คู่มือนี้จะช่วยคุณแก้ปัญหาที่พบขณะใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google เพื่อลงชื่อเข้าใช้แอปและบริการของบุคคลที่สาม หรือเมื่อคุณอนุญาตให้แอปและบริการของบุคคลที่สามเข้าถึงข้อมูลบางอย่างของคุณ บุคคลที่สามคือบริษัทหรือนักพัฒนาแอปที่ไม่ใช่ Google
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google และวิธีแชร์สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางอย่างในบัญชี Google กับแอปของบุคคลที่สาม
แก้ปัญหาเกี่ยวกับการเข้าสู่ระบบบัญชี
สำคัญ
- หากต้องการใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือแชร์สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางอย่าง คุณต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google
- เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือแชร์สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางอย่าง บัญชี Google และบัญชีบุคคลที่สามจะยังคงแยกกัน
หากมีปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับบุคคลที่สาม ให้ตรวจสอบว่าปัญหามาจากบัญชี Google หรือบัญชีบุคคลที่สาม
บัญชี Google หรือบัญชีบุคคลที่สามถูกระงับหรือปิดใช้เมื่อพยายามใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือแชร์สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางอย่าง คุณอาจได้รับข้อความแจ้งว่าบัญชีถูกปิดใช้หรือถูกระงับ คุณควรตรวจสอบก่อนว่าบัญชี Google ถูกปิดใช้หรือไม่ หากไม่ใช่ บุคคลที่สามอาจปิดใช้บัญชีของคุณในเว็บไซต์ดังกล่าว
- วิธีดูว่าบัญชี Google ถูกปิดใช้หรือไม่
- ลองลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google หากบัญชี Google ถูกปิดใช้ คุณจะเห็นข้อความว่า "บัญชีถูกปิดใช้" เมื่อพยายามลงชื่อเข้าใช้
- ตรวจสอบการเข้าสู่ระบบบริการของ Google ตัวอย่างเช่น หากคุณเข้าสู่ระบบที่อยู่ Gmail ของบัญชี Google ได้ แสดงว่าบัญชี Google ไม่ได้ถูกปิดใช้
- หากคุณบันทึกที่อยู่อื่นไว้ในบัญชี Google ให้ตรวจสอบที่อยู่นั้นเพื่อหาอีเมลที่ระบุว่าบัญชี Google ถูกปิดใช้
- ในกรณีที่บัญชี Google ถูกปิดใช้
- ลองลงชื่อเข้าใช้แอปหรือบริการด้วยวิธีอื่น
- สอบถามบุคคลที่สามว่าคุณสามารถใช้อีเมลและรหัสผ่าน หรือวิธีอื่นในการลงชื่อเข้าใช้ได้หรือไม่
- ดูวิธีกู้คืนบัญชี
- ลองลงชื่อเข้าใช้แอปหรือบริการด้วยวิธีอื่น
- ในกรณีที่บุคคลที่สามระงับบัญชีของคุณ ให้ติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรงเพื่อรับความช่วยเหลือ
- ข้อมูลในฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google จะถูกลบไปด้วย ซึ่งรวมถึงข้อมูลเข้าสู่ระบบสำหรับเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งหมายความว่าคุณจะใช้ปุ่มลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google เพื่อลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีที่ลบไปแล้วไม่ได้อีก
- แม้ว่าจะลบบัญชี Google แล้ว แต่คุณอาจยังเข้าถึงบัญชีบุคคลที่สามซึ่งแยกต่างหากได้ด้วยวิธีอื่น พยายามลงชื่อเข้าใช้แอปหรือบริการด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน หรือติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรง นอกจากนี้ คุณยังลองสร้างข้อมูลเข้าสู่ระบบใหม่ในเว็บไซต์ของบุคคลที่สามได้ด้วย
