสุด
  • เสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยกลยุทธ์เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด: รับ Convesion เพิ่มขึ้นโดยใช้ต้นทุนที่ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แนะนำเนื่องจากการจำลองแสดงให้เห็นว่าแคมเปญอาจได้รับประโยชน์จากการเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
  • เสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยกลยุทธ์เพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด: รับมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้นโดยใช้ต้นทุนที่ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แนะนำเนื่องจากการจำลองแสดงให้เห็นว่าบัญชีของคุณติดตาม Conversion อยู่ และอาจได้รับประโยชน์จากการเสนอราคาแบบเพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด
  • เสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย CPA เป้าหมาย: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี CPA ที่ต่ำลงหรือใกล้เคียงกับของเดิมด้วยกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แนะนำเนื่องจากการจำลองแสดงให้เห็นว่าแคมเปญอาจได้รับประโยชน์จากการเสนอราคาแบบเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
  • เสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยส่วนแบ่งการแสดงผลเป้าหมาย: เพิ่มความสามารถในการแสดงผลของโฆษณาด้วยกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แนะนำเนื่องจากแคมเปญมีการแสดงผลมากพอที่จะได้รับประโยชน์จากส่วนแบ่งการแสดงผลเป้าหมาย
  • เสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ROAS เป้าหมาย: รับมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี ROAS ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติเต็มรูปแบบ แนะนำเนื่องจากการจำลองแสดงให้เห็นว่าแคมเปญกําลังวัดมูลค่า Conversion ที่ไม่ซ้ำ 2 รายการขึ้นไป และมีแนวโน้มจะได้ประโยชน์จากกลยุทธ์เพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุดโดยใช้ ROAS เป้าหมาย ซึ่งจะใช้ข้อมูลจากแคมเปญทั้งหมดของคุณ รวมถึงมูลค่า Conversion ที่คุณจะรายงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  • รวมการกระทำที่ถือเป็น Conversion ของแอปจาก Firebase ไว้ใน "เป้าหมายระดับบัญชี": รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับลูกค้าที่ระบบนำไปยังแอปของคุณจากโฆษณา แนะนำเนื่องจากคุณกำลังติดตามแต่ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อ Conversion ในแอปจากโฆษณาที่นำผู้ใช้ไปยัง Deep Link
  • ย้ายงบประมาณที่ไม่ได้ใช้: โฆษณาหยุดทำงานในวันที่มีลูกค้ามากที่สุด เพิ่มการเข้าชมโดยการย้ายงบประมาณที่ไม่ได้ใช้ไปให้กับโฆษณาที่ต้องใช้งบประมาณมากที่สุด แนะนำเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณพลาดโอกาสที่จะได้รับการเข้าชมที่เป็นไปได้อย่างน้อย 5%
  • เพิ่มงบประมาณ: ทำให้โฆษณาทำงานต่อในวันที่มีลูกค้ามากที่สุดด้วยการแก้ไขงบประมาณที่จำกัดไว้ แนะนำเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณพลาดโอกาสที่จะได้รับการเข้าชมที่เป็นไปได้อย่างน้อย 5%
  • เพิ่มงบประมาณสำหรับการเข้าชมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น: โฆษณาอาจหยุดทำงานในวันที่คุณได้รับการเข้าชมมากที่สุดเนื่องจากคาดว่าจะมีการเข้าชมมากขึ้นในอนาคต เพิ่มงบประมาณตอนนี้เลยเพื่อจะได้ไม่พลาดการเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า แนะนำเนื่องจากแบบจำลองแสดงให้เห็นว่าคุณอาจพลาดการเข้าชมรายสัปดาห์ในอนาคตถึง 5% หรือมากกว่านั้นหากยังคงงบประมาณไว้เท่ากับในปัจจุบัน
  • กำหนดเป้าหมายของกลยุทธ์การเสนอราคา: ใช้ ROAS/CPA เป้าหมายเพื่อควบคุมแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แนะนําเนื่องจากแคมเปญไม่มี ROAS เป้าหมาย
  • กําหนด CPA เป้าหมาย: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี CPA ใกล้เคียงกับของเดิมโดยการกำหนดเป้าหมายและจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ แนะนําเนื่องจากแคมเปญไม่มี CPA เป้าหมาย
  • กําหนด CPA เป้าหมายเพื่อให้ได้รับการเข้าชมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น: คุณอาจพลาด Conversion จากการเข้าชมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต รับ Convesion เหล่านี้โดยมี CPA ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยการกำหนดเป้าหมายและเพิ่มงบประมาณ แนะนำเนื่องจากการจำลองคาดการณ์ว่าจะมีการเข้าชมเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 5% ขึ้นไป
  • กำหนด ROAS เป้าหมายเพื่อรับการเข้าชมที่จะเพิ่มขึ้น: คุณอาจพลาดมูลค่า Conversion จากการเข้าชมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต รับมูลค่า Conversion นี้โดยมี ROAS ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยการกําหนดเป้าหมายและเพิ่มงบประมาณ แนะนำเนื่องจากการจำลองคาดการณ์ว่าจะมีการเข้าชมเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 5% ขึ้นไป
  • เปิดการติดแท็กอัตโนมัติ: วัดผลของแคมเปญในแอปและเว็บด้วยการเปิดการติดแท็กอัตโนมัติเพื่อใช้เครื่องมือวัด Conversion แนะนําเนื่องจากคุณไม่ได้เปิดการติดแท็กอัตโนมัติซึ่งจะช่วยวัดการกระทําที่ถือเป็น Conversion ในแอปและเว็บไซต์ได้
  • อัปเกรดเครื่องมือวัด Conversion ด้วยการระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล: พิจารณาให้การโต้ตอบลักษณะต่างๆ กับโฆษณาเป็น Conversion โดยใช้การระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล แนะนำเนื่องจากบัญชีมีข้อมูล Conversion มากพอที่จะได้รับประโยชน์จากการระบุแหล่งที่มาโดยอิงตามข้อมูล
  • ใช้กลยุทธ์การเสนอราคาแบบพอร์ตโฟลิโอกับงบประมาณที่ใช้ร่วมกัน: เพิ่ม ROI สูงสุดทั่วทุกแคมเปญโดยใช้กลยุทธ์พอร์ตโฟลิโอด้วยงบประมาณที่ใช้ร่วมกัน แนะนําเนื่องจากคุณใช้กลยุทธ์ระดับแคมเปญหรือระดับพอร์ตโฟลิโอหลายรายการที่เป็นประเภทเดียวกัน

