การเข้าร่วมโปรแกรม CSS ทำให้คุณแสดงผลิตภัณฑ์ในนามของผู้ขายในการค้นหาทั่วไปและในโฆษณาบน Google ได้
บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนที่คุณต้องทำในเครื่องมือบน Google เพื่อเข้าร่วมโปรแกรมนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีต่างๆ ที่ผู้ขายใช้ได้เพื่อทำงานร่วมกับบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า
ในหน้านี้
- ก่อนเริ่มต้น
- การเริ่มต้นใช้งาน
- ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง
- ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ
- การขยายการให้บริการในประเทศอื่นๆ
- ผลิตภัณฑ์ของผู้ขายนอกเหนือจากการค้นหาทั่วไปของ Google
ก่อนเริ่มต้น
- ตรวจสอบว่าคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดขั้นต่ำในการแสดงผลิตภัณฑ์ในนามของผู้ขาย
- ทำตามขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานโปรแกรม CSS
การเริ่มต้นใช้งาน
เราแนะนำให้คุณดำเนินขั้นตอนที่แบ่งออกเป็น 2 ระยะเพื่อให้เริ่มแสดงผลิตภัณฑ์ในนามผู้ขายได้อย่างสมบูรณ์ใน Google นั่นคือ การผสานรวมทางเทคนิคและการปรับขนาด (การเพิ่มข้อเสนอ)
ดูวิดีโอแนะนำบริการช็อปปิ้งแบบเปรียบเทียบสินค้า ซึ่งอธิบายข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับ Merchant Center, การไม่อนุมัติเนื่องจากไม่เป็นไปตามนโยบาย และการบำรุงรักษาฟีด
การผสานรวมทางเทคนิค
ระยะนี้ช่วยให้คุณติดตั้งใช้งานและทดสอบการผสานรวมกับระบบของ Google รวมถึงตรวจสอบว่าการตั้งค่าทำงานได้อย่างถูกต้อง ในระยะนี้ คุณสามารถทดสอบว่าทุกอย่างทำงานได้ตามที่ต้องการด้วยสินค้าคงคลังบางส่วนที่มีข้อเสนอสูงสุด 1 ล้านรายการและมีบัญชีย่อยสูงสุด 100 บัญชี หรือมีผู้ขายสูงสุด 100 ราย
ขั้นตอนที่ 1: สร้างบัญชี Merchant Center สำหรับผู้ขาย
- สร้างบัญชี Merchant Center สำหรับผู้ขาย หากสร้างบัญชีไว้แล้ว ให้ไปที่ขั้นตอนถัดไป
- เปลี่ยนบัญชีเป็น CSS Center ของคุณ
- ตรวจสอบว่าคุณมีสิทธิ์ที่จำเป็นในการเข้าถึงบัญชี Merchant Center
- อัปโหลดผลิตภัณฑ์
เราขอแนะนำให้สร้างบัญชี Merchant Center อย่างน้อย 10-15 บัญชี แล้วอัปโหลดผลิตภัณฑ์ไปยังบัญชีเหล่านั้นเพื่อทดสอบการผสานรวม
สร้างบัญชี Merchant Center และอัปโหลดข้อเสนอ
- ใช้ Content API เพื่อสร้างบัญชี Merchant Center สำหรับผู้ขายแต่ละรายที่คุณต้องการเป็นตัวแทน
- ส่งข้อมูลผลิตภัณฑ์ของผู้ขายแต่ละรายที่คุณเป็นตัวแทนผ่าน Content API หากเป็นตัวแทนของผู้ขายน้อยกว่า 1,000 ราย คุณจะใช้ฟีดได้ด้วย เราขอแนะนำให้ใช้ Content API หากคุณวางแผนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงหลายรายการต่อวัน เช่น การอัปเดตราคาและความพร้อมให้บริการของข้อเสนอที่เลือก ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างฟีด
- เมื่ออัปโหลดข้อมูล โปรดคำนึงถึงนโยบายโฆษณา Shopping และทำตามข้อกำหนดในการจัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข้อกำหนดที่ควรทราบโดยเฉพาะมีดังนี้
- URL ที่ส่งในแอตทริบิวต์ "link" ต้องนำไปยังเว็บไซต์ในโดเมนของ Merchant Center โดยตรง หากต้องการใช้การเปลี่ยนเส้นทางผ่านโดเมนอื่นๆ เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการติดตาม ให้ใช้แอตทริบิวต์ "ads_redirect"
- หน้า Landing Page ต้องแสดงองค์ประกอบหลักทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ที่โฆษณา และรายละเอียดเหล่านั้นต้องตรงกับสิ่งที่คุณส่งมาในข้อมูลผลิตภัณฑ์ องค์ประกอบเหล่านี้จะประกอบด้วยชื่อ รายละเอียด รูปภาพ ราคา สกุลเงิน ความพร้อมจำหน่ายสินค้า และปุ่มซื้อ โดยชื่อ รายละเอียด และรูปภาพไม่จำเป็นต้องเหมือนกับเนื้อหาในข้อมูลผลิตภัณฑ์ แต่ก็ควรอ้างอิงถึงผลิตภัณฑ์เดียวกันด้วย ระบบจะไม่อนุญาตหน้าเว็บที่ไม่อนุญาตให้ซื้อผลิตภัณฑ์โดยตรง (เช่น การประมูล)
