สร้างกลุ่มชิ้นงาน

หมายเหตุ: เนื่องจาก Google ปรับปรุงกระบวนการเริ่มต้นใช้งานของผู้ใช้ใหม่ ผู้ใช้ Google Ads รายใหม่จึงอาจได้พบขั้นตอนการทํางานที่ผ่านการอัปเดตแล้ว เนื้อหาด้านล่างนี้เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ Google Ads ที่สร้างและเข้าสู่ระบบบัญชี Google Ads ของตนอยู่แล้ว หน้านี้จะมีการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมในปี 2023

กลุ่มชิ้นงานสร้างขึ้นจากรูปภาพ โลโก้ บรรทัดแรก คำอธิบาย วิดีโอ และสัญญาณของกลุ่มเป้าหมายที่คุณเพิ่มเมื่อสร้างแคมเปญ Performance Max ระบบจะผสมและจับคู่ชิ้นงานเหล่านี้โดยอัตโนมัติตามช่องทางของ Google Ads (YouTube, Gmail หรือ Search และอื่นๆ) ที่แสดงโฆษณา คุณสามารถใช้โปรแกรมแก้ไขตัวอย่างโฆษณาเพื่อดูการผสมผสานชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาที่สามารถใช้ได้

Google อาจสร้างชิ้นงานโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า เมื่อเปิดการตั้งค่านี้ Google จะใช้ AI เพื่อสร้างชิ้นงานเพิ่มเติม (บรรทัดแรกและคําอธิบาย) เพื่อใช้ร่วมกับชิ้นงานที่คุณให้ไว้ ชิ้นงานใหม่เหล่านี้จะอิงตามหน้า Landing Page, โดเมน รวมถึงโฆษณาและชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาที่มีอยู่ เราขอแนะนําให้เปิดการตั้งค่านี้ไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติในแคมเปญ Performance Max

โฆษณา Performance Max สามารถแสดงในช่องทางต่อไปนี้

  • ฟีด Discovery
  • Gmail
  • เครือข่าย Display ของ Google
  • Google Search
  • ฟีด Shorts บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • YouTube

หมายเหตุ: ผู้ลงโฆษณาที่มีฟีด Merchant Center ไม่จําเป็นต้องใส่ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาเพิ่มเติมเพื่อลงแคมเปญ Performance Max อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนําให้สร้างชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาเพื่อให้แคมเปญแสดงในแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบอาจสร้างโฆษณาขึ้นโดยอัตโนมัติในนามของคุณเมื่อทำเช่นนั้นได้ โปรดทราบว่าโฆษณา Shopping ไม่มีชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ

ภาพประกอบการสร้างกลุ่มชิ้นงานใน Google Ads

โปรดทราบ

คุณสามารถรวมชิ้นงานที่ให้ไว้ในกลุ่มชิ้นงานหนึ่งกับชิ้นงานอื่นๆ จากกลุ่มเดียวกันเพื่อสร้างโฆษณาที่แสดงใน Google Search, Google Maps, Display, YouTube, Gmail, ฟีด Discovery และเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ของ Google ได้ ผู้ลงโฆษณาสร้างกลุ่มชิ้นงานได้หลายกลุ่มต่อแคมเปญหลังจากสร้างกลุ่มชิ้นงานเริ่มต้นและเปิดตัวแคมเปญแล้ว

วิธีการ

เพิ่มชิ้นงาน

เริ่มกลุ่มชิ้นงานโดยเพิ่มบรรทัดแรก รูปภาพ และวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับธีมหรือกลุ่มเป้าหมายเดียว Performance Max จะนำชิ้นงานเหล่านี้ประกอบเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบโฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสำหรับเป้าหมายโดยอัตโนมัติ และจะแสดงครีเอทีฟโฆษณาที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในแต่ละโฆษณา

  1. เพิ่มชื่อกลุ่มชิ้นงานเพื่อระบุธีมกลุ่มชิ้นงาน แม้ว่าคุณจะสร้างกลุ่มชิ้นงานได้เพียง 1 กลุ่มก่อนเผยแพร่แคมเปญ แต่ก็เพิ่มกลุ่มชิ้นงานอื่นอีกภายหลังได้

