การแจ้งเตือน

รับเคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพที่ปรับให้เหมาะกับแอปของคุณ เห็นประสิทธิภาพในการทำงานของบัญชีและความสมบูรณ์ในการตั้งค่าต่างๆ ใน "หน้า AdMob ของฉัน" ที่ได้รับการปรับปรุงนี้

แคมเปญ

สร้างแคมเปญใหม่

แคมเปญคือการรวมกลุ่มโฆษณา แต่ละแคมเปญมีโฆษณาได้หลายรายการที่มีเป้าหมายการโฆษณาที่ต่างกัน ผู้ลงโฆษณาควรสร้างแคมเปญแยกกันสำหรับวัตถุประสงค์การโฆษณาที่ต่างกัน 

โฆษณาคือสิ่งที่ผู้ใช้เห็นในโทรศัพท์ โฆษณาใช้เพื่อโปรโมตแอปและแคมเปญเพื่อจัดระเบียบโฆษณา เช่น คุณสร้างแคมเปญชื่อ "Nexus 7" ที่มีโฆษณาหลายรายการซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นผู้ใช้ Nexus 7 ได้

คุณสามารถสร้างแคมเปญใหม่ได้โดยทําตามขั้นตอนต่อไปนี้

เริ่มต้นใช้งานแคมเปญใหม่

  1. ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdMob ที่ https://apps.admob.com
  2. คลิกแคมเปญในแถบด้านข้าง
  3. คลิกสร้างแคมเปญ 
หมายเหตุ: การเริ่มแสดงโฆษณาในแคมเปญใหม่อาจใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง 
อัปเดตข้อมูลสำหรับการเรียกเก็บเงินให้เป็นปัจจุบันในบัญชี Google Ads ที่เชื่อมโยงกับบัญชี AdMob เพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญจะแสดงโฆษณา

ขั้นตอนที่ 1 สร้างแคมเปญ

  1. เลือกประเภทแคมเปญ
    • โฆษณาเฮาส์แอ็ด: โปรโมตแอปและเว็บไซต์ของคุณเอง
    • ขายตรง: แคมเปญที่คุณสร้างขึ้นสำหรับผู้ลงโฆษณา
  2. เลือกประเภทเป้าหมายเพื่อเลือกวิธีการวัดผลแคมเปญ 
  • ต้นทุนสูงสุดต่อการติดตั้งแอปหนึ่งครั้ง (Android เบต้า): กําหนดจํานวนเงินสูงสุดที่คุณต้องการใช้จ่ายเพื่อให้แอปได้ผู้ใช้ใหม่ เป้าหมายประเภทนี้มีไว้สำหรับแคมเปญโฆษณาเฮาส์แอ็ดเท่านั้น 
  • โฆษณาที่ใช้สื่อกลาง (แนะนำสำหรับโฆษณาทดแทน): โฆษณาแข่งขันในเชนสื่อกลางโดยใช้ eCPM ที่เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับโฆษณาทดแทนได้
  • จำนวนการแสดงผล: กำหนดจำนวนการแสดงผลสำหรับแคมเปญ
  • จำนวนคลิก: กำหนดจำนวนคลิกสำหรับแคมเปญ
  • เปอร์เซ็นต์การแสดงผล: กำหนดเปอร์เซ็นต์การแสดงผลรายวันเพื่อกำหนดทิศทางแคมเปญ 
  1. คลิกต่อไป

ขั้นตอนที่ 2 เลือกหน่วยโฆษณา

  1. คลิกเพิ่มหน่วยโฆษณา 
  2. เลือกช่องทำเครื่องหมายข้างหน่วยโฆษณาที่ต้องการให้แสดงในแคมเปญนี้ การดําเนินการนี้จะเพิ่มกลุ่มที่เลือกลงในรายการหน่วยโฆษณาที่เลือก หากต้องการเพิ่มหน่วยโฆษณาที่ใช้ได้ทั้งหมด ให้คลิกเลือกทั้งหมด
    หมายเหตุ: แคมเปญ AdMob จะไม่แสดงในแอปที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก หากรวมหน่วยโฆษณาจากแอปที่มีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายไว้ในแคมเปญ AdMob คุณจะไม่เห็นการแสดงผลแคมเปญสำหรับแอปนั้น
  3. คลิกยืนยัน