คีย์เวิร์ดและการกำหนดเป้าหมาย

คำแนะนำ "คีย์เวิร์ดและการกำหนดเป้าหมาย" จะช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้ที่สนใจสิ่งที่คุณนำเสนอได้มากขึ้น คุณอาจเห็นคำแนะนำต่อไปนี้

สำรวจคําแนะนําทั้งหมด

  • เพิ่มข้อจํากัดของแบรนด์และเปิดใช้การทำงานแบบกว้าง: วิธีนี้จะเปลี่ยนคีย์เวิร์ดของแคมเปญที่มุ่งเน้นแบรนด์ให้ทํางานแบบกว้าง และเพิ่มแบรนด์ที่แนะนําลงในรายการแบรนด์ คุณจะจํากัดแคมเปญ Search ให้แสดงโฆษณาเฉพาะในการค้นหาซึ่งตรงกับคีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบกว้างและแบรนด์ที่เจาะจงจากรายการแบรนด์ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง
  • เพิ่มคีย์เวิร์ดที่ทํางานแบบกว้าง: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี ROI ที่ดีขึ้นหรือใกล้เคียงกับของเดิมด้วยการเพิ่มคีย์เวิร์ดที่ทํางานแบบกว้างจากคีย์เวิร์ดที่มีอยู่ แนะนําเนื่องจากการใช้ประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดแบบกว้างในแคมเปญ Smart Bidding เหล่านี้จะช่วยเพิ่ม Conversion ได้อย่างดีตามเป้าหมายด้านประสิทธิภาพของคุณ
  • เพิ่มคีย์เวิร์ดใหม่: แสดงโฆษณาบ่อยขึ้นต่อผู้ที่ค้นหาสิ่งที่ธุรกิจของคุณนำเสนอ แนะนำเนื่องจากคุณไม่ได้กำหนดเป้าหมายการค้นหาที่อาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
  • สร้างกลุ่มเป้าหมายที่กําหนดเอง: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี CPA ที่ต่ำลงด้วยการเข้าถึงผู้ใช้ที่กําลังค้นหาธุรกิจของคุณในผลิตภัณฑ์และบริการของ Google แนะนําเนื่องจากคุณมีแคมเปญที่อาจได้รับประโยชน์จากกลุ่มเป้าหมายที่กําหนดเอง
  • สร้างกลุ่มโฆษณาใหม่สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น: ขยายกลุ่มเป้าหมายด้วยการสร้างกลุ่มโฆษณาวิดีโอใหม่ที่มีเฉพาะการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย แนะนําเนื่องจากคุณมีกลุ่มโฆษณาที่มีทั้งการกําหนดกลุ่มเป้าหมายและการกำหนดเป้าหมายตามบริบท ซึ่งอาจจํากัดกลุ่มเป้าหมายได้
  • ขยายการเข้าถึงด้วยพาร์ทเนอร์ Google Search: เข้าถึงลูกค้ามากขึ้นโดยมี CPC ที่ต่ำลงใน YouTube และเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ แนะนำเนื่องจากโฆษณาในเครือข่าย Search สามารถเพิ่มการเข้าชมได้ด้วยพาร์ทเนอร์ Google Search
  • ขยายการเข้าถึงด้วยพาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google: เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นจากเว็บไซต์และแอปของพาร์ทเนอร์ แนะนำเนื่องจากโฆษณาวิดีโอสามารถเพิ่มการเข้าชมได้ด้วยพาร์ทเนอร์วิดีโอของ Google
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยการแสดงโฆษณาต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจำนวนมากขึ้น แนะนำเนื่องจากเราพบกลุ่มเป้าหมายที่น่าจะช่วยเพิ่ม Conversion ของคุณได้
  • รีเฟรชรายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้า: แสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และจูงใจต่อลูกค้ารายล่าสุด ด้วยการรีเฟรชรายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่แล้ว แนะนำเนื่องจากโฆษณาบางรายการของคุณกำลังใช้รายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้าสำหรับการสังเกตการณ์ การกำหนดเป้าหมาย หรือการยกเว้นที่ไม่ได้รับการอัปเดตมาเป็นเวลานานกว่า 90 วัน
  • นําคีย์เวิร์ดเชิงลบที่ขัดแย้งกันออก: โฆษณาอาจไม่แสดงเนื่องจากมีคีย์เวิร์ดเชิงลบที่ขัดแย้งกัน นำคีย์เวิร์ดเหล่านั้นออกเพื่อให้โฆษณาแสดงได้ แนะนำเนื่องจากคีย์เวิร์ดเชิงลบที่ขัดแย้งกันทำให้คีย์เวิร์ดบางคำไม่เรียกให้โฆษณาแสดง
  • นำคีย์เวิร์ดที่ไม่แสดงโฆษณาออก: ทำให้บัญชีจัดการได้ง่ายขึ้นด้วยการนำคีย์เวิร์ดที่ไม่แสดงโฆษณาออก แนะนำเนื่องจากคีย์เวิร์ดบางคำไม่ได้รับการเข้าชมเลยตั้งแต่ปีที่ผ่านมาหรือนานกว่านั้น
  • นำคีย์เวิร์ดซ้ำซ้อนออก: ทำให้บัญชีจัดการได้ง่ายขึ้นด้วยการนำคีย์เวิร์ดซ้ำซ้อนออก แนะนําเนื่องจากคุณมีคีย์เวิร์ดซ้ำซ้อนที่มีกลุ่มโฆษณา ปลายทาง และกลยุทธ์การเสนอราคาเดียวกัน คําแนะนําอาจรวมคีย์เวิร์ดในประเภทการทํางานของคีย์เวิร์ดแบบต่างๆ ได้
  • ตั้งค่าแหล่งที่มาของกลุ่มเป้าหมาย: ใช้ฟีเจอร์รีมาร์เก็ตติ้งเพื่อเพิ่ม ROI โดยแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และจูงใจมากขึ้น แนะนำเนื่องจากคุณมีการเข้าชมมากพอที่จะได้รับประโยชน์จากรีมาร์เก็ตติ้ง
  • กําหนดเป้าหมายเป็นทุกผลิตภัณฑ์ Shopping ที่มีสิทธิ์: รับมูลค่า Conversion เพิ่มขึ้นด้วยการโฆษณาทุกผลิตภัณฑ์ Shopping ด้วยแคมเปญที่ครอบคลุมทั้งหมด แนะนำเนื่องจากคุณมีผลิตภัณฑ์ออนไลน์ที่ยังไม่กำหนดเป้าหมายในฟีด Shopping
  • อัปโหลดรายชื่อลูกค้า: ใช้ฟีเจอร์รีมาร์เก็ตติ้งเพื่อเพิ่ม ROI โดยแสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และจูงใจมากขึ้น
  • อัปโหลดรายการการจับคู่ข้อมูลลูกค้า: แสดงโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้และจูงใจต่อลูกค้าเดิมโดยใช้ข้อมูลติดต่อที่ลูกค้าแชร์กับคุณ แนะนำเนื่องจากคุณมีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์การจับคู่ข้อมูลลูกค้า
  • ใช้การขยายไปยังเครือข่าย Display: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมี CPA ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยการนำฟีเจอร์การขยายไปยังเครือข่าย Display ของ Google ที่ปรับปรุงใหม่มาใช้กับงบประมาณที่ไม่ได้ใช้จ่าย แนะนำเนื่องจากแคมเปญ Search บางแคมเปญมีงบประมาณที่ไม่ได้ใช้จ่ายซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากการขยายไปยังเครือข่ายดิสเพลย์
  • ใช้การกําหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ: รับ Conversion เพิ่มขึ้นโดยมีต้นทุนต่อ Conversion ใกล้เคียงกับของเดิม แนะนําเนื่องจากโฆษณา Display, โฆษณา Demand Gen และโฆษณาวิดีโอสามารถเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้มากขึ้นด้วยการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ

การซ่อม

คำแนะนำ "การซ่อม" จะช่วยคุณแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับบัญชีและปรับปรุงการทำงานและประสิทธิภาพโดยรวม คุณอาจเห็นคำแนะนำต่อไปนี้

สำรวจคําแนะนําทั้งหมด

  • เพิ่มโฆษณาลงในกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่ม: เพิ่มโฆษณาลงในกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มเพื่อให้โฆษณาทำงานได้
  • เพิ่ม GTIN ลงในผลิตภัณฑ์: เพิ่มการเข้าชมโฆษณาโดยใส่ GTIN ลงในผลิตภัณฑ์ แนะนําเนื่องจากผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพจํากัดเพราะไม่มีตัวระบุ GTIN
  • เพิ่มคีย์เวิร์ดลงในกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่ม: เพิ่มคีย์เวิร์ดในกลุ่มโฆษณาแต่ละกลุ่มเพื่อให้โฆษณาทำงานได้
  • เพิ่มพารามิเตอร์ Conversion ที่ขาดหายไปลงในแคมเปญโรงแรม: รับการจองมากขึ้นและมี ROI ใกล้เคียงของเดิมหรือดียิ่งกว่าโดยใช้พารามิเตอร์ Conversion ที่แม่นยำ แนะนําเนื่องจากมีการรายงาน Conversion แต่ Conversion ยังขาดพารามิเตอร์ที่จําเป็นสําหรับแคมเปญโรงแรม
  • เพิ่มผลิตภัณฑ์ลงในแคมเปญ Shopping: แก้ไขแคมเปญที่ไม่แสดงโดยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ลงในแคมเปญเหล่านั้น แนะนำเนื่องจากคุณมีแคมเปญที่ไม่มีผลิตภัณฑ์
  • ยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาให้เสร็จสมบูรณ์: การใช้โลโก้ในโฆษณา Search สามารถช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้ เข้าถึงโลโก้โดยทำการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาให้เสร็จสมบูรณ์ แนะนําเนื่องจากคุณยังไม่ได้ทำการยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณาให้เสร็จสมบูรณ์
  • แก้ไขชิ้นงานที่ไม่ได้รับอนุมัติในแคมเปญ Demand Gen: ชิ้นงานบางส่วนไม่แสดงเนื่องจากละเมิดข้อกำหนดของโฆษณา Demand Gen แก้ไขชิ้นงานที่ไม่ได้รับอนุมัติเพื่อให้แสดงในโฆษณา แนะนําเนื่องจากชิ้นงานอย่างน้อย 1 รายการไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของโฆษณา Demand Gen
  • แก้ไขชิ้นงาน Performance Max ที่ไม่ได้รับอนุมัติ: เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการแก้ไขชิ้นงาน Performance Max ที่ไม่ได้รับอนุมัติ แนะนําเนื่องจากชิ้นงานทั้งหมดอย่างน้อย 1 ประเภทไม่ได้รับอนุมัติ
  • แก้ไขผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุมัติในแคมเปญ Shopping: คุณแสดงโฆษณาของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุมัติในแคมเปญไม่ได้ แก้ไขผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเพื่อแสดงโฆษณา แนะนำเนื่องจากผลิตภัณฑ์ในแคมเปญของคุณไม่ได้รับอนุมัติ
