ใส่ข้อมูลสถานที่ตั้งร้านค้าลงในโฆษณาโดยสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง เมื่อมีชิ้นงานสถานที่ตั้ง โฆษณาจะแสดงข้อมูล เช่น ที่อยู่ร้านค้า แผนที่มายังสถานที่ตั้ง หรือระยะการเดินทางโดยประมาณเพื่อช่วยให้ผู้ใช้พบร้านค้าของคุณ
ตอนนี้ชิ้นงานสถานที่ตั้งครอบคลุมการใช้งาน 2 กรณีต่อไปนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้
- สิ่งที่เดิมเรียกว่า "ส่วนขยายสถานที่ตั้ง": ใช้โดยผู้ลงโฆษณาที่เป็นเจ้าของสถานที่ตั้งร้านค้าโดยตรง
- สิ่งที่เดิมเรียกว่า "ส่วนขยายสถานที่ตั้งของแอฟฟิลิเอต": ใช้โดยผู้ลงโฆษณา เช่น ผู้ผลิตและผู้รวบรวมข้อมูล ซึ่งขายผลิตภัณฑ์หรือบริการในร้านค้าที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโดยตรง
บทความนี้แสดงภาพรวมของชิ้นงานสถานที่ตั้ง วิธีสร้าง และวิธีนําออก นอกจากนี้ยังมีคําแนะนําโดยละเอียดเกี่ยวกับการลิงก์บัญชี Business Profile รวมถึงวิธีลิงก์ชิ้นงานสถานที่ตั้งกับ Business Profile
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ลงโฆษณาที่เป็นเจ้าของร้านค้าโดยตรงหรือเป็นผู้ผลิตที่ขายผลิตภัณฑ์ผ่านเครือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ก็ใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้ โปรดดูตัวอย่างวิธีใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งที่ด้านล่าง
ผู้ลงโฆษณาที่เป็นเจ้าของสถานที่ตั้งร้านค้าโดยตรง
หากคุณเป็นเจ้าของร้านค้าโดยตรง โฆษณาที่มีชิ้นงานสถานที่ตั้งจะช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมและเข้าเยี่ยมชมธุรกิจของคุณ
ตัวอย่างสำหรับเครือข่าย Search
ขมิ้นเป็นเจ้าของร้านขายขนมเบเกอรี่ เธอต้องการดึงดูดลูกค้ามาที่หน้าร้านจริง จึงเพิ่มชิ้นงานสถานที่ตั้งลงในแคมเปญ เมื่อมีผู้คนในบริเวณใกล้เคียงค้นหาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยใช้คีย์เวิร์ดของขมิ้น ("ร้านเบเกอรี่อร่อยแถวนี้" หรือ "ขนมปังอบใหม่") ชิ้นงานก็จะมีสิทธิ์แสดงและอาจให้ข้อมูลต่อไปนี้แก่คนรักขนมปัง
- ระยะทางมาถึงร้านและเมืองที่ตั้งอยู่ (อุปกรณ์เคลื่อนที่)
- ที่อยู่ของร้าน (คอมพิวเตอร์)
- ปุ่ม "โทร" ที่คลิกได้
- ปุ่มที่แตะหรือคลิกได้เพื่อไปยังหน้ารายละเอียดของที่ตั้งร้าน ซึ่งมีข้อมูลต่างๆ เช่น เวลาทำการ หมายเลขโทรศัพท์ รูปภาพ และเส้นทาง
ชิ้นงานสถานที่ตั้งยังทํางานร่วมกับแคมเปญ YouTube และแคมเปญ Performance Max ได้ด้วย
ตัวอย่างสำหรับ YouTube
ร้านขายเสื้อผ้าปลีกขนาดใหญ่ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมาย "แฟชั่นนิสต้า" ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ที่ดูเสื้อผ้าออนไลน์มาซื้อที่ร้าน ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าของร้านจึงสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้งในโฆษณา YouTube ขึ้นมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีดังนี้