เลือกการกำหนดเป้าหมายขั้นสูง

คลิกการกําหนดเป้าหมายขั้นสูง แล้วคลิกเกณฑ์แต่ละข้อที่ต้องการแก้ไข จากนั้นคลิกฉันจะเลือกเอง (เลือกอย่างน้อย 1 รายการ) 

  • สถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่คุณต้องการกําหนดเป้าหมาย หากคุณไม่ต้องการกำหนดเป้าหมายตามภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง ให้เลือกประเทศและเขตแดนทั้งหมด 
    • การโฆษณาในพื้นที่ที่มีลูกค้าที่เหมาะสมกับคุณจะเป็นการช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้ 
  • ภาษาที่คุณต้องการกําหนดเป้าหมาย ภาษาจะอิงตามการตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์ผู้ใช้ มีค่าเริ่มต้นเป็นภาษาที่ใช้ได้ทั้งหมด
    • AdMob จะดูการตั้งค่าภาษาของลูกค้าบนอุปกรณ์เพื่อพิจารณาว่าการตั้งค่าดังกล่าวตรงกับภาษาที่แคมเปญของคุณกำหนดเป้าหมายหรือไม่
  • ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่คุณต้องการกําหนดเป้าหมาย มีค่าเริ่มต้นเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทั้งหมดและ Wi-Fi
    • ตัวอย่าง ถ้าคุณเลือกที่จะกำหนดเป้าหมายไปยังการเข้าชมจาก Wi-Fi โฆษณาของคุณจะแสดงเฉพาะเมื่อโทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เท่านั้น
  • อุปกรณ์และเวอร์ชันระบบปฏิบัติการที่ต้องการกําหนดเป้าหมาย มีค่าเริ่มต้นเป็นอุปกรณ์และเวอร์ชันระบบปฏิบัติการที่ใช้ได้ทั้งหมด
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีแอป iPhone ที่มีชิ้นงานรูปภาพแบบ HD คุณอาจเลือกที่จะกำหนดเป้าหมาย iPhone 12 หรือรุ่นที่สูงกว่า
    • หมายเหตุ: คุณสามารถกำหนดเป้าหมายแคมเปญไปยังหน่วยโฆษณาหลายหน่วยในหลายๆ แอปได้ ดังนั้นการจำกัดการตั้งค่าเหล่านี้มากเกินไปจึงอาจส่งผลเสียต่อแคมเปญของคุณได้
  • ข้อมูลประชากรหรือกลุ่มลูกค้าที่เจาะจงซึ่งมีแนวโน้มจะสนใจแอปที่โฆษณามากที่สุด เช่น แอปสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่กำหนดเป้าหมายเป็นผู้หญิงอายุ 18-44 ปี มีค่าเริ่มต้นเป็นเพศและอายุที่ใช้ได้ทั้งหมด
    • หมายเหตุ: การกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากรที่เจาะจงมากขึ้นจะทำให้โฆษณาที่อยู่ในแคมเปญที่กำหนดเป้าหมายแสดงต่อลูกค้าจำนวนน้อยลง คุณลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าใช้สำหรับแอปเฉพาะทาง แต่สำหรับแอปที่มีจุดประสงค์ทั่วไป การกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากรที่กว้างขึ้นก็จะเป็นการขยายกลุ่มเป้าหมายด้วย
ยิ่งคุณกรองการเลือกของคุณมากเท่าใด คุณก็จะยิ่งลดจำนวนผู้เข้าชมที่มีสิทธิ์เห็นโฆษณาของคุณมากเท่านั้น ในขณะที่ทดลองการกำหนดเป้าหมาย เราแนะนำให้คุณดูรายงานอย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งปรับการเลือกของคุณ
  1.  คลิกต่อไป