  • แก้ไขไซต์ลิงก์ที่ไม่ได้รับอนุมัติ: ไซต์ลิงก์บางรายการไม่ได้รับอนุมัติ โปรดแก้ไขไซต์ลิงก์เพื่อให้โฆษณาโดดเด่นว่าเดิม
  • แก้ไขเป้าหมาย CPA ที่ต่ำ: เริ่มรับ Conversion โดยการแก้ไขเป้าหมาย CPA ที่ต่ำ แนะนำเนื่องจากแคมเปญไม่น่าจะได้รับ Conversion เมื่อใช้เป้าหมาย CPA ปัจจุบัน
  • แก้ไขการระงับบัญชี Merchant Center: บัญชี Merchant Center ของคุณถูกระงับอยู่ แก้ไขการระงับเพื่อแสดงโฆษณา แนะนำเนื่องจากคุณมีบัญชี Merchant Center ที่ถูกระงับจากการละเมิดนโยบายหรือคุณภาพของข้อมูล
  • แก้ไข Deep Link ที่กำหนดค่าไม่ถูกต้อง: ได้รับ Conversion ของแอปเพิ่มขึ้นโดยมี CPA ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยการแก้ไข Deep Link ที่กำหนดค่าไม่ถูกต้องในแอป แนะนำเนื่องจาก Deep Link ของแอปอย่างน้อย 10% มีการกำหนดค่าไม่ถูกต้อง
  • แก้ไข App Campaign ที่ทับซ้อนกัน: รับ Convesion เพิ่มขึ้นโดยใช้ต้นทุนที่ใกล้เคียงกับของเดิมด้วยการแก้ไข App Campaign ที่กำหนดเป้าหมายการเข้าชมเดียวกัน แนะนำเนื่องจากแคมเปญที่แข่งขันกันอาจทำให้ App Campaign มีประสิทธิภาพลดลงได้
  • แก้ไขปลายทางของโฆษณา: โฆษณาไม่ได้รับอนุมัติเนื่องจากปัญหาที่เกิดกับปลายทาง แก้ไขปลายทางของโฆษณาเพื่อให้แสดงโฆษณาได้
  • แก้ไขข้อความโฆษณา: โฆษณาไม่ได้รับอนุมัติเนื่องจากปัญหาด้านบรรณาธิการ แก้ไขข้อความโฆษณาเพื่อให้แสดงโฆษณาได้
  • แก้ไขการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มโฆษณาที่แสดงไม่ได้อีกต่อไปจะเริ่มแสดงเมื่อคุณแก้ไขการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย แนะนําเนื่องจากคุณมีกลุ่มโฆษณาซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายหรือยกเว้นกลุ่มเป้าหมายที่ปิดใช้อยู่หรือมีผู้ใช้จำนวนน้อยเกินไป
  • แก้ไขการกระทำที่ถือเป็น Conversion ที่มีอัตรา Conversion ลดลง: ตรวจดูว่าคุณไม่ได้พลาด Conversion ใดไป แก้ไขเครื่องมือวัด Conversion แนะนำเนื่องจากการกระทำที่ถือเป็น Conversion บางรายการมีอัตรา Conversion ลดลงอย่างมาก
  • แก้ไขเครื่องมือวัด Conversion: คุณไม่มีการกระทำที่ถือเป็น Conversion ในเว็บไซต์ที่ใช้กับกลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติได้ เพิ่มการกระทำที่ถือเป็น Conversion ในเว็บไซต์แล้วใส่ไว้ในคอลัมน์ "Conversion" แนะนำเนื่องจากกลยุทธ์การเสนอราคาอาศัย Conversion แต่คุณไม่มีการกระทำที่ถือเป็น Conversion ในเว็บไซต์รวมอยู่ในการเสนอราคา
  • ป้องกันการระงับบัญชี Merchant Center: บัญชี Merchant Center ของคุณมีความเสี่ยงที่จะถูกระงับ โปรดแก้ไขปัญหาในคำเตือนเพื่อให้แสดงโฆษณา Shopping ต่อไปได้ แนะนำเนื่องจากบัญชี Merchant Center ของคุณมีความเสี่ยงที่จะถูกระงับจากการละเมิดนโยบายหรือคุณภาพของข้อมูล