- ชิ้นงานสถานที่ตั้งจะแสดง "ทีเซอร์" ของข้อมูลทางธุรกิจไปพร้อมกับโฆษณา YouTube
- เมื่อผู้ใช้คลิกหรือแตะสถานที่ตั้งในโฆษณาสุดท้าย ระบบจะแสดงหน้าสถานที่ตั้งซึ่งมีข้อมูลทางธุรกิจเพิ่มเติม เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และเวลาทําการ
- โดยจะเลือกร้านค้าที่แสดงในโฆษณาสุดท้ายตามตําแหน่งของผู้ใช้หรือสถานที่ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจ
ผู้ลงโฆษณาที่ขายผลิตภัณฑ์หรือบริการในร้านค้าที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโดยตรง (ผู้ผลิตและผู้รวบรวมข้อมูล)
หากคุณเป็นผู้ผลิตที่ขายผลิตภัณฑ์ผ่านร้านค้าปลีกในเครือขนาดใหญ่ คุณสามารถใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งเพื่อช่วยให้ผู้คนพบร้านค้าใกล้เคียงที่ขายผลิตภัณฑ์ของคุณ
ตัวอย่างสำหรับเครือข่าย Search
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีที่ชิ้นงานสถานที่ตั้งจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ในเครือข่าย Search
- ผู้ใช้ค้นหาผลิตภัณฑ์ใน Google
- โฆษณาแสดงพร้อมกับชิ้นงานสถานที่ตั้ง
- ผู้ใช้เห็นร้านค้าที่ใกล้ที่สุดที่ขายผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจแสดงเป็นที่อยู่หรืออยู่ในแผนที่
- หากใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ ผู้ใช้จะแตะเพื่อขอเส้นทางไปร้านค้าได้
- ผู้ใช้เดินทางไปที่ร้านค้าและซื้อผลิตภัณฑ์
ชิ้นงานสถานที่ตั้งยังทํางานร่วมกับแคมเปญ YouTube และแคมเปญ Display ได้ด้วย
ตัวอย่างสำหรับ YouTube
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีที่ชิ้นงานสถานที่ตั้งจะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ในเครือข่าย Display หรือใน YouTube
- ผู้ใช้จากกลุ่มประชากรที่กำหนดเป้าหมายเรียกดูเว็บไซต์หรือแอปในเครือข่าย Display หรือดูวิดีโอใน YouTube
- ผู้ใช้อยู่ใกล้หรือแสดงความสนใจพื้นที่ที่ขายผลิตภัณฑ์
- โฆษณา Display หรือโฆษณาวิดีโอแสดงพร้อมกับชิ้นงานสถานที่ตั้งซึ่งระบุระยะทาง เวลาทำการ และสถานที่ตั้งร้านค้า
- ผู้ใช้เห็นโฆษณา คลิก "เส้นทาง" และไปที่ร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์
ตำแหน่งที่แสดง
ชิ้นงานสถานที่ตั้งแสดงข้อมูลทางธุรกิจของคุณในรูปแบบต่างๆ ได้ในเครือข่าย Search, เครือข่าย Display, YouTube และ Google Maps ทั้งในอุปกรณ์เคลื่อนที่และคอมพิวเตอร์
เครือข่าย Google Search: โฆษณาที่มีชิ้นงานสถานที่ตั้งจะปรากฏเป็นโฆษณาแบบข้อความมาตรฐานพร้อมสถานที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์ของคุณในเครือข่าย Search สำหรับบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ปุ่ม "โทร" ที่คลิกได้อาจแสดงแทนที่หมายเลขโทรศัพท์