ขั้นตอนที่ 3 ปรับแคมเปญและเป้าหมาย

  1. ป้อนชื่อแคมเปญ ชื่อแคมเปญจะไม่แสดงต่อผู้ใช้
  2. กำหนดเป้าหมายที่เจาะจงสําหรับแคมเปญ ช่องนี้จะอิงตามประเภทเป้าหมายที่เลือกเมื่อคุณตั้งค่าแคมเปญ โดยอาจเป็นเปอร์เซ็นต์ของการแสดงผล จํานวนการแสดงผล หรือจํานวนคลิกที่แคมเปญตั้งเป้าไว้ นอกจากนี้คุณยังตั้งเป้าหมายเป็นโฆษณาที่ใช้สื่อกลางได้ด้วย ซึ่งหมายความว่าโฆษณาจะแข่งขันในเชนสื่อกลางโดยใช้ eCPM ที่เพิ่มประสิทธิภาพสําหรับโฆษณาทดแทนได้
    ก่อนที่คุณจะกำหนดเป้าหมายให้กับแคมเปญนี้ คุณอาจต้องการตรวจสอบข้อมูลการเข้าชม การแสดงผล และการคลิกที่ผ่านมาของแอป เพื่อระบุแนวโน้มและรับประกันว่าเป้าหมายจะบรรลุผลได้ภายในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
  3. กําหนดวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดของกําหนดการเป้าหมายของแคมเปญ วันที่เริ่มต้นที่เป็นไปได้ซึ่งเร็วที่สุดที่คุณกําหนดได้สําหรับแคมเปญคือวันถัดไปเวลา 24:00 น. (เช่น หากวันนี้เป็นวันจันทร์ วันที่เริ่มต้นแคมเปญเร็วที่สุดคือวันอังคาร เวลา 24:00 น.) สำหรับแคมเปญโฆษณาที่ใช้สื่อกลางและแคมเปญต้นทุนสูงสุดต่อการติดตั้งแอปหนึ่งครั้ง คุณจะกำหนดวันที่สิ้นสุดหรือไม่ก็ได้ และสามารถปล่อยให้ทำงานไปจนกว่าคุณจะหยุดชั่วคราว 
สำคัญ: กำหนดเป้าหมายแคมเปญให้ถูกต้องเพื่อให้แคมเปญได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเต็มที่

ตั้งค่าตัวเลือกขั้นสูง

หากต้องการตั้งค่าการกำหนดความถี่สูงสุดหรืออัตราการแสดงโฆษณา ให้คลิกตัวเลือกขั้นสูง ดังนี้

  1. การกำหนดความถี่สูงสุด: เปิดใช้การกำหนดความถี่สูงสุดหากคุณต้องการจำกัดจำนวนครั้งที่โฆษณาแสดงต่อบุคคลเดียวกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำหนดความถี่สูงสุดสําหรับแคมเปญ
  2. อัตราการแสดงโฆษณา: กำหนดอัตราที่โฆษณาจะแสดงเพื่อควบคุมจำนวนการแสดงผลที่โฆษณาแต่ละรายการจะได้รับ ดังนี้
    • สม่ำเสมอ: รับประกันว่าโฆษณาแต่ละรายการจะได้รับการแสดงผลที่เพียงพอเพื่อบรรลุเป้าหมายในแต่ละวัน นี่คืออัตราที่แนะนำ หากคุณกำลังพยายามจัดการแคมเปญหลายรายการอยู่
    • เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้: รับประกันว่าแคมเปญนี้จะได้รับการแสดงผลที่อัตราเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อัตรานี้มีแนวโน้มที่จะได้การแสดงผลที่อาจเสียไปให้กับแคมเปญอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้แคมเปญนี้บรรลุเป้าหมายได้
  3. คลิกบันทึกและดำเนินการต่อ

ขั้นตอนที่ 4 สร้างโฆษณา (ไม่บังคับ)

คุณเลือกที่จะสร้างโฆษณาหรือกลับไปยังขั้นตอนนี้ได้ภายหลัง โดยคลิกชื่อแคมเปญที่มีอยู่ คลิกแท็บโฆษณา จากนั้นทำตามขั้นตอนด้านล่าง 

