Google Analytics 4 (GA4) ได้เข้ามาแทนที่ Universal Analytics (UA) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2023 พร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics มาตรฐานได้หยุดประมวลผลข้อมูลแล้ว (พร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics 360 ที่มีคำสั่งซื้ออยู่ในขณะนี้จะสามารถประมวลผลข้อมูลต่อได้จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2024 ซึ่งเป็นการขยายเวลาแบบครั้งเดียว) คุณจึงจําเป็นต้องย้ายข้อมูลพร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics ไปยัง Google Analytics 4 ดูวิธีเปลี่ยนไปใช้ Google Analytics 4
ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2022 เป็นต้นไป หากคุณนำเข้าการกระทำที่ถือเป็น Conversion อย่างน้อย 1 รายการจากพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 และ Google Ads ตรวจพบว่าคุณมีการกระทำที่ถือเป็น Conversion ของ Universal Analytics ในบัญชีอยู่แล้ว ระบบจะตั้งค่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion ของ Google Analytics 4 ให้มีสถานะเป็น "รอง" โดยค่าเริ่มต้น
หากต้องการใช้การกระทำที่ถือเป็น Conversion ของ Google Analytics 4 สำหรับการเสนอราคา ให้เปลี่ยนสถานะจาก "รอง" เป็น "หลัก" หากต้องการหลีกเลี่ยง Conversion ที่ซ้ำกัน คุณต้องนำการกระทำที่ถือเป็น Conversion ของ Universal Analytics ออกหรือเปลี่ยนการกระทำที่ถือเป็น Conversion ของ Universal Analytics จาก "หลัก" เป็น "รอง" อย่างใดอย่างหนึ่ง
ในส่วนการวิเคราะห์กิจกรรมของลูกค้าในเว็บไซต์ คุณจะนำเข้า Conversion ของ Google Analytics ไปยัง Google Ads และใช้เครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads เพื่อวัด Conversion ได้ Google นำเสนอ 3 ฟีเจอร์เพื่อช่วยคุณในเรื่องนี้ ซึ่งคุณจะนำไปใช้ผสมผสานกันในเวลาเดียวกันได้ไม่ว่าจะในแบบใดก็ตาม ขยายส่วนด้านล่างสำหรับการเปรียบเทียบอย่างรวดเร็ว
เครื่องมือวัด Conversion ของพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4
- เหมาะสมในกรณีที่คุณสนใจการวัดและ Conversion ในแอปหรือเว็บไซต์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4
- รวม Conversion จากแหล่งที่มาที่ไม่ใช่ Google Ads ได้ เราจึงแนะนำสำหรับการติดตามการเข้าชมของลูกค้าทั้งหมดในเว็บไซต์
เครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads
- เหมาะสมในกรณีที่คุณสนใจเฉพาะ Conversion
- วัด Conversion จากแหล่งที่มาของ Google Ads เท่านั้น
ประโยชน์
การนําเข้า Conversion ของ Google Analytics มายัง Google Ads มีข้อดีบางประการดังนี้
- เข้าถึงข้อมูล Conversion ของ Google Analytics และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการคลิกใน Google Ads
- ดูข้อมูล Conversion ของ Google Analytics ใน Google Ads
- ให้สิทธิ์ Smart Bidding เข้าถึงข้อมูลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพราคาเสนอ ซึ่งอาจเพิ่ม Conversion และลดค่าใช้จ่าย
ก่อนเริ่มต้น
หากต้องการเริ่มนําเข้าข้อมูล คุณจะต้องลิงก์บัญชี Google Ads กับบัญชี Google Analytics และเปิดการติดแท็กอัตโนมัติในบัญชี Google Ads
วิธีการ
- จากบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู แล้วคลิกสรุป
- เลือก + การกระทําที่ถือเป็น Conversion ใหม่
- เลือกนําเข้า แล้วคลิก Google Analytics (UA) (สําหรับพร็อพเพอร์ตี้ Universal Analytics) หรือ Google Analytics (GA4) (สําหรับพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4)
- คลิกต่อไป
- ในหน้าถัดไป ให้เลือกฟีเจอร์ที่คุณต้องการนําเข้า แล้วคลิกนําเข้าและต่อไป
- คลิกเสร็จสิ้น