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง 2 รายการ ตัวอย่างหนึ่งสำหรับผู้ลงโฆษณาที่มีสถานที่ตั้งร้านค้าเป็นของตนเอง และอีกตัวอย่างสำหรับผู้ผลิตที่มีสถานที่ตั้งร้านค้าของแอฟฟิลิเอต
ผู้ลงโฆษณาที่เป็นเจ้าของสถานที่ตั้งร้านค้าโดยตรง
ผู้ลงโฆษณาที่ขายผลิตภัณฑ์หรือบริการในร้านค้าที่ไม่ได้เป็นเจ้าของโดยตรง (ผู้ผลิตและผู้รวบรวมข้อมูล)
- เว็บไซต์การค้นหาของ Google เช่น Google Maps: สถานที่ตั้งจะปรากฏที่ด้านข้าง ด้านบน หรือด้านล่างของผลการค้นหาใน Google Maps รวมถึงในแอป Maps
- เครือข่ายพาร์ทเนอร์ Search: สถานที่ตั้งอาจแสดงในเว็บไซต์และแอปในเครือข่ายพาร์ทเนอร์ Search เมื่อผู้ใช้อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือแสดงความสนใจพื้นที่ของคุณ
- เครือข่าย Display ของ Google: สถานที่ตั้งอาจแสดงในเว็บไซต์และแอปในเครือข่าย Display เมื่อผู้ใช้อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือแสดงความสนใจพื้นที่ของคุณ
หมายเหตุ: ชิ้นงานสถานที่ตั้งในพื้นที่โฆษณา Display มีให้ใช้ผ่านแคมเปญในพื้นที่หรือ Performance Max ที่มีเป้าหมายของร้านค้าเท่านั้น
- โฆษณาวิดีโอบน YouTube: สถานที่ตั้งอาจแสดงในโฆษณา TrueView ในสตรีมและโฆษณาบัมเปอร์ใน YouTube เมื่อผู้ใช้อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือแสดงความสนใจพื้นที่ของคุณ
สถานที่ตั้งจะเริ่มแสดงในโฆษณาวิดีโอ โดยที่โฆษณาวิดีโอจะแสดงข้อมูลสถานที่ตั้งธุรกิจจนกว่าคุณจะเลือกไม่แสดงข้อมูลดังกล่าว
วิธีสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง
คุณเลือกชิ้นงานสถานที่ตั้งได้เพียง 1 ประเภทในแต่ละบัญชี หลังจากเลือกประเภทชิ้นงานสถานที่ตั้งแล้ว ระบบจะแจ้งให้คุณลิงก์แหล่งข้อมูลสถานที่ตั้งที่เกี่ยวข้องในบัญชี
ประเภทชิ้นงานสถานที่ตั้ง | แหล่งข้อมูลสถานที่ตั้ง |
คุณเป็นเจ้าของสถานที่ตั้งโดยตรง | Google Business Profile และร้านค้าสาขา |
คุณไม่ได้เป็นเจ้าของสถานที่ตั้ง แต่สถานที่ตั้งขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ | ร้านค้าสาขา (ผู้ค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าทั่วไปหรือตัวแทนจำหน่ายรถยนต์) หรือกลุ่มร้านค้าแบบแบ่งหมวดหมู่ (เช่น ร้านขายยาในฝรั่งเศส) |
แต่ไม่ว่าจะเลือกประเภทใด สถานที่ตั้งที่เพิ่มก็มีสิทธิ์แสดงในโฆษณา Search, โฆษณา Display หรือโฆษณาวิดีโอในบัญชี หากได้รับอนุมัติผ่านกระบวนการยืนยันความสมบูรณ์แล้ว
หากต้องการกําหนดสถานที่ตั้งให้กับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาเฉพาะเจาะจง ให้สร้างกลุ่มสถานที่ตั้งเมื่อสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง
การตั้งค่าที่ไม่บังคับ