หมายเหตุ: โฆษณาในแคมเปญต้องเป็นไปตามนโยบายแพลตฟอร์มของ Google ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว
  1. คลิกสร้างโฆษณาใหม่
  2. เลือกสิ่งที่จะโฆษณา ดังนี้ 
    • แอปใน Google Play: คุณค้นหาแอปได้โดยใช้ชื่อแอป ชื่อนักพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือรหัสแอป และเราจะใช้ผลลัพธ์เพื่อสร้างโฆษณา
    • แอปใน App Store: คุณค้นหาแอปได้โดยใช้ชื่อแอป ชื่อนักพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือรหัสแอป และเราจะใช้ผลลัพธ์เพื่อสร้างโฆษณา
    • แอปที่โฮสต์ที่อื่น: ป้อน URL ปลายทางสำหรับตำแหน่งที่ AdMob จะนำผู้ใช้ไปเมื่อคลิกที่โฆษณา
    • เว็บไซต์: ป้อน URL ปลายทางที่ AdMob จะนำผู้ใช้ไปเมื่อคลิกโฆษณา
  3. เลือกประเภทโฆษณาและป้อนรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโฆษณา

    หมายเหตุ: ประเภทโฆษณาต้องเข้ากันได้กับรูปแบบหน่วยโฆษณาที่คุณเลือกไว้ก่อนหน้านี้และสิ่งที่โฆษณา ดูประเภทโฆษณาที่เข้ากันได้กับรูปแบบโฆษณา 

    โฆษณาแบบข้อความ

    โฆษณาแบบข้อความคือโฆษณาที่ประกอบไปด้วยข้อความหลายบรรทัด

    โปรโมตแอป
    • แอป: ใช้ช่องค้นหาเพื่อหาแอปที่โฆษณาจะโปรโมต
    • ชื่อโฆษณา: ป้อนชื่อของโฆษณาที่มีอักขระไม่เกิน 25 ตัว
    • URL ปลายทาง: ป้อน URL ที่ AdMob จะนำผู้ใช้ไปหลังจากคลิกโฆษณา URL นี้จะไม่แสดงในโฆษณา
    • บรรทัดแรก: ป้อนข้อความที่ต้องการให้ผู้ใช้ดู โดยมีอักขระไม่เกิน 25 ตัว
    • ข้อความโฆษณา: ป้อนคำอธิบายของแอปที่กำลังโปรโมต โดยมีอักขระไม่เกิน 35 ตัว
    โฆษณาแบบรูปภาพ

    โฆษณาแบบรูปภาพประกอบด้วยไฟล์ภาพ 1 ไฟล์ที่คุณอัปโหลด

    โปรโมตแอป
    • ชื่อโฆษณา: ป้อนชื่อของโฆษณาที่มีอักขระไม่เกิน 25 ตัว
    • แอป/เว็บไซต์: คลิกปุ่มแอป ถ้ายังไม่ได้เลือก
    • แอป: ใช้ช่องค้นหาเพื่อหาแอปที่โฆษณาจะโปรโมต
    • URL ปลายทาง: ป้อน URL ที่ AdMob จะนำผู้ใช้ไปหลังจากคลิกโฆษณา URL นี้จะไม่แสดงในโฆษณา
    • การอัปโหลดรูปภาพ: อัปโหลดไฟล์ภาพจากคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็นครีเอทีฟโฆษณา
    โปรโมตเว็บไซต์
    • ชื่อโฆษณา: ป้อนชื่อของโฆษณาที่มีอักขระไม่เกิน 25 ตัว
    • แอป/เว็บไซต์: คลิกปุ่มเว็บไซต์ ถ้ายังไม่ได้เลือก
    • URL ปลายทาง: ป้อน URL ที่ AdMob จะนำผู้ใช้ไปหลังจากคลิกโฆษณา URL นี้จะไม่แสดงในโฆษณา
    • การอัปโหลดรูปภาพ: อัปโหลดไฟล์ภาพจากคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็นครีเอทีฟโฆษณา
    โฆษณา HTML5
    ใช้โฆษณา HTML5 ได้เมื่อคุณโฆษณาเว็บไซต์หรือแอปที่โฮสต์ไว้ที่อื่นเท่านั้น  

