มิติข้อมูลและเมตริก

[GA4] เกี่ยวกับมิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเอง

วิเคราะห์และโฆษณาโดยใช้ข้อมูลที่กำหนดเองจากเว็บไซต์หรือแอป

มิติข้อมูลหรือเมตริกที่กําหนดเองใน Google Analytics ช่วยให้คุณวิเคราะห์และโฆษณาโดยใช้ข้อมูลที่กําหนดเองที่รวบรวมจากเว็บไซต์หรือแอป มิติข้อมูลหรือเมตริกที่กําหนดเองเป็นมากกว่าข้อมูลมาตรฐานที่ Google Analytics รวบรวมและแสดงโดยอัตโนมัติ จึงให้การวิเคราะห์ที่ละเอียดยิ่งขึ้นและมีความเกี่ยวข้องมากขึ้น

มิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเองใน Google Analytics

สําหรับคําบรรยายในภาษาของคุณ ให้เปิดคำบรรยายวิดีโอใน YouTube เลือกไอคอนการตั้งค่า รูปภาพไอคอนการตั้งค่า YouTube ที่ด้านล่างของวิดีโอเพลเยอร์ จากนั้นเลือก "คําบรรยาย" แล้วเลือกภาษา


วิธีการทำงาน

เหตุการณ์จะวัดสิ่งที่ผู้ใช้ทําในเว็บไซต์หรือแอป เช่น การคลิกลิงก์หรือการดูวิดีโอ พารามิเตอร์เหตุการณ์จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกระทำเหล่านี้ เช่น ลิงก์ที่ผู้ใช้คลิกหรือจำนวนวิดีโอที่ผู้ใช้ดู พร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้จะบอกคุณเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวผู้ใช้เอง เช่น อายุหรือสถานที่ตั้ง

Google Analytics จะรวบรวมข้อมูลบางอย่างโดยอัตโนมัติหลังจากที่คุณตั้งค่า Analytics โดยการส่งเหตุการณ์ที่รวบรวมโดยอัตโนมัติและพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้ที่กําหนดไว้ล่วงหน้า ดูรายการเหตุการณ์ที่รวบรวมโดยอัตโนมัติและพารามิเตอร์เหตุการณ์ได้ในพารามิเตอร์เหตุการณ์ Google Analytics

หลังจากรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมนี้ในเว็บไซต์และ/หรือแอปแล้ว คุณจะตั้งค่ามิติข้อมูลที่กําหนดเอง (สําหรับข้อมูลอธิบายรายละเอียด) และเมตริกที่กําหนดเอง (สําหรับข้อมูลตัวเลข) เพื่อจัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูลในรายงานได้ นอกจากนี้ มิติข้อมูลและเมตริกที่กำหนดเองยังให้คุณใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อการโฆษณาและรีมาร์เก็ตติ้งได้อีกด้วย

A custom icon that illustrates a user clicking a “add to basket” button on a website.

1

A custom icon that illustrates a website on a laptop and a mobile phone with the Google Tag.

2

A custom icon that illustrates adding custom dimensions by selecting checkboxes.

3

A custom icon that illustrates a dashboard with a 2-line chart and a pie chart.

4

คุณเพิ่มพารามิเตอร์เหตุการณ์หรือพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้ลงในโค้ดของเว็บไซต์หรือแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่

ผู้ใช้เข้าชมเว็บไซต์หรือแอป และระบบส่งข้อมูลที่กําหนดเองไปยัง Google Analytics

คุณสร้างมิติข้อมูลหรือเมตริกที่กําหนดเองเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากพารามิเตอร์เหตุการณ์หรือพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้

หลังจากผ่านไป 24-48 ชั่วโมง คุณจะเริ่มรายงานและโฆษณาโดยใช้มิติข้อมูลหรือเมตริกที่กำหนดเองได้

ประเภทของมิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเอง

คุณสร้างมิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเองได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ต้องการใส่ไว้ในรายงานและใช้ในโฆษณา ดังนี้