คุณสามารถเลือกเปิดใช้การรายงานจํานวนการโทรเข้าได้ (เราขอแนะนําให้ใช้การตั้งค่านี้) แต่จะต้องเปิดการรายงานระดับบัญชีเพื่อดูการรายงานจำนวนการโทรเข้าจากชิ้นงานสถานที่ตั้ง ดูวิธีจัดการการรายงานจำนวนการโทรเข้าของแคมเปญ
ยืนยันหมายเลขโทรศัพท์
จะมีการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์ที่มีชิ้นงานสถานที่ตั้งเพื่อให้แน่ใจว่าหมายเลขดังกล่าวเป็นหมายเลขของธุรกิจที่โปรโมต ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยืนยันหมายเลขโทรศัพท์สำหรับชิ้นงานการโทรและชิ้นงานสถานที่ตั้ง
วิธีการ
เพิ่มชิ้นงานสถานที่ตั้ง
- คลิกไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกชิ้นงาน
- คลิกปุ่มบวก แล้วคลิก + ชิ้นงานสถานที่ตั้ง
- หากต้องการเพิ่มสถานที่ตั้งของเครือธุรกิจในบัญชี Google Ads โดยตรง หรือลิงก์ Business Profile ให้ทำตามขั้นตอนด้านล่าง
ใช้สถานที่ตั้งของเครือธุรกิจใน Google Ads
ข้อควรทราบ: สถานที่ตั้งของเครือธุรกิจจะอัปเดตอัตโนมัติเมื่อเปิด ย้าย หรือปิดร้านค้า ในขณะที่การอัปเดตสถานที่ตั้งในตัวจัดการ Business Profile อาจใช้เวลาถึง 1 วันจึงจะแสดงผลในบัญชี Google Ads
- เมื่อสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้ง คุณจะมีตัวเลือกในการเลือกเครือธุรกิจอย่างน้อย 1 เครือ คลิกเลือกสถานที่ตั้งที่มีการดูแลจัดการเพื่อดูร้านค้าสาขาที่เลือกไว้ล่วงหน้าซึ่งทางระบบระบุว่าเหมาะกับประเทศที่เชื่อมโยงกับบัญชีของคุณ
- ทำตามข้อความแจ้งเพื่อเพิ่มสถานที่ตั้งของเครือธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงซึ่งขายผลิตภัณฑ์ของคุณ
- คลิกบันทึก
คุณจะปรับแต่งสถานที่ตั้งเพิ่มเติมได้ที่ระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา และยังเลือกได้ว่าจะเพิ่มสถานที่ตั้งระดับบัญชีทั้งหมด ใช้เพียงส่วนย่อยของสถานที่ตั้งระดับบัญชีโดยใช้กลุ่มสถานที่ตั้ง หรือเลือก "ไม่มีเครือร้านค้าปลีกของแอฟฟิลิเอต" เพื่อไม่ให้ชิ้นงานแสดงกับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง
คุณสามารถลิงก์บัญชี Google Ads กับ Business Profile แล้วแสดงสถานที่ตั้งของ Business Profile เป็นชิ้นงานสถานที่ตั้งใน Google Ads เพื่อเป็นทางเลือกให้กับร้านค้าแบบมีสาขา หรือหากสถานที่ตั้งของร้านค้าแบบมีสาขาไม่ได้อยู่ในข้อมูลของ Google หากต้องการใช้ตัวเลือกนี้ คุณจะต้องเข้าถึงตัวจัดการ Business Profile ที่แสดงสถานที่ตั้งของคุณ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเลือกไม่อนุญาตให้โฆษณาในพื้นที่ใช้รูปภาพของผู้ขาย
ตรวจสอบว่าธุรกิจของคุณอยู่ใน Business Profile แล้วหรือยัง เนื่องจากมีธุรกิจหลายแห่งที่อยู่แล้ว หากมี Business Profile อยู่แล้ว อย่าสร้างใหม่ เนื่องจากการยืนยัน Business Profile จะใช้เวลานาน
หากธุรกิจยังไม่ได้มี Business Profile ให้เริ่มด้วยการสร้างบัญชี โปรดดูวิธีการในเริ่มต้นใช้งาน Business Profile
