การแจ้งเตือน

โปรดอย่าลืมไปที่หน้า AdSense ของคุณ ซึ่งมีข้อมูลที่ปรับให้เกี่ยวข้องกับบัญชีของคุณเพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จจากการใช้ AdSense

โฆษณาสำหรับการค้นหา

นโยบายฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์สำหรับ AdSense สำหรับ Search

(12 สิงหาคม 2024) สืบเนื่องจากสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในรัสเซีย เราจึงหยุดไม่ให้ผู้เผยแพร่โฆษณาในรัสเซียสร้างรายได้ด้วย AdSense, AdMob และ Ad Manager ชั่วคราว

(23 มีนาคม 2022) สืบเนื่องจากสงครามในยูเครน เราจะหยุดการสร้างรายได้จากเนื้อหาที่แสวงหาประโยชน์ ไม่สนใจ หรือให้การยอมรับสงครามนี้ไว้ชั่วคราว

10 มีนาคม 2022 เนื่องจากการระงับระบบการโฆษณาของ Google ในรัสเซียเมื่อเร็วๆ นี้ เราจึงจะหยุดการสร้างบัญชีใหม่ใน AdSense, AdMob และ Google Ad Manager ในรัสเซียชั่วคราว รวมถึงจะหยุดแสดงโฆษณาของผู้ลงโฆษณาจากรัสเซียในผลิตภัณฑ์ บริการ และเครือข่ายต่างๆ ของ Google ทั่วโลกชั่วคราวด้วย

(3 มีนาคม 2022) สืบเนื่องจากสงครามที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องในยูเครน เราจึงจะหยุดการแสดงโฆษณาต่อผู้ใช้ที่อยู่ในรัสเซียไว้ชั่วคราว

(26 กุมภาพันธ์ 2022) เนื่องด้วยสถานการณ์สงครามในยูเครน เราจึงหยุดให้บริการการสร้างรายได้จาก Google แก่สื่อที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสหพันธรัฐรัสเซียไว้ชั่วคราว 

เราจะติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม

นโยบายเหล่านี้มีผลกับการใช้ฟีเจอร์ที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ AdSense สำหรับ Search (AFS) PIF ของ AFS ประเภทต่อไปนี้พร้อมให้บริการแล้ว

ต่อไปนี้เป็นการชี้แจงเพื่อความชัดเจน ตามวัตถุประสงค์ของนโยบายเหล่านี้

  • "โฆษณา" หมายถึงโฆษณาที่ Google เป็นผู้จัดหา ไม่ได้หมายถึงโฆษณา (หรือผลิตภัณฑ์หรือบริการโฆษณาอื่นใด) ที่ Google ไม่ได้เป็นผู้จัดหา
  • "เนื้อหา" หมายถึงทุกสิ่งที่คุณนำเสนอต่อผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่ผู้เผยแพร่โฆษณาสร้างขึ้น เนื้อหาที่คัดลอกมา เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น ผลการค้นหาทั่วไป โฆษณา (ซึ่งจัดหาให้โดย Google หรือบุคคลที่สาม) และลิงก์ไปยังเว็บไซต์หรือแอปอื่นๆ และ
  • ในกรณีที่มีการระบุว่าต้องได้รับอนุมัติจาก Google ข้อกําหนดเช่นนี้จะมีผลกับการใช้บริการของ Google รวมถึงโฆษณาที่ Google จัดหาให้เท่านั้น

คุณต้องตรวจสอบว่าการใช้บริการของ Google รวมถึงเนื้อหาในพร็อพเพอร์ตี้ที่ใช้บริการของ Google เป็นไปตามนโยบายเหล่านี้ Google อาจดําเนินการแก้ไขเมื่อพบการไม่ปฏิบัติตามข้อกําหนด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ระงับการให้บริการของ Google (2) กําหนดให้คุณหยุดหรือแก้ไขการใช้งานหรือการติดตั้งบริการของ Google หรือ (3) ใช้สิทธิ์ภายใต้ข้อตกลงในการให้บริการของ Google, ข้อกำหนดในการให้บริการแบบออนไลน์ของ Google AdSense ที่เกี่ยวข้อง หรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องระหว่างคุณกับ Google

