การแจ้งเตือน

Duet AI เปลี่ยนเป็น Gemini สำหรับ Google Workspace แล้ว ดูข้อมูลเพิ่มเติม

ควบคุมการส่งข้อความโดยอิงตามเนื้อหาของข้อความ

ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณสามารถตั้งกฎเพื่อกำหนดวิธีที่ Gmail จะจัดการกับข้อความได้ด้วยคำหรือวลีที่คุณระบุ ซึ่งกฎดังกล่าวจะมีผลกับข้อความขาเข้าหรือขาออก หรือข้อความทั้ง 2 ประเภท โดยกฎสามารถสั่งให้ Gmail ปฏิเสธหรือกักเก็บข้อความ หรือส่งข้อความหลังจากที่แก้ไขแล้วได้ เช่น คุณอาจสร้างกฎที่จะปฏิเสธข้อความขาออกซึ่งมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน หรืออาจต้องการกักเก็บข้อความขาเข้าที่มีคำหรือวลีที่ไม่เหมาะสมซึ่งคุณระบุไว้ในกฎก็ได้

ใช้การตั้งค่าเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมโดยการสร้างรายการคำ จากนั้นระบุสิ่งที่ต้องการดำเนินการกับข้อความที่มีเนื้อหาตรงกัน

ข้อควรทราบก่อนที่จะเริ่มต้น

หลักเกณฑ์การจับคู่เนื้อหา

เมื่อคุณสร้างกฎสำหรับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โปรดคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

  • การจับคู่เนื้อหาจะจับคู่คำเดี่ยวๆ เท่านั้น และไม่รองรับการจับคู่เนื้อหาในสตริง โดยกฎสามารถกำหนดคำมากกว่า 1 คำในการจับคู่เนื้อหาได้
  • คำจะไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์เล็กและตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น หากคุณเพิ่ม BAD ในรายการคำที่กำหนดเอง ระบบจะถือว่าข้อความที่มีคำเหล่านี้ตรงกันทั้งหมด ซึ่งได้แก่ BAD, bad และ Bad
  • ระบบจะรองรับเฉพาะคำที่สมบูรณ์เมื่อมีการใช้กฎกับข้อความ เช่น หากคุณเพิ่ม bad ลงในรายการคำที่กำหนดเอง ระบบจะไม่ถือว่าข้อความที่มีคำว่า badminton เป็นคำที่ตรงกัน
  • ระบบจะจับคู่คำในเรื่อง เนื้อหา และไฟล์แนบที่เป็นข้อความ
  • ระบบไม่รองรับการป้อนคำในวงเล็บเหลี่ยม เช่น [bad] กฎจะไม่มีผลใดๆ แม้ว่าคำในข้อความ รวมถึงวงเล็บเหลี่ยมจะตรงกับเนื้อหาในข้อความก็ตาม หากคุณต้องการให้ระบบทริกเกอร์กฎกับข้อความที่อยู่ในวงเล็บเหลี่ยม ให้สร้างกฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับเนื้อหาเพื่อทริกเกอร์นิพจน์ทั่วไป (?i)\[(BAD)\] 

อีเมลแบบไดนามิก

หากคุณใช้กฎสำหรับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมกับอีเมลแบบไดนามิกสำหรับองค์กรของคุณ โปรดดูวิธีใช้กฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดกับข้อความแบบไดนามิก

การใช้การตั้งค่า

กฎจะมีผลกับผู้ใช้ทุกคนในหน่วยขององค์กร เว้นแต่ว่าคุณจะเปลี่ยนตัวเลือก คุณจะปิดใช้กฎที่องค์กรย่อยรับค่ามาจากองค์กรระดับบนสุดได้ นอกจากนี้คุณยังเพิ่มกฎหลายข้อให้กับแต่ละองค์กรได้อีกด้วย