- หากคุณลบบัญชี Google จะเป็นการลบการเชื่อมต่อกับบุคคลที่สามทั้งหมดที่เชื่อมโยงอยู่ด้วย แอปหรือบริการของบุคคลที่สามอาจเก็บข้อมูลที่คุณเคยแชร์ไว้อยู่ต่อไป คุณอาจต้องขอให้แอปของบุคคลที่สามลบข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่
- หากคุณลบบัญชีของบุคคลที่สาม บัญชี Google จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบัญชีของบุคคลที่สามและบัญชี Google ไม่ได้เชื่อมโยงกัน
- บุคคลที่สามไม่ได้แจ้งให้ Google ทราบ แม้ว่าคุณจะใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google ในการสร้างบัญชีนั้นก็ตาม บัญชี Google อาจยังแสดงว่าแอปหรือบริการนั้นลิงก์กับบัญชีอยู่
- อ่านข้อกําหนดในการให้บริการบุคคลที่สามเพื่อให้ทราบวิธีที่บุคคลดังกล่าวจัดการข้อมูลของคุณ บุคคลที่สามบางรายทำเพียงปิดใช้บัญชี แต่บางรายจะลบข้อมูลของคุณออกจากบริการด้วย
- หากข้อมูลถูกลบ คุณจะต้องสร้างบัญชีใหม่ในแอปหรือบริการนั้น โดยยังใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google เพื่อดําเนินการดังกล่าวได้อยู่ แต่อาจต้องใช้บัญชี Google บัญชีอื่น
- หากต้องการหยุดแชร์ข้อมูลกับแอปหรือบริการของบุคคลที่สาม ให้นำแอปหรือบริการนั้นออกจากหน้าการจัดการการเชื่อมต่อ ซึ่งจะเป็นการเพิกถอนสิทธิ์เข้าถึงทั้งหมดที่คุณเคยให้ไว้
หากมีบัญชีในแอปหรือบริการอยู่แล้วและพยายามใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google คุณอาจเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด
บริการของบุคคลที่สามใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google ในลักษณะที่แตกต่างกันไป บางบริการไม่รองรับการลงชื่อเข้าใช้ด้วยวิธีอื่นๆ สำหรับบัญชีเดียวกัน หากพบปัญหานี้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรง
ทําความเข้าใจรหัสข้อผิดพลาดและแก้ไข
หากลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google แต่ยังคงใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือให้สิทธิ์บุคคลที่สามเข้าถึงข้อมูลบัญชีไม่ได้ คุณอาจเห็นรหัสและข้อความแสดงข้อผิดพลาด
ปัญหาบางอย่างที่ทําให้ข้อความแสดงข้อผิดพลาดปรากฏอาจอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Google เช่น แอปหรือบริการที่คุณต้องการใช้อาจมีการตั้งค่าที่ไม่ปลอดภัยซึ่ง Google ไม่อนุญาต รหัสข้อผิดพลาดต่างๆ จะช่วยให้เข้าใจสาเหตุที่ลงชื่อเข้าใช้หรือให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลไม่ได้ เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาหรือติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรงเพื่อรับความช่วยเหลือ
400 access_not_configuredหากได้รับข้อผิดพลาด "400 access_not_configured" แสดงว่าผู้ดูแลระบบ Workspace for Education ไม่ได้กําหนดค่าแอปอย่างถูกต้อง
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
หากเป็นแอปที่คุณคาดว่าจะใช้ได้ โปรดติดต่อผู้ดูแลระบบ Workspace เพื่อให้กำหนดค่าการเข้าถึงสำหรับแอป
หากได้รับข้อผิดพลาด "400 admin_policy_enforced" แสดงว่าผู้ดูแลบัญชีไม่อนุญาตให้คุณใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือแชร์ข้อมูลบางอย่างขององค์กรกับแอป กรณีนี้อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณใช้บัญชีจากที่ทำงานหรือองค์กรอื่น บางครั้งระบบจะบล็อกเฉพาะบางแอปเท่านั้น
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