    โฆษณา HTML5 ประกอบด้วยไฟล์ ZIP 1 ไฟล์ที่คุณอัปโหลด ซึ่งมีโฆษณา HTML5 ที่ออกแบบใน Google Web Designer

    • ชื่อโฆษณา: ป้อนชื่อของโฆษณาที่มีอักขระไม่เกิน 25 ตัว
    • URL ปลายทาง: ป้อน URL ที่ AdMob จะนำผู้ใช้ไปหลังจากคลิกโฆษณา URL นี้จะไม่แสดงในโฆษณา
    • ครีเอทีฟโฆษณา: อัปโหลดไฟล์ .ZIP 1 รายการที่มีโฆษณา HTML5 ซึ่งสร้างขึ้นใน Google Web Designer จากคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็นครีเอทีฟโฆษณา
    โฆษณาวิดีโอ

    หมายเหตุ: ปัจจุบันรองรับเฉพาะวิดีโอ YouTube โฆษณาวิดีโอจะใช้ได้เมื่อคุณโฆษณาแอปใน Google Play Store หรือ App Store เท่านั้น

    • ชื่อโฆษณา: ป้อนชื่อของโฆษณาที่มีอักขระไม่เกิน 25 ตัว
    • แอป: ใช้ช่องค้นหาเพื่อหาแอปที่โฆษณาจะโปรโมต
    • URL ปลายทาง: ป้อน URL ที่ AdMob จะนำผู้ใช้ไปหลังจากที่แตะโฆษณา URL นี้จะไม่แสดงในโฆษณา
    • URL วิดีโอ: ป้อน URL ของวิดีโอที่คุณต้องการแสดงในโฆษณา คุณสามารถดูตัวอย่างวิดีโอที่สร้างโดยอัตโนมัติเพื่อให้แน่ใจว่าลิงก์กับวิดีโอที่ถูกต้องแล้ว สิ่งที่ควรทราบมีดังนี้
      • วิดีโอ YouTube ที่ไม่อนุญาตการฝังยังแสดงในโฆษณาวิดีโอได้อยู่
      • โฆษณาวิดีโอจะเป็นไปตามการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของวิดีโอ ดังนั้นวิดีโอ YouTube ที่ตั้งค่าไว้เป็นส่วนตัวจะแสดงในโฆษณาวิดีโอไม่ได้ และมีเฉพาะวิดีโอที่เป็นสาธารณะและไม่เป็นสาธารณะเท่านั้นที่จะแสดงได้
      • การ์ดสิ้นสุดซึ่งเป็นภาพนิ่งจะแสดงขึ้นถ้าวิดีโอโหลดไม่สำเร็จด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม เช่น วิดีโอถูกจำกัดในประเทศ
    • บรรทัดแรก: ป้อนข้อความที่คุณต้องการแสดงต่อผู้ใช้ โดยมีอักขระไม่เกิน 25 ตัว
    • รายละเอียด: ป้อนคำอธิบายของแอปที่โปรโมต โดยมีอักขระไม่เกิน 70 ตัว
    • ข้อมูลที่รวม: ระบบจะเติมข้อมูลในช่องนี้โดยอัตโนมัติ ในช่องนี้ประกอบด้วยข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ราคาและคะแนน (ถ้ามี) จากร้านแอปที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเราใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้โฆษณา
      • ราคาที่แสดงในตัวอย่างโฆษณาจะเป็นไปตามสกุลเงินเริ่มต้น และจะปรับให้เป็นสกุลเงินตามสถานที่ตั้งของผู้ใช้
      • แต่การให้คะแนนจะแสดงก็ต่อเมื่อมีคะแนนสูงกว่า 4 ดาว และได้รับการรีวิวมากกว่า 100 ครั้ง
    วิดีโอที่แสดงในหน่วยโฆษณาที่มีการให้รางวัลจะต้องสั้นกว่า 30 วินาที
    โฆษณาแบบดิสเพลย์ที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์
    หมายเหตุ: คุณต้องเลือก "เว็บไซต์" เป็นสิ่งที่กำลังโฆษณาในแคมเปญเพื่อใช้โฆษณา Display ที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณา
    • URL ปลายทาง: ป้อน URL ที่ AdMob จะนำผู้ใช้ไปหลังจากคลิกโฆษณา URL นี้จะไม่แสดงในโฆษณา
