Android คือระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่พัฒนาโดย Google โดยเป็นแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สฟรีที่ปรับแต่งและแก้ไขได้ เพื่อเปิดใช้ฟีเจอร์ที่หลากหลายบนอุปกรณ์ Android
Android Enterprise คือชุดฟีเจอร์ในตัวสำหรับองค์กรที่พร้อมใช้งานในระบบปฏิบัติการ Android มาตรฐานตั้งแต่ Android 5.0 ขึ้นไป โดยเป็นชุดฟีเจอร์ที่ช่วยให้องค์กรจัดการแอปและข้อมูลของตนได้ ซึ่งปกติแล้วจะทำผ่านคอนโซล Enterprise Mobility Management
ฟีเจอร์ในตัวสำหรับองค์กรเหล่านี้เข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจาก Google
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Android Enterprise ได้ในคู่มือวิดีโอของชุมชนที่นี่
โปรดอ่านหัวข้อภาพรวม
Android Enterprise มีฟีเจอร์และสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับองค์กรทุกขนาด
องค์กรและพนักงานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์และสิทธิประโยชน์สำหรับองค์กรได้มากมาย ซึ่งรวมถึง
- การตั้งค่าอุปกรณ์ที่ยืดหยุ่น: รองรับวิธีการติดตั้งใช้งานต่างๆ เช่น การนำอุปกรณ์มาใช้เอง (Bring Your Own Device หรือ BYOD), การใช้อุปกรณ์ของบริษัทเพื่อธุรกิจเท่านั้น (Company-Owned, Business-Only หรือ COBO) และการใช้อุปกรณ์ของบริษัทซึ่งใช้งานส่วนตัวได้ (Corporate-Owned, Personally-Enabled หรือ COPE)
- โปรไฟล์งาน: แยกแอปและข้อมูลงานออกจากแอปและข้อมูลส่วนตัว
- การรักษาความปลอดภัยในตัวแบบหลายชั้น: Android Enterprise มีฟีเจอร์ความปลอดภัยในตัว เช่น การเข้ารหัส การเปิดเครื่องที่ปลอดภัย และการเปิดเครื่องที่ได้รับการยืนยัน ซึ่งองค์กรสามารถใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยให้อุปกรณ์และข้อมูลของตนได้
- การจัดการอุปกรณ์ที่สูญหายหรือถูกขโมย: ล้างข้อมูลหรือล็อกอุปกรณ์ที่สูญหายจากระยะไกลเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
- การเผยแพร่แอป: องค์กรสามารถจัดการแอปสาธารณะและแอปส่วนตัวในอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้จากระยะไกลผ่าน Google Play
โปรดอ่านหัวข้อภาพรวม
อุปกรณ์และโซลูชันที่อยู่ในโปรแกรม Android Enterprise Recommended (AER) จะตรงตามข้อกำหนดขององค์กรในระดับที่สูงขึ้นเพื่อให้ประสิทธิภาพที่สอดคล้องกันทั่วทั้งองค์กร Google ดำเนินการตามโครงการริเริ่มนี้ด้วยการกำหนดแนวทางปฏิบัติแนะนำและข้อกำหนดทั่วไป ซึ่งได้รับการตรวจสอบผ่านกระบวนการทดสอบที่เข้มงวด
อุปกรณ์ที่อยู่ในโปรแกรม AER จะอยู่ในไดเรกทอรี Android Enterprise Solutions และมีป้าย Android Enterprise Recommended ระบุไว้
โปรดอ่านหัวข้อการจัดหาอุปกรณ์ Android
ตราบใดที่อุปกรณ์ Android ของคุณผ่านการรับรองของ Play Protect และใช้งานบน Android 5.0 ขึ้นไป อุปกรณ์ก็จะยังคงใช้ Android Enterprise ได้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในโปรแกรม Android Enterprise Recommended ก็ตาม อย่างไรก็ตาม Google ขอแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ที่อยู่ในโปรแกรม AER เนื่องจากมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดขององค์กรในระดับที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ตารางด้านล่างแสดงข้อกำหนดขั้นต่ำของอุปกรณ์ที่อยู่ในโปรแกรม AER สำหรับผู้ปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้
| ข้อกำหนดขั้นต่ำของอุปกรณ์ที่อยู่ในโปรแกรม AER | |
