ตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สำหรับเว็บไซต์

2. ตั้งค่าแท็ก Google

หากสร้างการกระทําที่ถือเป็น Conversion โดยใช้ URL คุณจะเห็นหน้าจอใดหน้าจอหนึ่งต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ตั้งค่าแท็ก Google แล้ว คุณจะเห็นหน้าจอที่ยืนยันว่าได้ตั้งค่าการกระทำที่ถือเป็น Conversion แล้ว เท่านี้ก็เรียบร้อย หากเลือกที่จะติดตามมูลค่าเฉพาะธุรกรรมแบบไดนามิก คุณจะยังคงต้องแก้ไขโค้ดอยู่
  • ในกรณีที่ยังไม่ได้ตั้งค่าแท็ก Google คุณจะเห็นหน้าจอพร้อมวิธีตั้งค่าแท็ก Google

หากตั้งค่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion ด้วยตนเอง คุณจะเห็นหน้าจอใดหน้าจอหนึ่งต่อไปนี้

  • ในกรณีที่ตั้งค่าแท็ก Google แล้ว คุณจะเห็นวิธีการเพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์
  • ในกรณีที่ยังไม่ได้ตั้งค่าแท็ก Google คุณจะเห็นวิธีการเพิ่มทั้งแท็ก Google และข้อมูลโค้ดเหตุการณ์สําหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion นี้

การติดตั้งแท็ก Google

แท็ก Google จะเพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ลงในกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูล "ผู้เข้าชมทั้งหมด" ของคุณหากตั้งค่าข้อมูลไว้ และยังจะตั้งค่าคุกกี้ใหม่ในโดเมนซึ่งจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการคลิกโฆษณาที่นำผู้ชมมายังเว็บไซต์ เมื่อแท็ก Google ลิงก์กับบัญชี Google Ads แล้ว ระบบจะใช้ข้อมูลการคลิกเพื่อระบุแหล่งที่มาของ Conversion สําหรับแคมเปญ Google Ads โปรดแจ้งให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้งต้องได้รับความยินยอมในกรณีที่กฎหมายกำหนด

คุณต้องติดตั้งแท็ก Google ในทุกหน้าของเว็บไซต์ แต่ต้องมีเพียงแท็กเดียวในบัญชี Google Ads แต่ละบัญชี

เลือกวิธีติดตั้งแท็กจาก 2 วิธี

ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่าแท็ก Google สําหรับเว็บไซต์

ในส่วน "ตั้งค่าแท็ก Google" ให้เลือกตัวเลือกที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณที่สุดและทําตามวิธีการติดตั้งแท็ก

ใช้แท็ก Google ที่พบในเว็บไซต์ (แนะนํา)

ใช้แท็กที่ตรวจพบในเว็บไซต์เพื่อตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโค้ดของเว็บไซต์ ระบบจะเพิ่มผู้ใช้ในบัญชีของคุณเป็นผู้ใช้ในแท็ก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการแท็ก Google

1. คลิกรายละเอียดเพื่อดูรายละเอียดแท็ก

2. คลิกยืนยัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าแท็ก Google

หมายเหตุ: แนวทางปฏิบัติแนะนำคืออย่าใส่แท็ก Google มากกว่า 1 อินสแตนซ์ในแต่ละหน้าของเว็บไซต์

ใช้แท็ก Google ที่มีอยู่แล้ว

ตัวเลือกนี้จะแสดงให้เห็นว่าระบบตรวจพบแท็กในเว็บไซต์ที่คุณป้อนหรือไม่ เลือกแท็กที่มีป้ายกํากับว่า "ในเว็บไซต์" เพื่อตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโค้ดของเว็บไซต์

หมายเหตุ: หากเว็บไซต์ของคุณมีปริมาณการเข้าชมต่ำ แท็กของคุณอาจมีสถานะเป็น "ไม่พบ" หากเลือกแท็กที่ติดป้ายกํากับว่า "ตรวจไม่พบ" คุณอาจต้องติดตั้งแท็กดังกล่าว ระบบจะเพิ่มผู้ใช้ในบัญชีของคุณเป็นผู้ใช้ในแท็ก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการแท็ก Google