นโยบาย PIF ทั่วไป

การใช้ PIF ของ AFS อยู่ภายใต้ข้อกำหนดต่อไปนี้

  • คุณต้องไม่วาง PIF ของ AFS ในพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งมีเนื้อหาที่ไม่เป็นไปตามนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google นอกจากนี้ Google อาจไม่แสดงโฆษณาในพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งมีเนื้อหาที่ถูกจำกัดตามข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google เพื่อมิให้เกิดข้อกังขา:
    • นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google และข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google มีผลกับเนื้อหาทั้งหมดในพร็อพเพอร์ตี้ที่แสดง PIF ไม่ว่าจะมี "โฆษณาที่แสดงโดย Google" (ตามที่อ้างอิงและกำหนดไว้ในนโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google และข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google) อยู่ในเนื้อหาหรือไม่ก็ตาม
    • นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google มีผลกับการสร้างรายได้ทั้งหมดจากเนื้อหาที่มีโค้ดโฆษณา Google ซึ่งรวมถึง PIF
    • "แหล่งที่มาของโฆษณา" ในข้อจำกัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google หมายรวมถึง "โฆษณา" ที่กำหนดไว้ในนโยบายเหล่านี้
  • เพื่อความชัดเจน การใช้งาน PIF ของ AFS ต้องเป็นไปตามนโยบายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AFS ของคุณ เช่น นโยบายโปรแกรม Google AdSense, นโยบาย AdSense สําหรับ Search (AFS), หลักเกณฑ์โปรแกรมของ Google หรือนโยบายโปรแกรมอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
  • คุณต้องไม่แก้ไข ดัดแปลง หรือกรององค์ประกอบ PIF ด้วยวิธีใดนอกจากใช้การตั้งค่าโฆษณาอัตโนมัติและการตั้งค่าการค้นหาที่เกี่ยวข้องซึ่งมีให้ในบัญชี AdSense
  • คุณต้องไม่วาง PIF ของ AFS ในลักษณะที่กระตุ้นให้เกิดการคลิกโดยไม่ตั้งใจ หรือใช้วิธีการติดตั้งใช้งานที่หลอกลวงหรือดึงดูดความสนใจอย่างไม่เป็นธรรมชาติเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม (ตัวอย่างเช่น ข้อความหรือองค์ประกอบที่ทำให้เข้าใจผิดเพื่อให้โต้ตอบกับ PIF เช่น "คลิกที่นี่เพื่อรับข้อเสนอที่ดีที่สุด" หรือการออกแบบ PIF ที่เป็นจุดโฟกัสของเนื้อหา)

นอกจากนโยบายทั่วไปเหล่านี้แล้ว PIF บางประเภทมีนโยบายเพิ่มเติมเฉพาะตัวดังที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ด้วย

การค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหา

นอกจากนโยบาย PIF ทั่วไปแล้ว การใช้การค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหาต้องเป็นไปตามนโยบายต่อไปนี้ด้วย เพื่อมิให้เกิดข้อกังขา "การค้นหาที่เกี่ยวข้อง" ที่กล่าวถึงด้านล่างหมายถึงการค้นหาที่เกี่ยวข้องของหน้าเนื้อหา

ทั่วไป

  • หากการใช้ AFS ของคุณอยู่ในบังคับตามข้อกำหนดในการให้บริการออนไลน์ของ Google AdSense คุณสามารถวางการค้นหาที่เกี่ยวข้องได้เฉพาะในเว็บไซต์หรือแอปที่เปิดใช้โฆษณา Search
  • การคลิกข้อความค้นหาที่เกี่ยวข้องแต่ละครั้งของผู้ใช้ต้องเปลี่ยนเป็นหน้าผลการค้นหาในเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งมีผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับข้อความค้นหาดังกล่าว
  • ข้อความค้นหาที่เกี่ยวข้องซึ่งส่งมาในคำขอโฆษณาต้องตรงกับที่ผู้ใช้ระบุ เมื่อผู้ใช้คลิกคำที่แสดงในหน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้อง (เช่น "ช่อดอกไม้") คำขอจากการคลิกดังกล่าวที่ส่งไปยัง Google ต้องเป็นคำเดียวกับที่ผู้ใช้คลิก (จากตัวอย่างนี้คือคำว่า "ช่อดอกไม้" ไม่ใช่ "ดอกไม้" หรือ "การจัดส่งช่อดอกไม้")

คำที่พาร์ทเนอร์ระบุ

"คำที่พาร์ทเนอร์ระบุ" คือคำที่คุณแนะนำเพื่อเสริมข้อความค้นหาที่ Google สร้างให้หน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถระบุได้ผ่านพารามิเตอร์ terms ในคําขอการค้นหาที่เกี่ยวข้อง Google อาจใช้หรือไม่ใช้คำเหล่านี้ตามการพิจารณาตามที่เห็นสมควรแต่เพียงผู้เดียวของ Google คำที่พาร์ทเนอร์ระบุต้องเป็นไปตามนโยบายต่อไปนี้

