หลังจากสร้างหน่วยโฆษณาและตั้งค่าแหล่งที่มาของโฆษณาแล้ว คุณก็พร้อมที่จะสร้างกลุ่มสื่อกลาง โดยต้องสร้างกลุ่มสื่อกลางให้กับโฆษณาแต่ละรูปแบบ และต้องมีกลุ่มสื่อกลางที่แตกต่างกันสําหรับแพลตฟอร์มหนึ่งๆ (Android หรือ iOS) ด้วย
ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อสร้างกลุ่มสื่อกลางใหม่
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี AdMob ที่ https://admob.google.com
- คลิกสื่อกลางในแถบด้านข้าง
- ในแท็บกลุ่มสื่อกลาง ให้คลิกสร้างกลุ่มสื่อกลาง
- เลือกรูปแบบโฆษณา
- เลือกแพลตฟอร์ม
- คลิกต่อไป
- ใส่ชื่อให้กลุ่มสื่อกลาง ชื่อนี้ควรสื่อความหมายเพื่อช่วยในการหากลุ่มสื่อกลางนี้ในตารางภายหลัง
- เลือกตำแหน่งที่คุณต้องการกำหนดเป้าหมายหรือยกเว้นจากกลุ่มสื่อกลางนี้
- สำหรับแอป iOS คุณยังเลือกได้อีกว่าต้องการกำหนดเป้าหมายคำขอโฆษณาตามความพร้อมใช้งานของ IDFA หรือไม่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มสื่อกลางสําหรับ IDFA
- คลิกเพิ่มหน่วยโฆษณา
- เลือกหน่วยโฆษณาที่ต้องการเชื่อมโยงกับกลุ่มสื่อกลางนี้ เมื่อ AdMob ได้รับคำขอโฆษณาจากหน่วยโฆษณาที่เลือก AdMob จะพยายามจับคู่คำขอกับกลุ่มสื่อกลางที่กำหนดเป้าหมายหน่วยโฆษณาเหล่านี้
- คลิกเสร็จ
-
เพิ่มแหล่งที่มาของโฆษณาลงในกลุ่มสื่อกลาง ซึ่งอาจเป็นแหล่งที่มาของการเสนอราคา แหล่งที่มาของ Waterfall หรือเหตุการณ์ที่กําหนดเอง
เพิ่มแหล่งที่มาของโฆษณาซึ่งใช้การเสนอราคาลงในกลุ่มสื่อกลาง
- ในตารางแหล่งที่มาของโฆษณาซึ่งใช้การเสนอราคา ให้คลิกเพิ่มแหล่งที่มาของโฆษณา
- เลือกแหล่งที่มาของโฆษณาในรายการที่ปรากฏขึ้นหรือพิมพ์ชื่อแหล่งที่มาของโฆษณาในช่องค้นหา คลิกเลือกข้างแหล่งที่มาของโฆษณาที่ต้องการเพิ่ม
หากยังไม่ได้ตั้งค่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับแหล่งที่มาของโฆษณานี้ ให้ทําตามข้อความแจ้งเพื่อลงนามในข้อตกลงสำหรับพาร์ทเนอร์และรับทราบข้อตกลงการเสนอราคา
- เลือกการแมปที่มีอยู่สําหรับหน่วยโฆษณา หรือคลิกเพิ่มการแมปเพิ่มเติมเพื่อตั้งค่าการแมปใหม่ หากยังไม่ได้ตั้งค่าการแมป ให้คลิกเพิ่มการแมป
- คลิกเสร็จ
เพิ่มแหล่งที่มาของโฆษณา Waterfall ลงในกลุ่มสื่อกลาง
- ในตารางแหล่งที่มาของโฆษณา Waterfall ให้คลิกเพิ่มแหล่งที่มาของโฆษณา
- เลือกแหล่งที่มาของโฆษณาในรายการที่ปรากฏขึ้นหรือพิมพ์ชื่อแหล่งที่มาของโฆษณาในช่องค้นหา คลิกเลือกข้างแหล่งที่มาของโฆษณาที่ต้องการเพิ่ม