หากมีสิทธิ์เข้าถึงแท็กที่ระบุในระดับผู้ดูแลระบบ คุณควรเห็นแท็กเหล่านั้น หากไม่เห็นแท็กที่ต้องการ แสดงว่าคุณอาจไม่มีสิทธิ์ของผู้ใช้ที่เหมาะสมในการเปลี่ยนแปลงแท็ก Google ดังกล่าว

1. คลิกเลือกแท็กเพื่อดูข้อมูลต่อไปนี้
  • รายการแท็กที่คุณมีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบ
  • รหัสแท็ก
  • ตําแหน่งที่ตรวจพบแท็ก
    • หากระบบตรวจพบแท็กในเว็บไซต์ที่คุณป้อน คุณสามารถเลือกแท็กที่ติดป้ายกำกับว่า "ในเว็บไซต์" เพื่อตั้งค่าให้เสร็จสมบูรณ์โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโค้ดของเว็บไซต์ หากเลือกแท็กที่ติดป้ายกํากับว่า "ตรวจไม่พบ" คุณอาจต้องติดตั้งแท็กดังกล่าว
2. เลือกแท็ก Google ที่ต้องการใช้ จากนั้นคลิกยืนยัน

ติดตั้งแท็ก Google

คุณติดตั้งแท็ก Google ได้ 2 วิธีดังนี้

ติดตั้งโดยใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์

คุณสามารถใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์หรือระบบจัดการเนื้อหา (CMS) เช่น Wix หรือ Duda เพื่อติดตั้งใช้งานแท็ก Google เลือกเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ และทําตามวิธีการเพื่อตั้งค่าแท็ก Google ให้เสร็จโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโค้ด หากคุณจะติดตั้งใช้งานแท็กผ่านการผสานรวม CMS หรือเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ แต่การผสานรวม CMS ไม่ยอมรับรหัสแท็ก GT- ให้ใช้ชื่อแทน (AW-XXXXX หรือ G-XXXXX) ที่การผสานรวม CMS รองรับ

คุณสามารถตั้งค่าแท็ก Google ให้เสร็จได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงโค้ด หากคุณจัดการเว็บไซต์โดยใช้แพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งต่อไปนี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตั้งแท็ก Google โดยใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์

เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ให้คลิกเสร็จสิ้นเพื่อให้เราสแกนเว็บไซต์

คลิกเสร็จเพื่อตั้งค่าแท็ก Google ให้เสร็จ

ติดตั้งด้วยตนเอง

เลือกตัวเลือกนี้ หากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณตั้งค่าแท็กสำหรับการกระทำที่ถือเป็น Conversion ในบัญชี และไม่ได้ติดตั้งแท็ก Google วิธีติดตั้งแท็กคือคัดลอกแท็กและวางไว้ในโค้ดของหน้าทุกหน้าในเว็บไซต์หลังองค์ประกอบ <head> อย่าใส่แท็ก Google มากกว่า 1 รายการในหน้าเว็บแต่ละหน้า
1. เพิ่ม (TAG-ID) ลงในการตั้งค่าที่เหมาะสมจากผู้ให้บริการ
ภาพเคลื่อนไหวที่สาธิตวิธีติดตั้งแท็กเว็บไซต์ Google สําหรับเครื่องมือวัด Conversion ใน Google Ads

นี่คือตัวอย่างของแท็ก Google โดยที่ "TAG_ID" หมายถึงรหัสแท็กเฉพาะสำหรับบัญชี Google Ads เท่านั้น

<script async
src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=TAG
_ID"></script>

<script>

window.dataLayer = window.dataLayer || [];

function gtag(){dataLayer.push(arguments);}

gtag('js', new Date());

gtag('config', 'TAG_ID');

</script>

2. (ไม่บังคับ) แก้ไขแท็ก Google ตามที่ต้องการ ดังนี้

  • หากไม่ต้องการให้แท็ก Google เพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์ลงในรายการรีมาร์เก็ตติ้งในการโหลดหน้าเว็บเริ่มต้น ให้เพิ่มส่วนที่ไฮไลต์ด้านล่างลงในคำสั่ง 'config' ของแท็ก Google ดังนี้

    gtag('config',' TAG_ID',{'send_page_view': false});

