เรากำลังลดความซับซ้อนในการสร้างแคมเปญ Display เพื่อให้คุณใช้ความสามารถขั้นสูงของ AI ของ Google ในแคมเปญได้ง่ายขึ้น พร้อมกับกำหนดตําแหน่งที่โฆษณาจะแสดงได้อย่างโปร่งใสยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะทยอยเปิดตัวและอาจยังไม่พร้อมให้คุณใช้งาน
สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลง
- ในประสบการณ์การใช้งานแคมเปญ Display แบบใหม่ คุณจะมีการเข้าถึงและประสิทธิภาพที่คุ้นเคย โดยเลือกระดับของ AI ของ Google ที่ต้องการได้ในการเสนอราคา ครีเอทีฟโฆษณา และกลุ่มเป้าหมาย กระบวนการสร้างแคมเปญที่ราบรื่นช่วยให้คุณเลือกได้ว่าจะใช้ AI หรือจะกำหนดด้วยตนเอง และยังเปลี่ยนตัวเลือก AI ได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องสร้างแคมเปญใหม่
- เราขอแนะนําการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อช่วยคุณหากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องซึ่งทำให้ได้การแสดงผล จํานวนคลิก หรือ Conversion เพิ่มขึ้น การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพสามารถเป็นตัวเลือกการกําหนดเป้าหมายซึ่งทําหน้าที่สมบูรณ์ในตัว หรือคุณจะเพิ่มสัญญาณกลุ่มเป้าหมายเพื่อปรับแต่งการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพก็ได้ การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะพิจารณาสัญญาณอื่นๆ นอกเหนือจากที่คุณเลือกไว้ (เช่น กลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มตามบริบท) เพื่อให้ได้ลูกค้าที่อาจยังไม่ได้เข้าถึงและปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ
- ประสบการณ์การสร้างแคมเปญใน Google Ads จะให้คําแนะนําแบบทีละขั้นตอนสําหรับแต่ละส่วนของแคมเปญ คุณข้ามไปยังส่วนที่ต้องการได้ทันทีโดยใช้เมนูการนำทางด้านซ้ายมือ แทนที่จะต้องเลื่อนผ่านส่วนต่างๆ ของแคมเปญ
ดูความคิดเห็นของบุคคลต่างๆ เกี่ยวกับประสบการณ์การสร้างแคมเปญใหม่ในเครือข่ายดิสเพลย์
ข้อดีอื่นๆ
- รองรับการระบุแหล่งที่มาจากข้อมูล: การระบุแหล่งที่มาจากข้อมูลจะให้เครดิตสําหรับ Conversion ตามวิธีที่ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับโฆษณาต่างๆ และตัดสินใจเป็นลูกค้า โดยจะใช้ข้อมูลจากบัญชีเพื่อตัดสินว่าโฆษณา คีย์เวิร์ด และแคมเปญใดมีผลต่อเป้าหมายธุรกิจได้มากที่สุด
- ใช้การจ่ายสำหรับ Conversion: หากคุณเป็นผู้ลงโฆษณาที่มีสิทธิ์และใช้การเสนอราคา CPA เป้าหมาย คุณจะใช้การจ่ายสําหรับ Conversion เพื่อชำระเงินสําหรับ Conversion ที่ได้รับที่ CPA เป้าหมาย (แทนการคลิก) ได้
- ควบคุมได้ดีขึ้นและมีความโปร่งใสมากขึ้น: คุณสามารถเพิ่มสัญญาณการกําหนดเป้าหมายและการยกเว้นเนื้อหาในแคมเปญ รวมถึงใช้ฟีเจอร์ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมายเพื่อดูประเภทของลูกค้าที่ทํา Conversion เมื่อเห็นโฆษณา
คำถามที่พบบ่อย
จะเกิดอะไรขึ้นกับแคมเปญสมาร์ทดิสเพลย์หรือแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์มาตรฐานที่มีอยู่
แคมเปญสมาร์ทดิสเพลย์ที่ใช้งานอยู่และแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์มาตรฐานสามารถทำงานต่อไปได้ คุณยังสามารถแก้ไขแคมเปญเหล่านี้ได้อีกด้วยหากจำเป็น เราจะให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญที่มีอยู่แล้วเมื่อเราขายประสบการณ์ใช้งานแคมเปญ Display แบบใหม่ไปให้ผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ เพิ่มเติม
จะเกิดอะไรขึ้นกับฟีเจอร์การกําหนดเป้าหมายด้วย AI ของแคมเปญ Smart Display
ตอนนี้ฟีเจอร์การกําหนดเป้าหมายด้วย AI พร้อมให้ใช้งานในชื่อการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ เมื่อไปถึงส่วน "การกําหนดเป้าหมาย" ขณะสร้างแคมเปญ คุณจะเห็นว่าแคมเปญกำลังใช้งานการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพนั้นเหมือนกับฟีเจอร์การกำหนดเป้าหมายด้วย AI ในแคมเปญ Smart Display ตรงที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีแนวโน้มจะทํา Conversion ทั้งนี้คุณจะเพิ่มสัญญาณในการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพได้ (เช่น กลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มคีย์เวิร์ด) แต่ไม่ได้เป็นข้อบังคับ
จะเกิดอะไรขึ้นกับฟีเจอร์การขยายการกําหนดเป้าหมายของแคมเปญในเครือข่ายดิสเพลย์มาตรฐาน
ตอนนี้การขยายการกําหนดเป้าหมายพร้อมให้ใช้งานในชื่อการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพเหมือนกับการขยายการกำหนดเป้าหมายตรงที่จะดูกลุ่มเป้าหมายที่คุณเพิ่มในการกําหนดเป้าหมายเพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องให้กับแคมเปญ ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือ การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพอาจมองหากลุ่มเป้าหมายที่อยู่นอกกลุ่มเป้าหมายที่เลือกไว้ หากมีโอกาสปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น
การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะทำงานตามการควบคุมความปลอดภัยของแบรนด์ที่มีอยู่หรือไม่
การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพจะทำงานตามการตั้งค่าความปลอดภัยของแบรนด์ที่มีอยู่ (เช่น การยกเว้นเนื้อหา) คุณไม่จําเป็นต้องทําการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมกับการตั้งค่าความปลอดภัยของแบรนด์เมื่อใช้การกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพ
ฉันจะแก้ไขการตั้งค่าการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพโดยใช้ Google Ads API หรือ Google Ads Editor ได้ไหม
Google Ads API และ Google Ads Editor รุ่นที่จะเปิดตัวในอนาคตจะให้คุณเพิ่มการกำหนดเป้าหมายแบบเพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญ (เช่นเดียวกับที่ทำตอนสร้างแคมเปญใน Google Ads โดยตรง)