|---|---|
| RAM | 2 GB |
| พื้นที่เก็บข้อมูล | 32 GB |
| ความเร็ว | 1.4 GHz |
| ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ | ใช้งานได้นานกว่า 8 ชั่วโมง |
| กล้อง (หน้า/หลัง) | 2 ล้านพิกเซล/8 ล้านพิกเซล |
| สถาปัตยกรรม | 64 บิต |
Android รองรับตัวเลือกในการตั้งค่าอุปกรณ์หลายแบบ โดยรองรับวิธีการตั้งค่าแต่ละวิธีด้านล่างซึ่งแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการ EMM เราขอแนะนำให้ตรวจสอบกับผู้ให้บริการ EMM เพื่อยืนยันวิธีการตั้งค่าอุปกรณ์ที่รองรับ
- บัญชี Google ที่มีการจัดการ: หากองค์กรของคุณใช้บัญชี Google ที่มีการจัดการ ผู้ใช้เพียงแค่ต้องเพิ่มบัญชีของตนลงในอุปกรณ์
- โทเค็น EMM: ผู้ใช้ป้อนโทเค็นที่ได้รับจาก EMM ในระหว่างขั้นตอนการกำหนดค่าเริ่มต้นของอุปกรณ์
- คิวอาร์โค้ด: ผู้ใช้สแกนคิวอาร์โค้ดที่ได้รับจาก EMM ในระหว่างขั้นตอนการกำหนดค่าเริ่มต้นของอุปกรณ์
- NFC: ผู้ใช้ประกบอุปกรณ์ใหม่หรืออุปกรณ์ที่รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นกับแท็ก NFC ซึ่งมีรายละเอียดการตั้งค่าที่ได้รับจาก EMM ในระหว่างขั้นตอนการกำหนดค่าเริ่มต้นของอุปกรณ์
- การตั้งค่าอุปกรณ์พร้อมใช้แบบรวมกลุ่ม: อุปกรณ์พร้อมใช้แบบรวมกลุ่มที่ลงทะเบียนไว้จะตรวจสอบว่ามีการกำหนดค่าระดับองค์กรให้กับอุปกรณ์หรือไม่ และจะดำเนินการตั้งค่าโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก
- แอปการจัดการ: ผู้ใช้จะดาวน์โหลดแอปการจัดการของผู้ให้บริการ EMM ได้จาก Google Play
โปรดอ่านหัวข้อวิธีการตั้งค่าอุปกรณ์
ความสามารถของ Android สำหรับองค์กรจะจัดหมวดหมู่เป็นชุดการจัดการต่างๆ เพื่อให้แนวทางการจัดการแบบมีโครงสร้างแก่องค์กร
โปรไฟล์งาน Android คือชุดการจัดการที่เหมาะสำหรับการนำอุปกรณ์มาใช้เอง (Bring Your Own Device หรือ BYOD) และการใช้อุปกรณ์ของบริษัทซึ่งใช้งานส่วนตัวได้ (Corporate-Owned, Personally-Enabled หรือ COPE) รวมถึงใช้แยกแอปและข้อมูลงานด้วย ทำให้องค์กรควบคุมข้อมูล แอป และนโยบายด้านความปลอดภัยภายในโปรไฟล์งานได้อย่างเต็มที่ ผู้ใช้จะยังคงควบคุมความเป็นส่วนตัวของแอปส่วนตัว ข้อมูล รวมถึงการใช้งานของตนเองได้ด้วย
องค์กรสามารถใช้ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่หลากหลายผ่านการจำกัดหน้าจอล็อกอุปกรณ์ การจำกัดหน้าจอล็อกโปรไฟล์งาน การล้างและล็อกข้อมูลงานจากระยะไกล รวมถึงการบังคับใช้อัตโนมัติเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด
ชุดการจัดการอื่นๆ ได้แก่
- การจัดการอุปกรณ์แบบครบวงจร: ตัวเลือกนี้เหมาะกับอุปกรณ์ของบริษัทเพื่อธุรกิจเท่านั้น โดยช่วยให้คุณควบคุมข้อมูลอุปกรณ์ การรักษาความปลอดภัย และสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์การจัดการแอปทุกฟีเจอร์ของ Android ได้โดยละเอียด
- การจัดการอุปกรณ์เฉพาะ: ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับอุปกรณ์ของบริษัทแบบใช้งานครั้งเดียว โดยช่วยให้คุณจำกัดอุปกรณ์เฉพาะให้มีแอปจำนวนไม่มาก ซึ่งทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นสามารถดำเนินงานบางอย่างที่มีไว้สำหรับพนักงานหรือลูกค้าเท่านั้น
คุณสามารถตรวจสอบว่าอุปกรณ์มีโปรไฟล์งานหรือไม่โดยไปที่การตั้งค่า 
หากองค์กรใช้ Google Workspace หรือ Cloud Identity คุณจะตั้งค่าโปรไฟล์งานได้โดยการเพิ่มบัญชี Google ที่มีการจัดการลงในอุปกรณ์