เมื่อคุณตั้งค่ากฎหลายข้อ สิ่งที่เกิดขึ้นกับข้อความจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คุณกำหนดและกฎที่มีลำดับความสำคัญสูงกว่า โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อการตั้งค่าหลายรายการมีผลต่อการทำงานของข้อความอย่างไร

ตั้งกฎสำหรับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

เคล็ดลับ: ขอแนะนำให้ทดสอบกฎใหม่เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานกับองค์กรได้อย่างถูกต้อง โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อแนวทางปฏิบัติแนะนำสำหรับการทดสอบกฎที่รวดเร็วขึ้น

  1. ลงชื่อเข้าใช้ คอนโซลผู้ดูแลระบบของ Google

    ลงชื่อเข้าใช้โดยใช้บัญชีผู้ดูแลระบบ (ที่ไม่ลงท้ายด้วย @gmail.com)

  2. ในคอนโซลผู้ดูแลระบบ ไปที่เมนู จากนั้น แอปจากนั้นGoogle Workspaceจากนั้นGmailจากนั้นการปฏิบัติตามข้อกําหนด
  3. เลื่อนไปที่การตั้งค่าเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในส่วนการปฏิบัติตามข้อกำหนด จากนั้นชี้ไปที่การตั้งค่าแล้วคลิกกำหนดค่าหรือเพิ่มกฎอื่น
  4.  ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ในช่องเพิ่มการตั้งค่า
    ตัวเลือกการตั้งค่า สิ่งที่ต้องทำ
    ต้องระบุ: ป้อนชื่อหรือคำอธิบายสำหรับกฎใหม่ หากช่องนี้เว้นว่างไว้ คุณจะบันทึกกฎใหม่ไม่ได้
    ข้อความอีเมลที่จะมีผล

    เลือกข้อความที่ต้องการใช้กฎ ดังนี้

    • ขาเข้า - ข้อความขาเข้าจากผู้ส่งภายนอกองค์กร
    • ขาออก - ข้อความขาออกที่ส่งโดยผู้ใช้ในองค์กร
    • ภายใน - การส่ง - ข้อความขาออกจากผู้ส่งภายใน ซึ่งข้อความจากผู้ส่งภายในจะมีโดเมนหรือโดเมนย่อยขององค์กรระบุอยู่ในช่องจาก
    • ภายใน - การรับ - ข้อความขาเข้าจากผู้ส่งภายใน ซึ่งข้อความจากผู้ส่งภายในจะมีโดเมนหรือโดเมนย่อยขององค์กรระบุอยู่ในช่องจาก
    เพิ่มคำที่ต้องการค้นหาในข้อความแต่ละรายการ
    1. เลือกช่องคำที่ไม่เหมาะสมที่กำหนดเอง
    2. ในส่วนป้อนคำ ให้ป้อนคำที่จะทริกเกอร์กฎ โดยทำตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
      • คั่นแต่ละคำด้วยคอมมา
      • ไม่รองรับสตริง
      • หากต้องการทริกเกอร์กฎ คำที่คุณป้อนอย่างน้อย 1 คำจะต้องอยู่ในเนื้อหาข้อความ เรื่อง หรือไฟล์แนบ