ลิงก์กับ Business Profile ที่คุณจัดการ
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกชิ้นงาน
- คลิกปุ่มบวก แล้วเลือกชิ้นงานสถานที่ตั้ง
- เลือกเลือกบัญชีตัวจัดการ Business Profile จากนั้นเลือกบัญชีจากเมนูแบบเลื่อนลง
- คลิกต่อไป
- ใช้ชื่อธุรกิจหรือตัวกรองป้ายกำกับ หากจำเป็น คลิกเสร็จสิ้น
ลิงก์กับ Business Profile โดยใช้อีเมล
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกชิ้นงาน
- คลิกปุ่มบวก แล้วเลือกชิ้นงานสถานที่ตั้ง
- เลือกขอสิทธิ์เข้าถึงบัญชีตัวจัดการ Business Profile บัญชีอื่น กรอกอีเมลของบัญชี
- คลิกต่อไป คําขอจะส่งไปยังอีเมลของ Business Profile เมื่อคำขอได้รับอนุมัติ สถานที่ตั้งของบัญชีดังกล่าวจะมีสิทธิ์แสดงเป็นชิ้นงานสถานที่ตั้งพร้อมกับโฆษณา
ลิงก์กับ Business Profile
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกชิ้นงาน
- คลิกปุ่มบวก แล้วเลือกชิ้นงานสถานที่ตั้ง
- โดเมนของคุณควรแสดงโดยอัตโนมัติ ไม่เช่นนั้น ให้กรอกโดเมนเพื่อหา Business Profile ที่เป็นไปได้
- เลือกประเทศโดยคลิกไอคอนดินสอ คลิกบันทึก
- ค้นหา Business Profile ที่ตรงกับธุรกิจของคุณมากที่สุดในรายการด้านล่าง คลิกเลือก
- ตรวจสอบว่า Business Profile ที่ถูกต้องแสดงในตัวอย่าง แล้วคลิกต่อไป
คําขอจะส่งไปยังอีเมลของ Business Profile ที่คุณเลือก เมื่อคำขอได้รับอนุมัติ สถานที่ตั้งของบัญชีดังกล่าวจะมีสิทธิ์แสดงเป็นชิ้นงานสถานที่ตั้งพร้อมกับโฆษณา
แก้ไขสถานที่ตั้งหรือป้ายกํากับสถานที่ใน Business Profile
- ระบุผู้ที่จัดการ Business Profile ของธุรกิจคุณ แล้วขอให้บุคคลนั้นเพิ่มอีเมล Google Ads ของคุณในฐานะเจ้าของหรือผู้จัดการ คุณอาจต้องส่งวิธีเพิ่มและนําเจ้าของและผู้จัดการกลุ่มสถานที่ตั้งออกใน Business Profile ให้ผู้ที่จัดการดังกล่าว
- หลังจากที่ผู้จัดการ Business Profile ส่งคําเชิญให้คุณไปยัง Business Profile ระบบจะส่งคําเชิญมายังอีเมลที่เชื่อมโยงกับบัญชี Google Ads คุณต้องรับคำเชิญ
- หลังจากรับคําเชิญจาก Business Profile แล้ว ให้ลงชื่อเข้าใช้ Business Profile เพื่อแก้ไขที่อยู่ ดูคำแนะนำได้ที่แก้ไข Business Profile ใน Google
เมื่อเป็นผู้จัดการ Business Profile แล้ว คุณจะลิงก์กับ Google Ads ได้โดยใช้วิธีการด้านบนกับตัวเลือก "หาและลิงก์กับ Business Profile ที่คุณจัดการ"
เลือกไม่ใช้รูปภาพของผู้ขายในโฆษณาในพื้นที่
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกชิ้นงาน
- เลือกการเชื่อมโยงจากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง"
- คลิกไอคอนเมนู 3 จุด ทางด้านขวา แล้วเลือกชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชี
- คลิกไอคอนเมนู 3 จุด ทางด้านขวาอีกครั้ง แล้วเลือกการตั้งค่าขั้นสูง
- ขยายรายการ "สถานที่ตั้งอัตโนมัติ"