หากองค์กรไม่ได้ใช้ Google Workspace หรือ Cloud Identity คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อตั้งค่าโปรไฟล์งาน
- โปรดตรวจสอบกับผู้ดูแลระบบไอทีเพื่อดูว่าองค์กรใช้โซลูชัน EMM ใด
- ดาวน์โหลดแอป EMM จาก Google Play Store
- เปิดแอป EMM และเริ่มการลงทะเบียน
- เมื่อกำหนดค่าแล้ว คุณจะเข้าถึงโปรไฟล์งานได้จากหน้าที่รวมแอปทั้งหมดหรือหน้าจอหลัก
โปรดอ่านหัวข้อโปรไฟล์งาน Android คืออะไร
ไม่ได้ คุณจะมีโปรไฟล์งานที่ใช้งานอยู่ได้แค่ 1 โปรไฟล์ต่ออุปกรณ์ Android 1 เครื่อง อย่างไรก็ตาม หากผู้ดูแลระบบไอทีอนุญาต คุณสามารถเพิ่มบัญชีอีเมลอื่นในโปรไฟล์งานที่มีอยู่ได้
ผู้ให้บริการ EMM ของ Android Enterprise ที่ผ่านการตรวจสอบแล้วทั้งหมดรองรับฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญต่อไปนี้ของอุปกรณ์สำหรับชุดการจัดการที่มีให้บริการ
- ตั้งค่าการจำกัดโปรไฟล์งานหรือหน้าจอล็อกอุปกรณ์
- ล้างและล็อกข้อมูลงาน
- การบังคับใช้เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนด
- ปิดใช้การแก้ไขข้อบกพร่อง
- ปิดใช้การติดตั้งแอปจากตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Google Play
- บล็อกการจับภาพหน้าจอ
ผู้ให้บริการ EMM ที่อยู่ในโปรแกรม AER ยังรองรับฟีเจอร์ขั้นสูงเพิ่มเติมด้วย ดูรายการฟีเจอร์มาตรฐานและขั้นสูงทั้งหมดได้ในไดเรกทอรี Enterprise Solutions
หมายเหตุ: ผู้ให้บริการ EMM ที่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรม AER บางรายอาจรองรับฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่าง เราขอแนะนำให้ติดต่อผู้ให้บริการ EMM เพื่อสอบถามว่ารองรับฟีเจอร์ขั้นสูงใดบ้าง
โปรดอ่านหัวข้อเลือกตัวเลือกการจัดการสำหรับการติดตั้งใช้งานของคุณ
อุปกรณ์ที่ใช้ Android 5.0 ขึ้นไปจะมีฟีเจอร์สำหรับองค์กรในตัวอยู่แล้ว โดยรองรับโปรไฟล์งานในอุปกรณ์ที่มี RAM ตั้งแต่ 2 GB ขึ้นไป นอกจากนี้ อุปกรณ์ Android บางรุ่นที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดขององค์กรในระดับที่สูงขึ้นจะได้รับการระบุโดย Google ว่าเป็น Android Enterprise Recommended
ไดเรกทอรี Enterprise Solutions เป็นรายการอุปกรณ์ทั้งหมดที่รองรับการใช้งานกับ Android Enterprise รวมถึงอุปกรณ์ที่อยู่ในโปรแกรม Enterprise Recommended ซึ่งใช้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ในกลุ่มอุปกรณ์ที่มีอยู่จะใช้งาน Android Enterprise ได้ และยังช่วยให้ค้นหาอุปกรณ์ที่มีฟีเจอร์เฉพาะเจาะจงที่ตรงกับความต้องการขององค์กรได้ด้วย
โปรดอ่านหัวข้อการจัดหาอุปกรณ์ Android
โซลูชัน Enterprise Mobility Management (EMM) ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการ รักษาความปลอดภัย และกำหนดค่าอุปกรณ์ภายในองค์กรได้ โดยมีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแสดงภาพคลังอุปกรณ์ การบังคับใช้นโยบายความปลอดภัย การล้างข้อมูลจากระยะไกล และการเผยแพร่แอป
EMM ทำให้ธุรกิจมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของอุปกรณ์ทุกเครื่อง โดยช่วยปกป้องข้อมูลของพนักงานและลูกค้า นอกจากนี้ EMM ยังมีฟังก์ชันเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ให้ตรงกับการใช้งานที่ต้องการ ส่งผลให้การทำงานราบรื่นขึ้นและการรักษาความปลอดภัยดียิ่งขึ้น
โปรดอ่านหัวข้อเลือกโซลูชันการจัดการ (EMM)
การตั้งค่าอุปกรณ์พร้อมใช้แบบรวมกลุ่มของ Android เป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดสรรอุปกรณ์ Android จากการจัดการขององค์กรตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก
สิทธิประโยชน์หลักอย่างหนึ่งคือวิธีการติดตั้งใช้งานที่มีประสิทธิภาพสำหรับอุปกรณ์ของบริษัท ซึ่งทำให้สามารถกำหนดค่าอุปกรณ์ของบริษัทจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องตั้งค่าอุปกรณ์แต่ละเครื่องด้วยตนเองจริงๆ โดยสามารถกำหนดค่าอุปกรณ์แบบออนไลน์และส่งให้ผู้ใช้โดยตรงพร้อมกับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่จำเป็นทั้งหมดซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่เปิดเครื่อง วิธีนี้ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการและช่วยให้พนักงานใช้อุปกรณ์ได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่อง
สิทธิประโยชน์หลักอีกข้อหนึ่งของการตั้งค่าอุปกรณ์พร้อมใช้แบบรวมกลุ่มคือการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์จะถูกบังคับให้จัดสรรเพื่อการจัดการขององค์กรตั้งแต่การเปิดเครื่องครั้งแรก
โปรดอ่านหัวข้อการตั้งค่าอุปกรณ์พร้อมใช้แบบรวมกลุ่มสำหรับผู้ดูแลระบบไอที
OEMConfig คือมาตรฐานที่ผู้ให้บริการ EMM และ OEM (ผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม) ปฏิบัติตามเพื่อทำให้นโยบายการจัดการที่กำหนดเองสำหรับ OEM โดยเฉพาะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ดูแลระบบไอที ซึ่งหมายความว่าฟีเจอร์ที่ปรับแต่งเองจะยังคงมีความสอดคล้อง ทำให้จัดการอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
โปรดอ่านหัวข้อใช้ OEMConfig ในองค์กรของคุณ
ในอุปกรณ์ของบริษัท ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถปิดใช้และ/หรือเปิดใช้การป้องกันการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับองค์กร
หากต้องการจัดการการป้องกันการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับองค์กร ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถกำหนดนโยบายเพื่อระบุบัญชี Google ที่สามารถใช้ปลดล็อกอุปกรณ์ที่ FRP ล็อกได้ ระบบจะบังคับใช้นโยบายนี้แม้ว่าจะรีเซ็ตผ่านแอปการตั้งค่าเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
โปรดอ่านหัวข้อเปิดใช้การป้องกันการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
หากบัญชียังคงใช้งานได้อยู่แต่คุณไม่มีข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้ว ให้ลองกู้คืนบัญชี
หากกู้คืนบัญชีไม่ได้หรือบัญชีถูกลบไปแล้ว ให้สร้างบัญชี Google ใหม่และติดต่อ EMM ให้เชื่อมโยงบัญชีใหม่กับองค์กรทันที
หลังจากติดต่อ EMM แล้ว ผู้ให้บริการจะเริ่มส่งคำขอกับ Google เพื่อผูกบัญชี Google ใหม่ของคุณกับองค์กรอีกครั้ง
แนวทางปฏิบัติแนะนำคือให้เพิ่มบัญชีเจ้าของบัญชีที่ 2 ดูแนวทางปฏิบัติแนะนำเพิ่มเติมในชุมชนลูกค้า Android Enterprise
องค์กรที่ใช้อุปกรณ์ Android ควรย้ายข้อมูลจาก Device Admin API ไปยังโซลูชันการจัดการที่ทันสมัยซึ่งสร้างจากเฟรมเวิร์กของ Android Enterprise ที่ครอบคลุมผ่านผู้ให้บริการ EMM การปิดให้บริการ Device Admin API เป็นการระบุว่าการเปลี่ยนไปใช้ Android Enterprise เป็นวิธีที่แนะนำสำหรับการจัดการอุปกรณ์
เราขอแนะนำ 5 ขั้นตอนสำคัญในการย้ายข้อมูลไปยัง Android Enterprise ให้สำเร็จ ดังนี้
- การวิเคราะห์: ขั้นตอนนี้เกี่ยวข้องกับการระบุการตั้งค่าและนโยบายปัจจุบันของคุณ การสร้างคลังอุปกรณ์ และการพัฒนาเอกสารประกอบสำหรับกลยุทธ์การย้ายข้อมูล