  • คำที่แนะนำต้องไม่มีเนื้อหาที่ไม่อนุญาตภายใต้นโยบายผู้เผยแพร่โฆษณาของ Google นอกจากนี้ Google อาจไม่แสดงโฆษณาคำที่แนะนำมีเนื้อหาที่ถูกจำกัดตามข้อจํากัดของผู้เผยแพร่โฆษณา Google
  • คำที่แนะนำต้องออกแบบมาเพื่อแนะนําคําค้นหาที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ไม่ใช่เพื่อสร้างโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง (เช่น โฆษณาที่มีต้นทุนต่อคลิกสูง) หรือเพิ่มการแสดงผล การคลิก และ/หรือ Conversion จนสูงเกินความเป็นจริง
  • คุณต้องตรวจสอบว่าคําที่แนะนําไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกําหนดเป้าหมายไปยังผู้ใช้เฉพาะหรือกลุ่มผู้ใช้ตามผู้สนใจหรือคุณลักษณะอื่นๆ ที่มีร่วมกัน (เช่น ข้อมูลประชากร) เพื่อมิให้เกิดข้อกังขา คำที่แนะนำสามารถมีลักษณะต่อไปนี้
    • รวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้สนใจหรือคุณลักษณะอื่นๆ ที่มาจากเนื้อหาของหน้าเพียงอย่างเดียวและอย่างชัดเจน หรือ
    • มีคำเป็นภาษาเดียวกับคำค้นหาเดิมของผู้ใช้

นอกจากนี้ Google จะไม่พิจารณาคำที่พาร์ทเนอร์ระบุหากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขต่อไปนี้

  • หน้าเว็บไม่มีสัญญาณเนื้อหาที่แคช (เช่น หน้าเว็บที่ระบบของ Google ไม่ได้ทำการ Crawl และบันทึก) ยกเว้นในกรณีที่ส่งหน้าเว็บผ่าน ignoredPageParams
  • ในกรณีที่หน้าเว็บซึ่งแสดงหน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้องมีการเข้าชม และคุณไม่ได้ส่ง "ข้อความครีเอทีฟโฆษณา" ที่เหมือนกับพารามิเตอร์ referrerAdCreative ในคำขอการค้นหาที่เกี่ยวข้อง

การได้รับการเข้าชม

ในกรณีที่หน้าเว็บซึ่งแสดงหน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้องมีการเข้าชม (หมายความว่าผู้ใช้มาที่หน้าปลายทางซึ่งแสดงหน่วยการค้นหาที่เกี่ยวข้องโดยคลิกโฆษณาหรือลิงก์ในเว็บไซต์อื่น (แต่ละอย่างเรียกว่า "แหล่งที่มาของการเข้าชม")) คุณต้องปฏิบัติตามนโยบายต่อไปนี้

  • แหล่งที่มาของการเข้าชมต้องเกี่ยวข้องกับและอธิบายสิ่งที่ผู้ใช้จะเห็นในหน้าปลายทางอย่างถูกต้อง
  • แหล่งที่มาของการเข้าชมต้องไม่รับประกันผลิตภัณฑ์ บริการ หรือข้อเสนอโปรโมชันที่ไม่สามารถใช้ได้หรือพบได้ยากในหน้าปลายทาง (เช่น ต้องไปยังหลายส่วนมากเกินไปเพื่อดูข้อเสนอ) และต้องไม่แสดงข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดหรือการกล่าวอ้างเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ หรือข้อเสนอโปรโมชัน
  • คุณต้องตรวจสอบว่าหน้าปลายทางแต่ละหน้าเหมือนกันทุกประการกับหน้าที่จะแสดงต่อผู้ใช้ที่มาถึงผ่านวิธีการทั่วไป (นั่นคือเมื่อผู้ใช้ไม่ได้มาที่หน้าเว็บผ่านแหล่งที่มาของการเข้าชม)

คุณมีหน้าที่รับผิดชอบต่อแหล่งที่มาของการเข้าชมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงเครือข่ายโฆษณาหรือแอฟฟิลิเอตที่คุณทำงานด้วย

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
ค้นพบศักยภาพในการเติบโต

อย่าพลาดข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ของ AdSense เลือกรับรายงานประสิทธิภาพ เคล็ดลับที่ปรับให้เหมาะกับคุณ และคำเชิญเข้าร่วมการสัมมนาผ่านเว็บซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้คุณ

เลือกรับ

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
2600233183698105997
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
157
false
false