  • หากไม่ต้องการให้แท็ก Google กำหนดคุกกี้ของบุคคลที่หนึ่งในโดเมนของเว็บไซต์ ให้เพิ่มส่วนที่ไฮไลต์ด้านล่างลงในคำสั่ง 'config' ของแท็ก Google ดังนี้

gtag('config',' TAG_ID',{'conversion_linker': false});

หมายเหตุ: เราไม่แนะนำวิธีนี้เพราะจะทำให้การวัด Conversion แม่นยำน้อยลง

หากคุณต้องการปิดใช้การรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้ง ให้เพิ่มคำสั่ง gtag('set') ที่ไฮไลต์ลงในแท็ก Google เหนือคำสั่ง gtag('js') วิธีนี้จะปิดใช้การรวบรวมข้อมูลรีมาร์เก็ตติ้งสำหรับบัญชี Google Ads ที่กำหนดค่าทั้งหมด

<script async

src="https://www.googletagmanager.com/gtag/js?id=TAG_ID"></script>

<script>

window.dataLayer = window.dataLayer || [];

function gtag(){dataLayer.push(arguments);}

gtag('set', 'allow_ad_personalization_signals', false);

gtag('js', new Date());

gtag('config', 'TAG_ID');

</script>

3. คัดลอกแท็ก Google แล้วเพิ่มลงในเว็บไซต์

4. เปิด HTML ของหน้าเว็บไซต์ที่ลูกค้าจะไปถึงหลังจากทำ Conversion เสร็จ เช่น หน้า "ขอบคุณสำหรับการสั่งซื้อ" ซึ่งเรียกว่าหน้า Conversion

5. วางแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์ระหว่างแท็กส่วนหัว (<head></head>) ของหน้าเว็บ แล้ววางข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ที่ใช้กับหน้าเว็บนั้น

6. บันทึกการเปลี่ยนแปลงในหน้าเว็บ

7. คลิกเสร็จสิ้น

8. คลิกติดตั้งแท็กเหตุการณ์

9. ข้าง "ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์" ให้เลือกว่าจะติดตาม Conversion ในการโหลดหน้าเว็บหรือคลิก

10. คัดลอกข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ จากนั้นทำตามวิธีการเพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในเว็บไซต์ หรือคลิกดาวน์โหลดข้อมูลโค้ดไว้เพิ่มภายหลัง

  • หากคุณกำลังติดตาม Conversion ตามการโหลดหน้าเว็บ ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บที่คุณกำลังติดตาม
  • หากคุณกำลังติดตาม Conversion ตามการคลิก ให้เพิ่มข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ลงในหน้าเว็บที่มีปุ่มหรือลิงก์ที่คุณต้องการติดตามการคลิก

11. คลิกถัดไป

12. คลิกเสร็จสิ้น

GIF แบบเคลื่อนไหวที่แสดงตัวเลือกให้คัดลอกหรือดาวน์โหลดข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ภายใน UI ของ Google Ads

13. คลิกเสร็จสิ้น หากคุณกำลังติดตามการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion ให้ทำตามวิธีการในหัวข้อติดตามการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion เพื่อเพิ่มส่วนเพิ่มเติมของโค้ดลงในปุ่มหรือลิงก์ที่คุณต้องการติดตาม จำเป็นต้องมีขั้นตอนนี้เพื่อให้เครื่องมือวัด Conversion ทำงานได้

ตอนนี้คุณตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สําหรับเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว

ตัวเลือกที่ 2: ใช้ Google Tag Manager

Google Tag Manager คือระบบจัดการแท็กที่ช่วยให้คุณอัปเดตแท็กและข้อมูลโค้ดบนเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ใช้ Google Tag Manager เพื่อติดตั้งแท็ก Google และแท็กเครื่องมือวัด Conversion

หมายเหตุ: คุณจะไม่สามารถใช้ Google Tag Manager ร่วมกับการติดตั้งใช้งานเครื่องมือวัด Conversion บางรายการ เช่น Conversion ตาม URL รวมถึงการตั้งค่า Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับเว็บและ Conversion ที่ปรับปรุงแล้วสำหรับโอกาสในการขาย