- การจับคู่ข้อกำหนด: เอกสารประกอบการวิเคราะห์ที่จะช่วยระบุความต้องการของฟีเจอร์ เช่น โหมดการจัดการ รูปแบบข้อมูลระบุตัวตน และวิธีการจัดสรร และยังแนะนำการเลือกระดับระบบปฏิบัติการ Android ที่รองรับอีกด้วย
- การพิสูจน์แนวคิด: การพิสูจน์แนวคิดจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะย้ายข้อมูลไปยังการจัดการที่ทันสมัยด้วย Android Enterprise
- คำแนะนำแบบทีละขั้นและเอกสารประกอบการตั้งค่า: การบันทึกจุดอ้างอิงพร้อมภาพหน้าจอช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่นและช่วยให้มั่นใจว่ามีเอกสารประกอบการตั้งค่าที่สอดคล้องกัน
- ติดตั้งใช้งาน: พิจารณาสภาพแวดล้อมของคุณเพื่อกำหนดกลยุทธ์การเปิดตัวที่เหมาะสมที่สุด แนวทางกลุ่มทดสอบเริ่มต้นจะช่วยให้คุณแนะนำผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับการลงทะเบียน พุชนโยบายและแอป ตรวจสอบการใช้งาน และให้การสนับสนุนได้ คุณจะจัดทำเอกสารประกอบสำหรับผู้ใช้ผ่านกลุ่มทดสอบเริ่มต้นให้เสร็จสมบูรณ์ได้
โปรดอ่านหัวข้อเอกสารข้อมูลการเลิกใช้งานผู้ดูแลระบบอุปกรณ์ Android Enterprise
ข้อมูลในอุปกรณ์ Android ได้รับการเข้ารหัสอย่างปลอดภัย การรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นจะลบคีย์ที่จำเป็นในการอ่านข้อมูลนี้อย่างปลอดภัย ทำให้อ่านข้อมูลไม่ได้ จากนั้นระบบจะสร้างคีย์ใหม่สำหรับข้อมูลที่เขียนใหม่หลังจากรีเซ็ต
เรากำลังหาวิธีเพื่อให้กลุ่มบัญชี Managed Google Play สำหรับองค์กรซึ่งสร้างไว้ก่อนหน้านี้ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ Gmail สามารถอัปเกรดไปใช้โดเมน Google ที่มีการจัดการได้ โปรดติดตามประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในปี 2025
เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้โดเมน Google ที่มีการจัดการเนื่องจากมีการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ข้ามแพลตฟอร์ม มีความสามารถในการจัดการเพิ่มเติม และองค์กรจะได้รับประโยชน์ด้านความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากคิดว่าองค์กรจะใช้โดเมน Google ที่มีการจัดการไม่ได้ คุณสามารถสร้างกลุ่มบัญชี Managed Google Play สำหรับองค์กรเป็นตัวเลือกสำรองได้โดยลงชื่อสมัครใช้ด้วยอีเมล gmail.com
เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ยืนยันโดเมนแม้ว่าการดำเนินการนี้จะไม่บังคับสำหรับ Android Enterprise ก็ตาม อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการยืนยันโดเมน องค์กรของคุณจะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การซิงค์ไดเรกทอรี การลงชื่อเพียงครั้งเดียว (SSO) และการเข้าถึงที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับบริการของ Google ในอุปกรณ์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อยืนยันโดเมนของคุณเพื่อปลดล็อกฟีเจอร์
โดเมน Google ที่มีการจัดการช่วยให้ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถจัดการผลิตภัณฑ์ Google หลายอย่างสำหรับองค์กร (เช่น Workspace, ChromeOS, เบราว์เซอร์ Chrome) ได้ในที่เดียว
ใช่ การซิงค์ข้อมูลประจำตัวช่วยให้สร้างบัญชีผู้ใช้ได้ง่าย เข้าถึงผลิตภัณฑ์ Google ที่อนุญาตได้อย่างราบรื่น และช่วยให้พนักงานเข้าสู่ระบบอุปกรณ์การทำงานของตนเองด้วยข้อมูลเข้าสู่ระบบที่มีอยู่ได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อลงชื่อสมัครใช้การจัดการ Android โดยใช้โดเมน Google ที่มีการจัดการ