- ตั้งค่าเว็บไซต์ผู้ขายสำหรับแต่ละบัญชีใน Merchant Center โดยเว็บไซต์ต้องตรงกับโดเมนที่ลิงก์ในข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ส่งในบัญชีนี้ เว็บไซต์จะแสดงว่ามีการอ้างสิทธิ์จากบัญชีแล้วโดยอัตโนมัติ อย่าตั้งค่าโดเมนสำหรับบัญชี MCA หลักของ CSS
แดชบอร์ดผู้ขาย
- ผู้ขายที่มีบัญชี Merchant Center ของตัวเองจะมีสิทธิ์เข้าถึงแดชบอร์ดที่แสดง CSS ที่กำลังอัปโหลดผลิตภัณฑ์สำหรับร้านค้าของตน ผลิตภัณฑ์ที่ส่งโดย CSS จะใช้งานได้โดยค่าเริ่มต้น แต่ผู้ขายสามารถเลือกไม่ใช้ CSS แต่ละรายและ Google Shopping ซึ่งจะเป็นการปิดผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
- แดชบอร์ดช่วยให้ผู้ขายเข้าใจว่าใครเป็นตัวแทนของตนเพื่อที่จะได้ปรับเปลี่ยนการตัดสินใจทางธุรกิจและกลยุทธ์ทางการตลาด จัดการงบประมาณ และตรวจสอบว่าระบบมีการตั้งค่าให้รองรับการเข้าชมที่มาจาก CSS
- ระบบจะแสดงข้อมูลติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าที่ป้อนสำหรับ MCA ของ CSS แก่ผู้ขายที่คุณเป็นตัวแทนเพื่ออนุญาตให้ผู้ขายติดต่อคุณได้หากต้องการ คุณจะได้รับแจ้งทางอีเมลหากผู้ขายเลือกไม่ใช้ CSS ของคุณ นอกจากนี้ คุณยังดูภาพรวมของผู้ขายทั้งหมดที่เปลี่ยนสถานะการเลือกใช้ได้ในหน้า "ผู้ขาย" ในรายงาน "สถานะผู้ขาย" ใน CSS Center
ขั้นตอนที่ 2: สร้างแคมเปญโฆษณา Shopping
- สร้างบัญชี Google Ads ใหม่และลิงก์บัญชีดังกล่าวกับบัญชี Merchant Center เท่านั้น เราขอแนะนำว่าไม่ควรใช้บัญชี Google Ads ที่มีอยู่แล้วสำหรับแคมเปญ CSS บัญชี Google Ads สำหรับ CSS โดยเฉพาะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเราจะจัดการข้อมูลที่เป็นความลับของคุณได้อย่างเหมาะสม
- หากเปลี่ยนบัญชีที่มีอยู่ของผู้ขายไปเป็น CSS คุณจะใช้บัญชี Merchant Center และ Google Ads ที่มีอยู่ต่อไปได้
บทความต่อไปนี้ช่วยคุณเริ่มต้นใช้งานได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ Shopping และ Google Ads
การปรับขนาด
หลังจากสร้างบัญชี Merchant Center สำหรับผู้ขาย อัปโหลดผลิตภัณฑ์ และลิงก์บัญชี Google Ads อย่างน้อย 1 บัญชีกับผู้ขายแล้ว คุณจะขอเริ่มระยะการปรับขนาดได้
ในระยะนี้ คุณจะอัปโหลดสินค้าคงคลังได้ โปรดระบุจำนวนข้อเสนอที่คุณวางแผนจะอัปโหลดเพื่อให้เราสำรองความจุให้คุณได้ หากคุณต้องการอัปโหลดข้อเสนอสำหรับผู้ขายมากกว่า 100,000 ราย โปรดแจ้งให้เราทราบเพื่อที่เราจะได้กำหนดค่าบัญชีได้อย่างถูกต้อง
ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง
หลังจากที่การเริ่มต้นใช้งานเสร็จสมบูรณ์แล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรและปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ สินค้าคงคลังจะต้องแสดงประสิทธิภาพขั้นต่ำบางอย่างเพื่อรักษาขนาดปัจจุบันไว้ การที่ผู้บริโภคคลิกที่โฆษณาของคุณแสดงว่าผลิตภัณฑ์และผู้ขายมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคเหล่านั้น ยิ่งโฆษณาของคุณได้รับจำนวนคลิกจากผู้ใช้มากเท่าใด คุณก็ยิ่งอัปโหลดผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น สินค้าคงคลังที่อัปโหลดต้องมีอัตราส่วนการคลิกต่อผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 1:40 ตลอดระยะเวลา 28 วัน