  2. ระบบจะนําโฆษณาไปยัง URL สุดท้าย หากเปิด Final URL Expansion ไว้ URL เพิ่มเติมในโดเมนจะแสดงเมื่อมีความเกี่ยวข้อง

  3. เพิ่มข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และชิ้นงานลงในกลุ่มชิ้นงานโดยทำตามข้อกำหนดด้านล่าง

หมายเหตุ: หากเปิด Final URL Expansion ไว้ Google อาจใช้หน้า Landing Page ที่มีความเกี่ยวข้องมากกว่าโดยอิงจากคำค้นหาของผู้ใช้แทน URL สุดท้าย และสร้างบรรทัดแรก คําอธิบาย และชิ้นงานเพิ่มเติมแบบไดนามิกเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาในหน้า Landing Page ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ

ข้อกําหนดด้านข้อความ

ประเภทชิ้นงานข้อความ

ข้อกำหนด

URL สุดท้าย

เพิ่ม URL สุดท้าย 1 รายการ

บรรทัดแรก

สูงสุด 30 อักขระ โดยมีอย่างน้อย 1 รายการที่มีอักขระไม่เกิน 15 ตัว

เพิ่มบรรทัดแรกได้สูงสุด 15 รายการ

บรรทัดแรกแบบยาว

สูงสุด 90 อักขระ

เพิ่มบรรทัดแรกแบบยาวได้สูงสุด 5 รายการ

คำอธิบาย

สูงสุด 90 อักขระ โดยมีอย่างน้อย 1 รายการที่มีอักขระไม่เกิน 30 ตัว

เพิ่มคำอธิบายได้สูงสุด 4 รายการ

ชื่อธุรกิจ

สูงสุด 25 อักขระ

เพิ่มชื่อธุรกิจ 1 ชื่อ

คำกระตุ้นให้ดำเนินการ (Call-To-Action)

ค่าเริ่มต้นเป็นแบบอัตโนมัติ หรือเลือกจากรายการ

เพิ่มคำกระตุ้นให้ดำเนินการ (Call-To-Action) 1 รายการ

เส้นทาง URL ที่แสดง

สูงสุด 15 อักขระต่อรายการ

เพิ่มเส้นทาง URL ที่แสดงได้สูงสุด 2 รายการ

ข้อกําหนดด้านรูปภาพ

นอกจากข้อกําหนดในตารางแล้ว ชิ้นงานรูปภาพทั้งหมดต้องเป็นไปตามข้อกําหนดต่อไปนี้ด้วย

  • บันทึกเป็นไฟล์ JPG หรือ PNG

  • ขนาดไฟล์สูงสุด 5120 KB

  • เนื้อหาต้องอยู่ตรงกลาง 80% ของรูปภาพ (พื้นที่ปลอดภัยที่จะไม่ถูกตัดออกไม่ว่าหน้าจออุปกรณ์จะมีขนาดเท่าไร)

ประเภทชิ้นงานรูปภาพ

ข้อกำหนด

รูปภาพแนวนอน

1:91:1

คําแนะนํา: เพิ่มรูปภาพแนวนอน 4 รูปขนาด 1200 x 628 พิกเซล

ขนาดขั้นต่ำ: 600 x 314 พิกเซล

รูปภาพรวมสูงสุด: 20

รองรับการแสดงในโหมดค้นหารูปภาพเท่านั้น

รูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส

1:1

คําแนะนํา: เพิ่มรูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส 4 รูปขนาด 1200 x 1200 พิกเซล