    • บรรทัดแรก: ป้อนบรรทัดแรกของโฆษณาโดยให้มีความยาวไม่เกิน 30 อักขระ  
    • บรรทัดแรกแบบยาว: ป้อนบรรทัดแรกของโฆษณาที่จะแสดงแทนบรรทัดแรกแบบสั้นในโฆษณาขนาดใหญ่ มีความยาวได้สูงสุด 90 อักขระ และอาจแสดงโดยมีคำอธิบายหรือไม่มีก็ได้
    • คำอธิบาย: ป้อนคำอธิบายของเว็บไซต์ที่คุณกำลังโปรโมตโดยให้มีความยาวไม่เกิน 90 อักขระ คำอธิบายจะเพิ่มเข้าไปในบรรทัดแรกเพื่อให้บริบทหรือรายละเอียดเพิ่มเติม 
    • ชื่อธุรกิจ: ป้อนชื่อธุรกิจหรือแบรนด์โดยให้มีความยาวไม่เกิน 25 อักขระ  
    • URL ของวิดีโอ (ไม่บังคับ): ป้อน URL ของวิดีโอที่คุณต้องการแสดงในโฆษณา สิ่งที่ควรทราบมีดังนี้
      • วิดีโอ YouTube ที่ไม่อนุญาตการฝังยังแสดงในโฆษณาวิดีโอได้อยู่
      • โฆษณาวิดีโอจะเป็นไปตามการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของวิดีโอ ดังนั้นวิดีโอ YouTube ที่ตั้งค่าไว้เป็นส่วนตัวจะแสดงในโฆษณาวิดีโอไม่ได้ และมีเฉพาะวิดีโอที่เป็นสาธารณะและไม่เป็นสาธารณะเท่านั้นที่จะแสดงได้
      • การ์ดสิ้นสุดซึ่งเป็นภาพนิ่งจะแสดงขึ้นถ้าวิดีโอโหลดไม่สำเร็จด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม เช่น วิดีโอถูกจำกัดในประเทศ
    • ข้อจำกัดความรับผิด (ไม่บังคับ): คุณระบุข้อจำกัดความรับผิดที่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบเรื่องการแจ้งเตือนเพื่อขอคำยินยอมหรือประกาศทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโฆษณาได้ ข้อจำกัดความรับผิดต้องมีความยาวไม่เกิน 90 อักขระ หรือมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ
    • รูปภาพแนวนอน: อัปโหลดรูปภาพแนวนอนที่มีอัตราส่วน 1.91:1 มีขนาดใหญ่กว่า 600 x 314 และไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 5120 KB 
    • รูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส: อัปโหลดรูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัส (1:1) ที่มีขนาดอย่างน้อย 300 x 300 และไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 5120 KB 
    • ข้อความ CTA: ข้อความ CTA อาจแสดงได้ในรูปแบบเลย์เอาต์ที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ดำเนินการ เมื่อเลือก "อัตโนมัติ" Google จะเลือก CTA ให้คุณ โดยบางเลย์เอาต์ก็จะไม่มี CTA
  4. คลิกดูตัวอย่างเพื่อดูตัวอย่างโฆษณา
  5. คลิกสร้างโฆษณา 
  6. ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 5 สำหรับโฆษณาแต่ละรายการที่ต้องการสร้างสำหรับแคมเปญนี้
  7. เมื่อสร้างโฆษณาเสร็จแล้ว ให้คลิกเสร็จ

ทําความเข้าใจเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของประเภทโฆษณา

คุณต้องเลือกประเภทโฆษณาเมื่อออกแบบโฆษณา โปรดพิจารณาใช้รูปแบบโฆษณาที่รองรับประเภทโฆษณาที่เลือก คุณใช้ตารางด้านล่างเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้