มิติข้อมูลที่กำหนดเอง

เมตริกที่กำหนดเอง

  • เมตริกที่กําหนดเองช่วยให้คุณวิเคราะห์ค่าตัวเลขจากพารามิเตอร์เหตุการณ์ได้ หากพารามิเตอร์เหตุการณ์วัดจํานวนหรือความถี่ของการกระทํา เมตริกที่กําหนดเองจะเปลี่ยนตัวเลขเหล่านั้นให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่นําไปใช้ได้จริง อย่างไรก็ตาม สําหรับข้อมูลเชิงหมวดหมู่ เช่น ข้อความใดที่มีผู้คลิกหรือหน้าเว็บใดที่มีผู้ดู การใช้มิติข้อมูลที่กําหนดเองระดับเหตุการณ์จะเหมาะสมกว่า
  • เมตริกที่คำนวณแล้วช่วยให้คุณรวมเมตริกที่มีอยู่และ/หรือเมตริกที่กำหนดเองอย่างน้อย 1 รายการเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเมตริกใหม่ที่อาจมีคุณค่ามากกว่า

ขีดจำกัด

ตารางต่อไปนี้แสดงจำนวนมิติข้อมูลและเมตริกที่กำหนดเองที่คุณสร้างได้สำหรับพร็อพเพอร์ตี้มาตรฐานและ 360

ประเภทของมิติข้อมูลหรือเมตริกที่กําหนดเอง ขีดจํากัดของพร็อพเพอร์ตี้มาตรฐาน ขีดจํากัดของพร็อพเพอร์ตี้ 360
มิติข้อมูลที่กําหนดเองระดับผู้ใช้ 25 100
มิติข้อมูลที่กําหนดเองระดับเหตุการณ์ 50 125
มิติข้อมูลที่กำหนดเองระดับสินค้า 10 25
เมตริกที่กำหนดเอง 50 125
เมตริกที่คำนวณแล้ว 5 50

 

คุณสามารถดูได้ว่าเมื่อใดที่มิติข้อมูลหรือเมตริกที่กำหนดเองใกล้จะถึงจำนวนสูงสุดแล้วได้ที่หน้าคําจํากัดความที่กําหนดเองภายในผู้ดูแลระบบ หากต้องการดูจำนวนมิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเองที่คุณสร้างขึ้นจนถึงตอนนี้ ให้คลิกข้อมูลโควต้าที่ด้านขวาบน

แนวทางปฏิบัติแนะนำ

ก่อนที่คุณจะสร้างมิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเอง ให้ใช้มิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดไว้ล่วงหน้าเมื่อเป็นไปได้

หากคุณมีพร็อพเพอร์ตี้มาตรฐาน โปรดอย่าสร้างมิติข้อมูล High Cardinality ที่กําหนดเองที่ไม่จําเป็น มิติข้อมูล High Cardinality อาจส่งผลเสียต่อรายงานและการสํารวจ และทําให้ข้อมูลถูกย่อไว้ในแถว (อื่นๆ)

ตัวอย่าง

ตัวอย่างมิติข้อมูล High Cardinality ที่ระบบไม่อนุญาตหรือควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้

  • การใช้มิติข้อมูลที่กําหนดเองสําหรับรหัสที่ไม่ซ้ำกันต่อผู้ใช้ ให้ใช้ฟีเจอร์ User-ID แทน
    • ดูวิธีตอบโจทย์ Use Case ของคุณ โดยไม่ต้องสร้างมิติข้อมูลที่กําหนดเองสําหรับรหัสผู้ใช้
  • การใช้มิติข้อมูลที่กําหนดเองเพื่อส่งรหัสที่ไม่ซ้ำกันต่อเซสชัน เช่น รหัสเซสชัน
  • การส่งการประทับเวลาเป็นมิติข้อมูลที่กำหนดเอง