ขนาดขั้นต่ำ: 300 x 300 พิกเซล

รูปภาพรวมสูงสุด: 20

คุณสามารถอัปโหลดและครอบตัดรูปภาพที่ไม่ตรงตามสัดส่วนภาพภายในอินเทอร์เฟซได้

รูปภาพแนวตั้ง

4:5

คําแนะนํา: เพิ่มรูปภาพแนวตั้ง 2 รูปขนาด 960 x 1200 พิกเซล

ขนาดขั้นต่ำ: 480 x 600 พิกเซล

รูปภาพรวมสูงสุด: 20

โลโก้สี่เหลี่ยมจัตุรัส

1:1

คําแนะนํา: เพิ่มโลโก้สี่เหลี่ยมจัตุรัส 1 รายการขนาด 1200 x 1200 พิกเซล

ขนาดขั้นต่ำ: 128 x 128 พิกเซล

โลโก้รวมสูงสุด: 5

โลโก้แนวนอน

4:5

คําแนะนํา: เพิ่มโลโก้แนวนอน 1 รายการขนาด 1200 x 300 พิกเซล

ขนาดขั้นต่ำ: 512 x 128 พิกเซล

โลโก้รวมสูงสุด: 5

คุณใช้รูปภาพที่มีการซ้อนทับได้ แต่ขอแนะนำให้ใช้รูปภาพอย่างน้อย 1 รูปที่ไม่มีการซ้อนทับสําหรับแต่ละสัดส่วนภาพ (สี่เหลี่ยมจัตุรัส แนวนอน และแนวตั้ง) เช่น

รูปภาพที่ไม่มีการซ้อนทับด้วยข้อความหรือกราฟิก

รูปภาพที่มีการซ้อนทับด้วยข้อความหรือกราฟิก

อนุญาตให้มีการวางซ้อนข้อความหรือกราฟิก

ไม่อนุญาตให้มีการวางซ้อนข้อความหรือกราฟิก

ไม่อนุญาตให้มีการวางซ้อนข้อความหรือกราฟิก

อนุญาตให้มีการวางซ้อนโลโก้ การวางซ้อนโลโก้ ไม่อนุญาต

ข้อกําหนดเกี่ยวกับวิดีโอ

เคล็ดลับ: Google จะปรับขนาดโฆษณาวิดีโอโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตามแพลตฟอร์มและปรับปรุงคุณภาพของโฆษณา หากคุณไม่ได้วางแผนที่จะอัปโหลดวิดีโอ ให้พิจารณาวิธีที่ชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาอื่นๆ จะปรากฏหากมีการปรับขนาด

ข้อกําหนดเกี่ยวกับวิดีโอ

โฆษณาวิดีโอมีความสําคัญอย่างยิ่งต่อความสําเร็จของแคมเปญและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้ หากใส่วิดีโออย่างน้อย 1 รายการในแคมเปญ Performance Max คุณอาจมีสิทธิ์แสดงในพื้นที่โฆษณาวิดีโอเพิ่มเติม

แคมเปญ Performance Max ต้องมีวิดีโออย่างน้อย 1 รายการที่มีความยาวมากกว่า 10 วินาที คุณอัปโหลดวิดีโอได้สูงสุด 5 รายการ เราขอแนะนำให้มีวิดีโอแนวนอน สี่เหลี่ยมจัตุรัส และแนวตั้งอย่างน้อย 1 รายการ

หากคุณไม่เพิ่มวิดีโอลงในกลุ่มชิ้นงาน Performance Max ระบบอาจสร้างวิดีโออย่างน้อย 1 รายการโดยอัตโนมัติจากชิ้นงานในกลุ่มชิ้นงาน และอาจแสดงในรูปแบบแนวนอนหรือแนวตั้ง

นอกจากนี้ AI ของ Google อาจพลิกวิดีโอที่คุณอัปโหลดเพื่อเปลี่ยนวิดีโอแนวนอนเป็นวิดีโอสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือแนวตั้ง เพื่อให้แสดงใน YouTube Shorts ได้