หมายความว่าสำหรับผลิตภัณฑ์ทุกๆ 40 รายการที่ส่งไปยัง Google จะต้องมีการคลิกอย่างน้อย 1 ครั้งในระยะเวลา 28 วัน หากสินค้าคงคลังไม่ตรงตามอัตราส่วนนี้ คุณจะอัปโหลดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมไม่ได้ และจะต้องลดสินค้าคงคลังเพื่อให้กลับมาอยู่ในอัตราส่วนที่กำหนด หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนใน CSS Center
ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ
คุณแสดงลิงก์ไปยังเว็บไซต์ CSS ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ของผู้ขายในการค้นหาทั่วไปและในโฆษณาได้ โดย Google จะส่งคำค้นหาของผู้ใช้ไปยังฟังก์ชันการค้นหาของเว็บไซต์เพื่อแสดงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ในเว็บไซต์ หากมีความเสี่ยงที่คำค้นหาดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ลิงก์จะนำผู้เลือกซื้อไปยังหน้าแรกโดยไม่ผ่านคำค้นหา ลักษณะการทำงานสำหรับคำค้นหาหนึ่งๆ จะเหมือนกันสำหรับ CSS ทั้งหมด ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับ CSS ที่แสดงผลิตภัณฑ์ของผู้ขายจะแสดงโดยอัตโนมัติแบบไม่มีค่าใช้จ่ายในขณะนี้
หาก CSS ทำงานอยู่ในหลายประเทศ เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบว่าผู้ใช้เห็นข้อเสนอต่างๆ ในประเทศและภาษาที่ถูกต้องบนเว็บไซต์เมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์ที่แสดงคู่กับข้อมูลของผู้ขาย ซึ่งหมายความว่าประเทศและภาษาของข้อเสนอบนเว็บไซต์ควรสอดคล้องกับข้อเสนอที่แสดงใน Google
โปรดใช้ลิงก์ขอรับความช่วยเหลือนี้เพื่อตั้งค่าหรืออัปเดตลิงก์
การขยายการให้บริการในประเทศอื่นๆ
หากต้องการขยายการให้บริการ CSS ไปยังประเทศอื่น ให้ทำดังนี้
- CSS จะต้องมีสิทธิ์แสดงในประเทศที่เฉพาะเจาะจงนี้ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำ หนึ่งในข้อกำหนดเหล่านี้คือการแสดงข้อเสนอจากโดเมนผู้ขายที่แตกต่างกัน 50 รายการสำหรับทุกประเทศที่คุณกำหนดเป้าหมายด้วยโฆษณา Shopping โดยผู้ขายจะต้องเป็นผู้จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศนั้นๆ ซึ่งหมายความว่าผู้บริโภคในประเทศดังกล่าวจะซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ขายได้ หากต้องการลงชื่อสมัครใช้เป็น CSS ในประเทศใดประเทศหนึ่ง โปรดดูข้อกำหนดขั้นต่ำที่นี่
- เมื่อ CSS มีสิทธิ์แสดงโฆษณา Shopping ในประเทศใดประเทศหนึ่ง คุณจะใช้การโฆษณาแบบหลายประเทศเพื่อใช้ฟีดเดียวต่อภาษาในการกำหนดเป้าหมายไปยังประเทศอื่นๆ หลายประเทศที่อยู่ใน EEA พร้อมกันได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีแสดงผลิตภัณฑ์ในประเทศที่ขายหลายประเทศ
ผลิตภัณฑ์ของผู้ขายนอกเหนือจากการค้นหาทั่วไปของ Google
โดยค่าเริ่มต้น CSS สามารถแสดงผลิตภัณฑ์ได้เฉพาะในหน้าผลการค้นหาทั่วไปของ Google โปรดใช้แบบฟอร์มนี้ (ส่วนการยกเว้นการติดตามพร้อมกันและการเลือกใช้) เพื่อเลือกใช้ในแพลตฟอร์มอื่นๆ ของ Google (รวมถึงในแท็บ Shopping, การค้นหารูปภาพ และ YouTube)
การใช้ฟีดอัตโนมัติจากการ Crawl เว็บไซต์
Google มอบโอกาสให้ผู้ขายได้ใช้ฟีดอัตโนมัติจากการ Crawl เว็บไซต์ CSS ทุกรายอนุญาตให้ผู้ขายใช้ฟีเจอร์นี้ได้โดยค่าเริ่มต้น หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่านี้ ให้ใช้แบบฟอร์มนี้เพื่อเลือกไม่ใช้
ข้อควรทราบ
- ผู้ขายอาจยังเลือกลบล้างการตั้งค่าของคุณโดยกำหนดการตั้งค่าที่ต่างออกไปในบัญชี Merchant Center Next
- หากคุณเลือกเปิดใช้ฟีดอัตโนมัติในบัญชี ระบบจะเพิ่มผลิตภัณฑ์เฉพาะในกรณีที่เจ้าของโดเมนให้สิทธิ์เข้าถึง "การ Crawl เว็บไซต์" แก่ CSS ในแดชบอร์ดของ CSS