Google Ads จะเริ่มนําเข้าข้อมูลจากพร็อพเพอร์ตี้ Analytics โดยจะไม่รวมข้อมูลย้อนหลังก่อนการนำเข้า
โปรดทราบ
อาจใช้เวลาสูงสุดถึง 24 ชั่วโมงก่อนที่ข้อมูล Conversion จะแสดงใน Google Ads เมื่อพร้อมใช้งานแล้ว ข้อมูล Conversion ที่นำเข้าจะปรากฏอยู่ข้างๆ ข้อมูล Conversion ที่มีอยู่ในหน้า Conversion และคุณจะปรับแต่งคอลัมน์ในแท็บแคมเปญให้รวมข้อมูลนี้ไว้ได้ รายงานที่อิงตามข้อมูล Conversion ที่นําเข้าอาจรวม Conversion โดยประมาณเป็นค่าประมาณในกรณีที่ Google สังเกตไม่พบ Conversion ทั้งหมด
หลังจากนำเข้าข้อมูล Analytics (เช่น เป้าหมาย) มาไว้ใน Google Ads แล้ว ข้อมูลจะอยู่ภายใต้ข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Ads
แก้ไขการตั้งค่า Conversion สําหรับ Conversion ที่นําเข้า
หลังจากนําเข้า Conversion ของ Analytics แล้ว คุณจะแก้ไข Conversion ดังกล่าวได้ในลักษณะเดียวกับที่คุณแก้ไขการกระทําที่ถือเป็น Conversion ที่สร้างขึ้นใน Google Ads
- จากบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนเป้าหมาย
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลง Conversion ในหมวดหมู่เมนู แล้วคลิกสรุป
- คลิกชื่อ Conversion ที่นําเข้าที่คุณต้องการแก้ไข
- คลิกแก้ไขการตั้งค่าที่มุมขวาล่าง
- ทำการเปลี่ยนแปลงแล้วคลิกปุ่มบันทึก
ความคลาดเคลื่อนของข้อมูล
คุณอาจเห็นความคลาดเคลื่อนในสถิติ Conversion ระหว่าง Google Analytics กับเครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads
ดูวิธีแก้ไขความคลาดเคลื่อนของ Conversion หากได้ตรวจสอบอีกครั้งแล้วว่าการตั้งค่าของคุณนั้นถูกต้อง สาเหตุบางประการที่อาจทำให้เห็นความคลาดเคลื่อนมีดังนี้
วันที่ของธุรกรรมGoogle Ads รายงาน Conversion จากวันที่และเวลาของคลิกที่ทำให้เกิดการกระทำที่เสร็จสมบูรณ์ ไม่ใช่วันที่ของการดำเนินการนั้นเอง
ตัวอย่างเช่น สมมติว่ามีคนเห็นโฆษณาและคลิกโฆษณานั้นในวันที่ 19 กรกฎาคม แต่ทำการซื้อในเว็บไซต์ในวันถัดไปคือ 20 กรกฎาคม ใน Google Ads จะถือว่า Conversion ดังกล่าวเป็นของวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ของการคลิก ส่วนใน Google Analytics ระบบจะนับว่าเป็น Conversion ในวันที่ 20 กรกฎาคมซึ่งเป็นวันที่เกิด Conversion ขึ้นจริง
ใน Google Ads คุณเลือกที่จะนับ Conversion ทั้งหมดหรือนับเฉพาะ Conversion ที่ไม่ซ้ำได้โดยการตั้งค่าวิธีการนับสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion แต่ละรายการ รวมถึงเป้าหมายและธุรกรรมของ Analytics ที่นำเข้ามาใน Google Ads คอลัมน์ "Conversion" ใน Google Ads จะแสดง Conversion ที่เกิดขึ้นในช่วงกรอบเวลา Conversion ตามที่คุณเลือกไว้ในวิธีการนับ
ตัวอย่าง
คุณตั้งเป้าหมายเพื่อการกรอกข้อมูลในโฆษณาแบบกรอกฟอร์มไว้ในพร็อพเพอร์ตี้ GA4 ผู้ใช้รายหนึ่งกรอกแบบฟอร์ม 2 ชุด (ในคนละเซสชัน) หลังจากคลิกโฆษณา ในกรณีนี้ Analytics จะแสดงว่าเป็นเป้าหมายที่สำเร็จ 2 รายการ คุณนำเข้าเป้าหมายนี้มายัง Google Ads และตั้งค่าวิธีการนับเป็น "ที่ไม่ซ้ำ" ดังนั้นคุณจะเห็น Conversion เพียง 1 รายการ
หากต้องการความช่วยเหลือ
หากพบปัญหา
หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Analytics ใน Google Ads โปรดติดต่อเรา
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
- วิธีเพิ่มความเชื่อมั่นในข้อมูล Conversion ของ GA4
- การลิงก์ผลิตภัณฑ์: ลิงก์พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4 กับ Google Ads
- เพิ่มข้อมูล Google Analytics ลงในรายงาน Google Ads
- การเปรียบเทียบเมตริก Conversion ของ Analytics กับ Google Ads
- เหตุผลที่เป็นไปได้ที่ทําให้เกิดความแตกต่างด้าน Conversion ใน GA4 เทียบกับ UA