    ดูหลักเกณฑ์การจับคู่เนื้อหา

    ถ้านิพจน์ข้างต้นตรงกัน ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

    เลือกตัวเลือกสำหรับจัดการข้อความที่จะทริกเกอร์กฎ

    • ปฏิเสธข้อความ - ปฏิเสธข้อความก่อนที่จะส่งถึงผู้รับ ส่วนกฎการกำหนดเส้นทางหรือกฎการปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆ จะไม่มีผลกับข้อความที่ตรงกัน Gmail จะเพิ่มรหัสการปฏิเสธ SMTP โดยอัตโนมัติ เช่น 550 5.7.1 ซึ่งมาตรฐาน SMTP (อีเมล) กำหนดให้ต้องมีรหัสนี้และจะลบออกไม่ได้ (ไม่บังคับ) ป้อนข้อความตีกลับที่กำหนดเองในส่วนกำหนดค่าการแจ้งเตือนการปฏิเสธ เพื่อให้ผู้ส่งทราบว่าเหตุใดข้อความจึงถูกปฏิเสธ
    • กักเก็บข้อความ - ส่งข้อความไปยังเขตกักเก็บของผู้ดูแลระบบ ซึ่งคุณจะสามารถตรวจสอบข้อความก่อนส่งหรือปฏิเสธข้อความได้ ตัวเลือกนี้ใช้ได้กับบัญชีประเภทผู้ใช้เท่านั้น โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อประเภทบัญชีที่ได้รับผล หากต้องการแจ้งให้ผู้ส่งทราบว่าข้อความของตนอยู่ในเขตกักเก็บ ให้เลือกช่องแจ้งให้ผู้ส่งทราบเมื่ออีเมลถูกกักเก็บ (การจัดส่งหลังจากนี้เท่านั้น)
    • แก้ไขข้อความ - เพิ่มส่วนหัว นำไฟล์แนบออก เปลี่ยนผู้รับเอนเวโลป เพิ่มผู้รับ และเปลี่ยนเส้นทางก่อนส่งข้อความ
    ตัวเลือกการแก้ไขข้อความ

    หากเลือกแก้ไขข้อความที่ด้านบน ให้เลือกตัวเลือกเพื่อระบุวิธีที่คุณต้องการแก้ไขข้อความที่ตรงกันก่อนที่จะส่ง ดังนี้

     เพิ่มส่วนหัว X-Gm-Original-To

    เพิ่มแท็กส่วนหัวหากมีการเปลี่ยนผู้รับ เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์ในฝั่งผู้รับทราบผู้รับเอนเวโลปเดิม ตัวอย่างรูปแบบแท็กส่วนหัว คือ X-Gm-Original-To: user@solarmora.com

    เพิ่มส่วนหัว X-Gm-Spam และ X-GM-Phishy

    เพิ่มส่วนหัวเพื่อระบุสถานะสแปมและฟิชชิงข้อความ ผู้ดูแลระบบของเซิร์ฟเวอร์ในฝั่งผู้รับสามารถข้อมูลนี้เพื่อตั้งกฎพิเศษในการจัดการข้อความที่เป็นสแปมและฟิชชิงได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเพิ่มการตั้งค่าส่วนหัวจดหมายขยะลงในกฎการกำหนดเส้นทางเริ่มต้นทั้งหมด

    เพิ่มส่วนหัวที่กำหนดเอง

    เพิ่มส่วนหัวที่กำหนดเองในข้อความที่ได้รับผลกระทบจากการตั้งค่านี้ เช่น เพิ่มส่วนหัวที่ตรงกับคำอธิบายที่ป้อนสำหรับการตั้งค่า ซึ่งจะช่วยพิจารณาหาสาเหตุที่มีการกำหนดเส้นทางของข้อความในลักษณะต่างๆ หรือสาเหตุที่กฎทริกเกอร์ได้

    เพิ่มเรื่องที่กำหนดเองไว้ด้านหน้า

    คุณสามารถเพิ่มข้อความที่กําหนดเองลงในตอนต้นของบรรทัดหัวเรื่องสําหรับข้อความที่เลือกได้ เช่น ป้อนคำว่าลับสําหรับอีเมลที่ละเอียดอ่อน หากอีเมลที่มีหัวเรื่องว่ารายงานประจำเดือน เรียกใช้กฎ ผู้รับจะเห็นหัวเรื่องอีเมลว่า [ลับ] รายงานประจำเดือน

    แก้ไขเส้นทางและเปลี่ยนเส้นทางสแปมด้วย

    • เปลี่ยนเส้นทาง - คุณสามารถเปลี่ยนปลายทางของข้อความจากเซิร์ฟเวอร์ Gmail เริ่มต้นเป็นเซิร์ฟเวอร์อีเมลอื่น เช่น Microsoft Exchange ได้