โปรดทราบว่าคุณจะต้องเลือกหน่วยโฆษณาที่มีรูปแบบเดียวกับโฆษณาที่คุณต้องการสร้าง มิฉะนั้นโฆษณาอาจไม่ปรากฏขึ้น 

 

ประเภทโฆษณาสำหรับการโฆษณาแอป (Google Play หรือ App Store)

  ข้อความ รูปภาพ HTML5 วิดีโอ
โฆษณาแบนเนอร์ ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ไม่ได้
โฆษณาคั่นระหว่างหน้า ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ใช้ได้
โฆษณาที่มีการให้รางวัล ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ใช้ได้
โฆษณาเนทีฟ ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ใช้ได้
โฆษณาเปิดแอป ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ใช้ได้

 

 

ประเภทโฆษณาสำหรับการโฆษณาแอปซึ่งโฮสต์ที่อื่น

  ข้อความ รูปภาพ HTML5 วิดีโอ
โฆษณาแบนเนอร์ ไม่ได้ ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้
โฆษณาคั่นระหว่างหน้า ไม่ได้ ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้
โฆษณาที่มีการให้รางวัล ไม่ได้ ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้
โฆษณาเนทีฟ ไม่ได้ ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้
โฆษณาเปิดแอป ไม่ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ไม่ได้

 

 

ประเภทโฆษณาสําหรับการโฆษณาเว็บไซต์

  ข้อความ รูปภาพ HTML5 วิดีโอ RDA
โฆษณาแบนเนอร์ ไม่ได้ ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ใช้ได้
โฆษณาคั่นระหว่างหน้า ไม่ได้ ใช้ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ใช้ได้
โฆษณาที่มีการให้รางวัล ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ใช้ได้
โฆษณาเนทีฟ ไม่ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ใช้ได้
โฆษณาเปิดแอป ไม่ได้ ใช้ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ ใช้ได้

 

ประเภทเป้าหมายแคมเปญของคุณจะส่งผลต่อความเข้ากันได้ของประเภทโฆษณาด้วย ใช้ตารางด้านล่างเพื่อช่วยคุณเลือกประเภทเป้าหมายแคมเปญ 

ความเข้ากันได้ของประเภทเป้าหมายแคมเปญกับตารางประเภทโฆษณา

 หมายเหตุ: เมื่อใช้ต้นทุนต่อการติดตั้งแอปหนึ่งครั้งเป็นประเภทเป้าหมาย คุณจะใช้ได้เฉพาะประเภทโฆษณาแบบข้อความ วิดีโอ และรูปภาพเท่านั้นในแคมเปญที่โฆษณาแอปใน Google Play โดยยังไม่มีการรองรับใน App Store หรือเว็บไซต์อื่นๆ ในปัจจุบัน

   

ประเภทเป้าหมายแคมเปญ

การโฆษณา

ประเภทโฆษณา

CPI สูงสุด โฆษณาที่ใช้สื่อกลาง จำนวนการแสดงผล เปอร์เซ็นต์การแสดงผล จำนวนการคลิก
แอปใน Google Play ข้อความ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
วิดีโอ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
รูปภาพ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
แอปใน App Store ข้อความ เบต้า รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
วิดีโอ เบต้า รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
รูปภาพ เบต้า รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
แอปที่โฮสต์ที่อื่น รูปภาพ ไม่รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
HTML 5 ไม่รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
เว็บไซต์ รูปภาพ ไม่รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
HTML 5 ไม่รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
รูปแบบที่ปรับเปลี่ยนตามอุปกรณ์ ไม่รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ
ข้อความ ไม่รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ รองรับ

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
true
Show your support to promote DEI in Gaming by turning intentions into action!

Check out the newly launched Diversity in Gaming website, where you can find video stories and written pledges from global gaming developers. This campaign centers on 3 pillars: diverse teams, diverse games and diverse audiences showing how diversity is not just good for gamers, but for business as well. Show your support by taking the pledge to promote DEI in Gaming and share it on social!

Learn More

ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
13073726955839645130
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73175
false
false