การวัดผล

สำรวจคําแนะนําทั้งหมด

  • ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion: ระบุว่าคลิกใดทำให้ได้ลูกค้าและเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การเสนอราคาอัตโนมัติ แนะนำเนื่องจากเครื่องมือวัด Conversion ช่วยให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ดีขึ้น
  • แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการรับรอง: โฆษณาไม่ทำงานเนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับการรับรอง สมัครรับการรับรองเพื่อแสดงโฆษณา
  • ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ในแอป: ระบุว่าคลิกใดนำไปสู่การกระทำของลูกค้าที่มีคุณค่าในแอป แนะนําเนื่องจากเครื่องมือวัด Conversion ในแอปช่วยให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ดีขึ้น
  • สร้างแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์: ปรับปรุงความแม่นยําของเครื่องมือวัด Conversion และเข้าถึงฟีเจอร์ที่ป้องกันการสูญเสีย Conversion ด้วยแท็กแบบรวม แนะนำเนื่องจากคุณไม่ได้ใช้แท็ก Conversion ใหม่ล่าสุดของ Google เพื่อการวัด Conversion ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
  • แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์: แก้ปัญหาแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์เพื่อให้ไม่พลาด Conversion แนะนำเนื่องจากการตั้งค่าแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์อาจไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์
  • ตั้งค่าการวัดมูลค่า Conversion: เพิ่มประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่สำคัญโดยการรายงานมูลค่า Conversion แนะนำให้ใช้เนื่องจากคุณจะช่วยให้แคมเปญมีประสิทธิภาพดีขึ้นได้โดยการรายงานและเพิ่มประสิทธิภาพมูลค่าที่ Conversion ต่างๆ นำมาให้กับธุรกิจ
  • สร้าง Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว: คุณอาจไม่ได้วัด Conversion ทั้งหมดอยู่ ใช้ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือวัด Conversion แนะนำเนื่องจากคุณมีการเข้าชมในพื้นที่ที่ไม่มีการวัด Conversion
  • ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4: ใช้เครื่องมือล่าสุดในการเพิ่ม ROI ด้านการตลาดและรับข้อมูลเชิงลึกที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวด้วยการสร้างพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 เราแนะนำให้ใช้เนื่องจากพร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics ทั้งหมดจะปิดตัวลงในปี 2023 และคุณยังไม่ได้เก็บรวบรวมข้อมูลในพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 เลย
  • เพิ่มประสิทธิภาพสําหรับลูกค้าใหม่: ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นโดยเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อเป้าหมายนี้นอกเหนือจากยอดขายออนไลน์ แนะนำเนื่องจากคุณมีแคมเปญที่มีสิทธิ์เพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการได้ลูกค้าใหม่