      หมายเหตุ: คุณต้องเพิ่มเส้นทางใหม่ในคอนโซลผู้ดูแลระบบก่อน จึงจะเปลี่ยนเส้นทางได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อเพิ่มเส้นทางอีเมลสําหรับการจัดส่งขั้นสูงของ Gmail

    • เปลี่ยนเส้นทางสแปม - คุณจะเลือกตัวเลือกนี้ได้ในกรณีที่เลือกเปลี่ยนเส้นทางไว้ ระบบจะลบข้อความที่ทราบว่าเป็นสแปมอย่างชัดเจนทันทีที่จัดส่ง อย่างไรก็ตาม โปรดเลือกช่องเปลี่ยนเส้นทางสแปมเพื่อกำหนดเส้นทางอีเมลอื่นๆ ที่ทำเครื่องหมายว่าเป็นสแปม และให้เว้นช่องนี้ว่างไว้เพื่อกําหนดเส้นทางข้อความปกติที่ไม่ใช่สแปม การตั้งค่าอีเมลคอนโซลผู้ดูแลระบบ (เช่น รายชื่อผู้ส่งที่ได้รับอนุญาตไว้ล่วงหน้า) จะลบล้างการตั้งค่าสแปม

    • ไม่แสดงการตีกลับจากผู้รับรายนี้ - เลือกช่องนี้เพื่อไม่ให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางข้อความตีกลับไปยังเส้นทางอีเมลที่กำหนดค่าไว้ เช่น คุณอาจต้องการป้องกันไม่ให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางข้อความตีกลับไปยังระบบอัตโนมัติ แต่ให้เว้นช่องนี้ว่างไว้หากคุณต้องการให้ระบบอีเมลขาเข้ารับข้อความตีกลับ (เช่น เพื่อแจ้งให้ผู้ส่งทราบเมื่อไม่สามารถส่งข้อความได้)

    เปลี่ยนผู้รับซองจดหมาย

    ข้อความจะข้ามกล่องจดหมายของผู้รับเดิมและส่งไปที่ผู้รับใหม่

    คุณเปลี่ยนผู้รับซองจดหมายได้โดยใช้วิธีต่อไปนี้

    • เปลี่ยนอีเมลทั้งหมดของผู้รับ - หลังจากเปลี่ยนผู้รับแล้ว ให้ป้อนอีเมลแบบเต็ม เช่น user@solarmora.com
    • เปลี่ยนชื่อผู้ใช้ - หากต้องการเปลี่ยนเฉพาะชื่อผู้ใช้ของอีเมลผู้รับและคงโดเมนเดิมไว้ ให้ป้อนชื่อผู้ใช้ เช่น user ไว้ข้างหน้า @existing-domain
    • เปลี่ยนโดเมน - หากต้องการเปลี่ยนเฉพาะโดเมนของอีเมลและคงชื่อผู้ใช้เดิมไว้ ให้ป้อนโดเมน เช่น solarmora.com ต่อจาก existing-username@

    การค้นหา MX ในโดเมนของผู้รับใหม่จะเป็นตัวกำหนดเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง หรือหากคุณใช้การควบคุมเปลี่ยนเส้นทาง เส้นทางที่ระบุจะเป็นตัวกำหนดเซิร์ฟเวอร์ปลายทาง

    หากต้องการใส่ผู้รับอีกรายในสำเนาลับ ให้ใช้ตัวเลือกเพิ่มผู้รับตามที่ระบุไว้ด้านล่าง

    ข้ามตัวกรองสแปมสำหรับข้อความนี้

    ส่งข้อความขาเข้าถึงผู้รับแม้ว่าตัวกรองสแปมจะระบุว่าเป็นสแปมก็ตาม ตัวเลือกนี้ใช้ได้กับข้อความขาเข้าเท่านั้น คุณจะข้ามตัวกรองสแปมสำหรับข้อความขาออกไม่ได้ หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้ใช้กับบัญชีประเภทกลุ่มไม่ได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อประเภทบัญชีที่จะมีผล