วิดีโอแต่ละรายการจะได้รับการตรวจสอบก่อนเผยแพร่เพื่อไม่ให้มีปัญหาใดๆ เช่น ข้อความหรือโลโก้ถูกครอบตัดออก โฟกัสไม่ดี วิดีโอไม่มีข้อความต้นฉบับและรูปลักษณ์ที่สวยงาม หรือข้อจำกัดความรับผิดทางกฎหมายถูกตัดออก โฆษณาวิดีโอแบบพลิกจะแสดงต่อเมื่อการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของวิดีโอต้นฉบับเป็นสาธารณะหรือไม่เป็นสาธารณะเท่านั้น

เมื่อเพิ่มโฆษณาวิดีโอแบบพลิกในแคมเปญ คุณจะดูโฆษณานั้นได้โดยไปที่กลุ่มชิ้นงาน Performance Max หรือแคมเปญวิดีโอเพื่อกระตุ้นการกระทำ

หากต้องการสร้างวิดีโอของตนเอง

หากคุณไม่มีชิ้นงานวิดีโอและไม่ต้องการใช้วิดีโอที่ระบบสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ให้ใช้เครื่องมือ Video Creation ใน Google Ads เพื่อสร้างวิดีโอสําหรับใช้ในแคมเปญ Performance Max ผู้ลงโฆษณาอาจอัปโหลดวิดีโอที่มีสิทธิ์สําหรับ YouTube Shorts (รูปแบบแนวตั้งความยาวมากกว่าหรือเท่ากับ 10-60 วินาที) ได้ด้วย ซึ่งอาจมีสิทธิ์แสดงใน YouTube Shorts หากต้องการดูวิธีสร้างวิดีโอใน Google Ads โปรดไปที่สร้างวิดีโอโดยใช้คลังชิ้นงาน

Google อาจปรับขนาดโฆษณาวิดีโอโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตามแพลตฟอร์มและปรับปรุงคุณภาพของโฆษณา หลังจากที่คุณสร้างและอัปโหลดชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาแล้ว ระบบอาจปรับวิดีโอแนวนอนเป็นสัดส่วนภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส (1:1) หรือแนวตั้ง (9:16) สําหรับโฆษณาในสตรีมของ YouTube และ YouTube Shorts Google จะตรวจสอบวิดีโอแต่ละรายการเพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพไม่ได้ลดลง

ดูข้อกําหนดของโฆษณา Performance Max ได้ในแผนภูมิด้านล่าง

แนะนำ ยังยอมรับได้ ข้อความไฮไลต์
ความละเอียด

1080p (Full HD)

พิกเซล (px) แนะนําสำหรับความละเอียดระดับ HD:

  • 1920 x 1080 พิกเซล (แนวนอน)
  • 1080 x 1920 พิกเซล (แนวตั้ง)
  • 1080 x 1080 พิกเซล (สี่เหลี่ยมจัตุรัส)

720p (HD มาตรฐาน)

พิกเซลขั้นต่ำ:

  • 1280 x 720 พิกเซล (แนวนอน)
  • 720 x 1280 พิกเซล (แนวตั้ง)
  • 480 x 480 พิกเซล (สี่เหลี่ยมจัตุรัส)

พิกเซลขั้นต่ำสําหรับ SD

  • 640 x 480 พิกเซล (แนวนอน)
  • 480 x 640 พิกเซล (แนวตั้ง)
  • 480 x 480 พิกเซล (สี่เหลี่ยมจัตุรัส)
เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด เราไม่แนะนําให้ใช้ SD
สัดส่วนภาพ
  • 16:9 สำหรับแนวนอน
  • 9:16 สำหรับแนวตั้ง
  • 1:1 สำหรับสี่เหลี่ยมจัตุรัส
  • 4:3 (SD) สำหรับแนวนอน
  • 2:3 สำหรับแนวตั้ง
เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด เราไม่แนะนําให้ใช้ SD
รูปแบบ .MPG (MPEG-2 หรือ MPEG-4) .WMV, .AVI, .MOV and .FLV .MPEG-1, .MP4, .MPEGPS, 3GPP, WebM, DNxHR, ProRes, CineForm และ HEVC (h265) ไม่ยอมรับไฟล์เสียง เช่น ไฟล์ MP3, WAV หรือ PCM บน YouTube
ขนาดไฟล์ ≤256 GB - -
ระยะเวลาของโฆษณา

