ข้ามไปที่: ประเภทครีเอทีฟโฆษณาที่แสดงร่วม | การกำหนดค่า | เมธอดของ GPT
โฆษณาที่แสดงร่วมช่วยให้คุณแสดงโฆษณาในช่องโฆษณา Display พร้อมกับโฆษณาที่แสดงในวิดีโอเพลเยอร์หรือออดิโอเพลเยอร์ได้ โฆษณาที่แสดงร่วมต้องอาศัยโฆษณาหลักในการแสดงเสมอ
- ครีเอทีฟโฆษณา VAST จะมีโฆษณา Display ที่เกี่ยวข้องได้สูงสุด 6 รายการ
- ป้ายกํากับจะป้องกันไม่ให้โฆษณาจากผู้ลงโฆษณาที่เป็นคู่แข่งแสดงในเวลาเดียวกัน
- ส่งโฆษณาทดแทนจากเครือข่ายของผู้เผยแพร่โฆษณาได้ หากการตอบสนองด้วย VAST มีโฆษณาที่แสดงร่วมจำนวนน้อยกว่าช่องโฆษณา Display ที่กำหนดไว้ในหน้า
เมื่อโฆษณาหลักเริ่มเล่นโดยอัตโนมัติ โฆษณาที่แสดงร่วมจะโหลดขึ้นทันที ด้วยเหตุนี้โฆษณาทั้งสองจึงโหลดพร้อมกัน เมื่อโฆษณาหลักต้องให้ผู้ใช้เป็นผู้เริ่มก่อน เช่น ต้องคลิกเพื่อเล่น โฆษณาที่ไม่ใช่แบบแสดงร่วมจะโหลดในช่องโฆษณาที่แสดงร่วมได้ก่อนที่จะมีการคลิกโฆษณาหลัก เมื่อผู้ใช้คลิกเพื่อเล่น โฆษณาที่แสดงร่วมจะแสดงแทนโฆษณาที่ไม่ใช่แบบแสดงร่วม
ครีเอทีฟโฆษณาที่แสดงร่วมขนาดแบบไหลจะใช้พื้นที่ในเปอร์เซ็นต์เท่ากันโดยไม่คํานึงถึงขนาดหน้าจอ วิธีนี้ช่วยให้โฆษณาที่แสดงร่วมสามารถแสดงเต็มหน้าจอได้
- โฆษณาที่ปรับเปลี่ยนตามพื้นที่โฆษณาใช้ไม่ได้กับโฆษณาวิดีโอที่แสดงร่วม
- Google DAI รองรับโฆษณาที่แสดงร่วมได้เฉพาะใน HTML5 ที่ใช้ Ads API
- IMA SDK ไม่รองรับฟังก์ชันการทำงานคลิกเพื่อโทรในโฆษณาวิดีโอที่แสดงร่วม
ประเภทครีเอทีฟโฆษณาที่แสดงร่วมที่มีอยู่
หากครีเอทีฟโฆษณา VAST มีครีเอทีฟโฆษณาที่แสดงร่วม คุณจะใช้รายการใดก็ได้ต่อไปนี้
- รูปภาพ: รูปภาพมาตรฐานหรือ URL ของครีเอทีฟโฆษณาที่โฮสต์ในเซิร์ฟเวอร์โฆษณาของบุคคลที่สาม
- Campaign Manager 360: URL เปลี่ยนเส้นทางที่สร้างด้วย Campaign Manager 360
- บุคคลที่สาม: โค้ดจากเซิร์ฟเวอร์โฆษณาบุคคลที่สาม
- กําหนดเอง: โค้ดของคุณเองเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานโฆษณาสื่อสมบูรณ์
- รูปแบบโฆษณาเนทีฟ (เบต้า) : รูปแบบโฆษณาเนทีฟมาตรฐานหรือที่กำหนดเอง 1, 2
- เทมเพลตครีเอทีฟโฆษณามาตรฐานหรือที่กําหนดเอง: เทมเพลตที่แจ้งให้ใส่ข้อมูลหรืออัปโหลดไฟล์
1 รูปแบบโฆษณาเนทีฟใช้ได้กับแคมเปญแบบจองและแคมเปญการรับประกันแบบเป็นโปรแกรมที่ผู้เผยแพร่โฆษณาเป็นผู้จัดหาครีเอทีฟโฆษณาเมื่อใช้สไตล์โฆษณาเนทีฟเป็นวิธีการแสดงโฆษณา
2 รูปแบบโฆษณาที่มีการเปิดใช้วิดีโอเนทีฟจะใช้เป็นโฆษณาที่แสดงร่วมไม่ได้
การกำหนดค่าโฆษณาที่แสดงร่วม
หากต้องการแสดงครีเอทีฟโฆษณาที่แสดงร่วม รายการโฆษณา เว็บไซต์ และเพลเยอร์ของคุณจะต้องมีการกำหนดค่าอย่างถูกต้อง
- เมื่อเพิ่มรายการโฆษณา คุณควรตั้งค่าครีเอทีฟโฆษณาที่คาดไว้เป็นขนาดของโฆษณาวิดีโอหรือโฆษณาเสียงหลัก และใส่ขนาดของโฆษณาที่แสดงร่วมไว้ด้วย จากนั้นเมื่อดูแลการแสดงครีเอทีฟโฆษณาวิดีโอหรือเสียง คุณจะใส่โฆษณาที่แสดงร่วมที่มีขนาดตามที่คุณอนุญาตไว้ได้
- ควรกำหนดช่องโฆษณาแบบดิสเพลย์โดยใช้แท็ก GPT ที่ระบุว่าโฆษณาที่แสดงร่วมควรทำงานอย่างไร
- เพลเยอร์ที่ใช้ IMA SDK ควรตั้งค่าขนาดโฆษณาที่แสดงร่วมลงในพารามิเตอร์
ciu_szs
ในคำขอโฆษณา - หากเพลเยอร์เป็น iframe คุณต้องรวมสคริปต์พร็อกซี GPT ไว้ใน HTML ด้วย