    นำไฟล์แนบออกจากข้อความ

    คุณนำไฟล์แนบออกจากข้อความได้ นอกจากนี้คุณยังเพิ่มข้อความเพื่อแจ้งให้ผู้รับทราบว่าคุณได้นำไฟล์แนบออกได้อีกด้วย

    เพิ่มผู้รับ

    1. หากต้องการตั้งค่าการจัดส่งแบบคู่หรือหลายรายการ ให้เลือกช่องเพิ่มผู้รับจากนั้นคลิกเพิ่ม
    2. หากต้องการเพิ่มอีเมลทีละรายการ ให้เลือกพื้นฐานจากรายการจากนั้นคลิกบันทึก
    3. (ไม่บังคับ) หากต้องการเพิ่มอีเมลอีก ให้คลิกเพิ่ม
    4. (ไม่บังคับ) หากต้องการเลือกตัวเลือกขั้นสูงสำหรับการจัดส่งสำรอง ให้เลือกขั้นสูงจากรายการ

      โดยคุณจะเปลี่ยนผู้รับเอนเวโลป เพิ่มส่วนหัว เพิ่มเรื่องที่กำหนดเองไว้ด้านหน้า และนำไฟล์แนบออกจากการจัดส่งสำรองได้ หมายเหตุ: ตัวเลือกขั้นสูงไม่ส่งสแปมไปยังผู้รับรายนี้ ไม่รองรับในประเภทบัญชีแบบกลุ่ม

    เมื่อเพิ่มผู้รับ ให้พิจารณาดังนี้

    • กฎแต่ละรายการมีผู้รับเพิ่มได้ไม่เกิน 100 ราย
    • การตั้งค่าสำหรับการจัดส่งหลักจะมีผลกับการจัดส่งสำรองด้วย
    • ระบบจะเลือกช่องไม่ส่งสแปมไปยังผู้รับรายนี้และไม่แสดงการตีกลับจากผู้รับรายนี้ไว้โดยค่าเริ่มต้นสำหรับการจัดส่งสำรอง
    • การเพิ่มผู้รับจะสร้างข้อความสำหรับผู้รับที่เพิ่มแต่ละราย การตั้งค่า Gmail ขั้นสูงจะมีผลกับข้อความแต่ละรายการ

    การเข้ารหัส (การจัดส่งหลังจากนี้เท่านั้น)

    โดยค่าเริ่มต้น Gmail จะจัดส่งข้อความโดยใช้ Transport Layer Security (TLS) แต่หากส่งแบบนี้ไม่ได้ ข้อความนั้นจะส่งผ่านการเชื่อมต่อที่ไม่ปลอดภัย

    หากต้องการส่งข้อความทั้งหมดที่ตรงตามเงื่อนไขในการตั้งค่าผ่านการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย ให้เลือกช่องต้องใช้การส่งที่ปลอดภัย (TLS) ระบบจะไม่ส่งข้อความ หาก TLS ใช้งานไม่ได้ในฝั่งที่ส่งหรือรับ

    หากคุณมีบัญชี G Suite Enterprise หรือ Enterprise for Education คุณจะตีกลับข้อความหรือกำหนดให้ส่งข้อความเฉพาะเมื่อมีการเข้ารหัส S/MIME เท่านั้นได้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อยกระดับความปลอดภัยของข้อความด้วย S/MIME แบบโฮสต์

    ประเภทบัญชีที่ได้รับผล (ไม่บังคับ)

    บัญชีบางประเภทอาจใช้งานไม่ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการกับข้อความที่เลือกและหน่วยขององค์กรที่กำหนดค่า