การวางแนววิดีโอและระยะเวลาของโฆษณาตามแนวทางปฏิบัติแนะนำ

  • (1) แนวนอน ≥:10
  • (1) แนวตั้ง ≥:10
  • (1) สี่เหลี่ยมจัตุรัส ≥:10
- เราขอแนะนําให้มีวิดีโอแนวตั้งความยาว 10-60 วินาทีอย่างน้อย 1 รายการเพื่อการมีสิทธิ์แสดงใน Shorts

ชิ้นงาน

  • เราขอแนะนําให้เพิ่มชิ้นงานในแคมเปญ Performance Max เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจแก่ผู้ที่ดูโฆษณาและโน้มน้าวให้ดําเนินการ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงาน
  • คุณสามารถเพิ่มชิ้นงานสถานที่ตั้ง สถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต ข้อความไฮไลต์ การโทร ไซต์ลิงก์ ข้อมูลเพิ่มเติม โฆษณาแบบกรอกฟอร์ม และราคาในแคมเปญ Performance Max โดยขึ้นอยู่กับธุรกิจและเป้าหมายแคมเปญ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกใช้ชิ้นงาน

แนวทางปฏิบัติแนะนําสำหรับครีเอทีฟโฆษณา

  • รีเฟรชชิ้นงานครีเอทีฟโฆษณาเนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีที่สุด และให้คุณปรับแต่งแคมเปญเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รายการในเมนู หรือการลดราคา
  • สำหรับการลดราคาในช่วงสุดสัปดาห์ ให้เริ่มแคมเปญล่วงหน้า 2-3 สัปดาห์ จากนั้นรีเฟรชชิ้นงานบ่อยๆ โดยเปลี่ยนจากชิ้นงานทั่วไปของร้านไปเป็นชิ้นงานที่เน้นการลดราคา วิธีนี้ช่วยให้คุณทำโปรโมชันเฉพาะช่วงเวลาได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ
  • เพิ่มชิ้นงานรูปภาพอย่างน้อย 7 รายการ ซึ่งมีรูปแบบ 1,200 x 1,200 อยู่ 1 รายการ
  • โปรดอย่าลบชิ้นงานที่มีคะแนน "ต่ำ" โดยไม่ได้แทนที่ด้วยชิ้นงานใหม่
  • เพิ่มชิ้นงานเมื่อข้อความการตลาดเปลี่ยนแปลงไป หรือเพิ่มชิ้นงานใหม่เพื่อดึงดูดผู้ใช้เพิ่มเติม
  • ชิ้นงานยิ่งมากยิ่งดี เพราะชิ้นงานที่มากขึ้นหมายความว่ามีชุดรวมชิ้นงานโฆษณามากขึ้นที่เราสามารถแสดงในเครือข่ายต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุด
  1. เลือกคำกระตุ้นให้ดำเนินการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย เช่น "ลงชื่อสมัครใช้" หรือ "สมัครใช้บริการ"
  2. เพิ่มชื่อธุรกิจหรือแบรนด์ที่ปรากฏในข้อความของโฆษณา
  3. คลิกเมนูแบบเลื่อนลงเพื่อดูตัวเลือกเพิ่มเติม และเพิ่มตัวเลือก URL ตามที่จำเป็น
หมายเหตุ: หากคุณไม่เพิ่มวิดีโอลงในกลุ่มชิ้นงาน Performance Max ระบบอาจสร้างวิดีโออย่างน้อย 1 รายการโดยอัตโนมัติจากชิ้นงานในกลุ่มชิ้นงาน หากคุณไม่มีชิ้นงานวิดีโอและไม่ต้องการใช้วิดีโอที่ระบบสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ให้ใช้เครื่องมือ Video Creation ใน Google Ads เพื่อสร้างวิดีโอสําหรับใช้ในแคมเปญ Performance Max หากต้องการดูวิธีสร้างวิดีโอใน Google Ads โปรดไปที่สร้างวิดีโอโดยใช้คลังชิ้นงาน