ตั้งค่าแท็ก Google

หากตั้งค่าการกระทําที่ถือเป็น Conversion โดยใช้ URL คุณจะต้องสร้างแท็ก Google ใน Tag Manager

ขั้นตอนที่ 1: สร้างแท็ก Google ใหม่

  1. เปิด Google Tag Manager
  2. เลือกคอนเทนเนอร์ที่ต้องการกําหนดค่า เปิดเมนูแท็ก
  3. สร้างแท็กใหม่ ป้อนชื่อแท็กที่ด้านบน (เช่น "การกําหนดค่าแท็ก Google - example.com")
  4. ในช่องการกําหนดค่าแท็ก ให้เลือกแท็ก Google
  5. กำหนดค่าแท็กดังนี้ ป้อนรหัสแท็ก Google ในช่องรหัสแท็ก

    ฉันจะดูรหัสแท็ก Google ได้จากที่ใด

    การตั้งค่าแท็ก Google มีอยู่ใน Google Ads, Google Analytics และ Google Tag Manager ให้เข้าสู่ระบบผลิตภัณฑ์ที่ต้องการแล้วทําตามวิธีการเพื่อดูรหัสแท็ก ดังนี้

    วิธีการของ Google Ads

    วิธีการของ Google Analytics

    1. ในส่วนผู้ดูแลระบบภายในการเก็บรวบรวมและการแก้ไขข้อมูล ให้เลือกสตรีมข้อมูล
    2.  คลิกที่สตรีมเพื่อดูรายละเอียด
    3. ผลลัพธ์: หน้าจอควรแสดงการตั้งค่า Google Analytics และการตั้งค่าแท็ก Googleภาพหน้าจอของการตั้งค่าสตรีมข้อมูล Google Analytics 4 การตั้งค่าแท็ก Google อยู่ในการตั้งค่าสตรีมข้อมูล

    วิธีการของ Google Tag Manager

    หมายเหตุ: หากต้องการดูรหัสแท็ก Google ใน Google Tag Manager คุณต้องจัดการแท็ก Google Ads แท็ก Analytics หรือแท็ก Google ในคอนเทนเนอร์

    1. เปิด Google Tag Manager.
    2. คลิกแท็บแท็ก Google เพื่อดูแท็ก Google ที่ตั้งค่าไว้ก่อนหน้านี้
      ภาพรวมแท็ก Google ใน Google Tag Manager
    3. คลิกชื่อแท็กเพื่อแก้ไขการตั้งค่าแท็ก Google
  6. ไม่บังคับ: ตั้งตัวเลือกการกำหนดค่าเพิ่มเติมเพื่อควบคุมวิธีที่แท็ก Google สื่อสารกับปลายทางของแท็กได้ หากตั้งค่าแท็ก Google และต้องการเก็บการตั้งค่าเริ่มต้นทั้งหมดไว้ ให้ข้ามไปที่ขั้นตอนที่ 2: สร้างทริกเกอร์

การตั้งค่าที่ไม่บังคับ

การตั้งค่าพารามิเตอร์ส่วนกลาง

หากต้องการกำหนดบริบททั่วไปในแท็ก Google หลายรายการ ให้ระบุพารามิเตอร์ส่วนกลางโดยใช้ gtag.js ในเว็บไซต์โดยตรง

แท็ก Google ทั้งหมดอ่านพารามิเตอร์ส่วนกลางบนเว็บไซต์ ใช้ตัวเลือกนี้สําหรับข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเท่านั้น

ดูวิธีใช้พารามิเตอร์ซ้ำในแท็กหลายรายการได้ในเอกสารประกอบสําหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์

การตั้งค่า

คุณสามารถระบุพารามิเตอร์การกำหนดค่าเพิ่มเติมที่ส่งผลต่อการตั้งค่าแท็ก Google ได้

หากต้องการใช้การกำหนดค่าซ้ำในแท็ก Google ให้สร้างตัวแปรการตั้งค่าการกำหนดค่า

การตั้งค่าเหตุการณ์ที่แชร์

คุณระบุพารามิเตอร์เพิ่มเติมที่ส่งพร้อมกับเหตุการณ์ทั้งหมดได้ เช่น สกุลเงินของราคา พารามิเตอร์เหตุการณ์ใช้ได้กับแท็กที่คุณเพิ่มเท่านั้น