หากคุณคิดว่าควรมีสิทธิ์เข้าถึงแอป ให้ติดต่อผู้ดูแลระบบ Google Workspace ขององค์กร
หากได้รับข้อผิดพลาด "400 invalid_request" หรือ "การเข้าถึงถูกบล็อก: แอปส่งคําขอที่ไม่ถูกต้อง" แสดงว่าแอปใช้วิธีการให้สิทธิ์ที่ Google ไม่อนุญาต
Google มีช่องทางที่ปลอดภัยไว้ให้คุณลงชื่อเข้าใช้และแชร์ข้อมูลในบัญชี Google กับแอปและบริการของบุคคลที่สาม Google จะบล็อกแอปที่อาจทําให้บัญชีมีความเสี่ยงเพื่อช่วยปกป้องบัญชีของคุณ
เคล็ดลับ: ดูวิธีที่ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google แชร์ข้อมูลของคุณอย่างปลอดภัย
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
เฉพาะนักพัฒนาแอปบุคคลที่สามเท่านั้นที่แก้ไขปัญหานี้ได้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรงเพื่อรายงานข้อผิดพลาด
หากได้รับข้อผิดพลาด "400 invalid_scope" แสดงว่าแอปขอสิทธิ์ที่เราไม่รู้จักหรือไม่ได้รับอนุญาตให้ขอ
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
เฉพาะนักพัฒนาแอปบุคคลที่สามเท่านั้นที่แก้ไขปัญหานี้ในแอปได้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรงเพื่อรายงานข้อผิดพลาด
บัญชีผู้ใช้ที่ใช้อยู่ไม่มีการใช้งาน
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
ใช้บัญชี Google บัญชีอื่นที่มีการใช้งานอยู่และใช้งานได้
หากได้รับข้อผิดพลาด "400 origin_mismatch" หรือ "400 redirect_uri_mismatch" แสดงว่าอาจเกิดจากสาเหตุข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
- นักพัฒนาแอปหรือบริการตั้งค่าแอปไม่ถูกต้อง
- แอปพยายามเข้าถึงข้อมูลของคุณในลักษณะที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของเรา
เราขอให้บุคคลที่สามลงทะเบียนแอปกับเราก่อนที่จะสามารถใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google ได้ เพื่อช่วยปกป้องบัญชีของคุณ นอกจากนี้บุคคลที่สามยังต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายด้านความปลอดภัยของเราด้วย หากแอปไม่เป็นไปตามนโยบายเหล่านี้ เราจะไม่อนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google จนกว่านักพัฒนาแอปจะแก้ไขปัญหา
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
เฉพาะนักพัฒนาแอปบุคคลที่สามเท่านั้นที่แก้ไขปัญหานี้ได้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรงเพื่อรายงานข้อผิดพลาด
หากได้รับข้อผิดพลาด "400 policy_enforced" แสดงว่าบัญชี Google ของคุณอาจอยู่ในโปรแกรมการปกป้องขั้นสูง ฟีเจอร์ความปลอดภัยนี้ไม่อนุญาตให้แอปหรือบริการของบุคคลที่สามส่วนใหญ่เข้าถึงข้อมูลในบัญชี Google เพื่อช่วยปกป้องบัญชี
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
วิธีแก้ไขข้อผิดพลาดนี้คือต้องเลือกไม่เข้าร่วมโปรแกรมการปกป้องขั้นสูง ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่ได้รับประโยชน์ด้านความปลอดภัยจากโปรแกรมดังกล่าว
หากได้รับข้อผิดพลาดที่ขึ้นต้นด้วย "401" แสดงว่านักพัฒนาแอปไม่ได้ลงทะเบียนแอปกับ Google อย่างถูกต้อง
Google ขอให้นักพัฒนาแอปลงทะเบียนแอปก่อนที่จะสามารถใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางอย่างได้ เพื่อช่วยปกป้องบัญชีของคุณ เราจะไม่แชร์ข้อมูลของคุณจนกว่านักพัฒนาแอปจะลงทะเบียนกับเรา
ข้อความแสดงข้อผิดพลาดที่คุณอาจเห็น ได้แก่