อื่นๆ

สำรวจคําแนะนําทั้งหมด

  • ลองใช้แอป Google Ads บนอุปกรณ์เคลื่อนที่เวอร์ชันใหม่: ติดตามประสิทธิภาพและปรับปรุงบัญชีได้ทุกที่ทุกเวลา แนะนําเนื่องจากคุณไม่ได้ใช้แอป Google Ads บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ในช่วงนี้ แอป Google Ads บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน Google Ads และช่วยให้เข้าถึงแคมเปญได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากติดตามดูแลแคมเปญแบบเรียลไทม์แล้ว คุณยังตรวจสอบคำแนะนำที่ให้ผลลัพธ์สูงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและดำเนินการได้อย่างสะดวกรวดเร็วอีกด้วย

    ดาวน์โหลดแอป Google Ads บนอุปกรณ์เคลื่อนที่สำหรับ Android หรือ iOS ได้แล้ววันนี้

การเปลี่ยนแปลงที่เสนอ

การเปลี่ยนแปลงที่เสนอคือสิ่งที่ตัวแทนฝ่ายดูแลลูกค้าของ Google Ads แนะนำให้ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ การเปลี่ยนแปลงที่เสนอจะปรากฏในหน้าคำแนะนำของบัญชีเพื่อให้คุณตรวจดูเป็นอันดับแรก หากคุณเห็นด้วยกับการเพิ่มประสิทธิภาพข้างต้นและต้องการนำไปใช้กับบัญชี ให้คลิกใช้ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญฉบับร่างสําหรับ Search และ Display

การให้คะแนนแคมเปญที่หยุดชั่วคราว

แคมเปญจะยังได้รับคะแนนต่อไปเมื่อแคมเปญหยุดชั่วคราว

  • ที่ระดับบัญชีหรือ MCC: แคมเปญจะยังได้รับคะแนนต่อไปอีก 7 วัน เนื่องจากเรารวมคะแนนโดยอิงตามข้อมูลจากช่วง 7 วันล่าสุด หากผ่านไปแล้ว 7 วันแต่แคมเปญยังคงหยุดชั่วคราวอยู่ แคมเปญนั้นจะไม่ได้รับคะแนนอีกต่อไปเนื่องจากระบบจะรีเซ็ตสถิติเป็น 0
  • ที่ระดับแคมเปญ: แคมเปญจะยังได้รับคะแนนต่อไปอีก 7-90 วัน เนื่องจากเราให้คำแนะนำโดยอิงตามข้อมูลที่เก็บรวบรวมในช่วง 7-90 วัน (ส่วนใหญ่อิงตามข้อมูลที่เก็บรวบรวมในช่วง 28 วัน) หากแคมเปญยังคงหยุดชั่วคราวหลังจากที่ไม่มีการสร้างข้อมูลเพิ่มแล้ว ระบบจะไม่แสดงคำแนะนำหรือให้คะแนนแคมเปญอีก

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
7397766206171880360
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false