หมายเหตุ: เมื่อส่งข้อมูลไปยัง Google Analytics ค่าในมิติข้อมูลที่กำหนดเองซึ่งมีลักษณะคล้ายตัวเลขจะถือเป็นตัวเลข แม้ว่าเดิมจะจัดรูปแบบเป็นข้อความก็ตาม

ตัวอย่าง

  • หากคุณส่ง "9343.324234" (เป็นข้อความ) GA4 จะตีความเป็นตัวเลข 9343.32
  • หากคุณส่ง "94E40" (เป็นข้อความ) GA4 จะตีความเป็นตัวเลข 9.4e+41 (สัญกรณ์วิทยาศาสตร์)

สุดท้ายนี้ เราไม่แนะนำให้บันทึกมิติข้อมูลที่กําหนดเองสําหรับพารามิเตอร์ซึ่งเป็นมิติข้อมูลที่กําหนดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เช่น มิติข้อมูลหน้าเว็บและหน้าจอ หรือรหัสธุรกรรม วิธีนี้จะไม่ส่งผลต่อ Cardinality แต่จะใช้โควต้ามิติข้อมูลที่กําหนดเองแบบใดแบบหนึ่งของคุณ

การเลิกใช้งานการรายงานพารามิเตอร์ที่กําหนดเอง

เมื่อคุณใช้มิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเองซึ่งกำหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์ ระบบจะระบุพารามิเตอร์ให้กับมิติข้อมูลและเมตริกของทั้งพร็อพเพอร์ตี้ เพื่อให้คุณสร้างมิติข้อมูลหรือเมตริกรายการเดียวตามพารามิเตอร์ และรายงานเหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับพารามิเตอร์นั้นได้มากเท่าที่ต้องการ ก่อนหน้านี้ เมื่อใช้การรายงานพารามิเตอร์ที่กําหนดเอง ระบบจะระบุพารามิเตอร์ของแต่ละเหตุการณ์ ดังนั้น หากต้องการรายงานพารามิเตอร์เดียวกันของ 5 เหตุการณ์ที่ต่างกัน คุณต้องใช้ 5 รายการจากโควต้าของมิติข้อมูลและเมตริกที่กำหนดเอง 100 รายการ

หลังจากการเลิกใช้งานการรายงานพารามิเตอร์ที่กําหนดเอง Analytics ได้เก็บรักษาข้อมูลย้อนหลังที่รวบรวมไว้และกำหนดขอบเขตระดับเหตุการณ์ ซึ่งข้อมูลที่รวบรวมใหม่ก็สามารถใช้เสริมกับข้อมูลย้อนหลังได้อย่างราบรื่น ในกรณีที่มีการบันทึกพารามิเตอร์เดียวสำหรับหลายเหตุการณ์ Analytics จะแยกความแตกต่างของแต่ละเหตุการณ์โดยกําหนดชื่อมิติข้อมูล/เมตริกที่มีชื่อเหตุการณ์ที่กําหนดไว้ในปัจจุบัน (เช่น “custom_dimension_name [event_name]”)

แนวทางปฏิบัติแนะนำคือ คุณควรนำมิติข้อมูลและเมตริกที่กําหนดเองที่ซ้ำกันซึ่งได้มีการบันทึกไว้ในหลายๆ เหตุการณ์ออก เพื่อช่วยประหยัดโควต้า

มิติข้อมูลที่กําหนดเองซึ่งกำหนดขอบเขตระดับผู้ใช้ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องคำนึงถึง "ช่อง" ระบบจะเรียกพร็อพเพอร์ตี้ผู้ใช้เป็นชื่อแทนของช่องมิติข้อมูลที่กำหนดเองในขอบเขตระดับผู้ใช้ ช่วยให้นักพัฒนาแอป/เว็บไซต์มุ่งเน้นที่การติดตามจุดข้อมูลซึ่งมีชื่อที่มีความหมายได้โดยที่ไม่ต้องเชื่อมโยงจุดข้อมูลแต่ละจุดเข้ากับหมายเลขช่องที่กําหนดเอง

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
4816253770474738487
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
69256
false
false