ดูรายละเอียดการใช้งานสำหรับวิธีใช้โฆษณาที่แสดงร่วมกับแท็กผู้เผยแพร่โฆษณาผ่าน Google หากคุณไม่ได้ใช้ไลบรารี GPT นักพัฒนาซอฟต์แวร์ของคุณอาจสร้างการรองรับโฆษณาที่แสดงร่วมได้โดยใช้ Ad API แต่เนื้อหาด้านล่างจะเน้นที่ฟีเจอร์ของ GPT
เมธอดของ GPT ที่รองรับโฆษณาที่แสดงร่วม
GPT JavaScript | ตัวอย่างโค้ดใน <head> ของหน้าเว็บ |
---|---|
บริการ |
googletag.defineSlot( |
เมธอด |
googletag.companionAds(). |
เมธอด ซึ่งจะเป็นการยกเว้นไม่ให้โฆษณาของคู่แข่งทำงานในโฆษณาวิดีโอและโฆษณา Display |
|
ไม่บังคับสําหรับโฆษณาวิดีโอและโฆษณาเสียงแบบ "เล่นอัตโนมัติ" เมธอดนี้จะป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่โฆษณาแบบดิสเพลย์โหลดในหน่วยโฆษณา แต่แสดงเพียง 2-3 วินาทีก่อนที่โฆษณาที่แสดงร่วมจะแสดง ลองเปรียบเทียบกับโฆษณาคลิกเพื่อเล่นซึ่งไม่จำเป็นต้องปิดใช้งานการโหลดระยะแรก เนื่องจากโฆษณา Display ควรโหลดและแสดงผลจนกว่าผู้ใช้จะคลิกให้เล่น ซึ่งจะเป็นการโหลดโฆษณาที่แสดงร่วม |
|
ตัวอย่างโค้ด GPT ที่มีโฆษณา Display ที่แสดงร่วม
<head>
ที่สมบูรณ์ของหน้าอาจมีลักษณะดังนี้
<script type='text/javascript'> window.googletag = window.googletag || {cmd: []}; (function() { var gads = document.createElement('script'); gads.async = true; gads.type = 'text/javascript'; gads.src = 'http://securepubads.g.doubleclick.net/tag/js/gpt.js'; var node = document.getElementsByTagName('script')[0]; node.parentNode.insertBefore(gads, node); })(); </script> <script type='text/javascript'> googletag.cmd.push(function() { //
↓set with actual ad units and sizes for your website googletag.defineSlot('/12345/path/to/adunit', [300, 250], 'div1').addService(googletag.companionAds()).addService(googletag.pubads()); googletag.defineSlot('/12345/path/to/adunit', [160, 600], 'div2').addService(googletag.companionAds()).addService(googletag.pubads()); googletag.defineSlot('/12345/path/to/adunit', [728, 90], 'div3').addService(googletag.companionAds()).addService(googletag.pubads()); googletag.companionAds().setRefreshUnfilledSlots(true); googletag.pubads().enableVideoAds();
// ↓only necessary on auto‑play video pages googletag.pubads().disableInitialLoad(); googletag.enableServices(); }); </script>
ในขณะที่โค้ด <body>
อาจมีลักษณะดังนี้
<div id='div1' style='width:300px; min-height:250px;'>
<script type='text/javascript'>
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('ad-div-1'); });
</script>
</div>
<div id='div2' style='width:160px; min-height:600px;'>
<script type='text/javascript'>
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('ad-div-2'); });
</script>
</div>
<div id='div3' style='width:728px; min-height:90px;'>
<script type='text/javascript'>
googletag.cmd.push(function() { googletag.display('ad-div-3'); });
</script>
</div>
min-height
มากกว่าใช้พร็อพเพอร์ตี้ height
เพื่อจองพื้นที่ขั้นต่ำในหน้าเว็บสำหรับช่องโฆษณา ขณะที่ยังคงอนุญาตให้โฆษณาขนาดใหญ่กว่าแสดงได้