- 401 invalid_client: แอปไม่ตรงกับข้อมูลในการลงทะเบียน หรือนักพัฒนาแอปไม่ได้ให้ข้อมูลที่จําเป็นทั้งหมดแก่ Google
- 401 deleted_client: แอปหรือบริการไม่ได้ลงทะเบียนกับ Google แล้ว
- 401 disabled_client: แอปถูกบล็อก
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
เฉพาะนักพัฒนาแอปบุคคลที่สามเท่านั้นที่แก้ไขปัญหานี้ได้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรงเพื่อรายงานข้อผิดพลาด
หากได้รับข้อผิดพลาด "403 access_denied" แสดงว่าคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือแชร์ข้อมูลบางอย่างในบัญชีกับแอป ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้
- แอปอยู่ในโหมดทดสอบและนักพัฒนาแอปไม่ได้เพิ่มคุณเป็นผู้ใช้ทดสอบ
- ประเภทบัญชี Google ที่คุณลงชื่อเข้าใช้ไม่อนุญาตให้ใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือแชร์ข้อมูลบางอย่างในบัญชี
- เช่น บัญชีของบุตรหลานไม่สามารถใช้ฟีเจอร์นี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง
- ผู้ดูแลระบบองค์กรอาจไม่อนุญาตให้คุณใช้ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือแชร์ข้อมูลบางอย่างในบัญชีกับแอปบางแอปด้วย
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
- ใช้บัญชีประเภทอื่นในการลงชื่อเข้าใช้แอป
- หากคิดว่าบัญชีของคุณควรมีสิทธิ์เข้าถึง ให้ติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรง
หากได้รับข้อผิดพลาด "403 disallowed_useragent" แสดงว่าแอปใช้ WebView ที่ฝังอยู่ นักพัฒนาแอปบางรายใช้ WebView ช่วยแสดงเนื้อหาเว็บในแอป ซึ่งส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยมีความเสี่ยง เนื่องจาก WebView ที่ฝังอยู่อาจปล่อยให้บุคคลที่สามเข้าถึงและเปลี่ยนการสื่อสารระหว่างคุณกับ Google ได้
Google ไม่อนุญาตให้ใช้ WebView ที่ฝังอีกต่อไปตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2021 เพื่อรักษาบัญชีให้ปลอดภัย
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
เฉพาะนักพัฒนาแอปบุคคลที่สามเท่านั้นที่แก้ไขปัญหานี้ในแอปได้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรงเพื่อรายงานข้อผิดพลาด
หากแอปมีเว็บไซต์ ให้ลองลงชื่อเข้าใช้จากเบราว์เซอร์
หากได้รับข้อผิดพลาด "403 invalid_account" อาจเป็นได้ว่าบัญชี Google ของคุณถูกปิดใช้
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
ตรวจสอบว่าบัญชี Google ถูกปิดใช้หรือไม่
หากพบว่าบัญชีถูกปิดใช้ ให้ดูวิธีกู้คืนบัญชี
หากได้รับข้อผิดพลาด "403 org_internal" แสดงว่ามีเพียงสมาชิกของบริษัทหรือองค์กรที่ระบุเท่านั้นที่ใช้แอปได้ ตัวอย่างเช่น องค์กรอาจอนุญาตให้เฉพาะอีเมลที่ลงท้ายด้วย @example.com เข้าถึงแอปหรือบริการ
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
หากคุณเป็นสมาชิกขององค์กร ให้เปลี่ยนไปใช้บัญชีสมาชิก
หากได้รับข้อผิดพลาด "403 rate_limit_exceeded" แสดงว่าขณะนี้อัตราคำขอการลงชื่อเข้าใช้แอปถึงขีดจำกัดแล้ว Google จำกัดอัตราความเร็วการได้รับผู้ใช้ใหม่ของแอป
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
คุณจะลองลงชื่อเข้าใช้อีกครั้งในภายหลัง หรือขอให้นักพัฒนาแอปเพิ่มขีดจำกัดอัตราคำขอการลงชื่อเข้าใช้ของแอปก็ได้
หากได้รับข้อผิดพลาด "403 restricted_client" แสดงว่าแอปของบุคคลที่สามไม่ได้รับการตั้งค่าอย่างถูกต้อง Google ขอให้นักพัฒนาแอปบุคคลที่สามปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านความปลอดภัยบางประการเพื่อช่วยปกป้องบัญชีของคุณ