- หากแหล่งที่มาของโฆษณารองรับการเพิ่มประสิทธิภาพ ปุ่มเปิด/ปิด "เพิ่มประสิทธิภาพ" จะเปิดอยู่โดยค่าเริ่มต้น หากไม่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพแหล่งที่มาของโฆษณานี้ ให้คลิกปุ่มเปิด/ปิดเพื่อปิดการเพิ่มประสิทธิภาพ
-
ป้อน eCPM ที่กำหนดเอง
- สําหรับแหล่งที่มาของโฆษณาที่เพิ่มประสิทธิภาพแล้ว ระบบจะใช้ค่า eCPM นี้เพื่อจัดลําดับแหล่งที่มาของโฆษณานี้ในระหว่างที่ AdMob เก็บข้อมูลประวัติให้เพียงพอต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ เมื่อแหล่งที่มาของโฆษณานี้ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว ระบบจะจัดลำดับแหล่งที่มาของโฆษณาตาม eCPM ที่เพิ่มประสิทธิภาพ
- สําหรับแหล่งที่มาของโฆษณาที่ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบจะใช้ค่า eCPM นี้เพื่อจัดลําดับแหล่งที่มาของโฆษณาในการแสดงโฆษณาสื่อกลางตามลำดับขั้น
-
เลือกการแมปที่มีอยู่สําหรับหน่วยโฆษณา หรือคลิกเพิ่มการแมปเพิ่มเติมเพื่อตั้งค่าการแมปใหม่ หากยังไม่ได้ตั้งค่าการแมป ให้คลิกเพิ่มการแมป
-
คลิกเสร็จ
เพิ่มเหตุการณ์ที่กําหนดเองลงในกลุ่มสื่อกลาง
- ในตารางแหล่งที่มาของโฆษณา Waterfall ให้คลิกเพิ่มเหตุการณ์ที่กําหนดเอง
- ป้อนป้ายกำกับที่สื่อความหมายให้เหตุการณ์
- ป้อน eCPM ที่กำหนดเองสำหรับใช้กับเหตุการณ์ที่กำหนดเองนี้ ระบบจะใช้ eCPM นี้เพื่อวางเหตุการณ์ในการแสดงโฆษณาสื่อกลางตามลำดับขั้นแบบไดนามิก ซึ่งเป็นที่ที่เหตุการณ์จะแข่งขันกับแหล่งที่มาของโฆษณาอื่นๆ เพื่อส่งโฆษณาตามคำขอ นอกจากนี้ eCPM ยังเป็นปัจจัยพิจารณารายได้โดยประมาณในรายงานกิจกรรมของโฆษณาและเมตริก LTV ในรายงานกลุ่มประชากรตามรุ่นด้วย
- คลิกต่อไป
- เลือกการแมปที่มีอยู่เพื่อใช้กับเหตุการณ์ที่กําหนดเองนี้ หรือคลิกเพิ่มการแมป เพื่อตั้งค่าการแมปใหม่ หากต้องการใช้เหตุการณ์ที่กําหนดเองหลายรายการ คุณจะต้องสร้างการแมปเพิ่มเติมสําหรับเหตุการณ์ที่กําหนดเองแต่ละรายการ
- คลิกเสร็จ
เมื่อได้รับคำขอโฆษณา แหล่งที่มาของโฆษณาจะแข่งขันกันเพื่อตอบสนองคำขอนี้ คุณสามารถแก้ไขกลุ่มสื่อกลางเพื่อเพิ่มหรือนำแหล่งที่มาของโฆษณาออกได้ทุกเมื่อ
- คลิกบันทึก ระบบจะบันทึกกลุ่มสื่อกลาง
- หากยังไม่ได้ใช้สื่อกลางในแอป ให้ดูคู่มือ Google Developers เพื่อนำไปใช้เลย หากไม่ทำขั้นตอนนี้ สื่อกลางจะไม่สามารถส่งโฆษณาตามคำขอที่เข้ามาใหม่ได้