หากต้องการใช้การตั้งค่าเหตุการณ์ซ้ำในแท็ก Google ให้สร้างตัวแปรการตั้งค่าเหตุการณ์ของแท็ก Google ใช้ชื่อพารามิเตอร์เหตุการณ์ที่แนะนําเพื่อให้ Google Analytics สร้างมิติข้อมูลและเมตริกให้คุณได้

ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์การติดแท็ก

การติดแท็กฝั่งเซิร์ฟเวอร์ช่วยให้คุณย้ายแท็กบางส่วนออกจากเว็บไซต์หรือแอป แล้ววางไว้บนเซิร์ฟเวอร์แทน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดแท็กฝั่งเซิร์ฟเวอร์

หากต้องการส่งเหตุการณ์ทั้งหมดไปยังคอนเทนเนอร์ของเซิร์ฟเวอร์ Tag Manager แทน Google Analytics คุณต้องใช้พารามิเตอร์ต่อไปนี้

  1. เปิดเมนูการตั้งค่าการกำหนดค่า
  2. ตั้ง URL ของคอนเทนเนอร์เซิร์ฟเวอร์โดยการเพิ่มพารามิเตอร์การกำหนดค่าใหม่ดังนี้
    • ชื่อ: server_container_url
    • ค่า: ตั้งเป็น URL ของคอนเทนเนอร์เซิร์ฟเวอร์ของคอนเทนเนอร์เซิร์ฟเวอร์ Tag Manager

ผลลัพธ์: พารามิเตอร์การกำหนดค่าควรมีลักษณะดังนี้ ภาพหน้าจอของการติดตั้งใช้งานการติดแท็กฝั่งเซิร์ฟเวอร์ในแท็ก Google

ตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้

พร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้คือแอตทริบิวต์ที่อธิบายกลุ่มต่างๆ ในฐานผู้ใช้ เช่น ค่ากำหนดภาษาหรือสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ คุณใช้พร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้

ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้ชื่อ favorite_food ซึ่งใช้เพื่อบันทึกอาหารโปรดของผู้ใช้แต่ละราย แล้วใช้ข้อมูลนี้เพื่อแบ่งกลุ่มผู้ใช้ตามอาหารโปรดได้

Analytics จะรวบรวมมิติข้อมูลผู้ใช้บางรายการโดยอัตโนมัติ คุณจึงไม่ต้องกำหนดพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้สำหรับมิติข้อมูลเหล่านั้น คุณสามารถตั้งค่าพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้เพิ่มได้ถึง 25 รายการต่อพร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4

หากต้องการวัดพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้ที่กำหนดเอง คุณต้องสร้างตัวแปรการตั้งค่าเหตุการณ์แท็ก Google ใหม่ จากนั้นกำหนดให้กับแท็ก Google

7. บันทึกแท็ก Google

ขั้นตอนที่ 2: สร้างทริกเกอร์

  1. คลิกการเรียกให้แสดงและใช้การเริ่มต้น - เรียกให้แสดงหน้าเว็บทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่าแท็ก Google จะเริ่มทํางานก่อนทริกเกอร์อื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทริกเกอร์หน้าเว็บ
  2. ตั้งชื่อแท็กและบันทึกการกําหนดค่าแท็ก

ผลลัพธ์

การกําหนดค่าแท็กควรมีลักษณะดังนี้

ภาพหน้าจอของการตั้งค่าแท็ก Google ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

ตั้งค่าแท็กเครื่องมือวัด Conversion

หากตั้งค่า Conversion ด้วยตนเอง คุณต้องตั้งค่าแท็กเครื่องมือวัด Conversion ดังนี้