    เลือกประเภทบัญชีที่จะนำการตั้งค่านี้ไปใช้อย่างน้อย 1 ประเภทดังนี้

    • ผู้ใช้ (ค่าเริ่มต้น) - การตั้งค่าจะมีผลกับผู้ใช้ G Suite ที่จัดสรรไว้ สำหรับการส่งและอีเมลขาออก การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ส่งอีเมล สำหรับการรับและอีเมลขาเข้า การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อผู้ใช้ได้รับอีเมล
    • กลุ่ม - การตั้งค่าจะมีผลกับกลุ่มที่ตั้งค่าไว้ในองค์กร สำหรับการส่งอีเมลและอีเมลขาออก การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อกลุ่มส่งต่ออีเมลหรือสรุปไปยังสมาชิก สำหรับการรับและอีเมลขาเข้า การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อกลุ่มได้รับอีเมล
    • ไม่รู้จัก/รับทั้งหมด - การตั้งค่าจะทริกเกอร์เมื่อองค์กรได้รับอีเมลที่ไม่ตรงกับผู้ใช้ G Suite ที่จัดสรรไว้ โดยจะใช้ได้กับอีเมลที่ได้รับและอีเมลขาเข้าเท่านั้น

    หมายเหตุ: บัญชีประเภทกลุ่มและประเภทไม่รู้จัก/รับทั้งหมดจะไม่มีผลกับการควบคุมต่อไปนี้

    • เพิ่มส่วนหัว X-Gm-Spam และ X-Gm-Phishy
    • ข้ามตัวกรองสแปมสำหรับข้อความนี้
    • เปลี่ยนเส้นทางสแปมด้วย

    เมื่อเสร็จแล้ว ให้ไปที่เพิ่มและบันทึกการตั้งค่า

    ตัวกรองเอนเวโลป (ไม่บังคับ)

    หากต้องการให้กฎมีผลเฉพาะกับผู้ส่งและผู้รับเอนเวโลปบางราย ให้ตั้งค่าตัวกรองเอนเวโลป

    1. คลิกแสดงตัวเลือกที่ด้านล่างของหน้าต่างเพิ่มการตั้งค่า
    2. เลือกตัวเลือกข้อใดข้อหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้อต่อไปนี้
      • มีผลเฉพาะกับผู้ส่งเอนเวโลปที่ระบุ
      • มีผลเฉพาะกับผู้รับเอนเวโลปที่ระบุ
    3. จากรายการ ให้เลือกตัวเลือกต่อไปนี้
      • อีเมลเดียว - ป้อนอีเมลที่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้
      • ตรงกับรูปแบบ - ป้อนนิพจน์ทั่วไปเพื่อระบุกลุ่มผู้ส่งหรือผู้รับในโดเมนของคุณ เช่น

        ^(?i)(user1@solarmora\.com|user2@solarmora\.com|user3@solarmora\.com)$

        ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์สำหรับการใช้นิพจน์ทั่วไป

      • การเป็นสมาชิกกลุ่ม - เลือกกลุ่มอย่างน้อย 1 กลุ่มจากรายการ ตัวเลือกนี้จะใช้กับอีเมลที่ส่งแล้วเท่านั้นสำหรับผู้ส่งซอง และใช้กับอีเมลที่ได้รับเท่านั้นสำหรับผู้รับซองจดหมาย หากยังไม่มีกลุ่ม ให้สร้างกลุ่มก่อน

        หมายเหตุ: ตัวเลือกนี้จะมีผลกับสมาชิกกลุ่มและสมาชิกของกลุ่มย่อย เช่น หากกลุ่ม B เป็นสมาชิกของกลุ่ม A ตัวเลือกนี้จะมีผลกับสมาชิกของทั้งกลุ่ม A และกลุ่ม B

  5. คลิกบันทึกที่ด้านล่างของช่องเพิ่มการตั้งค่า การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติจะใช้เวลาเร็วกว่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติม

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ตั้งกฎเพื่อกำหนดให้ต้องมีลายเซ็นและการเข้ารหัส S/MIME ด้วย S/MIME ที่โฮสต์

 


Google, Google Workspace และเครื่องหมายและโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC ชื่อบริษัทและชื่อผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของ บริษัทที่เกี่ยวข้อง

 

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
2311843762963447898
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
73010
false
false