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
เฉพาะนักพัฒนาแอปบุคคลที่สามเท่านั้นที่แก้ไขปัญหานี้ได้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรงเพื่อรายงานข้อผิดพลาด
เกิดข้อผิดพลาดขณะที่เราประมวลผลคําขอนี้
คุณทําอะไรได้บ้างเกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
โปรดลองอีกครั้งในภายหลัง
แก้ไขปัญหาอื่นๆ ในแอปหรือบริการของบุคคลที่สาม
ในบางกรณีคุณอาจลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ของบุคคลที่สามด้วย Google ได้ แต่ยังใช้แอปหรือบริการนั้นไม่ได้ Google ไม่ได้ให้บริการที่บุคคลที่สามเสนอ สาเหตุส่วนใหญ่ของปัญหาเช่นนี้จึงอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Google เราเพียงช่วยแอปหรือเว็บไซต์ระบุตัวตนของคุณเท่านั้น
ตัวอย่างปัญหาที่เกิดกับแอปหรือบริการ เช่น
- คุณซื้อภาพยนตร์ในบริการของบุคคลที่สาม แต่รับชมไม่ได้
- คุณไม่สามารถซื้อสินค้าในเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม
- คุณแชร์ข้อมูล Google ปฏิทินกับแอปปฏิทิน แต่กิจกรรมไม่แสดงในแอป
- คุณแชร์รูปภาพใน Google กับแอปแก้ไขรูปภาพ แต่รูปภาพไม่โหลด
หากพบปัญหาเช่นนี้ โปรดติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรง
ติดต่อนักพัฒนาแอปบุคคลที่สาม
วิธีหาข้อมูลติดต่อของนักพัฒนาแอปบุคคลที่สาม
- ไปที่แอปหรือบริการที่ต้องการ
- หากต้องการแชร์ข้อมูลบางอย่างใน Google ให้คลิกลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google หรือปุ่มคำกระตุ้นให้ดำเนินการ
- คุณอาจต้องออกจากระบบของแอปหรือบริการนั้นเพื่อดูหน้าจอลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google
หากต้องการดูอีเมลของนักพัฒนาแอป ให้เลือกชื่อแอปหรือเว็บไซต์ที่ด้านบนของหน้าจอถัดไป ทั้งนี้อาจไม่มีอีเมลของนักพัฒนาแอปในบางกรณี
รักษาความปลอดภัยให้บัญชีที่ถูกแฮ็กหรือถูกบุกรุก
- หากคิดว่ามีคนแฮ็กบัญชี Google ของคุณ ให้ทําตามขั้นตอนในการรักษาความปลอดภัยให้กับบัญชี Google ที่ถูกบุกรุก
- หากบัญชี Google ถูกแฮ็ก บุคคลอื่นอาจใช้บัญชีของคุณเพื่อลงชื่อเข้าใช้แอปหรือบริการของบุคคลที่สามได้ โปรดเปิดการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้บัญชี
- Google ช่วยเก็บบัญชีที่ลิงก์ไว้อย่างปลอดภัยด้วยการป้องกันแบบครอบคลุมหลายบริการ โปรแกรมนี้จะตรวจหาเหตุการณ์ที่น่าสงสัยและแชร์การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยกับแอปและบริการของบุคคลที่สามที่ใช้งานร่วมกันได้ซึ่งเชื่อมโยงกับบัญชี Google ของคุณ
- หากคุณคิดว่ามีคนแฮ็กบัญชีบุคคลที่สามของคุณ ให้ติดต่อนักพัฒนาแอปโดยตรง
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- จัดการการเชื่อมต่อบัญชี Google กับบุคคลที่สาม
- ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google
- วิธีที่ฟีเจอร์ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Google ช่วยให้คุณแชร์ข้อมูลได้อย่างปลอดภัย
- แชร์สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลบางอย่างในบัญชี Google กับแอปของบุคคลที่สาม
- การลิงก์บัญชี Google กับแอปและบริการของบุคคลที่สาม
- วิธีที่ Google ช่วยให้คุณแชร์ข้อมูลอย่างปลอดภัยโดยใช้การลิงก์บัญชี Google