- ยกเลิกการเลือกช่องทําเครื่องหมาย "อนุญาตให้ Google Ads ใช้รูปภาพของผู้ขาย" เพื่อเลือกไม่ใช้
สร้างชิ้นงานสถานที่ตั้งระดับแคมเปญและกลุ่มโฆษณา
ก่อนที่จะทําตามขั้นตอนด้านล่าง โปรดตรวจสอบว่าคุณได้ตั้งค่าชิ้นงานสถานที่ตั้งที่ระดับบัญชีแล้ว
- คลิกไอคอนแคมเปญ ในบัญชี Google Ads
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกชิ้นงาน
- คลิกปุ่มบวก แล้วเลือกชิ้นงานสถานที่ตั้ง
- คุณสามารถเลือกเพิ่มแคมเปญได้ หากต้องการเพิ่มกลุ่มโฆษณา ให้คลิก "เพิ่มไปยัง" จากเมนูแบบเลื่อนลง จากนั้นเลือกแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่ต้องการเพิ่มชิ้นงานสถานที่ตั้งเข้าไป
- คุณจะเลือกสร้างชิ้นงานสถานที่ตั้งระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาได้โดยใช้ 1 ใน 4 ตัวเลือกใต้เมนู "แสดงโฆษณาของฉันกับ"
- สถานที่ตั้งที่ซิงค์ทั้งหมด: ใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งทั้งหมดที่ซิงค์ในระดับบัญชี
- กลุ่มสถานที่ตั้ง: เลือกสถานที่ตั้งแต่ละแห่งที่จะใช้ในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา โดยไม่เกิน 20 แห่ง
- ไม่มีชิ้นงานสถานที่ตั้ง: ปิดใช้ชิ้นงานสถานที่ตั้งในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา หากคุณเลือกตัวเลือกนี้ ชิ้นงานสถานที่ตั้งจะไม่แสดงในแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่เลือก
- คลิกบันทึก คุณดูการตั้งค่าชิ้นงานสถานที่ตั้งระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาได้ในมุมมอง "การเชื่อมโยง" ของหน้าชิ้นงาน
นําชิ้นงานสถานที่ตั้งออก
วิธีปิดชิ้นงานสถานที่ตั้งที่ระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณา
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกชิ้นงาน
- คลิกปุ่มบวก จากนั้นเลือกชิ้นงานสถานที่ตั้งจากเมนูแบบเลื่อนลง
- เลือกนำชิ้นงานสถานที่ตั้งออกที่ระดับแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาโดยใช้เมนูแบบเลื่อนลง
- คลิกไอคอนดินสอ จากนั้นเลือกช่องข้างแคมเปญหรือกลุ่มโฆษณาที่ต้องการนำชิ้นงานสถานที่ตั้งออก
- เลือกไม่มีชิ้นงานสถานที่ตั้ง
- คลิกบันทึก
วิธีนำชิ้นงานสถานที่ตั้งออกจากทั้งบัญชี
- ในบัญชี Google Ads ให้คลิกไอคอนแคมเปญ
- คลิกเมนูแบบเลื่อนลงชิ้นงานในหมวดหมู่เมนู
- คลิกชิ้นงาน
- ตอนนี้คุณจะเห็นตารางที่มีชิ้นงานทั้งหมด เลือกการเชื่อมโยง (เดิม) จากเมนูแบบเลื่อนลง "มุมมองตาราง"
- เลือกสถานที่ตั้งจากรายการเหนือแถบเครื่องมือตาราง
- เลือกช่องข้างชิ้นงานสถานที่ตั้งระดับบัญชี
- คลิกนําออกในแถบสีน้ำเงินที่ด้านบน
สำคัญ: หากนำชิ้นงานสถานที่ตั้งออกจากบัญชี คุณจะใช้ที่ตั้งธุรกิจในการกำหนดเป้าหมายหรือเสนอราคาไม่ได้ และจะติดตาม Conversion การเข้าชมร้านค้าไม่ได้ เราจึงไม่แนะนำให้นำชิ้นงานสถานที่ตั้งออก