ใช้ป้ายกํากับที่กําหนดเองจากฟีดหน้าเว็บ

ป้ายกํากับที่กําหนดเองจากฟีดหน้าเว็บช่วยให้คุณระบุ URL จากฟีดหน้าเว็บที่จะรวมไว้ในโฆษณาที่สร้างขึ้นจากกลุ่มชิ้นงานแต่ละกลุ่มได้ ทําตามวิธีการด้านล่างเพื่อใช้ป้ายกำกับที่กำหนดเองสําหรับกลุ่มชิ้นงานแคมเปญ Performance Max

โปรดทราบว่าวิธีการด้านล่างจะเกิดขึ้นในระหว่างที่สร้างแคมเปญ Performance Max

หมายเหตุ
  • การตั้งค่านี้จะปรากฏต่อเมื่อคุณตั้งค่าฟีดหน้าเว็บในบัญชีแล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้ฟีดหน้าเว็บใน Performance Max
  • มีการจํากัดฟีดหน้าเว็บไว้ที่ 100 รายการต่อบัญชี
  1. เมื่อคุณเพิ่มชิ้นงาน ให้คลิกตัวเลือกเพิ่มเติมเพื่อขยายส่วนนั้น
  2. ในส่วน "ป้ายกํากับที่กําหนดเอง" ให้คลิกช่อง "เพิ่มป้ายกํากับที่กําหนดเอง"
  3. เพิ่มป้ายกํากับที่กําหนดเองตามฟีดหน้าเว็บที่มีอยู่
  4. เลือกเพิ่ม จากนั้นเพิ่มป้ายกํากับที่กําหนดเองจากฟีดหน้าเว็บต่อไปตามที่ต้องการ

สัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย

สัญญาณของกลุ่มเป้าหมายให้คุณเพิ่มคําแนะนําเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ AI ของ Google เพื่อทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มสัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย แต่การใช้สัญญาณนี้จะช่วยแนะนำโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้ดีที่สุด

หมายเหตุ: Performance Max อาจแสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องนอกสัญญาณหากมีแนวโน้มอย่างสูงที่จะมีการทำ Conversion เพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ

เพิ่มสัญญาณของกลุ่มเป้าหมาย

ทำขั้นตอนต่อไปนี้ในส่วน "กลุ่มเป้าหมาย" ใต้กลุ่มชิ้นงาน

  1. หากสร้างกลุ่มเป้าหมายแล้ว ให้เลือกเลือกกลุ่มเป้าหมาย หากไม่ ให้เลือกสร้างกลุ่มเป้าหมาย
  2. ตั้งชื่อแต่ละกลุ่มเป้าหมายให้ไม่ซ้ำกัน
  3. เพิ่มข้อมูล
  4. เพิ่มกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
  5. เลือกบันทึกกลุ่มเป้าหมาย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้ส่วน "ข้อมูลประชากร" และตัวเลือก "กลุ่มเพิ่มเติม" เพื่อปรับแต่งกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมได้ หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพแมชชีนเลิร์นนิง ให้ใช้กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองตามข้อความค้นหา

ข้อมูลสัญญาณกลุ่มเป้าหมาย

วิธีที่กลุ่มเป้าหมายโต้ตอบกับธุรกิจของคุณ

คุณสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าบุคคลที่หนึ่งและข้อมูลด้านการตลาดจากผู้เข้าชมบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่ การดูหน้าเว็บและโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงผู้ที่เคยทํา Conversion

ลองเพิ่มข้อมูลจากแหล่งที่มาเหล่านี้

  • รายชื่อผู้เข้าชมเว็บไซต์
  • รายชื่อผู้ใช้แอป
  • รายชื่อลูกค้า (เช่น อีเมลและรายชื่อการสมัครใช้บริการ)
  • รายการผู้ดูวิดีโอ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลของคุณ

กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณ

กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการโดยใช้คีย์เวิร์ด, URL หรือแอปที่เกี่ยวข้องที่เพิ่ม เพิ่มคีย์เวิร์ดหรือวลีที่แสดงถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณ ใช้ URL จากเว็บไซต์ที่คล้ายกับเว็บไซต์ของคุณ ป้อนชื่อแอปที่ลูกค้าเป้าหมายของคุณมีแนวโน้มจะใช้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายที่กําหนดเอง

ข้อมูลประชากร

เมื่อคุณใช้ข้อมูลประชากร คุณสามารถจำกัดโฟกัสของกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองให้แคบลงได้โดยใช้ตัวระบุเฉพาะเพื่อเน้นแคมเปญของคุณให้มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับกลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม

เพิ่มกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ เพื่อเข้าถึงผู้ใช้ตามคุณสมบัติ ความสนใจ พฤติกรรม สิ่งที่ค้นหาอยู่ สัญญาณเหล่านี้ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกกลุ่มถูกเวลา

ลองเพิ่มเป้าหมายจากพื้นที่เหล่านี้

  • ข้อมูลประชากรโดยละเอียด: เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชีวิตในระยะยาว
  • เหตุการณ์สำคัญในชีวิต: เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ในช่วงเหตุการณ์สำคัญในชีวิต
  • ผู้สนใจ: เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ตามสิ่งที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ พฤติกรรม และความสนใจของคนกลุ่มนี้
  • ผู้ที่มีแผนจะซื้อ: เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ตามความตั้งใจในการซื้อล่าสุด

แนวทางปฏิบัติแนะนำสําหรับกลุ่มชิ้นงาน

  1. ดูตัวบ่งชี้คุณภาพของโฆษณาเพื่อให้ทราบว่ากลุ่มชิ้นงานมีชิ้นงานเพียงพอที่จะเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีที่สุดหรือไม่
  2. ตรวจสอบว่ากลุ่มชิ้นงานทุกกลุ่มมีชิ้นงานทุกประเภท (ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ)
  3. ตรวจสอบว่าชิ้นงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านคุณภาพ
  4. สร้างชิ้นงานรูปแบบต่างๆ เพื่อค้นหาครีเอทีฟโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  5. หลังจากแก้ไขชิ้นงาน โปรดรอ 2-3 วันเพื่อให้ระบบอัปเดตคุณภาพของโฆษณาและสถานะกลุ่มชิ้นงาน เราขอแนะนําให้รอ 2-3 สัปดาห์ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนชิ้นงานที่มีประสิทธิภาพต่ำ
  6. เพิ่มชิ้นงานให้มากที่สุด โดยใส่บรรทัดแรกได้สูงสุด 15 รายการ คําอธิบาย 5 รายการ รวมถึงรูปภาพ 20 รูปและวิดีโอ 5 รายการซึ่งมีการวางแนวที่แตกต่างกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในตารางด้านล่าง

ชิ้นงานข้อความ

ประเภท จำนวน จำเป็น
บรรทัดแรก

บรรทัดแรก 3-15 รายการ

แนะนำ: 11

ใช่ ยืนยันแล้ว
บรรทัดแรกแบบยาว

บรรทัดแรกแบบยาว 1-5 รายการ

แนะนำ: 2

Red X icon
คำอธิบาย

คำอธิบาย 1-5 รายการ

แนะนำ: 4

ใช่ ยืนยันแล้ว
ชื่อธุรกิจ 1 ชื่อ ใช่ ยืนยันแล้ว
คำกระตุ้นให้ดำเนินการ คำกระตุ้นให้ดำเนินการ 1 รายการ ใช่ ยืนยันแล้ว
URL สุดท้าย URL 1 รายการ Red X icon
หมายเหตุ: หากเปิด Final URL Expansion ไว้ Google อาจใช้หน้า Landing Page ที่มีความเกี่ยวข้องมากกว่าโดยอิงจากคำค้นหาของผู้ใช้แทน URL สุดท้าย และสร้างบรรทัดแรก คําอธิบาย และชิ้นงานเพิ่มเติมแบบไดนามิกเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาในหน้า Landing Page ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ

ชิ้นงานรูปภาพ

อัตราส่วน จำนวน จำเป็น

แนวนอน

1.91:1

รูปภาพ 1-20 ภาพ

แนะนำ: 4

ใช่ ยืนยันแล้ว

สี่เหลี่ยมจัตุรัส

1:1

รูปภาพ 1-20 ภาพ

แนะนำ: 4

ใช่ ยืนยันแล้ว

โลโก้

1:1

รูปภาพ 1-5 รูป

แนะนำ: 1

ใช่ ยืนยันแล้ว

โลโก้

4:1

รูปภาพ 1-5 รูป

แนะนำ: 1

Red X icon

แนวตั้ง

4:5

รูปภาพ 1-20 ภาพ

แนะนำ: 2

Red X icon
หมายเหตุ: อัปโหลดรูปภาพเป็น .jpg หรือ .png ขนาดไม่เกิน 5 MB รูปภาพบางรูปเป็นตัวเลือกที่ไม่บังคับ แต่จะช่วยให้แคมเปญโดดเด่นด้วยคุณภาพของโฆษณาชั้นยอด

ชิ้นงานวิดีโอ

อัตราส่วน จำนวน จำเป็น

แนวนอน

16:9

วิดีโอ 1-5 รายการ

แนะนำ: 1

Red X icon

สี่เหลี่ยมจัตุรัส

1:1

วิดีโอ 1-5 รายการ

แนะนำ: 1

Red X icon

แนวตั้ง

9:16

วิดีโอ 1-5 รายการ

แนะนำ: 1

Red X icon
หมายเหตุ: หากคุณไม่เพิ่มวิดีโอลงในกลุ่มชิ้นงาน Performance Max ระบบอาจสร้างวิดีโออย่างน้อย 1 รายการโดยอัตโนมัติจากชิ้นงานในกลุ่มชิ้นงาน หากคุณไม่มีชิ้นงานวิดีโอและไม่ต้องการใช้วิดีโอที่ระบบสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ให้ใช้เครื่องมือ Video Creation ใน Google Ads เพื่อสร้างวิดีโอที่จะใช้ในแคมเปญ Performance Max ดูวิธีสร้างวิดีโอโดยใช้คลังชิ้นงาน

ตัวอย่างวิธีใช้กลุ่มชิ้นงาน

สร้างกลุ่มชิ้นงานหลายกลุ่มภายในแคมเปญเดียวกันเพื่อรวมชิ้นงานที่ควรแสดงในชุดหรือธีม ขอแนะนำให้แบ่งกลุ่มชิ้นงานตามหมวดหมู่เนื้อหา ธีม ภาษา หรือกลุ่มเป้าหมาย คุณอาจยังต้องสร้างกลุ่มชิ้นงานหลายกลุ่มในกรณีที่ชิ้นงานบางรายการเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายหนึ่งๆ มากกว่าด้วย

หมายเหตุ: หากเปิด Final URL expansion ไว้ Google อาจใช้หน้า Landing Page ที่มีความเกี่ยวข้องมากกว่าโดยอิงจากคำค้นหาของผู้ใช้แทน URL สุดท้าย และสร้างบรรทัดแรก คําอธิบาย และชิ้นงานเพิ่มเติมแบบไดนามิกเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาในหน้า Landing Page ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ

รายงานชิ้นงาน

รายงานชิ้นงานแสดงชิ้นงานแต่ละรายการที่ใช้ในแคมเปญ Performance Max เพื่อช่วยให้คุณเปรียบเทียบประสิทธิภาพของชิ้นงานต่างๆ ได้ คุณจะต้องสร้างแคมเปญ Performance Max เพื่อดูรายงานชิ้นงาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรายงานชิ้นงานใน Performance Max


ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Achieve your advertising goals today!

Attend our Performance Max Masterclass, a livestream workshop session bringing together industry and Google ads PMax experts.

Register now

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
17706581034756651353
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73067
false
false
false