  1. คัดลอกรหัส Conversion และป้ายกํากับ Conversion (ที่แสดงใน Google Ads) ของการกระทําที่ถือเป็น Conversion
  2. ทำตามวิธีการเพื่อตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion ของ Google Ads ใน Google Tag Manager สำคัญ: อย่าลืมเพิ่มแท็ก Conversion Linker และกำหนดค่าให้เริ่มทำงานในหน้าเว็บทุกหน้า เพื่อให้มีการติดตามในเบราว์เซอร์ทั้งหมดอย่างถูกต้อง
  3. คลิกถัดไป
  4. คลิกเสร็จสิ้น
  5. หากคุณกำลังติดตามการคลิกในเว็บไซต์เป็น Conversion คุณต้องทำตามขั้นตอนการตั้งค่าเพิ่มเติมใน Google Tag Manager ให้เสร็จสมบูรณ์ จำเป็นต้องมีขั้นตอนนี้เพื่อให้เครื่องมือวัด Conversion ทำงานได้ เลือกตัวเลือกแบบใดแบบหนึ่งด้านล่าง
เคล็ดลับ: ติดตั้งแท็กเครื่องมือวัด Conversion ด้วย Google Tag Manager โดยคุณสามารถใช้ Google Tag Manager เพื่อติดตั้งแท็กแทนการเพิ่มแท็กเครื่องมือวัด Conversion ลงในโค้ดของเว็บไซต์ด้วยตนเองได้ และจะต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้
  • รหัส Conversion
  • ป้ายกำกับ Conversion
คุณจะเห็นข้อมูลนี้ในข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ของการกระทำที่ถือเป็น Conversion จากตัวอย่างข้อมูลโค้ดด้านล่างนี้ TAG_ID หมายถึงรหัส Conversion ของบัญชีคุณโดยเฉพาะ ส่วน AW-CONVERSION_LABEL หมายถึงป้ายกำกับ Conversion ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามการกระทำที่ถือเป็น Conversion แต่ละรายการ

<!-- ข้อมูลโค้ดเหตุการณ์ของตัวอย่างหน้า Conversion --> <script>

gtag('event', 'conversion', {'send_to': 'AW-CONVERSION_ID/AW-CONVERSION_LABEL',

'value': 1.0,

'currency': 'USD'

});

</script>

ตอนนี้คุณตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion สําหรับเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว

ตัวเลือกขั้นสูง

ปิดใช้การรวบรวมข้อมูลที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้

คุณสามารถเลือกปิดใช้การรวบรวมข้อมูลเพื่อโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ให้ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการดูโฆษณาประเภทนี้ หรือจะปิดใช้เพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดก็ได้ คุณสามารถแก้ไขแท็กที่ติดทั่วเว็บไซต์และปิดใช้การรวบรวมข้อมูลเพื่อโฆษณาที่ปรับตามโปรไฟล์ของผู้ใช้ให้ผู้ใช้บางรายในเว็บไซต์ หรือจะเลือกยกเว้นผู้ใช้ทุกรายจากแคลิฟอร์เนียในส่วน "ตัวจัดการกลุ่มเป้าหมาย" ของบัญชี Google Ads ก็ได้

หากไม่แน่ใจว่าตั้งค่าแท็กถูกต้องหรือไม่

คุณใช้ผู้ช่วยแท็กเพื่อตรวจสอบการติดตั้งแท็กได้ ดูการแก้ปัญหาเพิ่มเติมได้ที่บทความแก้ปัญหาการติดแท็กทั่วเว็บไซต์ หรือใช้ผู้ช่วยแท็กเพื่อแก้ปัญหาการกระทําที่ถือเป็น Conversion ซึ่งไม่ได้ยืนยันหรือไม่ทํางาน

แจ้งผู้เข้าชมเว็บไซต์เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล

โปรดแจ้งให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณรวบรวมในเว็บไซต์ พร้อมทั้งต้องได้รับความยินยอมในการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด

การรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการติดตามเว็บไซต์

Google มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด ดังนั้น Google Ads จะรวบรวมข้อมูลในหน้าเว็บที่คุณใช้งานแท็กที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

โปรดแจ้งให้ผู้ใช้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณรวบรวมในเว็บไซต์ พร้อมทั้งต้องได้รับความยินยอมในการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในกรณีที่กฎหมายกำหนด

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
16078665130915489774
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false